ผู้เขียน หัวข้อ: มะตันอัลอะญัรรูมียะฮ์ (ตอน1)  (อ่าน 14389 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: มะตันอัลอะญัรรูมียะฮ์ (ตอน1)
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ก.ค. 25, 2007, 01:46 AM »
0
وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته

เป็นการนำเสนอที่ดีมาก ๆ  อัลฮัมดุลิลลาฮ์ครับน้อง  JuYa 

แต่การนำเสนอนั้น  เราสามารถร่วมเสวนาเสริมได้แลกเปลี่ยนกันได้ใช่ไหมครับ  :D

والسلام
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ JuyA

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 107
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: มะตันอัลอะญัรรูมียะฮ์ (ตอน1)
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ก.ค. 25, 2007, 06:09 AM »
0
وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته

เป็นการนำเสนอที่ดีมาก ๆ  อัลฮัมดุลิลลาฮ์ครับน้อง  JuYa 

แต่การนำเสนอนั้น  เราสามารถร่วมเสวนาเสริมได้แลกเปลี่ยนกันได้ใช่ไหมครับ  :D

والسلام

           แน่นอนคับแบ เราผมสามารถเสวนาเสริมได้ เพราะผมก็ต้องการความรู้ที่นอกเหนือจากนั้นเช่นกานนนนน :)
อีหม่านที่ซอเเฮะห์  อามาลที่ซอและห์

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: มะตันอัลอะญัรรูมียะฮ์ (ตอน1)
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ก.ค. 25, 2007, 06:34 AM »
0
الكلامُ   คือคำนาม  สังเกตเพราะมีอะลีฟและลาม  ตัองอ่านว่าอัลกาลามู เพราะอยู่ในตำแหน่งที่เรียกว่า มุบตาดา   ซึ่งต้องรอฟอุน สัญลักษณ์ของรอฟอุนตรงนี้ก็คือดอมมะห์เพราะเป็น คำนามเดี่ยว  และตัวที่ที่มีอำนาจ(อามีล)ทำให้ الكلامُ เป็นมุบตาดา คือ อามีล อิบติดาอ์

  أل  อะลีฟลาม  เข้ามาอยู่ในคำว่า  الكلامُ  นั้น  คืออะลีฟ อัลอะฮ์ดี้ย์ العهد  หมายถึงอะลีฟลามที่บ่งชี้ถึงถ้อยคำที่รู้กันดี  และเป็น อะลีฟลามที่แทนจากมุฏอฟอะลัยฮ์ (ซึ่งภาษามาลายูเขาเรียกว่าอะลีฟลามฆันตีมะฏ๊อฟ)  ดังนั้นจึงสมมุติ(ตักดีร)คำพูดของมันก็  คือ كلام النحويين คำพูดตามทัศนะของนักปราชญ์นะฮู   


ซึ่งเช่นเดียวกับกับคำว่า اَلْبَيْتُ  แปลว่า "บ้าน"  แต่อะลีฟลามตรงนี้แทนจากมุฏ๊อฟอะลัยฮิ  จึงสามารถสมมุตร(ตักดีร)คำพูดขึ้นได้ดังนี้ คือ بَيْتُ اللّهِ  "บัยตุลลอฮ์" (บ้านของอัลเลาะฮ์)ที่นครมักกะฮ์นั่นเอง

วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: มะตันอัลอะญัรรูมียะฮ์ (ตอน1)
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ก.ค. 25, 2007, 06:55 AM »
0
: هو  คือ ดอมีร แปลว่า สรรพนามนั้นแหละ  ตำแหน่งของมันก็คือ มุบตาดา ตัวที่ 2
ซึ่งต้องรอฟอุนเหมือนกัน แต่อ่านว่า ฮูวา ไม่ใช่ ฮูวู  เพราะทุกลักษณะนามนั้น จะมับนียุนคือ เปลี่ยนแปลงการอ่านไม่ได้  และ هو นี้ อยู่ในตำแหน่ง มุบตาดา  ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่ามุบนิยุน ที่ฟัตตะห์ ไปแทนที่ สัญลักษณ์รอฟอุน

ดอมีร هو ณ ที่นี้  ตามทัศนะของผม (ย้ำว่าทัศนะของผม) คือ ضمير الفصل  "ฏอมีรฟัสล์"  คือฏอมีรที่มาขั้นประโยคหรือขั้นระหว่างสองคำ  กล่าวคือหากไม่มีฏอมีรตัวนี้แล้ว  ก็จะอ่านว่า اَلْكَلامُ اَلْلَفْظُ  หมายถึง "คำพูดที่เป็นถ้อยคำ" ซึ่งมันจะทำให้ดูคล้ายเหมือนว่า اَلْكَلامُ นั้น เป็นซีฟัตหรือนะอัต และคำว่า اَلْلَفْظُ   นั้นเป็น เมาซูฟหรือมันอูตที่อยู่ในความ الملفوظ "ถ้อยคำที่ถูกเปล่งพูดออกมา"  แต่เมื่อมี "ฏอมีรฟัสล์" เข้ามา  ก็จะทำให้หมดความครางแครงนี้ไป  คือทำให้ชัดเจนว่า اَلْكَلامُ นั้นเป็นมุบตะดาอ์  ส่วน اَلْلَفْظُ  นั้นเป็นคอบัร  ส่วนฏอมีรฟัสล์นั้น ไม่มีสถานที่ใด ๆ สำหรับการเอี๊ยะอฺร๊อบมันเลย  กล่าวคือนำเข้ามาเพื่อแบ่งแยกคำพูดเท่านั้น คือ لا محل له من الإعراب ครับ

วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: มะตันอัลอะญัรรูมียะฮ์ (ตอน1)
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ก.ค. 25, 2007, 07:38 AM »
0
وأقسامُه และประเภทต่าง ๆ ของคำพูดนั้น  หมายถึง ฏอมีรคำว่า وأقسامُه นี้กลับไปหา الكلامُ  "คำพูด" ไม่ใช่คำว่า اللفظُ  "ถ้อยคำ"

 ثلاثة (แบ่งออกเป็น) 3 ประเภท  หมายถึง นักปราชญ์นะฮู (ปราชญ์ไวยากรณ์อาหรับ) ได้ทำการวิเคราะห์ตรวจสอบจากถ้อยคำต่าง ๆ ของภาษาอาหรับหรือจากตำราต่าง ๆ ของภาษาอาหรับ หรือจากคำพูดต่าง ๆ ของชาวอาหรับ  พวกเขาเหล่านั้นพบว่าถ้อยพูดในภาษาอาหรับทั้งหมดทั้งปวงนั้น แบ่งออกแค่ 3 ประเภทเท่านั้น!  ไม่มี 4 ประเภท เพราะหากมี 4 ประเภท นักปราชญ์นะฮูต้องตรวจสอบพบเจอมันอย่างแน่นอน

 اِسمٌ คำนาม  ภาษาเขาเรียกว่า อัลอิสมุ  หรือเราเรียกกันง่าย ๆ ว่า อีเซม  ซึ่งหมายถึง ถ้อยคำที่ชี้ถึงความหมายหนึ่งในตัวของมันเองโดยไม่อยู่พร้อมกับเรื่องของกาลเวลาทั้งสาม คือ เวลาอดีต , ปัจจุบัน , และอนาคต  เช่นคำว่า رَجُلٌ  "ผู้ชายคนหนึ่ง"  ซึ่งเป็นคำนาม(อีเซม) ที่ชี้ถึงความหมายของตัวของผู้ชายคนหนึ่ง  ที่ไม่เกี่ยวข้องกับกาลเวลา

 وفعلٌ กริยา  คือถ้อยคำที่ชี้ถึงความหมายตัวมันเอง โดยเกี่ยวข้องกับกาลเวลาทั้งสาม คือ เวลาอดีต , ปัจจุบัน , และอนาคต

การกระทำที่ชี้ถึง

1. เวลาอดีต   เช่น قَامَ  "เขาได้ยืนแล้ว" 
2. เวลาปัจจุบัน  เช่น يَقُوْمُ  "เขากำลังยืน"
3. เวลาอนาคต  เช่น قُمْ  "ท่านจงยืน"

وحَرفٌ جاءَ لمَعنى  อักษรที่นำมาให้กับความหมายหนึ่ง  หมายถึงอักษรในภาษาอาหรับที่มีความหมาย  เช่นคำว่า مِنْ (มิน) อักษร(ฮุรุฟ) ญัรร์ แปลว่า "จาก"  ซึ่งอาจจะมีความถึง التبعيض  "ส่วนหนึ่งจาก"  และคำว่า إِنَّ  "อินน่า"  เป็นอักษรเพื่อการตอกย้ำ التوكيد (ฮุรุฟเตากี๊ด) แปลว่า "แท้จริงหรือแน่แท้"  เป็นต้น

แต่ฮุรุฟ(อักษร) ع (อัยน์) ตัวเดียวนั้น  ย่อมไม่มีความหมาย  หรืออักษร ض ตัวเดียวก็ย่อมไม่มีความหมาย และถือว่าไม่เข้าอยู่ในความหมายของ ฮุรุฟ (อักษร) ในประเภทของคำพูด ณ ที่นี้   

วัลลอฮุอะอ์ลัม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ค. 25, 2007, 07:27 PM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ JuyA

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 107
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: มะตันอัลอะญัรรูมียะฮ์ (ตอน1)
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ก.ค. 25, 2007, 10:56 AM »
0
: هو  คือ ดอมีร แปลว่า สรรพนามนั้นแหละ  ตำแหน่งของมันก็คือ มุบตาดา ตัวที่ 2
ซึ่งต้องรอฟอุนเหมือนกัน แต่อ่านว่า ฮูวา ไม่ใช่ ฮูวู  เพราะทุกลักษณะนามนั้น จะมับนียุนคือ เปลี่ยนแปลงการอ่านไม่ได้  และ هو นี้ อยู่ในตำแหน่ง มุบตาดา  ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่ามุบนิยุน ที่ฟัตตะห์ ไปแทนที่ สัญลักษณ์รอฟอุน

