ผู้เขียน หัวข้อ: นบีมะอฺซูมแต่มีผิดพลาด ตามทัศนะของวะฮาบีที่พวกเขาภาคภูมิใจในตอนนี้  (อ่าน 15037 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
ส่วนกับชีอะฮฺนี้แหละครับที่เราควรที่จะร่วมกันต่อต้าน ....วัลลอฮุอะลัม

วะฮาบีเชื่อว่าแนวทางอื่นจากตนผิดหมด เป็นพวกบิดอะฮ์บ้าง เป็นพวกกาเฟรบ้าง...แล้วจะไปร่วมมือกับใครได้เล่าคร้าบ...

แต่ทำไมผู้ที่อะกีดะหลงผิดอย่างชัดเจน(ชีอะฮฺ)ไม่เห็น มีใครว่าหรือตำหนิสักคน(ในกระทู้) แต่กลับมาตำหนิกลุ่มวะฮะบี อย่างเอาเป็นเอาตาย อย่างน้อยเค้า(คุณ อามีน ลอนา) ก็พยายามที่จะปกป้องอิสลามให้พ้นจากลัทธิที่ด่าทอศอฮาบะห์ อย่างชีอะห์ แล้วเราละ?
วัลลอฮุอะลัม

หัวข้อกระทู้นี้ชีอะฮ์ไม่ได้จาบจ้วงท่านนบี...

ส่วนการอ้างว่าปกป้องอิสลามแต่มีการจาบจ้วงท่านนบี...แบบนี้ไม่ใช่อยู่ในรูปแบบการปกป้องอิสลาม...และคนปกป้องอิสลามต้องพูดจาดีกว่านี้...ต้องขัดเกลาจิตใจให้มากกว่านี้..

แล้วนายอามีน ลอนา ก็บอกไปแล้วว่า  "เขามีทัศนะอย่างนี้  ใครจะว่าอย่างไรเขาไม่สนใจ"...จริงๆ แล้วนายอามีน ลอนา ก็เป็นสมาชิกในเว็บนี้..เขาน่าจะเข้าชี้แจง...

คุณ ghurabaa คร้าบ...กระทู้นี้พวกเรากำลังปกป้องท่านนบี  คุณอย่ามาปกป้องวะฮาบีซิครับ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ค. 21, 2011, 07:38 PM โดย As-Zaleek »
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

ออฟไลน์ Muftee

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1899
  • เพศ: ชาย
  • ตั้งใจเข้าไว้นะ มุฟตีย์น้อย
  • Respect: +190
    • ดูรายละเอียด

ในคลิปนี้ วะฮาบีย์ได้อ้างเหตุการณ์หนึ่งที่ว่า.. "ท่านนบี (ซ.ล.) ก็มีความผิดพลาดอันเนื่องมาจากความหลงลืม ดังเช่น ในขณะที่ทำการละหมาด (วุกตูหนึ่ง) ไม่ครบตามจำนวนเราะกาอัต จนทำให้เศาะหาบะฮฺสงสัยและขอความเห็นจากท่าน"

ตรงนี้เราจะให้ความรู้กับพี่น้องได้อย่างไรครับ ??
// อะฮฺลิสสุนนะฮฺ อัล-อะชาอิเราะฮฺ...สักวันนึง เราต้องเป็นอุละมาอฺที่ยิ่งใหญ่ อินชาอัลลอฮฺ //

ออฟไลน์ Sunni Partisan

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 20
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด

ในคลิปนี้ วะฮาบีย์ได้อ้างเหตุการณ์หนึ่งที่ว่า.. "ท่านนบี (ซ.ล.) ก็มีความผิดพลาดอันเนื่องมาจากความหลงลืม ดังเช่น ในขณะที่ทำการละหมาด (วุกตูหนึ่ง) ไม่ครบตามจำนวนเราะกาอัต จนทำให้เศาะหาบะฮฺสงสัยและขอความเห็นจากท่าน"

ตรงนี้เราจะให้ความรู้กับพี่น้องได้อย่างไรครับ ??

