ผู้เขียน หัวข้อ: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 38 สูเราะฮฺ ศอดดฺ  (อ่าน 4854 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

 :salam:


คำอธิบายประกอบสูเราะฮฺ ศอดดฺ (http://www.alquran-thai.com/ShowSurah.asp)

ความหมายโดยสรุป
เป็นบัญญัติมักกียะฮฺ มี 88 อายะฮฺ
    ซูเราะฮฺศอด เป็นซูเราะฮฺมักกียะฮฺ เป้าหมายของซูเราะฮฺนี้เช่นเดียวกับเป้าหมายของซูเราะฮฺมักกียะฮฺอื่น ๆ ที่เยียวยาหลักการของอะกีดะฮฺอิสลาม
    ซูเราะฮฺได้เริ่มด้วยการกล่าวสาบานด้วยอัลกุรอานที่เป็นปาฏิหาริย์ที่ถูกประทานให้แก่ท่านนะบีผู้อ่านไม่ออกเขียนไม่เป็น ที่ครอบคลุมถึงข้อตักเตือนที่มีความหมายลึกซึ้ง ข่าวคราวที่ประหลาดที่ว่า อัลกุรอานนั้นเป็นความจริง และมุฮัมมัดนั้น เป็นนะบีที่ถูกส่งมา
    ซูเราะฮฺได้กล่าวถึงเรื่องความเป็นเอกภาพ การปฏิเสธของพวกมุชริกีนต่อการให้ความเป็นเอกภาพแด่อัลลอฮฺ ตะอาลา และความประหลาดใจอย่างมากของพวกเขาต่อการที่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เรียกร้องเชิญชวนพวกเขาไปสู่การให้ความเป็นเอกภาพต่ออัลลอฮฺ “เขาได้ทำให้พระเจ้าหลายพระองค์เป็นพระเจ้าองค์เดียวกระนั้นหรือ? แท้จริงนี่เป็นเรื่องประหลาดจริง ๆ “
    ซูเราะฮฺได้เปลี่ยนเรื่องมากล่าวถึงพวกกุฟฟารมักกะฮฺ ด้วยการยกตัวอย่างของชนรุ่นก่อนพวกเขาที่มีสภาพเช่นเดียวกันคือ เป็นผู้ฝ่าฝืน หยิ่งผยอง ด้วยการปฏิเสธและงมงายอยู่ในทางหลงผิด และการที่ชนเหล่านั้นได้รับการลงโทษอย่างสาสมมาแล้ว เพื่อเป็นเครื่องเตือนสติและเป็นอุทาหรณ์ เนื่องจากการทำความชั่ว และการประกอบอาชญากรรมของพวกเขา
    ต่อมาซูเราะฮฺได้กล่าวถึงเรื่องราวของบรรดาร่อซูลบางท่าน เพื่อเป็นการปลอบใจท่านนะบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ขณะที่ท่านกำลังเผชิญกับการเย้ยหยัน และการปฏิเสธของพวกกุฟฟารมักกะฮฺ ทั้งนี้เพื่อเป็นการผ่อนคลายความเจ็บปวดและความเศร้าโศกของท่าน ซูเราะฮฺได้กล่าวถึงเรื่องของนะบีดาวู๊ดและลูกหลานของท่าน คือนะบีสุลัยมาน ซึ่งอัลลอฮฺทรงประทานให้กับเขาทั้งการเป็นนะบีและการเป็นกษัตริย์และการที่เขาทั้งสองได้รับการทดสอบ หลังจากนั้นได้กล่าวถึงการทดสอบของบรรดานะบี ได้แก่ อัยยู๊บ อิสฮาก ยะอฺกู๊บ อิสมาอีล และซุลกิฟลฺ นี่คือการสาธยายโดยย่อเพื่อเป็นการชี้แจงถึงแนวทางของอัลลอฮฺในการทดสอบบรรดานะบีและบรรดาผู้ได้รับการคัดเลือกของพระองค์
    ซูเราะฮฺได้กล่าวถึงหลักฐานต่างๆ แห่งอานุภาพและเอกภาพของอัลลอฮฺ ในจักรวาลซึ่งเป็นที่ประจักษ์แก่สายตา และสิ่งที่มีอยู่ในจักรวาลซึ่งถูกประดิษฐ์ไว้อย่างสวยงาม ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตือนให้ตระหนักว่า จักรวาลนี้มิได้ถูกสร้างมาโดยไร้ประโยชน์ และแน่นอนย่อมจะมีโลกที่สองเพื่อตอบแทนผู้ทำความดีและผู้ทำความชั่ว
    ซูเราะฮฺได้จบลงด้วยการชี้แจงหน้าที่ของท่านร่อซูล และหน้าที่สำคัญหลักของท่านนั่นคือหน้าที่ของบรรดาร่อซูลที่มีเกียรติทั้งหลาย
ชื่อของซูเราะฮฺ
    ซูเราะฮฺนี้ถูกขนานนามว่า “ซูเราะฮฺศอด” ซึ่งเป็นพยัญชนะหนึ่งในบรรดาพยัญชนะของภาษาอาหรับ เพื่อเป็นสดุดีต่อคัมภีร์ที่เป็นปาฏิหาริย์ ซึ่งอัลลอฮฺทรงท้าทายมนุษย์ในยุคแรก ๆ และยุคหลัง ๆ ด้วยพยัญชนะเหล่านี้ ซึ่งพวกเขาได้ใช้เรียบเรียงจากบรรดาพยัญชนะเหล่านี้เช่นกั


----------------------------------------------------

เอกสารอ้างอิง
R1. The Noble Qur’an (Dr.Muhammad Taqi-ud-Din al-Hilali and Dr.Muhammad Muhsin Khan.)
R2. อัลกุรอานฉบับแปลภาษาไทย โดย มัรวาน สะมะอุน
R3. ตัฟฮีมุลกุรฺอาน(อรรถาธิบายโดย เมาลานา ซัยยิด อบุล อลา เมาดูดี แปลโดย บรรจง บินกาซัน)
R4. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน พร้อมคำแปลเป็นภาษาไทย ศูนย์กษัตริย์ฟาฮัด เพื่อการพิมพ์อัลกุรฺ อานแห่งนครมาดีนะฮ์
R5. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ฉบับภาษาไทย (โดย นายต่วน สุวรรณศาสน์-ฮัจยีอิสมาแอล บินฮัจยียะห์ยา)

--------------------------------------------------------------
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 10, 2011, 07:22 AM โดย Bangmud »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ ศอด อายะฮฺที่ 1 -5




คำอ่าน
1. ศอ....ด วัลกุรฺอานนิ ซิซซิกรฺ
2. บะลิลละซีนะกะฟะรู ฟีอิซซะติว..วะชิกอก
3. กัมอะฮฺลักนา มิน..ก็อบลิฮิม..มิน..ก็อรฺนิน..ฟะนาเดา วะลาตะหีนะ มะนาศ
4. วะอะญิบู..อัน..ญา...อะฮุม..มุน..ซิรุม..มินฮุม วะกอลัลกาฟิรูนะ ฮาซาสาหิรุน..กัซซาบ
5. อะญะอะลัลอาลิฮะตะ อิลาเฮา..วาหิดา อิน..นะฮาซาละชัยอุนอุญาบ


คำแปล R1.
1. Sad [These letters (Sad etc.) are one of the miracles of the Qur'an and none but Allah (Alone) knows their meanings]. By the Qur'an full of reminding.
2. Nay, those who disbelieve are in false pride and opposition.
3. How many a generation we have destroyed before them, and they cried out when there was no longer time for escape!
4. And they (Arab pagans) wonder that a warner (Prophet Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam) has come to them from among themselves! And the disbelievers say: "This (Prophet Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam) is a sorcerer, a liar.
5. "Has he made the Aliha (gods) (all) into one Ilah (God - Allah). Verily, this is a curious thing!"


คำแปล R2.
1. ซ๊อด!   ขอยืนยันด้วยคัมภีร์อัลกุรอานที่มีคำเตือน
2. ทว่า!   บรรดาจำพวกไร้ศรัทธาล้วนตกอยู่ในความหยิ่งผยองและความแตกแยก
3.  เท่าไรแล้ว ประชาชาติต่าง ๆ ที่เราได้ทำลายล้างมาก่อนพวกเขา? ครั้นแล้วพวกเขาก็วอนขอ(ให้พ้นจากการถูกลงโทษ) และเวลานั้นมิใช่เวลาแห่งการร้องขอให้พ้นภัย
4. และพวกเขา (ผู้คัดค้านศาสดา) ได้สนเท่ห์ในการที่มีศาสดาผู้ตักเตือนมาสู่พวกเขา เป็นผู้หนึ่งจากเชื้อชาติของพวกเขาเอง (ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน) และบรรดาพวกไร้ศรัทธากล่าวว่า “(มูฮำมัด)นี้เป็นมายากร อีกทั้งเป็นผู้มุสา!”
5. “เหมาะสมหรือที่เขา(มูฮำหมัด)ได้ประกาศรวมพระเจ้าต่าง ๆ ยุบเหลือเพียงพระเจ้าเดียว แน่แท้สิ่งนี้เป็นสิ่งที่น่าสนเท่ห์ยิ่งนัก


คำแปล R3.
1.   ศอด ขอสาบานด้วยกุรอานซึ่งเต็มไปด้วยข้อตักเตือน
2.   แต่บรรดาผู้ปฏิเสธเองต่างหากที่อยู่ในความยโสโอหังและดื้อรั้น
3.   กี่ชาติแล้วที่เราได้ทำลายไปก่อนหน้าพวกเขา (และเมื่อความหายนะใกล้เข้ามา)พวกเขาก็ร้องขอความช่วยเหลือ แต่นั่นมิใช่เวลาที่พวกเขาจะรอดพ้น
4.   พวกเขาประหลาดใจที่มีผู้ตักเตือนคนหนึ่งจากในหมู่พวกเขาได้มายังพวกเขา และบรรดาผู้ไม่ศรัทธาได้กล่าวว่า “เขาเป็นนักมายากล และคนโกหก
5.   เขาได้สร้างพระเจ้าองค์เดียวแทนพระเจ้าหลายองค์กระนั้นหรือ? นี่เป็นเรื่องประหลาดจริง ๆ”


คำแปล R4.
1. ศอด ขอสาบานด้วยอัลกุรอานที่เป็นเครื่องเตือนสติ
2. แต่ว่าบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาอยู่ในการหยิ่งผยองและการแตกแยก
3. กี่ศตวรรษมาแล้วที่เราได้ทำลายประชาชาติก่อนพวกเขา แล้วพวกเขาได้ร้องเรียกขอความช่วยเหลือทั้ง ๆ ที่ไม่มีเวลาอีกแล้วสำหรับทางรอด
4. และพวกเขาประหลาดใจที่มีผู้ตักเตือนจากหมู่พวกเขามายังพวกเขา และพวกปฏิเสธศรัทธาได้กล่าวว่า “นี่คือมายากร นักโกหกตัวฉกาจ
5. เขาได้ทำให้พระเจ้าหลายองค์เป็นพระเจ้าองค์เดียวกระนั้นหรือ? แท้จริงนี่เป็นเรื่องประหลาดจริง ๆ”


คำแปล R5.
๑. ซ๊อด อัลเลาะห์ทรงทราบความหมายเพียงพระองค์เดียว ข้าแต่อัลกุรอานที่มีกิตติคุณอันสูงยิ่ง
๒. แต่บรรดาผู้เนรคุณชาวมักกะห์ต่างงมงายอยู่ในความโอหังและความแตกแยก พวกเขาไม่ยอมศรัทธาในท่านนบีมุฮำมัด และทำการก่อกวนรังควานต่าง ๆ นานา
๓. มีจำนวนตั้งมากมายเท่าไรแล้วที่เราได้ทำลายก่อนหน้าพวกเขาจากบรรดาประชาชาติในศตวรรษต่าง ๆ ที่ผ่านพ้นมาแล้วพวกเขาเหล่านั้นได้โอดครวญขณะเมื่อเกิดการลงโทษหรือวินาศภัยแก่พวกเขาว่า กาละนี้มิใช่กาละแห่งการหลบหนีอย่างแน่นอน ใครก็ไม่อาจหลบหนีวินาศภัยนี้ได้
๔. และพวกเขาได้แสดงความสนเท่ห์ต่อการที่ผู้ตักเตือนผู้เป็นคนหนึ่งจากเผ่าพันธุ์ของพวกเขาเองคือศาสดามุฮำมัดได้มายังพวกเขา เพื่อเตือนภัยที่จะอุบัติแก่พวกเขา และแจ้งให้ทราบถึงมหันตภัยแห่งไฟนรกอันจะมาถึงหลังจากฟื้นขึ้นจากหลุมศพแล้ว แต่บรรดาผู้เนรคุณกล่าวว่า ศาสดาผู้นี้เป็นนักวิทยากล ผู้มดเท็จยิ่งนัก
๕. เขาจักทำให้บรรดาพระเจ้าต่าง ๆ ตั้งมากมายเป็นเพียงพระเจ้าเดียวกระนั้นหรือ แท้จริงนี้เป็นสิ่งที่น่าสนเท่ห์เหลือเกิน


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 10, 2011, 07:24 AM โดย Bangmud »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ ศอด อายะฮฺที่ 6 - 11


คำอ่าน
6. วัน..เฏาะละก็อลมะละอุ มินฮุม อะนิมชู วัศบิรู อะลาอาลิฮะติกุม อิน..นะฮาซา ละชัยอุย..ยุรอด
7. มาสะมิอฺนา บิฮาซา ฟิลมิลละติลอาคิเราะติ อินฮาซา..อิลลัคติลาฟ
8. อะอุน..ซิละอะลัยฮิซซิกรุ มิม..บัยนินา บัลฮุม ฟัชักกิม..มิน..ซิกรี บัลลัม..มายซูกุอะซาบ
9. อัมอิน..ดะฮุม เคาะซา...อินุ เราะหฺมะติ ร็อบบิกัลอะซีซุลวะฮฺฮาบ
10. อัมละฮุม..มุลกุสสะมาวาติวัลอัรฺฎิ วะมาบัยนะฮุมา ฟัลยัรฺตะกู ฟิลอัสบาบ
11. ญุน..ดุม..มาฮุนาลิกะ มะฮฺซูมุม..มินัลอะห์ซาบ


คำแปล R1.
6. And the leaders among them went about (saying): "Go on, and remain constant to your Aliha (gods)! Verily, this is a thing designed (against you)!
7. "We have not heard (the like) of this among the people of these later days. This is nothing but an invention!
8. "Has the reminder been sent down to him (Alone) from among us?" Nay! But they are in doubt about my reminder (this Quran)! Nay, but they have not tasted (My) torment!
9. Or have they the treasures of the Mercy of your Lord, the All-Mighty, the real Bestower?
10. Or is it that the dominion of the heavens and the earth and all that is between them is theirs? If so, let them ascend up with means (to the heavens)!
11. (As they denied Allah's message) they will be a defeated host like the confederates of the old times (who were defeated).


