ท่านอะบูฮุร็อยเราะฮ์ ได้กล่าวว่า
قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ مَنْ اضْطَجَعَ مَضْجَعًا لَمْ يَذْكُرْ اللَّهَ تَعَالَى فِيهِ إِلَّا كَانَ عَلَيْهِ تِرَةً يَوْمَ الْقِيَامَةِ وَمَنْ قَعَدَ مَقْعَدًا لَمْ يَذْكُرْ اللَّهَ عَزَّ وَجَلَّ فِيهِ إِلَّا كَانَ عَلَيْهِ تِرَةً يَوْمَ الْقِيَامَةِ
“ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า ผู้ใดเอนกายลงนอนในสถานที่นอนหนึ่ง โดยเขาไม่ซิกรุลลอฮ์ในที่นอนนั้น เว้นแต่เขาจะมีความโศกเศร้าในวันกิยามะฮ์ และผู้ใดที่นั่งในสถานที่หนึ่ง โดยเขาไม่ซิกรุลลอฮ์ในที่นอนนั้น เว้นแต่เขาจะมีความโศกเศร้าในวันกิยามะฮ์” รายงานโดยอะบูดาวูด. ท่านอันนะวาวีย์กล่าวว่าหะดีษนี้ ดี, อัลอัซการ หน้า 80.
1. ท่านอะบูสะอีด อัลคุฎรีย์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้รายงานว่า
عَنْ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ مَنْ قَالَ حِينَ يَأْوِي إِلَى فِرَاشِهِ أَسْتَغْفِرُ اللَّهَ الْعَظِيمَ الَّذِي لَا إِلَهَ إِلَّا هُوَ الْحَيَّ الْقَيُّومَ وَأَتُوبُ إِلَيْهِ ثَلَاثَ مَرَّاتٍ غَفَرَ اللَّهُ لَهُ ذُنُوبَهُ وَإِنْ كَانَتْ مِثْلَ زَبَدِ الْبَحْرِ وَإِنْ كَانَتْ عَدَدَ وَرَقِ الشَّجَرِ وَإِنْ كَانَتْ عَدَدَ رَمْلِ عَالِجٍ وَإِنْ كَانَتْ عَدَدَ أَيَّامِ الدُّنْيَا
“จากท่านนะบีย์ ศ็อลลลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า ผู้ใดที่กล่าวในขณะที่เข้าไปยังที่นอนของเขาว่า “อัสตัฆฟิรุลลอฮัลอะซีม อัลละซี ลาอิลาฮะอิลลาฮุวัลหัยยุลก็อยยูม วะอะตูบุ้อิลัยฮิ” 3 ครั้ง อัลเลาะฮ์ก็จะอภัยบรรดาบาปแก่เขา หากแม้ว่าบาปจะเหมือนกับฟองน้ำในทะเล และหากแม้ว่าเท่ากับจำนวนของใบไม้ และหากแม้ว่าเท่ากับจำนวนทรายที่อาลิจญฺ (เป็นชื่อของหุบเขาหนึ่งที่มีทรายมากมายทับถมกัน) และหากแม้ว่าเท่ากับจำนวนวันของดุนยาก็ตาม” รายงานโดยอัตติรมีซีย์, และท่านอัตติรมีซีย์กล่าวว่า หะดีษนี้หะซัน.
2. ท่านอะบู มัสอูด อัลบัดรีย์ ร่อฎิยัลลอฮุอัน ได้กล่าวว่า
قَالَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ إِذَا أَوَيْتَ إِلَى فِرَاشِكَ فَاقْرَأْ آيَةَ الْكُرْسِيِّ لَنْ يَزَالَ مَعَكَ مِنْ اللَّهِ حَافِظٌ وَلَا يَقْرَبُكَ شَيْطَانٌ حَتَّى تُصْبِحَ
“ท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า เมื่อท่านได้ไปยังที่นอน ก็จงอ่านอายะฮ์อัลกุรซีย์ แน่นอนว่ามีมะลาอิกะฮ์ท่านหนึ่ง(ที่ถูกส่งมา)จากอัลลอฮ์จะยังคงอยู่พร้อมกับท่านและชัยฏอนไม่เข้าใกล้ท่านจนกระทั่งเช้า” รายงานโดยอัลบุคอรีย์.