อะไรคือความหมายของคำว่าผิดพลาดในที่นี้ครับ

1.หากหมายถึงผิดพลาดในรื่องทั่วๆไป โดยเกิดจากโครงสร้างทางกายภาค เช่น การกิน การดื่ม การพักผ่อน การจำ การลืม สิ่งเหล่านี้ถือว่าอนุญาตสำหรับท่านนบี(ซ.ล.) เพราะท่านนั้นเหมือนมนุษย์ทั่วไปในเรื่องเหล่านี้

ดั้งนั้น การลืมจำนวนร่อกะอัตละหมาดของท่าน ดังที่ปรากฎในฮะดีษที่ซู้ลยะดัยน์ถามท่านว่า"การละหมาดนั้นถูกย่อหรือท่านลืม โอ้ ร่อซูลุ้ลลอฮ์" ถือว่าไม่มีปัญหาครับ เพราะท่านนบี(ซ.ล.)ก็ลืมได้เช่นกัน ในฐานะที่ท่านนั้นเหมือนกับมนุษย์ทั่วๆไป ในเรื่องโครงสร้างทางธรรมชาติ

แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับ ฮูก่ม หลักการ หรือวะฮย์แล้ว ท่านนบี(ซ.ล.)จะได้รับการปกป้องไม่ให้ลืม จนกว่าจะได้เผยแพร่สิ่งเหล่านี้ให้เรียบร้อยก่อน แต่หลังจากเผยแพร่แล้ว ท่านนบี(ซ.ล.)ก็มีสิทธิ์ลืมได้.

2.หากหมายถึงการผิดพลาดในเรื่องทำบาป อันนี้ ท่านนบี(ซ.ล.)ได้รับการปกป้องบาปจากอัลลอฮ์ ตะอาลา หรือที่เรียกว่า มะอฺซูม มาตั้งแต่เกิด ซึ่งต่างกับนบีท่านอื่นๆที่เป็นมะอฺซูม หลังจากได้รับวะฮีย์แล้ว

ตัวอย่างที่ท่านเป็นมะอฺซูมก่อนเป็นนบี

1.ฮะดีษที่ท่านได้เล่าถึงว่า ท่านนั้นได้เข้าไปในเมืองในเย็นวันหนึ่ง แล้วท่านก็ไปเจอบ้านงานแต่งที่มีการเปิดเพลง แล้วท่านก็ได้หยุดอยู่ที่นั้น ทันใดนั้นท่านก็สลบไปจนกระทั่งแสงอาทิตย์ได้สาดส่องไปที่ใบหน้าของท่าน พออีกวันหนึ่งท่านก็ทำเช่นนี้อีก แล้วทุกอย่างก็เป็นเหมือนเดิมที่เกิดขึ้นกับท่านเมื่อวาน จนกระทั่งท่านนบี(ซ.ล.) ตั้งใจจะไม่ไปอีก

2.ครั้งที่ท่านกำลังบูรณะซ่อมแซมกะอฺบะห์ โดยท่านนั้นได้ยกผ้าขึ้นไปไว้ที่บ่า จนกระทั่งเอาเราะห์ท่านเปิด ทันใดนั้นท่านนบี(ซ.ล.)ก็ได้ตกลงมาสลบไป หลังจากนั้นท่านก็ไม่เคยเปิดเอาเราะห์อีกเลย



ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
ท่านนบีทำเพื่อตัชรีอฺอุมมะฮฺ ครับ

ยกตัวบทหะดีษมาสิครับ แล้วท่านจะเห็น
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com

ในคลิปนี้ วะฮาบีย์ได้อ้างเหตุการณ์หนึ่งที่ว่า.. "ท่านนบี (ซ.ล.) ก็มีความผิดพลาดอันเนื่องมาจากความหลงลืม ดังเช่น ในขณะที่ทำการละหมาด (วุกตูหนึ่ง) ไม่ครบตามจำนวนเราะกาอัต จนทำให้เศาะหาบะฮฺสงสัยและขอความเห็นจากท่าน"

ตรงนี้เราจะให้ความรู้กับพี่น้องได้อย่างไรครับ ??

อะไรคือความหมายของคำว่าผิดพลาดในที่นี้ครับ

1.หากหมายถึงผิดพลาดในรื่องทั่วๆไป โดยเกิดจากโครงสร้างทางกายภาค เช่น การกิน การดื่ม การพักผ่อน การจำ การลืม สิ่งเหล่านี้ถือว่าอนุญาตสำหรับท่านนบี(ซ.ล.) เพราะท่านนั้นเหมือนมนุษย์ทั่วไปในเรื่องเหล่านี้

ดั้งนั้น การลืมจำนวนร่อกะอัตละหมาดของท่าน ดังที่ปรากฎในฮะดีษที่ซู้ลยะดัยน์ถามท่านว่า"การละหมาดนั้นถูกย่อหรือท่านลืม โอ้ ร่อซูลุ้ลลอฮ์" ถือว่าไม่มีปัญหาครับ เพราะท่านนบี(ซ.ล.)ก็ลืมได้เช่นกัน ในฐานะที่ท่านนั้นเหมือนกับมนุษย์ทั่วๆไป ในเรื่องโครงสร้างทางธรรมชาติ

แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับ ฮูก่ม หลักการ หรือวะฮย์แล้ว ท่านนบี(ซ.ล.)จะได้รับการปกป้องไม่ให้ลืม จนกว่าจะได้เผยแพร่สิ่งเหล่านี้ให้เรียบร้อยก่อน แต่หลังจากเผยแพร่แล้ว ท่านนบี(ซ.ล.)ก็มีสิทธิ์ลืมได้.