คำแปล R2.
6. และได้มีชนชั้นผู้นำกลุ่มหนึ่งจากพวกเขาได้ออกมา(ต่อต้านการประกาศของศาสดาโดยพูดว่า) “ท่านทั้งหลายจงดำเนิน(ศาสนาตามแบบอย่างของบรรพบุรุษ)และจงอดทนบน(การกราบไหว้บูชา)พระเจ้าต่าง ๆ ของพวกท่านเถิด แท้จริงสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ควรมุ่งหมายที่สุด
7. “เราไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับสิ่งนี้ในศาสนาสุดท้าย(ที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้เลย) แท้จริงสิ่งนี้หาใช่อื่นใดไม่นอกจากเป็นเพียงสิ่งที่ถูกเสกสรรขึ้นเท่านั้นเอง”
8.  จะมีคำเตือนถูกประทานลงมาให้เขาหรือ(เมื่อยังมีคนดีมีเกียรติเหนือกว่าเขาอีกมากมาย)ในระหว่างพวกเรา? ทว่า! ความจริงนั้นพวกเราล้วนตกอยู่ในความสงสัยเกี่ยวกับคำเตือนของเขา ยิ่งไปกว่านั้น! พวกเขายังไม่เคยลิ้มรสการลงโทษของเรา
9. หรือว่าพวกเขานั้นมีคลังต่าง ๆ แห่งความเมตตาขององค์อภิบาลของเจ้าผู้ทรงอำนาจอีกทั้งทรงยิ่งในการประทาน?
10. หรือว่าพวกเขามีอำนาจปกครองฟากฟ้า แผ่นดิน และสรรพสิ่งระหว่างมันทั้งสอง ดังนั้นพวกเขาจงขึ้นไปในทางสู่ฟากฟ้าเถิด (เพื่อการปกครองและบริหารโลกทั้งหมด)
11. (ความจริงแล้วพวกเขาเป็นเพียง)ชนกลุ่มน้อย ณ ที่นั้น (ณ มักกะฮฺในวันถูกยึด) ซึ่งถูกโจมตีแตกพ่ายจากบรรดาเหล่าไพร่พลต่าง ๆ

 
คำแปล R3.
6.   และหัวหน้าของพวกเขาได้ออกไปและกล่าวว่า “ออกไปและจงยึดมั่นต่อพระเจ้าทั้งหลายของพวกท่านต่อไป เพราะสิ่งนี้ ถูกกล่าวออกมาอย่างมีแผน
7.   เราไม่ได้ยินเรื่องนี้จากใครในหมู่คนยุคหลัง ๆ นี่มิใช่อะไรนอกไปจากเรื่องที่กุขึ้นมา
8.   เขาเป็นเพียงคนเดียวในหมู่พวกเรากระนั้นหรือ? ที่ถูกส่งข้อตักเตือนมา” คความจริงแล้วพวกเขาสงสัยในข้อตักเตือนของฉันและ (พวกเขาพูดเช่นนี้ก็เพราะ)พวกเขายังไม่ได้ลิ้มรสการลงโทษของฉัน
9.   หรือพวกเขามีคลังแห่งความเมตตาของพระเจ้าผู้ทรงอำนาจของเจ้าและผู้ทรงมีอย่างเหลือหลาย
10.   พวกเขาเป็นเจ้าของชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินและทุกสิ่งที่อยู่ระหว่างทั้งสองนั้นหรือ? ถ้าเป็นเช่นนั้นก็จงให้พวกเขาปีนขึ้นไปหาสาเหตุทั้งหลายมา
11.   นี่คือไพร่พลเล็กจากไพร่พลทั้งหลายที่จะถูกทำลายที่นี่


คำแปล R4.
6. และพวกหัวหน้าของพวกเขาพากันออกไป (พลางกล่าวว่า) “จงก้าวหน้าต่อไปและอดทน ในการยึดมั่นต่อบรรดาพระเจ้าของพวกท่านต่อไป! แท้จริงเป็นเรื่องที่ถูกวางแผนไว้แล้ว
7. “เราไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนในศาสนาสุดท้าย นี่มิใช่อื่นใด นอกจากเป็นการเสกสรรปั้นแต่งขึ้นมาเท่านั้น
8. “ได้มีข้อตักเตือน (อัลกุรอาน) ถูกประทานลงมาแก่เขา แทนพวกเรากระนั้นหรือ ?”  หามิได้ พวกเขาอยู่ในการสงสัยจากข้อตักเตือนของข้า! ไม่เพียงแต่เท่านั้น พวกเขายังมิได้ลิ้มรสการลงโทษของข้า !
9. หรือว่า ณ ที่พวกเขามีขุมคลังแห่งความเมตตาของพระเจ้าของเจ้า ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงประทานให้อย่างมากมาย
10. หรือว่าอำนาจแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และที่อยู่ระหว่างทั้งสองเป็นของพวกเขา ดังนั้น จงให้พวกเขาขึ้นไปหาสาเหตุกันเถิด
11. (พวกเขา) เป็นไพร่พลจากแนวร่วมต่าง ๆ จะพ่ายแท้หนีเตลิดไปในไม่ช้านี้


คำแปล R5.
๖. และมีคนกลุ่มหนึ่งได้ผลุดลุกออกไปจากสถานที่ชุมนุมของพวกเขา ซึ่งการชุมนุมครั้งนั้นมีอะบูตอลิบเป็นผู้ปรึกษา พวกเขาชุมนุมเพื่อปรึกษาเกี่ยวกับข่าวการเข้าอิสลามของท่านอุมัร และรวมตัวกันได้ ๒๕ คนมาขอให้อะบูตอลิบช่วยตัดสินใจว่า พวกเขาควรทำอย่างไรกับนบีมุฮำมัด อะบูตอลิบจึงนำตัวท่านนบีมาเจรจากับคนกลุ่มนั้น ท่านนบีถามว่า พวกท่านจะขอร้องอะไรข้าพเจ้า ชนกลุ่มนั้นกล่าวว่า พวกท่านจงเลิกละการตำหนิติเตียนพวกเราและพระเจ้าของเรา และเราก็จะปล่อยให้ท่านและพระเจ้าของท่านอยู่กันด้วยความสันติ ท่านนบีจึงพูดว่า หากข้าพเจ้าจะสนองตอบคำขอของพวกท่าน พวกท่านจะให้แก่ข้าพเจ้าได้ไหมถ้อยคำหนึ่งซึ่งพวกท่านพึงนำไปใช้ปกครองชาวอาหรับและจะทำให้ชาวต่างชาติยอมสวามิภักดิ์ต่อพวกท่าน พวกเขาตอบว่า ตกลง และมากกว่านั้นสักสิบเท่าก็ได้ ท่านศาสดาจึงกล่าวกับพวกนั้นว่า พวกท่านจงกล่าว “ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์” เมื่อพวกนั้นได้ยินเช่นนั้นก็ผลุดลุกขึ้นยืนเผ่นออกไปจากที่ประตูบ้านทันที และพวกเขาก็ชักชวนกันเองว่า พวกท่านออกเดินเถิดอย่าอยู่ในสถานที่นี้ต่อไปอีกเลยและจงมีความอดทนในการทำนมัสการเพื่อบรรดาพระเจ้าของพวกท่านต่อไป อย่าได้ระแวงสงสัยหรือคลอนแคลนเป็นอันขาด แท้จริงการยอมรับในพระเจ้าองค์เดียวนี้ เพราะนับเป็นสิ่งที่ถูกมุ่งมาดไว้โดยมุฮำมัด ที่จะให้พวกเรารับไว้ให้จงได้
๗. เราไม่เคยได้ยินสิ่งนี้มาก่อนเลยในศาสนาสุดท้ายคือศาสนาที่ประกาศโดยนบีอีซา สิ่งนี้มิใช่อะไรหรอกนอกจากเป็นเพียงการมดเท็จที่มุฮำมัดได้เสกสรรขึ้นมาเอง
๘. คัมภีร์ที่มีข้อตักเตือนคือ อัลกุรอานตามที่มุฮำมัดได้อ้างว่าตนเองได้รับมาจากพระผู้เป็นเจ้านั้นจะถูกประทานลงมาแก่เขาซึ่งเป็นคนหนึ่งระหว่างพวกเรานี้เองกระนั้นหรือ ทั้ง ๆ ที่ตัวเขาเองก็มิใช่ผู้มีเกียรติที่สุดในหมู่พวกเรา และมิใช่ผู้มีตำแหน่งใหญ่โตหรืออาวุโสกว่าพวกเราเลย แล้วคัมภีร์นั้นจะถูกประทานแก่เขาได้อย่างไร หากทว่าพวกเขานั้นตกอยู่ในความสงสัยต่อข้อตักเตือนของข้านั้นคือโองการแห่งอัลกุรอาน เมื่อพวกเขาว่าผู้นำสิ่งนั้นมาโกหก จึงเท่ากับว่ากุรอานโกหกด้วยหากทว่าพวกเขายังไม่เคยลิ้มรสการลงโทษของข้าจึงไม่ยอมรับศรัทธาโองการดังกล่าว แต่ถ้าเคยถูกลิ้มรสการลงโทษพวกเขาก็คงจะศรัทธาต่อนบีมุฮำมัดและคำประกาศของเขาอย่างแน่นอน
๙. หรือว่าพวกเขามีบรรดาคลังแห่งความเมตตาขององค์อภิบาลของเจ้าผู้ทรงอำนาจยิ่งผู้ทรงประทานยิ่ง ดังนั้นไม่ว่าตำแหน่งศาสดาหรือสรรพสิ่งอื่นใดก็ตาม พระองค์จึงทรงอำนาจที่จะประทานแก่ผู้ใดตามแต่พระองค์ทรงประสงค์ ไม่มีใครสามารถจะคัดค้านได้
๑๐. หรือว่าพวกเขามีสิทธิปกครองชั้นฟ้าและแผ่นดิน รวมทั้งสิ่งที่มีอยู่ระหว่างทั้งสองที่จริงพวกเขาไม่มีสิทธิใด ๆ เลย ดังนั้นพวกเขาก็จะขึ้นไปในเส้นทางสู่ฟากฟ้าจนถึงฟ้าชั้นที่เจ็ดเถิด
๑๑. กลุ่มย่อยของชาวอาหรับที่อยู่ ณ ที่นั้นเมืองมักกะห์ในวันยึดมักกะห์ หรือในวันทำสงครามบะดัรต้องพ่ายแพ้สิ้นเชิงประดุจเดียวกับกองกำลังจากบรรดากลุ่มชนต่าง ๆ ในยุคก่อน ๆ ซึ่งประสบความพ่ายแพ้มาแล้ว และบรรดากลุ่มชนที่พ่ายแพ้ในทุกยุคสมัย ล้วนเป็นพวกปฏิกิริยาที่มุ่งทำลายล้างสัจธรรมแห่งประเจ้าที่นำมาประกาศโดยศาสดาทั้งสิ้น แม้พวกเขาจะมีเกียรติยศ มีตำแหน่ง มีทรัพย์สมบัติและอำนาจสักเท่าใดก็ตาม

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 10, 2011, 07:27 AM โดย Bangmud »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ ศอด อายะฮฺที่ 12 - 16


คำอ่าน
12. กัซซะบัต ก็อบละฮุม ก็อวมุนูหิว..วะอาดู..วะฟิรฺเอานุ ซุลเอาตาด
13. วะษะมูดุ วะก็อวมุลูฏิว..วะอัศหาบุลอัยกะติ อุลา...อิกัลอะหฺซาบ
14. อิน..กุลลุน อิลลา กัซซะบัรฺรุสุละ ฟะหักเกาะอิกอบ
15. วะมายัน..ซุรุ ฮา..อุลา...อิ อิลลาศ็อยหะเตา..วาหิดะตัม..มาละฮา มิน..ฟะวาก
16. วะกอลูร็อบบะนา อัจญิลละนา กิฏเฏาะนา ก็อบละเยามิลหิสาบ

 
คำแปล R1.
12. Before them (were many who) belied messengers, the people of Nuh (Noah); and 'Ad; and Fir'aun (Pharaoh) the man of stakes (with which he used to punish the people),
13. And Thamud, and the people of Lout (Lot), and the dwellers of the wood; such were the confederates.
14. Not one of them but belied the messengers, therefore My torment was justified,
15. And these only wait for a single Saihah [shout (i.e. the blowing of the trumpet by the angel Israfil Sarafil)] there will be no pause or ending thereto [till everything will perish except Allah (the only God full of Majesty, Bounty and Honour)].
16. They say: "Our Lord! Hasten to us Qittana (i.e. our record of good and bad deeds so that we see it) before the Day of Reckoning!"


คำแปล R2.
12. เมื่อก่อนหน้าพวกเขาก็มักลุ่มชนของนูห์ พวกอ๊าด(ในยุคนบีฮู๊ด)และฟิรเอาน์ผู้มีพลังเข้มแข็งได้ว่าศาสดา(ในยุคของตน)เป็นผู้มุสา
13. และพวกสะมู๊ด(ในยุคนบีซอลิห์) พวกกลุ่มชนของลู๊ฏ และชาวอัยกะฮฺ(ในเมืองมัดยัน) พวกเหล่านั้นเป็นกลุ่มต่าง ๆ (ที่คัดค้านสัจธรรมทั้งสิ้น)
14. ทั้งหมดนั้นมิใช่อื่นใดเลยนอกจากได้ว่าศาสนทูตทั้งหลายมุสา ดังนั้นการลงโทษของเราจึงอุบัติขึ้นจริง (แก่พวกเขา)
15. และพวก(ขัดขวางนบีมูฮำหมัด)เหล่านี้มิได้เฝ้ารอสิ่งใดทั้งสิ้น นอกจาก(การลงโทษของอัลเลาะฮฺด้วย)เสียงกัมปนาทหนึ่งครั้งซึ่งไม่จำเป็นต้องซ้ำอีก(พวกเขาก็ถูกทำลายสิ้น)
16. และพวกเขากล่า(ประชดเย้ยหยัน)ว่า “โอ้องค์อภิบาลของเรา! จงเร่งลงโทษพวกเราเสียเถิด ก่อนที่จะถึงวันสอบสวน(ตามที่มูฮำหมัดได้กล่าวไว้)


คำแปล R3.
12.   ก่อนหน้าพวกเขาหมู่ชนของนูฮฺและอ๊าดและฟิรเอาน์เสาหลักได้เคยปฏิเสธมาแล้ว
13.   รวมทั้งพวกสะมูดและหมู่ชนของลูฏและชาวอัยก๊ะฮฺด้วย พวกเหล่านี้เป็นพวกเดียวกัน
14.   แต่ละพวกล้วนถือว่าบรรดารอซูลเป็นพวกโกหกและสมควรที่จะได้รับการลงโทษจากฉัน
15.   คนเหล่านี้ต่างมิได้คอยอะไรนอกไปจากเสียงกัมปนาทเพียงครั้งเดียว ซึ่งหลังจากนั้นแล้วก็จะไม่มีเสียงกัมปนาทอื่นอีก
16.   และพวกเขาจะกล่าวว่า “พระผู้อภิบาลของเราโปรดเร่งนำส่วนของเรามาให้กับเราโดยเร็วก่อนถึงวันแห่งการชำระบัญชีด้วยเถิด


