الفائدة الرابعة: أني رأيت بعض الخلق يظن أن شرفه وعزه في كثرة الأقوام والعشائر فأعتز بهم.
وزعم آخرون أنه في ثروة الأموال وكثرة الأولاد ، فافتخروا بها.
وحسب بعضهم أن العز والشرف في غصب أموال الناس وظلمهم وسفك دمائهم.
واعتقدت طائفة أنه في إتلاف المال وإسرافه ، وتبذيره ، فتأملت في قوله تعالى:{إنّ أكرمكم عند الله أتقاكم} ، فاخترت التقوى ، واعتقدت أن القرآن حق صادق ، وظنهم وحسبانهم كلها باطل زائل.
الفائدة الخامسة: إني رأيت الناس يذم بعضهم بعضا ، ويغتاب بعضهم بعضا ، فوجدت أصل ذلك من الحسد في المال والجاه والعلم ، فتأملت في قوله تعالى:{نحن قسمنا بينهم معيشتهم في الحياة الدنيا} فعلمت أن القسمة كانت من الله تعالى في الأزل ، فما حسدت أحدا ورضيت بقسمة الله تعالى.
ประโยชน์ที่สี่ ฉันเห็นผู้คนบางส่วนคิดว่าเกียรติยศของเขาอยู่ที่กลุ่มชนและพวกพ้องมาก เขาจึงถือว่ามีเกียรติด้วยกับพวกเขา และคนอื่น ๆ อีกอ้างว่า เกียรติของเขานั้นคือมีทรัพย์สินมั่งคั่งและลูกหลานมากมาย ดังนั้นพวกเขาจึงภาคภูมิใจด้วยกับมัน และพวกเขาบางส่วนคิดว่า เกียรติยศนั้นอยู่ในการที่พวกเขาได้ขโมยทรัพย์สินผู้อื่น พวกเขามีการอธรรมและทำการนองเลือด และชนกลุ่มหนึ่งเชื่อว่าเกียรติยศอยู่ที่การทำลายและสุรุ่ยสุร่ายกับทรัพย์สิน ดังนั้น ฉันจึงพิจารณาคำตรัสของอัลเลาะฮ์ตาอาลา ที่ว่า "แท้จริงผู้มีเกียรติที่สุดในหมู่พวกเจ้า ณ อัลเลาะฮ์ คือผู้มีความยำเกรงที่สุดในหมู่พวกเจ้า" อัลหุญุรอต 13 ฉะนั้น ฉันจึงเลือกความยำเกรง และฉันเชื่อว่าอัลกุรอานคือสัจธรรมความจริงและการคาดการณ์และความคิดของพวกเขาทั้งหมดนั้น ล้วนโมฆะไม่จีรัง
ประโยชน์ที่ห้า ฉันเห็นว่าผู้คนทำให้ทำการตำหนิซึ่งกันและกันและทำการนินทางซึ่งกันและกัน ฉันจึงพบว่าต้นตอสิ่งดังกล่าวมาจากความอิจฉาริษยาในทรัพย์สิน , เกียรติยศ , และความรู้ ดังนั้น ฉันจึงพิจารณาความตรัสของอัลเลาะฮ์ตาอาลาที่ว่า "ความจริงเราต่างหากที่จะทำการแบ่งสรรระหว่างพวกเขา ซึ่งปัจจัยความเป็นอยู่ในชีวิตทางโลกนี้" อัซซุครุฟ 32 ฉันจึงรู้ว่าการจัดสรรนั้นมีอยู่ ณ ที่อัลเลาะฮ์ตาอาลาตั้งแต่บรรพกาลแล้ว ดังนั้นฉันจึงไม่อิจฉาริษยาผู้ใดและฉันพอใจด้วยกับการจัดสรรของอัลเลาะฮ์ตาอาลา