เหตุการณ์เรื่องละหมาดอัสริสองร็อกอะฮ์  ไม่ควรมาแสดงความเสียมารยาทต่อท่านนะบีย์ด้วยการกล่าวหาว่าท่านผิดพลาด! เพื่อแสดงความชอบธรรมในการตอบโต้แนวทางอื่น

เรื่องราวดังกล่าวมีอยู่ว่า  ท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ละหมาดอัสริ  แล้วท่านให้สะลามในร็อกอะฮ์ที่สอง

แล้วซุลยะดัยน์กล่าวว่า

أَنَسِيتَ أَمْ قَصُرَتْ فَقَالَ لَمْ أَنْسَ وَلَمْ تُقْصَرْ قَالَ بَلَى قَدْ نَسِيتَ فَصَلَّى رَكْعَتَيْنِ ثُمَّ سَلَّمَ ثُمَّ كَبَّرَ فَسَجَدَ مِثْلَ سُجُودِهِ

“ท่านลืมหรือว่าละหมาดมีการย่อ  ท่านนะบีย์กล่าวว่า  “ฉันไม่เคยลืม” และ “ละหมาดไม่ได้ถูกย่อ”  ซุลยะดัยน์กล่าวว่า  มิใช่เช่นนั้น  แต่ท่านนั้นลืม  ดังนั้นท่านนะบีย์จึงละหมาดอีกสองร็อกอะฮ์  แล้วให้สลาม  หลังจากนั้นท่านก็(สุยูดซะฮ์วีด้วยการ)ตักบีรและสุยูดเหมือนกับสุยูดของท่าน(คือสะยูดสองครั้ง)” รายงานโดยอัลบุคอรีย์

เมื่อซุลยะดัยน์ถามเช่นนั้น  ท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  จึงตอบจากความเชื่อมั่นให้จิตใจของท่านว่า  “ฉันไม่เคยลืม” และ “ละหมาดไม่ได้ถูกย่อ”  ซึ่งเป็นคำพูดที่ไม่โกหกแต่เป็นคำพูดที่สัจจริงจากท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  แต่ทว่าท่าน “ถูกทำให้ลืม” โดยอัลเลาะฮ์ตะอาลาและพระองค์ก็ทรงบอกให้ทราบ  เพื่อเป็นการตัชรีอฺ [ تَشْرِيْعٌ ] วางบทบัญญัติแก่อุมมะฮ์เกี่ยวกับผู้ที่ลืมในละหมาด 

ซึ่งเหมือนกับกรณีของฮะดีษอีกบทหนึ่งที่รายงานโดยท่านอิบนุมัสอูด ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ความว่า

عَنْ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ أَنَّهُ قَالَ بِئْسَمَا لِأَحَدِكُمْ أَنْ يَقُولَ نَسِيتُ آيَةَ كَيْتَ وَكَيْتَ بَلْ هُوَ نُسِّيَ

“จากท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  แท้จริงท่านได้กล่าวว่า  ช่างเลวเหลือเกินสำหรับบุคคลหนึ่งจากพวกท่าน  ที่กล่าวว่า  ฉันลืม อายะฮ์นั้น อายะฮ์นี้  แต่ทว่า  เขาถูกทำให้ลืม” รายงานโดยอะห์มัด, อันนะซาอีย์, และอัฏเฏาะบะรอนีย์

เพราะการลืมอัลกุรอานเป็นสิ่งที่ทำให้บกพร่อง  แต่ถ้าหากกล่าวว่า ถูกทำให้ลืม  อันนี้ไม่เป็นไร  กรณีการละหมาดของท่านนะบีย์ก็เช่นเดียว  ท่านถูกทำให้ลืมเพื่อจะวางบทบัญญัติเกี่ยวกับเรื่องละหมาดของผู้ที่ลืมเท่านั้นเอง

และหลักการดังกล่าวนี้   ก็มิได้ค้านกับฮะดีษที่ระบุว่า

إِنَّمَا أَنَا بَشَرٌ أَنْسَى كَمَا تَنْسَوْنَ

“แท้จริงฉันเป็นมนุษย์  ฉันลืมเหมือนกับที่พวกท่านลืม” รายงานโดยอัลบุคอรีย์และมุสลิม