คำแปล R4.
12. ก่อนหน้าพวกเขา หมู่ชนของนูหฺและอ๊าด และฟิรเอานฺเจ้าของเสาหมุด ได้ปฏิเสธมาแล้ว
13. และษะมูด และหมู่ชนของลูฏ และชาวป่าทึบ ชนเหล่านี้เป็นแนวร่วม
14. ไม่มีคนหนึ่งคนใด (ในพวกเขา) เว้นแต่ปฏิเสธบรรดารอซูล ดังนั้น การลงโทษของข้าจึงเหมาะสม (แก่พวกเขา)
15. และพวกเขาเหล่านั้นมิได้คอยอันใด นอกจากเสียงกัมปนาทเพียงครั้งเดียว โดยไม่มีการชักช้า
16. และพวกเขากล่าวว่า “ข้าแต่พระเจ้าของเรา ขอทรงโปรดเร่งส่วนของเราให้แก่เราโดยเร็วเถิด ก่อนที่จะถึงวันแห่งการชำระบัญชี”


คำแปล R5.
๑๒. ก่อนหน้าพวกเขานั้น กลุ่มชนของนบีนูห์ก็ว่านบีนูห์มุสา และเช่นเดียวกับพวกอ๊าตและฟิรเอาน์ผู้มีอำนาจมั่นคง
๑๓. และพวกซะมู๊ตและกลุ่มชนของนบีลู๊ตและชาวป่าผู้เป็นกลุ่มชนของนบีชุไอ๊บ์พวกเหล่านั้นเป็นกลุ่มต่าง
๑๔. ทั้งหมดนั้นไม่มีอะไรเลยนอกจากได้ว่าบรรดาศาสนทูตมุสาถึงแม้แต่ละกลุ่มจะว่าศาสนทูตของตนเพียงท่านเดียวก็มีความหมายเท่ากับว่าศาสนทูตทุกท่านมุสานั่นเอง เพราะทุกศาสนทูตต่างประกาศในหลักการเดียวกัน คือ หลักยึดเอกภาพของพระเจ้า ดังนั้นจึงต้องรับการลงโทษของข้าอย่างแน่นอน
๑๕. และพวกเหล่านี้ ไม่รอสิ่งใดเลยนอกจากเสียงกัมปนาทครั้งเดียวของอิสรอฟีล อันเป็นการเป่าสังข์ครั้งที่สองซึ่งเป็นสัญญาณแห่งการอุบัติขึ้นของกาลปรภพ อันเสียงกัมปนาทนั้นมันไม่มีการกลับคืนใด ๆ อีกแล้ว มันผ่านไปอย่างรวดเร็วและเหตุการณ์ต่าง ๆ ก็จะดำเนินไปตามที่ถูกกำหนดไว้
๑๖. และพวกเขากล่าวว่า โอ้องค์อภิบาลของเรา โปรดรีบเร่งประทานส่วนรับของเราอันปรากฏในบัญชีความประพฤติของเราให้แก่เราด้วยก่อนที่จะถึงวันสอบสวน



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ ศอด อายะฮฺที่ 17 - 20


คำอ่าน
17. อิศบิรฺ อะลา มายะกูลูนะ วัซกุรฺอับดะนา ดาวูดะ ซัลอัยดิ อิน..นะฮู..เอาวาบ
18. อิน..นา สัคค็อรฺนัลญิบาละ มะอะฮู ยุสับบิหฺนะ บิลอะชียิ วัลอิชรอก
19. วัฏฏ็อยเราะ มะหฺชูเราะตัน..กุลลุลละฮู..เอาวาบ
20. วะชะดัดนา มุลกะฮู วะอาตัยนาฮุลหิกมะตะ วะฟัศลัลคิฏอบ


คำแปล R1.
17. Be patient (O Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam) of what they say, and remember Our slave Dawud (David), endued with power. Verily, he was ever oft-returning in all matters and in repentance (toward Allah).
18. Verily, we made the mountains to glorify Our praises with him [Dawud (David)] in the 'Ashi (i.e. after the mid-day till sunset) and Ishraq (i.e. after the sunrise till mid-day).
19. And (so did) the birds assembled: All with him [Dawud (David)] did turn (to Allah i.e. glorified his praises).
20. We made his Kingdom strong and gave him Al-Hikmah (Prophethood, etc.) and sound judgment in speech and decision.


คำแปล R2.
17. จงอดทนเถิด (มูฮำหมัด) ในสิ่งที่พวกเขาพูด(สบประมาท)และจงระลึกถึงบ่าวของเราคือดาวู๊ดผู้มีพลังเข้มแข็ง แท้จริงเขาเป็นผู้คืนกลับ(สู่อัลเลาะฮฺ)
18. แท้จริงเราได้อำนวยภูเขาต่าง ๆ พร้อมกับเขาให้ทำการกล่าวสดุดีพระบริสุทธิคุณทั้งในยามเย็นและยามเช้า
19. และ(เราได้อำนวยให้)นกถูกรวบรวม(เป็นกลุ่มเพื่อการกล่าวสดุดี) ซึ่งทุกสิ่งล้วนย่อมกลับคืนสู่พระองค์
20. และเราได้เสริมอำนาจของเขา และมอบวิทยญาณแก่เขาอีกทั้งวิธีการสนทนา(เพื่อตอบโต้ด้วยเหตุผลและการออกกฎหมายต่าง ๆ)


คำแปล R3.
17.   (โอ้ นบี) จงอดทนต่อสิ่งที่พวกเขาพูดและจงบอกพวกเขาถึงเรื่องราวของบ่าวของเรา นั่นคือดาวูด ผู้ทรงพลัง เขาเป็นผู้หันเข้าหาอัลลอฮฺในทุก ๆ เรื่อง
18.   เราได้ทำให้ภูเขาสดุดีร่วมกับเขาทั้งในยามค่ำและยามรุ่ง
19.   และพวกนกก็มาชุมนุมกันโดยทั้งหมดหันมายังการสดุดีของเขา
20.   และเราได้ทำให้อาณาจักรของเขาเข้มแข็งและเราได้ประทานวิทยปัญญาและความสามารถในการตัดสินที่ถูกต้องแก่เขา


คำแปล R4.
17. เจ้า (มุฮัมมัด) จงอดทนต่อสิ่งที่พวกเขากล่าว และจงรำลึกถึงบ่าวของเรา ดาวูด ผู้ทรงพลัง (ในการปฏิบัติศาสนกิจ) แท้จริงเขาเป็นผู้ผินหน้าเข้าหาอัลลอฮฺเสมอ
18. แท้จริง เราได้ทำให้ภูเขาแซ่ซ้องสดุดีพร้อมกับเขา ทั้งในยามพลบค่ำและยามรุ่งอรุณ
19. และ (เราได้ทำให้) นกมารวมกันทั้งหมด เชื่อฟังเขา
20. และเราได้ทำให้อาณาจักรของเขาเข้มแข็ง และเราได้ให้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่เขา และการตัดสินชี้ขาดในเรื่องต่าง ๆ


คำแปล R5.
๑๗. เจ้าจงอดทนเถิดบนสิ่งที่พวกเขาพูดกันและโอ้มุฮำมัดเจ้าจงระลึกถึงเรื่องราวของบ่าวแห่งเราคือ นบีดาวุดผู้มีพลังมหาศาลในการประกอบความดีงามแท้จริงตัวเขาเป็นผู้มีจิตกลับคืนสู่อัลเลาะห์ตลอดเวลา
๑๘. แท้จริงเราได้อำนวยให้ภูเขาทำการกล่าวสดุดีพระบพิตรธิคุณแห่งอัลเลาะห์พร้อมกับเขาทั้งยามค่ำและยามเช้าเมื่อตะวันได้ปรากฏชัดแล้ว
๑๙. และอำนวยให้นกถูกต้อนให้รวมกันกับเขาเพื่อร่วมกล่าวสดุดีซึ่งทั้งหมดนั้นต่างก็ยอมกลับคืนเพื่อรับคำสั่งของเขาเป็นอันดี
๒๐. และเราได้เสริมอำนาจของเขาให้มั่นคงโดยมีทหารรักษาการและกองทัพมหาศาลลเราประทานวิทยญาณแก่เขาและความชัดเจนในการสนทนาสามารถทำความเข้าใจกับผู้อื่นอย่างสมบูรณ์



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ ศอด อายะฮฺที่ 21 - 23


คำอ่าน
21. วะฮัลอะตากะ นะบะอุลค็อสมิ อิซตะเสาวะรุลมิหฺรอบ
22. อิซดะเคาะลู อะลาดาวูดะ ฟะฟะซิอะ มินฮุม กอลู ลาตะค็อฟ ค็อศมานิ บะฆอ บะอฺฎุนา อะลาบะอฺฎิน..ฟะหฺกุม บัยนะนาบิลหักกิ วะลาตุสฏิฏ วะฮฺดินา..อิลสสะวา..อิศศิรอฏ
23. อิน..นะ ฮาซา..อะคี ละฮูติสอู..วะติสอูนะ นะอฺญะเตา..วะลิยะ นะอฺญะตู..วาหิดะฮฺ ฟะกอละ อักฟิลนีฮา วะอัซซะนี ฟิลคิฏอบ


คำแปล R1.
21. And has the news of the litigants reached you? When they climbed over the wall into (His) Mihrab (a praying place or a private room,).
22. When they entered in upon Dawud (David), he was terrified of them, they said: "Fear not! (we are) two litigants, one of whom has wronged the other, therefore judge between us with truth, and treat us not with injustice, and guide us to the right way.
23. Verily, This brother (in religion) has ninety nine ewes, while I have (only) one ewe and he says: "Hand it over to me, and he overpowered me in speech."


คำแปล R2.
21. และเจ้า(มูฮำหมัด)รู้ข่าวการตอบโต้(ระหว่างตัวเขากับมลาอิกะฮฺสองท่าน)ที่แปลงมาเป็นชายหนุ่มบ้างไหม? เมื่อพวกเขาได้อยู่ในห้องนมัสการ(ของดาวู๊ด)
22. คือเมื่อพวกเขาเข้าไปพบกับดาวู๊ด ดาวู๊ดก็ตกใจกลัวพวกเขา พวกเขากล่าวว่า “ท่านอย่ากลัวไปเลย! เราสองคนนี้เป็นคู่โต้แย้ง ซึ่งต่างฝ่ายต่างละเมิดซึ่งกันและกัน ดังนั้นขอท่านจงพิพากษาระหว่างเราด้วยสัจจะเถิด ท่านอย่าได้ละเมิด และท่านจงชี้นำเราไปยังแนวทางอันเสมอภาคเถิด
23. กล่าวคือ แท้จริงพี่น้องของฉันคนนี้เขามีแกะตัวเมียถึง 99 ตัว ส่วนฉันมีเพียงตัวเดียวเท่านั้น ต่อมาเขาก็กล่าวแก่ฉันว่า “ท่านจงมอบแกะตัวนั้นให้ฉันด้วยเถิด” พร้อมกันนั้นเขาก็สามารถเอาชนะฉันได้ในการโต้ตอบ (จนฉันต้องมอบแกะตัวนั้นให้เขาไปอย่างจำยอม)

 
คำแปล R3.
21. และเคยมีเรื่องราวของคู่พิพาทที่ปีนกำแพงเข้าไปในห้องชั้นบนของเขามาถึงเจ้าบ้างไหม?
22. เมื่อพวกเขาได้มาถึงตัวดาวูด เขาก็ตกใจที่ได้เห็นคนเหล่านั้น พวกเขากล่าวว่า “อย่ากลัวเลยท่าน เราเป็นคู่พิพาทกัน ฝ่ายหนึ่งได้ล่วงเกินอีกฝ่ายหนึ่ง ดังนั้น จงช่วยตัดสินระหว่างเราด้วยความยุติธรรมโดยไม่ลำเอียง และโปรดแนะนำเราไปสู่หนทางที่ถูกต้องด้วยเถิด
23. นี่คือพี่ชายของฉัน เขามีแกะ 99 ตัว และฉันมี 1 ตัว เขาบอกกับฉันว่า ‘เอาแกะตัวนี้มาให้ฉัน’ และเขาก็เอาชนะฉันในการโต้เถียง”


คำแปล R4.
21. และมีเรื่องของผู้โต้เถียงมาถึงเจ้า(มุฮัมมัด)บ้างไหม? เมื่อพวกเขาปีนข้ามกำแพงไปที่มิหฺรอบ (ของดาวูด)
22. เมื่อพวกเขาได้เข้ามาหาดาวูด เขาตกใจกลัวพวกเขา พวกเขากล่าวว่า “อย่าได้กลัวเลย เราคือผู้โต้เถียงสองคนคนหนึ่งในพวกเราได้ล่วงเกินอีกคนหนึ่ง ดังนั้น ได้โปรดตัดสินระหว่างพวกเราด้วยความยุติธรรมและอย่าได้ลำเอียงไม่เที่ยงธรรม และจงชี้แนะเราสู่แนวทางที่เที่ยงตรง”
23. “แท้จริงนี่คือพี่ชายของฉัน เขามีแกะตัวเมีย 99 ตัว และฉันมีแกะตัวเมียตัวเดียวแล้วเขายังพูดว่า เอามันมาให้ฉันซิ และเขาได้ข่มขู่ฉันในคำพูด”


คำแปล R5.
๒๑. โอ้มุฮำมัดข่าวของการโต้แย้งเกี่ยวกับนบีดาวุดไม่มาถึงเจ้าดอกหรือ เมื่อครั้งที่พวกเหล่านั้นมุ่งสู่ผนังของสถานนมัสการสำหรับนบีดาวุด เพราะเหตุพวกเขาถูกยับยั้งไว้โดยผู้เฝ้าประตูมิให้พวกเขาเข้าไปทางประตู เนื่องจากขณะนั้นนบีดาวุดกำลังประกอบการนมัสการอยู่ในสถานที่ดังกล่าว พวกเขาจึงลงมาจากผนังด้านบนของสถานนมัสการดังกล่าว
๒๒. เมื่อพวกเหล่านั้นได้เข้าไปหานบีดาวุดนบีดาวุดก็ตกใจกลัวพวกเขาเพราะการเข้ามาหาอย่างปกติวิสัย แทนที่จะเข้าทางประตู กลับลงมาจากเบื้องบน แต่พวกนั้นกล่าวว่า ท่านอย่ากลัวไปเลยเราเป็นคู่กรณีที่จะมาให้ท่านตัดสินพวกเรา กล่าวคือพวกเราต่างฝ่ายต่างก็ฉ้อฉลกันเอง ดังนั้นท่านจงตัดสินระหว่างพวกเราโดยสัจจะ และท่านอย่าล่วงละเมิดต่อบทบัญญัติในการตัดสินครั้งนี้และท่านจงชี้นำพวกเราไปสู่หนทางอันเที่ยงตรงเถิด
๒๓. ความฉ้อฉลของพวกเราดังกล่าวอันเป็นปัญหาที่จะนำมาให้ท่านตัดสินก็คือแท้จริงพี่น้องของฉันคนนี้เขามีผู้หญิงอันเปรียบดังนางสมันถึงเก้าสิบเก้าตัว ส่วนตัวฉันมีเพียงนางสมันเดียวเท่านั้น ต่อมาพี่น้องของฉันคนนั้น เขาก็กล่าวกับฉันว่า ท่านจงมอบให้ฉันอุปถัมภ์นางเถิดโดยยกผู้หญิงของท่านให้แก่ฉันเสียและพี่น้องของฉันคนเดิมเขาได้ชนะฉันในการสนทนาโต้ตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเขามีคารมเหนือกว่าฉัน เขาแสดงเหตุผลจนฉันไม่สามารถจะตอบโต้ได้ ฉันจึงต้องยอมให้เขาพรากผู้หญิงของฉันไปจากฉัน