ดอมีร هو ณ ที่นี้  ตามทัศนะของผม (ย้ำว่าทัศนะของผม) คือ ضمير الفصل  "ฏอมีรฟัสล์"  คือฏอมีรที่มาขั้นประโยคหรือขั้นระหว่างสองคำ  กล่าวคือหากไม่มีฏอมีรตัวนี้แล้ว  ก็จะอ่านว่า اَلْكَلامُ اَلْلَفْظُ  หมายถึง "คำพูดที่เป็นถ้อยคำ" ซึ่งมันจะทำให้ดูคล้ายเหมือนว่า اَلْكَلامُ นั้น เป็นซีฟัตหรือนะอัต และคำว่า اَلْلَفْظُ   นั้นเป็น เมาซูฟหรือมันอูตที่อยู่ในความ الملفوظ "ถ้อยคำที่ถูกเปล่งพูดออกมา"  แต่เมื่อมี "ฏอมีรฟัสล์" เข้ามา  ก็จะทำให้หมดความครางแครงนี้ไป  คือทำให้ชัดเจนว่า اَلْكَلامُ นั้นเป็นมุบตะดาอ์  ส่วน اَلْلَفْظُ  นั้นเป็นคอบัร  ส่วนฏอมีรฟัสล์นั้น ไม่มีสถานที่ใด ๆ สำหรับการเอี๊ยะอฺร๊อบมันเลย  กล่าวคือนำเข้ามาเพื่อแบ่งแยกคำพูดเท่านั้น คือ لا محل له من الإعراب ครับ

วัลลอฮุอะลัม

   ช่าย  ถูกต้อง  เปงอีกทัศนะหนึ่ง คับ แบ  เข้าใจแระทีนี้ :-* :-* :-*
   ยาซากัลลอฮุ
อีหม่านที่ซอเเฮะห์  อามาลที่ซอและห์

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
Re: มะตันอัลอะญัรรูมียะฮ์ (ตอน1)
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ก.ค. 25, 2007, 11:17 AM »
0
: هو  คือ ดอมีร แปลว่า สรรพนามนั้นแหละ  ตำแหน่งของมันก็คือ มุบตาดา ตัวที่ 2
ซึ่งต้องรอฟอุนเหมือนกัน แต่อ่านว่า ฮูวา ไม่ใช่ ฮูวู  เพราะทุกลักษณะนามนั้น จะมับนียุนคือ เปลี่ยนแปลงการอ่านไม่ได้  และ هو นี้ อยู่ในตำแหน่ง มุบตาดา  ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่ามุบนิยุน ที่ฟัตตะห์ ไปแทนที่ สัญลักษณ์รอฟอุน

ดอมีร هو ณ ที่นี้  ตามทัศนะของผม (ย้ำว่าทัศนะของผม) คือ ضمير الفصل  "ฏอมีรฟัสล์"  คือฏอมีรที่มาขั้นประโยคหรือขั้นระหว่างสองคำ  กล่าวคือหากไม่มีฏอมีรตัวนี้แล้ว  ก็จะอ่านว่า اَلْكَلامُ اَلْلَفْظُ  หมายถึง "คำพูดที่เป็นถ้อยคำ" ซึ่งมันจะทำให้ดูคล้ายเหมือนว่า اَلْكَلامُ นั้น เป็นซีฟัตหรือนะอัต และคำว่า اَلْلَفْظُ   นั้นเป็น เมาซูฟหรือมันอูตที่อยู่ในความ الملفوظ "ถ้อยคำที่ถูกเปล่งพูดออกมา"  แต่เมื่อมี "ฏอมีรฟัสล์" เข้ามา  ก็จะทำให้หมดความครางแครงนี้ไป  คือทำให้ชัดเจนว่า اَلْكَلامُ นั้นเป็นมุบตะดาอ์  ส่วน اَلْلَفْظُ  นั้นเป็นคอบัร  ส่วนฏอมีรฟัสล์นั้น ไม่มีสถานที่ใด ๆ สำหรับการเอี๊ยะอฺร๊อบมันเลย  กล่าวคือนำเข้ามาเพื่อแบ่งแยกคำพูดเท่านั้น คือ لا محل له من الإعراب ครับ

วัลลอฮุอะลัม

   ช่าย  ถูกต้อง  เปงอีกทัศนะหนึ่ง คับ แบ  เข้าใจแระทีนี้ :-* :-* :-*
   ยาซากัลลอฮุ

เยี่ยมครับ...มีการแลกเปลี่ยนและนำเสนอได้หลากหลายทัศนะ  เพื่อจุดประกายความรู้และความเข้าใจในวิชานะฮูได้อย่างกว้างขวาง  :D

ออฟไลน์ เด็กท่าเรือ

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 194
  • เพศ: ชาย
  • ความยำเกรงนั้น คือ กุญแจแห่งทางที่เที่ยงตรง
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
    • bantharua
Re: มะตันอัลอะญัรรูมียะฮ์ (ตอน1)
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ก.ค. 25, 2007, 10:26 PM »
0
อัสสลามุอาลัยกุม

    เข้ามากางหนังสือเทียบตามครับ ???