เพราะฮะดีษบทนี้ได้ยืนยันว่า  คุณลักษณะการลืมนั้นแค่อนุญาตมีอยู่ที่ท่านนะบีย์ได้เท่านั้นเองเพราะท่านมีคุณลักษณะความเป็นมนุษย์อยู่ด้วย  แต่ในเรื่องละหมาดอัสริดังกล่าวนั้น  ท่านนะบีย์ได้ปฏิเสธการลืมในละหมาดแต่ท่านถูกทำให้ลืมเพื่อวางบทบัญญัติในละหมาดนั่นเอง  ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องมะอฺซูมหรือไม่มะอฺซูมและไม่เกี่ยวกับเรื่องความผิดพลาดของท่านนะบีย์ที่บางกลุ่มกำลังเสียมารยาทกับท่านแต่อย่างใด

วัลลอฮุอะลัม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ค. 22, 2011, 10:25 AM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ ActionMask

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 250
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
อัลลอฮฺให้เรามีทัศนคติกับท่านนบีแบบไหน ศาสนาให้เรามีทัศนคติกับท่านนบีแบบไหน ผมก็จะทำตามนั้นครับอินชาอัลลอฮฺ

แต่ไม่รู้ว่า ถูกต้องหรือไหม แต่ผมค่อนข้างชอบ คำตอบของคุณ Sunni Partisan นะครับ ทำให้เห็นภาพว่าท่านได้รับการปกป้องอย่างไร แต่ท่านก็เป็นมนุษย์เช่นกัน ทำให้เรามีกำลังใจว่า ความดีต่างๆ แบบอย่างที่ท่านนำมา เราสามารถพยายามจะปฏิบัติตามได้ ถ้าเราพยายามจริงจังเราก็ทำตามบุคคลที่เรารักได้ ยกเว้น บางอย่างที่ตามสถานภาพของท่าน เช่นการปราศจากบาป การได้รับการปกป้องจากบาปต่างๆ

ผมคิดแบบนี้นะครับ ผิดถูก ชี้แนะด้วย

เพราะผมไม่อยากมีศรัทธาที่ ผิดแนวหรือไม่ตรงแนว

ออฟไลน์ ActionMask

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 250
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
แสดงว่าการหลงลืม บางเรื่องเช่น ในละหมาด เป็นการ "ถูกทำให้ลืม" ถ้าแบบนั้น ก็ต้องว่าไปตามนั้นครับ ศาสนาว่าอย่างไรก็ไปตามนั้นเลย

ออฟไลน์ As-Zaleek

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 804
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +33
    • ดูรายละเอียด
อัลลอฮฺให้เรามีทัศนคติกับท่านนบีแบบไหน ศาสนาให้เรามีทัศนคติกับท่านนบีแบบไหน ผมก็จะทำตามนั้นครับอินชาอัลลอฮฺ

แต่ไม่รู้ว่า ถูกต้องหรือไหม แต่ผมค่อนข้างชอบ คำตอบของคุณ Sunni Partisan นะครับ ทำให้เห็นภาพว่าท่านได้รับการปกป้องอย่างไร แต่ท่านก็เป็นมนุษย์เช่นกัน ทำให้เรามีกำลังใจว่า ความดีต่างๆ แบบอย่างที่ท่านนำมา เราสามารถพยายามจะปฏิบัติตามได้ ถ้าเราพยายามจริงจังเราก็ทำตามบุคคลที่เรารักได้ ยกเว้น บางอย่างที่ตามสถานภาพของท่าน เช่นการปราศจากบาป การได้รับการปกป้องจากบาปต่างๆ

ผมคิดแบบนี้นะครับ ผิดถูก ชี้แนะด้วย

เพราะผมไม่อยากมีศรัทธาที่ ผิดแนวหรือไม่ตรงแนว

สำหรับทัศนะความเห็นของผมนั้น  คิดต่างครับ....คือการพยายามที่จะอ้างหลักฐานต่างๆ นาๆ มายืนยันว่านบี(ซ.ล.)เป็นมนุษย์ธรรมดาเหมือนกับเรานั้น  มีการลืม  มีความผิดพลาด  เป็นต้นนั้น  เป็นช่องทางให้กับต่างศาสนิกทำการวิพากษ์วิจารณ์ท่านนบี(ซ.ล.) เช่น ไปบอกว่านบีมุฮัมมัด ของอิสลาม ยังมีผิดมีพลาด  แล้วศาสนาอิสลามจะไม่มีหลักการที่ผิดพลาดเลยหรือ?  เป็นต้น ...