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ ศอด อายะฮฺที่ 24 - 27


คำอ่าน
24. กอละ ละก็อดเซาะละมะกะ บิสุอาลิ นะอฺญะติกะ อิลานิอาญิฮฺ วะอิน..นะกะษีร็อม..มินัลคุละฏอ...อิ ละยับฆี บะอฺฎุฮุม อะลาบะอฺฎิน อิลลัลละซีนะอามะนู วะอะมิลุศศอลิหาติ วะเกาะลีลุม..มาฮุม วะซ็อน..นะดาวูดุ อัน..นะมา ฟะตัน..นาฮุ ฟัสตัฆฟะเราะ ร็อบบะฮู วะค็อรฺเราะ รอกิเอา..วะอะนาบ
25. ฟะเฆาะฟัรฺนาละฮู ซาลิกะ วะอิน..นะละฮู อิน..ดะนา ละซุลฟา วะหุสนะมะอาบ
26. ยาดาวูดุ อิน..นาญะอัลนากะ เคาะลีฟะตัน..ฟิลอัรฺฎิ ฟะหฺกุม..บัยนัน..นาสิ บิลหักกิ วะลาตัตตะบิอิลฮะวา ฟะยุฎิลละกะ อัน..สะบีลิลลาฮฺ อิน..นัลละซีนะยะฎิลลูนะ อัน..สะบีลิลลาฮิ ละฮุม อะซาบุน..ชะดีดุม..บิมานะสู เยามัลหิสาบ
27. วะมาเคาะลักนัสสะมา...อะ วัลอัรฺเฎาะวะมาบัยนะฮุมาบาฏิลา ซาลิกะซ็อนนุลละซีนะ กะฟะรู ฟะวัยลุลลิลละซีนะ กะฟะรู มินัน..นารฺ


คำแปล R1.
24. [Dawud (David)] said (immediately without listening to the opponent): "He has wronged you in demanding your ewe in addition to his ewes. And, verily, many partners oppress one another, except those who believe and do righteous good deeds, and they are few." and Dawud (David) guessed that we have tried him and he sought forgiveness of his Lord, and he fell down prostrate and turned (to Allah) in repentance.
25. So we forgave him that, and verily, for him is a near access to us, and a good place of (Final) return (Paradise).
26. O Dawud (David)! Verily! We have placed you as a successor on earth, so judge you between men in truth (and justice) and follow not your desire for it will mislead you from the Path of Allah. Verily! Those who wander astray from the Path of Allah (shall) have a Severe torment, because they forgot the Day of reckoning.
27. And we created not the heaven and the earth and all that is between them without purpose! That is the consideration of those who disbelieve! Then woe to those who disbelieve (in Islamic Monotheism) from the Fire!


คำแปล R2.
24. นบีดาวู๊ดกล่าวว่า “ขอสาบาน เขาคนนั้นได้ทุจริตแก่ท่านอย่างแน่นอน โดยเหตุที่เขาขอแกะตัวเมียของท่านมารวมกับฝูงแกะตัวเมียของเขา(ซึ่งมีอยู่แล้วตั้ง 99 ตัว) และแท้จริงส่วนมากของคนที่อยู่รวมกันนั้นมักจะละเมิดสิทธิของกันและกันเสมอ ยกเว้นเพียงมวลชนผู้มีศรัทธาและประพฤติแต่ความดีงามเท่านั้น แต่พวกเขาก็มีน้อยเหลือเกิน!” และดาวู๊ดเข้าใจว่าแท้จริงเราเพียงทดสอบเขาเท่านั้น(ในการส่งมลาอิกะฮฺทั้งสองมาสอบถามปัญหาเพื่อการชี้ขาดดังกล่าวแล้ว) ดังนั้นเขาจึงขออภัยต่อองค์อภิบาลของเขา และทรุดกายลงกราบ(ต่ออัลเลาะฮฺ) และคืนกลับ(สู่อัลเลาะฮฺด้วยการสารภาพผิด)
25. ดังนั้นเราจึงให้อภัยแก่เขา และแท้จริงเขานั้นได้อยู่ใกล้ชิดกับเราอย่างยิ่ง และเป็นที่กลับคืนที่ดีงามที่สุด(สำหรับเขาในวันชาตหน้า)
26. โอ้ดาวู๊ด! แท้จริงเราได้แต่งตั้งเจ้าให้เป็นผู้สืบทอด(อำนาจบริหาร)ในแผ่นดิน ดังนั้น เจ้าจงนำความจริงมาตัดสินระหว่างมวลมนุษย์เถิด และอย่า(ตัดสิน)ตามอารมณ์ อันจะเป็นเหตุให้เจ้าหลงออกนอกทางของอัลเลาะฮฺ แท้จริงบรรดาผู้หลงออกนอกทางของอัลเลาะฮฺนั้น พวกเขาย่อมได้รับการลงโทษอันสาหัส เพราะเหตุที่พวกเขาลิมวันสอบสวน
27. และเรามิได้สร้างฟ้าและแผ่นดินรวมทั้งสรรพสิ่งระหว่างมันทั้งสองอย่างไร้สาระ นั้นเป็นความเข้าใจของจำพวกที่ไร้ศรัทธา ดังนั้นความหายนะจึงประสบแก่พวกไร้ศรัทธาจาก(การลงโทษของ)นรก


คำแปล R3.
24. ดาวูดได้ตอบว่า “แน่นอนเขาไม่เป็นธรรมต่อเจ้าที่ต้องการเอาแกะของเจ้าไปรวมกับแกะของเขา ความจริงแล้วคนที่อยู่ร่วมกันมักจะละเมิดต่อกันและกัน เว้นแต่บรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดี แต่คนเช่นนี้มีน้อย” (ขณะที่เขากำลังพูดเรื่องนี้อยู่)ดาวูดก็ตระหนักได้ว่าความจริงแล้ว เรากำลังทดสอบเขา ดังนั้น เขาจึงขออภัยต่อพระผู้อภิบาลของเขาและได้โค้งคารวะและได้หันกลับ(ไปยังพระองค์)
25. ดังนั้นเราจึงได้ให้อภันเขาในเรื่องนั้น และแน่นอนเขาย่อมมีความใกล้ชิดกับเราและสถานที่พำนักอันดีเลิศ
26. (เราได้กล่าวว่า) “ดาวูดเอ๋ย เราได้แต่งตั้งเจ้าให้เป็นตัวแทนในแผ่นดินนี้ ดังนั้นจงปกครองผู้คนด้วยความยุติธรรมและจงอย่าปฏิบัติตามอารมณ์ใฝ่ต่ำ เพราะมันจะนำเจ้าให้หลงไปจากแนวทางของอัลลอฮฺ สำหรับบรรดาผู้หลงไปจากแนวทางของอัลลอฮฺนั้น พวกเขาจะได้รับการลงโทษอย่างแสนสาหัส เพราะพวกเขาลิมวันแห่งการชำระบัญชี”
27. เราไม่ได้สร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินและทุกสิ่งที่อยู่ระหว่างมันทั้งสองขึ้นมาอย่างไร้สาระ นั่นคือสิ่งที่บรรดาผู้ปฏิเสธนึกคิดกันขึ้นมาเอง ดังนั้นความหายนะจากไฟนรกจงประสบแก่บรรดาผู้ปฏิเสธเหล่านั้น


คำแปล R4.
24. เขา (ดาวู๊ด) กล่าวว่า “แน่นอน เขาอธรรมต่อท่านในการขอให้นำแกะของท่านไปรวมกับแกะของเขา และแท้จริงส่วนมากของผู้มีหุ้นส่วนร่วมกัน บางคนในพวกเขามักละเมิดสิทธิของอีกคนหนึ่ง เว้นแต่บรรดาผู้ศรัทธาและประกอบความดีทั้งหลาย และพวกเขาเช่นนี้มีน้อย” และดาวู๊ดรู้สึกว่าเราได้ทดสอบเขา ดังนั้น เขาจึงได้ขออภัยต่อพระเจ้าของเขา และเขาได้ก้มลงรูกัวะและทบทวนความผิดด้วยความเสียใจ
25. ดังนั้น เราได้ให้อภัยแก่เขาในเรื่องนั้น และแท้จริง สำหรับเขานั้นย่อมอยู่ใกล้ชิด ณ ที่เรา และทางกลับที่ดียิ่ง (ในปรโลก)
26. โอ้ดาวู๊ดเอ๋ย ! เราได้แต่งตั้งเจ้าให้เป็นตัวแทนในแผ่นดินนี้ ดังนั้น เจ้าจงตัดสินคดีต่าง ๆ ระหว่างมนุษย์ด้วยความยุติธรรม และอย่าปฏิบัติตามอารมณ์ใฝ่ต่ำ มันจะทำให้เจ้าหลงไปจากทางของอัลลอฮฺ แท้จริงบรรดาผู้ที่หลงไปจากทางของอัลลอฮฺนั้น สำหรับพวกเขาจะได้รับการลงโทษอย่างสาหัส เนื่องด้วยพวกเขาลืมวันแห่งการชำระบัญชี
27. และเรามิได้สร้างชั้นฟ้าและแผ่นดิน และสิ่งที่อยู่ในระหว่างทั้งสองนั้นโดยไร้สาระ นั่นคือการนึกคิดของบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา ดังนั้น ความหายนะคือไฟนรกจงประสบแก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา


คำแปล R5.
๒๔. นบีดาวุด เขากล่าวตอบว่า ขอสาบาน พี่น้องของท่านคนนั้นเขาฉ้อฉลท่าน โดยแท้จริง ในการขอนางสมันของท่านไปอยู่ร่วมกับบรรดาสมันของเขาที่มีอยู่แล้วถึงเก้าสิบเก้าตัวดังกล่าวและแท้จริงบรรดาผู้อยู่ร่วมกันส่วนใหญ่นั้นมักจะมีการฉ้อฉลซึ่งกันและกันเสมอ ยกเว้นบรรดาผู้มีศรัทธาและประพฤติความดีงามเท่านั้น แต่พวกเขาก็มีจำนวนน้อยเหลือเกิน เมื่อคู่กรณีทั้งสองได้รับฟังแล้วก็กลับสภาพเป็นมลาอิกะห์แล้วเหาะกลับขึ้นไปสู่ฟากฟ้าหลังจากที่ได้พูดขึ้นว่า “บุรุษหนึ่งได้ตัดสินตัวของเขาเอง” นบีดาวุดจึงได้สติ นึกถึงเรื่องราวของตัวเองได้ เพราะเรื่องทั้งหมดที่มลาอิกะห์ทั้งสองได้นำมาเล่านั้นที่จริงเป็นเรื่องราวของนบีดาวูดเอง ซึ่งมีภรรยาอยู่แล้วถึง ๙๙ คน แต่ก็ไปขอหญิงซึ่งเป็นภรรยาคนที่หนึ่งร้อย อัลเลาะห์ทรงโองการว่า และนบีดาวุดมีความมั่นใจว่า เราได้ทำการทดสอบจิตใจของเขาอย่างแน่นอนจึงดลใจให้เขาเกิดความรักในผู้หญิงซึ่งเป็นภรรยาของผู้อื่นเช่นนั้น ดังนั้น เขาจึงขออภัยต่อองค์อภิบาลของเขาและเขาทรุดกายลงกราบต่อองค์พระผู้อภิบาลด้วยสำนึกในความผิดนั้นและเขาได้กลับใจของเขาสู่พระองค์โดยแท้จริง
๒๕. ดังนั้นเราจึงให้อภัยความผิดนั้นแก่เขาและแท้จริงตัวเขานั้นมีความใกล้ชิดกับเรา โดยได้เพิ่มพูนความดีในโลกนี้และมีที่กลับที่ดีงามที่สุดในปรโลก
๒๖. โอ้ ดาวุด แท้จริงเราบันดาลเจ้าให้เป็นผู้สืบทอดการบริหารในแผ่นดิน ดังนั้นเจ้าจงตัดสินกรณีพิพาทระหว่างมนุษย์ทั้งหลายด้วยสัจจะเถิด และอย่าได้ตัดสินตามอารมณ์ของเจ่าเป็นอันขาดอันจักทำให้เจ้าหลงออกจากทางของอัลเลาะห์ แท้จริงผู้หลงออกจากทางของอัลเลาะห์พวกเขาย่อมประสบกับกสารลงโทษอันทรมานยิ่ง เพราะเหตุพวกเขาลืมวันแห่งการสอบสวนคือ วันปรภพ อันเป็นผลฝห้พวกเขาไม่มีศรัทธาต่อคำสอนของศาสนทูตในโลกนี้
๒๗. และเราไม่บันดาลฟากฟ้า แผ่นดินและสรรพสิ่งที่มีอยู่ในระหว่างทั้งสองดูสูญเปล่า นั้นเป็นความเข้าใจของบรรดาผู้เนรคุณ ซึ่งคิดว่าสิ่งเหล่านี้มีขึ้นอย่างไร้จุดหมายและสูญเปล่า ดังนั้น เหวหนึ่งจากนรกจึงเป็นของบรรดาผู้เนรคุณอย่างแน่นอน



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ ศอด อายะฮฺที่ 28 - 29


คำอ่าน
28. อัมนัจญอะลุลละซีนะ อามะนู วะอะมิลุศศอลิหาติ กัลป์มุฟสิดีนะ ฟิลอัรฺฎิ อัมนัจญอะลุลมุตตกีนะ กัลฟุจญารฺ
29. กิตาบุน อัน..ซัลนาฮุ อิลัยกะ มุบาเราะกุลลิยุดับบะรู..อายาติฮี วะลิยะตะซักกะเราะ อุลุลอัลบาบ


คำแปล R1.
28. Shall we treat those who believe (in the Oneness of Allah Islamic Monotheism) and do righteous good deeds, as Mufsidun (those who associate partners in worship with Allah and commit crimes) on earth? Or shall we treat the Muttaqun (pious - see V.2:2), as the Fujjar (criminals, disbelievers, wicked, etc)?
29. (This is) a Book (the Qur'an) which we have sent down to you, full of blessings that they may ponder over its verses, and that men of understanding may remember.


