ผู้เขียน หัวข้อ: อัลกุรอาน คำแปลและคำอธิบายตอนที่ 33 สูเราะฮฺ อัลอะหฺซาบ  (อ่าน 4767 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลอะหฺซาบ อายะฮฺที่ 49 - 50


คำอ่าน
49. ยา..อัยยุฮัลละซีนะอามะนู..อิซานะกะหฺตุมุลมุอ์มินาติ ษุม..มะฏ็อลลักตุมูฮุน..นะ มิน..ก็อบลิอัน..ตะมัสสูฮุน..นะ ฟะมาละกุมอะลัยฮิน..นะ มินอิดดะติน..ตะอฺตัดดูนะฮา ฟะมัตติอูฮุน..นะ วะสัรฺริหูฮุน..นะ สะรอหัน..ญะมีลา
50. ยา..อัยยุฮัน..นะบียุ อิน..นา..อะหฺลัลนาละกะ อัซวาญะกัลป์ลาตี..อาตัยตะอุญูเราะฮุน..นะ วะมามะละกัตยะมีนุกะ มิม..มา..อะฟา..อัลลอฮุ อะลัยกะ วะบะนาติอัม..มิกะ วะบะนาติอัม..มาติกะ วะบะนาติคอลิกะ วะบานาติคอลาติกัลป์ลาตี ฮาญัรฺนะมะอัก วัมเราะอะตัม..มุอ์มินะตัน อิว..วะฮะบัต นัฟสะฮา ลิน..นะบียิ อินอะรอดัน..นะบียุ อัย..ยัสตัน..กิหะฮา คอลิเศาะตัลละกะ มิน..ดูนิลมุอ์มินีน ก็อดอะลิมนา มาฟะร็อฎนาอะลัยฮิม ฟี..อัซวาญิฮิม วะมามะละกัตอัยมานุฮุม ลิกัยลายะกูนะอะลัยกะหะร็อจญฺ วะกานัลลอฮุ เฆาะฟูร็อรฺเราะหีมา


คำแปล R1.
49. O you who believe! When you marry believing women, and then divorce them before you have sexual intercourse with them, no 'Iddah [divorce prescribed period, see (V.65:4)] have you to count in respect of them. So give them a present, and set them free i.e. divorce, in a handsome manner.
50. O Prophet (Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam)! Verily, we have made lawful to you your wives, to whom you have paid their Mahr (bridal money given by the husband to his wife at the time of marriage), and those (captives or slaves) whom your right hand possesses - whom Allah has given to you, and the daughters of your 'Amm (paternal uncles) and the daughters of your 'Ammah (paternal aunts) and the daughters of your Khal (maternal uncles) and the daughters of your Khalah (maternal aunts) who migrated (from Makkah) with you, and a believing woman if she offers herself to the Prophet, and the Prophet wishes to marry her; a privilege for you only, not for the (rest of) the believers. Indeed we know what we have enjoined upon them about their wives and those (captives or slaves) whom their right hands possess, - in order that there should be no difficulty on you. And Allah is ever Oft-Forgiving, Most Merciful.


คำแปล R2.
49. โอ้บรรดาผู้มีศรัทธาทั้งหลาย เมื่อพวกเจ้าสมรสกับศรัทธาชนหญิง หลังจากนั้นพวกเจ้าได้หย่าร้างพวกนางโดยมิได้สัมผัส(ทางเพศกับ)นางเลยแท้จริงย่อมไม่มี “ระยะปลอดสมรส” สำหรับพวกเจ้าเหนือพวกนาง ที่พวกเจ้าพึงนับจำนวนของมัน(แต่ประการใด ๆ) ดังนั้นพวกเจ้าจงทำขวัญพวกนาง(ด้วยยทรัพย์สินบางจำนวน) และจงให้อิสระแก่พวกนางโดยดี
50. โอ้ผู้เป็นศาสดา แท้จริงเราได้อนุมัติแก่เจ้า ซึ่งบรรดาคู่ครองของเจ้าซึ่งเจ้าได้มอบรางวัลแก่พวกนางแล้ว ทาสที่เจ้าครอบครองไว้อันได้มาจากเชลยศึกที่อัลเลาะฮฺทรงโปรดประทานแก่เจ้า บรรดาบุตรหญิงของพี่น้องชายบิดาเจ้า บรรดาบุตรหญิงของพี่น้องหญิงบิดาเจ้า บรรดาบุตรหญิงของพี่น้องชายมารดาเจ้า บรรดาบุตรหญิงของพี่น้องหญิงมารดาเจ้า ซึ่งพวกนางได้อพยพมาพร้อมกับเจ้าและหญิงที่มีศรัทธาซึ่งหากนางได้มอบตัวเองแก่ศาสดา ถ้าศาสดาปรารถนาจะสมรสกับนาง เป็นการเฉพาะสำหรับเจ้า(คนเดียว)มิได้หมายถึงบรรดาศรัทธาชนอื่น ๆ ด้วย แท้จริงเรารู้ดีในสิ่งที่เราได้บัญญัติไว้แก่พวกเขาในกรณีที่เกี่ยวกับคู่ครองของพวกเขา และทาสที่พวกเขาครอบครองไว้ ทั้งนี้เพื่อจะได้ไม่เกิดความคับแค้นแก่เจ้า และอัลเลาะฮฺทรงเป็นผู้นิรโทษยิ่ง ทรงเมตตายิ่ง


คำแปล R3.
49. โอ้บรรดาผู้ศรัทธา เมื่อเจ้าแต่งงานกับหญิงผู้ศรัทธาและหลังจากนั้นก็ได้หย่าพวกนางก่อนที่จะได้แตะต้องพวกนาง พวกนางก็ไม่ต้องรอให้ครบเวลาแห่งการรอคอยที่สูเจ้าอาจจะเรียกร้องจากพวกนาง ดังนั้นจงให้บางสิ่งบางอย่างแก่พวกนางและจงปล่อยพวกนางไปด้วยดี
50. โอ้นบี เราได้ทำให้บรรดาภรรยาของเจ้าเป็นที่อนุมัติแก่เจ้า สำหรับคนที่เจ้าได้ให้ของขวัญแต่งงานแก่พวกนางไปแล้ว และบรรดาผู้หญิงที่เจ้าครอบครองอยู่จากบรรดาทาสหญิงที่อัลลอฮฺทรงประทานแก่เจ้า และลูกสาวของพี่น้องชายทางพ่อของเจ้า และลูกสาวของพี่น้องหญิงทางพ่อของเจ้า และลูกสาวของพี่น้องชายทางแม่ของเจ้า และลูกสาวของพี่น้องหญิงทางแม่ของเจ้าซึ่งได้อพยพไปกับเจ้า และหญิงผู้ศรัทธาที่เสนอตัวเองแก่นบีถ้าหากนบีต้องการจะแต่งงานกับนาง สิทธิพิเศษนี้สำหรับเจ้าเท่านั้น ไม่ใช่สำหรับบรรดาผู้ศรัทธาคนอื่น ๆ เรารู้ดีถึงสิ่งที่เราได้กำหนดแก่บรรดาผู้ศรัทธาเกี่ยวกับภรรยาของพวกเขาและทาสหญิงของพวกเขา(เจ้าได้รับการยกเว้น)ทั้งนี้เพื่อที่จะได้ไม่เป็นอุปสรรคต่อเจ้า และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงให้อภัยผู้ทรงเมตตาเสมอ


คำแปล R4.
49. โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย! เมื่อพวกเจ้าได้สมรสกับบรรดาหญิงผู้ศรัทธา แล้วพวกเจ้าได้หย่าพวกเธอก่อนที่พวกเจ้าจะแตะต้องตัวพวกเธอ (คือร่วมหลับนอนกับพวกเธอ) ดังนั้น สำหรับพวกเจ้าไม่มีสิทธิ์ (ที่จะให้พวกเธออยู่) ในอิดดะฮฺ โดยที่พวกเจ้าจะนับเวลาการอยู่ในอิดดะฮฺ ฉะนั้น พวกเจ้าจงให้ผลประโยชน์แก่พวกเธอบ้าง แล้วปล่อยให้พวกเธอจากไปโดยดีงาม
50. โอ้ นะบีเอ๋ย! เราได้อนุมัติแก่เจ้าในบรรดาภริยาของเจ้า ซึ่งเจ้าได้มอบมะฮัรแก่พวกเธอ และสิ่งที่มือขวาของเจ้าครอบครองจากพวกที่อัลลอฮฺทรงมอบหมายให้แก่เจ้า และบุตรสาวของอา ลุง ของเจ้า และบุตรสาวของอา ป้า ของเจ้า และบุตรสาวของน้า ลุง ของเจ้า และบุตรสาวของน้า ป้า ของเจ้า ซึ่งพวกเธอได้อพยพร่วมไปกับเจ้า และหญิงผู้ศรัทธาเมื่อนางเสนอตัวของนางแก่ท่านนะบีหากท่านนะบีปรารถนาจะสมรสกับนางทั้งนี้สำหรับเจ้าโดยเฉพาะมิใช่สำหรับบรรดา ผู้ศรัทธา แน่นอนเรารู้ดีถึงสิ่งที่เราได้กำหนด แก่พวกเขาในเรื่องบรรดาภริยาของพวกเขา และสิ่งที่มือขวาของพวกเขาครอบครอง เพื่อ ที่จะไม่เป็นที่ลำบากใจแก่เจ้าและอัลลอฮฺเป็น ผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ


คำแปล R5.
๔๙. โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย เมื่อพวกเจ้าได้สมรสกับบรรดาหญิงผู้มีศรัทธาด้วยกันภายหลังพวกเจ้าก็ได้หย่าพวกนางก่อนที่จะสัมผัสนางด้วยการประเวณีกับนาง ที่จริงแล้วสำหรับพวกเจ้าย่อมไม่มีเหนือพวกนาง ซึ่งอิดดะฮ์ที่พวกเจ้าพึงนับมัน (อิดดะฮ์ หมายถึงกำหนดเวลาที่ห้ามสมรสใหม่กับชายอื่นโดยพิจารณาจากการมีประจำเดือนถึงสามครั้งหรือโดยการนับเดือน หรือโดยการคลอดบุตร) ดังนั้นพวกเจ้าจงทำขวัญพวกนางด้วยการมอบสินทรัพย์บางอย่างและจงปล่อยพวกนางไปโดยดี อย่าให้เกิดความเดือดร้อนใด ๆ แก่พวกนาง
๕๐. โอ้นบี แท้จริงเราได้อนุมัติแก่เจ้าซึ่งคู่ครองของเจ้าที่เจ้าได้มอบรางวัลมะฮัร(สินสอด) แก่พวกนาง และทาสที่มือขวาของเจ้าได้ครอบครองไว้ อันได้มาจากเชลยศึกที่อัลเลาะห์ได้ทรงโปรดประทานแก่เจ้าในสงครามต่าง ๆ เช่น ซอฟิยะห์ และยุวัยรียะห์ และเป็นที่อนุมัติแก่เจ้า บรรดาบุตรีของพี่น้องชายของบิดาเจ้า และบรรดาบุตรีของพี่น้องหญิงของบิดาเจ้า และบรรดาบุตรีของพี่น้องชายของมารดาเจ้า และบรรดาบุตรีของพี่น้องหญิงของมารดาเจ้า ซึ่งพวกนางได้อพยพมาพร้อมกับเจ้า และเป็นที่อนุมัติแก่เจ้าหญิงผู้มีศรัทธาแม้นนางได้มอบตัวของนางแก่นบี เมื่อนบีประสงค์ที่จะขอสมรสนางโดยไม่ต้องใช้ค่าสินสอด(มะฮัร) ซึ่งการสมรสโดยไม่มีสินสอดนั้นเป็นกิจเฉพาะสำรับเจ้าเพียงคนเดียว ไม่เกี่ยวกับบรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย แท้จริงเรารอบรู้ในสิ่งที่เราบัญญัติไว้เหนือพวกเขาในบรรดาคู่ครองของพวกเขา เกี่ยวกับกฎเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งการครองคู่ เช่น จะต้องมีพิธีสมรส ต้องมีผู้ปกครอง และต้องมีพยานเป็นต้น และทาสหญิงที่มือขวาของพวกเขาได้ครอบครองไว้ โดยการซื้อมาหรือโดยวิธีอื่นก็ตาม แต่ต้องหลังจากเว้นช่วงเวลาให้นางผ่านการมีประจำเดือนหนึ่งครั้งเพื่อไม่เป็นการคับแค้นแก่เจ้าในการสมรส และอัลเลาะห์ทรงไว้ซึ่งการให้อภัยและทรงเมตตาเสมอ ในการผ่อนผันกรณีอันยากต่อการระมัดระวังรักษา


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลอะหฺซาบ อายะฮฺที่ 51 - 52


คำอ่าน
51. ตุรฺญีมัน..ตะชา...อุมินฮุน..นะ วะตุอ์วี..อิลัยกะ มัน..ตะชา...อ์ วะมะนิบตะฆ็อยตะ มิม..มันอะซัลตะ ฟะลาญุนาหะ อะลัยกะ ซาลิกะอัดนา..อัน..ตะก็อรฺเราะอะอฺยุนุฮุน..นะ วะลายะหฺซัน..นะ วะยัรฺฎ็อยนะ บิมา..อาตัยตุฮุน..นะ กุลลุฮุนนฺ วัลลอฮุยะอฺละมุ มาฟีกุลูบิกุม วะกานัลลอฮุอะลีมันหะกีมา
52. ลายะหิลลุละกัน..นิสา...อุ มิม..บะอฺดุ วะลา..อัน..ตะบัดดะละ บิฮิน..นะ มินอัซวาญิว..วะเลาอะอฺญะบะกะ หุสนุฮุน..นะ อิลลามามะละกัตยะมีนุก วะกานัลลอฮุอะลากุลลิชัยอิรฺเราะกีบา


คำแปล R1.
51. You (O Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam) can postpone (the turn of) whom you will of them (your wives), and you may receive whom you will. And whomsoever you desire of those whom you have set aside (her turn temporarily), it is no sin on you (to receive her again), that is better; that they may be comforted and not grieved, and may all be pleased with what you give them. Allah knows what is in your hearts. And All-h is ever All-Knowing, Most Forbearing.
52. It is not lawful for you (to marry other) women after this, nor to change them for other wives even though their beauty attracts you, except those (captives or slaves) whom your right hand possesses. And Allah is ever a watcher over all things.


คำแปล R2.
51. เจ้ามีสิทธิที่จะทอดเวลาอยู่กับผู้ที่เจ้าประสงค์จากพวกนาง และจะนำมารวมกับเจ้าแก่ผู้ที่เจ้าประสงค์(จากพวกนาง)และผู้ใดที่เจ้ามุ่งหมายจากผู้ที่เจ้าว่างเว้นไว้ก็ไม่เป็นบาปแก่เจ้า(แต่ประการใด ๆ ที่จะอยู่กับนาง)นั่นเป็นที่ใกล้เคียงที่สุดที่จะทำความพึงพอใจแก่พวกนางและเพื่อนางจะได้ไม่เศร้าโศก และพวกนางมีความยินดีในสิ่งที่เจ้าได้มอบแก่พวกนางทั้งหมด และอัลเลาะฮฺทรงรอบรู้สิ่งที่มีในหัวใจของพวกเจ้า และอัลเลาะฮฺทรงรอบรู้ยิ่ง อีกทั้งทรงสุขุมยิ่ง
52. ไม่เป็นที่อนุมัติสำหรับเจ้า(ที่จะแต่งงานกับ)บรรดาหญิงอื่นอีก ภายหลังจาก(ภริยาเดิมที่มีอยู่ก่อน) และเจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะนำพวกนางมาสับเปลี่ยนจากบรรดาคู่ครองเดิม(ที่มีอยู่นั้น) และแม้นความงามของพวกนางจำทำความชื่นชมแก่เจ้า(สักปานใด)ก็ตาม ยกเว้นทาสีที่เจ้าครอบครองนางไว้ และอัลเลาะฮฺทรงสังเกตทุก ๆ สิ่งอยู่ตลอดเวลา


คำแปล R3.
51. เจ้าจะเลือกให้ใครในหมู่ภรรยาของเจ้าอยู่ห่างก็ได้ตามที่เจ้าต้องการและจะให้ใครอยู่ใกล้ชิดกับเจ้าก็ได้ตามที่เจ้าต้องการและจะเรียกใครในหมู่นางที่เจ้าให้อยู่ห่างมาก็ได้โดยไม่มีตำหนิใด ๆ แก่เจ้าในเรื่องนี้ นั่นจะทำให้ดวงตาของนางเย็นลงและพวกนางจะได้ไม่เศร้าโศก และพวกนางทั้งหมดจะได้พอใจกับสิ่งที่เจ้าให้พวกนาง อัลลอฮฺทรงรู้ทุกสิ่งที่อยู่ในหัวใจของเจ้า และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงขันติธรรม
52. ไม่มีผู้หญิงอื่นเป็นที่อนุมัติแก่สูเจ้าแล้วหลังจากนี้ และเจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้เอาภรรยาอื่นแทนพวกนาง ถึงแม้ว่าความสวยของพวกนางจะทำให้เจ้าพึงใจก็ตาม เว้นแต่ทาสหญิงที่เจ้าครอบครอง และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงเฝ้าดูทุกสิ่ง


คำแปล R4.
51. เจ้ามีสิทธิ์ที่จะหย่าผู้ที่เจ้าปรารถนาในหมู่พวกเธอ และเจ้าจะรับผู้ที่เจ้าประสงค์มาอยู่ร่วมกับเจ้า และผู้ใดที่เจ้าต้องการ (ให้มาอยู่ร่วม) จากผู้ที่เจ้าเคยแยกกันอยู่ ก็ไม่เป็นที่ตำหนิแก่เจ้า นั่นเป็นการเหมาะสมกว่าที่จะทำให้นัยน์ตาของพวกเธอรื่นรมย์ และไม่ทำให้พวกเธอเศร้าโศก และพวกเธอพอใจในสิ่งที่เจ้าได้ให้แก่พวกเธอทั้งหมด และอัลลอฮฺทรงรอบรู้สิ่งที่อยู่ในจิตใจของพวกเจ้า และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงขันติธรรม
52. ไม่เป็นที่อนุมัติแก่เจ้าที่จะแต่งงานกับหญิงอื่นหลังจากนี้ และเจ้าอย่าได้เปลี่ยนพวกเธอเพื่อภริยาอื่น ๆถึงแม้ว่าความสวยงามของพวกเธอจะทำให้เจ้าพอใจก็ตาม นอกจากสิ่งที่มือขวาของเจ้าครอบครอง และอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงเฝ้ามองทุกสิ่งทุกอย่าง