การที่เรารักท่านนบีนั้น เพราะท่านเป็นมนุษย์แต่ไม่ธรรมดาเหมือนกับเรา  ท่านมีความประเสริฐเหนือมัคโลคทั้งหลาย  เรายังมีความละอายที่ไปเที่ยวประกาศว่าท่านนบีมีผิดมีพลาด  ดังนั้นสิ่งที่จะชักนำให้กระผมเจริญรอยตามท่านนบีอย่างหมดใจนั้น  เพราะเชื่อว่า  แม้นบีจะอนุญาตให้มีการลืมได้  แต่แบบอย่างที่ท่านนบีได้กระทำไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดุนยาและศาสนาย่อมมีความสมบูรณ์พร้อม  ปราศจากความบกพร่องใดๆ....เนื่องจากท่านนบีคือ อินซานกามิล (มนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ)...
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
แท้จริงท่านนบียื ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม ไม่ผิดพลาด แต่อัลลอฮฺได้แนะใน "สิ่งที่ดีกว่า" กว่าสิ่งที่ท่านเลือก หรือทำอยู่ ... วัลลอฮุอะอ์ลัม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ ActionMask

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 250
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
แล้วงี้ผมจะตกศาสนาไหมครับ

ออฟไลน์ Sunni Partisan

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 20
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด

ในคลิปนี้ วะฮาบีย์ได้อ้างเหตุการณ์หนึ่งที่ว่า.. "ท่านนบี (ซ.ล.) ก็มีความผิดพลาดอันเนื่องมาจากความหลงลืม ดังเช่น ในขณะที่ทำการละหมาด (วุกตูหนึ่ง) ไม่ครบตามจำนวนเราะกาอัต จนทำให้เศาะหาบะฮฺสงสัยและขอความเห็นจากท่าน"

ตรงนี้เราจะให้ความรู้กับพี่น้องได้อย่างไรครับ ??

อะไรคือความหมายของคำว่าผิดพลาดในที่นี้ครับ

1.หากหมายถึงผิดพลาดในรื่องทั่วๆไป โดยเกิดจากโครงสร้างทางกายภาค เช่น การกิน การดื่ม การพักผ่อน การจำ การลืม สิ่งเหล่านี้ถือว่าอนุญาตสำหรับท่านนบี(ซ.ล.) เพราะท่านนั้นเหมือนมนุษย์ทั่วไปในเรื่องเหล่านี้

ดั้งนั้น การลืมจำนวนร่อกะอัตละหมาดของท่าน ดังที่ปรากฎในฮะดีษที่ซู้ลยะดัยน์ถามท่านว่า"การละหมาดนั้นถูกย่อหรือท่านลืม โอ้ ร่อซูลุ้ลลอฮ์" ถือว่าไม่มีปัญหาครับ เพราะท่านนบี(ซ.ล.)ก็ลืมได้เช่นกัน ในฐานะที่ท่านนั้นเหมือนกับมนุษย์ทั่วๆไป ในเรื่องโครงสร้างทางธรรมชาติ

แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับ ฮูก่ม หลักการ หรือวะฮย์แล้ว ท่านนบี(ซ.ล.)จะได้รับการปกป้องไม่ให้ลืม จนกว่าจะได้เผยแพร่สิ่งเหล่านี้ให้เรียบร้อยก่อน แต่หลังจากเผยแพร่แล้ว ท่านนบี(ซ.ล.)ก็มีสิทธิ์ลืมได้.

เหตุการณ์เรื่องละหมาดอัสริสองร็อกอะฮ์  ไม่ควรมาแสดงความเสียมารยาทต่อท่านนะบีย์ด้วยการกล่าวหาว่าท่านผิดพลาด! เพื่อแสดงความชอบธรรมในการตอบโต้แนวทางอื่น


ผมเห็นด้วยกับอ.อารีฟีนทุกประการครับ เพราะสิ่งที่บังนำเสนอมาทั้งหมดก็หมายถึงสิ่งที่ผมกำลังหมายถึง ผมจึงได้ถามตั้งแต่เปิดประเด็นว่า อะไรคือความหมายของ

การผิดพลาดที่วะฮาบีย์หมายถึงในที่นี้ และสุดท้ายผมก้อจะพิมพ์ว่า "สุดท้ายนี้ ยังไงเราก็ไม่สามารถนำเรื่องละหมาดมาอ้างว่านะบีก็มีผิดพลาดได้ เพราะมันคนละเรื่อง

กัน" แต่อาจเป็นเพราะเรื่องความไม่ถนัดเรื่องการพิมพ์ของผมที่ค่อนข้างช้่า เลยทำให้ผมพิมพ์ได้น้อย ผมก็เลยไม่ได้พิมพ์หลายๆสิ่ง นี่ก็เลยนำไปสู่การคลาดเคลื่อน