วัสสลาม
" ท่านพึงเป็นผู้รู้ หรือผู้เล่าเรียน หรือผู้รับฟัง หรือผู้รักใคร่ (ในบุคคลเหล่านั้น)
และท่านอย่าเป็นคนที่ห้า แล้วท่านจะวิบัติอย่างแน่นอน "

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: มะตันอัลอะญัรรูมียะฮ์ (ตอน1)
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ก.ค. 25, 2007, 11:20 PM »
0
بسم الله الرحمن الرحيم

فالاسم ดังนั้น คำนาม  หมายถึง ถ้อยคำที่ชี้ถึงความหมายหนึ่งในตัวของมันเองโดยไม่อยู่พร้อมกับเรื่องของกาลเวลาทั้งสาม  หรือหมายถึงทุก ๆ ถ้อยคำที่ชี้ถึงมนุษย์ , สัตว์ , พืชต้นไม้ , วัตถุ , สถานที่ , เป็นต้น

เช่น  رَجُلٌ  (ร่อญุลุน) "ผู้ชายคนหนึ่ง"  ,  أَسَدٌ (อะซะดุน) "สิงห์โต" , وَرْدَةُ (วัรดะตุน) "ดอกกุหลาบ" , حَجَرٌ (หะญะรุน) "ก้อนหิน"  اَلْقَاهِرَةُ  (อัลกอฮิเราะตุ) "กรุงไคโร"  เป็นต้น

يُعرَفُ มันจะถูกรู้จัก  หมายถึง อีเซมจะถูกรู้จักและมีข้อแยกแยะที่แตกต่างจากฟิอิล(คำกริยา) และฮุรุฟ(อักษรที่ให้ความหมาย) ด้วยบรรดาเครื่องหมายต่าง ๆ  มากมาย  ส่วนหนึ่งก็คือ

بالخَفضِ ด้วยหลักการค่อฟัต (สามารถรับสระกัสเราะฮ์ได้) คำว่า ค่อฟัต นั้น  นักปราชญ์นะฮูอัลกูฟียีน الكوفيين  (นักปราชญ์นะฮูที่อยู่เมืองกูฟะฮ์) ได้นำคำว่า "คอฟัต" มาใช้   ส่วนนักปราชญ์นะฮูอัลบัสรียีน البصريين (นักปราชญ์นะฮูที่อยู่เมืองบัสเราะฮ์) จะเรียกว่า "ญัรร์" الجرّ  หรือฮุรุฟญัรรฺ นั่นเองครับ 
จากสิ่งที่ได้กล่าวมา  เราจะพบว่าวิชานะฮูนั้น  มีอยู่ 2 มัซฮับใหญ่ ๆ  คือมัซฮับอัลกูฟียีน (คือแนวทางของนักปราชญ์นะฮูเมืองกูฟะฮ์) และมัซฮับอัลบัสรียีน (คือแนวทางของนักปราชญ์นะฮูเมืองบัสเราะฮ์  และผมขอกล่าวว่า  มัซฮับนะฮูที่เราใช้อยู่นี้  คือมัซฮับบัสรียีน

และตัวอย่างของหลักการคอฟัตหรือญัรรฺนั้น  จะนำเสนอต่อไปในการอธิบายตอนบรรดาอักษรคอฟัต  อินชาอัลเลาะฮ์

والتنوينِ และมีตันวีน  ดังนั้น  ตันวีน  ก็คือนูนตาย نْ ที่เพิ่มเข้ามาท้ายคำ  เวลาอ่านจะมีเสียงนูนแต่ไม่เขียนตัวนูนปรากฏให้เห็น  เช่นคำว่า كِتَابٌ  (กิตาบุน) แปลว่า "หนังสือ"  ซึ่งคำเดิม ๆ แล้วอ่านว่า  كِتَابُنْ  (กิตาบุน)  แต่ตัวนูนตาย نْ ที่เพิ่มเข้ามาท้ายคำนี้  จะเขียนอยู่ในรูปแบบสระซ้อน คือ ฏ๊อมมะฮ์สองตัว ( ٌ  )  หรือฟัตตะฮ์ซ้อนกันสองตัว ( ً  )  หรือกัสเราะฮ์ซ้อนกันสองตัว ( ٍ  )
 
ดังนั้น  ถ้อยคำที่มีตันวีน  ย่อมชี้ถึงอีเซม(คำนาม)  เช่น

جَاءَ رَجُلٌ

"ได้มาแล้ว  โดยผู้ชายคนหนึ่ง"

رَأَيْتُ رَجُلاً

"ฉันได้เห็นผู้ชายคนหนึ่ง"

مَرَرْتُ بِرَجُلٍ

"ฉันได้เดินผ่านข้างผู้ชายคนหนึ่ง" 

ودخولِ الألف واللام เข้าอะลัฟและลามได้  กล่าวคือคำที่มีอะลีฟลามหรือคำที่สามารถรับอะลีฟลามได้  ถือว่าเป็นอีเซม(คำนาม)  เช่น الرَجُلُ (อัรร่อญุลู้) "ผู้ชายคนหนึ่ง" , الكِتَابُ (อัลกิตาบู้) "หนังสือ" , และ الشَّجَرَةُ (อัชชะญะร่อตู้) "ต้นไม้"  เป็นต้น  ซึ่งคำเหล่านี้ถือว่าเป็นคำนาม  เพราะมีอะลีฟลามหรือสามารถรับอะลีฟลามได้

 وحروفِ الخَفضِ และบรรดาหุรุ๊ฟค่อฟัต  คือบรรดาอักษรที่มีความหมาย  ซึ่งจะอยู่หน้าบรรดาอีเซม(คำนาม) และทำให้คำนามถูกอ่านกัสเราะฮ์ในท้ายของคำ  เช่น

مَرَرْتُ بِرَجُلٍ

"ฉันได้เดินผ่านข้างผู้ชายคนหนึ่ง" 

وهي: มันก็คือ

مِن، มิน (จาก)

คำว่า مِنْ (มิน) นั้น  สามารถใช้ได้หลายความว่า  เช่น

1. หมายถึง اللإِبْتِداء  (อิบติดาอ์) ซึ่งอยู่ในความหมาย "เริ่มจาก"  เช่น

خَرَجْتُ مِنَ الْمَنْزِلِ

"ฉันได้ออกจากบ้าน"  หมายถึงเริ่มออกมาจากพี่บ้าน

2. หมายถึง التبعيض (อัตตับอีฏ) ซึ่งอยู่ในความหมาย "บางส่วน"  เช่น

أَنْفَقْتُ مِنْ نُقُوْدِيْ

"ฉันได้ใช้จ่ายจากเงินของฉัน" ซึ่งหมายถึงส่วนหนึ่งจากเงินของฉัน

واِلى อิลา (ไปยัง , ไปสู่ , จนถึง) นั้น จะใช้ในความหมายของการสิ้นสุดไปยังสิ่งหนึ่งหรือสิ้นสุดไปยังช่วงเวลาหนึ่ง  เป็นต้น  เช่น

ذَهَبْتُ اِلَى الْمَدْرَسَةِ

"ฉันได้ไปยังโรงเรียนแล้ว"

سِرْتُ الْبَارِحَةَ إِلَى أَخِرِ الّلَيْلِ

"ฉันได้เดินทางเมื่อวานจนถึงช่วงท้ายของคืน"

وعَن อัน (จาก) จะใช้ในความหมาย  المُجَاوَزَةَ   คืออยู่ในความของการจากให้พ้นไปจากมัน หรืออยู่ในความหมายที่แยกจากกันไม่เกี่ยวข้องกัน  เช่น

أَبْتَعِدْ عَنِ الشَّرِّ

"ท่านจงห่างไกลจากความชั่ว"

نَهَى اللّهُ عَنِ الْخَمْرِ

"อัลเลาะฮ์ทรงห้ามจากเหล้า"

وعلى อะลา (บน , เหนือ)  เช่น

أَحْمَدُ عَلَى السَّطْحِ

"อะห์มัดอยู่บนดาดฟ้า"

الْكِتَابُ عَلَى الْمَكْتَبِ

"หนังสืออยู่บนโต๊ะเรียน"

 وفِي ฟี (ใน)  คำว่า "ฟี"  จะใช้ในความของสถานที่ الظَرْفِيَّةُ الْمَكَانِيَّةَ  คือ  ในที่นั้น  ในที่นี้  เป็นต้น  เช่น

اَلرَّجُلُ فِى الْمَسْجِدِ

"ผู้ชายคนหนึ่ง อยู่ใน มัสยิด"

فِى الدَّارِ زَيْدٌ

"ในบ้านนั้น มีเซดอยู่"   

ورُبَّ รุ๊บบ่า (บางที , บางครั้ง)  จะใช้ในความหมายของ التَّقْلِيْلُ  "น้อยไม่บ่อยครั้ง , บางครั้ง , บางที"  เป็นต้น  ซึ่งจะอยู่หน้าอีเซม นะกีเราะฮ์ نَكِرَةٌ  (คำนามที่ไม่มีอะลีฟลามและไม่บ่งชี้บนการเจาะจงถึงตัวบุคคลหรือสิ่งของ) เป็นต้น  เช่น

رُبَّ رَجُلٍ عَالِمٍ لَقَيْتُ

"บางครั้งผู้ชายที่มีความรู้นั้น ฉันจะได้พบเจอ"

والباءُ บาอฺ ( ด้วย)  คำว่า "บาอ์" ซึ่งเป็นฮุรุฟค่อฟัตหรือฮุรุฟญัรรฺ  ที่มีหลายความหมาย   เช่น

1. บาอฺ الظَرْفِيَّةُ الْمَكَانِيَّةَ  (อัซซฺ๊อรฟียะฮ์อัลมะกานียะฮ์) คือ ใช้เกี่ยวกับความหมายที่ชี้ถึงสถานที่  เช่น

إِجْتَمَعْنَا بِالْمَنْزِلِ

"เราได้ร่วมตัวกันที่บ้าน"

2. บาอฺ الإِسْتِعَانَةُ  (อัลอิสติอานะฮ์) คือมีความหมายในแง่ของการช่วยเหลือ เช่น

كَتَبْتُ بِالْقَلَمِ

"ฉันได้เขียนด้วยปากกา" หมายถึง ฉันได้เขียนโดยนำปากกามาเป็นเครื่องมือช่วยเขียน

3. บาอฺ التَّعْوِيْضُ  (อัตตะอฺวีฏ) คือมีความหมายในแง่ของการแลกเปลี่ยน  เช่น

إِشْتَرَيْتُ بِمِائَةِ باَتٍ 

"ฉันได้ซื้อด้วยราคาหนึ่งร้อยบาท"

4. บาอฺ الإِلْتِصَاقُ  (อัลอิลติซ๊อก) ที่มีความหมาย ใกล้ หรือข้าง ๆ  เช่น

مَرَرْتُ بِمُحَمَّدٍ

"ฉันได้เดินทางใกล้(หรือข้างๆ) เซด" 

والكاف กาฟ ( เช่น , เสมือน , เฉกเช่น)  จะมีความหมาย التَّشْبِيْهُ  "คล้าย"  หรือ التَّمْثِيْلُ "เหมือน"   เช่น

