ด้วยความเมตตาของอัลลอฮฺ...ชีวิตท่ามกลางญาฮิลียะฮฺชีวิตนี้จึงได้รู้จักเพื่อนมุสลิมมากมาย...มากจนลำดับไม่ครบ
ด้วยความไม่เอาไหนของตัวเอง...ฉันพบว่าฉันนั้นช่างอกตัญญูเหลือเกิน
เมาส์ในมือนี่แหละ ที่ทำให้ฉันได้ตรวจพบความอกตัญญูของตัวเองอย่างชัดเจน
เพราะเมาส์ในมือนี่แหละ ที่พาฉันไปพบ
ในซอกมุมต่าง ๆ ของโลกไซเบอร์...มีคนที่อัลลอฮฺส่งเข้ามาในชีวิตฉันมากมายเอาบางส่วนของชีวิตพวกเขาเข้ามาอาศัยอยู่
เพราะเมาส์ในมือนี่แหละ ทำให้ฉันรู้ว่า...ฉันทำคนหล่นหายไปมากมายแค่ไหนในชีวิต
จึงขอยกพื้นที่นิดน้อยนี้ให้...
แด่คนที่ฉันทำพวกเขาหล่นไป คนที่ฉันเคยละเลยไม่เอาใจใส่ หรือเอาใจใส่น้อยเกินสมควร (อัซตัฆฟิรุลลอฮัลอะซีม)
ทั้งญาติพี่น้องที่ผูกพันกันทั้งทางสายเลือด และสายเชือกแห่งอิสลาม
ทั้งเพื่อนที่เคยเรียนร่วมห้องกันมาไม่ว่าจะเป็นสมัยอนุบาล ประถม หรือมัธยม
ทั้งรุ่นพี่-รุ่นน้องที่เคยเดินสวนกันไปมาในโรงเรียนเก่า
ทั้งเพื่อน-พี่-น้อง ร่วมมหาลัยที่คุ้นเคยกันอยู่ แม้ไม่ได้พบหน้ากันบ่อยนัก
ทั้งสมาชิกร่วมชุมชนที่เคยทักทายกันตามวาระอันสมควร
และทั้งพี่น้องมุสลิมทั้งหมดทุกคนที่เจ้าของชีวิตส่งเข้ามาให้พบเจอ-รู้จักในช่วงเวลาต่าง ๆ ของชีวิต
หากว่าเธอผ่านเข้ามาอ่าน...มะอัฟให้ฉันด้วยสำหรับความเลินเล่อที่ปล่อยให้ช่วงเวลาของเราผ่านพ้นไป โดยไม่ได้แสดงความกตัญญูต่ออัลลอฮฺมากพอ
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ...เราต่างเป็นบ่าวของพระองค์ รู้จักกันด้วยประสงค์ของพระองค์ และล้วนต้องกลับคืนสู่พระองค์
ระหว่างเรา ไม่มีใครดีเด่นกว่าใคร นอกจาก
ความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ ซึ่งพระองค์เท่านั้นจะเป็นผู้ตัดสิน
ดังนั้น ณ ที่นี้...เราย่อมไม่ได้พูดกันในฐานะที่ใครคน๑ ดีกว่า หรือด้อยกว่าอีกคน
แต่เราจะมาพูดกัน ในฐานะบ่าวที่เท่าเทียมกันทุกประการในความอ่อนแอแห่งความเป็นมนุษย์
และในฐานะผู้ถูกดุนยาหลอกล่ออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน...ไม่ต่างกัน
สงสัยนะ...บางทีฉันสงสัยมาก
กับบางส่วนของชีวิตที่พวกเราเอามันมาใส่ไว้ในที่สาธารณะอย่างสังคมอินเตอร์เน็ต
สงสัยว่า…เกิดอะไรขึ้นกับเราในวันนี้หรือ?
โปรดให้ฉันได้เชื่อเถิดว่าสิ่งที่เรากำลังเป็น - กำลังทำกันอยู่นั้น ไม่ใช่เนื้อแท้ของตัวพวกเราเอง
หากเป็นการยุแหย่ของชัยฏอน หรือมิฉะนั้นก็ดุนยาที่แสนจะเจ้าเล่ห์และปรารถนาร้าย
...ที่เราสามารถเอารูปตัวเองกับเพศตรงข้ามขึ้นโชว์ให้ใครต่อใครเข้ามาชม ทั้ง ๆ ที่มีสัญลักษณ์แสดงอยู่ทนโท่ว่าเราคือมุสลิม
...ที่มุสลิมีนคนหนึ่งสามารถเกี้ยวพาราสีพี่น้องมุสลิมะฮฺของเขา ให้คนอื่น ๆ ทั้งมุสลิม และต่างศาสนิกร่วมรู้เห็นได้ราวกับว่าเขาไม่เคยมีแม่หรือน้องสาว
...ที่มุสลิมะฮฺคนหนึ่งสามารถจะแสดงอาการปลาบปลื้มเมื่อถูกเกี้ยวพาราสีโดยผู้ชาย ทั้งที่เขากำลังเอาขาข้างหนึ่งเหยียบลงบนศักดิ์ศรีของเธอ พร้อม ๆ กับที่เอาขาอีกข้างหนึ่งย่ำลงบนศักดิ์ศรีของบุพการีเธอ
...ที่เราสามารถพูดคุยกันเรื่องดนตรี และดารานักร้อง กันอย่างออกรส ในสถานที่อันเป็นสาธารณะในโลกไซเบอร์
ฉันไม่รู้หรอกว่า การกระทำที่ไม่มีอะไรใช่เลยในทรรศนะอิสลามเหล่านี้ ได้เกิดขึ้นในหมู่พวกเรามานานสักแค่ไหน
แต่การนำมันมาประจานลงอินเตอร์เน็ตเป็นพัฒนาการแห่งความความถดถอยของเราอย่างแน่นอน
มันน่ากลัวตรงนี้แหละ...ตรงที่เราสามารถเอาความผิดของตัวเองมาประกาศให้โลกรู้ได้อย่างหน้าชื่นตาบาน
ฉันจึงอดสงสัยไม่ได้จริง ๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเราในวันนี้?
ตกใจนะ...บางทีฉันตกใจมาก
เพราะเธอที่ฉันห๊วงห่วงจำนวนไม่น้อยน่ะ...ไม่ใช่คนไม่มีความรู้เกี่ยวกับอิสลาม - ไม่ใช่เลย
แต่สิ่งที่เรากำลังเป็นอยู่...พฤติกรรมที่แสดงออกไป มันมาถึงจุดที่เราต้องถามตัวเองว่า :
“ยังมีอะไรเหลืออยู่บ้าง สำหรับอิสลามในตัวของเรา?”หากเธอยังพบมันเหลืออยู่...แม้สักเสี้ยวหนึ่งของความรู้สึกเกรงกลัวอัลลอฮฺ
แม้สักเศษชิ้นหนึ่งของความรู้สึกว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้นมันไม่ถูก
และแม้ว่าความรู้สึกนี้มันจะซุกซ่อนอยู่ในซอกมุมที่ลึกเร้นที่สุดของหัวใจ
โปรดเอาใจใส่มันเถิด โปรดขุดมันออกมา รดน้ำ พรวนดิน และใส่ปุ๋ย
อินชาอัลลอฮฺ...จิตสำนึกแห่งอิสลามนั้นจะกลับงอกงามในใจเราอีกครั้ง ซึ่งมีค่าเท่ากับการทอดยาวออกไปของทางรอดแห่งตัวเรานั่นเอง
หลายคนของพวกเธอที่ฉันได้รู้จักเป็นคนที่มีฟิตเราะฮฺ(ธรรมชาติ/เนื้อแท้แห่งนิสัยใจคอ)ที่บริสุทธิ์
หลายคนเป็นคนดี มีน้ำใจ ซื่อใส และมีหัวใจที่อ่อนโยน
ฉันจึงประหลาดใจเหลือเกินที่พบพวกเธออยู่ในสภาพเช่นที่เป็นอยู่
หรือเพราะเราอยู่ในสังคมที่ญาฮิ้ลเกินไป ?
หรือเพราะดุนยามันหอมหวานเกินไป ?