ของความหมายที่ผมสื่อ แต่วันนี้ต้องทนพิมพ์ละครับ เพราะจำต้องชี้แจง ก่อนที่ผมจะโดนปรักปรัมเป็นวะฮาบีไปซะก่อน 555 โดยเฉพาะอ.อารีฟีน ขืนท่านรู้ว่าผมเป็น

ใคร บังคงเคืองผมแย่แน่เลย เป็นถึงลูกศิษย์ของบัง แต่ไฉนจึงมีทัศนะคติเช่นนี้

สุดท้ายนี้ กระผมขอมะอัฟสมาชิกทุกๆคนด้วยนะครับ

ปล.สมาชิกท่านไหนอยุ่ในไคโร ถ้าว่างจากสอบแล้ว ถ้าช่วยสอนคอมพิวเตอร์ผมหน่อย จะขอบคุณเป็นอย่างยิ่งเลยขอรับ party: party:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ค. 22, 2011, 03:30 PM โดย webmaster »

ออฟไลน์ Sunni Partisan

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 20
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
อ้าวว ทำไมคลิกตั้งกระทู้แล้ว ดันออกมาเป็นอย่างนี้ละครับ!

ออฟไลน์ webmaster

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • *****
  • กระทู้: 151
  • Respect: +7
    • ดูรายละเอียด
    • นักศึกษาซุนนะฮ์

แก้ไขให้แล้วครับ

โอกาสหน้าก็ขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการใช้การ "อ้างอิง" ด้วยนะครับ

มาร่วมมือร่วมใจกันลดภาระของผู้ดูแลง่ายๆ ด้วยวิธี
  • ค้นหากระทู้ ก่อนตั้งคำถามใหม่
  • โพสให้ถูกที่ถูกทางถูกกระทู้ถูกหมวดหมู่
  • ใช้อีเมลที่ถูกต้องและมีอยู่จริง -- ผู้ดูแลไม่ไหวจะเชคเมลที่มาจากระบบเตือนว่าเมลนั้นไม่มีถูกต้อง


ออฟไลน์ Sunni Partisan

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 20
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
ญาซากัลลอฮุคอยร็อนครับ ผมกด"อ้างถึง" เสร็จแล้วผมก็เอาเฉพาะบ้างข้อความ สงสัยผมจะทำผิดพลาดครับ

ขออภัยจริงๆเลยครับ

ออฟไลน์ amad 254

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 176
  • Respect: +48
    • ดูรายละเอียด
อัสสลามุอลัยกุมครับ

  ผมคงรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่นัก หากได้ยินผู้ที่กล่าวว่า ท่านร่อซูล(ซล) มีผิดพลาด หลงลืม หรืออื่นๆที่เป็นข้อตำหนิ ที่ผุ้ที่ฟังแล้วรู้สึกในทางไม่ดี
ท่านร่อซูล(ซล) คือ ผู้ทีนำข่าวดีและข่าวร้ายมาแจ้งแก่ มวลมนุษย์และยิน ทั้งมวล ตั้งแต่ท่านได้รับ วะฮี ยัน วันกิยามะห์  หากท่านร่อซูล(ซล) มีข้อบกพร่อง แล้วฉไน เลย พระองค์อัลเลาะห์(ซบ) จึงได้แต่งตั้งท่านเป็นร่อซูล(ซล)  นะอูซูบิก้ามินั้ลซาลิก (จากความคิดดังกล่าวที่กล่าวหาท่านร่อซูล(ซล)มีความบกพร่องต่างๆในทุกๆประการ) จากความคิดนี้ ย่อมประจักษ์แก่ มุอ์มิน และ มุสลิม ทั้งชายและหญิงทั้งมวล ที่ศรัทธาต่อ พระองค์อัลเลาะห์(ซบ) และร่อซูล(ซล)  ว่า เป็นความคิดที่เป็นส่วนร่วมกับ ซัยตอน อย่างไม่ต้องสงสัย

ไม่มีใครผู้ใด จะได้รับอัลอิสลาม(ศาสนา) จนกว่าเขาได้กล่าว กาลีเมาะห์ซาฮาดะห์  ที่กาลีเมาะห์ซาฮาดะห์ ประกอบด้วย นามที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร พระองค์อัลเลาะห์(ซบ) และ นาม(มนุษย์ที่ถูกพระองค์อัลเลาะห์(ซบ)เลือกว่า สมบูรณ์ที่สุดในมวลมนุษย์และสรรพสิ่งที่พระงอค์ทรงได้สร้างขึ้นมาเป็น ร่อซูล องค์สุดท้าย)  ท่านนบีมูฮำหมัด (ซล)

