« ตอบกลับ #38 เมื่อ: ต.ค. 13, 2011, 06:45 PM »
0
อัลกุรอาน สูเราะฮฺ อัลอันอาม อายะฮฺที่ 151 - 154คำแปล R1.151. Say (O Muhammad ): "Come, I will recite what your Lord has prohibited you from: join not anything in worship with him; be good and dutiful to your parents; kill not your children because of poverty - we provide sustenance for you and for them; come not near to Al-Fawahish (shameful sins, illegal sexual intercourse, etc.) whether committed openly or secretly, and kill not anyone whom Allah has forbidden, except for a just cause (according to Islamic law). This He has commanded you that you may understand.
152. "And come not near to the orphan's property, except to improve it, until he (or she) attains the age of full strength; and give full measure and full weight with justice. We burden not any person, but that which he can bear. And whenever you give your word (i.e. judge between men or give evidence, etc.), say the truth even if a near relative is concerned, and fulfill the covenant of Allah, this He commands you, that you may remember.
153. "And verily, this (i.e. Allah's commandments mentioned in the above two Verses 151 and 152) is my straight Path, so follow it, and follow not (other) paths, for they will separate you away from His Path. This He has ordained for you that you may become Al-Muttaqun (the pious - see V.2:2)."
154. Then, we gave Musa (Moses) the Book [the Taurat (Torah)], to complete (Our Favour) upon those who would do right, and explaining all things in detail and a guidance and a mercy that they might believe in the meeting with their Lord.คำแปล R2.151. จงประกาศเถิด ! ท่านทั้งหลายจงมาเถิด! ฉันจะแถลงแก่พวกท่านในสิ่งที่องค์อภิบาลของพวกท่านได้บัญญัติห้ามไว้ มิให้ท่านทั้งหลายตั้งสิ่งหนึ่งสิ่งใดขึ้นเป็นภาคีกับพระองค์ และให้ทำดีต่อผู้บังเกิดเกล้าทั้งสอง ท่านทั้งหลายอย่าฆ่าลูก ๆ ของท่านเพราะกลัวจน ความจริงเราให้การยังชีพพวกเจ้าและพวกเขาเอง และท่านทั้งหลายอย่าเข้าใกล้บรรดาสิ่งอนาจารทั้งปวง ทั้งที่เปิดเผยและผิดบัง และท่านทั้งหลายอย่าฆ่าชีวิตหนึ่งใดที่อัลเลาะฮฺทรงบัญญัติห้ามไว้ยกเว้นโดยสิทธิอันชอบธรรมตามบทบัญญัติ(เช่น การประหารชีวิตฆาตกร เป็นต้น)” นั่นเป็นสิ่งที่พระองค์ได้มีคำสั่งแก่พวกท่าน เพื่อพวกท่านจะได้ใช้ปัญญาตริตรอง
152. และท่านทั้งหลายอย่ากล้ำกลายใกล้ทรัพย์สินของลูกกำพร้ายกเว้นด้วย(การจัดการในสิ่ง)ที่ดี (เป็นประโยชน์แก่ลูกกำพร้ามากที่สุด)จนกว่าเขาบรรลุสู่วัยฉกรรจ์ของเขา(คือบรรลุศาสนภาวะ)และท่านทั้งหลายจงตวงและชั่งให้ครบ(ตามพิกัด)โดยความเที่ยงธรรม เรามิได้บังคับแก่ชีวิตใด ๆ นอกจาก(เพียง)เท่าสมรรถภาพของเขา(อำนวยให้)และเมื่อพวกท่านพูด(ในการพิพากษาหรืออื่น ๆ)พวกท่านก็จงยุติธรรมและมาดแม้นว่าเขา(ผู้ได้รับผลตามคำพูดนั้น)จะเป็นญาติสนิทก็ตาม และท่านทั้งหลายจงปฏิบัติตามสัญญาของอัลเลาะฮฺให้ครบถ้วน สิ่งเหล่านั้นพระองค์ได้ทรงมีคำสั่งแก่พวกท่าน เพื่อพวกท่านจะได้สำนึก
153. และแท้จริงนี้เป็นแนวทางที่เที่ยงตรงของข้า(ที่มอบแก่พวกเจ้า)ดังนั้นพวกเจ้าทั้งหลายจงตามทางนี้เถิด และเจ้าทั้งหลายอย่าตามทางอื่นอันมากหลาย แล้วพวกเจ้าก็จะเกิดความแตกแยกไปจากแนวทางของพระองค์ สิ่งนั้น! พระองค์ได้ทรงมีคำสั่งแก่พวกเจ้า เพื่อพวกเจ้าจะได้ยำเกรง
154. หลังจากนั้นเราได้มอบคัมภีร์(เตารอฮฺ)แก่มูซา เพื่อเป็นความสมบูรณ์(ในความโปรดปรานและกุศล)แก่ผู้ที่ประกอบคุณธรรมและเพื่อแจกแจง(รายละเอียด)แก่ทุก ๆ สิ่งและเพื่อเป็นสิ่งชี้นำแนวทางและเพื่อเป็นเมตตาธรรม ทั้งนี้เพื่อพวกเขาจะได้ศรัทธามั่นในการได้พบกับองค์อภิบาลของพวกเขา(ภายหลังจากตายและฟื้นขึ้นจากสุสานแล้วคำแปล R3.151. จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด)”มาเถิด ฉันจะสาธยายสิ่งที่พระผู้อภิบาลของพวกท่านได้ทรงห้ามแก่พวกท่านนั่นคือ (1) จงอย่าตั้งภาคีใด ๆ ต่อพระองค์ (2) จงปฏิบัติการดีต่อพ่อแม่ (3) จงอย่าฆ่าลูก ๆ ของพวกท่านเพราะกลัวความยากจน เพราะเรารได้ประทานปัจจัยยังชีพแก่พวกท่านและแก่พวกเขาโดยเฉพาะด้วย (4) จงอย่าเข้าใกล้การชั่วร้ายทั้งที่เปิดเผยและที่ซ่อนเร้น และ(5) จงอย่าฆ่าชีวิตใดซึ่งอัลลอฮฺได้ทรงห้ามเว้นไว้แต่เพื่อความยุติธรรม นั่นเป็นสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสั่งพวกท่าน เพื่อพวกท่านจะได้ใช้ปัญญา
152. และ(6) จงอย่าเข้าใกล้สมบัติของเด็กกำพร้าเว้นแต่โดยวิธีการที่ดีที่สุด จนกว่าเขาจะบรรลุถึงความเป็นผู้ใหญ่ และ (7) จงทำให้การตวงและการชั่งเป็นที่ครบถ้วนเที่ยงตรง เราไม่ให้ภาระหนักแก่ชีวิตใดเว้นแต่ตามสมรรถภาพของมัน และ(
เมื่อท่านพูดจงเที่ยงตรงแม้เขาเป็นญาติสนิทก็ตาม และ (9) จงปฏิบัติให้ครบตามพันธสัญญาของอัลลอฮฺ อัลลอฮฺทรงสั่งสิ่งเหล่านี้แก่พวกท่านเพื่อพวกท่านจะได้ปฏิบัติตามคำตักเตือน
153. และอัลลอฮฺได้สั่งอีกว่า (10) นี่เป็นแนวทางของฉันอันเป็นแนวทางที่เที่ยงตรง ดังนั้นจงปฏิบัติตามทางนี้ และจงอย่าปฏิบัติตามทางอื่น ๆ มิฉะนั้นมันจะแยกพวกท่านออกจากทางของพระองค์ นั่นเป็นสิ่งที่พระองค์ทรงสั่งพวกท่าน ทั้งนี้เพื่อพวกท่านจะได้สำรวมตนจากความชั่ว”
154. แล้ว(จงจำไว้ด้วยว่า)เราได้ประทานแก่มูซาซึ่งคัมภีร์ที่จะทำให้ความโปรดปรานของเราครบครันแก่บรรดาผู้ทำการดีและเป็นที่อธิบานรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่จำเป็นทุกอย่างและเป็นทางนำและความเมตตาเพื่อพวกเขาจะได้มีความศรัทธาในการพบกับพระผู้อภิบาลของพวกเขา
คำแปล R4.
151. จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด)ว่าท่านทั้งหลายจงมากันเถิด ฉันจะอ่านให้ฟังสิ่งที่พระเจ้าของพวกท่านได้ห้ามไว้แก่พวกท่านคือ พวกเจ้าอย่าให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นภาคีกับพระองค์ และจงทำดีต่อผู้บังเกิดเกล้าทั้งสองจริง ๆ และอย่าฆ่าลูกของพวกเจ้า เนื่องจากความจนเราเป็นผู้ให้ปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้า และแก่พวกเขา และจงอย่าเข้าใกล้บรรดาสิ่งชั่วช้าทั้งที่เปิดเผยและที่ปกปิด และอย่าฆ่าชีวิตที่อัลลอฮ์ทรงห้ามไว้ นอกจากด้วยสิทธิอันชอบธรรมเท่านั้นนั่นแหละที่พระองค์ได้ทรงสั่งเสียมันไว้แก่พวกเจ้า เพื่อว่าพวกเจ้าจะใช้ปัญญา
152. และจงอย่าเข้าใกล้ทรัพย์สมบัติของเด็กกำพร้า นอกจากด้วยวิถีทางที่ดียิ่ง จนกว่าเขาจะบรรลุวัยฉกรรจ์ และจงให้ครบเต็มซึ่งเครื่องตวงและเครื่องชั่งด้วยความเที่ยงตรง เราจะไม่บังคับชีวิตนั้นมีความสามารถเท่านั้นและเมื่อพวกเจ้าพูด ก็จงยุติธรรม และแม้ว่าเขาจะเป็นญาติที่ใกล้ชิดก็ตาม และต่อสัญญาของอัลลอฮฺนั้นก็จงปฏิบัติตามให้ครบถ้วย นั่นแหละที่พระองค์ได้ทรงสั่งเสียมันไว้แก่พวกเจ้า เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รำลึก
153. และแท้จริงนี้คือทางของข้าอันเที่ยงตรงพวกเจ้าจงปฏิบัติตามมันเถิด และอย่าปฏิบัติตามหลาย ๆ ทาง เพราะมันจะทำให้พวกเจ้าแยกออกไปจากทางของพระองค์ นั่นแหละที่พระองค์ได้สั่งเสียมันไว้แก่พวกเจ้า เพื่อว่าพวกเจ้าจะยำเกรง
154. แล้วเราได้ให้คัมภีร์แก่มูซาทั้งนี้เป็นการครบถ้วนแก่ผู้ที่กระทำดี และเป็นการแจกแจงในทุกสิ่งทุกอย่างและเพื่อเป็นการแนะนำ และเป็นการเอ็นดูเมตตา เพื่อว่าพวกเขาจะได้ศรัทธาต่อการพบกับพระเจ้าของพวกเขา
คำแปล R5.