 
คำแปล R5.
๕๑. เจ้าย่อมมีสิทธิ์ทอดเวลาให้เนิ่นนานกว่ากำหนดในการจัดเวรให้แก่ผู้ที่เจ้าประสงค์จากพวกนางผู้เป็นภริยาของเจ้าและเจ้ามีสิทธิรวมบุคคลที่เจ้าประสงค์จากพวกนางให้มาอยู่ร่วมกับเจ้าและผู้ใดที่เจ้าแสวงหา และปรารถนาที่จะอยู่ร่วมกับนางจากภริยาผู้วางเว้นจากเวรนัดหมายที่จริงก็ไม่เป็นบาปแก่เจ้าในการนำภรรยาอื่นมารวมหรือไปอยู่กับภริยาที่มิใช่เจ้าของเวรดังกล่าวแล้ว การเปิดโอกาสให้เลือกปฏิบัติได้เช่นนั้นย่อมใกล้เคียงยิ่งที่จะทำให้พวกนางพึงพอใจและพวกนางไม่เศร้าโศก และเป็นที่ยินดีของพวกนางในการที่เจ้าได้มาหาพวกนางทุกคนโดยทั่วถึงและอัลเลาะห์ทรงรอบรู้สิ่งที่มีอยู่ในหัวใจของพวกเจ้าทั้งหลาย และอัลเลาะห์เป็นผู้ทรงรอบรู้ยิ่ง ทรงสุขุมยิ่ง โดยพระองค์มิทรงรีบด่วนในการลงโทษผู้กระทำผิด
๕๒. ไม่เป็นที่อนุมัติสำหรับเจ้าซึ่งบรรดาสตรีอื่นใดภายหลังจากพวกภริยาทั้งเก้าคนที่เจ้าคัดเลือกไว้ซึ่งมี อาอิซะฮ์ บุตรีอะบีบักร์, ฮัฟเซาะฮ์ บุตรีอุมัร, อุมมะหะบีบะฮ์ บุตรีอะบีซุฟยาน, เวาดะฮ์ บุตรีรอบิอะห์ อุมมุสะละมะฮ์ บุตรีอะบีอุมัยยะฮ์, ซอฟียะฮ์ บุตรีฮุยัยย์, ไมมูนะฮ์ บุตรี อัลฮาริส, ไซนับ บุตรียัฮซิน, ยุไวรียะฮ์ บุตรีอัลฮาริส ซึ่งท่านศาสดาได้อสัญกรรมโดยพวกนางทั้งเก้ายังมีชีวิตอยู่ และเจ้าอย่าได้สับเปลี่ยนกับพวกนางจากบรรดาภริยาอื่น ๆ เป็นอันขาด เจ้าจะสมรสกับผู้อื่นไม่ได้อีก และแม้นว่าความสวยสคราญของนางเหล่านั้นจะทำความฉงนและประทับใจกับเจ้าสักปานใดก็ตาม นอกจากทาสที่มือขวาของเจ้าได้ครอบครองไว้ นั่นคือ มารียะฮ์ อัลกิบตียะฮ์ ซึ่งได้กำเนิดบุตรแก่ท่านศาสดาหนึ่งคน คืออิบรอฮีม และเสียชีวิตเมื่อเกิดมาได้ ๗๐ วัน และอัลเลาะห์ทรงพิทักษ์ทุกสิ่งทุกอย่างโดยรอบคอบ


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลอะหฺซาบ อายะฮฺที่ 53 - 55


คำอ่าน
53. ยา..อัยยุฮัลละซีนะอามะนู ลาตัดคุลูบุยูตัน..นะบียิ อิลลา..อัย..ยุอ์ซะนะละกุม อิลาเฏาะอามิน ฆ็อยเราะนาซิรีนะ อินาฮุ วะลากิน อิซาดุอีตุม ฟัดคุลู ฟะอิซาเฏาะอิมตุม ฟัน..ตะชิรู วะลามุสตะอ์นิสีนะ ลิหะดีษ อิน..นะซาลิกุม กานะยุอ์ซิน..นะบียะ ฟะยัสตะหฺยีมิน..กุม วัลลอฮุลายัสตะหฺยีมินัลหักกฺ วะอิซาสะอัลตุมูฮุน..นะ มะตาอัน..ฟัสอะลูฮุน..นะ มิว..วะรอ..อิหิญาบ ซาลิกุม อัฏฮะรุ ลิกุลูบิกุม วะกุลูบิฮินนฺ วะมากานะละกุม อัน..ตุอ์ซูเราะสูลัลลอฮิ วะลา..อัน..ตัน..กิหู..อัซวาญะฮู มิม..บะอฺดิฮี...อะบะดา อิน..นะซาลิกุมกานะ อิน..ดัลลอฮิอะซีมา
54. อิน..ตุบดูชัยอัน เอาตุคฟูฮุ ฟะอิน..นัลลอฮะ กานะบิกุลลิชัยอินอะลีมา
55. ลาญุนาหะอะลัยฮิน..นะ ฟี..อาบาอิฮิน..นะ วะลา..อับนา..อิฮิน..นะ วะลา..อิควานิฮิน..นะ วะลา..อับนา..อิอิควานิฮิน..นะ วะลา..อับนา..อิอะเคาะวาติฮิน..นะ วะลานิสา...อิฮิน..นะ วะมามะละกัตอัยนานุฮุน..นะ วัตตะกีนัลลอฮฺ อิน..นัลลอฮะ กานะอะลากุลลิชัยอิน..ชะฮีดา


คำแปล R1.
53. O ye who believe! Enter not the Prophet's houses, - until leave is given you, - for a meal, (and then) not (as early as) to wait for its preparation: but when ye are invited, enter; and when ye have taken your meal, disperse, without seeking familiar talk. Such (behaviour) annoys the prophet: He is ashamed to dismiss you, but Allah is not ashamed (to tell you) the truth. And when ye ask (his ladies) for anything ye want, asks them from before a screen: that makes for greater purity for your hearts and for theirs. Nor is it right for you that ye should annoy Allah’s Messenger, or that ye should marry his widows after him at any time. Truly such a thing is in Allah’s sight an enormity.
54. Whether ye reveal anything or conceal it, verily Allah has full knowledge of all things.
55. There is no blame (on these ladies if they appear) before their fathers or their sons, their brothers, or their brother's sons, or their sisters' sons, or their women, or the (slaves) whom their right hands possess. And, (ladies), fear Allah. For Allah is witness to all things.


คำแปล R2.
53. โอ้บรรดาผู้มีศรัทธาทั้งหลายพวกเจ้าจงอย่าเข้าบ้านของศาสดานอกจากพวกเจ้าจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปสู่อาหาร(ที่เตรียมจัดเลี้ยงไว้ ก็จงเข้าไปเถิด) โดยพวกเจ้าไม่ต้องรีรอที่จะเข้าไปสู่อาหารนั้น แต่ว่าเมื่อพวกเจ้ารับประทานอาหารเสร็จแล้วพวกเจ้าก็จงแยกย้ายกันออกไปและพวกเจ้าจะต้องไม่เป็นผู้ชื่นชอบกับการพูดคุย(ภายในบ้านของศาสดา) เพราะแท้จริงการกระทำเช่นนั้น จะทำความรำคาญแก่ศาสดา แต่เขาก็ละอายพวกเจ้า(ที่จะบอกให้รู้) แต่อัลเลาะฮฺไม่ละอายต่อ(การแถลงในสิ่งที่เป็น)ความจริง และเมื่อพวกเจ้าได้ขอสิ่งของใดจากพวกนาง(ผู้เป็นชายาของศาสดา) พวกเจ้าก็จงขอจากเบื้องหลังของม่านกั้น นั้นเป็นความสะอาดยิ่งสำหรับหัวใจของพวกเจ้า และหัวใจของพวกนาง และไม่อนุมัติให้พวกเจ้าก่อความรำคาญแก่ศาสนทูตแห่งอัลเลาะฮฺ และไม่อนุมัติที่พวกเจ้าจะสมรสกับคู่ครองของเขาภายหลังจากเขา(เสียชีวิตไปแล้ว)จนตลอดไป แท้จริง(การสมรสกับคู่ครองของศาสนทูต)นั้นเป็น(บาปอัน)ยิ่งใหญ่ ณ อัลเลาะฮฺ
54. แม้นพวกเจ้าจะเปิดเผยสิ่งใดหรือจะซ่อนเร้นมันไว้ก็ตาม แน่นอนอัลเลาะฮฺย่อมรอบรู้กับทุก ๆ สิ่ง
55. ไม่ถือเป็นบาปกับพวกนางใน(การพบปะสนทนากับ)บิดาของพวกนาง, บุตรชายของพวกนาง, พี่น้องชายของพวกนาง, บุตรชายแห่งพี่น้องชายของพวกนาง, บุตรชายแห่งพี่น้องหญิงของพวกนาง, บรรดาสตรีด้วยกันกับพวกนาง และทาสที่พวกนางครอบครองไว้ และพวกนางจงยำเกรงอัลเลาะฮฺเถิด เพราะแท้จริงอัลเลาะฮฺทรงเป็นสักขีพยานเหนือทุก ๆ สิ่ง


คำแปล R3.
53. โอ้บรรดาผู้ศรัทธา จงอย่าเข้าไปในบ้านทั้งหลายของนบีโดยไม่ได้รับอนุญาตและเฝ้าคอยเวลาอาหาร แต่ถ้าหากสูเจ้าถูกเชิญให้มาทานอาหารก็จงมา และเมื่อสูเจ้าทานอาหารเสร็จแล้วก็จงรีบแยกย้ายกันกลับ จงอย่านั่งอ้อยอิ่งสนทนากัน เพราะการทำเช่นนั้นจะสร้างความลำบากใจให้แก่นบี แต่เขากระดากใจที่จะบอกสูเจ้า แต่อัลลอฮฺไม่ทรงกระดากใจต่อความจริง ถ้าหากสูเจ้าจะขอสิ่งใดจากภรรยาของนบีก็จงขอต่อนางจากหลังม่าน นี่เป็นการดีกว่าสำหรับความผ่องแผ้วของหัวใจของสูเจ้าและหัวใจของพวกนาง และมิพึงที่สูเจ้าจะรบกวนรอซูลุลลอฮฺ และไม่อนุญาตให้สูเจ้าแต่งงานภรรยาของเขาหลังจากเขาเป็นอันขาด นี่เป็นความผิดร้ายแรงยิ่งในสายตาของอัลลอฮฺ
54. ไม่ว่าสูเจ้าจะเปิดเผยสิ่งใดหรือซ่อนเร้นมัน แน่นอน อัลลอฮฺทรงรอบรู้ทุกสรรพสิ่ง
55. ไม่มีข้อตำหนิแต่ประการใดสำหรับบรรดาภรรยาของนบีในเรื่องที่เกี่ยวกับบิดาของพวกนาง ลูกชายของพวกนาง พี่ชายน้องชายของพวกนาง ลูกชายของพี่ชายน้องชายของพวกนาง ลูกชายของพี่สาวน้องสาวของพวกนาง ผู้หญิงที่คุ้นเคยด้วยกันของพวกนาง และทาสของพวกนาง (โอ้ผู้หญิงทั้งหลาย) จงเกรงกลัวอัลลอฮฺ เพราะอัลลอฮฺทรงรู้เห็นทุกสิ่ง


คำแปล R4.
53. โอ้ บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย ! พวกเจ้าอย่าได้เข้าไปในบ้านทั้งหลายของนะบี เว้นแต่จะเป็นที่อนุมัติแก่พวกเจ้า เพื่อรับประทานอาหารโดยมิต้องคอยการปรุงอาหารให้สุกเสียก่อน แต่เมื่อพวกเจ้าได้รับเชิญก็จงเข้าไปครั้นเมื่อพวกเจ้ารับประทานเสร็จแล้วก็จงแยกย้ายกันออกไป และอย่าเป็นผู้ชอบวิสาสะในการสนทนา แท้จริง ในการนั้นย่อมทำความรำคาญให้แก่ท่านนะบี ซึ่งท่านกระดากอายพวกเจ้า แต่อัลลอฮฺไม่ทรงกระดากอายต่อความจริง และเมื่อพวกเจ้าขอสิ่งใดจากพวกนาง ก็จงขอพวกนางจากหลังม่าน เช่นนั้นแหละเป็นการบริสุทธิ์อย่างยิ่งแก่จิตใจของพวกเจ้าและจิตใจของพวกนาง และไม่เป็นการบังควรแก่พวกเจ้าที่จะก่อความรำคาญให้แก่ร่อซูลของอัลลอฮฺ และพวกเจ้าจะต้องไม่แต่งงานกับบรรดาภริยาของท่าน หลังจากท่าน (ได้สิ้นชีพไปแล้ว) เป็นอันขาด แท้จริงในการนั้น ณ ที่อัลลอฮฺเป็นเรื่องที่ใหญ่หลวงนัก
54. หากพวกเจ้าเปิดเผยสิ่งใดหรือปิดบังมัน แท้จริงอัลลอฮฺนั้นทรงรอบรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง
55. ไม่เป็นที่น่าตำหนิแก่พวกนาง เกี่ยวกับบิดาของพวกนาง และลูก ๆ ของพวกนางและพี่น้องผู้ชายของพวกนาง และลูกชายของพี่น้องหญิงของพวกนาง และบรรดาผู้หญิงของพวกนาง และสิ่งที่มือขวาของพวกนางครอบครอง และพวกนางยำเกรงต่ออัลลอฮฺ แท้จริง อัลลอฮฺนั้นทรงเป็นพยานต่อทุกสิ่ง


คำแปล R5.
๕๓. โอ้มวลผู้ศรัทธาทั้งหลายจงอย่าได้เข้าบ้านของศาสดานอกจากได้รับอนุญาตแก่พวกเจ้าให้เข้า โดยถูกเชิญสู่อาหารที่ถูกจัดเพื่อการเลี้ยง ก็ให้พวกเจ้าเข้าไปได้ โดยไม่ต้องรีรอที่จะเข้าไปยังอาหารนั้น และแต่ทว่าเมื่อพวกเจ้าถูกเชิญให้เข้าไปรับประทานอาหาร พวกเจ้าก็จงเข้าไปเถิด ต่อมาเมื่อพวกเจ้าได้รับประทานเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จงแยกย้ายออกจากบ้านของศาสดา และพวกเจ้าอย่าอ้อยอิ่งอยู่ในบ้านของศาสดาเมื่อรับประทานเรียบร้อยแล้วโดยพึงใจต่อการพูดคุยซึ่งกันและกัน เพราะแท้จริงการอ้อยอิ่งในบ้าน(ศาสดาเพื่อพูดคุยกันนั้นเป็นการทำความรำคาญแก่ศาสดา แต่เขาก็ละอายพวกเจ้าต่อการที่จะไล่พวกเจ้าออกจากบ้านของเขา และอัลเลาะห์ไม่ละอายต่อความจริง ดังนั้นพระองค์จึงทรงโองการให้ทุกคนรีบออกจากบ้านของศาสดาเสีย เมื่อเสร็จสิ้นการรับประทานอาหารและเมื่อพวกเจ้า ทั้งหลายได้ขอจากพวกนางผู้เป็นชายาของศาสดาซึ่งสิ่งของใด ๆ พวกเจ้าก็จงขอนางจากเบื้องหลังของม่าน นั่นแหละจะเป็นที่สะอาดยิ่งสำหรับหัวใจของพวกเจ้าและหัวใจของพวกนาง แต่ละฝ่ายจะได้ปลอดพ้นไปจากศาสนาของผู้อื่นและพวกเจ้าย่อมไม่มีสิทธิ์ก่อความรำคาญแก่ศาสนทูตแห่งอัลเลาะห์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยสักปานใดก็ตาม และไม่มีสิทธิ์ที่พวกเจ้าจะสมรสกับชายาของเขาภายหลังจากเขาได้อสัญกรรมไปแล้วจนตลอดกาล แท้จริงการจะสมรสกับชายาของศาสนทูตนั้นเป็นบาปยิ่งใหญ่ ณ อัลเลาะห์ ซึ่งพระองค์ได้กำหนดไว้แก่พวกเจ้าทั้งหลาย
๕๔.แม้นพวกเจ้าจะเปิดเผยสิ่งใดหรือจะปิดบังมันก็ตามแน่นอนที่สุดอัลเลาะห์ทรงรอบรู้ในทุก ๆ สิ่ง แล้ว พระองค์ก็จะทรงตอบแทนการประพฤติของพวกเจ้าโดยครบถ้วน
๕๕. ย่อมไม่เป็นบาปเหนือพวกนางทั้งหลายในการมองและสนทนากับบรรดาบิดาของพวกนาง และไม่เป็นบาปที่นางจะมองและสนทนากับลูก ๆ ของนางและไม่เป็นบาปที่นางจะมองและสนทนากับบรรดาพี่น้องชายของนาง และไม่เป็นบาปบรรดาบุตรชายแห่งมวลพี่น้องชายของนาง และไม่เป็นบาปบรรดาบุตรชายแห่งพี่น้องหญิงของนาง และไม่เป็นบาปบรรดาสตรีแห่งพวกนางผู้เป็นศรัทธาชนเช่นเดียวกัน และไม่เป็นบาปทาสที่มือขวาของพวกนางครอบครองไว้ และพวกนางจงยำเกรงอัลเลาะห์เถิดในคำบัญชาของพระองค์ที่เกี่ยวกับข้อประพฤติของพวกนาง แท้จริงอัลเลาะห์ทรงเป็นผู้ประจักษ์แจ้งเหนือทุก ๆ สิ่ง ซึ่งไม่มีสิ่งใดรอดเร้นไปจากความรอบรู้ของพระองค์เลย


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลอะหฺซาบ อายะฮฺที่ 56 - 58


คำอ่าน
56. อิน..นัลลอฮะวะมะลา..อิกะตะฮู ยุศ็อลลูนะอะลันนะบียฺ ยา..อัยยุฮัลละซีนะอามะนู ศ็อลลูอะลัยฮิ วะสัลลิมูตัสลีมา
57. อิน..นัลละซีนะ ยุอ์ซูนัลลอฮะ วะเราะสูละฮู ละอะนะฮุมุลลอฮุฟิดดุนยา วัลอาคิเราะติ วะอะอัดดะละฮุม อะซาบัม..มุฮีนา
58. วัลละซีนะยุอ์ซูนัลมุอ์มินีนะ วัลมุอ์มินาติ บิฆ็อยริมักตะสะบู ฟะเกาะดิหฺตะมะลู บุฮฺตาเนา..วะอิษมัม..มุบีนา


คำแปล R1.
56. Allah sends his Salat (graces, honours, blessings, mercy, etc.) on the Prophet (Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam) and also His angels too (ask Allah to bless and forgive him). O you who believe! Send your Salat on (ask Allah to bless) him (Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam), and (you should) greet (salute) him with the Islamic Way of greeting (salutation i.e. As-Salamu 'Alaikum).
57. Verily, those who annoy Allah and his Messenger (Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam) Allah has cursed them in this world, and in the Hereafter, and has prepared for them a humiliating torment.
58. And those who annoy believing men and women undeservedly bear on themselves the crime of slander and plain sin.


