ผู้เขียน หัวข้อ: ทัศนะเกี่ยวกับจำนวนเราะกะอะฮ์ในละหมาดตะรอวี้หฺ  (อ่าน 1636 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด


ทัศนะในเรื่องจำนวนของการละหมาดตะรอวี้หฺ จากที่ผมเคยอ่านบทความชิ้นนี้เกี่ยวกับเรื่องนี้ในภาษาอินโดเนเซีย ก็สามารถสรุปได้ดังนี้คือ

           ทัศนะที่ ๑ "มีจำนวน ๘ เราะกะอาต" โดยยึดหะดีษพระนางอาอิชะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา ที่กล่าวว่าท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม ไม่เคยละหมาดกิยามุลัยล์ทั้งในและนอกเดือนเราะมะฎอนเกินกว่า ๘ เราะกะอาต ซึ่งกลุ่มนี้มีทัศนะว่า "กิยามุลลอฮฺ" ในหะดีษดังกล่าวหมายถึง "การละหมาดตะรอวี้หฺ" นั่นเอง

           ทัศนะที่ ๒ "มีจำนวน ๒๐ เราะกะอาต" โดยยึดหะดีษของท่านอุมัรที่ในสมัยของท่านมีการละหมาดตะรอวี้หฺถึง ๒๐ เราะกะอาต พร้อมกับท่านได้ทำการชมเชยว่ารูปแบบที่ทำกันอยู่นั้นคือละหมาดโดยมีอิมามคนเดียวนั้นเป็นบิดอะฮ์ที่ดี พร้อมกันนี้ ทัศนะที่ ๒ ยังได้แย้งหะดีษของทัศนะที่ ๑ ด้วยว่า "กิยามุลลัยล์" ในหะดีษดังกล่าวนั้นน่าจะหมายถึง "ละหมาดตะหัจจุด" มากกว่า เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า ละหมาดตะหัจจุด ไม่ว่าจะใน หรือนอกเดือนเราะมะฎอนก็มี ๘ เราะมะฎอน และการละหมาดตะหัจจุดก็เองก็ถูกเรียกว่า "กิยามุลลัยล์" หรือการยืนขึ้นในเวลากลางคืนเพื่อทำอิบาดะฮ์นั่นเอง ในขณะที่ละหมาดตะรอวี้หฺนั้นมีเฉพาะเดือนเราะมะฎอน แต่ไม่มีนอกเดือนเราะมะฎอน ฉะนั้น หากหะดีษข้างต้นหมายถึง การละหมาดตะรอวี้หฺ ไฉนพระนางอาอิชะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุฮา จึงพูดว่า "ไม่เคยทั้งนอกเดือนเราะมะฎอน" ด้วย

           ทัศนะที่ ๓ "มีจำนวน ๓๖ เราะกะอาต" ซึ่งแต่เดิมทัศนะนี้ละหมาด ๒๐ เราะกะอาต แต่เนื่องจากแลเห็นชาวมักกะฮ์ที่เมื่อละหมาดตะรอวี้หฺเสร็จ ๒ เราะกะอะฮ์ก็จะมีการเฎาะวาฟด้วย ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของชาวมักกะฮ์ ฉะนั้น เพื่อให้พื้นอื่นที่ไม่ใช่มักกะฮ์จะได้รับผลบุญมากๆ เหมือนกัน จึงมีการเพิ่มจำนวนเราะกะอะฮ์เข้าไปอีกนั่นเอง

           ทัศนะที่ ๔ "ไม่มีจำนวนเราะกะอะฮ์ที่แน่นอน" ทัศนะนี้ได้มาจากการวิเคราะห์และสรุปเหตุผลและหลักฐานของแต่ละทัศนะข้างต้น ซึ่งแต่ละฝ่ายต่างก็อ้างหะดีษที่เศาะหี้หฺ แต่ได้ระบุจำนวนละหมาดตะรอวี้หฺที่ต่าง นอกจากนี้ ทัศนะที่ ๓ เองนั้น เมื่อเราวิเคราะห์ดูดีๆ แล้วก็มีแนวโ้น้มมาทางทัศนะที่ ๔ ด้วยเช่นกัน เพราะหากทัศนะที่ ๓ มีทัศนะว่าจำนวนของการละหมาดตะรอวี้หฺนั้นมีจำนวนแน่นอนชัดเจนแล้ว ผู้แสดงทัศนะที่ ๓ เองก็คงไม่กล้าจะเพิ่มเราะกะอะฮ์อย่างแน่นอน เพราะเสี่ยงต่อข้อหาบิดอะฮ์ได้ ฉะนั้น จึงสามารถเข้าใจทัศนะที่ ๓ ได้อีกนัยว่า ทัศนะนี้อาจมีความเข้าใจว่าจำนวนละหมาดตะรอวี้หฺนั้นไม่มีจำนวนที่แน่นอนนั่นเอง จึงได้มีการเพิ่มจำนวนเราะกะอะฮ์ตามเหตุผลที่ได้กล่าวไปข้างต้น นอกจากนี้ ทัศนะที่ ๔ นี้เกิดขึ้นก็เพื่อที่จะประสานทุกทัศนะดังกล่าวข้างต้นนั่นเอง - วัลลอฮุอะอ์ลัม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ MD

