ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมต้องยกหลักฐานจากจากมัซฮับอื่นมาเสริมในการตอบคำถาม?  (อ่าน 5589 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sufriyan

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 526
  • เพศ: ชาย
  • 0000
  • Respect: +16
    • ดูรายละเอียด
แต่สำหรับผม...เป็นเพียงแค่ผู้รู้..ที่เริ่มแสวงหาความรู้..ไม่มีพรรคหรือว่ามีสังกัด. ..กลุ่มหรือว่าองค์กรณ์ใดๆ

ระวังอยู่พรรคชัยฏอน  เพราะพวกไม่มีพรรค  ชัยฏอนจะเอาเขาเข้ามาเป็นพรรคพวก



เอาตามจริง ตอนแรกนึกว่าเค้าพิมพ์ผิดแล้วจะเข้ามาแก้ไข  แต่พอเค้าเข้ามายืนยัน  ...........
เอาเป็นว่าผมจะเงียบแล้วรออ่านผู้รู้เค้าคุยกันดีกว่า

วัสลาม

anakin

  • บุคคลทั่วไป
นี่่ขนาดอาจารย์อะลี  ยังบอกว่าตนเองเป็นคนเอาวามเพื่อเป็นมารยาทตามหลักศาสนา  แล้วคนที่บอกว่าตนเองเป็นผู้รู้  ไม่สนใจในเรื่องจริยธรรม  ชอบแอบอ้างตนเอง  ยกย่องตนเองแม้สักนิดก็ยังดี  แบบนี้มีความรู้ก็ไร้ประโยชน์ครับ

.............................


ครับป๋ม..การบอกว่าตัวเองเป็นผู้รู้..อ้างตัวตรงไหนหรือครับ...เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นมุสลิมหน้าที่คือแสวงหาวิชาความรู้ครับ...ผมไม่ได้กล่าวอ้างว่าผมรู้มากหรือรู้หมดทุกเรื่องเลยนิครับ...

อาจารย์อาลีก็คนเหมือนอาจารย์์คนอื่นๆนะละครับ..เขาก็เป็นเพียงแค่ผู้รู้ท่านหนึ่ง..บางทีหรือบางเรื่อง..ที่เขาไม่รู้.ก็มี...มันผิดหลักจรรยาบรรณตรงไหนหรือครับ..แล้วเป็นการอวดอ้างตรงไหนหรือครับ...

ผมคิดว่่ามุสลิมทุกคนเป็นผู้รู้ทั้งหมดละครับ..เพราะหน้าที่คือ...ต้องแสวงหาวิชาความรู้..    ดังที่ท่านรอซูล.(ซ.ล) ได้กล่าวเอาไว้นะครับ...".จงศึกษาวิชาความรู้..ตั้งแต่ในแปลจนถึงหลุมฝังศพ.." 

เพราะผุ้ที่ศึกษาวิชาความรู้..ก็เปรียบเสมือนผู้รู้ท่านหนึ่งหรือว่าคนหนึ่งนะละครับ...แต่รู้มากหรือว่ารู้น้อย..อีกเรื่องหนึ่งครับ...

คนที่เก่งกว่าอาจารย์อาลีก็มี..คนที่ ความรู้น้อยกว่าอาจารย์อาลีก็มี...ไม่ใช่เรื่องแปลก..เพราะอยู่ที่ว่าใครจะพยายามหรือหมั่นแสวงหามากน้อยแค่ไหนมากกว่านะครับ.

อาจารย์อาลีก็คน..อาจารย์..คนอื่นๆก็คนเหมือนกัน.อาจารย์อาลีไม่ได้เหนือกว่าอาจารย์คนอื่นๆหรือว่าอาจารย์คนอื่นๆไม่ได้เหนือกว่ากว่าอาจารย์อาลีเลย...

สำคัญที่ว่า..ใครที่มุ่งมั่นแสวงหาวิชาความรู้..และมีความพยายามมากกว่าต่างหาก....

