ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมต้องยกหลักฐานจากจากมัซฮับอื่นมาเสริมในการตอบคำถาม?  (อ่าน 5021 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
คนเก่ง ไม่ใช่คนที่หมั่นแสวงหาวิชาความรู้  แต่คนเก่งนั้นคือคนที่มีมารยาท มีจริธรรม  และระงับนัฟซูตนเองได้  โดยไม่อวดอ้าง ยกย่องตนเอง 


..............


คนเก่งคือคนที่นั่งเทียนแล้วปิดไฟ..แล้วเกิดวิชาความรู้..อย่างนั้นหรือครับ...เอ.....แล้วคำว่า...

طلب العلم فريضة على كل مسلم

ที่ท่านรอซูล (ซ.ล) ส่งเสริมให้มีการแสวงหาวิชาความรู้..คงเป็นหมันแน่ครับ...ฮาดิษนี้คงใช้ไมไ่ด้..

เพราะระดับ...พวกท่าน..เพียงแค่มีจริยธรรมดี..ก็ได้รับการยกย่องแล้ว...หรือเพียงแค่ปิดไฟนั่งเทียน...ก็เป็นผู้วิเศษแล้วอย่างนั้นหรือครับ


ยกเองเออเอง คิดแทนคนอื่นเสร็จสรรพ  แบบนี้แย่นะคะ  ไม่ใช่มารยาทที่ดีเรย
แค่ประโยคที่พี่น้องยกมา คุณanakin ยังตีโจทย์ไม่แตก  แบบนี้คุยกันลำบาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 18, 2011, 11:33 PM โดย al-firdaus~* »

ออฟไลน์ muqorrabeen

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 194
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
 :salam:

คุณ anakin ครับ  ผมจะถามคุณสักนิดครับ  การหมั่นร่ำเรียนและศึกษาวิชาความรู้ศาสนาจนเก่งเพื่อผู้อื่นจะได้ยอมรับว่าเป็นผู้รู้นั้น  จะตกนรก หรือไม่?

anakin

  • บุคคลทั่วไป
คุณ anakin ครับ  ผมจะถามคุณสักนิดครับ  การหมั่นร่ำเรียนและศึกษาวิชาความรู้ศาสนาจนเก่งเพื่อผู้อื่นจะได้ยอมรับว่าเป็นผู้รู้นั้น  จะตกนรก หรือไม่?
......................


วิชาความรู้ที่ว่าจนเก่ง..คำว่าเก่งของคุณระดับไหนหรือครับ...หรือระดับที่ว่า..ต้อง..มีคนมาหามาเอาวิชา..

ความรู้แล้วอย่าไปบอกใคร..อย่างนี้..คือผู้ที่เก่งในความหมายของคุณหรือครับ.

การปกปิดความรู้...หรือ..การมีความรุ้มากกว่าคนอื่นๆที่ไม่รู้.อย่างนี้เรียกว่าเก่งไหม...รู้จนสามารถตั้งตนเป็นคนให้ึความรู้..ในสิ่งที่ที่..ขัดต่อหลักคำสอน..อย่างนี้เรียกว่าเก่งไหม...ในความหมายของคุณ

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
ไม่ได้เข้ามาเสียนาน รุ่นเก่าไป รุ่นใหม่มา
ก็ยังพูดคุยกันเรื่องเดิมๆ เมื่อ 50 ปีก่อน ฮ้าๆ

ออฟไลน์ WIND

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 220
  • เพศ: ชาย
  • MKM
  • Respect: +30
    • ดูรายละเอียด
ไม่ได้เข้ามาเสียนาน รุ่นเก่าไป รุ่นใหม่มา
ก็ยังพูดคุยกันเรื่องเดิมๆ เมื่อ 50 ปีก่อน ฮ้าๆ

ไม่ตรงกับหัวข้อนะครับ แต่ผม LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE 
...................................................................................................
ขอออกนอกเรื่อง
...................................................................................................
เชคยูซุฟ กอรดอวีกล่าวไว้ประมาณว่า ทำไมประชาชาติเราถึงสิ้นหวังเช่นนี้
คนในประชาชาติกำลังถกเถียงเรื่องการละหมาดตารอวีฮ 8 กับ 20
คนในประชาชาติกำลังถกเถียงเรื่องขอดุอา ต้องยกมือ กับไม่ยกมือ
คนในประชาชาติกำลังถกเถียงเรื่อง การกระดกนิ้วชี้ตอนอ่านตัซฮุด
และในอีกหลายๆเรื่อง
ในขณะที่อะฮลุลกีตาบถกเถียงกันว่าจะทำลายอิสลามด้วยหนทางใด
.................................................................................................
อาจารย์ท่านหนึ่ง ท่านบอกว่าท่านได้พบกับยิวคนหนึ่งและได้ถามยิวคนนั้นว่า "ท่านกลัวมุสลิมหรือไม่"
ยิวตอบว่า "ตราบใดที่แถวของการละหมาดซุบฮีไม่เต็ม เหมือนแถวของการละหมาดวันศุกร์เราก็ไม่จำเป็นต้องกลัว"
................................................................................................