๑๕๑. ในเมื่ออัลเลาะห์ได้ทรงชี้แจงเรื่องถ้อยคำอันเสื่อมเสียของพวกกาฟิรที่สำคัญผิดว่าแท้จริงอัลเลาะห์ได้ทรงใช้ให้พวกตนตัดสินว่าเป็นการห้ามซึ่งสัตว์ที่พวกนั้นเคยว่าเป็นของห้ามสำหรับพวกตนมาแล้ว ประดุจดังพวกเหล่านั้นร้องถามว่ามีสิ่งไรบ้างที่อัลเลาะห์ได้ทรงตราห้ามไว้ โอ้มุฮำมัดเจ้าจงกล่าวแก่กาฟิรเหล่านั้นเถิดว่าเชิญเถิดพวกท่าน เชิญเข้ามายังฉันนี้ ฉันจะอ่านเรื่องที่ อัลเลาะห์องค์พระผู้อภิบาลของพวกท่านได้ทรงตราห้ามพวกท่านไว้ว่า มิให้พวกท่านถือเอาสิ่งใดมาเป็นภาคีให้การเคารพบูชาเสมอด้วยพระองค์และต่อบิดามารดาผู้ให้กำเนิดทั้งสองก็ให้ปฏิบัติดีด้วยทั้งพวกท่านอย่าได้ฆ่าลูก ๆ ของพวกท่านเองโดยการฝังทั้งเป็น ๆ เพราะกลัวความอับจน เรา(อัลเลาะห์) เองต่างหากที่อำนวยลาภให้แก่พวกท่านและแก่พวกลูก ๆ เหล่านั้นของพวกท่าน พวกท่านอย่าได้ย่างใกล้ความชั่วอุกฤษ เช่นการร่วมประเวณีนอกอนุญาต (ซินา) ทั้งในที่เปิดเผยและที่ลับ พวกท่านอย่าได้ฆ่าชีวิตหนึ่งซึ่งอัลเลาะห์ได้ทรงตราห้ามไว้ว่าเป็นการบาปนอกจากเพื่อความเป็นธรรมเท่านั้น เช่น การฆ่าให้ตายตกตามกัน โทษอาญาเพราะการสิ้นสภาพความเป็นมุสลิม และการขว้างชายหญิงที่เคยผ่านการสมรสมาแล้วซึ่งได้ทำประเวณีนอกอนุญาตกันเป็นต้น ทั้งห้าประการที่กล่าวมาแล้วคือ มิให้เป็นผู้ถือภาคีเทียบเทียมอัลเลาะห์หนึ่ง ให้ปฏิบัติดีต่อบิดามารดาหนึ่ง มิให้ฆ่าลูกของตนหนึ่ง มิให้ย่างใกล้ความชั่วขั้นอุกฤษหนึ่ง และมิให้ฆ่าชีวิตอีกหนึ่ง นี่แหละที่พระองค์ได้ทรงสั่งไว้แก่พวกท่านเพื่อว่าพวกท่านจักได้ใช้วิจารณญาณ อันจะทำให้พวกท่านเข้าใจตัวเองดี และช่วยยับยั้งพวกท่านมิให้พัวพันในสิ่งอุลามกดังกล่าว
๑๕๒.และพวกท่านอย่าย่างใกล้ทรัพย์สินของเด็กกำพร้านอกจากในประการ อันดีงาม เป็นคุณประโยชน์ยิ่งต่อทรัพย์สินเด็กกำพร้าเหล่านั้นเท่านั้น จนกว่าเขา(กำพร้า)มีอายุบรรลุภาวะแห่งความเป็นผู้ใหญ่แล้ว อาจจะโดยนับอายุถึง ๑๕ ปีบ้าง หรือโดยมีน้ำอสุจิหลั่งออกมาแล้วบ้งหรือถ้าเป็นหญิงก็โดยมีเลือดระดูประจำเดือนบ้าง ทั้งให้พวกท่านตวงและชั่งโดยความยุติธรรมครบถ้วน มิให้ขาดตกบกพร่องแต่อย่างใด เราจะไม่กวดขันผู้เป็นข้าของข้าคนใดเว้นไว้แต่เพียงสมรรถภาพของผู้นั้น ในอันที่จะกระทำการตวงและการชั่งอย่างเป็นธรรมและครบถ้วนเท่านั้น ถ้าแม้นว่าเขาผู้นั้นพลั้งพลาดไปบ้างเกี่ยวกับเครื่องตวงก็ดีหรือเครื่องชั่งก็ดี