ผู้เขียน หัวข้อ: กระทำ ย่อมดีกว่านิ่งเฉย  (อ่าน 1582 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ IBN HAMSAH

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 6
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
กระทำ ย่อมดีกว่านิ่งเฉย
« เมื่อ: ก.พ. 17, 2014, 01:30 AM »
+2


 wink:
بسم الله الرحمن الرحيم

حمد الله ، وصلاة وسلاما على رسوله محمد [صلى] سيد الأمم ، وعلى آله وأصحابه أجمعين إلى يوم الدين
و بعد...
[ القرآن الكريم ]
 قال الله تعالى : { إنما المؤمنون إخوة } ، الحجرات : 10 .
 وقال تعالى : إخبارا عن نوح [عليه السلام] : { وأنصح لكم } ، الأعراف : 62 .
وعن هود [ عليه السلام ] : { وأنا لكم ناصح أمين } ، الأعراف : 68 .
  [ الحديث ]
عن أبي رقية تميم بن أوس الدارى [رضى الله عنه ] أن النبي [ صلى ] قال : " الدين النصيحة " قلنا : لمن ؟ قال : " لله ، ولكتابه ، ولرسوله ، ولأئمة المسلمين ، وعامتهم " رواه مسلم .
......................................................................
قال الإمام الغزالي في كتابه [ أيها الوالد ] : ما لم تعمل لم تجد الأجر .
ท่าน อีมาม ฆอซาลี กล่าวว่า  :“ การงานที่ไร้ซึ่งการปฎิบัติ ย่อมมิได้ผลอันใด “.
เรื่องราวของชายผู้หนึ่ง แต่จากเผ่าบานีอิสรออีล โดยที่เขาได้ทำอีบาดัตต่ออัลลอฮฺ  (ซ.บ.) ถึง 70 ปีด้วยกัน  หลังจากนั้น อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทำให้เขาได้เห็น (ตายันลี) มาลาอีกะฮ โดยพระองค์ส่งมาลาอีกะฮ์ ไปหาเขา แล้วให้พูดว่า : “ ท่านนั้นอยู่กับการอีบาดัตตลอด สิ่งนั้นไม่สมควรที่จะเข้าสวรรค์หรอก “ .  และอาบิด ผู้นั้นก็ได้กล่าวแก่มาลาอีกะฮ์ไปว่า : “ เราถูกสร้างมาเพื่อทำอีบาดัต จำเป็นแก่เรามิใช่หรือ ที่ต้องทำอีบาดัตเพื่ออัลลอฮฺ  “ .  ครั้นเมื่อมาลาอีกะฮ์รับทราบ หลังจากนั้น ก็หวนกลับไปยังอัลลอฮฺ (ซ.บ.) เพื่อทูนให้พระองค์ทราบ มาลาอีกะฮ์ผู้นั้นทูนกล่าวว่า  :” โอ้พระผู้อภิบาลของข้า พระองค์ย่อมรู้ดีกับสิ่งที่ชายผู้นั้นได้ประจักษ์ “.
อัลลอฮฺ (ซ.บ.) กล่าวแก่มวลมาลาอีกะฮ์ว่า : “ ในเมื่อบ่าวของฉัน มิได้ผินหันออกจากการทำอีบาดัตต่อฉัน  ฉันก็จะประทานความเมตตาแก่เขา แล้วฉันมิได้ผินออกจากบ่าวของฉันเช่นกัน ดังนั้นพวกเจ้าทั้งหลาย จงเป็นพยานแก่เขาเถิด โอ้มวลมาลาอีกะฮ์เอ๋ย  แท้ที่จริงฉันได้อภัยให้แก่เขาแล้ว “ .
จากเรื่องราวดังกล่าวเราย่อมรู้ถึงผลของการปฎิบัติอาม้าลเพิ่ออัลลอฮฺ (ซ.บ.) โดยที่มีความบริสุทธ์ใจจริง ดังเช่นชายผู้นั้น  และยังมีฮาดิษมาย้ำเตือนเราอีกด้วย

قال رسول الله [صلى] : " حاسبوا أنفسكم قبل أن تحاسبوا وزنوا أعمالكم قبل أن توزنوا  " .
ท่านกล่าวว่า : “ พวกเจ้าทั้งหลายจงตรวจสอบตัวเอง ก่อนที่พวกเจ้าจะถูกสอบสวน และจงตราชังตัวของพวกเจ้า ก่อนที่จะถูกชังตรวง ”.
และมีท่าน อาลี (ร.ด.) กล่าวว่า : “ บุคคลใดก็ตามที่หวังจะถึงสวงสวรรค์ โดยมิได้พากเพียรพยายามแต่อย่างใด บุคคลนั้นก็ได้แต่คิดเท่านั้นเอง และบุคคลใดก็ตามที่หวังกับมัน แล้วมีความเอาจริงเอาจัง เพียงพอแล้วที่จะนำเขาเข้าสู่สวงสวรรค์ ”.

وقال الإمام الغزالي : علاقة الحقيقة ترك ملاحظة العمل لا ترك العمل .
และท่านอีมามฆอซาลี ได้พูดอีกว่า : “ เครื่องหมายที่แท้จริงของการปฎิบัติอาม้าล ก็คือ ให้ละทิ้งผลบุญของมัน  แต่มีไว้ซึ่งการงานนั้น ” .
โดยมีฮาดิษของท่านนบีเป็นหลักฐานชี้ชัด

قال رسول الله [صلى] : " الكيس من دان نفسه وعمل لما بعد الموت والأ حمق من اتبع هواه وتمنى على الله تعالى الأماني ".

ท่านกล่าวว่า : “ สำหรับผู้ที่มีความเฉลียวฉลาด คือ ผู้ที่ทำตัวเองให้ใกล้ชิดต่ออัลลอฮฺ (ซ.บ.) และปฎิบัติต่อสิ่งที่ได้รับหลังจากวิญญานออกจากร่าง(ตาย) และสำหรับผู้ที่โง่เขลา คือ ผู้ที่ตามนัฟซู(อารมณ์ใผ่ต่ำ)ของตัวเอง อีกทั้งยังมีความหวังที่จะได้รับความเมตตาต่ออัลลอฮฺ (ซ.บ.) ”.
.................................................................
อ้างอิง ...
แปลจากหนังสือ อัยยูฮัล วาลัด ของท่านอีมามฆอซาลี  หน้าที่ 23 บรรทัดที่ 8 .
[/size]
المرجع : عن كتاب الإمام حجة الإسلام أبى حامد الغزالى اسمه أيها الولد ، ص : 23 / 8 .
اعتنى به وحققه : أبو سهل نجاح عرض صيام .
المقطم للنشروالتوزيع .

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.พ. 19, 2014, 07:22 PM โดย IBN HAMSAH »

ออฟไลน์ Muftee

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1899
  • เพศ: ชาย
  • ตั้งใจเข้าไว้นะ มุฟตีย์น้อย
  • Respect: +190
    • ดูรายละเอียด
Re: กระทำ ย่อมดีกว่านิ่งเฉย
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ก.พ. 17, 2014, 08:45 PM »
0
ตัวเล็กจัง อ่านไม่ค่อยเห็นเลย
// อะฮฺลิสสุนนะฮฺ อัล-อะชาอิเราะฮฺ...สักวันนึง เราต้องเป็นอุละมาอฺที่ยิ่งใหญ่ อินชาอัลลอฮฺ //

ออฟไลน์ IBN HAMSAH

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 6
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
Re: กระทำ ย่อมดีกว่านิ่งเฉย
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ก.พ. 19, 2014, 07:23 PM »
0
แก้ไขให้แล้วครับ ท่านมุฟตี

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: กระทำ ย่อมดีกว่านิ่งเฉย
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ก.ค. 03, 2016, 10:15 PM »
0
"เราถูกสร้างมาเพื่อทำอีบาดัต จำเป็นแก่เรามิใช่หรือ ที่ต้องทำอีบาดัตเพื่ออัลลอฮฺ  “

^^

ทำให้นึกถึง...อายะอ์นี้...


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ค. 03, 2016, 10:17 PM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: กระทำ ย่อมดีกว่านิ่งเฉย
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ก.ค. 08, 2016, 11:31 AM »
0
ท่าน อีมาม ฆอซาลี กล่าวว่า  :

“ การงานที่ไร้ซึ่งการปฎิบัติ ย่อมมิได้ผลอันใด “.

เรื่องราวของชายผู้หนึ่ง แต่จากเผ่าบานีอิสรออีล
โดยที่เขาได้ทำอีบาดัตต่ออัลลอฮฺ  (ซ.บ.) ถึง 70 ปีด้วยกัน 
หลังจากนั้น อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทำให้เขาได้เห็น (ตายันลี) มาลาอีกะฮ
โดยพระองค์ส่งมาลาอีกะฮ์ ไปหาเขา แล้วให้พูดว่า :

“ ท่านนั้นอยู่กับการอีบาดัตตลอด สิ่งนั้นไม่สมควรที่จะเข้าสวรรค์หรอก “



จากประโยคข้างต้น วันก่อนตอนที่เพิ่งอ่านเหมือนจะเข้าใจแล้ว
แต่เมื่อได้นำกลับไปใคร่ครวญอีกครั้ง กลับพบความมหัศจรรย์ซ่อนอยู่ใน
ประโยคดังกล่าว ทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากความคิดบางอย่างที่ยังหา
คำตอบไม่ได้ในที่สุด...

เพราะเคยตั้งคำถามว่า...

มนุษย์เรานั้น...มีอายุขัยแตกต่างกัน บางคนเกิดมาอยู่ในดุนยานี้ไม่กี่ปี
ก็ต้องกลับไปสู่ความเมตตาของอัลลอฮ์
บางคนได้เวลาชีวิตมาอยู่ในดุนยานานกว่าจะได้กลับไปสู่ความเมตตาของอัลลอฮ์

ดังนั้น คนที่มาอยู่แป๊บๆแล้วกลับไปสู่ความเมตตาของอัลลอฮ์
กับคนที่อยู่นานๆ แน่นอนว่าจำนวนการทำอิบาดัตต่ออัลลอฮ์นั้นย่อมไม่เท่ากัน
ผลบุญที่ได้จากการทำอิบาดัตก็ย่อมไม่เท่ากัน

แล้ว...อะไรเล่าที่ทำให้บ่าวของอัลลอฮ์สมควรได้เข้าสวรรค์
ระหว่างคนที่ทำน้อยกับทำมากกว่า...คนที่ทำมากกว่าควรได้มากกว่าคนที่ทำน้อยกว่า

แต่คนที่มาอยู่เพียงไม่นาน บางคนก็ใช่ว่าอยากจะมีอายุสั้น แต่เพราะนั่นคือ
กำหนดของอัลลอฮ์...เขาจึงต้องกลับคืนสู่พระองค์ในเวลาที่ถูกกำหนดเอาไว้

พอมาคิดถึงตรงนี้ ก็ให้คิดต่อไปว่า...แล้วอะไรล่ะ คือความยุติธรรม
สำหรับบ่าวของพระองค์...ในเมื่อคนนึงมีโอกาสได้ทำอิบาดัตน้อยกว่าอีกคน
ได้เวลามาน้อยกว่า ได้โอกาสมาน้อยกว่าอีกคน...

พอได้มาทบทวนประโยคด้านบนดังกล่าวนี้เข้า...จึงเข้าใจได้ว่า....

อิบาดัตไม่ได้ทำให้เราเข้าสวรรค์ แต่ท่ีเราได้เข้าสวรรค์
นั่นเพราะความเมตตาของอัลลอฮ์...และจำเป็นแก่เราที่จะต้องทำอิบาดัต
เพื่ออัลลอฮ์ เพราะเราถูกสร้างมาเพื่อทำอิบาดัต...

เพราะอิบาดัตที่เราทำมันเทียบกันไม่ได้เลยกับความเมตตาท้ังหมดที่อัลลอฮ์
ทรงประทานให้เรามา...ต่อให้เราทำมากมายสักขนาดไหน ก็ไม่อาจนำอิบาดัต
และผลบุญทั้งหมดของเราไปต่อรองขอสวรรค์ของอัลลอฮ์ได้...
การที่เราจะได้สวรรค์ของอัลลอฮ์นั้นก็ด้วยความเมตตาของพระองค์...
หน้าที่ของเราก็คือ ทำอิบาดัตต่อพระองค์จนสิ้นลมหายใจ ไม่ผินหลังให้กับพระองค์
เป็นผู้กตัญญูรู้คุณต่อพระองค์...อย่างจริงใจและบริสุทธิ์ใจ....

ซึ่งสอดคล้องกับประโยคต่อมาที่ว่า

อัลลอฮฺ (ซ.บ.) กล่าวแก่มวลมาลาอีกะฮ์ว่า :

“ ในเมื่อบ่าวของฉัน มิได้ผินหันออกจากการทำอีบาดัตต่อฉัน 
ฉันก็จะประทานความเมตตาแก่เขา แล้วฉันมิได้ผินออกจากบ่าวของฉันเช่นกัน
ดังนั้นพวกเจ้าทั้งหลาย จงเป็นพยานแก่เขาเถิด โอ้มวลมาลาอีกะฮ์เอ๋ย 
แท้ที่จริงฉันได้อภัยให้แก่เขาแล้ว “ .

อัลฮัมดุลิลลาฮ์...

ขออัลลอฮ์ทรงโปรดประทานทางนำแก่ข้าพระองค์และประชาชาตินี้
ด้วยการสอนให้พวกเราเข้าใจในศาสนาของพระองค์ด้วยเถิด

อามีนนนนนนนนนนนน

ผิดพลาดประการใด ชี้แนะกันด้วยนะคะ

วัสลามค่ะ

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged