ผู้เขียน หัวข้อ: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 85 – 86 อัลบุรูจญ์ - อัฏฏอริก)  (อ่าน 6984 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

 salam

1. ตอนที่ 85 สูเราะฮฺ อัลบุรูจญ์

    คำอธิบายประกอบสูเราะฮฺ อัลบุรูจญ์ (แปลว่า – ที่โคจร - R3. )
    เป็นสูเราะฮฺมักกียะฮฺ มี 22 อายะฮฺ

    ชื่อ : ซูเราะฮฺนี้ได้ชื่อมาจาก “อัลบุรูจญ์” (البروج) ที่ปรากฏอยู่ในอายะฮฺแรก
    ระยะเวลาที่ประทานซูเราะฮฺ : เนื้อหาสาระของซูเราะฮฺชี้ให้เห็นว่าซูเราะฮฺนี้ได้ถูกประทานลงมาที่มักกะฮฺในช่วงเวลาที่การกดขี่ข่มเหงมุสลิมดำเนินไปอย่างรุนแรงเต็มที่แล้วและบรรดาผู้ปฏิเสธแห่งมักกะฮฺกำลังหาทางทุกอย่างที่จะบีบคั้นผู้ที่เป็นมุสลิมใหม่ให้หันออกจากอิสลาม
    เนื้อหาสาระของสูเราะฮฺ : เนื้อหาของสูเราะฮฺนี้ก็เพื่อเตือนบรรดาผู้ปฏิเสธถึงผลที่จะติดตามมาจากการกดขี่ข่มเหงของพวกเขาต่อคนที่หันมารับอิสลาม ขณะเดียวกันก็ปลอบโยนบรรดาผู้ศรัทธาว่า “ถ้าหากสูเจ้ายังมั่นคงและอดทนต่อการถูกกดขี่ข่มเหงและการถูกบีบบังคับ สูเจ้าก็จะได้รับรางวัลตอบแทนอย่างมากมาย และอัลลอฮฺ จะจัดการกับผู้ที่กดขี่ข่มเหงแทนสูเจ้าเอง”
    เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้มีการนำเอาเรื่องราวของชาวคู (อัศฮาบุลอุคดูด)ผู้เข่นฆ่าสังหารบรรดาผู้ศรัทธาโดยโยนพวกเขาลงไปในหลุมไฟมาเล่า ทั้งนี้เพื่อสอนบทเรียนบางอย่างแก่บรรดาผู้ศรัทธา บทเรียนแรกก็คือ ชาวคูสมควรที่จะได้รับการสาปแช่งและการลงโทษจากอัลลอฮฺฉันใด หัวหน้าชาวมักกะฮฺก็สมควรที่จะได้รับการลงโทษจากอัลลอฮฺฉันนั้น บทเรียนที่สองก็คือ ในตอนนั้นบรรดาผู้ศรัทธาเต็มใจที่จะสละชีวิตของพวกเขาโดยการถูกเผาตายในหลุมไฟแทนที่จะละทิ้งความศรัทธาของพวกตนฉันใด บรรดาผู้ศรัทธาในตอนนี้ก็จะต้องอดทนต่อการถูกกระทำทารุณกรรมและจะต้องไม่ละทิ้งการศรัทธาฉันนั้น บทเรียนที่สามก็คือ อัลลอฮฺนั้นทรงยิ่งใหญ่และเป็นนายของอาณาจักรแห่งแผ่นดินและชั้นฟ้า พระองค์เป็นผู้ที่ควรค่าแห่งการยกย่องสรรเสริญ และทรงเฝ้าดูสิ่งที่คนสองกลุ่มกำลังดิ้นรนต่อสู้อยู่ ดังนั้นจึงเป็นที่แน่นอนว่าบรรดาผู้ปฏิเสธไม่เพียงแต่จะถูกลงโทษในนรกเพราะการปฏิเสธเท่านั้น แต่ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาจะได้รับการลงโทษโดยไฟเป็นการตอบแทนสำหรับความโหดร้ายทารุณของพวกเขาด้วย ในทำนองเดียวกัน มันเป็นที่แน่นอนว่า บรรดาผู้ศรัทธาและปฏิบัติความเชื่อด้วยการทำดี ก็จะต้องได้สู่สวรรค์ และนี่คือความสำเร็จอันสูงสุดโดยแท้จริง ดังนั้น บรรดาผู้ปฏิเสธจงได้ถูกเตือนว่า “การลงโทษของพระเจ้านั้นรุนแรงสาหัสยิ่งนัก ถ้าหากสูเจ้าโอหังในความเข้มแข็งของไพร่พลของสูเจ้า สูเจ้าก็จงรู้ไว้เถิดว่าไพร่พลของฟาโรห์และพวกษะมูดก็เคยเข้มแข็งและมีจำนวนมากกว่าสูเจ้ามาแล้ว ดังนั้นไม่สามารถหนีออกไปจากวงล้อมของพระองค์ได้ และกุรอานที่สูเจ้าคิดปฏิเสธนั้นก็เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ มันเป็นสิ่งที่ได้ถูกจารึกไว้ในแผ่นบันทึกที่ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีซึ่งไม่มีวันที่จะได้รับการแปดเปื้อนเสียหายใด ๆ อีกแล้ว”



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺอัลบุรูจญฺ อายะฮฺที่ 1 – 7



คำอ่าน
1. วัสสะมา...อิซาติลบุรุจญฺ
2. วัลเยามิลเมาอูด
3. วะชาฮิดิว..วะมัชฮูด
4. กุติละอัศหาบุลอุคดูด
5. อัน..นาริซาติลวะกูด
6. อิซฮุมอะลัยฮากุอูด
7. วะฮุมอะลามายัฟอะลูนะ บิลมุอ์มินีนะชุฮูด


คำแปล R1.
1. By the heaven, holding the big stars.
2. And by the promised Day (i.e. the Day of Resurrection);
3. And by the witnessing Day (i.e. Friday), and by the witnessed Day [i.e. the Day of 'Arafat (Hajj) the ninth of Dhul-Hijjah];
4. Cursed were the people of the ditch (the story of the boy and the King).
5. Fire supplied (abundantly) with fuel,
6. When they sat by it (Fire),
7. And they witnessed what they were doing against the believers (i.e. burning them).


คำแปล R2.

1. ขอยืนยันกับฟากฟ้าซึ่งเป็นที่โคจร (ของดวงดาวทั้งหลายตามจักราศีของมัน)
2. และวันที่ถูกสัญญาไว้
3. และสิ่งที่เป็นสักขีพยาน และสิ่งที่ถูกให้เป็นสักขีพยาน
4. บรรดาชาวลำคูทั้งหลาย ได้ถูกสาปแช่งอย่างร้ายแรง
(ชาวลำคู เป็นเรื่องราวในยุคโบราณ เหตุเกิดที่ประเทศยะมัน เมื่อชายผู้หนึ่งประกาศเชิญชวนให้ชาวเมืองนับถือศาสนาตามคำสอนของนบีอีซา ต่อมากษัตริย์ “ซูนวาซ” รู้เรื่อง จึงบังคับให้คนกลุ่มที่เชื่อคำประกาศนั้นเลิกนับถือ มิฉะนั้นจะเผาให้ตาย จากนั้นก็ขุดลำคูยาวและจุดไฟไว้ ผู้ไม่ยอมเลิกนับถือถูกจับโยนเข้ากองไฟ โดยมี “ชาวลำคู” คือกษัตริย์และพรรคพวกมองดูอยู่)
5. (คือฝ่ายที่จุด)ไฟที่เต็มไปด้วยเชื้อเพลิง(เพื่อเผาผู้นับถือศาสนาใหม่)
6. เมื่อพวกเขานั่งอยู่บนลำคูนั้น(เพื่อดูจุดจบของศรัทธาชนที่ถูกเผา)
7. และพวกเขาเป็นผู้อยู่ร่วมประจักษ์พยานในสิ่งที่ (ลูกน้องของ)พวกเขากระทำกับศรัทธาชนทั้งมวล


คำแปล R3.
1. ขอสาบานด้วยท้องฟ้ากับที่มั่นอันเข้มแข็งของมัน
2. และด้วยวันที่ถูกสัญญาไว้
3. และด้วยผู้เห็นและด้วยสิ่งที่เห็น
4. ความหายนะได้บังเกิดขึ้นแล้วแก่ผู้คนแห่งหลุม
5. (หลุม)ซึ่งมีไฟลุกโชนด้วยเชื้อเพลิง
6. เมื่อพวกเขานั่งอยู่ข้างหลุม
7. และมองเห็นสิ่งที่พวกเขากำลังทำกับบรรดาผู้ศรัทธา


คำแปล R4.
1. ขอสาบานด้วยชั้นฟ้าที่เกลื่อนกลาดด้วยดวงดาว
2. และด้วยวันที่ถูกสัญญาไว้
3. และด้วยผู้เป็นพยานและผู้ที่ถูกเป็นพยาน
4. บรรดาเจ้าของหลุมพรางถูกสาปแช่ง
5. ไฟที่เต็มไปด้วยเชื้อเพลิง
6. ขณะที่พวกเขานั่งอยู่ตรงหน้าไฟ
7. และพวกเขารู้เห็นเป็นพยานต่อสิ่งที่บรรดาลูกน้องกระทำกับบรรดาผู้ศรัทธา


คำแปล R5.
๑. ขอสาบานด้วยฟากฟ้าที่มีหลายจักราศีสำหรับดวงดาวต่าง ๆ ได้โคจร
๒. ขอสาบานด้วยวันปรภพที่ถูกสัญญาว่าจะต้องอุบัติขึ้นอย่างแน่นอน
๓. ขอสาบานกับผู้เป็นสักขีพยาน คือวันศุกร์ และที่ถูกเป็นสักขีพยาน ได้แก่วันอะรอฟะฮ์
๔. บรรดาชาวลำคูทั้งหลายได้ถูกสาปแช่งอย่างรุนแรง พวกนี้ได้แก่กษัตริย์ยูซุฟ บินซีนูวาสกับพวก ณ เมืองยะมัน
๕. มันเป็นไฟที่ถูกใส่เชื้อเพลิงไว้ให้ลุกโชนเพื่อทำการเผาแก่ฝ่ายนับถือสัจธรรม อัลกุรอานได้ยกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยก่อน อันเป็นเหตุการณ์ในเมืองยะมัน ก่อนการประกาศของนบีมุฮำมัด 70 ปี เรื่องมีอยู่ว่า ได้มีชายคนหนึ่งชักชวนผู้คนให้เลื่อมใสคัมภีร์อินยิลของนบีอีซา ปรากฏว่ามีคนเริ่มให้ความสนใจและเข้ารับคำสอนจนข่าวรู้ไปถึงกษัตริย์ชื่อ “ยูซุฟ บิน ซีนุวาส” เขารู้สึกกริ้วเป็นที่สุด จึงสั่งให้ขุดลำคูและจุดไฟขึ้น พร้อมทั้งสั่งให้ผู้ที่เชื่อถือในคำสอนของนบีอีซาดังกล่าว เพื่อบังคับให้เลิกนับถือ เมื่อผู้ใดไม่ยอมเลิกละความเชื่อก็จับตัวและให้ทหารจับโยนลงไปในคูไฟทีละคน ๆ ส่วนผู้ใดยอมเลิกนับถือเขาก็ปล่อยเป็นอิสระ ปรากฏว่า เขาฆ่าผู้นับถือเป็นจำนวนถึง เจ็ดสิบเจ็ดคน เนื่องในเหตุการณ์นั้น
๖. ขณะเมื่อพวกเขานั่งบนคันคู เพื่อมองดูผู้ศรัทธาถูกจับโยนลงไปในกองไฟและค่อย ๆ ตายไปต่อหน้าต่อตาด้วยความอำมหิต
๗. และพวกเขาล้วนประจักษ์เป็นพยานบนสิ่งที่พวกเขากระทำกับมวลผู้ศรัทธา

