อย่าพยายามหาข้ออ้างเพื่อที่จะทำให้ของไม่ดีกลายเป็นของดีเลยดีกว่า ลองถามตัวเองดูว่า ตอนเดินเข้าไปโชว์รูมรถ มันก็เขียนอยู่ให้เห็นแบบเต็มๆ
ตาว่าดอกเบี้ยเท่านั้น เท่านี้ แล้วคุณยังจะหาข้ออ้างอีกเหรอว่าไม่ใช่ดอกเบี้ยแต่เป็นกำไร
ทางที่ดีคุณ ยอมรับซะดีกว่าว่าเราได้ทำผิด แล้วค่อยเตาบัตเอาไม่ดีกว่าเหรอ มัวแต่มาหาข้ออ้างให้ตัวเองถูกอยู่ได้ นี่แหละนัฟซูคน ไม่มีใครหรอกจะ
ยอมรับว่าตัวเองทำผิด คิดดูขนาดศาลที่เป็นมนุษย์คดีไหนจำเลยสำนึกผิดยังมีการลดหย่อนโทษ แล้วนี่เรากำลังจะหาข้ออ้างมางัดกับอัลเลาะห์
คุณคิดดีแล้วเหรอ

สลามครับ..
ถ้าคำตอบนี้คุณตอบให้กับผมที่ผมบอกว่า การซื้อขายรถแบบผ่อนจ่ายโดยต้องจ่ายมากกว่าราคาสดนั้นเป็นดอกเบี้ยแล้วหาว่าผมพยายามทำให้สิ่งผิดเป็นถูก
( ผมขอบอกคุณนะครับว่า คุณกำลังกล่าวหาผมเป็นกาเฟรรู้ตัวบ้างใหมครับ เพราะใครก็ตามที่เปลียนฮุก่มของอัลลอฮ์(ซ.บ) ถือว่าตกมุรตัดครับ วันอิญาซุบิลลอฮ์ ) แล้วลองพิจรณาในสิ่งที่ผมได้ตอบไปนะครับว่า ผมอ้างหนังสือมาด้วย รวม 3 เล่มด้วยกัน ฉนั้นการที่คุณมาติงผมเท่ากับติงใครครับ .... ระหว่างคุณกับคนที่ผมได้อ้างหนังสือเอาไว้คุณคิดว่าผมจะเชื่อใคร คุณคิดว่าใครผิดใครถูกครับ
ส่วนตัวผมเองหลายครั้งที่จะอะไรลงไปจะอ้างหนังสืออยู่เสมอ เพราะมีเจตนาให้คนอื่นได้อ่านและสามารถตรวจทานดูได้ในสื่งที่ได้อ้างไปและจะทำให้ผู้อ่านมีความมั้นใจยิ่งขึ้น ใช่ว่าพูดอย่างเดียวแต่ไม่มีสิ่งยืนยัน ( ในหนังสือ الإفتاء การฟัตวา ของ ด.ร ยูซุฟ อัลกอรฏอวีย์ บอกว่า การตอบปัญหาแล้วผู้ตอบนั้นได้อ้างหนังสือแหล่อ้างอิงหรืออ้างคณาจารย์ บ่งบอกให้รู้ว่าคนๆนี้มีความรู้เยอะ ฉนั้นในส่วนตัวผมเองจะตอบหรือจะเขียนอะไรลงไปแล้วผมจะดูหนังสือแล้วค่อยตอบเสมอ ) ผมเองคนไม่มีความรู้อะไรมากหรอกคับเลยต้องศึกษาหาความรู้อยู่ตลอด อีกอย่างครับ ในหนังสือ العبادة في السلام ของ ด.ร ยูซุฟ อัลกอรฏอวีย์ บอกว่า الفقيه فوق العالم ผู้ที่เข้าใจย่อมเหนือกว่าผู้รู้ เพราะผู้ที่เข้าใจนั้นเข้ารู้ลึกรู้จริงรู้ทั้งภายนอกและภายใน ซึ้งต่างกับผู้ที่รู้เพราะผู้รู้ รู้ภายนอกอย่างเดียวรู้ผิวเพินเท่านั้น ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า ทุกๆคนที่เข้าใจย่อมรู้ แต่ทุกๆคนที่รู้ใช่จะเข้าใจ ...วัลลอฮ์ฮุอะลัม