ผู้เขียน หัวข้อ: การนิกะห์ใหม่  (อ่าน 7449 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: การนิกะห์ใหม่
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ต.ค. 13, 2011, 10:52 AM »
0
 :salam:

ประเด็นร้อนแรงจริง ๆ  ตอนเด็ก ๆ ผมเรียนระดับฟัรฎูอีน ท่องจำว่า รุก่นนิกาหฺ มี ๕ ประการ

๑. ต้องมีเจ้าบ่าว(ชาย)
๒. ค้องมีเจ้าสาว(หญิง)
๓. ต้องมีผู้ปกครองฝ่ายหญิง
๔. ต้องพยาน ๒ คน(ชาย) หรือ หญิง ๒ คนแทนชาย ๑ คน
๕  ต้องมีคำอิญาบ เกาะบูล

กรณีนี้ การแต่งงานครั้งแรก ไม่มีผู้ปกครองฝ่ายหญิง ถ้าความรู้ระดับผมก็ต้องบอกว่า การนิกาห์ ไม่เศาะหฺ

โตขึ้นหน่อย มีผู้มีความรู้สอนว่า ถ้าไปขอวะลีแล้ว ๓ ครั้ง แล้ววะลีไม่อนุญาต ทั้ง ๆ ที่ฝ่ายชายไม่ได้มีข้อเสียอะไร ก็ให้นิกาห์ได้ ผมก็รับทราบ

ต่อมาอีก อ่านพบในเวบนี้แหละว่า ถ้าเกรงว่าจะเกิดการซินา ก็ให้วะลีแต่งตั้งทำการนิกาหฺได้ ตามมัซฮับชาฟิอียฺ

๒ ข้อแม้หลังนี้ผมไม่รู้จริง ๆ ว่ามีหลักฐานจากอัลกุรฺอาน หรืออัลหะดีษ หรือเป็นมติของปวงปราชญ์ ผู้รู้ช่วยขยายความหน่อยได้ไหมครับ

เพราะผมเคยอ่านในหนังสือของ อ.ปราโมทย์ แย้มอุทัย ว่า ถ้าวะลีมีตัวตน(ไม่ใช่กรณีฝ่ายหญิงเป็นมุอัลลัฟ) แล้ววะลีไม่อนุญาต

การแต่งงานใช้ไม่ได้ไม่ว่าจะห่างสักเท่าไรก็ตาม ซึ่งผมค่อนข้างจะเห็นด้วย มิฉะนั้นก็จะเป็นจุดอ่อนให้คู่หญิงชาย-บางคน

ใช้เป็นข้ออ้างในการหนีออกจากที่อยู่ไปให้ไกล ๆ แล้วก็ไปนิกาหฺกัน ทำเหมือนกับวะลีไม่มีความหมาย ล้อเล่นกับบัญญัติของอัลลอฮฺ

ลองนึกถึงหัวอกเราที่เป็นพ่อของลูกสาวดูว่า ถ้าลูกสาวเราทำอย่างนี้ เราจะรู้สึกอย่างไร

ดังนั้น ถ้ามีหลักฐานจากอัลกุรอาน หะดีษ หรือมติปวงปราชญ์ ช่วยสอนผมหน่อย ผมจะได้ทำใจได้ ถ้าเกิดปัญหานี้กับตัวเอง

ถ้าผมเป็นอิมามแล้วคู่นี้มาปรึกษา ผมจะบอกให้เตาบัตตัวมาก ๆ ถ้ามีอำนาจก็จะเฆี่ยน แล้วเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ในการแต่งงาน

วัลลอฮุอะอฺละมุบิศเศาะวาบ วัสสลาม

ออฟไลน์ مرونة الشريعة

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 61
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
Re: การนิกะห์ใหม่
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ต.ค. 13, 2011, 12:07 PM »
0
วอลัยกุมุสลาม

ไม่มีหนังสืออ้างอะ ครูพักลักจำอย่างเดียว

ตกประเด็นนึงไป ถ้ากลัวซินานั้นอนุญาตให้แต่งงานได้

วัลลอฮุอะลัม

สลามครับ..
คำถามที่ผมได้ถามไปผมตอบให้ในสิ่งที่ผมได้รับรู้มานะครับ ในหนังสือ (ฟาตาวา อัสรียะห์) ของ เชค อาลี ญุมอะห์ มีกล่าวไว้เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า จำเป็นที่อีหม่ามหรือฮาเก่มนั้นต้องทำการแต่งงานให้กับชายหญิงคู่นี้ เพราะถ้าไม่แต่งคู่นี้ทำซีนาแน่ เรื่องซีนาอุลามาอ์เห็นตรงกันหมดว่าฮาราม ส่วนเรื่องมีวลีหรือไม่นั้นเป็นเรื่องเห็นต่างของบรรดาอุลามาอ์นั้นเอง เราต้องเอาสิ่งที่เห็นตรงกันหรือเมาะสมกับเหตการณ์นั้นๆมากระทำก่อน ที่ยกมาแบบนี้เพื่อจะบอกให้รู้ว่า การเห็นต่างของบบรรดาอุลามาอ์นั้นถือเป็นเราะห์มัต ใช้ตามกรณี กรณีไหนที่สมควรใช้มากที่สุด  เดิมในปัญหาหนึ่งๆนั้นคือ ต้องเอาฮุก่มที่บรรดาอุลามาอ์ที่เห็นตรงกันทั้งหมดมาก่อน ต่อมาถ้าเป็นเรื่องที่เห็นต่าง ต้องเอาคำพูดของญุมฮูรมาก่อนแต่ก็ต้องเชื่อด้วยว่าคนที่เห็นต่างจากญุมฮูรนั้นย่อมกระทำได้
ต่อมาถ้าเป็นเรื่องที่เห็นต่างพอๆกันของบรรดาอุลามาอ์กระทำอันไหนก็ได้ที่มันสอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากที่สุด ซึ้งผมก็ทำตามมัสฮับซาฟีอีเพราะผมอยู่มัสฮับนี้และเมื่องไทยส่วนใหญ่ก็มัสฮับนี้มันเลยง่ายในการตามมัสฮับนี้ครับเมื่อปัญหามันเกิดขึ้น

1.ยึดเอาสิ่งที่อุลามาอ์เห็นตรงกันทั้งหมด
2.ยึดญุมฮูรถ้าเป็นเรื่องเห็นต่าง แต่บางทีเอาคำพูดที่เห็นต่างจากญุมฮูรมากระทำก่อนได้ถ้าปัญหานั้นมันเมาะสมกับคำพูดนั้นมากกว่า
3.ยึดสิ่งที่มีน้ำหนักมากกว่า แต่บางครั้งให้เอาคพูดที่มีน้ำหนักเบากว่ามากระทำก่อนได้ถ้าปัญหานั้นมันเมาะสมกับคำพูดนั้นมากกว่า
( หนังสือ ฟิกฮ์ อะดิ้ลละห์ ของ ด.ร วะห์บะห์ ซุฮัยลีย์ เล่ม 1 )

 

GoogleTagged