Dua.....The weapon of believer

ออฟไลน์ คนรู้น้อย

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 272
  • Respect: +16
    • ดูรายละเอียด
ก่อนอื่นบอกเลยผมไม่ผู้รู้หรือคนรู้มากนะ เพราะชื่อผมก็บอกอยู่ ฮ่าๆ

คนเก่ง กับ คนไม่เก่ง  สิ่งที่ต้องมาก่อนคือ จริยธรรม มารยาท ความรู้นั้นรองลงมาแตไม่ใช่ไม่รู้เรื่องไรเลยเอารู้แค่ 80 % พอไม่ต้องเต็ม 100% ก็ได้

แล้วถ้าคนเก่ง มีความรู้ 100% แต่ไม่มีมารยาท จริยธรรม ศีลธรรม สิ่งที่ตามมา คือ
1.ความบรรลัยของสังคม อย่างที่เห็นกันอยู่ในประเทศไทยที่คนเก่งแต่ขาด จริยธรรม ศีลธรรม ขดโกงกินกันจนรวย
2.จะยิ่งผยองในตัวเองเพราะกุเก่ง คนอื่นต้องพึ่งกุ แล้วอาจจะทำงานศาสนาไม่บริสุทธิ์ใจ

เรื่องนี้ผมว่าไม่ต้องไปเปิดอัลกรุอาน หรือหะดีษหรอก เพราะคนเราสิ่งที่มีก่อนคือ จริยธรรม มารยาท แต่ในเมื่อ คนเรา มันไม่มี จริยธรรม มารยาท ต่อให้เก่งแค่ไหนก็ล้มเหลวครับ

ในหะดีษ ในอัลกรุอาน เลยมีบอกไว้เพื่อย้ำเตือนคนเราและชี้แนวทางที่ถูกต้องให้เราครับ

หวังว่า คุณ anakin คงเข้าใจนะครับ

ส่วนผมเองก็ศึกษาหาความรู้ไปเรื่อยๆคนเก่งกว่าผม รู้มากกว่าผมมีอีกเยอะ


ออฟไลน์ Beechern

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1228
  • เพศ: ชาย
  • What is the Perfect method to save our Akhirah?
  • Respect: +28
    • ดูรายละเอียด
โผล่ผิดที่อะ --"
hidayah seeker . . .

ออฟไลน์ muqorrabeen

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 194
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด

แล้วถ้าคนเก่ง มีความรู้ 100% แต่ไม่มีมารยาท จริยธรรม ศีลธรรม สิ่งที่ตามมา คือ
1.ความบรรลัยของสังคม อย่างที่เห็นกันอยู่ในประเทศไทยที่คนเก่งแต่ขาด จริยธรรม ศีลธรรม ขดโกงกินกันจนรวย
2.จะยิ่งผยองในตัวเองเพราะกุเก่ง คนอื่นต้องพึ่งกุ แล้วอาจจะทำงานศาสนาไม่บริสุทธิ์ใจ

เรื่องนี้ผมว่าไม่ต้องไปเปิดอัลกรุอาน หรือหะดีษหรอก เพราะคนเราสิ่งที่มีก่อนคือ จริยธรรม มารยาท แต่ในเมื่อ คนเรา มันไม่มี จริยธรรม มารยาท ต่อให้เก่งแค่ไหนก็ล้มเหลวครับ


คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมเลยครับ จงศึกษาเรื่องมารยาทก่อนศึกษาความรู้

ออฟไลน์ muqorrabeen

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 194
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
ตรงนี้แหล่ะเป็นคำตอบของผมเช่นกันว่าทำไมผมจึงต้องตอบโดยอ้างบรรดาอุละมาอฺเหล่านั้นซึ่งพวกท่านไม่เพียงแต่ใช้ให้เราตามตัวบทจากกิตาบุลลฮฺและสุนนะฮฺแค่นั้น แต่ท่านเหล่านั้นยังมีความรู้และเข้าใจตัวบทเหล่านั้นได้ดีอีกด้วย เพราะอิหม่ามทั้ง 4 ท่านเป็นนักวิชาการหะดีษและเป็นมุจญตะฮิดคือมีภาวะทางภูมิปัญญาในการวิเคราะห์สูงกว่าคนเอาวามอย่างผม

