ผู้เขียน หัวข้อ: อัลกุรอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 40 สูเราะฮฺ ฆอฟิรฺ (สูเราะฮฺ อัล-มุอ์มิน)  (อ่าน 4204 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺฆอฟิรฺ อายะฮฺที่ 51 - 55


คำอ่าน
51. อิน..นา ละนัน..ศุรุ รุสุละนา วัลละซีนะอามะนู ฟิลหะยาติดดุนยา วะเยามะยะกูมุลอัชฮาด
52. เยามะลายัน..ฟะอุซซอลิมีนะ มะอฺซิเราะตุฮุม วะละฮุมุลละอฺนะตุ วะละฮุม สู...อุดดารฺ
53. วะละก็อดอาตัยนามูสัลฮุดา วะเอาร็อษนา บะนี..อิสรอ..อีลัลกิตาบ
54. ฮุเดา..วะซิกรอ ลิอุลิลอัลบาบ
55. ฟัศบิรฺ อิน..นะ วะอฺดัลลอฮิ หักกู..วัสตัฆฟิรฺ ลิซัม..บิกะ วะสับบิหฺบิหัมดิ ร็อบบิกะ บิลอะชียิ วัลอิบการฺ


คำแปล R1.
51. Verily, we will indeed make victorious our Messengers and those who believe (in the Oneness of Allah Islamic Monotheism) in this world's life and on the Day when the witnesses will stand forth, (i.e. Day of Resurrection),
52. The Day when their excuses will be of no profit to Zalimun (polytheists, wrong-doers and disbelievers in the Oneness of Allah). Theirs will be the curse, and theirs will be the evil abode (i.e. painful torment in Hell-fire).
53. And, indeed we gave Musa (Moses) the guidance, and we caused the Children of Israel to inherit the Scripture [i.e. theTaurat (Torah)],
54. A guide and a reminder for men of understanding.
55. So be patient (O Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam). Verily, the promise of Allah is true, and ask forgiveness for your fault, and glorify the praises of your Lord in the Ashi (i.e. the time period after the midnoon till sunset) and in the Ibkar (i.e. the time period from early morning or sunrise till before midnoon) [It is said that, that means the five compulsory congregational Salat (prayers) or the 'Asr and Fajr prayers].


คำแปล R2.
51. แท้จริงเรา(อัลเลาะฮฺ)จักให้ความช่วยเหลือแก่บรรดาศาสนทูตของเราและบรรดาผูมีศรัทธาทั้งมวลทั้งในโลกนี้และในวันที่สักขีพยานฟื้นขึ้น(คือวันชาติหน้า)
52. ในวันซึ่งคำอุทธรณ์ของเหล่าทุจริตชนไม่ให้คุณประโยชน์แก่ตัวเขาเลย และพวกเขาจักได้รับการสาปแช่งและมีที่พำนักอันเลวร้ายยิ่ง
53. ขอยืนยัน! แท้จริงเราได้มอบสิ่งชี้นำทางแก่มูซา และเราได้สืบทอดคัมภีร์(เตารอฮฺ)แก่เผ่าพันธุ์ของอิสรออีล
54. เพื่อเป็นสิ่งชี้นำทางและเป็นเครื่องเตือนสติแก่บรรดาผู้มีวิจารณญาณทั้งปวง
55. ดังนั้น เจ้าจงอดทนเถิด! แท้จริงสัญญาแห่งอัลลอฮฺย่อมเป็นจริงเสมอและเจ้าจงขออภัยในโทษของเจ้าเถิด และจงกล่าวถวายสดุดีพระบริสุทธิคุณพร้อมกับการสรรเสริญในองค์อภิบาลของเจ้าทั้งในเวลาเย็นและเช้า


คำแปล R3.
51. เชื่อเถิดว่า เราจะช่วยบรรดารอซูลของเราและบรรดาผู้ศรัทธาทั้งในชีวิตโลกนี้และในวันที่พยานทั้งหลายจะยืนขึ้น
52. วันที่การแก้ตัวของผู้ทำผิดจะไม่สามารถช่วยอะไรพวกเขา พวกเขาจะถูกสาปแช่งและได้รับที่พำนักอันเลวร้ายที่สุด
53. (จงพิจารณาสิ่งนี้) เราได้แสดงให้มูซาได้เห็นทางนำและได้ทำให้ลูกหลานของอิสรออีลเป็นผู้สืบทอดคัมภีร์
54. ซึ่งเป็นทางนำและคำตักเตือนสำหรับคนที่มีสติปัญญา
55. ดังนั้น จงอดทน(โอ้ นบี) สัญญาของอัลลอฮฺนั้นเป็นจริงอย่างแน่นอน จงขออภัยในความผิดของเจ้า และจงสดุดีพระผู้อภิบาลของเจ้าด้วยการสรรเสริญทั้งยามเย็นและในยามเช้า


คำแปล R4.
51. แท้จริงเราจะช่วยเหลือบรรดารอซูลของเรา และบรรดาผู้ศรัทธาอย่างแน่นอน ทั้งในชีวิตของโลกนี้ และวันที่ซึ่งปวงพยานจะยืนขึ้นเป็นพยาน
52. วันที่การแก้ตัวของพวกเขาจะไม่อำนวยผลแก่บรรดาผู้อธรรม และสำหรับพวกเขาจะได้รับการสาปแช่ง และสำหรับพวกเขาจะมีที่พำนักอันชั่วช้า
53. และโดนแน่นอนเราได้ประทานการชี้นำทางแก่มูซา และเราได้ให้มรดกแก่วงศ์วารของอิสรออีล คือคัมภีร์
54. เพื่อเป็นการชี้นำทางและเป็นการเตือนรำลึกแก่บรรดาผู้มีสติปัญญา
55. ดังนั้น เจ้าจงอดทนเพราะแท้จริงสัญญาของอัลลอฮฺนั้นเป็นความจริง และจงขออภัยโทษต่อความผิดของเจ้า และจงแซ่ซ้องสดุดีด้วยการสรรเสริญพระเจ้าของเจ้าทั้งในยามเย็นและในยามเช้า


คำแปล R5.
๕๑. อัลเลาะห์ทรงโองการว่าแท้จริงเราจะช่วยบรรดาทูตของเราและบรรดาผู้มีศรัทธาทั้งหลาย ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ซึ่งเป็นวันที่บรรดาสักขีพยานต่างยืนขึ้นเพื่อเป็นพยานแก่บรรดาศาสนทูตทั้งหลายว่าได้นำสัจธรรมจากอัลเลาะห์มาเผยแพร่ตามเจตจำนงของพระองค์ สักขีพยานดังกล่าวคือ มวลมลาอิกะห์ นอกจากจะเป็นพยานแก่ศาสนทูตแล้ว ยังเป็นพยานในความเนรคุณของพวกกาฟิรอีกด้วย
๕๒. เป็นวันซึ่งคำอุทธรณ์ของผู้อธรรมทั้งหลายจะไม่อำนวยผลแก่ตัวของเขาเลยพวกเขาจะต้องได้รับคำสาปแช่งและพวกเขามีบ้านอยู่อันแสนเลวนั่นคือนรกที่พวกเขาถูกจองจำและถูกลงโทษอย่างสาหัสทรมาน
๕๓. และแท้จริงเราได้ประทานสิ่งนำทางแก่นบีมูซาให้นำมาประกาศเผยแพร่แก่มวลชน สิ่งนั้นคือ คัมภีร์เตาร๊อตและปาฏิหาริย์ต่าง ๆ ของท่านและเราได้ให้พวกบุตรหลานแห่งอิสรออีลได้สืบทอดคัมภีร์นั้น
๕๔. เป็นสิ่งนำทางและเป็นข้อตักเตือนแก่มวลผู้มีวิจารญาร
๕๕. ดังนั้นโอ้มูฮำมัดเจ้าจงอดทนเถิดในการประกาศเผยแพร่ของเจ้าในยุคนี้ ถึงจะประสบภยันตรายและอุปสรรคนานาประการแต่นบีมูซาก็เคยประสบมาก่อนแล้วทั้งสิ้น แท้จริงสัญญาณแห่งอัลเลาะห์ย่อมเป็นสัจจะเสมอ เจ้าจงขออภัยโทษของเจ้า และจงกล่าวสดุดีพระบพิตรธิคุณพร้อมการสรรเสริญในองค์อภิบาลของเจ้าทั้งยามเช้าและยามเย็นอย่าได้เว้น


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 05, 2011, 06:49 AM โดย Bangmud »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺฆอฟิรฺ อายะฮฺที่ 56 - 59


คำอ่าน
56. อิน..นัลละซีนะ ยุญาดิลูนะ ฟี..อายาติลลาฮิ บิฆ็อยริสุลฏอนิน อะตาฮุม อิน..ฟีศุดูริฮิม อิลลากิบรุม..มาฮุม..บิบิลิฆีฮฺ ฟัสตะอิซบิลลาฮฺ อิน..นะฮู ฮุวัสสะมีอุลบะศีรฺ
57. ละค็อลกุสสะมาวาติวัลอัรฺฎิ อักบะรุมินค็อลกิน..นาสิ วะลากิน..นะอักษะร็อน..นาสิ ลายะอฺละมูน
58. วะมายัสตะวิลอะอฺมา วัลบะศีรฺ วัลละซีนะอามะนู วะอะมิลุศศอลิหาติ วะลัลมุสี..อุ์ เกาะลีลัม..มาตะตะซักกะรูน
59. อิน..นัสสาอะตะ ละอาติยะตุล ลาร็อยบะฟีฮา วะลากิน..นะอักษะร็อน..นาสิ ลายุอ์มินูน


คำแปล R1.
56. Verily, those who dispute about theAyat (proofs, evidences, verses, lessons, signs, revelations, etc.) of Allah, without any authority having come to them, there is nothing else in their breasts except pride [to accept you (Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam) as a Messenger of Allah and to obey you]. They will never have it (i.e. Prophethood which Allah has bestowed upon you). So seek refuge in Allah (O Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam from the arrogant). Verily, it is He who is the All-Hearer, the All-Seer.
57. The creation of the heavens and the earth is indeed greater than the creation of mankind, yet most of mankind knows not.
58. And not equal are the blind and those who see, nor are (equal) those who believe (in the Oneness of Allah Islamic Monotheism), and do righteous good deeds, and those who do evil. Little do you remember!
59. Verily, the Hour (Day of Judgment) is surely coming, therein is no doubt, yet most men believe not.


