-3-
“เราจะจัดหะละเกาะฮฺกันในบ้านนะมะ” ลูกชายคนโตบอกแม่ขณะนั่งอยู่ด้วยกันตามลำพังยามสาย
น้องทั้งสองคนยังไม่ออกจากห้องนับตั้งแต่หลังศุบฮฺ
“ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ เป็นวงศึกษาความรู้ศาสนาร่วมกัน ใครมีอะไรอยากแบ่งปัน อยากเล่าสู่กันฟังก็เอามาพูดคุยกัน อยากให้บ้านเรามีบรรยากาศแบบนี้บ้าง ก่อนที่ว๊ารจะไปโรงเรียนใหม่น่ะครับ”
“แล้วน้องจะยอมมานั่งฟังเราพูดหรอลูก” คนเป็นแม่ยังสงสัย
“มะก็คงต้องใช้ลูกล่อลูกชนหน่อยล่ะครับ เมื่อก่อนม๊ารก็เคยถูกลากเข้าไปนั่งฟังอะไรแบบนี้ทั้งที่ไม่เต็มใจหลายครั้งนะมะ แต่ปรากฏว่าเนื้อหาศาสนาที่คุยกันในวงแบบนี้แหละที่มีส่วนช่วยให้ม๊ารเปลี่ยนแปลงตัวเองพี่น้องอีกหลายคนก็เหมือนกัน”
“จะลองดูก็ได้นะม๊าร แต่มะอยากให้ลูกทำใจไว้ด้วย ว๊ารนะไม่เหมือนเราซะทีเดียว น้องจะเปลี่ยนแปลงไปได้หรือเปล่าก็คงต้องแล้วแต่อัลลอฮฺล่ะนะ”
“ข้อนั้นผมรู้ครับมะ แต่อย่างน้อยที่สุดการทำอะไรแบบนี้ก็น่าจะช่วยสร้างบรรยากาศของอิสลามขึ้นในบ้านเรา”
อัมม๊ารพูดจบประโยคพร้อม ๆกับที่น้องสาวคนเล็กโผล่หน้าออกมาจากห้องในชุดเตรียมออกข้างนอก
ชุดอันประกอบไปด้วยเสื้อยาวคลุมสะโพก รัดเอวด้วยเข็มขัดหนังเส้นกว้างใหญ่ที่มองยังไง อัมม๊ารก็นึกถึงสเตย์รัดหน้าท้องของหญิงสูงวัยที่เคยเห็นในโฆษณา ชิ้นล่างคือเลคกิ้งสีดำเหมือนกางเกงของนักประดานน้ำ ที่ร้ายสุดคือหิญาบลายพร้อยที่ตวัดไปมารอบศีรษะตามสมัยนิยม
พี่ชายต้องนวดขมับคลายความปวดหัว ..และแน่นอน-หัวใจ!
“จะไปไหนน่ะยา” แม่ถาม
“ไปซื้อของกับนาแล้วก็รีนไงมะ ยาขอมะไว้แล้วนี่’’ เหมือนจะรับรู้กระแสบางอย่าง อุลยารีบยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู
“สายแล้ว ยังไงยาต้องไปก่อนล่ะมะ ไปนะบังม๊าร’’
“อุลยา” อัมม๊ารเรียกไว้ แต่ไม่ทัน เมื่อน้องสาววิ่งปรู๊ดออกไปทิ้งไว้แต่คำให้สล่ามสั้นๆ ส่งท้าย เขาส่ายหน้าอย่างระอาใจก่อนหันไปถามแม่
“น้องแต่งตัวขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับมะ เมื่อก่อนถึงจะใส่กางเกงบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ไอ้แบบชุดเต้นแอโรบิกของพวกอาม่าแบบนี้”
มารดาหัวเราะ แต่แววกังวลในดวงตาก็ยังแจ่มชัด
“กำลังฮิตนักล่ะม๊าร ไปงานโรงเรียนน้องเมื่อเดือนที่แล้วใส่กันทั้งงานเชียว ยาคงตามเพื่อน นี่ไปซื้อมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ มะก็เพิ่งเห็นใส่ครั้งที่สองได้ล่ะมั้ง ครั้งแรกมะยังทักว่าถ้าบังม๊ารเห็นล่ะ ก็โดนยาวแน่”
“ไม่น่าล่ะตั้งท่าจะวิ่งตั้งแต่เห็นม๊ารล่ะ”
“อุลยาน่ะเป็นเด็กหัวอ่อน ใครพาไปทางไหนก็ไป นี่มะก็ยังดูๆเพื่อนๆเขาอยู่ แต่เท่าที่เห็นถึงจะแต่งตัวชะเวิ้บ
ชะวับกันบ้าง แต่เรื่องเรียนเรื่องศาสนาหลักๆก็ไม่ได้เละเทะนักหรอก”
“อิสลามไม่ใช่แค่เรื่องอิบาดะฮฺฟัรฎูนะครับมะ อิสลามคือชีวิต คือทั้งหมดทุกรายละเอียดของชีวิต” ลูกชายบอก
เสียงเนือย ๆ จนคนเป็นแม่ต้องยกมือขึ้นมาตบแขนเบา ๆ อย่างให้กำลังใจ
“ม๊ารทำดีแล้วล่ะ ก็ค่อย ๆ ทำไปมะช่วยอะไรได้ก็จะช่วย แต่ตอนนี้เราเอาเรื่องอันว๊ารก่อนดีกว่านะลูก”
และนั่นคือบทสรุปของสองแม่ลูกในเช้าวันที่มีกันสองคน