คำแปล R2.
28. สมควรหรือที่เราจะทำให้มวลผู้มีศรัทธาและประพฤติความดีงามต่าง ๆ เหมือนกับบรรดาจำพวกบ่อนทำลายในแผ่นดิน? หรือว่าเราจะทำให้บรรดาผู้ยำเกรงเหมือนกับบรรดาผู้ชั่วช้า
28. (อัลกุรอานนี้)เป็นคมภีร์ที่เราได้ลงมาให้เจ้า ซึ่งมีคุณอนันต์ซึ่งพวกเขาจะได้ใคร่ครวญในโองการต่าง ๆ ของคัมภีร์นี้ และเพื่อบรรดาผู้มีวิจารณญาณทั้งหลายจะได้สำนึก

 
คำแปล R3.
28. จะให้เราปฏิบัติต่อผู้ศรัทธาและกระทำความดีเช่นเดียวกับผู้สร้างความเสียหายในแผ่นดินกระนั้นหรือ? จะให้เราปฏิบัติต่อบรรดาผู้ยำเกรงเช่นเดียวกับผู้ทำบาปกระนั้นหรือ?
29. นี่คือคัมภีร์อันจำเริญ ซึ่งเราได้ประทานลงมายังเจ้า(โอ้มุฮัมมัด) เพื่อที่คนเหล่านี้จะได้พิจารณาอายะฮฺทั้งหลายของมัน และเพื่อคนท่ามีสติปัญญาจะได้รับบทเรียนจากมัน


คำแปล R4.
28. จะให้เราปฏิบัติต่อบรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดีทั้งหลาย เช่นบรรดาผู้บ่อนทำลายในแผ่นดินกระนั้นหรือ? หรือว่าจะให้เราปฏิบัติต่อบรรดาผู้ยำเกรง เช่นบรรดาคนชั่วกระนั้นหรือ?
29. คัมภีร์(อัลกุรอาน) เราได้ประทานลงมาให้แก่เจ้าซึ่งมีความจำเริญ เพื่อพวกเขาจะได้พินิจพิจารณาอายาต ต่าง ๆ ของอัลกุรอานและเพื่อปวงผู้มีสติปัญญาจะได้ใคร่ครวญ


คำแปล R5.
๒๘. หรือพวกเขาคิดว่าเราจะบันดาลผู้มีศรัทธาและปฏิบัติความดีทั้งหลาย ให้เหมือนกับบรรดาผู้บ่อนทำลายในแผ่นดิน หรือเราจะดลบันดาลบรรดาผู้ยำเกรง ให้เหมือนกับบรรดาพวกอันธพาลเราย่อมไม่ทำเช่นนั้นแน่นอน
๒๙. นี้คือคัมภีร์ซึ่งเราได้ประทานแก่เจ้าเป็นคัมภีร์ที่มีความมงคล เพื่อพวกเขาจะได้วิเคราะห์ถึงโองการต่าง ๆ ของคัมภีร์นั้น แล้วพวกเขาจะได้มีศรัทธาและบรรดาผู้มีวิจารณญาณพึงสำนึกเถิด



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ ศอด อายะฮฺที่ 30 - 33


คำอ่าน
30. วะวะฮับนาลิดาวูดะสุลัยมาน นิอฺมัลอับดุ อิน..นะฮู..เอาวาบ
31. อิซอุริเฎาะอะลัยฮิ บิลอะชียิศศอฟินาตุลญิยาด
32. ฟะกอละ อิน..นี..อะหฺบับตุ หุบบัลค็อยริ อันซิกริร็อบบี หัตตาตะวาร็อต บิลหิญาบ
33. รุดดูฮา อะลัยยะ ฟะเฏาะฟิเกาะมัสหัม..บิสสูกิ วัลอะอฺนาก


คำแปล R1.
30. And to Dawud (David) we gave Sulaiman (Solomon). How excellent slave! Verily, he was ever oft-returning in repentance (to Us)!
31. When there were displayed before him, in the afternoon, well trained horses of the highest breed [for Jihad (holy fighting in Allah's Cause)].
32. And he said: "Alas! I did love the good (these horses) instead of remembering my Lord (in my 'Asr prayer)" till the time was over, and (the sun) had hidden in the veil (of night).
33. Then he said "Bring them (horses) back to me." Then he began to pass his hand over their legs and their necks (till the end of the display).


คำแปล R2.
30. และเราได้ให้ดาวู๊ด(มีบุตรชายคนหนึ่งชื่อ)สุไลมาน เขาเป็นบ่าวที่ประเสริฐสุด อีกทั้งมีจิตกลับคืน(สู่เราด้วยการสารภาพผิด)
31. เมื่อนบีสุไลมานได้ถูกเสนอในตอนเย็นวันหนึ่งให้ฝูงมาที่มีฝีเท้าปราดเปรียว
32. แล้วเขากล่าวว่า “แท้จริงฉันลุ่มหลงสิ่งที่ดี(คือม้าเหล่านี้ด้วยการชื่นชมกับพวกมันจนลืม)จากการรำลึกถึงองค์อภิบาลของฉัน(โดยไม่ได้ทำนมัสการตอนเย็น) จนกระทั่งตะวันได้ปิดตัวมืดลงด้วยฉากกั้นแห่งรัตติกาล
33. (จากนั้นนบีสุไลมานได้กล่าวกับคนของเขาว่า) “พวกท่านจงนำมาเหล่านั้นกลับคืนมายังข้าเถิด แล้วเขาก็จัดการลูบขาและต้นคอของม้า(ทีละตัวทีละตัวด้วยความรักและชื่นชม)


คำแปล R3.
30. และเราได้ประทาน(บุตรอย่าง)สุลัยมาน บ่าวผู้ประเสริฐแก่ดาวูด เขาเป็นผู้หันหน้าหาพระผู้อภิบาลของเขาเสมอ
31. จงนึกถึงในตอนที่ในเย็นวันหนึ่งได้มีการนำม้าพันธุ์ดีมาให้แก่เขา
32. และเขากล่าวว่า “ฉันรักทรัพย์สมบัตินี้ เนื่องจากการระลึกถึงพระผู้อภิบาลของฉัน” ดังนั้นเมื่อม้าได้ลับไปจากสายตา (เขาก็ได้บัญชาว่า)
33. “จงนำพวกมันกลับมาให้ฉัน” หลังจากนั้นเขาก็เริ่มลูบขาและคอของพวกมัน


คำแปล R4.
30. เราได้ประทาน (บุตร) คือสุลัยมานบ่าวผู้ประเสริฐแก่ดาวู๊ด แท้จริงเขาหันหน้าเข้าสู่เราเสมอ
31. และจงรำลึกเมื่อม้าพันธุ์ดีถูกนำมาเสนอแก่เขาในยามเย็นวันหนึ่ง
32. เขากล่าวว่า “แท้จริงฉันรักทรัพย์สมบัติ (หมายถึงม้า) จนมันทำให้ฉันลืมการรำลึกถึงพระเจ้าของฉัน” จนกระทั่งดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า
33. “จงนำมันกลับมาให้ฉัน” แล้วเขาก็เริ่มลูบขาและคอของมัน


คำแปล R5.
๓๐. และเราได้ประทานแก่นบีสุไลมานให้เป็นบุตรของนบีดาวุดเขาเป็นบ่าวที่ดีที่สุด แท้จริงเขานั้นเป็นผู้มีจิตคืนกลับสู่อัลเลาะห์เสมอ เขากล่าวสดุดีพระบพิธิคุณแห่งอัลเลาะห์ตลอดเวลา
๓๑. โอ้นบีมุฮำมัด เจ้าจงระลึกเถิด เมื่อได้ถูกเสนอบรรดาฝูงม้าฝีเท้าจัดแก่เขาในตอนบ่ายซึ่งมีจำนวนถึงพันตัว ม้าเหล่านี้ได้ถูกเสนอแก่นบีดาวุด หลังจากท่านทำละหมาดบ่ายเสร็จแล้ว เพื่อการทดสอบฝีเท้าของมัน ซึ่งท่านทดสอบเรื่อยไปจนได้ ๙๐๐ ตัวก็ค่ำพอดี ทำให้ท่านไม่ได้ละหมาดอัศริ
๓๒. เขาจึงพูดขึ้นว่า แท้จริงฉันปรารถนาจะคัดเลือกม้าที่ดีจนฉันละเลยต่อการระลึกถึงองค์อภิบาลของฉันเอง จนกระทั่งดวงตะวันได้ลับไปกับฉากกำบังจากสายตามองไม่เห็น
๓๓. พวกเจ้าจงนำมันคืนมาให้ข้าซึ่งพวกนั้นก็นำม้ามาคืนแก่นบีดาวุดแล้วเขาก็จัดการเชือดม้าตัวนั้น และฟันลำแข้งและต้นคอของม้าเพื่อทำกุรบานเพราะมันทำให้เขาต้องทิ้งละหมาดอัศริ


หมายเหตุผู้นำเสนอ : เคยได้ยินมาแต่เล็ก ๆ ว่า นบีดาวูดเชือดม้าเพราะม้าทำให้เกิดความลุ่มหลงจนขาดละหมาด แต่จากการให้ความหมายของกุรอานฉบับแปลทั้ง 4 ฉบับแรก ให้ความหมายว่า ลูบขาและคอม้าด้วยความชื่นชม มีฉบับที่ 5 ฉบับเดียวที่บอกว่าเชือดขาและคอม้า ผมเห็นจะต้องเปลี่ยนความเชื่อใหม่เสียแล้ว

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ ศอด อายะฮฺที่ 34 - 40


คำอ่าน
34. วะละก็อดฟะตัน..นาสุลัยมานะ วะอัลก็อยนาอะลากุรสียิฮี ญะสะดัน..ษุม..มะอะนาบ
35. กอละ ร็อบบิฆฟิรฺลี วะฮับลี มุลกัลป์ ลายัม..บะฆีลิอะหะดิม..มิม..บะอฺดี อิน..นะกะอัน..ตัลวะฮฺฮาบ
36. ฟะสัคค็อรฺนาละฮุรฺรีหะ ตัจญรี บิอัมริฮี รุคอ...อัน หัยษุ อะศอบ
37. วัชชะยาฏีนะ กุลละบัน..นาอิว..วะฆ็อววาศ
38. วะอาเคารีนะ มุก็อรฺเราะนีนะ ฟิลอัศฟาด
39. ฮาซาอะฏอ..อุนา ฟัมนุน..นะ เอาอัมสิก บิฆ็อยริหิสาบ
40. วะอิน..นะละฮู อิน..ดะนาละซุลฟา วะหุสนะมะอาบ


คำแปล R1.
34. And, indeed we did try Sulaiman (Solomon) and we placed on his Throne Jasadan (a devil, so he lost his Kingdom for a while) but he did return (to his Throne and Kingdom by the Grace of Allah and he did return) to Allah with obedience and in repentance.
35. He said: "My Lord! Forgive me, and bestow upon me a Kingdom such as shall not belong to any other after me: Verily, you are the Bestower."
36. So, we subjected to him the wind, it blew gently to his order whithersoever He willed,
37. And also the Shayatin (devils) from the jinns (including) every kind of builder and diver,
38. And also others bound in fetters.
39. [Saying of Allah to Sulaiman (Solomon)]: "This is our gift, so spend you or withhold, no account will be asked."
40. And verily, he enjoyed a near access to us, and a good final return (Paradise).


คำแปล R2.
34. ขอยืนยัน แท้จริงเราได้ทดสอบสุไลมาน และเราได้ให้มีร่าง ๆ หนึ่ง(ที่ไม่ครบคุณลักษณะของคน)มานั่งบนเก้าอี้ของเขา หลังจากนั้นเขากลับมา(ยังเรา) 
35. พร้อมกลับกล่าวว่า “โอ้องค์อภิบาล! โปรดยกโทษให้ข้าพระเจ้าด้วยเถิด และโปรดประทานอาณาจักรหนึ่งแก่ข้าพเจ้า ซึ่งจะไม่คู่ควรสำหรับผู้ใดภายหลังข้าพเจ้า แท้จริงพระองค์ทรงเป็นผู้ประทานยิ่ง
36. แล้วเราได้บันดาลให้ลมอำนวยประโยชน์แก่เขา โดยมันจะวิ่ง(ไปไหนมาไหน)ตามคำสั่งของเขาอย่างอ่อนโยน ไม่ว่าเขาจะมุ่งไปทางใดก็ตาม
37. และได้ลันดาลให้มารร้ายอำนวยประโยชน์แก่เขาโดย(ให้เขาควบคุมมารร้ายที่)เป็นนักก่อสร้างทุกคน และนักดำน้ำทุกคน (โดยมอบให้แต่ละมารร้ายทำงานตามความถนัดของตน)
38. และยังมีมารร้ายอื่น ๆ ซึ่งถูกร้อยไว้ในตรวน
39. (พร้อมกับเราได้รับสั่งแก่เขาว่า)นี้! คือสิ่งที่เราได้มอบให้ ดังนั้นเจ้าจงเอื้เฟื้อแก่ผู้อื่น หรือเจ้าจงยึดเอาไว้ โดยไม่มีการสอบสวนใด ๆ ทั้งสิ้น
40. และแท้จริงสำหรับนบีสุไลมานนั้น เขามีความใกล้ชิดที่สุดกับเรา และมีที่กลับคืนที่ดีงามที่สุด(ในวันชาติหน้า)


คำแปล R3.
34. และ(จงจำไว้ว่า)เราได้ทดสอบสุลัยมานและได้วางร่างหนึ่งไว้บนบัลลังก์ของเขา หลังจากนั้นเขาก็ได้หันกลับ(ไปยังอัลลอฮฺ)
35. และเขากล่าวว่า “ข้าแต่พระผู้อภิบาล โปรดประทานอภัยแก่ข้าพระองค์และได้โปรดประทานอำนาจแก่ข้าพระองค์อย่างที่ไม่เคยเป็นของใครหลังจากข้าพระองค์ แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงให้ที่แท้จริง”
36. ดังนั้นเราจึงได้ทำให้ลมอยู่ใต้อำนาจของเขา ซึ่งมันจะพัดโชยตามคำบัญชาของเขาไปยังที่ไหนก็ตามที่เขาสั่งมัน
37. และพวกชัยฏอนที่เป็นช่างก่อสร้างและเป็นนักดำน้ำ
38. และพวกอื่น ๆ ที่ถูกล่ามโซ่
39. (เราได้กล่าวแก่เขาว่า) “นี่เป็นของขวัญจากเรา เจ้าจะให้แก่ใครก็ได้ตามที่เจ้าต้องการ และจะไม่ให้แก่ใครก็ได้ตามที่เจ้าต้องการ โดยไม่ต้องได้รับการสอบสวน”
40. แน่นอนเขาอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้ชิดกับเราและเป็นที่พำนักอันดีเลิศ


คำแปล R4.
34. และโดยแน่นอนเราได้ทดสอบสุลัยมาน และเราได้วางร่างหนึ่งไว้บนเก้าอี้ของเขา แล้วเขาก็ทบทวนความผิดด้วยความเสียใจ
35. เขากล่าวว่า “ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงอภัยให้แก่ข้าพระองค์ด้วย ขอพระองค์ทรงประทานอำนาจอันกว้างขวางแก่ข้าพระองค์ ซึ่งไม่คู่ควรแก่ผู้ใดนอกจากข้าพระองค์ แท้จริงพระองค์เท่านั้นเป็นผู้ทรงประทานให้อย่างมากมาย
36. และเราได้ทำให้ลมพัดเฉื่อย ๆ ตามบัญชาของเขาไปยังทิศทางที่เขาต้องการ
37. และ (เราได้ทำให้) บรรดาชัยฏอน (อยู่ใต้คำสั่งของเขา) พวกนั้นทั้งหมดเป็นช่างก่อสร้าง และประดาน้ำ
38. และพวกอื่น ๆ ถูกพันธนาการด้วยโซ่ติดกัน
39. นี่คือการประทานให้ของเรา (แก่สุลัยมาน) ดังนั้นเจ้าจะให้แก่ใครก็ได้ หรือจะยับยั้งไม่ให้ใครก็ได้ โดยเจ้าจะไม่ถูกสอบสวน
40. และแท้จริง สำหรับเขานั้นย่อมอยู่ใกล้ชิด ณ ที่เรา และทางกลับที่ดียิ่ง (ในปรโลก)


คำแปล R5.
๓๔. และแท้จริงเราได้ทดสอบนบีสุไลมานโดยการถอดถอนอำนาจการปกครองของเขา เพราะเขาได้สมรสกับหญิงหนึ่งที่เขารัก แต่หญิงนั้นแอบกราบไหว้บูชารูปเจว็ดในบ้านของเขาโดยไม่รู้เรื่อง เขามีแหวนตราของเขาเพื่อใช้ประทับแสดงอำนาจการปกครองของเขา ซึ่งตามปกติเมื่อเขาจะเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องส้วมก็จะถอดไว้ที่ภรรยาชื่อ “อะมีนะห์” อยู่มาวันหนึ่งเขาก็ถอดแหวนดังกล่าวเพื่อเข้าห้องส้วม และมีญินตรงหนึ่งแปลงร่างเป็นเขามาหยิบเอาไป นบีสุไลมานจึงหมดอำนาจเพราะไม่มีแหวนนั้น และเราได้วางร่างของญินตนนั้นบนเก้าอี้ของสุไลมานโดยมีนกและสัตว์อิ่น ๆ แวดล้อมเต็มไปหมด เพราะสัตว์เหล่านั้นเข้าใจผิดว่าร่างที่อยู่บนเก้าอี้คือนบีสุไลมาน ต่อมานบีสุไลมานได้ออกมายังท้องพระโรง และได้เห็นมีร่างปลอมนั่งอยู่บนเก้าอี้ เขาจึงประกาศตนเองแก่ประชาชนว่า เป็นนบีสุไลมาน แต่พวกนั้นไม่เชื่อ จนกระทั่งเหตุการณ์ได้ดำเนินไปถึงสี่สิบวัน ญินจึงบินไปจากเก้าอี้และทิ้งแหวนไว้ในทะเล ต่อมามีชาวประมงได้ปลาที่กินแหวนนั้น แล้วปลาตัวดังกล่าวก็มาถึงมือของนบีสุไลมาน เขาจึงผ่าท้องปลาได้แหวนกลับคืนมาหลังจากนั้นเขาจึงหวนกลับมาสู่อำนาจต่อไป
๓๕. เขากล่าวว่า โอ้องค์อภิบาล โปรดอภัยโทษแก่ข้าพระองค์เถิด และโปรดประทานอำนาจปกครองแก่ข้าพระองค์ ซึ่งอำนาจนั้นไม่บังควรที่จะเป็นของผู้ใดภายหลังจากข้าพระองค์ แท้จริงพระองค์ทรงเป็นผู้ประทานยิ่งนัก
๓๖. ดังนั้นเราจึงอำนวยลมแก่เขาให้มันอาสาพัดพาตามคำสั่งของเขาอย่างอ่อนโยน นำเขาไปสู่จุดหมายตามแต่เขาประสงค์
๓๗. และเราได้อำนวยบรรดามารร้ายซึ่งมารร้ายเหล่านั้นเป็นนักก่อสร้างและนักดำน้ำทุกตน พวกมันอาสาก่อสร้างสิ่งต่าง ๆ ที่สวยงาม และอาสาดำลงไปในทะเลเพื่องมไข้มุกข์อันมีค่า ตามคำสั่งของนบีสุไลมาน
๓๘. และบรรดามารร้ายอื่น ๆ นอกจากพวกที่กล่าวไว้แล้วนั้น ล้วนถูกล่ามไว้ในตรวน โดยล่ามมือติดไว้กับต้นคอ
๓๙. และอัลเลาะห์ได้โองการแก่นบีสุไลมานว่า นี้คือสิ่งประทานของเราที่ประทานแก่เจ้า ดังนั้นเจ้าจงเอื้อเฟื้อบางส่วนแก่บุคคลที่เจ้าประสงค์เถิด หรือมิฉะนั้นเจ้าก็จงระงับไว้ไม่ให้แก่ผู้ใดเลยก็เป็นสิทธิของเจ้าเอง โดยไม่มีการสอบสวนเพื่อเอาผิดกับเจ้าแต่ปนระการใด ๆ ทั้งสิ้น
๔๐. และแท้จริงสำหรับเขานั้น มีความใกล้ชิดกับเรา ซึ่งเราได้เทิดเกียรติของเขา และเขามีที่กลับคืนอันดีงามยิ่ง



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ ศอด อายะฮฺที่ 41 - 44


คำอ่าน
41. วัซกุรฺอับดะนาอัยยูบะ อิซนาดาร็อบบะฮู อัน..นี มัสสะนิยัชชัยฏอนุ บินุศบิว..วะอะซาบ
42. อุรกุฎบิริจญลิกะ ฮาซามุฆตะสะลุม..บาริดู..วะชะรอบ
43. วะวะฮับนาละฮู อะฮฺละฮู วะมิษละฮุม..มะอะฮุม วะเราะหฺมะตัม..มิน..นา วะซิกรอลิอุลิลอัลบาบ
44. วะคุซบิยะดิกะ ฎิฆษัน..ฟัฎริบบิฮี วะลาตะหฺนัษ อิน..นาวะญัดนาฮุ ศอบิรอ นิอฺมัลอับดุ อิน..นะฮู เอาวาบ


คำแปล R1.
41. And remember our slave Ayub (Job), when he invoked his Lord (saying): "Verily! Shaitan (Satan) has touched me with distress (by losing my health) and torment (by losing my wealth)!
42. (Allah said to him): "Strike the ground with your foot: This is a spring of water to wash in, cool and a (refreshing) drink."
43. And we gave him (back) his family, and along with them the like thereof, as a Mercy from us, and a Reminder for those who understand.
44. "And take in your Hand a bundle of thin grass and strike therewith (your wife), and break not your oath . Truly! We found him patient. How excellent (A) slave! Verily, he was ever oft-returning in repentance (to Us)!


คำแปล R2.
41. และเจ้าจงระลึกถึงบ่าวของเรา คือ อัยยู๊บ เมื่อครั้งที่เขาได้วิงวอนต่อองค์อภิบาลของเขาว่า แท้จริงมารร้ายได้สัมผัสข้าพเจ้าด้วยความลำเค็ญและความทุกข์ทรมาน(จากความเจ็บป่วย)”
42. (เราจึงตอบเขาว่า) “เจ้าจงใช้เท้าของเจ้ากระทืบดินซิ!” (เมื่อเขาทำตามบัญชานั้นก็ปรากฏมีน้ำพุ่งออกมา อัลเลาะฮฺจึงตรัสกับเขาว่า) “นี้เป็นน้ำเย็นเพื่อการอาบน้ำและการดื่ม(เพื่อบำบัดอาการป่วยของเจ้า)”
43. และเราได้มอบแก่เขาให้เขามีครอบครัวของเขา และเพิ่มอีกเท่าหนึ่งของพวกนั้นพร้อมกัน เป็นเมตตาธรรมจากเราและเป็นข้อเตือนสติสำหรับบรรดาผู้มีวิจารณญาณทั้งหลาย
44. และเจ้าจงใช้มือของเจ้าหยิบกิ่งไม้มาสักกำหนึ่งแล้วจงใช้มันเฆี่ยน(ภรรยาของเจ้า) โดยเจ้าอย่าได้ผิดคำสาบานเป็นอันขาด (นบีอัยยู๊บได้สาบานไว้ขณะป่วยว่าจะเฆี่ยนภรรยาหนึ่งร้อยครั้งในความผิดของนางที่กระทำระหว่างเขาป่วยอยู่) แท้จริงเราได้ประจักษ์แล้วว่าเขาเป็นผู้อดทน อีกทั้งเป็นบ่าวที่ดีเยี่ยม แท้จริงเขาเป็นผู้คืนกลับ(สู่อัลเลาะฮฺ)ยิ่งนัก


คำแปล R3.
41. และจงนึกถึงอัยยูบ บ่าวของเราเมื่อเขาวิงวอนต่อพระผู้อภิบาลของเขาโดยกล่าวว่า “มารร้ายชัยฏอนได้ทำให้ฉันได้รับความทุกข์ยากเดือดร้อนและความทรมาน”
42. (เราได้บัญชาเขาว่า) “จงกระทืบเท้าของเจ้าบนแผ่นดิน นี่คือน้ำเย็นสำหรับอาบและดื่ม”
43. และเราได้นำครอบครัวของเขากลับมายังเขาและที่มาพร้อมกับพวกเขามากไปกว่านั้นอีก ในฐานะที่เป็นความเมตตาจากเราและเป็นข้อตักเตือนสำหรับคนที่มีความเข้าใจ
44. (และเราได้บอกเขาว่า) “จงเอาฟางมากำมือหนึ่งแล้วใช้มันฟาดลงไป จงอย่าทำลายคำสาบานของเจ้า” เราพบว่าเขาเป็นผู้อดทน เป็นบ่าวผู้ประเสริฐที่หันไปยังพระผู้อภิบาลของเขาเสมอ


คำแปล R4.
41. และจงรำลึกถึงบ่าวของเรา อัยยู๊บ เมื่อเขาวิงวอนขอต่อพระเจ้าของเขา โดยกล่าวว่า ชัยฏอนมารร้ายได้ทำให้ฉันได้รับความเหนื่อยยาก และทุกข์ทรมาน
42. จงกระทืบ (แผ่นดิน) ด้วยเท้าของเจ้า นี่คือน้ำเย็นสำหรับอาบชำระล้าง และสำหรับดื่ม
43. และเราได้ประทานครอบครัวของเขาให้แก่เขา และเช่นเดียวกับพวกเขาพร้อมพวกเขา เป็นความเมตตาจากเราและเป็นข้อเตือนสติแด่ปวงผู้มีสติทั้งหลาย
44. และจงเอาเศษไม้สักกำหนึ่งแล้วฟาดด้วยมัน และอย่าถอนคำสาบาน แท้จริงเราพบว่า เขา (อัยยู๊บ) เป็นผู้อดทนบ่าวผู้ประเสริฐแท้จริงเขาหันหน้าเข้าสู่เราเสมอ


คำแปล R5.
๔๑. และโอ้มุฮำมัด เจ้าจงระลึกถึงบ่าวของเราซึ่งเขามีนามว่าอัยยู๊บ เมื่อเขาได้วิงวอนต่อองค์อภิบาลของเขาว่า แท้จริงตัวข้าพเจ้านี้มารร้ายได้นำภัยและความทรมานมาสัมผัส ด้วยข้าพเจ้าได้ล้มป่วยอย่างรุนแรงที่สุดในชีวิต จนชาวเมืองขับไล่ออกจากเมือง และไม่มีผู้ใดเข้าใกล้เพราะกลิ่นเหม็น ยกเว้นภรรยาเพียงคนเดียว
๔๒. และมีผู้ออกคำสั่งแก่นบีอัยยู๊บว่า เจ้าจงกระทืบเท้าของเจ้าบนพื้นดินเถิด เมื่อเขากระทืบแล้วก็มีตาน้ำไหลออกมา แล้วก็มีคำสั่งต่อไปอีกว่า นี่คือน้ำอาบสำหรับเจ้า ซึ่งเย็นฉ่ำและเป็นเครื่องดื่ม ระงับความกระหายของเจ้า และเมื่อนบีอัยยู๊บได้อาบน้ำและดื่มน้ำนั้นแล้ว โรคของเขาก็หายเป็นปกติ
๔๓. และเราได้ประทานครอบครัวของเขาให้แก่เขา อันได้แก่บุตรของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งอัลเลาะห์ก็ทรงให้ฟื้นขึ้นมาอีก และทรงประทานเพิ่มให้เขาที่เหมือนกับพวกนั้นพร้อมกันเพื่อเป็นความเมตตาจากเรา และเป็นข้อเตือนใจสำหรับผู้มีวิจารณญาณทั้งหลายจะได้ไตร่ตรอง
๔๔. และเจ้าจงใช้มือของเจ้าหยิบพุ่มไม้สักกำหนึ่ง แล้วใช้มันเฆี่ยนภรรยาของเจ้าเพื่อทำไปตามที่เจ้าได้สาบานว่าจะเฆี่ยนนางหนึ่งร้อยครั้ง โทษฐานที่ในวันหนึ่งนางมาหาเจ้าช้าเกินไปและเจ้าอย่าผิดคำสาบานเป็นอันขาด จากนั้นนบีอัยยู๊บก็เก็บไม้บางประเภทรวมจนครบหนึ่งร้อยดุ้นแล้วเฆี่ยนภรรยาของเขาเพียงครั้งเดียว แท้จริงเราได้พบแล้วว่า เขานั้นเป็นผู้อดทน เขาเป็นบ่าวที่ดีเยี่ยม แท้จริงเขาเป็นผู้คืนกลับสู่อัลเลาะห์ยิ่งนัก


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ ศอด อายะฮฺที่ 45 - 49


คำอ่าน
45. วัซกุรฺอับดะนา อิบรอฮีมะ วะอิสหาเกาะ วะยะอฺกูบะ อุลิลอัยดิ วัลอับศอรฺ
46. อิน..นา..อัคลัศนาฮุม บิคอลิเศาะติน..ซิกร็อดดารฺ
47. วะอิน..นะฮุม อิน..ดะนา ละมินัลมุศเฏาะฟัยนัลอัคยารฺ
48. วัซกุรฺ อิสมาอีละ วัลยะสะอะ วะซัลกิฟลิ วะกุลลุม..มินัลอัคยาร.
49. ฮาซาซิกรู..วะอิน..นะลิลมุตตะกีนะ ละหุสนะมะอาบ