คำแปล R2.
56. แท้จริงบรรดาจำพวกที่โต้เถียงในบรรดาโองการต่าง ๆ แห่งอัลเลาะฮฺ โดยปราศจากหลักฐานที่มาสู่พวกเขา(อย่างแน่ชัด) ในหัวใจของพวกเขาไม่มีอะไรเลยนอกจากความยิ่งใหญ่ ซึ่งพวกเขาไม่อาจบรรลุถึงได้ ดังนั้นเจ้าจงขอความคุ้มครองต่ออัลเลาะฮฺเถิด เพราะแท้จริงพระองค์ทรงได้ยินยิ่ง ทรงมองเห็นยิ่ง
57. แท้จริงการบันดาลฟากฟ้าแลพแผ่นดินนั้นย่อมยิ่งใหญ่กว่าการบันดาลมนุษย์(มากมายนัก) แต่ทว่ามนุษย์ส่วนมากไม่รู้
58. และผู้ตาบอดกับผู้ตาดีย่อมไม่ทัดเทียมกัน และบรรดาผู้ศรัทธาและประพฤติแต่ความดีงามกับผู้ประพฤติความชั่วก็ไม่ทัดเทียมกัน น้อยเหลือเกินที่พวกเจ้าสำนึก
59. แท้จริง กาลอวสานแห่งโลกนี้ ย่อมมาถึงโดยไม่ต้องสงสัย แต่มนุษย์ส่วนมากก็หาได้ศรัทธาไม่


คำแปล R3.
56. แท้จริงแล้วบรรดาผู้โต้เถียงเกี่ยวกับอายะฮฺทั้งหลายของอัลลอฮฺโดยไม่มีหลักฐานใด ๆ มายังพวกเขานั้น ในหัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความหยิ่งทะนง แต่พวกเขาไม่มีวันที่จะบรรลุถึงความทะเยอทะยานของพวกเขาได้ ดังนั้นจงขอความคุ้มครองจากอัลลอฮฺ พระองค์ทรงได้ยินทุกสิ่งและได้เห็นทุกสิ่ง
57. แน่นอน การสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินนั้นเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าการสร้างมนุษย์แต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้
58. คนตาบอดและคนตาดีนั้นไม่อาจเท่าเทียมกัน เช่นเดียวกับผู้ศรัทธาและกระทำความดีกับผู้กระทำความชั่วก็ย่อมไม่เท่าเทียมกัน แต่สูเจ้าเข้าใจเรื่องนี้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
59. และเวลาแห่งการฟื้นคืนชีพจะมีมาอย่างแน่นอน ไม่มีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่คนส่วนใหญ่ไม่ศรัทธา


คำแปล R4.
56. แท้จริง บรรดาผู้โต้เถียงในเรื่องอายาตของอัลลอฮฺ (อัลกุรอาน) โดยปราศจากหลักฐานมายังพวกเขานั้น ไม่มีอะไรในทรวงอกของพวกเขานอกจากต้องการจะเป็นใหญ่ ซึ่งพวกเขาจะไม่เป็นผู้บรรลุถึงมันได้ ดังนั้น จงขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺ แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงเห็น
57. แน่นอนการสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินนั้นใหญ่ยิ่งกว่าการสร้างมนุษย์ แต่ว่าส่วนมากของมนุษย์ไม่รู้
58. และคนตาบอดกับคนตาดีนั้นย่อมไม่เท่าเทียมกัน และบรรดาผู้ศรัทธาและประกอบความดีทั้งหลายกับพวกกระทำความชั่วก็ไม่เท่า เทียมเช่นกัน เพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่พวกเจ้าจะใคร่ครวญ
59. แท้จริง วันอวสานนั้นจะมีมาอย่างแน่นอน ไม่มีข้อสงสัยใด ๆ ในวันนั้น แต่ว่าส่วนมากของมนุษย์ไม่ยอมศรัทธา


คำแปล R5.
๕๖. แท้จริงบรรดาพวกชาวเนรคุณผู้ทารโต้แย้งในโองการต่าง ๆ แห่งอัลเลาะห์โดยปราศจากหลักฐานใด ๆ ที่มาสู่พวกเขา ในจิตใจของพวกนั้นไม่มีอะไรเลยนอกจากความยโสเท่านั้น และพวกเขาต้องการจะมีอำนาจเหนือเจ้า พวกเขามิอาจบรรลุสู่เป้าประสงค์ของตัวเองได้ ดังนั้นเจ้าจงขอคุ้มครองต่ออัลเลาะห์เถิด เพราะแท้จริงพระองค์ทรงได้ยินทรงมองเห็นในทุกขบวนการของพวกนั้น
๕๗. อันที่จริงการบันดาลฟากฟ้าแลพแผ่นดินนั้นเป็นเรื่องสำคัญกว่าการบันดาลมนุษย์ในครั้งที่สองเมื่อตายไปแล้ว โดยที่เนื้อและกระดูกเน่าเปื่อยผุพังหมดแล้วและแต่ทว่ามนุษย์ส่วนมากไม่รู้ซึ้งถึงความจริงดังกล่าวเปรียบเหมือนคนหูหนวกตาบอดกระนั้น
๕๘. และคนตาบอดกับคนตาดีย่อมไม่ทัดเทียมกันแน่ บรรดาผู้ศรัทธาและปฏิบัติความดีงามกับบรรดาผู้ทำความเลวร้ายก็ไม่ทัดเทียมกันเพียงเล็กน้อยเหลือเกินที่พวกเขาจะสำนึกถึง
๕๙. แท้จริงวันชาติหน้านั้นเป็นสิ่งที่จะอุบัติขึ้น ไม่มีข้อสงสัยใด ๆ ทั้งสิ้นในเรื่องนั้น แต่ทว่ามนุษย์ส่วนมากไม่ศรัทธา


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 05, 2011, 06:50 AM โดย Bangmud »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺฆอฟิรฺ อายะฮฺที่ 60 - 63


คำอ่าน
59. อิน..นัลละซีนะ ยัสตักบิรูนะ อัน..อิบาดะตี สะยัดคุลูนะ ญะฮัน..นะมะ ดาคิรีน
61. อัลลอฮุลละซี ญะอะละละกุมุลลัยละ ลิตัสกุนูฟีฮิ วัน..นะฮาเราะมุบศิรอ อิน..นัลลอฮะ ละซูฟัฎลิน อะลัน..นาสิ วะลากิน..นะอักสะร็อน..นาสิ ลายัชกุรูน
62. ซาลิกุมุลลอฮุร็อบบะกุม คอลิกุ กุลลิชัยอ์ ลา..อิลาฮะอิลลาฮู ฟะอัน..นาตุอ์ฟะกูน
63. กะซาลิกะ ยุอ์ฟะกุลละซีนะ กานูบิอายาติลลาฮิ ยัจญหะดูน


คำแปล R1.
60. And your Lord said: "Invoke Me, [i.e. believe in My Oneness (Islamic Monotheism)] (and ask Me for anything) I will respond to your (invocation). Verily! Those who scorn My Worship [i.e. do not invoke Me, and do not believe in My Oneness, (Islamic Monotheism)] they will surely enter Helli humiliation!"
61. Allah, it is He who has made the night for you that you may rest therein and the day for you to see. Truly, Allah is full of Bounty to mankind, yet most of mankind give no thanks.
62. That is Allah, your Lord, the Creator of all things, La ilaha illa Huwa (none has the right to be worshipped but He), where then you are turning away (from Allah, by worshipping others instead of him)!
63. Thus were turned away those who used to deny the Ayat (proofs, evidences, verses, lessons, signs, revelations, etc.) of Allah.