ท่านนบีมูฮำหมัด(ซล) เป็นมนุษย์ ก็จริง แต่เป็นแค่เพียงร่างกายเท่านั้น ที่ต่างกัน คือ โระห์ หรือวิญญาณ  หากจะเปรียบเทียบร่างกาย คงตอบได้ว่า ท่านร่อซูล(ซล)นั้นเหมือนกับผู้คนหรือมนุษย์ทั่วๆไปที่ ต้องกิน ต้องดื่ม ต้องนอน เพื่อให้ร่างกายได้ทำงานต่อไปได้ มีเจ็บป่วย แต่ทุกๆการกระทำของท่านร่อซูล(ซล) กระทำด้วยคำสั่งของพระองค์อัลเลาะห์(ซบ) ที่ได้มอบหมายไว้ทั้งภายนอก และภายใน หรือ ทุกๆอิริยาบถ  ตรงนี้ ที่เป็นข้อแตกต่างระหว่าง มนุษย์ทั่วๆไป กับ ท่านร่อซูล(ซล)    ท่านร่อซูล(ซล) กระทำการใดๆ ด้วยกับ อีหม่ามที่สมบูรณ์ และสติปัญญาทีสมบูรณ์  แม้กระทั้งการนอนของท่านร่อซูล(ซล) นอนแต่ร่างกายแต่หัวใจท่านเปิด   

عن جبار يقول: جاءت ملائكة الى النبى صى الله عليه وسلم وهونائم : فقال بعضهم :انه نائم  : وقال بعضهم : ان العين نائمة والقلب يقظان فقالو: ان لصا حبكم هذامثلا فاضربو اله مثلا، فقال بعضهم : انه نائم وقال بعضهم :ان العين نائمة و القلب يقظان ، فقالوا مثله كمثل رجل بنى دارا وجعل فيها مأدبة وبعث داعيا فمن اجاب الداعي دخل الدروأكل من المأدبة ومن لم يجب الداعى لم يدخل الدارولم يأكل من المأدبة ،فقالوا :أولوها له يفقهها فقال بعضهم انه نائم وقال بعضهم : ان العين نائمة والقلب يقظان ،فقالوا: فالدارالجنة والداعى محمد صى الله عليه وسلم فمن أطاع محمدا فقد أطاع الله ، ومن عصى محمدا فقد عصى الله ، ومحمد صى الله عليه وسلم  فرق بين الناس  رواه البخارى والترمذى

เล่าจากยาบิร กล่าวว่า  มีมลาอิกะห์จำนวนหนึ่งมาหาท่านนบี(ซล) ในขณะที่ท่านหลับ มลาอิกะห์ ส่วนหนึ่งกล่าวว่า  ความจริงเขานอนหลับ แต่มลาอิกะห์อีกส่วนหนึ่งกล่าวว่า แท้จริงดวงตาเขาหลับสนิท แต่จิตใจยังคงตื่นอยู่ ดังนั้นบรรดามลาอิกะห์ จึงกล่าวว่า แท้จริงมีอุทาหรณ์หนึ่งสำหรับเพื่อนของพวกท่านคนนี้  ดังนั้นท่านทั้งหลายจงยกอุทาหรณ์ให้เขาฟังด้วยเถิด  มะลาอิกะห์ อีกส่วนหนึ่งกล่าวว่าเขานอนหลับ(หมายถึงท่านร่อซูล(ซล)นอนหลับ) แต่อีกบางส่วนก็กล่าวว่า ความจริงตาหลับแต่่ใจไม่หลับ ดังนั้นบรรดามลาอิกะห์จึงกล่าวว่า (ถ้าจะ)เปรียบเขา(คือพระองค์อัลเลาะห์(ซบ) กับบ่าวของพระองค์ )  ก็เหมือนกับชายคนหนึ่งได้สร้างบ้านขึ้นมาหลังหนึ่ง  และได้จัดสำรับอาหารไว้ในบ้านหลังนั้น แล้วส่งคนออกไปเชื้อเชิญ ดังนั้นผู้ใดได้ตอบรับคำเชิญเขาก็ได้เข้าบ้าน และได้รับประทานอาหารจากสำรับนั้น และผู้ใดไม่ตอบรับคำเชิญ เขาก็จะไม่ได้เข้าไปในบ้าน และไม่ได้รับประทานอาหารในสำรับนั้น  บรรดามลาอิกะห์ ได้กล่าวว่า พวกท่าน(มลาอิกะห์อีกกลุ่มที่ยกอุทาหรณ์) จงแก้อุทาหรณ์ให้เขาเข้าใจ มลาอิกะห์บางส่วนได้กล่าวว่า ความจริงเขาหลับ(ท่านร่อซูล ซลได้หลับ)  แต่อีกบางส่วนกล่าวว่าความจริงตาหลับ แต่ใจไม่หลับหรอก พวกมลาอิกะห์จึงกล่าวว่า  บ้านนั้นคือสวรรค์ ผู้เชิ้อเชิญ คือ ท่านมูฮำหมัด(ซล) ผู้ใดเชื่อฟังมูฮำหมัด(ซล)ก็เท่ากับเขาเชื่อฟังพระองค์อัลเลาะห์(ซบ) และผู้ใดไม่เชื่อฟังมูฮำหมัด(ซล)ก็เท่ากับไม่เชื่อฟัง พระองค์อัลเลาะห์(ซล)  และ ท่าน นบีมูฮำหมัด(ซล) คือผู้แยกมนุษย์ (คือผู้ที่เชื้อฟังนบีมูฮำหมัดคือบ่าวของพระองค์อัลเลาะห์(ซบ) ผู้ไม่เชื้อฟังนบีมูฮำหมัดคือ ทาสไซตอน)
รายงานโดย  บุคอรี และ ติรมีซี






นี้แค่เป็นบางส่วนจากความประเสริฐ ที่ประเมินไม่ได้ของท่านผู้นำนบีและร่อซูล ท่านนบีมูฮำหมัด(ซล)  ที่อาจารย์ อารีฟีน ได้กล่าวไว้ ว่า ท่านเสมือน อัญมณี ที่ประเมินค่าไม่ได้ อยู่ใน ก้อนกรวดไร้ราคาบ้างมีราคาบ้าง(ตามอีหม่านแต่ละคน)แต่ไม่มีก้อนกรวดหรือเพรช หรืออัญมณีใด(ท่านนบีอื่นๆ) ที่มีค่าเท่า  อัญมณีนี้(ท่านนบีมูฮำหมัด ซล)

ส่วนคำถามทีว่า หากท่านนบีมูฮำหมัด(ซล) ไม่มีข้อผิดพลาดนั้น ก็เป็น ชีริก  เป็นการตั้งภาคีกับ พระองค์อัลเลาะห์(ซบ)   นะอูซุบิก้ามินั้ลซาลิก   ขอความคุ่้มครองจากความ เขลาเบาปัญญา ของผู้ที่คิด   ที่ไม่สามารถแยกออกได้ ระหว่างผู้สร้างกับสิ่งถูกสร้าง  พระองค์อัลเลาะห์(ซบ) นั้นคือผู้สร้างแต่เพียงผู้เดียว  หากพระองค์จะสร้าง มนุษย์คนหนึ่งที่มีความสมบูรณ์พร้อมในทุกๆประการ เพื่อจะมายืนยันในสิ่งที่เป็นจริง ยืนยันในข่าวดีและ แก่ผู้ที่ตาม  และข่าวร้ายแก่ผู้ที่ปฎิเสธ พระองค์อัลเลาะห์(ซบ)ผู้ทรงยิ่งด้วยอนุภาพไม่มีความสามารถที่จะสร้างหรือ??   แล้วทำไมพระองค์อัลเลาะห์(ซบ) จะสร้างผู้ที่นำข่าวและความสัจจริงมาเผยแพร่แก่มวลมนุษย์และยินทั้งมวล  ต้องบกพร่องด้วยละ ??       ท่านไม่มีสติปัญญาคิดหรอกหรือ ??   

สุดท้ายผมก็ขอฝาก 1 หะดิษ เอาไปคิดกัน
عن انس بن مالك رضي الله عنه عن نبي صلى الله عليه وسلم قال ـ لا يؤمن احد كم حتى اكون احب اليه من والده وولد والناس اجمعين  رواه الشيخان والنسائى

เล่าจากอะนัส  บุตรมาลิก (รด) จากท่านนบี (ซล) ได้กล่าวว่า ใครก็ตามจากพวกท่านจะยังไม่มีอีหม่าม(ที่สมบูรณ์) จนกว่าข้าพเจ้าจะเป็นที่รักของเขายิ่งกว่าผู้บังเกิดเกล้าของเขา ยิ่งกว่าลูกๆของเขา และยิ่งกว่ามนุษย์ทั้งมวล   
รายงานโดย บุคอรี มุสลิม และ น่าซาอี       
 วัลลอฮุอะห์ลัม
วัสลาม 

 

GoogleTagged