หรือเพราะแผนการณ์ของชัยฏอนมันร้ายกาจเกินไป?ไม่ – เราต้องไม่ยอมแพ้นะ เราจะยอมแพ้ไม่ได้
ฉันแน่ใจว่า อย่างน้อยที่สุด...ในสักอณูหนึ่งของหัวใจเรา เมล็ดพันธ์แห่งอีมานจะต้องยังคงชีวิตอยู่
เมื่อใดที่ความรู้สึกว่าสิ่งที่เราทำอยู่มันผิด...มันไม่ใช่...และอัลลอฮฺต้องไม่พอใจแน่ ๆ พุ่งขึ้นมา
เราต้องรีบตะครุบมันไว้ เกาะไว้ให้อย่างแน่นเลย
เพราะอิบลีสและพลพรรคของมันจะต้องพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำให้ความรู้สึกผิดนั้นถูกละเลยแต่เราจะแพ้ไม่ได้ และต้องไม่แพ้...เดิมพันครั้งนี้คือ
ความรอดของชีวิตเรา หรือมิฉะนั้นก็
เปลวไฟคงไม่มีอะไรจะพรรณาให้ยืดเยื้อไปกว่านี้ นอกจากขอให้
เรายำเกรงต่ออัลลอฮฺใน ๒ ทาง
คือ
๑) เกรงกลัวในการลงโทษอันหนักหน่วงของพระองค์เมื่อยามที่เราคิดจะทำความผิด
...การลงโทษของอัลลอฮฺนั้นรวดเร็ว รุนแรง และไม่ใช่ของที่จะล้อเล่นด้วยได้เลย และ๒) สำนึกในความเมตตาและการอภัยโทษอันมากมายของอัลลอฮฺเมื่อได้ทำความผิดไปแล้ว
...ไม่มีผู้ใดสิ้นหวังในความเมตตาของอัลลอฮฺ นอกจากบรรดาผู้ปฏิเสธเท่านั้น หากว่าเธอผ่านเข้ามาอ่าน...โอ้พี่น้องที่อัลลอฮฺได้ส่งเข้ามาในชีวิตของฉัน
โปรดรู้เถิดว่า
การที่เธอยังอ่านข้อความนี้ได้ก็เพราะอัลลอฮฺยังให้เธอมีลมหายใจ
และการที่เธอยังมีลมหายใจ ก็เพราะอัลลอฮฺยังให้โอกาสเธอในการกลับเนื้อกลับตัวและตักตวงความดีกี่มากน้อยแล้ว...คนรู้จักของเราที่อัลลอฮฺได้เรียกเก็บเขาไป โดยที่มีคนโศกเศร้ากับเขาอยู่บ้างในวันที่เขาจากไป
แต่วันนี้...จะเหลือสักกี่คนกันที่ยังพูดถึงเขา ร้องไห้ให้เขา และเป็นห่วงเป็นใยเขาอยู่เสมอ
ในขณะที่วันนี้
เรายังมีคนพูดถึง มีคนเป็นห่วง และมีคนมากมายให้ข้องแวะเกี่ยวข้องแต่วันหนึ่งเราก็จะไม่เหลือใครเลยนอกจากมะลักผู้สอบสวนที่ประจันหน้าอยู่ในหลุมศพอันเงียบเหงาเดียวดาย
การงานของเราในวันนี้เท่านั้นที่จะเป็นเพื่อนแท้ผู้อยู่เคียงข้างเราในวันนั้น
...แล้วเราจะยังใฝ่หาเพื่อนเลวมากกว่าเพื่อนดีอยู่อีกหรือ?
แหล่งที่มาของความห่วงใย..ขอให้เราได้พบกัน ณ สถานที่อันสถาพรด้วยเถิด..อามีนยาร็อบฯ
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ..ฉันรักเธอ รักเธอจริงๆ พี่น้องที่รักของฉัน..
เรื่องเก่าเก็บนำมาเล่าใหม่ แต่คุณภาพยังคงกริ่มกรุ่นไปด้วยความห่วงใยต่อทั้งตัวเองและพี่น้องที่รักอย่างเคย