 

 

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺอัลบุรูจญฺ อายะฮฺที่ 8 – 11
 

คำอ่าน
8. วะมานะเกาะมูมินฮุม อิลลา..อัย..ยุอ์มินูบิลลาฮิลอะซีซิลหะมีด
9. อัลละซีละฮูมุลกุสสะมาวาติวัลอัรฺฎฺ, วัลลอฮุอะลากุลลุชัยอิน..ชะฮีด
10. อิน..นัลละซีนะ ฟะตะนุลมุอ์มินีนะ วัลมุอ์มินาติ ษุม..มะลัมยะตูบู ฟะละฮุมอะซาบุ ญะฮัน..นะมะ วะละฮุมอะซาบุลหะรีก
11. อิน..นัลละซีนะอามะนู วะอะมิลุศศอลิหาติ ละฮุมญัน..นาตุน..ตัจญรีมิน..ตะหฺติฮัลอันฮารฺ ซาลิกัลเฟาซุลกะบีรฺ


คำแปล R1.
8. They had nothing against them, except that they believed in Allah, the All-Mighty, Worthy of All Praise!
9. Who, to whom belongs the dominion of the heavens and the earth! And Allah is witness over everything.
10. Verily, those who put into trial the believing men and believing women (by torturing them and burning them), and then do not turn in   
     repentance, (to Allah), will have the torment of Hell, and they will have the punishment of the burning Fire.
11. Verily, those who believe and do righteous good deeds, for them will be Gardens under which rivers flow (Paradise). That is the great success.


คำแปล R2.
8. และพวกเขามิได้ทำโทษพวกศรัทธาชน(เพราะเหตุอื่นใดเลย)นอกจากเป็นเพราะพวกนี้มีศรัทธาต่ออัลเลาะฮฺ ผู้ทรงยิ่งในอำนาจ ผู้ทรงยิ่งในการถูกสรรเสริญ
9. พระองค์ผู้ทรงสิทธิอำนาจแห่งฟากฟ้าและแผ่นดินเป็นของพระองค์ (เพียงพระองค์เดียว) และอัลเลาะฮฺทรงเป็นสักขีพยานแก่ทุก ๆ สิ่ง
10. แท้จริงบรรดาจำพวกที่รังควาญฝ่ายศรัทธาชนทั้งชายและหญิง หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่ยอมสารภาพผิด แน่นอนพวกเขาย่อมได้รับการลงโทษของนรกยะฮันนัมและพวกเขาจะต้องได้รับการ
     ลงโทษของนรกแห่งการเผาไหม้
11. แท้จริงบรรดาผู้มีศรัทธาและประพฤติแต่ความดีงาม พวกเขาจะได้รับสวนสวรรค์ที่มีธารน้ำไหล ณ เบื้องใต้ของมันอย่างแน่นอน นั้นเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่สุด


คำแปล R3.
8. และพวกเขามิได้เคียดแค้นบรรดาผู้ศรัทธาด้วยเหตุผลใดนอกไปจากพวกเขาศรัทธาในอัลลอฮฺผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงได้รับการสรรเสริญ
9. ผู้ทรงเป็นเจ้าแห่งอาณาจักรของชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และอัลลอฮฺทรงเฝ้าดูทุกสิ่ง
10. สำหรับบรรดาผู้เข่นฆ่าสังหารบรรดาชายและหญิงผู้ศรัทธาแล้วยังไม่สำนึกผิดหลังจากนั้น พวกเขาจะได้รับการลงโทษของนรกและการลงโทษโดยการเผาไหม้
11. สำหรับบรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดีนั้น มีสวรรค์สำหรับพวกเขา ซึ่งใต้นั้นมีลำน้ำหลายสายไหลผ่าน นั่นคือชัยชนะอันยิ่งใหญ่


คำแปล R4.
8. และพวกเขามิได้แก้แค้นเขาเหล่านั้นเว้นแต่ว่าเขาเหล่านั้นศรัทธาต่อัลลอฮฺ ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงได้รับการสรรเสริญ
9. ผู้ซึ่งกรรมสิทธิ์แห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินเป็นของพระองค์ และอัลลอฮฺนั้นทรงเป็นพยานต่อทุกสิ่งอย่าง
10. แท้จริงพวกที่ประหัตประหารบรรดาผู้ศรัทธาชายและบรรดาผู้ศรัทธาหญิง แล้วพวกเขามิได้สำนึกผิดกลับตัวนั้น พวกเขาจะได้รับการลงโทษแห่งนรกญะฮันนัม และพวกเขาจะได้รับการลงโทษแห่งการเผาไหม้
11. แท้จริงบรรดาผู้ศรัทธาและประกอบความดีทั้งหลาย พวกเขาจะได้รับสวนสวรรค์หลากหลาย ณ เบื้องล่างของมันมีลำน้ำหลายสายไหลผ่าน นั่นคือชัยชนะอันใหญ่หลวง


คำแปล R5.
๘. และพวกเขามิได้ทำโทษพวกที่มีศรัทธาเนื่องจากความผิดอื่นใดเลย นอกจากเป็นเพราะพวกนั้นมีศรัทธาในอัลเลาะห์ผู้ทรงยิ่งในอำนาจ และทรงได้รับการสรรเสริญอย่างยิ่งเท่านั้นเอง
๙. พระองค์ทรงปกครองฟากฟ้าและแผ่นดินทั้งเจ็ด และอัลเลาะห์ทรงเป็นพยานแก่ทุก ๆ สิ่ง
๑๐. แท้จริงบรรดาผู้ทำความเดือดร้อนแก่ศรัทธาชนทั้งชายและหญิงหลังจากนั้นพวกเขาไม่ขอลุแก่โทษในความผิดที่ได้กระทำไว้นั้น แน่นอนพวกเขาย่อมได้รับการลงโทษจากนรกยะฮันนัมและพวกเขาถูกลงโทษจากไฟนรกอันแผดเผา
๑๑. แท้จริงบรรดาผู้มีศรัทธาและประพฤติแต่ความดีงาม แน่นอนพวกเขาย่อมได้สวรรค์ เป็นสิ่งตอบแทน ซึ่งมีสายน้ำหลายสายไหลอยู่ ณ เบื้องใต้ของมัน นั่นเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่สุด




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺอัลบุรูจญฺ อายะฮฺที่ 12 – 16

คำอ่าน
12. อิน..นะบัฏชะร็อบบิกะละชะดีด
13. อิน..นะฮู ฮุวะยุบดิอุ วะยุอีด
14. วะฮุวัลเฆาะฟูรุลวะดูด
15. ซุลอัรฺชิลมะญีด
16. ฟะอฺอาลุลลิมายุรีด


คำแปล R1.
12. Verily, (O Muhammad) the grip (punishment) of your Lord is severe.
13. Verily, He it is who begins (punishment) and repeats (punishment in the hereafter) (or originates the creation of everything, and then repeats it on the Day of Resurrection).
14. And He is Oft-Forgiving, full of love (towards the pious who are real true believers of Islamic Monotheism),
15. Owner of the Throne, the Glorious
16. He does what He intends (or wills).


คำแปล R2.
12. แท้จริงการลงโทษแห่งองค์อภิบาลของเจ้านั้นเป็นสิ่งร้ายแรงยิ่งนัก
13. แท้จริงพระองค์ทรงให้(มนุษย์)กำเนิดขึ้นมาและทรงคืนสภาพ(ของเขาให้กลับมีชีวืตอีกในวันกิยามะห์)
14. และพระองค์ทรงให้อภัยอย่างยิ่ง ทรงอาลัยรักอย่างยิ่ง
15. ผู้ทรงเป็นเจ้าแห่งบัลลังก์ ผู้ทรงมีเกียรติศักดิ์อันสูงส่งยิ่ง
16. ผู้ทรงกระทำตามที่พระองค์ทรงประสงค์


คำแปล R3.
12. แท้จริงการลงโทษของพระผู้อภิบาลของสูเจ้านั้นรุนแรงสาหัสยิ่ง
13. แท้จริง พระองค์คือผู้ทรงสร้างขึ้นเป็นครั้งแรก และพระองค์อีกเช่นกันที่จะทรงสร้างขึ้นมาอีก
14. และพระองค์คือผู้ทรงให้อภัย  ผู้ทรงรักใครปรานี
15. ทรงเป็นเจ้าของบัลลังก์ ทรงเป็นผู้ได้รับการยกย่อง
16. และทรงเป็นผู้ทำตามที่พระองค์ทรงประสงค์


คำแปล R4.
12. แท้จริงการลงโทษอย่างรุนแรงแห่งพระเจ้านั้นแข็งกร้าวยิ่งนัก
13. แท้จริงพระองค์คือผู้ทรงให้บังเกิดครั้งแรก และทรงให้กลับฟื้นคืนชีพขึ้นอีก
14. และพระองค์ผู้ทรงอภัยโทษผู้ทรงรักใคร่ปรานี
15. เจ้าของบัลลังก์อันรุ่งโรจน์
16. ผู้ทรงกระทำอย่างเด็ดขาดตามที่พระองค์ทรงประสงค์


คำแปล R5.
๑๒. แท้จริงการลงโทษทัณฑ์ของพระผู้อภิบาลของเจ้านั้นร้ายแรงเป็นที่สุด
๑๓. แท้จริงพระองค์ทรงให้การบังเกิดและทรงให้คืนกลับสถานเดิมโดยให้ฟื้นคืนชีพขึ้นอีกหลังจากตายไปแล้ว
๑๔. และพระองค์ทรงให้อภัยยิ่ง พระองค์ทรงรักและสงสารยิ่ง แก่มวลบ่าวที่มีศรัทธาและสำนึกในความผิดของตนเป็นอันดี
๑๕. พระองค์ทรงเป็นเจ้าแห่งบัลลังก์ พระองค์ทรงศักดานุภาพยิ่ง
๑๖. พระองค์ทรงกระทำทุกสิ่งทุกอย่างตามที่พระองค์ทรงประสงค์



