ผู้เขียน หัวข้อ: นักฟิกฮฺ vs นักหะดีษ ใครเจ๋งกว่ากัน? [บทความแปล]  (อ่าน 3557 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anti-bid'ah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 839
  • ไม่รู้ อย่าเสือกชี้
  • Respect: +29
    • ดูรายละเอียด

The Superiority of Fiqh Over Hadith
นักฟิกฮฺย่อมเหนือชั้นกว่านักหะดีษ



ภาษาอังกฤษโดย: ชัยคฺ ญิบรีล เอฟ ฮัดดัด (Shaykh Gibril F. Haddad)

ถอดความภาษาไทยโดย: โชคอนันต์ รักทรัพย์

ณ ชายคาปอเนาะ

วันที่: 13 ธันวาคม 2554
___________________________________________________________________________

بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ
สารบัญ

0.  สารบัญ (นักฟิกฮฺย่อมเหนือชั้นกว่านักหะดีษ)
1.  บทนำ
2.  ใครไม่รู้เรื่องฟิกฮฺ  รู้แต่หะดีษ  ระวังจะหลงทาง
3.  ครั้นผู้รู้ด้านหะดีษยอมจำนนสิโรราบต่อผู้รู้ด้านฟิกฮฺ

มีทั้งหมด 9 เรื่อง  ก็จะทยอยแปลลงไปเรื่อย ๆ ครับ - อินชาอัลลอฮฺ.....[to be continued]

وَاللهُ أَعْلَمُ بِالصَّوَابِ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.พ. 05, 2012, 10:25 AM โดย anti-bid'ah »
رَبَّنَا فَاغْفِرْ لَنَا ذُنُوبَنَا وَكَفِّرْ عَنَّا سَيِّئَاتِنَا وَتَوَفَّنَا مَعَ الْأَبْرَارِ

ออฟไลน์ Muftee

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1899
  • เพศ: ชาย
  • ตั้งใจเข้าไว้นะ มุฟตีย์น้อย
  • