بسم الله الرحمن الرحيم
الحمد لله رب العالمين و الصلاة والسلام على سيدنا محمد وعلي اله وصحبه أجمعين
ผู้เดินทางจะต้องไม่ตั้งเจตนาพำนักอยู่เป็นเวลาสี่วัน นอกจากวันที่เดินทางเข้าและเดินทางออก ในถิ่นที่เขาเดินทางไป
ถ้าหากเขาตั้งเจตนาเช่นนั้น เมื่อที่เขาเดินทางไปนั้นก็จะกลายเป็นภูมิลำเนาและถิ่นพำนักของเขาที่จะไม่ยินยอมให้เขาย่อละหมาดในเมืองนั้น สิทธิการย่อละหมาดสำหรับเขาจะคงอยู่เฉพาะขณะเดินทางเท่านั้น
สำหรับกรณีที่ผู้เดินทางตั้งเจตนาจะพำนักอยู่น้อยกว่าสี่วัน หรือเขาไม่รู้จะพำนักอยู่ในเมืองนั้นกี่วัน เพื่อทำงานบางอย่างที่เขาก็ไม่รู้ว่าจะทำเสร็จเมื่อไหร่ ให้เขาย่อละหมาดได้ในกรณีแรกจนกว่าเขาจะกลับเข้าเขตชุมชนในถิ่นเดิมของเขา และย่อละหมาดได้ในกรณีที่สองเป็นเวลาสิบแปดวันนอกจากวันที่เขาเดินทางเข้าและเดินทางออก
อบูดาวูด (1229) ได้รายงาน จากอิรอน บุน อุซอยน์ (ร.ด.) ได้กล่าวว่า : "ข้าพเจ้าได้ออกไปทำสงครามร่วมกับท่านรอซูลุ้ลเลาะห์ (ซ.ล.) และได้มาปรากฏตัวพร้อมกับท่านในการเข้าพิชิตมักกะห์ (อัลฟัตฮ์) ท่านได้พำนักที่มักกะห์เป็นเวลาสิบแปดคืน โดยท่านไม่ได้ละหมาดใดนอกจากละหมาดสองรากาอัต" เพราะท่านนบี (ซ.ล.) ได้พำนักในเวลาดังกล่าวนี้ที่มักกะฮ์ในปีที่เข้าพิชิตมักกะฮ์ เพื่อรบกับพวกฮาวาซิน ท่านจึงย่อละหมาด โดยท่านไม่รู้กำหนดเวลาที่จะต้องอยู่ที่มักกะห์ว่าเป็นเวลากี่วัน
สรุป
1. หากผู้เดินทางไม่ได้เจตนาพำนักเกิน 4 วัน ก็อนุญาตให้ทำการละหมาดย่อได้ แต่หากเจตนาพำนักสี่วันในถิ่นที่เขาเดินทางไปก็ไม่อนุญาตให้ทำการย่อละหมาด
2. หากเขาเดินทางโดยไม่รู้ว่าจะพำนักในเมืองนั้นกี่วัน เช่นไปค้าขาย เป็นต้น ก็อนุญาตให้ทำการย่อละหมาด 18 วัน
والله تعالى أعلى وأعلم