และข้อเท็จจริงของมนุษย์ที่เรียกว่า “คน” นี้ก็คือมีระดับสติปัญญาและวุฒิภาวะทางปัญญาที่แตกต่างกัน ผมถึงอาศัยบรรดานักปราชญ์ผู้ทรงภูมิปัญญาในยุคสะลัฟศอลิหฺเป็นเกณฑ์และอาศัยพลังการวิเคราะห์ของพวกท่านเหล่านั้นเป็นหนทางที่จะเข้าถึงกิตาบุลลอฮฺและสุนนะฮฺและการหาคำตอบในประเด็นข้อปลีกย่อยทางนิติศาสตร์

ซึ่งนี่เป็นวิธีการนำเสนอเพื่อให้ครบถ้วนรอบด้านและนำสู่ข้อยุติของปัญหาที่ใกล้เคียงหรือสอดคล้องกับตัวบทจากกิตาบุลลอฮฺและสุนนะฮฺ กล่าวคือ ผมนำเสนอความเห็นของอุลามะอฺเหล่านั้นว่าท่านวิเคราะห์ปัญหาอย่างไรและมีมุมมองและความเข้าใจต่อตัวบทอย่างไร แล้วหาข้อสรุปที่ดีที่สุด มิใช่ว่าผมทำตัวเป็นอุละมาอฺเสียเอง

ตรงกับบทความนี้

การตามอัลกุรอานและซุนนะฮ์นั้น เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายต่างให้การยอมรับ มีบางท่านกล่าวว่า การเรียนรู้ศาสนานั้น ทำการเรียนรู้จากอัลกุรอานและซุนนะฮ์โดยตรงดีกว่า การเรียนผ่านอุลามาอฺหรือผ่านคน ซึ่งคำว่า "คน" นั้นย่อมมีผิดมีถูก ดังนั้นการเรียนรู้จากอัลกุรอานและซุนนะฮ์โดยตรงย่อมดีกว่า ไม่จำเป็นต้องเรียนผ่านคนหรอก?

แต่ผมไม่เห็นด้วยกับจุดยืนเช่นนี้ เพราะการเข้าใจอัลกุรอานและซุนนะฮ์นั้นต้องอาศัยผู้รู้ จะปลอดภัยยิ่งกว่า เพราะถ้าหากเราหรือบุคคลหนึ่งศึกษาอัลกุรอานและซุนนะฮ์โดยตรง ผมอยากถามว่า "คุณน่ะเป็นใครเข้าถือเอกสิทธิ์ในการเข้าไปศึกษาอัลกุรอานและซุนนะฮ์โดยตรง? คุณเป็นคนเป็นมนุษย์ใช่ไหม? ถ้าใช่แสดงว่าคุณก็มีถูกและมีผิด, และพลังสมองพลังความเข้าใจของอุลามาอฺที่มีต่ออัลกุรอานและซุนนะฮ์นั้น มีมากกว่าคุณหรือมีน้อยกว่า? แต่ถ้าหากคุณมั่นใจว่าตนเองมีความเข้าใจอัลกุรอานและซุนนะฮ์มากกว่าอุลามาอฺ คุณก็เข้าไปศึกษาอัลกุรอานและซุนนะฮ์ด้วยตัวของคุณเถิด แต่ถ้าหากคุณรู้สึกว่าตนเองต่ำต้อย ความรู้มีน้อยนิด มีความเข้าใจที่ยังบกพร่องอยู่ คุณก็สมควรยอมจำนนต่อความเป็นจริง

เพราะวิชาความรู้อัลกุรอานและซุนนะฮ์นั้น เป็นมรดกของท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม หากเราต้องการมรดกของท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็ต้องไปเอาที่ทายาทของท่านนะบีย์ เพราะท่านนะบีย์ได้กล่าวไว้ว่า

اَلْعُلَمَاءُ وَرَثَةُ الأَنْبِيَاءِ

"แท้จริงบรรดาอุลามาอฺนั้นเป็นทายาทของบรรดานะบีย์"

ดังนั้นการที่จะอยากได้มรดกที่ล้ำค่า ก็ต้องไปเอาที่ผู้มีคุณสมบัติเป็นทายาทเชิงวิชาการศาสนาอย่างแท้จริงนั่นเอง

วัลลอฮุอะลัม

เราจะศึกษาอัลกุรอานและฮะดีษโดยตรงหรือศึกษาผ่านอุลามาอฺ


ออฟไลน์ muqorrabeen

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 194
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
สิ่งที่พวกเขาตอบนั้นจริงๆ แล้วโดยมากหรือเกือบทั้งหมดต่างก็มีการวิเคราะห์ของอุละมาอฺในอดีตมาแล้วทั้งสิ้น แล้วพวกเขาก็ยึดหนึ่งจากความเห็นของอุละมาอฺเหล่านั้นมาชี้ขาดโดยบอกว่านั่นคือตัวบทหรือคำตอบตามกิตาบุลลอฮฺและสุนนะฮฺ ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นก็คือกลายเป็นว่าถ้าใครไปมีทัศนะที่ต่างออกไปจากนั้นก็จะกลายเป็นพวกไม่เอากิตาบุลลอฮฺและสุนนะฮฺ ทั้งๆที่ในข้อเท็จจริงอาจจะมิใช่เช่นนั้นเลย

ก็น่าสงสารเด็กรุ่นใหม่ๆ ที่ถูกสอนมาด้านเดียว  ถูกใส่ข้อมูลสำเร็จรูปมาแล้วว่า  แนวทางนี้เท่านั้นที่ถูกต้อง  และเป็นแนวทางซุนนะฮ์นบีเพียงอย่างเดียว อย่างอื่นมิใช่   เด็กรุ่นใหม่บางคนจึงถูกปิดกั้นความคิดในเรื่องการเข้าใจศาสนาที่เปิดกว้าง  และถูกขู่ว่าหากมิทำแบบนี้  จะตกนรกไม่ตามนบี  ซึ่งเป็นเสพติดมอมเมาอย่างหนึ่งที่น่าเศร้ามาก จนทำให้บางคนคลั่งในทัศนะของตนเอง  และทำให้มองผู้รู้ที่อ้างอิงอัลกุรอานและซุนนะฮ์โดยมีอุลามาอฺมัซฮับมาอธิบาย  กลายเป็นผู้ที่ไม่ตามซุนนะฮ์ไปใหนที่สุด  ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายมาก

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
ผมว่า คนที่เป็นอันตรายมากที่สุดก็คือ "คนที่ตะอัศศุบในแนวทางของตนเอง แล้วไม่รู้ตัวว่าตัวเองตะอัศศุบ" ผมเข้าใจว่าคนประเภทนี้จะมีอยู่ในทุกกลุ่ม แล้วคนประเภทนี้เองที่คอยแต่สร้างชื่อเสียงให้แก่กลุ่มที่เขาอยู่นั้น แต่เมื่อกลุ่มเสียหาย กลับเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่พวกเขาที่คอยแก้ต่างให้แก่กลุ่มนั้น ... วัลลอฮุอะอ์ลัม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

khimimaro

  • บุคคลทั่วไป
แล้วถ้าคนเก่ง มีความรู้ 100% แต่ไม่มีมารยาท จริยธรรม ศีลธรรม สิ่งที่ตามมา คือ
1.ความบรรลัยของสังคม อย่างที่เห็นกันอยู่ในประเทศไทยที่คนเก่งแต่ขาด จริยธรรม ศีลธรรม ขดโกงกินกันจนรวย
2.จะยิ่งผยองในตัวเองเพราะกุเก่ง คนอื่นต้องพึ่งกุ แล้วอาจจะทำงานศาสนาไม่บริสุทธิ์ใจ

เรื่องนี้ผมว่าไม่ต้องไปเปิดอัลกรุอาน หรือหะดีษหรอก เพราะคนเราสิ่งที่มีก่อนคือ จริยธรรม มารยาท แต่ในเมื่อ คนเรา มันไม่มี จริยธรรม มารยาท ต่อให้เก่งแค่ไหนก็ล้มเหลวครับ

........................



โดยส่วนมาก..ร้อยละร้อยเปอร์เซ็นต์เลย..ที่อาจารย์ที่มองดูภายนอกเหมือนเป็นคนดี..มีจริยธรรม..และมีมารยาทงามต่อสังคม...

แต่เนื้อแท้..ทำเพื่อ..ผลประโยชน์ของตัวเอง...ในการที่จะทำให้..รูปลักษณ์ของตนดูดี...หรือเรียกง่ายๆว่าอาจารย์เชิงพานิชน์..