3. ท่านอะบู มัสอูด อัลบัดรีย์ ร่อฎิยัลลอฮุอัน ได้กล่าวว่า
قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ الْآيَتَانِ مِنْ آخِرِ سُورَةِ الْبَقَرَةِ مَنْ قَرَأَهُمَا فِي لَيْلَةٍ كَفَتَاهُ
“ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า สองอายะฮ์ท้ายซูเราะฮ์อัลบะก่อเราะฮ์นั้น ผู้อ่านมันทั้งสองในค่ำคืนหนึ่ง ทั้งสองย่อมเพียงพอแก่เขาแล้ว ” รายงานโดยอัลบุคอรีย์และมุสลิม.
เพียงพอจากการละหมาดในยามค่ำคืน หรือเพียงพอจากการได้รับการปกป้องจากชัยฏอน หรือเพียงพอจากการถูกปกป้องจากโรคภัย, ชัรห์ซอฮิห์มุสลิม.
4. ท่านอะบูอัดดัรดาอฺ ร่อฎิยัลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า
أَنَّ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ مَنْ حَفِظَ عَشْرَ آيَاتٍ مِنْ أَوَّلِ سُورَةِ الْكَهْف عُصِمَ مِنْ الدَّجَّالِ
“แท้จริงท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า ผู้ใดที่ท่องจำ 10 อายะฮ์จากช่วงแรกของซูเราะฮ์อัลกะฮ์ฟิ เขาจะถูกปกป้องจากดัจญาล” รายงานโดยมุสลิม.
แต่สายรายงานของท่านชั๊วะอฺบะฮ์ ระบุว่า
مِنْ آخِرِ الْكَهْفِ
“(แท้จริงท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า ผู้ใดที่ท่องจำ 10 อายะฮ์)จากท้ายของซูเราะฮ์อัลกะฮ์ฟิ (เขาจะถูกปกป้องจากดัจญาล)” รายงานโดยมุสลิม.
ท่านอะบูฮุร็อยเราะฮ์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : مَنْ قَرَأَ عَشَرَ آياَتٍ فِي لَيْلَةٍ لَمْ يُكْتَبْ مِنَ الْغَافِلِيْنَ
“ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า ผู้ใดอ่าน 10 อายะฮ์ในคืนหนึ่ง เขาจะไม่ถูกบันทึกว่าเป็นผู้ที่หลงลืม” รายงานโดยอัลหากิม, หะดีษนี้ซอฮิห์, อัลมุสตัดร็อก เล่ม 1 หน้า 555.
5. ท่านฟัรวะฮ์ บิน เนาวัล ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้รายงานว่า
أَنَّهُ أَتَى النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَقَالَ يَا رَسُولَ اللَّهِ عَلِّمْنِي شَيْئًا أَقُولُهُ إِذَا أَوَيْتُ إِلَى فِرَاشِي قَالَ اقْرَأْ قُلْ يَا أَيُّهَا الْكَافِرُونَ فَإِنَّهَا بَرَاءَةٌ مِنْ الشِّرْكِ
“แท้จริงเขาได้ไปหาท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แล้วกล่าวว่า โอ้ท่านร่อซุลุลลอฮ์ ท่านโปรดสอนฉันสักสิ่งหนึ่งที่ฉันจะนำไปอ่านมันเมื่อตอนจะเข้านอน ท่านร่อซูลุลลอฮ์ กล่าวว่า ท่านจงอ่าน กุลยาอัยยุฮัลกาฟิรูน เพราะซูเราะฮ์นี้ทำให้พ้นจากการตั้งภาคี” รายงานโดยอัตติรมีซีย์. ฮะดีษนี้ซอฮิห์.
6. รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮ์ ความว่า
أَنَّ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ كَانَ إِذَا أَوَى إِلَى فِرَاشِهِ كُلَّ لَيْلَةٍ جَمَعَ كَفَّيْهِ ثُمَّ نَفَثَ فِيهِمَا فَقَرَأَ فِيهِمَا قُلْ هُوَ اللَّهُ أَحَدٌ وَ قُلْ أَعُوذُ بِرَبِّ الْفَلَقِ وَ قُلْ أَعُوذُ بِرَبِّ النَّاسِ ثُمَّ يَمْسَحُ بِهِمَا مَا اسْتَطَاعَ مِنْ جَسَدِهِ يَبْدَأُ بِهِمَا عَلَى رَأْسِهِ وَوَجْهِهِ وَمَا أَقْبَلَ مِنْ جَسَدِهِ يَفْعَلُ ذَلِكَ ثَلَاثَ مَرَّاتٍ
“แท้จริงท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยอิวะซัลลัม เมื่อท่านได้ไปยังที่นอนในทุกคืนนั้น ท่านทำให้สองฝ่ามือทั้งสองแนบชิดกัน หลังจากนั้นท่านก็เป่าในสองฝ่ามือ แล้วอ่าน (ซูเราะฮ์)กุลฮุวัลลอฮุอะหัด, กุลอะอูซุบิร็อบบิลฟะลัก, และกุลอะอูซูบิร็อบบินนาส ในสองฝ่ามือของท่าน หลังจากนั้นท่านก็นำสองฝ่ามือลูบตามร่างกายเท่าที่สามารถ โดยร่วมลูบที่ศีรษะ ใบหน้า และบริเวณด้านหน้าของร่างกาย ท่านทำสิ่งดังกล่าว 3 ครั้ง” รายงานโดยอัลบุคอรีย์และมุสลิม.
การเป่านั้นสมควรทำหลังจากอ่านอัลกุรอานแล้ว เพื่อให้บะร่อกะฮ์ของอัลกุรอานไปสู่ผิวหนังของผู้อ่านหรือผู้ที่ถูกอ่าน. ฟัตหุลบารีย์
7. ท่านอะลีย์ อิบนุ อะบีฏอลิบ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า
أَنَّ فَاطِمَةَ عَلَيْهَا السَّلَام أَتَتْ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ تَسْأَلُهُ خَادِمًا فَقَالَ أَلَا أُخْبِرُكِ مَا هُوَ خَيْرٌ لَكِ مِنْهُ تُسَبِّحِينَ اللَّهَ عِنْدَ مَنَامِكِ ثَلَاثًا وَثَلَاثِينَ وَتَحْمَدِينَ اللَّهَ ثَلَاثًا وَثَلَاثِينَ وَتُكَبِّرِينَ اللَّهَ أَرْبَعًا وَثَلَاثِينَ
“แท้จริงฟาฏิมะฮ์ อะลัยฮัสลาม ได้ไปหาท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เพื่อขอคนใช้กับท่านนะบีย์ ดังนั้นท่านนะบีย์ จึงกล่าวว่า เอาไหมฉันจะบอกเธอซึ่งสิ่งที่ดียิ่งกว่าสำหรับเธอ คือให้เธอทำการกล่าวตัสบีห์ต่ออัลลอฮ์ในขณะที่นอน 33 ครั้ง กล่าวอัลฮัมดุลิลลาฮ์ 33 ครั้ง และกล่าวอัลลอฮุอักบัร 34 ครั้ง” รายงานโดยอัลบุคอรีย์และมุสลิม.
8. ท่านหะซัยฟะฮ์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า
كَانَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ إِذَا أَوَى إِلَى فِرَاشِهِ قَالَ اللَّهُمَّ بِاسْمِكَ أَحْيَا وَأَمُوتُ
“ท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เมื่อท่านเข้าไปยังที่นอน ท่านกล่าวว่า อัลลอฮุ้มม่า บิสมิก้า อะห์ยา วะ อะมูตู้” รายงานโดยอัลบุคอรีย์.