مُحَمَّدٌ كَالْأسَدِ

"มุฮัมมัดนั้นเหมือนกับสิงห์โต" 

واللامُ ลาม (เพื่อ , สำหรับ , เพราะ , ให้กับ )  ลาม จะใช้ได้หลายความหมาย เช่น

1. ลาม المُلْكِ  (มุลกิ) ที่อยู่ในความหมายของการครอบครองหรือปกครองเป็นกรรมสิทธิ์  เช่น

لِلّهِ مَا فِى السَّمَواتِ ومَا فِى اللأرْضِ

"(เป็นกรรมสิทธิ์ปกครอง)สำหรับอัลเลาะฮ์ กับสิ่งที่อยู่ในบรรดาฟากฟ้าาและสิ่งที่อยู่ในแผ่นดิน"

2. ลาม التَّعْلِيْلُ  ที่อยู่ในความหมายของ เหตุผล , เพราะ , เพื่อ ,  เช่น

جِئْتُ لِإكْرامِكَ

"ฉันได้มา เพื่อ(เพราะ)ทำการให้เกียรติท่าน"

وحروفِ القَسَم และบรรดาอักษรที่มีความหมายเพื่อการสาบาน

وهي มันก็คือ

الواو ตัววาว (แปลว่าสาบาน) เช่น

وَاللّهِ

"ขอสาบานต่ออัลเลาะฮ์"

والباء ตัวบาอฺ(แปลว่าสาบาน) เช่น

بِاللّهِ لَنْ يُضِيْعَ حَقَّنَا

"ขอสาบานต่ออัลเลาะอ์  เขาจะไม่ริดรอนสิทธิของเรา"

والتاء. ตัวตาอฺ(แปลว่าสาบาน)  อักษร ตาอฺ  นี้  จะใช้เป็นคำสาบานกับ ถ้อยคำอันมีเกียรติ คือ الله  เท่านั้น  เช่น

تََََاللهِ لَنْ يُضِيْعَ الْحَقَّ الْمُغْتَصَبَ

"ขอสาบานต่ออัลเลาะฮ์  เขาจะไม่ริดรอนสิทธิที่ถูกพรากไป"

ทั้งหมดนั้น เราจะพบว่าคำที่ตกหลังจากบรรดาฮุรูฟคอฟัตหรือฮุรูฟญัรรฺนั้น  จะเป็น อีเซม (คำนาม)

วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ JuyA

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 107
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: มะตันอัลอะญัรรูมียะฮ์ (ตอน1)
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ก.ค. 25, 2007, 11:31 PM »
0
بسم الله الرحمن الرحيم

وأقسامُهอักษร วาว นั้นเป็นวาว  ลิลอิสติสนัฟ เป็นวาวที่ใช้เริ่มต้นประโยค  أقسامُ เป็นมุฟตาดาซึ่งมีอามีล คือ อามีลอิบติดาอ์ ซึ่งต้องรอฟอุน สัญลักษณ์ของรอฟอุนตรงนี้ก็คือดอมมะห์เพราะเป็น คำนามเดี่ยว(อีเซม เดี่ยว) และ อักษร ฮาอ์ (ه) คือดอมีร สรรพนามบุรุษที่ 3 ไปแทนที่ الكلامُ นอกจากนี้  คำว่า أقسامُ นั้นจะเป็นมูดอฟ  ส่วนอักษร ฮาอ์ (ه) นั้นจะเป็นมูดอฟุนอีลัยฮุ  มุบนิยุน ที่ ดอมมะห์ไปแทนที่ สัญลักษณ์ ยัรร์

 ثلاثة  เป็นคอบัร ซึ่งมีอามีล อิบติดาอ์  ซึ่งต้องรอฟอุนสัญลักษณ์ของรอฟอุนตรงนี้ก็คือดอมมะห์ เพราะเป็นคำนามเดี่ยว

: اِسمٌ   เป็นบาดาล จาก ثلاثة  ซึ่งต้องรอฟอุน  เพราะบาดาลนั้นต้องตาม มุฟดาลมินฮู นั้นก็คือ ثلاثة นั้นเอง สัญลักษณ์ของรอฟอุนตรงนี้ก็คือดอมมะห์ เพราะเป็นคำนามเดี่ยว

 ، وفعلٌ อักษร วาวนั้นเป็นวาว อะตัฟ  และ فعل  นั้นเป็นมะอ์ตูฟ และจะอ่านตามมะอ์ตูฟุนอาลัยฮุ ซึ่งก็คือ   ِ اِسمٌ   นั้นเอง

  وحَرف อักษร วาวนั้นเป็นวาว อะตัฟ และحَرفนั้นเป็น มะอ์ตูฟ และมะอ์ตูฟุนอาลัยฮุ ก็คือ   اِسم แต่มีอีกทัศนะว่ามะอ์ตูฟุนอาลัยฮุ  ในที่นี้ ก็คือ فعلٌ

 جاءٌَเป็นฟิอิลมาดี (กริยาอดีตกาล) มุบนิยน ที่ ฟัตตะห์  โดยจะมีฟาอีล(ผู้กระทำ) เป็นฟาอีลมุสตาตีร ตัรดีร ดอมีร هو ไปแทน حَرف   และประโยคตั้งแต่ฟิอิล(กริยา)+ฟาอีล(ผูกระทำ) จะไปเป็นซีฟัตของ  حَرف
 لمَعنى. อักษร ลาม เป็นหุรุฟ คอฟัต مَعنى เป็น มัจรูรุน และสัญลักษณ์ของญัรรุนนี้ก็คือ กัสรอฮุ มุกอดารอห์ ที่แทนด้วยอาลิฟ

