เราจะศึกษาอัลกุรอานและฮะดีษโดยตรงหรือศึกษาผ่านอุลามาอฺ

[al-azhary]

Tweet

 

การตามอัลกุรอานและซุนนะฮ์นั้น  เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายต่างให้การยอมรับ  มีบางท่านกล่าวว่า  การเรียนรู้ศาสนานั้น  ทำการเรียนรู้จากอัลกุรอานและซุนนะฮ์โดยตรงดีกว่า การเรียนผ่านอุลามาอฺหรือผ่านคน  ซึ่งคำว่า "คน" นั้นย่อมมีผิดมีถูก  ดังนั้นการเรียนรู้จากอัลกุรอานและซุนนะฮ์โดยตรงย่อมดีกว่า  ไม่จำเป็นต้องเรียนผ่านคนหรอก?

แต่ผมไม่เห็นด้วยกับจุดยืนเช่นนี้  เพราะการเข้าใจอัลกุรอานและซุนนะฮ์นั้นต้องอาศัยผู้รู้  จะปลอดภัยยิ่งกว่า  เพราะถ้าหากเราหรือบุคคลหนึ่งศึกษาอัลกุรอานและซุนนะฮ์โดยตรง  ผมอยากถามว่า  "คุณน่ะเป็นใครเข้าถือเอกสิทธิ์ในการเข้าไปศึกษาอัลกุรอานและซุนนะฮ์โดยตรง?  คุณเป็นคนเป็นมนุษย์ใช่ไหม?  ถ้าใช่แสดงว่าคุณก็มีถูกและมีผิด,  และพลังสมองพลังความเข้าใจของอุลามาอฺที่มีต่ออัลกุรอานและซุนนะฮ์นั้น  มีมากกว่าคุณหรือมีน้อยกว่า?  แต่ถ้าหากคุณมั่นใจว่าตนเองมีความเข้าใจอัลกุรอานและซุนนะฮ์มากกว่าอุลามาอฺ  คุณก็เข้าไปศึกษาอัลกุรอานและซุนนะฮ์ด้วยตัวของคุณเถิด  แต่ถ้าหากคุณรู้สึกว่าตนเองต่ำต้อย  ความรู้มีน้อยนิด  มีความเข้าใจที่ยังบกพร่องอยู่  คุณก็สมควรยอมจำนนต่อความเป็นจริง  

เพราะวิชาความรู้อัลกุรอานและซุนนะฮ์นั้น  เป็นมรดกของท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  หากเราต้องการมรดกของท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ก็ต้องไปเอาที่ทายาทของท่านนะบีย์  เพราะท่านนะบีย์ได้กล่าวไว้ว่า

اَلْعُلَمَاءُ وَرَثَةُ الأَنْبِيَاءِ

"แท้จริงบรรดาอุลามาอฺนั้นเป็นทายาทของบรรดานะบีย์"

ดังนั้นการที่จะอยากได้มรดกที่ล้ำค่า  ก็ต้องไปเอาที่ผู้มีคุณสมบัติเป็นทายาทเชิงวิชาการศาสนาอย่างแท้จริงนั่นเอง

วัลลอฮุอะลัม

[Al Fatoni]

จากสนทนาเมื่อกี้กลายเป็นบทความซะแระ แจ๋วครับบัง จซากัลลอฮุฅ็อยร็อน ...

[plaster_13]

    มีคนต้องการฮะดิษยืนยันคำพูดนาบีที่ว่า 
"แท้จริงบรรดาอุลามาอฺนั้นเป็นทายาทของบรรดานะบีย์"  ว่าอ้างจากฮะดิษไหนอ.อัซฮารี่ช่วยตอบหน่อย  จะได้ไปบอกเค้าให้เข้าใจซ่ะที  เพราะถ้าไม่อ้างฮะดิษเขาคนนั้นไม่ยอมเชื่ออีกทั้ง ยังคงทำการศึกษาอัลกุรอานและฮาดิษด้วยตนเอง

[Andalus]

“แท้จริงบรรดาอุละมาอ์(ผู้รู้ในศาสนา) คือ ทายาทผู้สืบทอดมรดกจากเหล่าศาสนทูต ” (รายงานโดยอะหมัด 5/196)