คำแปล R1.
45. And remember our slaves, Ibrahim (Abraham), Ishaque (Isaac), and Ya'qub (Jacob), (all) owners of strength (in worshipping Us) and (also) of religious understanding.
46. Verily, We did choose them by granting them (a good thing, i.e.) the remembrance of the home [in the Hereafter and they used to make the people remember it, and also they used to invite the people to obey Allah and to do good deeds for the Hereafter].
47. And they are with Us, verily, of the chosen and the best!
48. And remember Isma'il (Ishmael), Al-Yasa'a (Elisha), and Dhul-Kifl (Isaiah), all are among the best.
49. This is a reminder, and verily, for the Muttaqun (pious and righteous persons - see V.2:2) is a good final return (Paradise), -,


คำแปล R2.
45. และเจ้าจงระลึกถึงบ่าวของเราคืออิบรอฮีม อิสห๊าก และยะอิกู๊บเถิด ซึ่งพวกเขามีพลังและมีวิจารญาณ
46. แท้จริงเราได้มอบคุณลักษณะพิเศษเป็นการจำเพาะแก่เขา นั่นคือการรำลึกถึงโลกหน้า
47. และแท้จริงพวกเขานั้นเป็นส่วนหนึ่งจากบรรดาผู้ที่ได้รับการเลือกเฟ้นที่ดีที่สุดสำหรับเรา
48. และเจ้าจงระลึกถึงอิสมาอีล, อัลยะซะอฺ และซัลกิฟล์ และทุก ๆ คนนั้นเป็นส่วนหนึ่งจากบรรดาคนที่ดีที่สุด
49. (บรรดาคุณลักษณะที่ดีเช่น)นี้ เป็นเกียรติคุณ(สำหรับพวกเขาเอง) และแท้จริงสำหรับบรรดาผู้ยำเกรง(อัลเลาะฮฺ)นั้น ย่อมมีที่กลับอันดีงามที่สุด(ในวันชาติหน้า)


คำแปล R3.
45. และจงเอ่ยถึงบ่าวของเรา นั่นคืออิบรอฮีม และอิสฮากและยะกู๊บ พวกเขาเป็นผู้ทรงอำนาจและมองอะไรลึกซึ้ง
46. เราได้เลือกพวกเขาเพราะคุณสมบัติอันบริสุทธิ์อย่างหนึ่ง นั่นคือการนึกถึงโลกหน้า
47. แท้จริงในทัศนะของเราพวกเขาได้ถูกรวมไว้ในหมู่ผู้ถูกคัดเลือกเป็นคนที่มีคุณธรรมดีเลิศ
48. และจงเอ่ยถึงอิสมาอีลและอัลยะซะอ์ และซุลกิฟล์ พวกเขาทั้งหมดอยู่ในหมู่ผู้มีคุณธรรมดีเลิศ
49. นี่คือข้อตักเตือน (ตอนนี้จงฟัง) สำหรับผู้มีความยำเกรงพระเจ้านั้นจะได้รับที่พำนักอันประเสริฐ


คำแปล R4.
45. และจงรำลึกถึงปวงบ่าวของเรา อิบรอฮีม อิสหาก และยะอฺกู๊บ ผู้ที่เข้มแข็งและสายตาไกล (ในเรื่องศาสนา)
46. เราได้เลือกพวกเขาโดยเฉพาะเพื่อเตือนให้รำลึกถึงปรโลก
47. และแท้จริงพวกเขานั้น ในทัศนะของเรา แน่นอนอยู่ในหมู่ผู้ได้รับเลือกเพราะพวกเขาเป็นคนดี
48. และจงรำลึกถึงอิสมาอีล และอัลยะซะอฺ และซัลกิฟลิ และทุกคนอยู่ในหมู่ผู้ดีเลิศ
49. นี่คือข้อตักเตือน และแท้จริงสำหรับบรรดาผู้ยำเกรงนั้น แน่นอนทางกลับ (ของพวกเขา) ย่อมประเสริฐแท้


คำแปล R5.
๔๕. โอ้มุฮำมัด และเจ้าจงระลึกเถิด ถึงบรรดาบ่าวของเราคือ อิบรอฮีมและอิสฮ๊าก และยะอฺกู๊บผู้มี พลังมหาศาลในการประกอบการนมัสการ เปรียบดังพลังของบรรดามือหลาย ๆ มือรวมกันกระนั้น และมีวิจารณญาณอันลึกซึ้งเปรียบดังการมองเห็นของบรรดาดวงตา
๔๖. แท้จริงเราได้ดลความบริสุทธิ์ใจแก่พวกเขาที่มีต่อเราในการประกอบคุณธรรมดีต่าง ๆ เพราะสิ่งหนึ่งที่บริสุทธิ์ไม่มีอะไรเคลือบแฝง ซึ่งสิ่งนั้นคือ การระลึกถึงภพหน้า และการปฏิบัติตนเพื่อภพนั้น
๔๗. และแท้จริงพวกเขาเหล่านั้น สำหรับเราแล้ว เป็นส่วนหนึ่งจากบรรดาผู้ถูกเลือกสรรไว้ที่มีลักษณะและคุณสมบัติอันเยี่ยมยอด
๔๘. โอ้มุฮำมัด เจ้าจงระลึกถึงนบีอิสมาอีลและอัลยะสะอ์และซัลกิฟลิ และทั้งหมดนั้นเป็นส่วนหนึ่งจากผู้เยี่ยมยอดในลักษณะและคุณสมบัติ เพราะทุกคนได้รับเกียรติถูกแต่งตั้งเป็นศาสนทูต ยกเว้นคนสุดท้ายที่นักวิชาการยังมีความเห็นขัดแย้งกัน บ้างว่าเป็นศาสนทูต บ้างก็ว่าเป็นเพียงผู้ให้การสนับสนุนศาสนทูต
๔๙. นี้คือการกล่าวขวัญถึงพวกเขาในโลกนี้และแท้จริงสำหรับมวลผู้ยำเกรงอัลเลาะห์ที่เคร่งครนัดในการประพฤติความดีนั้นย่อมมีที่กลับอันดีงามยิ่งในโลกหน้า



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ ศอด อายะฮฺที่ 50 - 55


คำอ่าน
50. ญัน..นาติอัดนิม..มุฟัตะหะตัล ละฮุมุลอับวาบ
51. มุตตะกิอีนะฟีฮา ยัดอูนะฟีฮา บิฟากิฮะติน..กะษีเราะติว..วะชะรอบ
52. วะอิน..ดะฮุม กอศิรอตุฏฏ็อรฺฟิ อัตรอบ
53. ฮาซามาตูอะดูนะ ลิเยามิลหิสาบ
54. อิน..นะฮาซา ละริซกุนา มาละฮูมิน..นะฟาด
55. ฮาซา วะอิน..นะลิฏฏอฆีนะ ละชัรฺเราะมะอาบ


คำแปล R1.
50. 'and (Edn) Paradise (everlasting Gardens), whose doors will be open for them, [It is said (in Tafsir At-Tabari, part 23, Page 174) that one can speak to the doors, just one tells it to open and close, and it will open or close as it is ordered].
51. Therein they will recline; therein they will call for fruits in abundance and drinks;
52. And beside them will be chaste females (virgins) restraining their glances only for their husbands, (and) of equal ages.
53. This it is what you (Al-Muttaqun - the pious) are promised for the Day of Reckoning!
54. (It will be said to them)! Verily, this is our provision which will never finish;
55. This is so! And for the Taghun (transgressors, disobedient to Allah and his Messenger - disbelievers in the Oneness of Allah, criminals, etc.), will be an evil final return (Fire),


คำแปล R2.
50. นั่นคือบรรดาสวรรค์อันอมตะซึ่งถูกเปิดประตูเตรียมไว้สำหรับพวกเขา
51. พวกเขาเอนกายอยู่ในนั้น พวกเขาจะร้องขอในนั้นบรรดาผลไม้และเครื่องดื่มอันมากมาย
52. และเขามีนางฟ้าที่จำกัดสายตาของพวกนาง(ไว้เฉพาะสำหรับพวกเขา)อีกทั้งอยู่ในวัยสาวเท่าเทียมกัน
53. นี้เป็นสิ่งที่พวกเขาถูกสัญญาไว้สำหรับวันแห่งการสอบสวน(ความประพฤติ)
54. แท้จริงสิ่งนี้ เป็นโชคผลของเรา(ที่มอบให้แก่เจ้า) ซึ่งไม่มีวันหมดสิ้นได้
55. (ความโปรดปรานเช่น)นี้! (เพื่อผู้ยำเกรงอัลเลาะฮฺเท่านั้น) และแท้จริงสำหรับบรรดาจำพวกละเมิดนั้น ย่อมมีที่กลับอันชั่วร้ายยิ่ง


คำแปล R3.
50.   นั่นคือสวนสวรรค์อันสถาพรที่ประตูของมันเปิดไว้สำหรับพวกเขาเสมอ
51.   ในนั้นพวกเขาจะได้เอนกายเรียกผลไม้และเครื่องดื่มมากมาย
52.   และพวกเขาจะมีคู่ครองเป็นหญิงบริสุทธิ์ที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน
53.   นี่คือสิ่งที่ถูกสัญญาไว้สำหรับวันแห่งการชำระบัญชี
54.   แท้จริง นี่คือสิ่งที่เราจัดเตรียมไว้ มันจะม่มีวันหมด
55.   นี่คือ (สิ่งตอบแทน) สำหรับผู้มีคุณธรรมความดี และสำหรับผู้ฝ่าฝืนนั้น จะมีที่พำนักอันเลวร้ายที่สุด


คำแปล R4.
50. คือสวนสวรรค์หลากหลายอันสถาพรประตู (ทุกบาน) จะเปิดอ้าไว้สำหรับต้อนรับพวกเขา
51. นอนเอกเขนกอยู่ในสวนสวรรค์ พวกเขาจะเรียกเอาผลไม้ และเครื่องดื่มนานาชนิด
52. และ ณ ที่พวกเขานั้น มีหญิงบริสุทธิ์ผู้ลดสายตาลงต่ำ มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน
53. นี่คือสิ่งที่พวกเจ้าถูกสัญญาไว้ สำหรับวันแห่งการชำระบัญชี
54. แท้จริง นี่คือปัจจัยยังชีพของเราอย่างแน่นอน มันจะไม่มีวันหมดสิ้น
55. ดังนั้น และแท้จริงสำหรับบรรดาผู้ละเมิดนั้น แน่นอนทางกลับ (ของพวกเขา) ย่อมเลวจริง ๆ


คำแปล R5.
๕๐. นั่นคือสวรรค์อัดน์ ซึ่งถูกเปิดประตูเตรียมไว้สำหรับพวกเขา
๕๑. พวกเขาเอนกายในสวรรค์บนเตียงที่ถูกเตรียมไว้พร้อมสรรพ พวกเขาเรียกในสวรรค์ผลไม้อันมากมายและเครื่องดื่มเพื่อการบริโภคตามความปรารถนา
๕๒. และพวกเขาก็มีบรรดาหญิงที่จำกัดสายตาของนาง ไม่มองไปที่ชายอื่นนอกจากสามีคือพวกเขาเหล่านั้น ซึ่งมีอายุวัยเดียวกันคือพวกนางมีอายุ ๓๓ ปี
๕๓. ความบรมสุขในสวรรค์ที่พรรณนามาแล้วนี้ เป็นสิ่งที่พวกเจ้าถูกสัญญาไว้สำหรับแห่งการสอบสวนที่จะต้องได้รับไปตามนั้น
๕๔. แท้จริงสิ่งนี้โดยแน่แท้แล้วเป็นโชคผลของเราซึ่งไม่มีการขาดตอนมันจะถูกเสนอแก่พวกเขาเป็นโชคผลถาวรไปจนตลอด
๕๕. สิ่งนี้ตามที่ได้พรรณนามาแล้วนั้น เป็นสิทธิของมวลผู้ศรัทธาทั้งหลายโดยแน่แท้และแท้จริงสำหรับบรรดาผู้เนรคุณทั้งหลายย่อมมีที่กลับอันเลวร้ายยิ่ง



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ ศอด อายะฮฺที่ 56 - 61


คำอ่าน
56. ญะฮัน..นะมะ ยัศเลานะฮา ฟะบิอ์สัลมิฮาด
57. ฮาซาฟัลยะซูกูฮุ หะมีมู..วะฆ็อสสาก
58. วะอาเคาะรุ มิน..ชักลิฮี..อัซวาจยฺ
59. ฮาซาเฟาญุม..มุกตะหิมุม..มะอะกุม ลามัรฺหะบัม..บิฮิม อิน..นะฮุม ศอลุน..นารฺ
60. กอลู บัลอัน..ตุม ลามัรฺหะบัม..บิกุม อัน..ตุมก็อดดัมตุมูฮุละนา ฟะบิอ์สัลเกาะรอรฺ
61. กอลู ร็อบบะนา มัน..ก็อดดะมะละนา ฮาซาฟะซิดฮุ อะซาบัน..ฎิอฺฟัน..ฟิน..นารฺ


คำแปล R1.
56. Hell! Where they will burn, and worst (indeed) is that place to rest!
57. This is so! Then let them taste it, a boiling fluid and dirty wound discharges.
58. And other torments of similar kind, all together!
59. This is a troop entering with you (in Hell), no welcome for them! Verily, they shall burn in the Fire!
60. (The followers of the misleaders will say): "Nay, you (too)! No welcome for you! It is you (misleaders) who brought this upon us (because you misled us in the world), so evil is this place to stay in!"
61. They will say: "Our Lord! Whoever brought this upon us, add to him a double torment in the Fire!"


คำแปล R2.
56. พวกเขาจะต้องเข้านรกยะฮันนัม ซึ่งเป็นที่อยู่อันเลวที่สุด
57. (การลงโทษเช่น)นี้! ดังนั้นพวกเขาจงลิ้มรสมันเถิด มันคือน้ำอันเดือดพล่านและน้ำหนองที่ไหลเย้ม
58. และโทษอย่างอื่น ๆ อีกที่มีลักษณะเหมือนกัน ซึ่งมีอีกหลายชนิด
59. (มลาอิกะฮฺที่เฝ้าดูแลนรกได้กล่าวกับพวกหัวหน้าของพวกกาฟิรว่า) “นี้เป็นกลุ่มชนอันหนาแน่นซึ่งอยู่รวมกับพวกเจ้า ไม่มีการกล่าวประสาทพรต้อนรับแก่พวกเขา เพราะพวกเขาต้องเข้านรก”
60. บรรดาจำพวกที่ตามกล่าวว่า “ทว่าพวกท่านนั่นแหละที่ไม่ได้รับการประสาทพรต้อนรับ  เพราะพวกท่านได้ล่วงกระทำสิ่งนั้นไว้แก่เรา ดังนั้นนรกจึงเป็นที่อยู่อันเลวที่สุด”
61. พวกเขากล่าวอีกว่า “โอ้ องค์อภิบาลของเรา! ใครก็ตามที่ได้ล่วงกระทำสิ่งนี้ให้แก่เรา ก็ขอพระองค์ได้ทรงโปรดเพิ่มโทษอันทวีคูณแก่เขาในนรกเถิด!”