ปล.แบๆเพื่อนๆ ช่วยเพิ่มเติมการเอีตรรอฟได้น่ะ อยากมีฟามรู้เพิ่มอีก อ่ะ

              ญาซากัลลอฮุ กาเซร
                                             

           
อีหม่านที่ซอเเฮะห์  อามาลที่ซอและห์

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: มะตันอัลอะญัรรูมียะฮ์ (ตอน1)
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ก.ค. 26, 2007, 12:38 AM »
0
بسم الله الرحمن الرحيم

وأقسامُهอักษร วาว นั้นเป็นวาว  ลิลอิสติสนัฟ เป็นวาวที่ใช้เริ่มต้นประโยค  أقسامُ เป็นมุฟตาดาซึ่งมีอามีล คือ อามีลอิบติดาอ์ ซึ่งต้องรอฟอุน สัญลักษณ์ของรอฟอุนตรงนี้ก็คือดอมมะห์เพราะเป็น คำนามเดี่ยว(อีเซม เดี่ยว) และ อักษร ฮาอ์ (ه) คือดอมีร สรรพนามบุรุษที่ 3 ไปแทนที่ الكلامُ นอกจากนี้  คำว่า أقسامُ นั้นจะเป็นมูดอฟ  ส่วนอักษร ฮาอ์ (ه) นั้นจะเป็นมูดอฟุนอีลัยฮุ  มุบนิยุน ที่ ดอมมะห์ไปแทนที่ สัญลักษณ์ ยัรร์

เมื่อวาว อิสตินาฟ  ที่เริ่มประโยค  ได้เกี่ยวข้องกับประโยคข้างหน้าหรือเป็นส่วนอธิบายประโยคข้างหน้า เขาเรียกว่า  واو الإستئناف البيانى  (วาวอิสตะนาฟบายานีย์)  "วาวเริ่มประโยคที่อยู่ในเชิงอธิบาย"   ซึ่งเช่นเดียวกัน  วาว  ใน ณ ที่นี้ ก็คือ วาวอิสตินาฟบะยานีย์  ซึ่งเป็นส่วนเริ่มประโยคที่มาอธิบายประเภทของ อัลกะลาม  ที่ได้กล่าวระบุเอาไว้ข้างต้น

วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
Re: มะตันอัลอะญัรรูมียะฮ์ (ตอน1)
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: ก.ค. 26, 2007, 11:54 AM »
0
جاءٌَเป็นฟิอิลมาดี (กริยาอดีตกาล) มุบนิยน ที่ ฟัตตะห์  โดยจะมีฟาอีล(ผู้กระทำ) เป็นฟาอีลมุสตาตีร ตัรดีร ดอมีร هو ไปแทน حَرف   และประโยคตั้งแต่ฟิอิล(กริยา)+ฟาอีล(ผูกระทำ) จะไปเป็นซีฟัตของ  حَرف

ช่วยกันเสริมครับ  การที่ประโยค(เฟี๊ยะอฺลียะฮ์คือ)ฟิอิล(กริยา) + ฟาอีล (ประธานหรือผู้กระทำ)นั้น จะเป็นซีฟัตให้กับ حَرف  ก็เพราะว่า  حَرف  เป็นอีเซมนะกีเราะฮ์ نكرة  ดังนั้น ประโยคเฟี๊ยะอฺลียะฮ์ที่ตกหลังจากอีเซมนะกีเราะฮ์ก็จะเป็นซีฟัตอีกทีหนึ่งครับ

   

ออฟไลน์ musalmarn

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 796
  • เพศ: ชาย
  • สักวัน... ฉันจะขี่ม้า
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
    • ชมรมศาสนศึกษา แผนกอิสลาม มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
Re: มะตันอัลอะญัรรูมียะฮ์ (ตอน1)
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: ก.ค. 26, 2007, 11:59 AM »
0
แวะมาดื่มด่ำกับความรู้ที่ทุกๆ ท่านยินดีนำเสนอ

ปล. จูยา ของเราก็แจ่มเนาะ ^^

ออฟไลน์ JuyA

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 107
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: มะตันอัลอะญัรรูมียะฮ์ (ตอน1)
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: ก.ค. 26, 2007, 07:41 PM »
0


ปล. จูยา ของเราก็แจ่มเนาะ ^^[/size]
[/quote]

 ม่ายหรอก จูยา ก้อเอียตร์รอฟ แบบบ้านๆ เอง ยังต้องการความรู้จากแบๆท่านอื่น อีกเยอะ  ยังไงMusalmarNก้อช่วยเอียตร์รอฟ ด้วยแระ   :-* :-* :-*
อีหม่านที่ซอเเฮะห์  อามาลที่ซอและห์

ออฟไลน์ JuyA

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 107
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: มะตันอัลอะญัรรูมียะฮ์ (ตอน1)
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: ก.ค. 26, 2007, 10:58 PM »
0
بسم الله الرحمن الرحيم

       ต่อเลยน่ะคับ  แต่คงจะเรื่อยๆน่ะคับ พิมพ์ช้า

                       
 فالاسم  หุรุฟ ฟาอ์ นั้น เรียกว่า ฟาอ์ ฟาซีฮะห์  คือเป็นฟาร์ที่จะเริ่มตอบเงื่อนไขที่ตั้งไว้ก่อนหน้านี้  เงื่อนไขในที่นี้ก็คือ เงื่อนไขมุกอตดัร ก็คือ เมื่อเราต้องการที่จะแยกความแตกต่าง ระหว่าง اِسمٌ  , فعل และ حَرف  ดังนั้น หุรุฟ ฟาอ์ นี้จึงจะตอบเงื่อนไขนี้นี่เอง
 الاسم    เป็นมุบตาดา ซึ่งมีอามีล คือ อามีลอิบติดาอ์ ซึ่งต้องรอฟอุน สัญลักษณ์ของรอฟอุนตรงนี้ก็คือดอมมะห์เพราะเป็น คำนามเดี่ยว(อีเซม เดี่ยว)


    يُعرَفُ     เป็น الفعل المضارع  มับนิยุน ลิล มัจฮูล คือ จะเป็น الفعل المضارع ที่ไม่ทราบผู้กระทำ และ  يُعرَفُ ซึ่งต้องรอฟอุน เพราะปราศจากอามีล ญาซัม และอามิล นาซับ  สัญลักษณ์ของรอฟอุนตรงนี้ก็คือดอมมะห์เพราะเป็น الفعل المضارع  ที่ไม่ต่อท้ายด้วยพยัญชนะอื่น เรียกว่า
لم يتصل بآخره شيء الفعل المضارع الذي     นั้นเอง  ส่วนผู้กระทำ(ประธาน)ใน يُعرَفُ นี้ก็คือ นาอีบุน ฟาอีล ที่ มุสตาเตร (ซ่อน)  ตักดีร ก็คือ هو ที่เป็นสรรพนามแทนที่  الاسم
 ประโยคตั้งแต่ ฟิอิลและนาอีบุนฟาอีล นั้นก็จะเป็นคอบัร
และสุดท้ายประโยคตั้งแต่มุบตาดา+ และคอบัร นั้นจะเป็นคำตอบที่ตอบเงื่อนไขก่อนหน้านี้


 بالخَفضِ   บา คือหุรุฟ คอฟัตหรือหุรุฟ ญัรรี หมายถึง อักษรที่มีอำนาจ (อามีล)ทำให้ตัวทีหลังจากตัวเขาต้องอ่านแบบ ญัร ในที่นี่ก้อคือ อ่าน บิลคอฟดี  โดยมีสัญลักษณ์คือกัสรอฮุ เพราะเป็น นามเดี่ยว

، والتنوينِ วาวนั้นเป็นวาว อะตัฟ และالتنوينِนั้นเป็น มะอ์ตูฟ และมะอ์ตูฟุนอาลัยฮุ ก็คือ     خَفضِดังนั้น มะอ์ตูฟก็ต้องอ่าน ตาม มะอ์ตูฟุนอาลัยฮุ นั้นเอง
،                                                                                                                       
ودخولِ الألف วาวนั้นเป็นวาว อะตัฟ และدخولِนั้นเป็น มะอ์ตูฟ และมะอ์ตูฟุนอาลัยฮุ ก็คือ     خَفضِดังนั้น มะอ์ตูฟก็ต้องอ่าน ตาม มะอ์ตูฟุนอาลัยฮุ  และ دخولِ ก็จะเป็นมูดอฟอีกทีหนึ่ง โดยมี الألف เป็นมูดอฟุนอิลัยฮุ  จะอ่านแบบ ญัรริน มีสัญลักษณ์คือกัสรอฮุ เพราะเป็น นามเดี่ยว

واللام วาวนั้นเป็นวาว อะตัฟ และاللامนั้นเป็น มะอ์ตูฟ และมะอ์ตูฟุนอาลัยฮุ ก็คือ     الألف ดังนั้น มะอ์ตูฟก็ต้องอ่าน ตาม มะอ์ตูฟุนอาลัยฮุ

 وحروفِ الخَفضِ วาวนั้นเป็นวาว อะตัฟ และحروفِนั้นเป็น มะอ์ตูฟ และมะอ์ตูฟุนอาลัยฮุ ก็คือ  خَفضِ   ในประโยค بالخَفضِก่อนหน้านี้  ดังนั้น มะอ์ตูฟก็ต้องอ่าน ตาม มะอ์ตูฟุนอาลัยฮุ   และสุดท้ายนี้ประโยค   حروفِ الخَفض  ก็จะมีอีกเอีตรร็อฟ หนึ่งก็คือ حروف เป็นมูดอฟ และ الخَفض นั้นก็จะเป็นมูดอฟุนอีลัยฮุ  จะอ่านแบบ ญัรริน มีสัญลักษณ์คือกัสรอฮุ เพราะเป็น นามเดี่ยว

                      กติกาเเบบเดิมไม่เปลี่ยนน่ะคับ  แบๆเพื่อนๆน้องๆช่วยเสริมได้ เพื่อแก้หรือเติม ให้มันสมบูรณ์
                                            ญาซากุมุลลอฮุ


 
อีหม่านที่ซอเเฮะห์  อามาลที่ซอและห์

 

GoogleTagged