คำแปล R2.
56.  แท้จริงอัลเลาะฮฺและมลาอิกะฮฺของพระองค์ทำการประสาทพรแก่ศาสดา โอ้ผู้มีศรัทธาทั้งหลายพวกเจ้าจงประสาทพรแก่เขา และจงประสาทสันติสุขแก่เขาอย่างแท้จริงเถิด
57. แท้จริงบรรดาผู้รุกรานอัลเลาะฮฺและศาสนทูตของพระองค์(ด้วยการพูดประณาม)นั้น อัลเลาะฮฺย่อมสาปแช่งพวกเขาทั้งในโลกนี้และโลกหน้าอย่างแน่นอน และพระองค์ทรงเตรียมการลงโทษอันอัปยศไว้สำหรับพวกเขาแล้ว
58. และบรรดาผู้รุกรานมวลชนผู้ศรัทธาทั้งชายและหญิง(โดยใส่ร้าย)ในสิ่งที่พวกเขามิได้พากเพียรไว้ แน่นอนพวกเหล่านั้นย่อมต้องแบกความเท็จและบาปอันแจ้งชัดไว้


คำแปล R3.
56. แท้จริงอัลลอฮฺและมลาอิกะฮฺของพระองค์ยังอำนวยพรแก่นบี บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย จงขอพรให้แก่เขาได้รับความจำเริญและส่งความสันติให้แก่เขา
57. อัลลอฮฺได้ทรงสาปแช่งบรรดาผู้สร้างความยุ่งยากให้แก่อัลลอฮฺและรอซูลของพระองค์ทั้งในโลกนี้และโลกหน้าและได้ทรงเตรียมการลงโทษอันอัปยศไว้สำหรับพวกเขาแล้ว
58. และบรรดาผู้ใส่ร้ายชายผู้ศรัทธาและหญิงผู้ศรัทธาในสิ่งที่พวกเขาไม่ได้ทำนั้น แน่นอน พวกเขาได้แบกการกล่าวร้ายอันหนักหน่วงไว้ และบาปอันชัดแจ้ง


คำแปล R4.
56. แท้จริงอัลลอฮฺและมะลาอิกะฮฺของพระองค์ประสาทพรแก่นะบี โอ้ บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย  พวกเจ้าจงประสาทพรให้เขาและกล่าวทักทายเขาโดยคารวะ
57. แท้จริง บรรดาผู้กล่าวร้ายแก่อัลลอฮฺและรอซูลของพระองค์ อัลลอฮฺทรงสาปแช่งพวกเขาทั้งในโลกนี้และปรโลก และทรงเตรียมการลงโทษอันอัปยศไว้สำหรับพวกเขา
58. และบรรดาผู้กล่าวร้ายแก่บรรดาผู้ศรัทธาชายและบรรดาผู้ศรัทธาหญิง ในสิ่งที่พวกเขามิได้กระทำ แน่นอนพวกเขาได้แบกการกล่าวร้าย และบาปอันชัดแจ้งไว้


คำแปล R5.
๕๖. แท้จริงอัลเลาะห์และมลาอิกะฮ์ของพระองค์ทำการประสาทพรแก่ศาสดามุฮำมัด โอ้ผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงประสาทพรแก่เขาเถิด และจงประสาทสันติสุขแก่เขาอย่างจริงจัง
๕๗. แท้จริงบรรดาผู้รุกรานอัลเลาะห์และศาสดาของพระองค์นั้น อัลเลาะห์จักสาปแช่งพวกเขาทั้งในโลกนี้และโลกหน้า และพระองค์ทรงเตรียมการลงโทษอันต้อยต่ำแก่พวกเขา โดยให้พวกเขาถูกจองจำในนรก
๕๘. และบรรดาผู้รุกรานแก่มวลผู้ศรัทธาชายและมวลผู้ศรัทธาหญิงโดยใส่ร้ายพวกเขาเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขามิได้กระทำไว้ แน่นอนที่สุดพวกเขาได้แบกความเท็จไว้และแบกโทษอันชัดแจ้งซึ่งพวกเขาจะต้องรับการตอบสนองอย่างสาสมในวันปรภพ


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลอะหฺซาบ อายะฮฺที่ 59 - 62


คำอ่าน
59. ยา..อัยยุฮัน..นะบียุ กุลลิอัซวาญิกะ วะบะนาติกะ วะนิสา...อิลมุอ์มินีนะ ยุดนีนะอะลัยฮิน..นะ มิน..ญะลาบีบิฮิน..นะ ซาลิกะอัดนา..อัย..ยุอฺร็อฟนะ ฟะลายุอ์ซัยนะ วะกานัลลอฮุเฆาะฟูร็อรฺเราะห๊มา
60. ละอิลลัมยัน..ตะฮิลมุนาฟิกูนะ วัลละซีนะฟีกุลูบิฮิม..มะเราะฎู..วัลมุร์ญิฟูนะ ฟิลมะดีนะติ ละนุฆริยัน..นะกะบิฮิม ษุม..มะลาญาวิรูนะกะฟีฮา..อิลลาเกาะลีลา
61. มัลอูนีนะ อัยนะมาษุกิฟู..อุคิซู วะกุตติลูตักตีลา
62. สุน..นะตัลลอฮิ ฟิลละซีนะเคาะเลามิน..ก็อบลุ วะลัน..ตะญิดะลิสุน..นะติลลาฮิ ตับดีลา


คำแปล R1.
59. O Prophet! Tell your wives and your daughters and the women of the believers to draw their cloaks (veils) all over their bodies (i.e. screen themselves completely except the eyes or one eye to see the way). That will be better, that they should be known (as free respectable women) so as not to be annoyed. And Allah is ever Oft-Forgiving, Most Merciful.
60. If the hypocrites, and those in whose hearts is a disease (evil desire for adultery, etc.), and those who spread false news among the people in Al-Madinah, cease not, we shall certainly let you overpower them, then they will not be able to stay In it as your neighbours but a little while.
61. Accursed, wherever found, they shall be seized and killed with a (terrible) slaughter.
62. That was the way of Allah in the case of those who passed away of old, and you will not find any change In the way of Allah.


คำแปล R2.
59. โอ้ผู้เป็นศาสดา จงกล่าวสอนบรรดาคู่ครองของเจ้า, บรรดาบุตรหญิงของเจ้าและมวลสตรี(ภริยา)ของศรัทธาชนทั้งหลายให้พวกนางลากเสื้อคลุมของพวกนางลงมาปิดบน(ใบหน้าของ)พวกนาง นั้นเป็นที่ใกล้เคียงที่สุดที่พวกนางจะถูกรู้จัก(จากผู้อื่นว่าพวกนางเป็นหญิงที่ดี)และพวกนางก็จะไม่ถูกรังแก(จากคนทั่วไป)และอัลเลาะฮฺทรงให้อภยยิ่ง ทรงเมตตายิ่ง
60. ขอยืนยัน มาดแม้นเหล่าผู้สับปลับ, เหล่าผู้มีความป่วยไข้ในหัวใจและเหล่าผู้แพร่ข่าวเท็จในมะดีนะฮฺยังไม่ยอมยุติ(พฤติกรรมชั่วของพวกเขา) แน่นอนที่สุดเราจักให้เจ้ามีอำนาจเหนือพวกเขา แล้วหลังจากนั้นพวกเขาก็จะไม่ได้อยู่ร่วมกับเจ้าในนั้น ยกเว้นเพียงชั่วเวลาเล็กน้อยเท่านั้น
61. โดยพวกเขาถูกสาปแช่ง ไม่ว่าพวกเขาจะถูกพบตัวที่ใด พวกเขาก็ต้องถูกจับและถูกสังหารอย่างทารุณ
62. เป็นแบบฉบับแห่งอัลเลาะฮฺ (ที่ทรงให้มีดำเนินอยู่) ในประชาชาติที่ล่วงพ้นมาเมื่อยุคก่อน และเจ้าจะไม่พบสำหรับแบบฉบับแห่งอัลเลาะฮฺว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เลย


คำแปล R3.
59. โอ้ นบี จงสั่งบรรดาภรรยาของเจ้าและลูกสาวของเจ้าและบรรดาหญิงของผู้ศรัทธาให้เอาส่วนหนึ่งของเสื้อคลุมของพวกนางมาปิดใบหน้าของพวกนาง นั่นเป็นสิ่งที่จะทำให้พวกนางเป็นที่รับรู้และไม่ถูกระราน อัลลอฮฺเป็นผู้ทรงอภัยผู้ทรงเมตตา
60. ถ้าพวกที่ตลบตะแลงและพวกที่หัวใจของพวกเขาเป็นโรค และพวกที่ชอบนินทาในมะดีนะฮฺไม่หยุดยั้ง แน่นอนเราจะให้เจ้าจัดการพวกเขาแล้วพวกเขาแทบจะไม่สามารถอาศัยอยู่ในเมืองนี้ในฐานะเพื่อนบ้านของเจ้าได้เลย
61. พวกเขาจะถูกสาปแช่งจากทุกด้านและจะถูกจับกุมทุกที่ที่พวกเขาถูกพบและจะถูกฆ่าอย่างไร้ความเมตตา
62. นี่คือวิธีการของอัลลอฮฺต่อผู้คนก่อนหน้านี้ และเจ้าจะไม่พบการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในวิธีการของอัลลอฮฺ


คำแปล R4.
59. โอ้นะบีเอ๋ย ! จงกล่าวแก่บรรดาภริยาของเจ้า และบุตรสาวของเจ้า และบรรดาหญิงของบรรดาผู้ศรัทธา ให้พวกนางดึงเสื้อคลุมของพวกนางลงมาปิดตัวของพวกนาง นั่นเป็นการเหมาะสมกว่าที่นางจะเป็นที่รู้จัก เพื่อที่พวกนางจะไม่ถูกรบกวนและอัลลอฮฺทรงเป็นผู้อภัยผู้ทรงเมตตาเสมอ
60. แน่นอน ถ้าพวกมุนาฟิกีนและบรรดาผู้ที่ในหัวใจของพวกเขามีโรค และกลุ่มผู้ก่อกวนความสงบในนครมะดีนะฮฺไม่ระงับ (การกระทำที่เลวทรามของพวกเขา) แน่นอน เราจะให้เจ้ามีอำนาจเหนือพวกเขา แล้วพวกเขาจะไม่กลับมาพำนักเป็นเพื่อนบ้านของเจ้าในนั้นอีกเว้นแต่เพียงชั่วเวลาอันเล็กน้อยเท่านั้น
61. พวกเหล่านั้นถูกสาปแช่ง ไม่ว่าพวกเขาจะถูกพบ ณ แห่งหนใด ก็จะถูกจับกุมและถูกสังหาร (โดยปราศจากความเมตตา)
62. นั่นคือแนวทางของอัลลอฮฺแก่บรรดาผู้ที่ล่วงลับไปแล้วแต่กาลก่อน และเจ้าจะไม่พบการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในแนวทางของอัลลอฮฺ


คำแปล R5.
๕๙. โอ้ศาสดามุฮำมัด เจ้าจงกล่าวแก่บรรดาชายาของเจ้า และบรรดาบุตรีของเจ้าและบรรดาสตรีผู้เป็นภริยาของมวลผู้ศรัทธาทั้งหลายว่าพวกนางจะต้องลากเสื้อคลุมลงมาปิดบนใบหน้าของพวกนาง ขณะที่นางออกจากบ้านเพื่อทำธุระต่าง ๆ ยกเว้นเพียงลูกตาสักข้างหนึ่งที่ไม่ต้องปิด เพื่อจะได้มองดูสิ่งรอบ ๆ ตัวนั้นก็ใกล้เคียงยิ่งแล้วที่พวกนางจะถูกสังเกตจนเป็นที่รู้จักว่าเป็นหญิงเสรี มิใช่ทาสของใคร แล้วพวกนางก็จะไม่ถูกพวกกลับกลอกทั้งหลายทำความเดือดร้อนด้วยการเกี้ยวพาราสีแทะโลมต่าง ๆ นานา เฉกเช่นหญิงผูเป็นทาสทั้งหลายถูกพวกเหล่านั้นกระทำ เนื่องเพราะพวกทาสหญิงมิได้ปิดใบหน้าเมื่อออกนอกบ้านและอัลเลาะห์ทรงยิ่งในการให้อภัย ต่อการกระทำอันล่วงมาแล้วเมื่ออดีต นั่นคือการที่หญิงเสรีมิได้ปิดหน้า ทรงยิ่งในความเมตตาต่อพวกนางในการที่ได้มีบัญชาให้ปิดใบหน้าตามที่กล่าวมา ทั้งนี้เพราะการปิดหน้าจะช่วยรักษานางมิให้ประสบภัยอันตรายจากผู้ชายไร้ศีลธรรมทั้งหลาย
๖๐. ขอสาบาน แท้จริงมาดแม้นพวกกลับกลอกทั้งหลายจะไม่ยุติความกลับกลอกของตนเองและบรรดาผู้มีความป่วยในหัวใจ สาเหตุเพราะชอบล่วงประเวณีกับบุคคลต้องห้ามและบรรดาผู้สั่นสะเทือนความสงบของสังคมด้วยการแพร่ข่าวเท็จในนครมะดีนะฮ์ให้ฝ่ายมุสลิมตกใจและระส่ำระสายโดยพวกเขากุข่าวขึ้นมาว่าศัตรูได้เข้ามาโจมตีบ้างกำลังรบฝ่ายมุสลิมถูกฆ่าตายหรือพ่ายแพ้บ้าง แน่นอนที่สุด เราจักให้เจ้าออกอุบายแก่พวกเขา โดยให้เจ้าได้อำนาจรักปกครองพวกเขาต่อไป หลังจากนั้นพวกเขาจะไม่อยู่ร่วมกับเจ้าในนครมะดีนะฮ์นั้น นอกจากจำนวนคนเพียงเล็กน้อย
๖๑. ซึ่งถูกสาปแช่งและห่างไกลจากความเมตตาของอัลเลาะห์ ณ ที่ใดพวกเขาถูกพบตัว พวกเขาก็จะถูกจับตัวและถูกฆ่าอย่างทารุณ
๖๒. เป็นแบบอย่างของอัลเลาะห์ที่พระองค์ทรงกำหนดไว้เป็นกฎเกณฑ์ในการทำสงครามระหว่างกัน ในบรรดาประชาชาติที่ล่วงพ้นมาเมื่ออดีต และเจ้าจะไม่พบการเปลี่ยนแปลงสำหรับแบบอย่างของอัลเลาะห์ ไม่ว่าในยุคใดก็ตาม


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อัลอะหฺซาบ อายะฮฺที่ 63 - 68


คำอ่าน
63. ยัสอะลุกัน..นาสุ อะนิสสาอะติ กุลอิน..นะมาอิลมุฮา อิน..ดัลลอฮฺ วะมายุดรีกะละอัลลัสสาอะตะ ตะกูนุเกาะรีบา
64. อิน..นัลลอฮะ ละอะนัลกาฟิรีนะ วะอะอัดดะละฮุม สะอีรอ
65. คอลิดีนะฟีฮา..อะบะดา ลายะญิดูนะวะลีเยา..วะลานะศีรอ
66. เยามะตุก็อลละบุวุญูฮุฮุม ฟิน..นาริ ยะกูลูนะ ยาลัยตะนา..อะเฎาะอฺนัลลอฮะ วะอะเฏาะอฺนัรฺเราะสูลา
67. วะกอลูร็อบบะนา..อิน..นา..อะเฏาะอฺนา สาดะตะนา วะกุบรอ..อะนา ฟะอฎ็อลลูนัสสะบีลา
68. ร็อบบะนา..อาติฮิม ฎิอฺฟัยนิ มินัลอะซาบิ วัลอันฮุม ละอฺนัน..กะบีรอ


คำแปล R1.
63. People ask you concerning the Hour, say: "The knowledge of it is with Allah only. What do you know? It may be that the Hour is near!"
64. Verily, Allah has cursed the disbelievers, and has prepared for them a flaming Fire (Hell).
65. Wherein they will abide for ever, and they will find neither a Wali (a protector) nor a helper.
66. On the Day when their faces will be turned over in the Fire, they will say: "Oh, would that we had obeyed Allah and obeyed the Messenger (Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam)."
67. And they will say: "Our Lord! Verily, we obeyed our chiefs and our great ones, and they misled us from the (right) way.
68. Our Lord! Give them double torment and curse them with a mighty curse!"


คำแปล R2.
63. ต่อไปมนุษย์จะถามเจ้าถึงเรื่องกาลปวสานของโลกนี้ เจ้าจงตอบเถิดว่า อันที่จริงความรู้(ในกำหนดของ)มันนั้น “อยู่ที่อัลเลาะฮฺ” และอะไรเล่าที่จะทำให้เจ้ารู้ได้ บางทีกาลปาวสานของโลกนี้จะอุบัติขึ้นในเวลาอันใกล้นี้ก็ได้
64. แท้จริงอัลเลาะฮฺทรงสาปแช่งบรรดาพวกไร้ศรัทธาและได้เตรียมเปลวเพลิงนรกไว้แก่พวกเขาแล้ว
65. พวกเขาเข้าอยู่โดยนิรันดรในนั้น โดยไม่พบผู้ตุ้มครองและผู้ช่วยเหลือคนใดเลย
66. ในวันซึ่งใบหน้าของพวกเขาพลิกอยู่ในนรกพร้อมกับพวกเขาโอดครวญว่า “โอเราน่าจะภักดีต่ออัลเลาะฮฺ และภักดีต่อศาสนทูต” (เมื่อสมัยเราอยู่ในโลก เพื่อเราได้ไม่ต้องมาประสบกับภาวะเช่นนี้)
67. และพวกเขากล่าวต่อไปอีกว่า “โอ้องค์อภิบาลของเรา แท้จริงเราได้ภักดีต่อหัวหน้าของเรา แต่แล้วพวกเขาก็ทำให้เราหลงทาง”
68. “โอ้องคือภิบาลของเรา โปรดลงโทษพวกเขาเป็นสองเท่าเถิด และโปรดสาปแช่งพวกเขาอย่างใหญ่ยิ่งเถิด”


คำแปล R3.
63. ผู้คนถามเจ้าเกี่ยวกับยามอวสานว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด จงบอกพวกเขาว่า “ความรู้เรื่องนี้อยู่ที่อัลลอฮฺเท่านั้น” เจ้าอาจไม่รู้ว่ายามอวสานนั้นอยู่ใกล้แค่นี้เอง
64. แน่นอนอัลลอฮฺได้ทรงสาปแช่งบรรดาผู้ปฏิเสธและได้เตรียมไฟที่ลุกโชนไว้สำหรับพวกเขาแล้ว
65. พวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นตลอดกาลและพวกเขาจะไม่มีผู้คุ้มครองและผู้ช่วยเหลือ
66. ในวันนั้น ใบหน้าของพวกเขาจะถูกพลิกไปมาบนไฟ พวกเขาจะกล่าวว่า “ถ้าเราจะเชื่อฟังอัลลอฮฺและรอซูลของพระองค์เสียก็จะดี”
67. และพวกเขากล่าวว่า “ข้าแต่พระผู้อภิบาลของเรา เราเชื่อฟังบรรดาหัวหน้าของเราและผู้ยิ่งใหญ่ของเรา และพวกเขาได้ทำให้พวกเราหลงทาง
68. ข้าแต่พระผู้อภิบาลโปรดทรงลงโทษพวกเขาเป็นสองเท่า และทรงสาปแช่งพวกเขาอย่างหนักด้วยเถิด”


คำแปล R4.
63. มีผู้คนถามเจ้าเกี่ยวกับยามอวสาน จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) “แท้จริงความรู้ในเรื่องนั้นอยู่ ณ ที่อัลลอฮฺ” และอะไรเล่าจะทำให้เจ้ารู้ได้ บางทียามอวสานนั้นอยู่ใกล้ ๆ นี่เอง
64. แท้จริง อัลลอฮฺทรงสาปแช่งบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา และทรงเตรียมไฟที่ลุกโชติช่วงไว้สำหรับพวกเขา
65. พวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล พวกเขาจะไม่พบผู้คุ้มครองและผู้ช่วยเหลือ
66. วันที่ใบหน้าของพวกเขาจะถูกพลิกกลับไปกลับมาในไฟนรก พวกเขาจะกล่าวว่า “โอ้ความระทมทุกข์ของเรา ! หากเราได้เชื่อฟังปฏิบัติตามอัลลอฮฺ และเราได้เชื่อฟังปฏิบัติตามรอซูลก็จะดีหรอก !!”
67. และพวกเขากล่าวว่า “ข้าแต่พระเจ้าของเรา แท้จริงเราได้เชื่อฟังปฏิบัติตามบรรดาหัวหน้าของเรา และบรรดาผู้นำของเรา ดังนั้นพวกเขาได้ทำให้พวกเราหลงทาง
68. ข้าแต่พระเจ้าของเรา ได้โปรดลงโทษพวกเขาสองเท่าเถิด และทรงสาปแช่งพวกเขาซึ่งการสาปแช่งอันยิ่งใหญ่


คำแปล R5.
๖๓. มนุษย์ชาวมักกะห์จะถามเจ้าถึงเรื่องกาลดับสลายแห่งโลกนี้ว่าจะอุบัติขึ้นเมื่อใด เจ้าจงกล่าวตอบพวกนั้นเถิดว่า อันที่จริงความรู้เกี่ยวกับมันนั้น อยู่ที่อัลเลาะห์เพียงพระองค์เดียว และพระองค์ก็มิได้ให้เจ้ารู้ถึงเรื่องดังกล่าวดังกล่าวด้วยเลย บางทีการดับสลายแห่งโลกนี้อาจจะอุบัติขึ้นในเวลาใกล้ ๆ นี้
๖๔.แท้จริงอัลเลาะห์ทรงสาปแช่งบรรดาผู้เนรคุณและทรงเตรียมนรกอันร้อนแรงสำหรับพวกเขาไว้แล้ว
๖๕. ซึ่งพวกเขาจะต้องเข้าไปในนั้นโดยนิรันดร พวกเขาจะไม่พบผู้คุ้มครองคนใดที่จะพิทักษ์ตัวเขา และไม่พบผู้ช่วยเหลือคนใดที่จะป้องกันพวกเข้ามิให้ประสบกับอันตรายของนรกดังกล่าว
๖๖. วันนั้นเป็นวันที่ใบหน้าของพวกเขาพลิกกลับไปกลับมาอยู่ในนรก โดยพวกเขารำพึงด้วยความทรมานว่า โอ้ความหวังของเราเอ๋ย เราน่าจะภักดีต่ออัลเลาะห์และภักดีต่อศาสนทูตในคำประกาศของเขาถึงเรื่องความเอกะของอัลเลาะห์
๖๗. และบรรดาผู้เจริญรอยตามพวกเขากล่าวว่า โอ้องค์อภิบาลของเรา แท้จริงพวกเราได้ภักดีต่อหัวหน้าและคนใหญ่คนโตของพวกเรา แต่แล้วพวกเขาก็ยังความหลงทางแก่พวกเราให้เราได้เพิกเฉยต่อศาสนาอันเที่ยงแท้ของพระองค์
๖๘. โอ้องค์อภิบาลของเรา ขอพระองค์ทรงโปรดประทานการลงโทษแก่พวกนั้นเป็นสองเท่าเถิด และโปรดสาปแช่งพวกเขาอย่างใหญ่หลวงเถิด



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลอะหฺซาบ อายะฮฺที่ 69 - 71


คำอ่าน
69. ยา..อัยยุฮัลละซีนะอามะนู ลาตะกูนูกัลป์ละซีนะ อาเซามูสา ฟะบัรฺเราะอะฮุลลอฮุ มิม..มากอลู วะกานะอิน..ดัลลอฮิ วะญีฮา
70. ยา..อัยยุฮัลละซีนะอามะนุตตะกุลลอฮะ วะก็อวลันสะดีดา
71. ยุศลิหฺละกุม อะอฺมาละกุม วะยัฆฟิรฺละกุม ซุนูบะกุม วะมัย..ยุฏิอิลลาฮะ วะเราะสูละฮู ฟะก็อดฟาซะเฟาซัน อะซีมา


คำแปล R1.
69. O you who believe! Be not like those who annoyed Musa (Moses), but Allah cleared him of that which they alleged, and he was honourable before Allah.
70. O you who believe! Keep your duty to Allah and fear him, and speak (always) the truth.
71. He will direct you to do righteous good deeds and will forgive you your sins. And whosoever obeys Allah and his Messenger (Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam) He has indeed achieved a great achievement (i.e. he will be saved from the Hell-fire and made to enter Paradise).


คำแปล R2.
69. โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย พวกเจ้าอย่าได้เป็นเช่นบรรดาพวก(ยิว) ที่เคยรุกราน(ด้วยการพูดประณาม)มูซามาก่อน แล้วอัลเลาะฮฺก็ทรงปลดเปลื้องมลทินแก่เขาให้พ้นไปจากสิ่งที่พวกนั้นพูดไว้(เกี่ยวกับตัวเขา) และเขาเป็นผู้มีเกียรติคนหนึ่ง ณ อัลเลาะฮฺ
70. โอ้ผู้มีศรัทธาทั้งหลาย จงยำเกรงอัลเลาะฮฺ และจงกล่าวแต่คำพูดที่เที่ยงตรงเถิด
71. แน่นอนพระองค์ย่อมทรงประทานสัมฤทธิ์ผลแด่พวกเจ้าในการงานต่าง ๆ ของพวกเจ้า และทรงนิรโทษแด่พวกเจ้าซึ่งโทษานุโทษของพวกเจ้า และผู้ใดภักดีอัลเลาะฮฺและศาสนทูตของพระองค์ แน่นอนเขาย่อมได้รับรางวัลอันยิ่งใหญ่


คำแปล R3.
69. โอ้บรรดาผู้ศรัทธา จงอย่าเป็นเหมือนบรรดาผู้กลบ่าวร้ายมูซา แล้วอัลลอฮฺได้ทรงทำให้เขาพ้นมลทินจากที่พวกเขากล่าวร้าย และเขาเป็นผู้มีเกียรติในทัศนะของอัลลอฮฺ
70. โอ้บรรดาผู้ศรัทธา จงเกรงกลัวอัลลอฮฺและจงพูดแต่สิ่งที่ถูกต้อง
71. อัลลอฮฺจะทรงยกย่องการงานของสูเจ้า และอภัยความผิดของสูเจ้า แน่นอนใครก็ตามที่เชื่อฟังอัลลอฮฺและรอซูลของพระองค์ เขาก็จะได้รับความสำเร็จอันยิ่งใหญ่


คำแปล R4.
69. โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย ! พวกเจ้าอย่าได้เป็นเช่นบรรดาผู้สบประมาทมูซา แล้วอัลลอฮฺก็ทรงให้เขาพ้นจากที่พวกเขากล่าวร้าย และเขาเป็นผู้ควรแก่การคารวะ ณ ที่อัลลอฮฺ
70. โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย ! จงยำเกรงอัลลอฮฺ และจงกล่าวถ้อยคำที่เที่ยงธรรมเถิด
71. พระองค์จะทรงปรับปรุงการงานของพวกเจ้าให้ดีขึ้นสำหรับพวกเจ้า และจะทรงอภัยโทษความผิดของพวกเจ้าให้แก่พวกเจ้าและผู้ใดเชื่อฟังปฏิบัติตามอัลลอฮฺแล่ะรอซูลของพระองค์ แน่นอนเขาได้รับความสำเร็จใหญ่หลวง