คำแปล R3.
56. นรกนั่นไงที่พวกเขาจะถูกเผาไหม้ข้างในนั้น ดังนั้น มันจึงเป็นที่พำนักอันชั่วช้าที่สุด
57. นี่แหละสำหรับพวกเขา ดังนั้นจงปล่อยให้พวกเขาได้ลิ้มรสน้ำเดือดและน้ำหนอง
58. และสิ่งอื่น ๆ เช่นเดียวกันนี้
59. (เมื่อพวกเขาเห็นพวกที่ปฏิบัติตามพวกเขามายังนรก พวกเขาจะกล่าวซึ่งกันและกันว่า) “นี่คือหมู่ชนที่กำลังเข้ามายังสูเจ้า ไม่มีการต้อนรับสำหรับพวกเขา พวกเขาจะเข้าไปอยู่ในนรก”
60. พวกเขาจะตอบว่า “ไม่เลย พวกท่านเองต่างหาก ไม่มีการต้อนรับสำหรับพวกท่าน (ด้วยเช่นกัน) เพราะพวกท่านต่างหากที่ได้นำมาสู่บั้นปลายเช่นนี้ ช่างเป็นสถานที่พักอันชั่วช้าเสียเหลือเกิน”
61. แล้วพวกเขาจะกล่าวว่า “ข้าแต่พระผู้อภิบาลของเรา ใครที่ทำให้พวกเราต้องประสบชะตากรรมเช่นนี้ ขอพระองค์ได้ทรงลงโทษเขาเป็นสองเท่าในไฟนรก”

 
คำแปล R4.
56. คือนรกญะฮันนัม พวกเขาจะเข้าไปเผาไหม้ในมัน ดังนั้นมันเป็นที่พำนักที่ชั่วช้ายิ่ง
57. นี่ (คือการลงโทษอันเจ็บแสบ) ดังนั้นพวกเจ้าจงลิ้มรสมัน (คือ) น้ำเดือดพล่าน และน้ำเลือดน้ำหนอง (ของชาวนรก)
58. และ (การลงโทษ) ชนิดอื่นอีก เยี่ยงการลงโทษดังกล่าวที่เท่าเทียมคู่ควรกัน
59. นี่คือฝูงชนวิ่งกรูกันไปพร้อมกับพวกเจ้า ไม่มีการต้อนรับพวกเขาดอก แท้จริง พวกเขาจะเข้าไปอยู่ในไฟนรก
60. พวกเขากล่าวว่า “แต่ว่าพวกท่านต่างหาก ไม่มีการต้อนรับพวกท่าน เพราะพวกท่านได้เตรียมตัวไว้สำหรับเรา ดังนั้นมันเป็นที่พักอันชั่วช้า
61. พวกเขากล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของเรา ผู้ใดที่ได้เตรียมการลงโทษนี้ไว้ให้แก่เรา ขอพระองค์ได้ทรงโปรดเพิ่มการลงโทษแก่เขาเป็นสองเท่าในไฟนรก


คำแปล R5.
๕๖. นั่นคือ นรกยะฮันนัม ซึ่งพวกเขาเข้าไปอยู่ในนั้น แท้จริงมันเป็นที่นอนอันเลวยิ่ง
๕๗. การลงโทษทรมานอันได้พรรณนาไว้นี้ พวกเขาทั้งหลายจงลิ้มรสมันเถิด คือ น้ำร้อนอันแผดเผาและน้ำเหลืองอันไหลยิ่งนักของชาวนรกทั้งหลาย
๕๘. และการลงโทษในรูปแบบอื่น ๆ จากที่เหมือนกับมัน ยังมีอีกหลายชนิดซึ่งเตรียมไว้ทรมานพวกเขา
๕๙. นี้คือกลุ่มคนที่จะเข้านรกพร้อมพวกเจ้าทั้งหลายแล้วบรรดาผู้ถูกถามก็จะพูดว่าไม่มีความกว้างขวางแก่พวกเขาเหล่านั้นในขุมนรก แต่พวกเขาต้องอยู่อย่างคับแคบแท้จริงพวกเขาต้องสัมผัสความร้อนของไฟนรกตลอดไป
๖๐. บรรดาผู้ตามทั้งหลาย พวกเขากล่าวว่า แต่ทว่าพวกเจ้าทั้งหลายจะไม่มีความกว้างขวางในการอยู่ในนรกเพราะพวกเจ้าได้กระทำสิ่งนี้มาก่อนแก่พวกเราโดยการแสดงความเนรคุณ ดังนั้นนรกจึงเนที่อยู่ทั้งของเราและของพวกเจ้า
๖๑. และเขากล่าวว่าว่า โอ้ผู้ทรงอภิบาลของเรา ใครกันเล่าที่กระทำสิ่งนี้แก่พวกเรามาก่อน ดังนั้นขอพระองค์ได้โปรดเพิ่มพูนแก่เขา การลงโทษอันทวีคูณในนรก



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ ศอด อายะฮฺที่ 62 - 70


คำอ่าน
62. วะกอลู มาละนา ลานะรอ ริญาลัน..กุน..นานะอุดดุฮุม..มินัลอัชรอรฺ
63. อัตตะค็อซนาฮุม สิครียัน อัมซาฆ็อต อันฮุมุลอับศอรฺ
64. อิน..นะซาลิกะ ละหักกุน ตะคอศุมุ อะฮฺลิน..นารฺ
65. กุลอิน..นะมา อะนะมุน..ซิรฺ วะมามินอิลาฮิน อิลลัลลอฮุลวาหิดุลเกาะฮฺฮารฺ
66. ร็อบบุสสะมาวาติวัลอัรฺฎิ วะมาบัยนะฮุมัลอะซีซุลฆ็อฟฟารฺ
67. กุลฮุวะนะบะอุนอะซีม
68. อัน..ตุมอันฮุ มุอฺริฎูน
69. มากานะลิยะ มินอิลมิม..บิลมะละอิลอะอฺลา อิซยัคตะศิมูน
70. อี..ยูหา..อิลัยยะ อิลลา..อัน..นะมา..อะนะนะซีรุม..มุบีน


คำแปล R1.
62. And they will say: "What is the matter with us that we see not men whom we used to count among the bad ones?"
63. Did we take them as an object of mockery, or have (our) eyes failed to perceive them?"
64. Verily, that is the very truth, the mutual dispute of the people of the Fire!
65. Say (O Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam): "I am only a warner and there is no Ilah (God) except Allah (none has the right to be worshipped but Allah) the one, the Irresistible,
66. "The Lord of the heavens and the earth and all that is between them, the All-Mighty, the Oft-Forgiving."
67. Say: "That (this Qur'an) is a great news,
68. "From which you turn away!
69. "I had no knowledge of the chiefs (angels) on high when they were disputing and discussing (about the creation of Adam).
70. "Only this has been inspired to me, that I am a plain warner."


คำแปล R2.
62. และพวกเขากล่าวถามกันเองว่า “ทำไมหนอเราจึงไม่เห็นความดีของบรรดาบุรุษซึ่งแต่เดิมเราเคยนับพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งจากจำพวกคนเลว?” (อันได้แก่พวกที่มีศรัทธา)
63. เราได้ถือเอาพวกเขามาเป็นที่เย้ยหยันหรือ? หรือว่าบรรดาสายตาของพวกเราได้เมินออกจากพวกเขา(ด้วยความดูถูก)?
64. แท้จริงนั้นเป็นความจริงที่ชาวนรกต่างโต้เถียงกันเอง!
65. จงประกาศเถิด! ความจริงฉันเป็นผู้ประกาศเตือนเท่านั้น และไม่มีพระเจ้าใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากอัลเลาะฮฺพระผู้ทรงเป็นหนึ่งเดียว พระผู้ทรงพิชิตเป็นที่สุด
66. ทรงเป็นผู้ทรงอภิบาล(บริหาร)ฟากฟ้าและแผ่นดินรวมทั้งสรรพสิ่งระหว่างทั้งสอง ทรงอำนาจยิ่ง ทรงนิรโทษยิ่ง
67. จงประกาศเถิด! “นั้นเป็นข่าวอันยิ่งใหญ่(ที่ฉันนำมาจากพระเจ้าของฉันมาประกาศ)”
68. “ซึ่งพวกท่านทั้งหลาย ได้หันหลังไปจากมัน”
69. ฉันไม่มีความรู้ใด ๆ ที่เกี่ยวกับมวลชนชั้นสูง(คือมลาอิกะฮฺ)? ในขณะที่พวกเขาซักถามกัน(เกี่ยวกับเรื่องที่อัลเลาะฮฺสร้างนบีอาดัม ทั้งนี้ถ้าอัลเลาะฮฺไม่ประทานโองการแก่ฉัน)
70. ฉันมิได้รับการประทานโองการ(เพื่ออื่นใด) นอกจากให้ฉันเป็นผู้ประกาศเตือนอันแจ้งชัด


คำแปล R3.
62.   และพวกเขาจะกล่าวซึ่งกันและกันว่า “เป็นไปได้อย่างไรที่เราไม่เห็นคนที่เราเห็นว่าพวกเขาเป็นคนเลวในโลก?
63.   เราถือเอาพวกเขาเป็นที่เย้ยหยันใช่ไหม หรือพวกเขาถูกซ่อนเร้นไปจากสายตาของพวกเรา?”
64.   แท้จริงแล้ว นั้นคือความจริงที่ชาวนรกถกเถียงกัน
65.   (โอ้ นบี) จงบอกพวกเขาว่า “ฉันเป็นแต่เพียงผู้ตักเตือนคนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีพระเจ้าที่แท้จริงใด ๆ นอกจากอัลลอฮฺ ผู้ทรงเอกะ ผู้ทรงพิชิต
66.   พระผู้ทรงอภิบาลแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินและสิ่งที่อยู่ในระหว่างทั้งสอง ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงอภัยอย่างมากมาย”
67.   จงบอกพวกเขาว่า “นี่คือข่าวอันยิ่งใหญ่
68.   ที่พวกท่านหันหลังให้มัน”
69.   (จงบอกพวกเขา) “ฉันไม่มีความรู้ใด ๆ ในเรื่องเวลาเมื่อผู้ได้รับการยกย่องกำลังถกเถียงกัน
70.   ฉันได้รับแจ้งเรื่องนี้โดยวะฮีย์เท่านั้น เพราะฉันเป็นผู้ตักเตือนที่เปิดเผย”


คำแปล R4.
62. และพวกเขากล่าวว่า มีอะไรเกิดขึ้นแก่เรา ทำไมเราจึงไม่เห็นชายอีกหลายคนที่เรานับพวกเขาว่า อยู่ในหมู่ผู้เลวทรามยิ่ง?
63. เนื่องเพราะเราถือ เอาพวกเขาเป็นที่เยาะเย้ยน่าขัน หรือสายตาของพวกเราคลาดเคลื่อนไปจากพวกเขา
64. แท้จริง นั่นคือความจริง จะมีการโต้เถียงกันระหว่างชาวนรกด้วยกัน
65. จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด แท้จริงฉันเป็นแต่ผู้ตักเตือนเท่านั้น ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺผู้ทรงเอกะ ผู้ทรงพิชิต
66. พระเจ้าแห่งชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดิน และสิ่งที่อยู่ในระหว่างทั้งสอง ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงอภัยอย่างมากหลาย
67. จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด นี่คือข่าวสำคัญอันยิ่งใหญ่
68. ที่พวกท่านผินหลังให้กับมัน
69. ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยในเรื่องของมะลาอิกะฮฺ เมื่อพวกเขาโต้เถียงกัน
70. (เพราะ) มิได้มีวะฮียฺแก่ฉันนอกจากว่าฉันเป็นเพียง ผู้ตักเตือนอันชัดแจ้งเท่านั้น


คำแปล R5.
๖๒. และพวกเขากล่าวต่อไปอีกว่า ไม่มีเหตุผลสำหรับเราที่เราจะไม่เห็นบรรดาบุรุษซึ่งเราเคยนับพวกเขาว่าเป็นส่วนหนึ่งจากบรรดาคนเลวเมื่ออยู่ในสากลโลก
๖๓. เราเคยยึดเคยยึดเอาเขาเป็นที่ล้อเลียนหรือมิฉะนั้นบรรดาดวงตาทั้งหลายก็จะเบนหนีจากพวกเขาด้วยความดูแคลน
๖๔. แท้จริงสิ่งนั้นเป็นสัจธรรมที่อุบัติขึ้นแล้วอย่างแน่นอน นั่นคือความขัดแย้งกันเองของชาวนรกตามที่ได้พรรณนาไว้แล้ว
๖๕. โอ้มุฮำมัดเจ้าจงประกาศเถิด อันที่จริงตัวฉันเองนั้นเป็นเพียงผู้ตักเตือนในโทษภัยที่จะอุบัติขึ้นแก่ชาวโลกทั้งหลายและไม่มีพระเจ้าอื่นใดทั้งสิ้นที่เป็นพระเจ้าโดยแท้จริงนอกจากอัลเลาะห์เพียงองค์เดียว นอกนั้นเป็นพระเจ้าที่ถูกสมมติขึ้นทั้งสิ้น ผู้ทรงเอกานุภาพ ผู้ทรงเข้มแข็งยิ่ง
๖๖. ผู้ทรงอภิบาลชั้นฟ้าและแผ่นดิน และสรรพสิ่งที่มีอยู่ระหว่างทั้งสอง ผู้ทรงอำนาจยิ่ง ผู้ทรงอภัยยิ่ง
๖๗. โอ้ มุฮำมัดเจ้าจงประกาศเถิด นั้นเป็นข่าวอันยิ่งใหญ่
๖๘. ซึ่งพวกเจ้าทั้งหลายพากันหันเหออกจากมัน ไม่อใจใส่และไม่สนใจแต่ประการใด ๆ ข่าวยิ่งใหญ่นั้นก็คืออัล-กุรอานนี้เอง
๖๙. ข้าเองไม่เคยมีความรู้เกี่ยวกับชนชั้นสูงได้แก่มลาอิกะห์เมื่อพวกเขาทำการโต้เถียงในเรื่องราวของนบีอาดัม เมื่ออัลเลาะห์ดำริที่จะสร้างอาดัม แล้วมลาอิกะห์ก็โต้เถียงความำรินั้นของอัลเลาะห์
๗๐. ข้ามิได้รับการดลโองการใด ๆ ทั้งสิ้นนอกจากโองการว่าแท้จริงตัวข้าเป็นเพียงผู้ตักเตือนอันแจ้งชัด



 

GoogleTagged