ท่านอะบูฮุร็อยเราะฮ์ ได้กล่าวว่า
قَالَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ إِذَا أَوَى أَحَدُكُمْ إِلَى فِرَاشِهِ فَلْيَنْفُضْ فِرَاشَهُ بِدَاخِلَةِ إِزَارِهِ فَإِنَّهُ لَا يَدْرِي مَا خَلَفَهُ عَلَيْهِ ثُمَّ يَقُولُ بِاسْمِكَ رَبِّ وَضَعْتُ جَنْبِي وَبِكَ أَرْفَعُهُ إِنْ أَمْسَكْتَ نَفْسِي فَارْحَمْهَا وَإِنْ أَرْسَلْتَهَا فَاحْفَظْهَا بِمَا تَحْفَظُ بِهِ عِبَادَكَ الصَّالِحِينَ
“ท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า เมื่อคนใดจากพวกท่านไปไปที่นอนของเขา ดังนั้นเขาก็จะสะบัดที่นอนด้วยชายผ้า เพราะเขาไม่รู้ว่าอะไรจากเกิดขึ้นกับเขาบนที่นอนหลังจากนั้น(เนื่องจากอาจจะมีสัตว์ร้ายหรือสิ่งที่สร้างความเดือนร้อน) หลังจากนั้นก็ให้เขากล่าวว่า บิสมิก้า ร็อบบี วะเฎาะอฺตู้ ญัมบี วะบิก้า อัรฟะอุฮู อินอัมซักต้า นัฟซี ฟัรหัมฮา วะอินอัรซัลต้าฮา ฟะห์ฟัซฺฮา บิมา ตะห์ฟะซุ้ บิฮี อิบาดะกัศศอลิหีน(ด้วยพระนามของพระองค์ โอ้ผู้อภิบาลของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ได้วางสีข้าง และด้วยกับพระองค์ ข้าพระองค์ยกสีข้างขึ้น(ด้วยการลุกขึ้นจากตื่นนอน) หากพระองค์ทรงยึดวิญญาณของข้าพระองค์ไว้ ดังนั้นพระองค์ก็โปรดทรงเมตตาด้วยเถิด และหากพระองค์ทรงปล่อยวิญญาณของข้าพระองค์(หวนกลับมา) ดังนั้นพระองค์โปรดทรงปกป้องคุ้มครองวิญญาณ(ให้พ้นจากการฝ่าฝืนและขัดคำสั่ง)เหมือนกับที่พระองค์ได้ทรงปกป้องคุ้มครองบรรดาปวงบ่าวของพระองค์ที่มีคุณธรรมด้วยเถิด)” รายงานโดยอัลบุคอรีย์และมุสลิม.
9. ท่านอัลบะรออฺ บิน อาซิบ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า
قَالَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ إِذَا أَتَيْتَ مَضْجَعَكَ فَتَوَضَّأْ وُضُوءَكَ لِلصَّلَاةِ ثُمَّ اضْطَجِعْ عَلَى شِقِّكَ الْأَيْمَنِ ثُمَّ قُلْ اللَّهُمَّ أَسْلَمْتُ وَجْهِي إِلَيْكَ وَفَوَّضْتُ أَمْرِي إِلَيْكَ وَأَلْجَأْتُ ظَهْرِي إِلَيْكَ رَغْبَةً وَرَهْبَةً إِلَيْكَ لَا مَلْجَأَ وَلَا مَنْجَا مِنْكَ إِلَّا إِلَيْكَ اللَّهُمَّ آمَنْتُ بِكِتَابِكَ الَّذِي أَنْزَلْتَ وَبِنَبِيِّكَ الَّذِي أَرْسَلْتَ فَإِنْ مُتَّ مِنْ لَيْلَتِكَ فَأَنْتَ عَلَى الْفِطْرَةِ وَاجْعَلْهُنَّ آخِرَ مَا تَتَكَلَّمُ بِهِ
“ท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า เมื่อท่านได้มายังที่นอนของท่าน ท่านก็จงอาบน้ำละหมาด หลังจากนั้นท่านจงเอนตัวลงนอนตะแคงขวา หลังจากนั้นท่านจงกล่าวว่า “อัลลอฮุ้มม่า อัสลัมตู้ วัจญฺฮีอิลัยก้า วะเฟาวัฎตู้อัมรีอิลัยก้า วะละญะอฺตู้ เซาะฮ์รีอิลัยก้า ร็อฆบะตันวะเราะฮ์บะตันอิลัยก้า ลามันญะอ้า วะลามันญา มิงก้า อิลลาอิลัยก้า อัลลอฮุ้มม่า อามันตู้ บิกิตาบิกัลลาซี อันซัลต้า วะบินะบียีกัลล่าซี อัรซัลต้า” ดังนั้นถ้าหากท่านตายในคืนของท่านนี้ ท่านก็จะตายบนความบริสุทธิ์(ศาสนาที่เที่ยงตรง)และท่านจงทำให้ถ้อยคำเหล่านี้เป็นสิ่งสุดท้ายที่ท่านได้พูด(ก่อนนอน)”รายงานโดยอัลบุคอรีย์และมุสลิม.