คำแปล R2.
60. และองค์อภิบาลของพวกเจ้าได้ตรัสว่า “พวกเจ้าจงขอต่อข้าเถิด” ข้าจะตอบสนองพวกเจ้าอย่างแน่นอน แท้จริงบรรดาผู้ยโสต่อการนมัสการข้า พวกเขาจะต้องเข้านรกอย่างอัปยศที่สุด
61. อัลเลาะฮฺเป็นผู้ทรงบันดาลกลางคืนแก่พวกเจ้า เพื่อพวกเจ้าจะได้พักผ่อนในเวลานั้น และทรงบันดาลกลางวันให้มองเห็นชัด (เพื่อการประกอบอาชีพการงานต่าง ๆ ) แท้จริงอัลเลาะฮฺทรงไว้ซึ่งความโปรดปรานแก่มวลมนุษย์ แต่ว่ามนุษย์ส่วนมากหาได้กตัญญูไม่
62. (ผู้ทรงคุณลักษณะดังกล่าว)นั้น คืออัลเลาะฮฺ ผู้ทรงอภิบาลของพวกเจ้า ผู้ทรงบันดาลทุก ๆ สิ่ง ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ แล้วไฉนพวกเจ้าจึงถูกผันแปร
63. เช่นนั้น! บรรดาพวกที่ปฏิเสธโองการต่าง ๆ ของอัลเลาะฮฺ ถูกผันแปร


คำแปล R3.
60. พระผู้อภิบาลของสูเจ้าทรงกล่าวว่า “จงวิงวอนต่อฉัน ฉันจะตอบรับคำวิงวอนของสูเจ้า ส่วนบรรดาผู้ที่หยิ่งยโสต่อการเคารพสักการะฉันจะเข้าไปในนรกอย่างอัปยศอดสู”
61. อัลลอฮฺเป็นผู้ทรงทำกลางคืนให้แก่สูเจ้าเพื่อพักผ่อนในยามนั้นและทรงทำให้กลางวันสว่างเพื่อจะได้มองเห็น แท้จริงแล้วอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงโปรดปรานต่อมนุษย์ แต่มนุษย์ส่วนใหญ่ไม่ขอบคุณ
62. อัลลอฮฺองค์เดียวกันนี้อีกเช่นกันที่เป็นพระผู้อภิบาลของสูเจ้า ผู้ทรงสร้างทุกสิ่ง ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกไปจากพระองค์ แล้วใยสูเจ้าจึงได้ถูกหลอกลวง?
63. เช่นเดียวกันนั้นแหละที่ผู้ปฏิเสธอายะฮฺทั้งหลายของอัลลอฮฺถูกหลอกลวง


คำแปล R4.
60. และพระเจ้าของพวกเจ้าตรัสว่า จงวิงวอนขอต่อข่า ข้าจะตอบรับแก่พวกเจ้า ส่วนบรรดาผู้โอหังต่อการเคารพภักดีข้านั้น จะเข้าไปอยู่ในนรกอย่างต่ำต้อย
61. อัลลอฮฺผู้ทรงบันดาลกลางคืนให้แก่พวกเจ้า เพื่อจะได้พักผ่อนในเวลาของมัน และกลางวันเพื่อจะได้มองเห็น แท้จริงอัลลอฮฺเป็นเจ้าของความโปรดปรานแก่ปวงมนุษย์แต่ว่าส่วนมากของมนุษย์ ไม่ขอบคุณ
62. นั่นคืออัลลอฮฺ พระเจ้าของพวกเจ้าผู้ทรงสร้างทุกสิ่ง ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ ดังนั้นทำไมพวกเจ้าจึงถูกหันเหออกจากพระองค์เล่า?
63. เช่นนั้นแหละ บรรดาผู้ที่ปฏิเสธต่อสัญญาณทั้งหลายของอัลลอฮฺ จะถูกทำให้หันเหออก (จากสัจธรรม)


คำแปล R5.
๖๐. และองค์อภิบาลของเจ้าได้มีบัญชาว่า พวกเจ้าทั้งหลายจงวอนขอข้าเถิด แน่นอนข้าจะตอบสนองพวกเจ้าในคำขอนั้น ๆ แท้จริงบรรดาผู้ยโสต่อการที่จะทำการนมัสการต่อข้า พวกเหล่านั้นจะต้องเข้านรกอย่างน่าอัปยศเป็นที่สุด
๖๑. อัลเลาะห์ผู้ทรงบันดาลกลางคืนแก่พวกเจ้า เพื่อพวกเจ้าจะได้สงบอยู่ในนั้นด้วยการพักผ่อนหลับนอนหลังจากตรากตรำทำงานในตอนกลางวันอย่างเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า และทรงดลบันดาลกลางวัน ซึ่งสามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ด้วยแสงสว่างของดวงอาทิตย์ เพื่อการประกอบอาชีพและการทำงานต่าง ๆ แท้จริงอัลเลาะห์ทรงโปรดปรานแก่มวลมนุษย์ แต่ทว่ามนุษย์ส่วนมากไม่ขอบคุณในพระมหากรุณาธิคุณแห่งอัลเลาะห์ที่ทรงประทานสิ่งดังกล่าว
๖๒. นั้นแหละอัลเลาะห์ทรงเป็นองค์อภิบาลของพวกเจ้า ทรงบันดาลทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีพระเจ้าใด ๆ นอกจากพระองค์เท่านั้น แล้วไฉนพวกเจ้าจึงถูกบิดผันออกจากศรัทธา
๖๓. เช่นที่พวกเขาถูกบิดผันจากการศรัทธานั้น บรรดาผู้คัดค้านในโองการต่าง ๆ แห่งอัลเลาะห์ก็ถูกบิดผันออกจากศรัทธาด้วยเหมือนกัน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 05, 2011, 06:50 AM โดย Bangmud »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺฆอฟิรฺ อายะฮฺที่ 64 - 65


คำอ่าน
64. อัลลอฮุลละซี ญะอะละ ละกุมุลอัรฺเฎาะ เกาะรอร็อว..วัสสะมา...อะบินา...เอา..วะศ็อววะเราะกุม วะเราะซะเกาะกุม..มินัฏฏ็อยยิบาต ซาลิกุมุลลอฮุร็อบบุกุม ฟะตะบาเราะกัลลอฮุร็อบบุลอาละมีน
65. ฮุวัลหัยยุ ลา..อิลาฮะอิลลาฮุวะ ฟัดอูฮุ มุคลิศีนะ ละฮุดดีน อัลหัมดุลิลลาฮิ ร็อบบิลอาละมีน


คำแปล R1.
64. Allah, it is He who has made for you the earth as a dwelling place and the sky as a canopy, and has given you shape and made your shapes good (looking) and has provided you with good things. That is Allah, your Lord, then blessed be Allah, the Lord of the 'Alamin (mankind, jinns and all that exists).
65. He is the ever living, La ilaha illa Huwa (none has the right to be worshiped but He), so invoke Him making your worship pure for Him alone (by worshiping Him alone, and none else, and by doing righteous deeds sincerely for Allah's sake only, and not to show off, and not to set up rivals with Him in worship). All the praises and thanks are to Allah, the Lord of the 'Alamin (mankind, jinns and All that exists).


คำแปล R2.
64. อัลเลาะฮฺซึ่งพระองค์ทรงบันดาลแผ่นดินให้เป็นที่อยู่อาศัยสำหรับพวกเจ้า และทรงบันดาลฟ้าให้มั่นคง อีกทั้งทรงบันดาลรูปทรงแก่พวกเจ้า โดยทำให้รูปทรงของพวกเจ้าสวยงาม(กว่าสิ่งอื่นใด) และพระองค์ทรงประทานโชคผลที่ดีงาม(มีคุณประโยชน์)แก่พวกเจ้า นั้นคืออัลเลาะฮฺผู้ทรงอภิบาลพวกเจ้า อัลเลาะฮฺทรงจำเริญ ทรงอภิบาลโลกทั้งหลาย
65. พระองค์ทรงดำรงพระชนม์(ตลอดกาล) ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ ดังนั้นเจ้าทั้งหลายจงวอนนมัสการพระองค์ โดยบริสุทธิ์ต่อพระองค์เถิด การสรรเสริญย่อมเป็นของอัลเลาะฮฺผู้ทรงอภิบาลโลกทั้งหลาย


คำแปล R3.
64. อัลลอฮฺคือผู้ทรงทำให้แผ่นดินนี้เป็นสถานที่พำนักสำหรับสูเจ้าและทำให้ท้องฟ้าเป็นเพดานเหนือมัน และพระองค์ทรงทำสูเจ้าให้เป็นรูปร่างและทรงทำรูปร่างของสูเจ้าให้ดี และพระองค์ทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่สูเจ้าด้วยสิ่งที่สะอาด อัลลอฮฺองค์เดียวกันนี้แหละที่เป็นพระผู้อภิบาลของสูเจ้า ดังนั้นความจำเริญยิ่งจึงเป็นของอัลลอฮฺ พระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก
65. พระองค์คือผู้ทรงชีวิน ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกไปจากพระองค์ ดังนั้น จงวิงวอนต่อพระองค์เท่านั้น โดยการทำศาสนาของสูเจ้าให้เป็นของพระองค์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ บรรดาการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮฺพระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก


คำแปล R4.
64. อัลลอฮฺคือผู้ทรงทำให้แผ่นดินนี้เป็นที่พำนักแก่พวกเจ้า และชั้นฟ้าเป็นเพดานมั่นคง และทรงทำให้พวกเจ้าเป็นรูปร่าง และทรงทำให้รูปร่างของพวกเจ้าสวยงาม และทรงประทานปัจจัยยังชีพจากสิ่งที่ดี ๆ แก่พวกเจ้านั่นคืออัลลอฮฺ พระเจ้าของพวกเจ้า ดังนั้นอัลลอฮฺพระเจ้าแห่งสากลโลกทรง จำเริญยิ่ง
65. พระองค์คือผู้ทรงมีชีวิต ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ ดังนั้นจงวิงวอนขอต่อพระองค์โดยเป็นผู้มีความบริสุทธิ์ใจในศาสนาของพระองค์ บรรดาการสรรเสริญนั้นเป็นของอัลลอฮฺ พระเจ้าแห่งสากลโลก


คำแปล R5.
๖๔. อัลเลาะห์ทรงบันดาลแผ่นดินให้เป็นที่อยู่อาศัยสำหรับพวกเจ้า และบันดาลชั้นฟ้าให้เป็นประหนึ่งสิ่งก่อสร้างซึ่งครอบห้อมล้อมทุกสิ่งภายใต้ระบบสุริยะต่าง ๆ และพระองค์ทรงบันดาลรูปร่างของพวกเจ้าโดยดลให้พวกเจ้ามีรูปร่างอันงดงามและทรงประทานจากบรรดาสิ่งดีงามที่มีประโยชน์ต่อร่างกายให้เป็นโชคผลแก่พวกเจ้า นั่นคือ อัลเลาะห์ผู้ทรงอภิบาลพวกเจ้า แท้จริงอัลเลาะห์ทรงความจำเริญ ทรงอภิบาลโลกทั้งมวล
๖๕. พระองค์ทรงพระชนม์ ไม่มีพระเจ้านอกจากพระองค์ ดังนั้นพวกเจ้าจงวอนขอนมัสการพระองค์โดยบริสุทธิ์แห่งการนมัสการต่อพระองค์ มวลการสรรเสริญย่อมเป็นสิทธิของอัลเลาะห์ผู้ทรงอภิบาลโลกทั้งหลายเพียงพระองค์เดียว

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 05, 2011, 06:51 AM โดย Bangmud »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺฆอฟิรฺ อายะฮฺที่  66 - 68


คำอ่าน
66. กุลอิน..นี นุฮีตุ อันอะอฺบุดัลละซีนะ ตัดอูนะมินดูนิลลาฮิ ลัม..มาญา..อะนิยัลบัยยินาตุมิรฺร็อบบี วะอุมิรฺตุ อันอุสลิมะ ลิร็อบบิลอาละมีน
67. ฮุวัลละซีเคาะละเกาะกุม..มินตุรอบิน..ษุม..มะมิน..นุฏฟะติน..ษุม..มะมินอะละเกาะติน ษุม..มะยุคริญุกุมฏิฟลา ษุม..มะลิตับลุฆู..อะชุดดะกุม ษุม..มะลิตะกูนูชุยูคอ วะมิน..กุม..มัย..ยุตะวัฟฟา มิน..ก็อบลุ วะลิตับลุฆู..อะญะลัม..มุสัม..เมา..วะละอัลละกุม ตะอฺกิลูน
68. ฮุวัลละซี ยุหฺยีวะยุมีต ฟะอิซาเกาะฎอ..อัมรอน..ฟะอิน..นะมายะกูลุละฮู กุน..ฟะยะกูน


คำแปล R1.
66. Say (O Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam): "I have been forbidden to worship those whom you worship besides Allah, since there have come to me evidences from my Lord, and I am commanded to submit (in Islam) to the Lord of the 'Alamin (mankind, jinns and all that exists).
67. He, it is who has created you (Adam) from dust, then from a Nutfah [mixed semen drops of male and female discharge (i.e. Adam's offspring)] then from a clot (a piece of coagulated blood), then brings you forth as children, then (makes you grow) to reach the age of full strength, and afterwards to be old (men and women), though some among you die before, and that you reach an appointed term, in order that you may understand.
68. He it is who gives life and causes death. And when He decides upon a thing He says to it only: "Be!" and it is.


คำแปล R2.
66. จงประกาศเถิด! “แท้จริงฉันถูกห้ามมิให้นมัสการบรรดาสิ่งที่พวกเจ้าวอนนมัสการนอกเหนือจากอัลเลาะฮฺ (เนื่องเพราะ)ได้มีหลักฐานอันแจ้งชัดจากองค์อภิบาลของฉันมาถึงฉันแล้ว และฉันได้รับบัญชามาว่า ในฉันยอมสวามิภักดิ์ต่อองค์อภิบาลแห่งโลกทั้งหลาย”
67. พระองค์ทรงสร้างพวกเจ้ามาจากดิน หลังจากนั้นทรงสร้างมาจากหยดอสุจิ หลังจากนั้นจากก้อนเลือด แล้วทรงทำให้พวกเจ้าคลอดออกมาเป็นทารก หลังจากนั้นเพื่อพวกเจ้าจะได้บรรลุสู่วัยฉกรรจ์ หลังจากนั้นเพื่อพวกเจ้าจะได้(มีอายุยืนนานจน)เป็นคนอาวุโส และบางคนจากพวกเจ้ามีผู้ที่ครบกำหนดตายก่อน(ห้าอายุตามขั้นตอนดังกล่าว) และเพื่อพวกเจ้าจะได้บรรลุสู่ภาวะที่ถูกกำหนดไว้(สำหรับการรับสนองตอบความประพฤติ) และเพื่อพวกเจ้าจะได้ใช้ปัญญาไตร่ตรอง
68. พระองค์ทรงอำนาจกำหนดความเป็นและความตาย ดังนั้นเมื่อทรงกำหนดกิจใดขึ้น พระองค์จะทรงตรัสแก่มันว่า “จงเป็นขึ้นเถิด” แล้วสิ่งนั้นก็เป็นขึ้น (ตามบัญชาทุกประการ)”


คำแปล R3.
66. (โอ้ นบี) จงบอกผู้คนว่า “ฉันได้ถูกสั่งห้ามเคารพสักการะสิ่งที่พวกท่านวิงวอนแทนอัลลอฮฺ (จะให้ฉันทำได้อย่างไร) ในเมื่อสัญญาณต่าง ๆ อันชัดแจ้งจากพระผู้อภิบาลของฉันได้มายังฉันแล้ว และฉันได้ถูกบัญชาให้ยอมจำนนต่อพระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก
67. พระองค์คือผู้ทรงสร้างสูเจ้ามาจากดิน หลังจากนั้นก็จากตัวอสุจิ หลังจากนั้นก็จากก้อนเลือด แล้วพระองค์ก็ทรงให้สูเจ้าคลอดออกมาเป็นทารก แล้วทำให้สูเจ้าเจริญเติบโตจนถึงวัยเข้มแข็งเต็มที่ แล้วก็ทรงทำให้สูเจ้าไปสู่วัยชราในขณะที่บางคนในหมู่สูเจ้าได้ถูกเรียกกลับก่อน ที่ทำเช่นนี้ก็เพื่อที่สูเจ้าจะได้ไปถึงเวลาที่ได้ถูกกำหนดไว้ และเพื่อที่สูเจ้าจะได้เข้าใจความจริง
68. พระองค์คือผู้ทรงให้ชีวิตและทรงให้ความตาย ดังนั้นเมื่อพระองค์จะทรงกำหนดสิ่งใด พระองค์ก็แค่ทรงบัญชาแก่มันว่าจงเป็น แล้วมันก็เป็นขึ้นมา


คำแปล R4.
66. จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด แท้จริงฉันถูกห้ามมิให้เคารพภักดีต่อบรรดาที่พวกท่านวิงวอนขออื่นจากอัลลอฮฺ เมื่อหลักฐานทั้งหลายอันชัดแจ้งจากพระเจ้าของฉันได้มีมายังฉันแล้ว และฉันถูกบัญชาให้นอบน้อมต่อพระเจ้าแห่งสากลโลก
67. พระองค์คือผู้ทรงสร้างพวกเจ้าจากฝุ่นดิน แล้วจากเชื้ออสุจิ แล้วจากก้อนเลือดแล้วทรงให้พวกเจ้าคลอดออกมาเป็นทารกแล้วเพื่อพวกเจ้าจะได้ บรรลุสู่วัยฉกรรจ์ของพวกเจ้า แล้วเพื่อพวกเจ้าจะได้เป็นคนชรา และในหมู่พวกเจ้ามีผู้เสียชีวิตในวัยหนุ่ม และเพื่อให้พวกเจ้าจะได้บรรลุสู่วัยที่ถูกกำหนดไว้ และเพื่อพวกเจ้าจะได้ใช้สติปัญญาใคร่ครวญ
68. พระองค์ คือผู้ทรงให้เป็นและทรงให้ตาย ดังนั้นเมื่อพระองค์ทรงกำหนดกิจการใด ๆ พระองค์ก็จะกล่าวแก่มันว่า จงเป็น แล้วมันก็จะเป็นขึ้นมา