หรืออีกฮาดีษที่รายงานจากท่านอะบี อัดดัรดาอฺ ท่านนบีได้กล่าวว่า
“แท้จริงผู้รู้นั้นจะมีบรรดาผู้ที่อยู่บนชั้นฟ้า และแผ่นดินตลอดจนบรรดาสัตว์ปลา ที่อยู่ในน้ำขอวิงวอนให้อัลลอฮ์ทรงอภัยโทษแก่เขา และแท้จริง(จะเปรียบ)ความประเสริฐของผู้รู้ที่เหนือกว่าความประเสริฐของผู้ ทำอิบาดะหฺนั้น เปรียบได้กับความสว่างไสวของดวงจันทร์ในหมู่ดวงดาวอื่นๆในคืนพระจันทร์เต็ม ดวง บรรดาอุละมาอฺ(ผู้รู้)นั้นคือทายาท(ผู้ที่สืบทอดมรดก)จากบรรดานบีทั้งหลาย แท้จริงบรรดานบีนั้นมิได้ทิ้งมรดกแม้แต่หนึ่งดีนารฺหรือหนึ่งดิรฮัม(หมายถึง มิได้ทิ้งมรดกเป็นทรัพย์สินเงินทอง) แต่ได้ทิ้งมรดกที่เป็นความรู้ ฉะนั้นหากผู้ใดได้รับมัน ผู้นั้นย่อมได้รับโชคดีอย่างมากมาย” บันทึกโดยอบูดาวูด และอัตติรมิซี

[anti-bid'ah]

   มีคนต้องการฮะดิษยืนยันคำพูดนาบีที่ว่า 
"แท้จริงบรรดาอุลามาอฺนั้นเป็นทายาทของบรรดานะบีย์"  ว่าอ้างจากฮะดิษไหนอ.อัซฮารี่ช่วยตอบหน่อย  จะได้ไปบอกเค้าให้เข้าใจซ่ะที  เพราะถ้าไม่อ้างฮะดิษเขาคนนั้นไม่ยอมเชื่ออีกทั้ง ยังคงทำการศึกษาอัลกุรอานและฮาดิษด้วยตนเอง

แสดงว่าเขามีความชำชอง ชำนาญการ ศาสตร์หลายๆศาสตร์ มีอิสนาดเป็นของงตนเอง

ถ้าเขาต้องการจะศึกษาด้วยตนเอง  ก็ลองให้เขาศึกษาต่อไปสิ เดี่ยวพอเจอหะดิษหรืออายัตที่ขัดแย้งกัน เขาจะทำอย่างไร

เขาจะจัดการกับเรื่องนาสิคและมันซูร อย่างไร (ขว้างงู ไม่พ้นคอจริงๆ) แล้วพอเขาได้หะดิษมา ก็ลองให้เขาบอกสถานะหะดิษสิ ว่ามันเป็น

อย่างไร (ตายในน้ำตื้นแน่ๆ) ลองฟังเขาพูดดูสิว่าเขาอ้างมาจากตำราของใคร (แล้วมันจะเผยออกมาเองว่า เขาควรศึกษาอายัตและหะดิษ

เพียวๆไม่ผ่านผู้รู้ได้หรือไม่)

[hiddenmin]

^
^
แร๊งงง


บัง ENO ไปเอาหะดิษมาจากหนังสือไหนนั้น อยากรู้ๆ

[anti-bid'ah]

 

"The 'Ulama' are heirs of the Prophets, and the Prophets do not leave an inheritance of Dirhams and Dinars but (they left) only knowledge. He who acquires knowledge acquires a vast portion." (Related by Abu Dawud and Tirmithi)


"Seeking knowledge is obligatory upon every Muslim ." (Hadith)

คำว่า มุสลิม  ในหะดิษที่ ๒ หมายถึงผู้ชายที่เป็นมุสลิมใช่หรือไม่ (ลองถามเขาดู)

[al-azhary]

“แท้จริงบรรดาอุละมาอ์(ผู้รู้ในศาสนา) คือ ทายาทผู้สืบทอดมรดกจากเหล่าศาสนทูต ” (รายงานโดยอะหมัด 5/196)

หรืออีกฮาดีษที่รายงานจากท่านอะบี อัดดัรดาอฺ ท่านนบีได้กล่าวว่า
“แท้จริงผู้รู้นั้นจะมีบรรดาผู้ที่อยู่บนชั้นฟ้า และแผ่นดินตลอดจนบรรดาสัตว์ปลา ที่อยู่ในน้ำขอวิงวอนให้อัลลอฮ์ทรงอภัยโทษแก่เขา และแท้จริง(จะเปรียบ)ความประเสริฐของผู้รู้ที่เหนือกว่าความประเสริฐของผู้ ทำอิบาดะหฺนั้น เปรียบได้กับความสว่างไสวของดวงจันทร์ในหมู่ดวงดาวอื่นๆในคืนพระจันทร์เต็ม ดวง บรรดาอุละมาอฺ(ผู้รู้)นั้นคือทายาท(ผู้ที่สืบทอดมรดก)จากบรรดานบีทั้งหลาย แท้จริงบรรดานบีนั้นมิได้ทิ้งมรดกแม้แต่หนึ่งดีนารฺหรือหนึ่งดิรฮัม(หมายถึง มิได้ทิ้งมรดกเป็นทรัพย์สินเงินทอง) แต่ได้ทิ้งมรดกที่เป็นความรู้ ฉะนั้นหากผู้ใดได้รับมัน ผู้นั้นย่อมได้รับโชคดีอย่างมากมาย” บันทึกโดยอบูดาวูด และอัตติรมิซี

ฮะดีษความหมายภาษาไทยที่น้อง  ได้นำเสนอมานั้น  ตัวบทภาษาอาหรับมีดังนี้

إِنَّ الْعَالِمَ لَيَسْتَغْفِرُ لَهُ مَنْ فِي السَّمَوَاتِ وَمَنْ فِي الْأَرْضِ حَتَّى الْحِيتَانُ فِي الْمَاءِ وَفَضْلُ الْعَالِمِ عَلَى الْعَابِدِ كَفَضْلِ الْقَمَرِ عَلَى سَائِرِ الْكَوَاكِبِ إِنَّ الْعُلَمَاءَ وَرَثَةُ الْأَنْبِيَاءِ إِنَّ الْأَنْبِيَاءَ لَمْ يُوَرِّثُوا دِينَارًا وَلَا دِرْهَمًا إِنَّمَا وَرَّثُوا الْعِلْمَ فَمَنْ أَخَذَ بِهِ أَخَذَ بِحَظٍّ وَافِرٍ

เมื่อพิจารณาตามหลักการของวิชาฮะดีษ  บรรดาปราชญ์ฮะดีษหลายท่านเช่น ท่านอัลฮาฟิซฺ อิบนุ ฮะญัร  ท่านอัสสะค่อวีย์  ตัดสินว่า  เป็นฮะดีษฮะซัน  แม้กระทั่งอัลอัลบานีย์ที่เป็นนักฮะดีษตามทัศนะของกลุ่มวะฮาบีย์  ก็ยังตัดสินว่าฮะดีษที่กล่าวว่า บรรดาปราชญ์นั้นเป็นทายาทของบรรดานะบีย์  เป็นฮะดีษฮะซัน  ด้วยการรวมสายรายงานทั้งหลายครับ และความหมายของฮะดีษนั้นถูกต้องอย่างมิต้องสงสัย

[As-Zaleek]

 

จริงๆ แล้ว  ก็ตามต้องตามอุลามาอฺกันทั้งนั้นแหละ...จะตามอัลกุรอานและฮะดีษกันโดยตรงโดยไม่อาศัยอุลามาอฺเลยก็คงไปไม่ได้กี่น้ำ...ดังนั้นการบอกว่าตนเองตามอัลกุรอานและฮะดีษโดยไม่เอาอุลามาอฺนั้น...ก็เพื่อพูดให้ตนเองดูดีและสบายใจ...แม้จะเป็นคำพูดที่โกหกก็ตาม...เพราะบางทีบางกลุ่มชอบให้ตนเองดูดีและสบายใจด้วยการอาศัยความโกหก...

[plaster_13]

 myGreat:ญาซากัลลอฮูค่อยรอนมากๆเลย  อิอิที่นี้จะได้ไปตอบให้ชัดเจนไปเลย 

[เด็กท่าเรือ]

ตามนี้เลยครับ
http://www.youtube.com/watch?v=2I-jTEHMC50&feature=autoshare