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺอัลบุรูจญฺ อายะฮฺที่ 17 – 22

   
คำอ่าน
17. ฮัลอะตากะหะดีษุลญุนูด
18. ฟิรฺเอานะ วะษะมูด
19. บะลิลละซีนะกะฟะรู ฟีตักซีบ
20. วัลลอฮุ มิว..วะรอ..อิฮิม..มุหีฏ
21. บัลฮุวะกุรฺอานุม..มะญีด
22. ฟีเลาหิม..มะหฺฟูซ


คำแปล R1.
17. Has the story reached you of the hosts?
18. Of Fir'aun (Pharaoh) and Thamud?
19. Nay! The disbelievers (persisted) in denying (Prophet Muhammad and his message of Islamic Monotheism).
20. And Allah encompasses them from behind! (i.e. all their deeds are within His knowledge, and He will requite them for their deeds).
21. Nay! This is a glorious Qur'an,
22. (Inscribed) in Al-Lauh Al-Mahfuz (the preserved tablet)!


คำแปล R2.
17. ข่าวเกี่ยวกับไพร่พลได้มาถึงเจ้าแล้วมิใช่หรือ ?
18. (ไพร่พลนั้น)ได้แก่ (ไพร่พล)ฟิรเอาน์และ(ไพร่พล)สะมู๊ด
19. หามิได้บรรดาจำพวกไร้ศรัทธาตกอยู่ในการกล่าวหา(ศาสนาของอัลเลาะฮฺ)ว่าเป็นเท็จ
20. และอัลเลาะฮฺทรงแวดล้อมจากเบื้องหลังของพวกเขา
21. ทว่าสิ่งนั้นคือ กุรอานอันมีเกียรติยิ่ง
22. (ถูกบันทึกไว้)ในแผ่นจารึกที่ถูกพิทักษ์ไว้(เป็นอย่างดี)


คำแปล R3.
17. เรื่องราวของบรรดาไพร่พลได้มายังสูเจ้าแล้วมิใช่หรือ ?
18. (ไพร่พลของ)ฟิรฺเอาน์และชาวษะมูดนั่นไง
19. แต่บรรดาผู้ปฏิเสธก็ยังดึงดันอยู่ในการปฏิเสธ
20. ถึงแม้ว่าอัลลอฮฺได้ทรงล้อมรอบพวกเขาไว้แล้ว
21. (การปฏิเสธของพวกเขาไม่มีผลต่อกุรฺอานแต่ประการใดเลย)เพราะมันคือกุรฺอานอันประเสริฐ
22. ในแผ่นจารึกที่ได้ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี

คำแปล R4.
17. ได้มีเรื่องราวของไพร่พลมายังเจ้าแล้วมิใช่หรือ ?
18. ของฟิรเอานฺและซะมูด
19. ยิ่งไปกว่านั้นบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธายังไม่ยอมเชื่อ (ความจริง)
20. และอัลลอฮฺทรงห้อมล้อมพวกเขาทุกด้าน
21. มิใช่เช่นนั้นดอก ที่พวกเขาไม่ยอมเชื่อถือคือกุรอานอันรุ่งโรจน์
22. อยู่ในแผ่นจารึกที่ถูกเก็บรักษาไว้


คำแปล R5.
๑๗. เรื่องราวที่เกี่ยวกับรี้พลมิได้รู้มาถึงเจ้าดอกหรือ
๑๘. นั่นคือรี้พลของฟิรเอาน์และสะมู๊ด
๑๙. หากทว่าบรรดาจำพวกไร้ศรัทธาล้วนอยู่ในการใส่ไคล้ความเท็จแก่คำประกาศของศาสนทูตทั้งสิ้น
๒๐. และอัลเลาะห์ทรงห้อมล้อมด้วยอำนาจของพระองค์จากเบื้องหลังของพวกเขา จนพวกเขาถูกทำลายล้างย่อยยับ
๒๑. หากทว่าสิ่งนั้นเป็นอัลกุรอานที่มีศักดิ์ศรียิ่งนัก
๒๒. ถูกบันทึกอยู่ในแผ่นจารึกที่ถูกพิทักษ์ไว้


ดำรัสของอัลลอฮฺผู้ยิ่งใหญ่เป็นสัจจะ   (صدق الله العظيم)
จบสูเราะฮฺที่ 85 อัลบุรูจญฺ


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

 salam

2. ตอนที่ 86 อัฏฏอริก

คำอธิบายประกอบสูเราะฮฺ อัฏฏอริก (ดวงดาวทอแสง – R3.)
เป็นซูเราะฮฺมักกียะฮฺ มี 17 อายะฮฺ