คำแปล R5.
๖๖. โอ้มูฮำมัด เจ้าจงประกาศเถิด แท้จริงตัวฉันถูกห้ามไว้มิให้นมัสการบรรดาสิ่งสมมติเป็นพระเจ้าต่าง ๆ ซึ่งพวกท่านทำการวอนขอและนมัสการอันนอกจากอัลเลาะห์ เมื่อบรรดาสัญลักษณ์อันสำแดงออกถึงอานุภาพและเอกานุภาพของอัลเลาะห์ที่ชัดแจ้งได้มาจากองค์อภิบาลของข้าสู่ตัวข้า และข้าถูกบัญชาไว้ให้สวามิภักดิ์ต่อองค์อภิบาลแห่งโลกทั้งหลายเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น
๖๗. พระองค์ทรงบันดาลพวกเจ้ามาจากดินหลังจากนั้นก็มาจากหยดอสุจิ หลังจากนั้นก็มาจากก้อนเนื้อ หลังจากนั้นพระองค์ทรงบันดาลให้พวกเจ้าคลอดออกมาเป็นทารก หลังจากนั้นพวกเจ้าก็บรรลุสู่วัยฉกรรจ์นับอายุ ๓๐ ปีถึง ๔๐ ปีหลังจากนั้นพวกเจ้าก็เป็นผู้อยู่ในวัยอาวุโสหลังจากอายุ ๔๐ ปีแล้ว และพวกเจ้าบางคนก็มีผู้เสียชีวิตก่อนหน้าวัยดังกล่าว และพวกเจ้าทั้งหลายก็บรรลุสู่อายุขัยที่ถูกกำหนดไว้ซึ่งเมื่อนั้นก็จะต้องเสียชีวิตทันทีและเพื่อเจ้าทั้งหลายจะได้ตรึกตรองถึงเหตุผลอันแสดงถึงอานุภาพของพระองค์ แล้วจะได้มีศรัทธามั่นในพระองค์โดยแท้จริง
๖๘. พระองค์ทรงบันดาลชีวิตและบันดาลความตายแก่บุคคลที่พระองค์ทรงประสงค์ดังนั้นเมื่อพระองค์ทรงตัดสินการงานหนึ่งทรงประสงค์ที่จะบันดาลสิ่งใด ๆ ก็ตาม ที่จริงแล้วพระองค์เพียงแต่ตรัสกับสิ่งนั้นว่า จงเป็นเถิด แล้วสิ่งนั้นก็เป็นขึ้นตามพระบัญชาของพระองค์



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 05, 2011, 06:51 AM โดย Bangmud »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺฆอฟิรฺ อายะฮฺที่ 69 - 74


คำอ่าน
69. อะลัมตะเราะอิลัลละซีนะ ยุญาดิลูนะฟี..อายาติลลาฮฺ อัน..ยุศเราะฟูน
70. อัลละซีนะกัซซะบูบิลกิตาบิ วะบิมา..อัรฺสัลนาบิฮี รุสุละนา ฟะเสาฟะยะอฺละมูน
71. อิซิลอัฆลาลุ ฟี..อะอฺนากิฮิม วัสสะลาสิลุ ยุสหะบูน
72. ฟิลหะมีมิ ษุม..มะฟิน..นาริยุสญะรูน
73. ษุม..มะกีละละฮุม อัยนะมากุน..ตุมตุชริกูน
74. มิน..ดูนิลลาฮฺ กอลูฎ็อลลู อัน..นา บัลลัมนะกุน..นัดอูมิน..ก็อบลุชัยอา กะซาลิกะยุฎิลลุลลอฮุลกาฟิรีน


คำแปล R1.
69. See you not those who dispute about the Ayat (proofs, evidences, verses, lessons, signs, revelations, etc.) of Allah? How are they turning away (from the truth, i.e. Islamic Monotheism to the falsehood of polytheism)?
70. Those who deny the Book (this Qur'an), and that with which we sent Our Messengers (i.e. to worship none but Allah alone sincerely, and to reject all false deities and to confess resurrection after the death for recompense) they will come to know (when they will be cast into the Fire of Hell).
71. When iron collars will be rounded over their necks, and the chains, they shall be dragged along.
72. In the boiling water, then they will be burned in the Fire.
73. Then it will be said to them: "Where are (all) those whom you used to join in worship as partners
74. "Besides Allah" they will say: "They have vanished from us: Nay, we did not invoke (worship) anything before." Thus Allah leads astray the disbelievers.


คำแปล R2.
69. เจ้าไม่สังเกตจำพวกบรรดาที่โต้แย้งในบรรดาโองการของอัลเลาะฮฺดอกหรือ ไฉนพวกเขาจึงถูกผันแปร?
70. พวกเขาเป็นพวกที่ว่าคัมภีร์(อัลกุรอาน)และว่าสิ่งที่เราได้ส่งศาสนทูตต่าง ๆ ของเราให้นำมาประกาศเป็นความเท็จ แล้วต่อไปพวกเขาก็จะรู้เอง(ว่าจะถูกตอบแทนอย่างไร)
71. เมื่อห่วงและโซ่ได้อยู่ในต้นคอของพวกเขา พร้อมกับพวกเขาถูกลากไป
72. ในน้ำอันเดือดพล่าน หลังจากนั้นพวกเขาก็ถูกนำไปเผาในนรก
73. หลังจากนั้นมีผู้พูดกับพวกเขาว่า “สิ่งที่พวกเขาเคยนำมาอุปโลกน์เป็นภาคี
74. นอกเหนือจากอัลเลาะฮฺอยู่ที่ไหนเล่า” พวกเขาตอบว่า “พวกนั้นได้หนีลับหายไปจากพวกเราแล้ว! ความจริง(เหมือนกับ)เรามิได้ทำการนมัสการสิ่งใดมาก่อนหน้าเลย (เพราะเมื่อถึงวันนี้ไม่มีผู้ใดมาช่วย) เช่นนั้น! อัลเลาะฮฺทรงบันดาลความหลงทางแก่บรรดาพวกไร้ศรัทธาทั้งปวง


คำแปล R3.
69. สูเจ้าไม่เห็นหรือว่า คนที่โต้เถียงเกี่ยวกับอายะฮฺของอัลลอฮฺกำลังถูกหันไปอย่างไร
70. บรรดาผู้ปฏิเสธคัมภีร์นี้และบรรดาคัมภีร์ที่เราได้ส่งมากับรอซูลของเรานั้น ไม่ช้าพวกเขาจะได้รู้
71. เมื่อพวกเขาถูกลากพร้อมกับห่วงรอบคอของเขาและโซ่
72. ในน้ำเดือดและหลังจากนั้นก็จะถูกโยนลงไปในนรกซึ่งพวกเขาจะถูกเผาไหม้
73. หลังจากนั้นพวกเขาจะถูกถามว่า “ไหนเล่าสิ่งที่พวกเจ้าทั้งหลายนำมาเป็นภาคี
74. กับอัลลอฮฺ?” พวกเขาตอบว่า “พวกมันได้หายไปจากเราแล้ว เปล่าเลย เราไม่ได้วิงวอนสิ่งใดก่อนหน้านี้” ดังนั้นแหละที่อัลลอฮฺได้ทรงทำให้บรรดาผู้ปฏิเสธหลงผิด

 
คำแปล R4.
69. เจ้าไม่เห็นดอกหรือว่า บรรดาผู้ที่โต้เถียงในอายาตของอัลลอฮฺ (อัลกุรอาน) พวกเขาถูกให้พันเหออกไปอย่างไร
70. บรรดาผู้ปฏิเสธต่อคัมภีร์ และต่อสิ่งที่เราได้ส่งมาพร้อมกับบรรดารอซูลของเราแล้วพวกเขาก็จะได้รู้
71. เมื่อห่วงคล้องคออยู่บนต้นของพวกเขา และโซ่ตรวนถูกลากไป
72. ในน้ำเดือดพล่าน แล้วในไฟนรกพวกเขาจะถูกเผาไหม้
73. แล้วจะมีเสียงกล่าวแก่พวกเขาว่าไหนเล่าสิ่งที่พวกเจ้าตั้งภาคี
74. อื่นจากอัลลอฮฺ พวกเขากล่าวว่ามันได้หลงหายไปจากพวกเราแล้ว แต่ว่าพวกเรามิได้วิงวอนขอต่อสิ่งใดก่อนหน้านี้ดอก! เช่นนั้นแหละอัลลอฮฺทรงให้บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาหลงทาง


คำแปล R5.
๖๙. โอ้มูฮำมัดเจ้าไม่ได้สังเกตบรรดาผู้โต้เถียงในพระโองการแห่งอัลเลาะห์ดอกหรือ ไฉนพวกเขาจึงถูกผันออกไปจากการศรัทธาในคำประกาศของเจ้า
๗๐. บรรดาผู้ว่าคัมภีร์กุรอานและเรื่องราวที่เราได้ส่งบรรดาศาสนทูตของเรามาประกาศว่าเป็นเท็จ เช่น เรื่องเอกภาพของอัลเลาะห์ และการฟื้นขึ้นจากสุสานเป็นต้น บรรดาผู้ที่กล่าวหาเช่นนั้นได้แก่พวกกาฟิรมักกะห์นั่นเอง ดังนั้นพวกเขาจะได้รู้ซึ้งถึงโทษที่พวกเขาจะต้องได้รับฐานที่กล่าวหาว่าอัลกุรอานและเรื่องที่ศาสนทูตประกาศเป็นเรื่องเท็จ
๗๑. เมื่อตรวนได้ปรากฏอยู่ในลำคอของพวกเขาและโซ่ได้ร้อยติดไว้ที่เท้าของพวกเขาพวกเขาลากโซ่นั้น
๗๒. ในนรกอันร้อนแรงแล้วต่อมาพวกเขาก็ถูกส่งตัวลงนรกเพื่อเป็นเชื้อเพลิงต่อไป
๗๓. หลังจากนั้น ได้มีผู้กล่าวกับพวกนั้นว่า ไหนเล่าสิ่งที่พวกเจ้าทั้งหลายอุปโลกน์มันขึ้นเป็ภาคี
๗๔. นอกจากอัลเลาะห์อันได้แก่ เจว็ด และวัตถุบูชาต่าง ๆ ที่พวกนั้นเคยกราบไหว้เมื่อครั้งอยู่ในสากลโลก พวกเขาก็ตอบว่า พวกเขาบรรดาเจว็ดเหล่านั้นได้พลัดหลงไปจากเราแล้ว หากทว่าเรามิได้วอนขอและนมัสการสิ่งหนึ่งก่อนหน้านั้นเลยรวมทั้งเจว็ดเหล่านั้นด้วยเช่นนั้นแหละ อัลเลาะห์ทรงยังความหลงทางแก่บรรดาผู้เนรคุณ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 05, 2011, 06:52 AM โดย Bangmud »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺฆอฟิรฺ อายะฮฺที่  75 - 77


คำอ่าน
75. ซาลิกุม..บิมากุน..ตุม ตัฟเราะหูนะ ฟิลอัรฺฎิ บิฆ็อยริลหักกิ วะบิมากุน..ตุม ตัมเราะหูน
76.   อุดคุลู อับวาบะ ญะฮัน..นะมะ คอลิดีนะฟีฮา ฟะบิอ์สะมัษวัลมุตะกับบิรีน
77.   ฟัศบิรฺ อิน..นะวะอฺดัลลอฮิหักกฺ ฟะอิม..มานุริยัน..นะกะ บะอฺฎ็อลละซี นะอิดุฮุม เอานะตะวัฟฟะยัน..นะกะ ฟะอิลัยนายุรฺญะอูน


คำแปล R1.
75. That was because you had been exulting in the earth without any right (by worshipping others instead of Allah and by committing crimes), and that you used to rejoice extremely (in your error).
76. Enter the gates of Hell to abide therein and (indeed) what an evil abode of the arrogant!
77. So be patient (O Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam), verily, the promise of Allah is true, and whether we show you (O Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam in this world) some part of what We have promised them, or We cause you to die, then it is to us they all shall be returned.


คำแปล R2.
75. “(การตอบแทนอันอัปยศ)เช่นนั้น! ก็เป็นเพราะเหตุพวกเจ้าเคยรื่นรมย์อยู่ในแผ่นดินโดยไม่ชอบธรรม และเป็นเพราะพวกเจ้าหลงระเริง(อยู่กับความสุขทางโลกอันฉาบฉวย)”
76. “พวกเจ้าเข้าสู่ประตูนรกยะฮันนัมโดยเข้าไปอยู่ประจำในนั้นอย่างถาวรเถิด แท้จริงมันเป็นที่พำนักอันชั่วช้ายิ่งสำหรับบรรดาผู้ทระนงตนทั้งปวง”
77. ดังนั้นจงอดทนเถิด! เพราะแท้จริงสัญญา(การลงโทษ)ของอัลเลาะฮฺย่อมเป็นจริงเสมอ! ซึ่งบางที(การลงโทษดังกล่าวนั้น)เราจะทำให้เจ้าได้เห็นเป็นที่ประจักษ์ชัด ใน(โทษ)บางอย่างที่เราสัญญาไว้หรือมิฉะนั้นเราจะทำให้ถึงแก่อสัญกีม(ก่อนได้เห็นการลงโทษนั้น) แล้วพวกเขาก็จะถูกนำตัวกลับคืนมายังเรา


คำแปล R3.
75. (พวกเขาจะถูกบอกว่า) “ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะสูเจ้าหลงระเริงในแผ่นดินอยู่กับสิ่งอื่นที่ไม่ใช่สัจธรรมและก็ยินดีอยู่กับสิ่งนั้น
76. ตอนนี้ จงเข้าประตูนรกเพื่ออยู่ในนั้นตลอดไป ช่างเป็นที่พำนักอันเลวร้ายเสียนี่กระไรสำหรับผู้หยิ่งยโส
77. ดังนั้น จงอดทน (โอ้ นบี) สัญญาของอัลลอฮฺนั้นเป็นจริง ไม่ว่าเราจะให้เจ้าได้เห็นส่วนหนึ่งของผลอันชั่วร้ายที่เราได้สัญญาไว้กับพวกเขาหรือเรียกเจ้ากลับไปจากโลกนี้ก่อน พวกเขาก็จะต้องกลับมายังเรา


คำแปล R4.
75. นั่นก็เพราะว่า พวกเจ้าหลงระเริงในแผ่นดิน โดยไม่เป็นธรรม และเพราะว่าพวกเจ้าอวดดี
76. จงเข้าไปในประตูทั้งหลายของนรก เป็นผู้พำนักอยู่ตลอดกาลในนั้น ฉะนั้นที่พำนักของพวกหยิ่งผยองมันชั่วช้าแท้ ๆ
77. ดังนั้นเจ้าจงอดทน แท้จริงสัญญาของอัลลอฮฺนั้นเป็นจริง  บางทีเราจะให้เจ้าได้เห็นบางสิ่งที่ได้สัญญาแก่พวกเขา หรือเราจะทำให้เจ้าตายเสียก่อน ดังนั้นพวกเขาจะถูกกลับไปยังเรา


คำแปล R5.
๗๕. สาเหตุแห่งการได้รับโทษทัณฑ์นั้น เป็นเพราะพวกเจ้าทั้งหลายมีความพอใจในแผ่นดินโดยมิใช่สัจธรรมแท้ นั่นคือพอใจในการตั้งภาคีแก่อัลเลาะห์ และคัดค้านเรื่องการฟื้นขึ้นจากสุสาน เป็นต้น และเป็นเพราะพวกเจ้ามีความคลั่งไคล้ในความภิรมย์แห่งโลกนี้
๗๖. พวกเจ้าจงเข้าประตูนรกเถิด โดยอยู่ถาวรในนั้น อันที่จริงนรกเป็นที่อยู่อันเลวร้ายของบรรดาผู้ยโสทั้งหลาย
๗๗. ดังนั้น โอ้มุฮำมัด เจ้าจงอดทนเถิดในการประกาศสัจธรรมแห่งอัลเลาะห์ท่ามกลางความก้าวร้าวรุนแรงของพวกเนรคุณแท้จริงสัญญาแห่งอัลเลาะห์ที่จะทรงลงทัณฑ์พวกเนรคุณนั้นย่อมเป็นสัจจะ ความเป็นจริงหากเราจะให้เจ้าเห็นการลงโทษบางอย่างตามที่เราได้สัญญาไว้แก่พวกเขา หรือเราจะให้เจ้าสิ้นชีวิตก่อนที่พวกเหล่านั้นจะได้รับการลงโทษ และเจ้าไม่ได้เห็นการลงโทษนั้น แน่นอน พวกเขาย่อมถูกนำกลับมายังเราแล้วเราจะลงโทษพวกเขาอย่างร้ายแรงที่สุด

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 05, 2011, 06:52 AM โดย Bangmud »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺฆอฟิรฺ อายะฮฺที่ 78


คำอ่าน
78. วะละก็อดอัรฺสัลนารุสุลัม..มิน..ก็อบลิกะมินฮุม..มัน..เกาะศ็อศนาอะลัยกะ วะมินฮุม..มัลลัมนักศุศอะลัยกฺ วะมากานะลิเราะสูลิน อัย..ยะอ์ติยะบิอายะติน อิลลาบิอิซนิลลาฮฺ ฟะอิซาญา...อะ อัมรุลลอฮิ กุฎิยะบิลหักกิ วะเคาะสิเราะ ฮุนาลิกัลป์มุบฏิลูน

คำแปล R1.
78. And, indeed we have sent Messengers before you (O Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam); of some of them we have related to you their story and of some we have not related to you their story, and it was not given to any Messenger that he should bring a sign except by the leave of Allah. So, when the Commandment of Allah, the matter comes will be decided with truth, and the followers of falsehood will then be lost.

คำแปล R2.
78. ขอยืนยัน! แท้จริงเราได้แต่งตั้งบรรดาศาสนทูตมาก่อนหน้าเจ้า (เป็นจำนวนมากแล้ว) บางคนจากพวกนั้นเราได้แถลงให้เจ้าทราบ (ในคัมภีร์กุรอาน) และบางคนจากพวกนั้น เราก็มิได้แถลงให้พวกเจ้าทราบ และศาสนทูตคนใดก็ตาม ไม่มีสิทธิ์ที่จะนำมาซึ่งสัญลักษณ์หนึ่ง ๆ (มาแสดงต่อปวงชน ไม่ว่าจะเป็นอภินิหารหรือโองการของอัลเลาะฮฺก็ตาม) นอกจากโดยอนุมัติของอัลเลาะฮฺเท่านั้น!  ดังนั้น เมื่อคำบัญชาของอัลเลาะฮฺได้มาปรากฏ แน่นอนมันจะถูกสัมฤทธิ์ผลด้วยความชอบธรรมยิ่ง และบรรดาพวกโมฆะทั้งหลายก็ประสบความขาดทุน ณ ที่นั้น

คำแปล R3.
78. (โอ้ นบี) ก่อนหน้าเจ้า เราได้ส่งรอซูลมาหลายคนแล้ว ซึ่งบางคนเราได้เล่าเรื่องราวให้เจ้าและบางคนเราก็ไม่ได้เล่า แต่ไม่มีรอซูลคนใดมีอำนาจที่จะนำสัญญาณใด ๆ มาเอง นอกจากจะได้รับอนุมัติจากอัลลอฮฺ ดังนั้น เมื่อคำบัญชาของอัลลอฮฺได้มาถึง การตัดสินก็จะเป็นไปด้วยความยุติธรรม และในตอนนั้นแหละที่บรรดาผู้ทำผิดจะขาดทุน

คำแปล R4.
78. และโดยแน่นอน เราได้ส่งบรรดารอซูลมาก่อนหน้าเจ้าบางคนในหมู่พวกเขามีผู้ที่เราบอกเล่าแก่ เจ้า และบางคนในหมู่พวกเขามีผู้ที่เรามิได้บอกเล่าแก่เจ้า และไม่บังควรแก่รอซูลที่จะนำสัญญาณใด ๆ มาเว้นแต่ด้วยอนุมัติของอัลลอฮฺมาถึงเรื่องนั้นก็จะถูกตัดสินด้วยความ ยุติธรรม และขณะนั้นบรรดาผู้กล่าวเท็จก็จะขาดทุนอย่างย่อยยับ

คำแปล R5.
๗๘. และแท้จริง เราได้ส่งบรรดาศาสนทูตก่อนหน้าเจ้ามีเป็นจำนวนมากแล้ว เพื่อนำสัจธรรมมาประกาศสู่มวลชนในยุคต่าง ๆ ที่ผ่านพ้นมา บางคนของพวกนั้นมีผู้ที่เราได้ระบุให้เจ้ารู้โดยระบุชื่อแน่ชัด ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น ๒๕ คน และบางคนจากพวกนั้นได้แก่บุคคลที่เรามิได้ระบุให้เจ้ารู้ ซึ่งมีจำนวนมหาศาล บางกระแสรายงานระบุว่ามีจำนวนถึง ๑๒๔,๐๐๐ คนเป็นรอซูลจากจำนวนนั้น ๓๕๑ คน นอกนั้นเป็นนบี และสำหรับศาสนทูตคนใดก็ตาม ย่อมไม่มีสทธิที่จะนำโองการหนึ่ง ๆ มาประกาศสู่มวลชน ยกเว้นโดยอนุญาตของอัลเลาะห์เท่านั้น ดังนั้นเมื่อกิจกรรมแห่งอัลเลาะห์อันได้แก่การลงโทษแก่พวกเนรคุณได้มาถึงกลุ่มชนที่ต้องโทษเพราะความเนรคุณของเขาจะถูกตัดสินด้วยความสัจจะอย่างแน่นอนระหว่างตัวศาสนทูตกับบรรดาผู้ที่กล่าวหาว่าศาสนทูตว่าพูดเท็จนั้นและบรรดาโมฆะชนทั้งหลายย่อมประสบความขาดทุน ณ ที่นั้น

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺฆอฟิรฺ อายะฮฺที่ 79 - 81


คำอ่าน
79. อัลลอฮุลละซี ญะอะละ ละกุมุลอันอามะ ลิตัรฺกะบูมินฮา วะมินฮาตะอ์กุลูน
80. วะละกุมฟีฮามะนาฟิอุ วะลิตับลุฆูอะลัยฮา หาญะตัน..ฟีศุดูริกุม วะอะลัยฮา วะอะลัลฟุลกิ ตุหฺมะลูน
81. วะยุรีกุม อายาติฮี ฟะอัยยะอายาติลลาฮิ ตุน..กิรูน


คำแปล R1.
79. Allah, it is He who has made cattle for you, that you may ride on some of them and of some you eat.
80. And you have (many other) benefits from them, and that you may reach by their means a desire that is in your breasts (i.e. carry your goods, loads, etc.), and on them and on ships you are carried.
81. And He shows you his signs and proofs (of his Oneness in all the above mentioned things). Which, then of the signs and proofs of Allah do you deny?


คำแปล R2.
79. อัลเลาะฮฺทรงบันดาลปศุสัตว์แก่พวกเจ้าทั้งมวล เพื่อพวกเจ้าจะได้นำมันบางชนิดมาขับขี่ และบางชนิดพวกเจ้านำมาบริโภค
80. และพวกเจ้าได้รับคุณานุประโยชน์ในปศุสัตว์ดังกล่าว และพวกเจ้าจะได้บรรลุสู่ความประสงค์ในหัวใจของพวกเจ้า (ด้วยการบรรทุก)บน(หลัง)ของมัน และพวกเจ้าถูกบรรทุก(โดยสารในการเดินทาง)บนหลังของปศุสัตว์เหล่านั้นและบนเรือ
81. และพระองค์ทรงทำให้พวกเจ้ามองเห็นบรรดาสัญลักษณ์ของพระองค์แล้ว พวกเจ้าจะคัดค้านสัญลักษณ์ใด ๆ ได้บ้างเล่า


คำแปล R3.
79. อัลลอฮฺ คือผู้ทรงจัดเตรียมปศุสัตว์ให้แก่สูเจ้า เพื่อสูเจ้าจะได้ใช้ขี่บางตัวและกินบางตัว
80. และในตัวปศุสัตว์นั้นมีประโยชน์มากมายหลายอย่างสำหรับสูเจ้า เพื่อสูเจ้าจะได้ขี่มันไปยังสถานที่ที่หัวใจของสูเจ้าต้องการจะไปให้ถึง และบนหลังมันที่สูเจ้าถูกบรรทุกเช่นเดียวกับเรือ
81. อัลลอฮฺได้ทรงให้เจ้าเห็นสัญญาณทั้งหลายของพระองค์แล้ว สัญญาณไหนของอัลลอฮฺที่สูเจ้ายังปฏิเสธ?


คำแปล R4.
79. อัลลอฮฺคือผู้ทรงทำปศุสัตว์บางชนิดให้พวกเจ้าเพื่อใช้เป็นพาหนะ และบางชนิด เพื่อให้พวกเจ้าใช้กิน
80. และสำหรับพวกเจ้าในตัวมันนั้นมีประโยชน์มากหลาย และเพื่อพวกเจ้าจะได้บรรลุสู่สมความปรารถนาที่มีอยู่ในทรวงอกของพวกเจ้า และพวกเจ้าบรรทุกบนหลังมันเช่นเดียวกับใช้บรรทุกบนเรือ
81. และพระองค์ได้ทรงให้พวกเจ้าเห็นสัญญาณต่าง ๆ ของพระองค์ดังนั้น ด้วยสัญญาณต่าง ๆ ของอัลลอฮฺอันใดเล่าที่พวกเจ้าปฏิเสธ


คำแปล R5.
๗๙. อัลเลาะห์ผู้ทรงบันดาลปศุสัตว์ต่าง ๆ ไว้เพื่ออำนวยคุณานุประโยชน์ในด้านต่าง ๆ สำหรับพวกเจ้าทั้งมวล ประโยชน์ที่ว่านี้คือ เพื่อพวกเจ้าได้ขับขี่บนมัน และสัตว์บางชนิดพวกเจ้าก็ได้บริโภคเนื้อของมัน
๘๐. และสำหรับพวกเจ้าทั้งหลายยังมีประโยชน์ในมัน ด้านอื่น ๆ นอกจากที่กล่าวมาแล้วอีกมากมาย และเพื่อพวกเจ้าจะได้บรรลุความประสงค์ในจิตใจของพวกเจ้าโดยการบรรทุกสิ่งต่าง ๆ บนมัน แล้วให้มันนำสิ่งนั้นไปถึงจุดหมายปลายทาง ซึ่งมีน้ำหนักเกินกว่ากำลังที่พวกเจ้าจะแบกหามไปได้โดยลำพังและพวกเจ้าทั้งหลายยังถูกบันทุกบนปศุสัตว์นั้นและบนเรือ เพื่อเดินทางปยังสถานที่ต่าง ๆ ตามที่ต้องการ
๘๑. และพระองค์ทรงดลพวกเจ้าให้เห็นบรรดาสัญลักษณ์อันสำแดงถึงอานุภาพและเอกานุภาพของพระองค์ แล้วสัญลักษณ์ใดบ้างเล่าที่พวกเจ้าพึงคัดค้าน ว่าไม่เป็นหลักฐานยืนยันถึงอานุภาพของพระองค์ แน่นอนไม่มีสักสิ่งหนึ่งที่จะคัดค้านได้



สูเราะฮฺฆอฟิรฺ อายะฮฺที่ 82 - 85


คำอ่าน
82. อะฟะลัมยะสีรูฟิลอัรฺฎิ ฟะยัน..ซุรูกัยฟะ กานะอากิบะตุลละซีนะ มิน..ก็อบลิฮิม กานู..อักษะเราะมินฮุม วะอะชัดดะกูวะเตา..วะอาษาร็อน..ฟิลอัรฺฎิ ฟะมา..อัฆนาอันฮุม..มากานูยักสิบูน
83. ฟะลัม..มาญา..อัตฮุม รุสุลุฮุม..บิลบัยยินาติ ฟะริหูบิมาอิน..ดะฮุม..มินัลอิลมิ วะหาเกาะบิฮิม..มากานูบิฮี ยัสตะฮฺซิอูน
84. ฟะลัม..มาเราะเอาบะอ์สะนา กอลู..อามัน..นาบิลลาฮิ วะหฺดะฮู วะกะฟัรฺนา บิมากุน..นาบิฮี มุชริกีน
84. ฟะลัมยะกุ ยัน..ฟะอุฮุม อีมานุฮุม ลัม..มาเราะเอาบะอ์สะนา สุน..นะตัลลอฮิลละตี ก็อดเคาะลัตมินอิบาดิฮี วะเคาะสิเราะฮุนาลิกัลกาฟิรูน


คำแปล R1.
82. Have they not traveled through the earth and seen what was the end of those before them? They were more numerous than them and mightier in strength, and in the traces (They have left behind them) in the land, yet all that they used to earn availed them not.
83. Then when their Messengers came to them with clear proofs, they were glad (and proud) with that which they had of the knowledge (of worldly things): and that at which they used to mock, surrounded them (i.e. the punishment).
84. So when they saw Our Punishment, they said: "We believe in Allah alone and reject (all) that we used to associate with him as (His) partners.
85. Then their faith (in Islamic Monotheism) could not avail them when they saw Our Punishment. (Like) this has been the Way of Allah in dealing with his slaves. And there the disbelievers lost utterly (when Our torment covered them).