เพราะอาจารย์อาลีก็คน..อาจารย์คนอื่นๆก็คนเหมือนกัน..ไม่เห็นแตกต่างเลยนี่ครับ...เพราะมิใช่ว่าคนที่ใช้คำว่า..อาจารย์จะมีเกียตริมากกว่าคนธรรมดาเลยนิครับ..

ถ้ามีเกียตริ ณ.ที่มนุษย์นะใช่ครับ...แต่ถ้ามีเกียตริ ณ ที่พระองค์อัลเลาะห์(ซ.บ)น่าจะมองกันที่ความยำเกรงและการตั๊กวามากกว่านะครับ...

เพราะอาจารย์บางคนหรือว่าบางท่าน..ก็เหมือนปีศาจในคราบนักบุญ.หรืออีกแง่หนึ่งก็คือ..อาจารย์เชิงพานิชน์ดีๆนี่เองนะครับ..._@^_^@

ออฟไลน์ muqorrabeen

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 194
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
ดังที่ท่านรอซูล.(ซ.ล) ได้กล่าวเอาไว้นะครับ...".จงศึกษาวิชาความรู้..ตั้งแต่ในแปลจนถึงหลุมฝังศพ.."

ฮะดีษนี้ใครรายงานครับ ซอฮิหฺหรือเปล่า

ออฟไลน์ muqorrabeen

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 194
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
คนที่เก่งกว่าอาจารย์อาลีก็มี..คนที่ ความรู้น้อยกว่าอาจารย์อาลีก็มี...ไม่ใช่เรื่องแปลก..เพราะอยู่ที่ว่าใครจะพยายามหรือหมั่นแสวงหามากน้อยแค่ไหนมากกว่านะครับ.

คนเก่ง ไม่ใช่คนที่หมั่นแสวงหาวิชาความรู้  แต่คนเก่งนั้นคือคนที่มีมารยาท มีจริธรรม  และระงับนัฟซูตนเองได้  โดยไม่อวดอ้าง ยกย่องตนเอง 

anakin

  • บุคคลทั่วไป
ดังที่ท่านรอซูล.(ซ.ล) ได้กล่าวเอาไว้นะครับ...".จงศึกษาวิชาความรู้..ตั้งแต่ในแปลจนถึงหลุมฝังศพ.."

ฮะดีษนี้ใครรายงานครับ ซอฮิหฺหรือเปล่า

....

ขอบคุณครับ...ที่ช่วยชี้แนะ...ฮาดิษข้างต้น..สายรายงานยังไม่ซอเฮียะ์ห์ครับอันนี้ผมสับสนนิดหนึ่งครับ..จริงๆผม..อ้างถึงเรื่องความจำเป็น..จะเอาหลักฐานจากอันนี้นะครับ...

ขอบคุณที่ช่วย..เตือน...อย่างนี้ซิครับ..ถึงเรียกว่า.ศาสนาคือการตักเตือน...ขอบคุณครับป๋ม...

(طلب العلم فريضة على كل مسلم)

ออฟไลน์ muqorrabeen

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 194
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
ฮาดิษข้างต้น..สายรายงานยังไม่ซอเฮียะ์ห์ครับอันนี้ผมสับสนนิดหนึ่งครับ..จริงๆผม..อ้างถึงเรื่องความจำเป็น..จะเอาหลักฐานจากอันนี้นะครับ...

ที่คุณยอมรับว่าสายรายงานหะดีษนี้ไม่ซอฮิห์นั้น  มีนักรายงานคนใดบ้างที่ทำให้หะดีษไม่ซอฮิหฺหรือว่าคุณพูดเรื่องศาสนาแบบปราศจากความรู้  ก็ถือว่าพฤติกรรมของคุณนี้ขัดกับซุนนะฮ์ของท่านนบี(ซ.ล.) เช่นกัน

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
เพลาๆกันหน่อยก็ดีนะครับ พี่น้องกันหลีกเลี่ยงในสิ่งที่ขัดใจกันก็ดี
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ muqorrabeen

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 194
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
และสิ่งเหล่านั้นคือมรดกทางวิชาการที่ล้ำค่า ซึ่งอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงประทานให้แก่บรรดาอุละมาอฺเหล่านั้นที่เป็นธรรมทายาทของท่านรสูล (ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะซัลลัม) และกลายเป็นความประเสริฐของประชาชาตินี้ที่บรรดาอุละมาอฺของประชาชาติคือผู้ที่ดีที่สุดในหมู่พวกเขา ลองคิดสักนิด หากว่าเราไม่ถ่ายทอดมรดกทางวิชาการเหล่านั้น ไม่นานข้อมูลทางวิชาการเหล่านี้ก็จะสูญหายไปในที่สุดด้วยเหตุผลที่เราอ้างว่า ไม่จำเป็นต้องอาศัยพวกเขาอีกแล้ว

ต่อไปตำราต่างๆ ที่เป็นมรดกทางวิชาการอันล้ำค่า(อัตตุร็อษ)ของอุลามาอฺผู้เปี่ยมคุณธรรม  ก็จะหายไปด้วยน้ำมือของพวกที่บอกกับคนอื่นว่าตามอัลกุรอานและซุนนะฮ์  แม้ว่าในความเป็นจริงพวกเขายังต้องอาศัยอัตตุร็อษตำราเชิงวิชาการของอุลามาอฺรุ่นก่อนๆ ในการอธิบายอัลกุรอาน อธิบายหะดีษ  และอธิบายฟิกห์นิติศาสตร์อิสลาม

เราจะสังเกตได้ว่า เว็บวะฮาบีทั้งหลายไม่ค่อยเน้นค้นคว้าจากตำราอัตตุร็อษของอุลามาอฺยุคก่อนๆ กันแล้ว  จะตอบปัญหาศาสนา  ก็"มุ่งเน้น"จะเอาฟัตวาของคณะกรรมการถาวรของซาอุฯ มาเป็นบรรทัดฐาน  เอาฟัตวาเชคมุนัจญิด  เชคอุษมัยมีน  เชคบินบาซ  เชคเฟาซาน  มาเป็นบรรทัดฐานในการปิดศักยภาพของตนเองในเรื่องการค้นคว้าไปแล้ว  ส่วนจะวิเคราะห์ค้นคว้าจากมรดกเชิงวิชาการอันล้ำค่า(อัตตุร็อษ)  ก็จะถูกละเลย

ที่เป็นอย่างนี้  เพราะไม่ต้องการมีมัซฮับแต่เอาคำว่ายึดอัลกุรอานและซุนนะฮ์มาแทนที่มัซฮับ  เพื่อจะได้ดูดีและมีทางออกให้กับตนเอง  ด้วยเหตุนี้  จึงไม่เต็มใจสักเท่าไหร่ที่จะไปอ้างอิงจากตำรามัซฮับนั้นมัซฮับนี้  เพราะอาจจะถูกโต้กลับไปว่า  "ใหนบอกไม่เอามัซฮับไม่ใช่หรือ" เมื่อเป็นเช่นนี้  ก็เที่ยวแอบเอาการอธิบายของอุลามาอฺมัซฮับนั้น  มัซฮับนี้  แล้วนำมาพูดโดยบอกว่านี่แหละ ตามหลักของอัลกุรอานและซุนนะฮ์นบี  หากไม่ตามสิ่งที่ฉันนำมาพูด  ก็จะไม่ตามซุนนะฮ์นบี  คนเอาวามทั่วไปก็ตกหลมพรางเชื่อกันไป  ด้วยหลักการยกยอทัศนะของตนเองว่าเป็นซุนนะฮ์นบี

ด้วยเหตุนี้  จะสังเกตว่าอาจารย์อะลี  จะเน้นค้นคว้าจากตำราตุร็อษโดยตรงเพื่อนำมาเข้าใจและอธิบายอัลกุรอานและซุนนะฮ์  โดยมีการอ้างอิงตามหลักวิชาการ  และบรรดาผู้รู้เว็บนี้หลายคนก็มีแนวทางอย่างนั้นด้วยเช่นกัน 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 18, 2011, 10:17 AM โดย muqorrabeen »

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
ชัยฅ์ยูสุฟ อัลเกาะเราะฎอวีย์เคยในหนังสือของท่านที่ชื่อว่า "มะกอศิด อัชชะรีอะฮ์" พอสรุปได้ว่า พวกสะละฟีย์นั้นมีจุดประสงค์ดีเยี่ยมในการเรียกร้องอุมมะฮ์ให้เป็นเอกภาพกันทั้งโลก ซึ่งข้าพเจ้าก็เห็นด้วย แต่น่าเสียดาย ที่พวกเขาพยายามจะให้คนทั้งโลกเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้มาตรฐานที่พวกตนวางกรอบไว้ ซึ่งหากมีใครไม่เดินตามนั้น ก็จะถูกพวกเขาหุกุมไปต่างๆ นานา ... และท่านยังกล่าวตอบแก่คนที่ถามท่านว่า ท่านเป็นสะละฟีย์ (หมายถึงกลุ่มที่อยู่ในประเทศซาอุดิอารเบีย) นั้นไหม ท่านก็ตอบว่า ฉันจะเป็นพวกนั้นได้อย่างไร ก็ในเมื่อฉันเองยังถูกพวกเขาหุกุมกาฟิรเลย" ... วัลลอฮุอะอ์ัลัม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ muqorrabeen

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 194
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
ชัยฅ์ยูสุฟ อัลเกาะเราะฎอวีย์เคยในหนังสือของท่านที่ชื่อว่า "มะกอศิด อัชชะรีอะฮ์" พอสรุปได้ว่า พวกสะละฟีย์นั้นมีจุดประสงค์ดีเยี่ยมในการเรียกร้องอุมมะฮ์ให้เป็นเอกภาพกันทั้งโลก ซึ่งข้าพเจ้าก็เห็นด้วย แต่น่าเสียดาย ที่พวกเขาพยายามจะให้คนทั้งโลกเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้มาตรฐานที่พวกตนวางกรอบไว้ ซึ่งหากมีใครไม่เดินตามนั้น ก็จะถูกพวกเขาหุกุมไปต่างๆ นานา ... และท่านยังกล่าวตอบแก่คนที่ถามท่านว่า ท่านเป็นสะละฟีย์ (หมายถึงกลุ่มที่อยู่ในประเทศซาอุดิอารเบีย) นั้นไหม ท่านก็ตอบว่า ฉันจะเป็นพวกนั้นได้อย่างไร ก็ในเมื่อฉันเองยังถูกพวกเขาหุกุมกาฟิรเลย" ... วัลลอฮุอะอ์ัลัม

ก็อุลามาอฺสะละฟีย์ยุคปัจจุบัน ชื่อ เชคมุกบิล บิน ฮาดี อัลวาดิอีย์  ได้แต่งหนังสือวิจารณ์เชคอัลเกาะเราะฎอวีย์  โดยตั้งชื่อหนังสือว่า

إسكات الكلب العاوي يوسف القرضاوى

"ทำให้หยุดนิ่งกับสุนัขที่เห่าหอนนามยูซุฟอัลเกาะเราะฎอวีย์"

ดังนั้นไม่ใช่ว่า  ไม่ตรงกันแล้วเชคยูซุฟจะถูกฮุกุ่มเป็นกาเฟรอย่างเดียวตามที่ท่าน Al Fatoni นำเสนอมาน่ะ  ยังถูกเปรียบดั่งเป็นสุนัขอีกด้วย

ออฟไลน์ muqorrabeen

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 194
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
สิ่งที่พวกเขาตอบนั้นจริงๆ แล้วโดยมากหรือเกือบทั้งหมดต่างก็มีการวิเคราะห์ของอุละมาอฺในอดีตมาแล้วทั้งสิ้น แล้วพวกเขาก็ยึดหนึ่งจากความเห็นของอุละมาอฺเหล่านั้นมาชี้ขาดโดยบอกว่านั่นคือตัวบทหรือคำตอบตามกิตาบุลลอฮฺและสุนนะฮฺ ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นก็คือกลายเป็นว่าถ้าใครไปมีทัศนะที่ต่างออกไปจากนั้นก็จะกลายเป็นพวกไม่เอากิตาบุลลอฮฺและสุนนะฮฺ ทั้งๆที่ในข้อเท็จจริงอาจจะมิใช่เช่นนั้นเลย

เขาเรียกว่าโขมยการอธิบายของอุลามาอฺมาเป็นของตนเอง  เพราะถ้าหากว่าอ้างคำอธิบายของอุลามาอฺ  เช่นอิหม่ามชาฟิอีย์  ก็เกรงจะถูกกล่าวหาว่า  กลับมาตามมัซฮับหรืออุลามาอฺมัซฮับแล้วหรือ?  หรือถ้าหากบอกว่า  เรื่องนี้มีอุลามาอฺขัดแย้งกัน  บางทีก็ไม่กล้าบอกว่า  อุลามาอฺนั้นชื่ออะไร

ส่วนตัวผมเองก็เคยเจอ  มีคนเอาวามคนหนึ่งชอบโม้มาก  กำลังคึกและร้อนวิชา  มักชอบพูดกล่าวหาคนนั้นคนนี้บิดอะฮ์บ้าง  ทำชิริกบ้าง  ทำกร่าง  มองคนอื่นเหมือนมีความผิดเท่าภูเขา  แต่ตนเองก็ไม่ตรวจสอบ  คุณลักษณะที่เกิดขึ้นให้เห็นบ่อยๆ โดยเขาชอบหลุดพฤติกรรมออกมาเองโดยไม่รู้ตัว คือ ชอบตะกั๊บบุรและอุญุบ(ลำพองตน)  วันนั้นเขาบอกว่า  ตอนนี้เขาเองยึดมัซฮับซุนนะฮ์แล้ว  ทั้งที่แปลอัลกุรอานและหะดีษไม่เป็น  แต่ไปฟังอาจารย์ที่บอกว่าตนเองนั้นตามอัลกุรอานและซุนนะฮ์อย่างเดียว  พูดอะไรๆ ก็บอกว่านี่ซุนนะฮ์  อุลามาอฺว่าอย่างนี้(ทัศนะที่ตนเองไม่เอา)  และนบีบอกอย่างนี้(ทัศนะที่ตนเองจะเอา)  พี่น้องจะเลือกใครก็คิดกันเอาเอง

เวลาใครอธิบายอีกทัศนะหนึ่งให้เข้าใจ  ก็ไม่ฟังแล้ว  และบอกว่าฉันไม่ต้องการโต้เถียงกับใคร  แต่คำพูดกลับชอบวิจารณ์และชอบฮุกุ่มคนอื่น  ตอนนี้เขาอาจจะมีนัฟซูที่มีความสุขแต่หัวใจทนทุกข์และจมปลักอยู่กับความลำพองตนและตะกั๊บบุรอย่างไม่รู้ตัว  โดยรู้สึกว่าตนเองสมบูรณ์แล้ว  มาเจอสัจธรรมของแท้แล้ว  และดีกว่าคนอื่นแล้ว  นี่แหละตะอัศศุบของแท้     

ออฟไลน์ muqorrabeen

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 194
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
หลายๆประเด็นที่นักวิชาการบ้านเราฟันธงแล้วประทับตราว่านี่คือคำตอบตามกิตาบุลลอฮฺและสุนนะฮฺนั่นแหล่ะ โดยเนื้อแท้ของมันคือการสร้างการตะอัศศุบกับคนเหล่านั้น ข้อนี้น่ากลัวยิ่งกว่าที่คุณกลัวเกี่ยวกับเรื่องตะอัศศุบกับมัซฮับในบ้านเราเสียอีก

เพราะในขณะที่นักวิชาการเหล่านั้นฟันธงว่านี่แหล่ะคือคำตอบตามกิตาบุลลอฮฺและสุนนะฮฺ มิใช่ทัศนะอุละมาอฺคนนั้นคนนี้ว่า ทั้งๆ ที่สิ่งที่พวกเขาตอบมันมีทัศนะของอุละมาอฺคนหนึ่งจาก 4 มัซฮับตอบเอาไว้แล้ว แล้วพวกเขาก็ยึดเอาทัศนะนั้นมาว่าพร้อมกับตีตราประทับดังกล่าว ใครที่พูดอื่นจากนั้นก็กลายเป็นของเถื่อนของปลอมไป