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 61
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
เคยฟังบรรยายของอ.อาลี เสือสมิง อาจารย์บอกประมาณว่า วันที่ท่านนบีไม่ได้มาตารอเวี๊ยะห์นั้น ท่านอุมัรได้ใช้ให้คนไปตาม อุบัย อิบนุกะอฺบินมานำละหมาด เพราะท่านอุบัย อิบนุกะอฺบินถือว่าเป็นผู้ที่จำกุรอ่านได้ดีที่สุดในขณะนั้น แล้วเขาก็ทำละหมาดแค่ 8 รอกาอัตแต่ละหมาดยาวนาน จนกระทั่งเกือบจะได้เวลาซุบฮิ ต่อมาท่านอุมัรเห็นว่ามีคนแก่มาละหมาดด้วยเกรงว่าจะลำบาก ก็เลยเพิ่มจำนวนร่อกาอัตให้มากขึ้นแต่ละหมาดให้สั้นลง  แล้วตอนใกล้จะจบบรรยายอ.ก็อธิบายว่า ถ้าจะละหมาดที่สั้นๆก็เพิ่มจำนวนร่อกาอัต แต่ถ้าจะละหมาดให้ยาวนานก็ให้ละหมาด 8 ร่อกาอัต ถ้าจำไม่ผิด อ.บอกว่า อีหม่ามชาฟีอี กล่าวว่า แบบนี้คือสิ่งที่ฉันชอบที่สุด หมายถึง ละหมาดยาวนานแต่ร่อกาอัตน้อย

ผมจำไม่ได้ว่าผมฟังบรรยายของอ.หัวข้ออะไร ถ้าใครเคยฟังแล้วเนื้อหามันขัดกับที่ผมกล่าวมา ผมต้องขอมาอัฟด้วยครับ นี่เป็นเนื้อหาคร่าวๆนะครับว่าฟังมาแบบนี้ รู้ศึกจะเป็นบรรยาย หัวข้อ ปัญหาคิลาฟียะห์ น่ะครับถ้าจำไม่ผิด ฟังของอ.เยอะเลยสับสนนิดหน่อย

หากผิดพลาดประการใดขอมาอัฟด้วยนะครับ

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
เคยฟังบรรยายของอ.อาลี เสือสมิง อาจารย์บอกประมาณว่า วันที่ท่านนบีไม่ได้มาตารอเวี๊ยะห์นั้น ท่านอุมัรได้ใช้ให้คนไปตาม อุบัย อิบนุกะอฺบินมานำละหมาด เพราะท่านอุบัย อิบนุกะอฺบินถือว่าเป็นผู้ที่จำกุรอ่านได้ดีที่สุดในขณะนั้น แล้วเขาก็ทำละหมาดแค่ 8 รอกาอัตแต่ละหมาดยาวนาน จนกระทั่งเกือบจะได้เวลาซุบฮิ ต่อมาท่านอุมัรเห็นว่ามีคนแก่มาละหมาดด้วยเกรงว่าจะลำบาก ก็เลยเพิ่มจำนวนร่อกาอัตให้มากขึ้นแต่ละหมาดให้สั้นลง  แล้วตอนใกล้จะจบบรรยายอ.ก็อธิบายว่า ถ้าจะละหมาดที่สั้นๆก็เพิ่มจำนวนร่อกาอัต แต่ถ้าจะละหมาดให้ยาวนานก็ให้ละหมาด 8 ร่อกาอัต ถ้าจำไม่ผิด อ.บอกว่า อีหม่ามชาฟีอี กล่าวว่า แบบนี้คือสิ่งที่ฉันชอบที่สุด หมายถึง ละหมาดยาวนานแต่ร่อกาอัตน้อย

ผมจำไม่ได้ว่าผมฟังบรรยายของอ.หัวข้ออะไร ถ้าใครเคยฟังแล้วเนื้อหามันขัดกับที่ผมกล่าวมา ผมต้องขอมาอัฟด้วยครับ นี่เป็นเนื้อหาคร่าวๆนะครับว่าฟังมาแบบนี้ รู้ศึกจะเป็นบรรยาย หัวข้อ ปัญหาคิลาฟียะห์ น่ะครับถ้าจำไม่ผิด ฟังของอ.เยอะเลยสับสนนิดหน่อย

หากผิดพลาดประการใดขอมาอัฟด้วยนะครับ


            อ.ที่คณะผมก็สอนแนวนี้เหมือนกัน แต่แกเลือกและบอกว่า เราะกะอะฮ์น้อย และนานมากกว่า ส่วน นศ.ชอบแบบไหน ก็แล้วแต่ นศ. - วัสสลามุอลัยกุม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ MD

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 61
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
ที่สำคัญอย่าทะเลาะกัน ใครเลือกอย่างไหนก็ทำไป อย่าไปกระแนะกระแหนกันก็พอ

วัสลาม

 

GoogleTagged