อาจารย์พวกนี้หรือผู้รู้พวกนี้..โดยมากเลย..จะทำตัว..เป็นคนที่ทำในสิ่งที่..ไม่มีแบบอย่างไม่มีแบบฉบับ...เหมือนๆกับจะมอมเมาคนในสังคม..ว่า..ตัวเองมีมารยาท..ดี..และ..จริยธรรมอันดี..เพื่อให้คนในสังคมนั้นๆยึดติด..กับรูปลักษณ์ภายนอก..พอผุ้คนเริ่มลุ่มหลงกับรูปลักษณ์ภายนอก...แล้ว..ก็สอดใส่หลักการต่างๆ..ที่ส่งผลให้ตัวเองมีผลประโยชน์จากหลักการนั้นๆ..โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องตามหลักการของอิสลาม..จนกระทั่ง.ผุ้รู้บางท่าน..ไม่ใส่หมวกละหมาด..ก็ถูกกล่าวหาว่าละหมาดไม่เซาะห์..แต่ในทางกลับกัน...

คนที่แต่งตัวดีทำตัวเหมือนมีจริยธรรม..และคุณธรรม..และกลับทำในสิ่งที่อุตริกรรมทางด้านศาสนามากมายแต่กลับได้รับการส่งเสริม..อย่างเต็มเปีี่ยม..เต็มความภาคภูิมิใจ...

ดังนั้น....อาจารย์เชิงพานิชน์พวกนี้..หรือปีศาจในคราบนักบุญพวกนี้...จะไม่สนใจว่าทำในสิ่งที่ถูกต้องตามหลักศาสนาหรือไม่..เพราะปลูกฝังเรื่องการแต่งตัวการแต่งกาย..ดูเหมือนตัวเองมีคุณธรรมและมารยาทที่ดีงาม..มอมเมาต่อสังคมไปแล้ว..

เพื่อแสวงหาในสิ่งที่ตัวเองมุ่งหวังและตั้งใจ...โดยหวังเพียงเพื่อ.ให้คนในสังคมมองเพียงรูปลักษณ์ภายนอก..แต่หลักการ..จะสอดใส่อะไรมาก็สามารถทำไำด้..เพราะสิ่งที่มอมเมาสังคมนั้น..เพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอก..พูดง่าย..เอาเรื่องราวของศาสนามาหากินกับภาคประชาชน..อาจารย์เชิงพานิชย์เหล่านี้มักจะใส่ไคล้..คนที่ดำเินินตามแนวทางที่ถูกต้อง.ในเรื่องการแต่งกาย..เพื่อยกระดับของตัวเอง..ให้เป็นที่ยอมรับของสังคมนั้นๆ..แล้วมุ่งเสาะแสวงหาผลประโยชน์..อย่างต่อเนื่อง....

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ..ปีศาจในคราบนักบุญ...หรืออีกนัยคือ..อาจารย์เชิงพานิชย์

ออฟไลน์ al-islah

  • คนพิเศษ
  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • *****
  • กระทู้: 187
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
คนด้านบน ใช่คนเดียวกับ anakin หรือป่าวครับ
ลาอีลาฮาอิลลัลลอฮฺ  มูฮัมมาดุรรอซูลุลลอฮฺ
   อีหม่าน  ยาเก่น  อาม้าลซุนนะห์นาบี

khimimaro

  • บุคคลทั่วไป
คุณ anakin ครับ  ผมจะถามคุณสักนิดครับ  การหมั่นร่ำเรียนและศึกษาวิชาความรู้ศาสนาจนเก่งเพื่อผู้อื่นจะได้ยอมรับว่าเป็นผู้รู้นั้น  จะตกนรก หรือไม่?

....................



คำว่าเก่ง..เก่ง ณ ที่อัลเลาะห์(ซ.ล) หรือว่าเก่ง ณ ที่มนุษย์ละครับ...แล้วการตกนรกนะครับ..ท่านหรืออาจารย์ของท่านที่ท่านนับถือสามารถกำหนดได้ด้ว้ยหรือครับว่า...คนนี้เป็นชาวนรก คนนี้เป็นชาวสวรรค์..

ออฟไลน์ sufriyan

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 526
  • เพศ: ชาย
  • 0000
  • Respect: +16
    • ดูรายละเอียด
คนด้านบน ใช่คนเดียวกับ anakin หรือป่าวครับ

ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แต่กินยาขวดเดียวกันและซื้อจากร้านเดียวกันแน่นอน

 

GoogleTagged