นี่แหละคือความตะอัศศุบและฟิตนะฮ์ที่ปราชญ์สะลัฟศอลิหฺจริงๆ ซึ่งพวกเขาไม่ส่งเสริม  เนื่องจากสะลัฟจริงๆนั้น จะไม่ยกยอปอปั้นตนเอง ว่าทัศนะของฉันเท่านั้นที่ถูก  ส่วนคนอื่นกลายเป็นบิดอะฮ์ลุ่มหลง  เถื่อนของปลอม

อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์จริงๆ นั้นมิใช่มีลักษณะอย่างนี้

ออฟไลน์ muqorrabeen

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 194
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
ที่สำคัญก็คือขณะที่พวกเขากล่าวว่า พี่น้องทั้งหลายจงเชื่ออย่างนี้ จงปฏิบัติอย่างนั้น เพราะนี่เป็นไปตามกิตาบุลลอฮฺและสุนนะฮฺ อย่าได้ถือในมัซฮับ อย่าได้ยึดมั่นตะอัศศุบกับอิหม่ามท่านนั้นท่านนี้ คำพูดเช่นนี้เป็นคำพูดที่ถูกต้องไม่ผิดเลยแต่สิ่งที่แอบแฝงและอยู่ในความมุ่งหมายของคำพูดก็คือ สิ่งที่เสียหายโดยไม่รู้ตัว นั่นคือ “ต้องตามเรา ต้องเชื่ออย่างเรา เพราะเราตามกิตาบุลลอฮฺและสุนนะฮฺ” ในที่สุดพวกเขากำลังตั้งมัซฮับใหม่ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

ยิ่งกว่านั้น  เหมือนกับว่าเอาตนเองเป็นผู้ปกป้องศาสนาที่คนอื่นต้องตาม  เพราะถ้าไม่ตามเราไม่เชื่อเรา  ก็จะถูกตัดสินว่าเป็นคนบาป  เป็นคนฟาซิก  ยิ่งกว่านั้นบางทีถึงขั้นกลายเป็นคนนอกรีดเป็นกาเฟรกันเลยทีเดียว ทำตนเหมือนกับเจ้าของสวรรค์เจ้าของนรก  ที่คอยแจกตั๋วเข้าสวรรค์แก่คนที่ตามพวกเขาและห้ามผู้ที่ไม่ตามคำพูดของพวกเขา  เพราะไม่ตามมัซฮับที่ตนเองได้ตั้งขึ้นมาใหม่โดยไม่รู้ตัวนั่นเอง   

ออฟไลน์ ahmaad

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 15
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
 :salam: ใครเรียกคุณว่า"ผู้รู้"หรือครับanakin :-[

anakin

  • บุคคลทั่วไป
คนเก่ง ไม่ใช่คนที่หมั่นแสวงหาวิชาความรู้  แต่คนเก่งนั้นคือคนที่มีมารยาท มีจริธรรม  และระงับนัฟซูตนเองได้  โดยไม่อวดอ้าง ยกย่องตนเอง 


..............


คนเก่งคือคนที่นั่งเทียนแล้วปิดไฟ..แล้วเกิดวิชาความรู้..อย่างนั้นหรือครับ...เอ.....แล้วคำว่า...

طلب العلم فريضة على كل مسلم

ที่ท่านรอซูล (ซ.ล) ส่งเสริมให้มีการแสวงหาวิชาความรู้..คงเป็นหมันแน่ครับ...ฮาดิษนี้คงใช้ไมไ่ด้..

เพราะระดับ...พวกท่าน..เพียงแค่มีจริยธรรมดี..ก็ได้รับการยกย่องแล้ว...หรือเพียงแค่ปิดไฟนั่งเทียน...ก็เป็นผู้วิเศษแล้วอย่างนั้นหรือครับ

 

GoogleTagged