คำแปล R5.
๖๙. โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย พวกเจ้าอย่าได้เป็นเช่นบรรดาเผ่าพันธุ์ของอิสรออีลที่ทำความเดือดร้อนแก่มูซาเมื่อนบีมูซาออกกฎห้ามมิให้พวกเขาอาบน้ำเปลือยกายเป็นกลุ่ม ซึ่งพวกเขาเคยกระทำเป็นนิจศีล และนบีมูซาจะอาบน้ำเพียงคนเดียว พวกเขาก็กล่าวว่า สาเหตุที่นบีมูซาห้ามอาบน้ำเปลือยกายรวมกันก็เพราะนบีมูซามีปมด้อยในตัวเองที่ไม่อยากให้ใครเห็น นั่นคือ ลูกอัณฑะโต ตัวเองจึงละอายในปมด้อยนั้น ดังนั้น อัลเลาะห์จึงให้เขา(นบีมูซา) พ้นจากคำกล่าวหาของพวกเขาดังกล่าวนั้นโดยพวกเขาได้เห็นเป็นที่ประจักษ์ว่าที่จริงแล้วนบีมูซามิได้มีอัณฑะโตดังที่พวกเขากล่าวหาเลย เหตุที่เขาจะพิสูจน์เป็นที่ประจักษ์เช่นนั้นก็เพราะว่าวันหนึ่งขณะที่นบีมูซาอาบน้ำ ท่านถอดเสื้อผ้าแขวนไว้ที่ก้อนหิน ขณะอาบน้ำก้อนหินนั้นก็เลื่อนออกจากที่เดิมไปหยุดอยู่ต่อหน้าต่อตาของคนกลุ่มหนึ่งจากพวกนั้น ท่านจึงตามออกมาหยิบเสื้อผ้าของท่าน ซึ่งทำให้พวกเขาเห็นชัดว่า นบีมูซามิได้มีปมด้อยดังกล่าวเลย และนบีมูซานั้นเขาเป็นผู้มีเกียรติ ณ อัลเลาะห์ หาใช่ผู้มีปมด้อยไม่ ฝ่ายพวกกาฟิรในยุคของท่านศาสดามุฮำมัดก็กระทำต่อท่านศาสดาเฉกเช่นเผ่าพันธุ์อิสรออีลกระทำต่อนบีมูซาเหมือนกัน เช่นครั้งหนึ่งท่านศาสดามุฮำมัดได้จัดการแบ่งปันทรัพย์สินแก่ประชาชน แต่ก็มีชายคนหนึ่งใส่ไคล้ว่า การแบ่งปันครั้งนี้มิได้กระทำโดยบริสุทธิ์ต่อพระเจ้า ท่านศาสดาไม่พอใจมาก แต่ท่านมีความอดทนและกล่าวว่า อัลเลาะห์ทรงเมตตาแก่นบีมูซา เขาถูกรังแกมากกว่านี้อีก
๗๐. โอ้ผู้ศรัทธาทั้งหลายจงยำเกรงอัลเลาะห์และพวกเจ้าจงกล่าวแต่ถ้อยคำอันเที่ยงตรงเถิด
๗๑.พระองค์จักทรงปรับปรุงแต่พวกเจ้าซึ่งมวลความประพฤติของพวกเจ้า โดยจะทรงรับรองความประพฤติเหล่านั้น และพระองค์จะทรงอภัยแด่พวกเจ้าซึ่งโทษานุโทษของพวกเจ้า และใครมีความภักดีในอัลเลาะห์และศาสนทูตของพระองค์ แน่นอนที่สุดเขาจะได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ในปรภพ โดยได้เข้าสวรรค์



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺ อัลอะหฺซาบ อายะฮฺที่ 72 - 73


คำอ่าน
72. อิน..นาอะร็อฎนัลอะมานะตะ อะลัสสะมาวาติวัลอัรฺฎิ วัลญิบาลิ ฟะอะบัยนะ อัย..ยะหฺมิลนะฮา วะอัชฟักนะ มินฮา วะหะมะละฮัลอิน..สาน อิน..นะฮูกานะ เซาะลูมัน..ญะฮูลา
73. ลิยุอัซซิบัลลอฮุลมุนาฟิกีนะ วัลมุนาฟิกอติ วัลมุชริกีนะวัลมุชริกาติ วะยะตูบัลลอฮุ อะลัลมุอ์มินีนะ วัลมุอ์มินาติ วะกานัลลอฮุ เฆาะฟูร็อรฺเราะหีมา


คำแปล R1.
72. Truly, we did offer Al-Amanah (the trust or moral responsibility or honesty and all the duties which Allah has ordained) to the heavens and the earth, and the mountains, but they declined to bear it and were afraid of it (i.e. afraid of Allah's torment). But man bore it. Verily, He was unjust (to himself) and ignorant (of its results).
73. So that Allah will punish the hypocrites, men and women, and the men and women who are Al-Mushrikun (the polytheists, idolaters, pagans, disbelievers in the Oneness of Allah, and in his Messenger Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam ). And Allah will pardon (accept the repentance of) the true believers of the Islamic Monotheism, men and women. And Allah is ever Oft-Forgiving, Most Merciful.


คำแปล R2.
72. แท้จริงเราได้เสนอ(คุณลักษณะแห่ง)ความซื่อสัตย์ให้แก่ฟากฟ้า, แผ่นดินและภูเขา(ให้รับผิดชอบ) แต่พวกมันขัดขืนที่จะรับผิดชอบสิ่งนั้น และพวกมันมีความหวาดกลัวสิ่งนั้น(เหลือเกิน) แต่มนุษย์กลับรับมันไว้ แท้จริงเขาเป็นผู้อธรรมยิ่งอีกทั้งโฉดเขลานัก (จึงไม่สามารถรับผิดชอบความซื่อสัตย์ไว้ได้อย่างแท้จริง)
73. ผลสุดท้าย อัลเลาะฮฺก็ทรงลงโทษพวกสับปลับทั้งชายและหญิง และพวกตั้งภาคีทั้งชายและหญิง และอัลเลาะฮฺทรงอภัยโทษแก่บรรดาศรัทธาชนทั้งชายและหญิง และอัลเลาะฮฺทรงให้อภัยยิ่ง ทรงเมตตายิ่ง


คำแปล R3.
72. เราได้เสนอความรับผิดชอบอันนี้แก่ชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินและภูเขา แต่พวกมันได้ปฏิเสธที่จะแบกรับมันไว้และเกรงกลัวมัน แต่มนุษย์ออกมาแบกรับมัน แท้จริงเขาเป็นผู้อธรรมและโง่เขลา
73. (ผลสุดท้ายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของการแบกภาระความรับผิดชอบนี้ก็คือ) เพื่อที่อัลลอฮฺจะได้ลงโทษชายและหญิงผู้ตลบตะแลงและชายหญิงผู้ตั้งภาคี และทรงรับการสำนึกผิดของชายและหญิงผู้ศรัทธา และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงอภัย และผู้ทรงเมตตาเสมอ


คำแปล R4.
72. แท้จริงเราได้เสนอการอะมานะฮฺ แก่ชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และขุนเขาทั้งหลาย แต่พวกมันปฏิเสธจะแบกรับมันและกลัวต่อมัน (คือภาระอันหนักอึ้ง) และมนุษย์ได้แบกรับมัน แท้จริงเขา (มนุษย์) เป็นผู้อธรรมงมงายยิ่ง
73. เพื่ออัลลอฮฺจะได้ทรงลงโทษแก่พวกมุนาฟิกีนชายและพวกมุนาฟิกีนหญิง และบรรดาผู้ตั้งภาคีชาย (มุชริกีน) และบรรดาผู้ตั้งภาคีหญิง (มุชริก๊าต) และเพื่ออัลลอฮฺจะทรงอภัยโทษแก่บรรดาผู้ศรัทธาชาย และบรรดาผู้ศรัทธาหญิง และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ.


คำแปล R5.
๗๒. แท้จริงเราได้เสนอความซื่อสัตย์ในหลักการปฏิบัติความดีงามและการภักดีต่าง ๆ เหนือชั้นฟ้าและแผ่นดินและภูเขา ให้พวกมันรับผิดชอบและปฏิบัติ แต่แล้วพวกมันก็ปฏิเสธที่จะแบกสิ่งนั้นไว้และมีความกลัวต่อสิ่งนั้น แต่มนุษย์คนแรกคือนบีอาดัมได้แบกมันไว้อย่างกล้าหาญ หลังจากถูกเสนอให้รับไว้ ที่จริงเขาเป็นผู้ฉ้อฉลตัวเองและบิดพลิ้วต่อภาระที่ตัวได้รับไว้ เป็นผู้โฉดเขลายิ่ง
๗๓. เพื่ออัลเลาะห์จักลงโทษบรรดาผู้กลับกลอกทั้งชายและหญิงและบรรดาผู้ตั้งภาคีต่อพระเจ้าทั้งชายและหญิง และอัลเลาะห์ทรงรับการขอลุกะโทษแก่บรรดาผู้ศรัทธาทั้งชายและหญิง และอัลเลาะห์ทรงเป็นผู้ให้อภัยยิ่ง ทรงเมตตายิ่งแก่มวลผู้ศรัทธา

 
---------------------------------------------------------------

ดำรัสของอัลลอฮฺผู้ยิ่งใหญ่เป็นจริงเสมอ (صدق الله العظيم)
จบสูเราะฮฺที่ 33 อัลอะหฺซาบ
والسلام عليكم ورحمة الله وبركاته

 

GoogleTagged