อัลเลาะห์ก้ทรงรู้ถึงเจตนาจริงของผู้นั้น จึงไม่มีบาปแต่ประการใด แต่ก็จำเป็นที่ผู้นั้นต้องชดใช้เท่าที่ผิดพลาดตกหล่นไปด้วย ครั้นเมื่อพวกท่านจะเอ่ยคำพิพากษาก็ดี ก็ให้พวกท่านทรงความยุติธรรมไว้ตามความจริงในด้านถ้อยคำ ถึงว่าผู้นั้นที่ถูกพวกท่านเอ่ยถ้อยคำพิพากษาหรือพูดอย่างอื่นให้ได้รับประโยชน์หรือเป็นภัยจะเป็นวงศ์ญาติของพวกท่านก็เอาเถอะ อีกทั้งข้อสัญญาที่พวกท่านผูกพันไว้กับอัลเลาะห์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสาบานหรือบนบานหรืออื่นใดก็ให้พวกท่านปฏิบัติจนครบบริบูรณ์ ทั้งสี่ประการที่กล่าวแล้ว คือมิให้ย่างใกล้ทรัพย์สินของเด็กกำพร้าหนึ่ง ให้ตวงและชั่งอย่างยุติธรรมหนึ่ง เมื่อจะเอ่ยคำตัดสินความหรืออื่น ๆ ก็ให้ทรงความเป็นธรรมไว้หนึ่ง และให้ปฏิบัติตามข้อสัญญาที่กระทำไว้กับอัลเลาะห์โดยครบบริบูรณ์อีกหนึ่ง นี่แหละที่พระองค์ได้ทรงสั่งใช้ไว้แก่พวกท่าน เพื่อว่าพวกท่านจะได้สำนึกได้ และเชื่อฟังคำตักเตือนที่กล่าวถึงนี้
๑๕๓. แท้จริงสิ่งที่ข้าได้บัญชาใช้พวกเจ้านี้คือแนวศาสนา ที่เที่ยงแท้ของข้า ฉะนั้นพวกเจ้าจงเจริญตามแนวทางแห่งศาสนาที่เที่ยงแท้นั้นเถิด แต่อย่าได้เจริญรอยตามแนวทางทั้งหลายที่ขัดต่อศาสนาของข้ามันจะได้ไม่เป็นเหตุให้พวกเจ้าเขวห่างจากแนวทางของพระองค์ การเจริญรอยตามแนวทางแห่งศาสนาของอัลเลาะห์ และการเว้นนับถือศาสนาอื่นจากของพระองค์นี้แหละที่พระองค์ได้ทรงสั่งไว้แก่พวกเจ้าเพื่อว่าพวกเจ้าจักได้ยำเกรงพระองค์ ด้วยการประพฤติปฏิบัติตามที่ทรงใช้และทรงห้าม
๑๕๔. หลังจากที่พระองค์ได้ทรงแจ้งข่าวต่าง ๆ ดังกล่าวแล้วนั้น พระองค์ก็ทรงแจ้งแก่พวกเจ้าอีกว่า เรา(อัลเลาะห์) ยังได้เคยมอบให้มูซาได้รับพระคัมภีร์เตารอตก่อนจากที่ได้ประทานพระคัมภีร์อัลกุรอานมายังมุฮำมัด เพื่อให้พระกรุณาธิคุณของเราเป็นที่ครบบริบูรณ์แก่ผู้ที่กระทำถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องธำรงไว้ซึ่งคัมภีร์เตารอตให้คงทนถาวรเพื่อแจงรายละเอียดของทุกสิ่งทุกอย่าง ที่สอดคล้องกับศาสนาเพื่อเป็นหนทางนำให้ตรงเข้าสู่ความจริงและเพื่อเป็นความโปรดปราณีแก่บรรดาผู้เป็นข้าของเราอีกด้วย เพื่อว่าพวกเหล่านั้นที่เป็นวงศ์วานอิสรออีลจักได้ศรัทธาต่อการไปเผชิญหน้าอยู่ ณ เบื้ององค์พระผู้อภิบาลแห่งพวกตนโดยการเกิดใหม่ในวันปรภพ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 27, 2013, 01:47 PM โดย Bangmud »