คำแปล R2.
82. พวกเขามิได้จารึกไปในแผ่นดินเพื่อพิจารณษถึงจุดจบของประชาชาติในยุคก่อนหน้าพวกเขาว่าเป็นอย่างไรบ้างหรือ? ทั้ง ๆ ที่พวกเหล่านั้นมีพลังและมีร่องรอย(แห่งความสามารถ)ในแผ่นดินมากกว่าและเข้มแข็งกว่าพวกเขาเสียอีก แท้จริงแล้ว สิ่งที่พวกเขาเคยพากเพียรไว้นั้น ไม่อาจป้องกันพวกเขาไว้ได้เลย
83. ครั้นเมื่อบรรดาศาสนทูตของพวกเขาได้มา (ประกาศศาสนา) ยังพวกเขา พร้อมกับนำสัญลักษณ์อันแจ้งชัดมาด้วย แต่พวกเขาก็คงพอใจอยู่กับความรู้เดิมที่พวกเขามีอยู่(ไม่เปลี่ยนแปลง) และสิ่งที่พวกเขาได้เคยนำมาเย้ยหยันก็อุบัติแก่พวกเขาจริง(สิ่งนั้นคือสัญญาการลงโทษของพวกเขา)
84. ครั้นเมื่อพวกเขาได้มองเห็นการลงโทษ(ตามสัญญา)ของเรา พวกเขาก็พากันกล่าวว่า “พวกเราขอศรัทธาในอัลเลาะฮฺเพียงพระองค์เดียว! และพวกเราขอปฏิเสธสิ่งที่พวกเราได้เคยนำมาตั้งเป็นภาคี”
85. แต่ศรัทธาของพวกเขา ไม่อำนวยคุณแก่พวกเขาเลย เมื่อพวกเขาได้มองเห็นการลงโทษของเรา นั่นเป็นแบบฉบับแห่งอัลเลาะฮฺที่ได้ล่วงพ้นมาแล้วในมวลข้าทาสของพระองค์(ยุคก่อน ๆ ) และ ณ ที่นั้น พวกไร้ศรัทธาเหล่านั้นย่อมขาดทุนอย่างแน่นอน


คำแปล R3.
82. พวกเขาไม่เคยท่องเที่ยวไปในแผ่นดินแล้วดูว่าชะตากรรตมของบรรดาผู้คนก่อนหน้าพวกเขาเป็นอย่างไรกระนั้นหรือ? พวกเขาเหล่านั้นมีจำนวนมากกว่าและมีความเข้มแข็งมากกว่าพวกเขา และได้ทิ้งร่องรอยแห่งอำนาจอันยิ่งใหญ่ของพวกเขาไว้มากมายในแผ่นดิน แต่สิ่งที่พวกเขาได้สร้างไว้นั้นก็ไม่อำนวยประโยชน์อะไรแก่พวกเขาเลย
83. เมื่อรอซูลทั้งหลายของพวกเขาได้มายังพวกเขาพร้อมกับสัญญาณอันชัดแจ้ง พวกเขาก็ยังคงหลงติดอยู่กับความรู้ที่พวกเขามีอยู่ ดังนั้น พวกเขาก็ตกอยู่ท่ามกลางสิ่งที่พวกเขาเคยหัวเราะเยาะ
84. เมื่อพวกเขาได้เห็นการลงโทษของเรา พวกเขาก็ร้องว่า “ตอนนี้เราศรัทธาในอัลลอฮิองค์เดียวและเราปฏิเสธพระเจ้าทั้งหลายที่เราเคยนำมาเป็นภาคีกับพระองค์”
85. แต่หลังจากที่ได้เห็นการลงโทษของเราแล้ว การศรัทธาของพวกเขาก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับพวกเขาอีกต่อไป เพราะนี่เป็นกฎตายตัวของอัลลอฮฺ ที่ทรงใช้กับปวงบ่าวของพระองค์มาตั้งแต่ในอดีตแล้ว ดังนั้น บรรดาผู้ปฏิเสธจึงมีแต่ขาดทุน


คำแปล R4.
82. พวกเข้ามิได้ท่องเที่ยวไปตามแผ่นดินดอกหรือ? แล้วพิจารณาดูว่า บั้นปลายของประชาชาติในยุคก่อนหน้าพวกเขาเป็นเช่นใด เขาเหล่านั้นมีจำนวนมากกว่าพวกเขา และมีพลังเข้มแข็งว่า และได้ทิ้งร่องรอยไว้มากมายในแผ่นดิน ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาได้กระทำไว้นั้นหาได้อำนวยประโยชน์แก่พวกเขาไม่
83. ดังนั้นเมื่อบรรดารอซูลของพวกเขาได้มายังพวกเขาพร้อมด้วยหลักฐานต่าง ๆ อันชัดแจ้งพวกเขาก็ดีใจกับความรู้ (ทางด้านวัตถุ) ที่มีอยู่กับพวกเขา และสิ่งที่พวกเขาเคยเยาะเย้ยไว้นั้นก็ห้อมล้อมพวกเขา
84. ครั้นเมื่อพวกเขาได้เห็นการลงโทษอย่างหนักของเรา พวกเขาก็กล่าวว่า เราศรัทธาต่อัลลอฮฺองค์เดียว และเราปฏิเสธศรัทธาต่อสิ่งที่เราเคยตั้งภาคีต่อพระองค์
85. แต่การศรัทธาของพวกเขาจะไม่อำนวยประโยชน์แก่พวกเขาเลยในเมื่อพวกเขาได้เห็น การลงโทษอย่างหนักของเรา นี่คือแนวทางของอัลลอฮฺที่ได้มีมาแต่ในอดีตในปวงบ่าวของพระองค์ และขณะนั้นบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาก็ได้ขาดทุนอย่างย่อยยับ


คำแปล R5.
๘๒. ไฉนพวกเขาจึงไม่จาริกไปในแผ่นดิน เพื่อพวกเขาจะได้พินิจพิเคราะห์ว่าจุดจบของบรรดามวลชนก่อนหน้าพวกเขานั้นเป็นอย่างไรบ้าง ทั้ง ๆ ที่พวกเหล่านั้นมีจำนวนมากกว่าพวกเขาชาวมักกะห์ตั้งหลายเท่ามีพลังมหาศาลกว่าและมีร่องรอยแห่งการก่อสร้างในแผ่นดินที่แข็งแรงกว่า เช่น ทำนบกั้นน้ำและค่ายป้องกันศัตรู เป็นต้น แต่แล้วสิ่งที่พวกเหล่านั้นได้เคยพากเพียรไว้ ก็ไม่อาจป้องกันพวกเขาให้พ้นจากการลงโทษของอัลเลาะห์ได้
๘๓. แท้จริงมื่อบรรดาศาสนทูตของพวกเขาได้มายังพวกเขาพร้อมด้วยบรรดาหลักฐานและสัญลักษณ์อันชัดแจ้ง พวกเขาก็แสร้งแสดงความพอใจในความรู้ที่บรรดาศาสนทูตมี และที่นำมาประกาศเผยแพร่สู่พวกเขา เป็นการแสดงเพื่อล้อเลียนและเย้ยหยัน และได้ประสบแก่พวกเขาการลงโทษเนื่องจากสิ่งที่พวกเขาได้เคยเย้ยหยันต่อศาสนทูต
๘๔. ดังนั้น เมื่อพวกเขาเหล่านั้นได้มองเห็นการลงโทษของเราพวกเขาก็กล่าวว่า พวกเรามีศรัทธาในอัลเลาะห์เพียงพระองค์เดียวและเราขอเนรคุณต่อบรรดาเจว็ดที่เราเคยตั้งภาคต่อพระองค์
๘๕. แต่แล้วศรัทธาของพวกเขาที่แสดงออกในยามนี้จะไม่อำนวยประโยชน์แก่พวกเขา เมื่อพวกเขาได้เห็นการลงโทษของเราเราไม่รับรองการศรัทธาดังกล่าวอย่างแน่นอน เป็นแบบแผนแห่งอัลเลาะห์ที่ได้ล่วงพ้นมาในมวลข้าทาสของพระองค์ที่กำหนดไว้ว่า การศรัทธาในยามที่อุบัติการณ์ลงโทษจะไม่มีการรับรองและ ณ ที่นั้น บรรดาผู้เนรคุณ ย่อมประสบความขาดทุน


--------------------------------------------------------------

ดำรัสของอัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งใหญ่เป็นจริงเสมอ (صدق الله العظيم)
จบตอนที่ 40 สูเราะฮฺฆอฟิรฺ หรือ สูเราะฮฺมุอ์มิน

والسلام عليكم ورحمة الله وبركاته

 

GoogleTagged