    ชื่อ: ซูเราะฮฺนี้ได้ชื่อมาจากคำว่า “อัฏ-ฏอริก” (الطارك) ในอายะฮฺแรก
    ระยะเวลาของการประทานซูเราะฮฺ : เนื้อหาสาระของซูเราะฮฺนี้เหมือนกันกับเนื้อหาของซูเราะฮฺต้น ๆ ที่ได้ถูกประทานลงมาที่มักกะฮฺ แต่ซูเราะฮฺนี้ได้ถูกประทานลงมาในตอนที่บรรดาผู้ปฏิเสธแห่งมักกะฮฺกำลังใช้วิธีการและแผนการทุกอย่างที่จะทำลายสาส์นของกุรฺอานและรอซูลุลลอฮฺ
   เนื้อหาสาระ : ซูเราะฮฺพูดถึงเรื่องสำคัญสองเรื่องด้วยกัน เรื่องแรกคือมนุษย์จะต้องไปปรากฏตัวต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้าหลังความตาย เรื่องที่สองก็คือ กุรอานเป็นวจนะที่เด็ดขาดชัดเจนซึ่งไม่มีแผนการใดของบรรดาผู้ปฏิเสธสามารถทำลายได้
   ซูเราะฮฺนี้เริ่มต้นด้วยการอ้างเอาดวงดาวในท้องฟ้ามาเป็นหลักฐานว่า ไม่มีสิ่งใดในจักรวาลที่จะดำรงคงอยู่ได้หากไม่มีผู้คอยควบคุมดูแล หลังจากนั้น มนุษย์ก็ได้ถูกขอให้พิจารณาตัวเองว่าเขาได้ถูกบังเกิดขึ้นมาอย่างไรจากหยดอสุจิ และได้ถูกทำให้เป็นมนุษย์ที่มีชีวิต หลังจากนั้นก็ได้มีการกล่าวว่า อัลลอฮฺผู้ทรงทำให้เขาบังเกิดขึ้นมานั้นทรงมีอำนาจที่จะสร้างเขาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งและการฟื้นคืนชีพขึ้นมาครั้งนี้ก็มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะพิจารณาความลับของมนุษย์ที่ยังถูกซ่อนเร้นอยู่ในโลก ในตอนนั้น มนุษย์จะไม่สามารถหลีกหนีผลของการกระทำของตัวเองไปได้ และก็จะไม่มีใครสามารถช่วยเหลือเขาให้รอดไปได้ด้วยเช่นกัน
   กล่าวโดยสรุปแล้ว ได้มีการชี้ให้เห็นว่า การที่ฝนตกลงมาจากฟากฟ้าและทำให้พืชพันธุ์ต่าง ๆ งอกเงยขึ้นมาจากผืนดินนั้น มิใช่การเล่นของเด็ก แต่เป็นเรื่องจริงจังฉันใด สัจธรรมที่ได้ถูกกล่าวไว้ในกุรอานก็มิใช่เรื่องล่อเล่น แต่เป็นความจริงที่มั่นคงและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ฉันนั้น บรรดาผู้ปฏิเสธได้หลงเข้าใจผิดว่าแผนการของพวกเขาจะทำลายการเชิญชวนของกุรอานได้ แต่พวกเขาไม่รู้ว่าอัลลอฮฺก็ทรงวางแผนที่จะทำให้แผนการของพวกเขาไร้ผลเช่นกัน หลังจากนั้นในอายะฮฺหนึ่ง กุรอานก็ได้ใช้คำพูดปลอบโยนท่านรอซุลลุลลอฮฺและเป็นการเตือนบรรดาผู้ปฏิเสธไปโดยปริยายว่า “จงอดทนสักพักหนึ่งและปล่อยให้บรรดาผู้ปฏิเสธทำอะไรให้ถึงที่สุด ไม่นาน พวกเขาเองก็จะตระหนักเองว่าพวกเขาสามารถทำลายกุรอานด้วยแผนการของพวกเขาหรือกุรอานได้มีอำนาจเหนือพวกเขาในสถานที่พวกเขากำลังพยายามอย่างที่สุดที่จะทำลายมัน”


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺอัฏฏอริก อายะฮฺที่ 1 – 4


คำอ่าน
1. วัสสะมา...อิวัฏฏอริก
2. วะมา..อัดรอกะ มัฏฏอริก
3. อัน..นัจญมุษษากิบ
4. อิน..กุลลุนัฟสิลลัม..มาอะลัยฮาหาฟิซ


คำแปล R1.
1. By the heaven, and At-Tariq (the night-comer, i.e. the bright star);
2. And what will make you to know what At-Tariq (night-comer) is?
3. (It is) the star of piercing brightness;
4. There is no human being but has a protector over him (or her) (i.e. angels in charge of each human being guarding him, writing his good and bad deeds, etc.)


คำแปล R2.
1. ขอยืนยันกับฟากฟ้าและสิ่งที่ปรากฏในเวลากลางคืน
2. และอันใดหรือที่ทำให้เจ้ารู้ว่า อะไรคือสิ่งที่ปรากฏในเวลากลางคืน
3. มันคือดวงดาวที่ทอแสง
4. ทุก ๆ ชีวิตมิมีอยู่เพียงลำพัง หากจะต้องมีผู้คอยดูแลมันเสมอ(คือพระองค์อัลเลาะฮฺ)


คำแปล R3.
1. ขอสาบานด้วยชั้นฟ้าและผู้มาเยี่ยมเยือนในยามค่ำคืน
2. และเจ้ารู้อะไรบ้างว่าสิ่งที่มาเยี่ยมเยือนในยามค่ำคืนนั้นคืออะไร
3. ก็ดวงดาวที่ประกายแสงนั่นไง
4. ไม่มีชีวิตใดที่ปราศจากผู้คอยควบคุมดูแลมัน


คำแปล R4.
1. ขอสาบานด้วยชั้นฟ้า และ (ดวงดาว) ที่มาในเวลาค่ำคืน
2. และอะไรเล่าจะทำให้เจ้ารู้ได้ว่าสิ่งที่มาในเวลาค่ำคืนนั้นคืออะไร ?
3. คือดวงดาวที่ประกายแสง
4. ไม่มีชีวิตใด (อยู่โดยลำพัง) เว้นแต่มีผู้เฝ้ารักษามัน


คำแปล R5.
๑. ขอสาบานด้วยฟากฟ้าและสิ่งที่มาในยามกลางคืน
๒. และอะไรหรือที่ทำให้เจ้ารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่มาในยามกลางคืน
๓. มันคือดวงดาวที่สกาวแสง
๔. ที่จริงทุก ๆ ชีวิตย่อมมีมลาอิกะห์ผู้พิทักษ์ไว้เหนือเขา ไม่ว่าจะทำสิ่งใด มลาอิกะห์นั้นก็จะจดบันทึกไว้ทั้งสิ้น และยังมีระบุในอัลฮะดีสว่า มีมลาอิกะห์จำนวน ๑๐๖ ตนประจำอยู่กับตัวเขา คอยพิทักษ์ปกป้องผองภัยแก่เขา




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺอัฏฏอริก อายะฮฺที่ 5 – 8
 
คำอ่าน
5. ฟัลยัน..ซุริลอิน..สานุมิม..มะคุลิก
6. คุลิเกาะมิม..มา...อิน..ดาฟิก
7. ยัครุญุมิม..บัยนิศศุลบิวัตตะรอ...อิบ
8. อิน..นะฮู อะลาร็อจญอิฮี ละกอดิรฺ


คำแปล R1.
5. So let man see from what he is created!
6. He is created from water gushing forth
7. Proceeding from between the back-bone and the ribs,
8. Verily, (Allah) is able to bring him back (to life)!



คำแปล R2.
5. ดังนั้น มนุษย์จงพิเคราะห์ดูเถิดว่า เขาถูกบันดาลมาจากอะไร
6. เขาถูกบันดาลมาจากน้ำ(อสุจิ)ที่ไหลพุ่ง
7. มัน(น้ำนั้น)ออกมาจากกระดูกสันหลัง(ของชาย)และกระดูกหน้าอก(ของหญิง)
8. แท้จริงพระองค์ทรงอำนาจที่จะให้เขากลับ(ฟื้นคืนชีพอีกหลังจากตายไปแล้ว)


คำแปล R3.
5. ดังนั้นมนุษย์จงไตร่ตรองดูเถิดว่า เขาได้ถูกสร้างมาจากอะไร
6. เขาถูกสร้างมาจากน้ำที่พุ่งกระฉูด
7. ออกมาจากระหว่างกระดูกสันหลังและกระดูกหน้าอก
8. แน่นอน พระองค์(ผู้ทรงสร้าง)มีอำนาจที่จะสร้างเขาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง


คำแปล R4.
5. ดังนั้นมนุษย์จงไตร่ตรองดูซิว่าเขาถูกบังเกิดมาจากอะไร ?
6. เขาถูกบังเกิดมาจากน้ำที่พุ่งออกมา
7. มันออกมาจากกระดูกสันหลัง (ของชาย) และกระดูกหน้าอก (ของหญิง)
8. แท้จริงพระองค์ทรงสามารถอย่างแน่นอนที่จะให้เขากลับมาอีก (คือฟื้นคืนชีพ)


คำแปล R5.
๕. ดังนั้นมนุษย์จงพินิจพิเคราะห์เถิดว่าเขาถูกสร้างมาจากอะไร
๖. เขาถูกสร้างมาจากน้ำอสุจิอันไหลพุ่ง
๗. น้ำอสุจินั้นมันหลั่งออกมาจากระหว่างปลายกระดูกสันหลังของชายและกระดูกหน้าอกของหญิง
๘. แท้จริงพระองค์ทรงอานุภาพที่จะให้เขากลับคืนมาสู่สภาพเดิมอีกครั้งหนึ่ง ภายหลังจากเขาได้ตายไปแล้ว โดยให้เขาฟื้นคืนชีพขึ้นมา




ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺอัฏฏอริก อายะฮฺที่ 9 – 14


คำอ่าน

9. เยามะตุบลัสสะรอ...อิรฺ
10. ฟะมาละฮู มิน..กูวะติว..วะลานาศิรฺ
11. วัสสะมา...อิซาติรฺร็อจญอฺ
12. วัลอัรฎิ ซาติศส็อดอฺ
13. อิน..นะฮูละก็อวลุน..ฟัศลฺ
14. วะมาฮุวะบิลฮัซลฺ


คำแปล R1.

9. The Day when all the secrets (deeds, prayers, fasting, etc.) will be examined (as to their truth).
10. Then will (man) have no power, nor any helper.
11. By the sky (having rain clouds) which gives rain, again and again.
12. And the earth which splits (with the growth of trees and plants),
13. Verily! This (the Qur'an) is the word that separates (the truth from falsehood, and commands strict legal laws for mankind to cut the roots of evil).
14. And it is not a thing for amusement.



คำแปล R2.
9. ในวันซึ่งบรรดาความเร้นลับทั้งหลายถูกเผยออกมา
10. แล้วจะไม่มีพลังใด ๆ และไม่มีผู้ช่วยเหลือคนใดสำหรับเขาอีก
11. ขอยืนยันกับฟากฟ้าอันเป็นที่มาแห่งน้ำฝน
12. ขอยืนยันกับแผ่นดิน อันเป็นแหล่งงอกงามของพืชพันธุ์
13. แท้จริงกุรอาน เป็นถ้อยคำที่จำแนก(ให้รู้ความถูกต้องและความผิดพลาด)
14. และกุรอานหาใช่เป็นถ้อยคำอันไร้แก่นสารไม่


คำแปล R3.
9. วันนั้นความลับที่ถูกซ่อนเร้นทั้งหลายจะถูกเปิดเผย
10. หลังจากนั้น มนุษย์จะไม่มีอำนาจใด ๆ ของตนเองและไม่มีผู้ช่วยเหลือใด ๆ
11. ขอสาบานด้วยชั้นฟ้าที่หลั่งน้ำฝนลงมา
12. และด้วยแผ่นดินที่แยกออก (ในตอนที่พืชพรรณงอกออกมา)
13. แท้จริง มันคือวจนะอันชัดเจน เด็ดขาด
14. และมันไม่ใช่ของเล่น


คำแปล R4.

9. วันที่สิ่งเร้นลับทั้งหลายจะถูกเปิดเผย
10. ดังนั้นเขาจะไม่มีพลังใด ๆ และไม่มีผู้ช่วยเหลือใด ๆ
11. ขอสาบานด้วยชั้นฟ้าที่หลั่งน้ำฝน
12. และแผ่นดินที่ปริออก (ให้เมล็ดพืชงอกเงย)
13. แท้จริงอัลกุรอานนั้น คือพระดำรัสที่จำแนก (ระหว่างความจริงกลับความเท็จ)
14. และอัลกุรอานนั้นมิใช่เรื่องไร้สาระ


คำแปล R5.

๙. ในวันซึ่งบรรดาความลับต่าง ๆ จะถูกเปิดเผย ไม่มีใครสามารถซ่อนเร้นไว้ได้เลย
๑๐. แล้วเขาก็ไม่มีพลังใด ๆ ที่จะขัดขืนและปกป้อง และไม่มีใครที่เป็นผู้ช่วยเหลือเขาได้
๑๑. ขอสาบานกับฟากฟ้า อันเป็นแหล่งที่มาของฝน
๑๒. และขอสาบานกับแผ่นดิน อันเป็นแหล่งเกิดของพืช
๑๓. แท้จริงอัลกุรอานนั้นย่อมเป็นโองการที่จำแนกระหว่างความจริงกับความเท็จ ความถูกกับความผิด
๑๔. และกุรอานหาใช่ถ้อยคำอันไร้สาระไม่



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺอัฏฏอริก อายะฮฺที่ 15 – 17


คำอ่าน
15. อิน..นะฮุมยะกีดูนะกัยดา
16. วะอะกีดุกัยดา
17. ฟะมะฮฺฮิลิลกาฟิรีนะ อัมฮิลฮุมรุวัยดา


คำแปล R1.
15. Verily, they are but plotting a plot (against you O Muhammad).
16. And I (too) am planning a plan.
17. So give a respite to the disbelievers. Deal you gently with them for a while.



คำแปล R2.
15. แท้จริงพวกเขา(ชาวเนรคุณ)ต่างก็วางแผนร้ายอย่างจริงจัง(เพื่อทำลายอิสลาม)
16. แต่ข้าก็วางแผนอย่างจริงจัง(เหมือนกันเพื่อตอบสนองพวกเขา)
17. ดังนั้น เจ้าจงทอดเวลาแก่พวกเขา (อย่าคิดรีบด่วนลงโทษ) ข้าก็จะทอดเวลาแก่พวกเขาสักชั่วระยะหนึ่ง(ตราบถึงวาระแห่งการลงโทษของข้า)


คำแปล R3.
15. คนเหล่านี้(บรรดาผู้ปฏิเสธแห่งมักกะฮฺ)กำลังวางแผนกันอยู่
16. และฉันก็กำลังวางแผนอยู่เช่นกัน
17. ดังนั้น (โอ้ นบี) จงปล่อยบรรดาผู้ปฏิเสธไว้อย่างนั้น จงปล่อยพวกเขาไว้สักระยะหนึ่ง


คำแปล R4.
15. แท้จริงพวกเขากำลังวางแผนการณ์กันอยู่
16. และข้าก็วางแผนการณ์อยู่
17. ดังนั้น เจ้า (มุฮัมมัด) จงผ่อนปรนให้บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาเถิด ข้าก็จะผ่อนปรนให้แก่พวกเขาระยะหนึ่ง


คำแปล R5.
๑๕. แท้จริงพวกชาวกาฟิรเหล่านั้น วางแผนลำลายเจ้าอย่างจริง ๆ
๑๖. และข้าก็วางแผนอย่างจริงจัง ที่จะคอยตอบโต้และป้องกันแผนการของพวกนั้นมิให้ทำอันตรายแก่เจ้าได้
๑๗. ดังนั้นเจ้าจงผ่อนผันแก่พวกเนรคุณเถิด ข้าก็จะผ่อนผันให้แก่เขาสักเพียงเล็กน้อย ยังไม่รีบรัดการลงโทษพวกนั้น เพื่อรอให้พวกเขาหันมาศรัทธา


ดำรัสของอัลลอฮฺผู้ยิ่งใหญ่เป็นสัจจะ   (صدق الله العظيم)
จบสูเราะฮฺที่ 86 อัฏฏอริก

ออฟไลน์ assolihah

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 1
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ญะซากัลลอฮุคอยรอน มาชาอัลลอฮฺ น่าจะทำเป็นรูปเล่ม เนื้อหาดีมากๆเลย บอกการแปลไว้หลากหลายมาก

 

GoogleTagged