The Superiority of Fiqh Over Hadith
นักฟิกฮฺย่อมเหนือชั้นกว่านักหะดีษ
ภาษาอังกฤษโดย: ชัยคฺ ญิบรีล เอฟ ฮัดดัด (Shaykh Gibril F. Haddad)
ถอดความภาษาไทยโดย: โชคอนันต์ รักทรัพย์ [อัลมันญูวี่ยฺ]
พิสูจน์อักษรและออกแบบโดย: สุไลหมาน เกปัน [อัสสะตูลี่ยฺ]
วันที่: 13 ธันวาคม 2554
___________________________________________________________________________
บทนำ

{He gives wisdom to whomever He will, and whoever receives wisdom receives immense good} (2:269). "He for whom Allâh desires great good, He grants him (superlative) understanding in the Religion (yufaqqihhu/yufqihhu fî al-dîn). I only distribute and it is Allâh Who gives. That group shall remain in charge of the Order of Allâh, unharmed by those who oppose them, until the coming of the Order of Allâh."
Imâm al-Shâfi`î said: "You [the scholars of hadîth] are the pharmacists but we [the jurists] are the physicians." Mullâ `Alî al-Qârî commented: "The early scholars said: The hadîth scholar without knowledge of fiqh is like a seller of drugs who is no physician: he has them but he does not know what to do with them; and the fiqh scholar without knowledge of hadîth is like a physician without drugs: he knows what constitutes a remedy, but does not have it available."
Imâm Ahmad is related by his students Abû Tâlib and Humayd ibn Zanjûyah to say: "I never saw anyone adhere more to hadîth than al-Shâfi`î. No one preceded him in writing down hadîth in a book." The meaning of this is that al-Shâfi`î possessed the intelligence of hadîth after which Ahmad sought, as evidenced by the latter's statement: "How rare is fiqh among those who know hadîth!" This is a reference to the hadîth: "It may be one carries understanding (fiqh) - meaning: memorizes the proof-texts of fiqh - without being a person of understanding (faqîh)." The Salaf and Khalaf elucidated this rule in many famous statements showing that, for all the exalted status of the Muhaddith, yet the Faqîh excels him:
อัลลอฮฺตรัสว่า
"พระผู้เป็นเจ้าทรงประทานวิทยปัญญาแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และผู้ใดได้รับมันเขาจะได้รับความดีงามอย่างล้นหลาม" [อัลกุรฺอาน หมวด ๒: มาตรา ๒๖๙]
จากท่านมุอาวียะฮฺ เล่าว่า ท่านเราะซูล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า "ผู้ที่อัลลอฮฺทรงประสงค์จะให้เขาได้รับความดีงามอันยิ่งใหญ่ พระองค์จะให้เขาเข้าใจในศาสนาอย่างลึกซึ้ง ข้ามีหน้าที่เผยแผ่ และการให้นั้นเป็นของพระองค์ และไม่มีผู้ใดทำอันตรายต่อกลุ่มที่ยังยึดมั่นภาระหน้าที่ตามบัญชาของพระองค์จนกว่าพระบัญชาใช้ของพระองค์จะมาถึง" [บุคอรียฺและมุสลิม]
ท่านอิหม่ามอัชชาฟิอียฺ กล่าวว่า "พวกท่าน (ผู้เป็นนักหะดีษ) เปรียบเสมือนเภสัชกร แต่เรา (นักฟิกฮฺ) เปรียบเสมือนแพทย์ ท่านมุลลา อะลี อัลกอรี แสดงความเห็นว่า นักวิชาในยุคต้น ๆ นั้นกล่าวว่า นักหะดีษที่ไม่รู้และเข้าใจเรื่องฟิกฮฺเปรียบดุจดังคนขายยาที่ไม่ใช่หมอ เขามียา แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรกับมัน ส่วนนักฟิกฮิที่ไม่รู้และเข้าใจในเรื่องหะดีษเปรียบดุจดังหมอที่ไม่มียา ซึ่งรู้ว่าจะรักษาอย่างไร แต่ไม่มียาให้ใช้ในการรักษา" (อัลกอรี, มุตากอด อบี ฮานีฟาตา อัลอิหม่าม ฟี อบาวัย อัรรอซูล อลัยฮี อัซซอลาต วาอัซซาลาม, หน้า ๔๒)
ท่านอบูฏอลิบและท่านฮุมัยดฺ อิบนุ ซันจูญะฮฺ ซึ่งเป็นสานุศิษย์ของท่านอิหม่ามอะหฺมัดได้ถ่ายทอดคำกล่าวของท่านอิหม่ามอะหฺมัดว่า "ฉันไม่เคยเห็นใครจะแม่นยำเรื่องหะดีษมากไปกว่าท่านอิหม่ามชาฟีอียฺเลย ถ้าเรื่องการจดบันทึกหะดีษแล้วล่ะก็ ไม่มีใครเกินหน้าท่านอิหม่ามชาฟีอียฺเลย" แปลว่าท่านอิหม่ามชาฟิอียฺมีความเจนจัดในเรื่องหะดีษเป็นอย่างมากหลังจากที่ท่านอิหม่ามอะหฺมัดได้ร่ำเรียนกับท่าน ดังคำกล่าวที่ว่า "ประเสริฐอะไรเช่นนี้ สำหรับนักฟิกฮฺที่อยู่ท่ามกลางหมู่นักหะดีษ" ตรงกับหะดีษที่ว่า "ผู้ที่เข้าใจอย่างถ่องแท้" หมายถึง ท่องจำเรื่องราวหลักฐานจากตัวบทในเรื่องฟิกฮฺ เป็นหะดิษมัชฮูรฺ (มีสายรายงานอย่างท่วมท้น) ซึ่งบรรดาเศาะฮาบะฮฺหลายท่านได้เล่าสู่กันฟัง และท่านอัตติรฺมีซียฺ ท่านอบูดาวู๊ด ท่านอิบนุมาญะฮฺ และท่านอะหฺมัด บันทึกไว้ ซึ่งชาวสลัฟและคอลัฟได้ให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ว่า สถานะภาพของนักหะดีษนั้นประเสริฐยิ่ง แต่นักฟิกฮฺนั้นเหนือชั้นกว่า - วัลลอฮุอะอฺลัม
وَالسَّلَامُ عَلَيْكُمْ وَرَحْمَةُ اللهِ وَبَرَكَاتُهُ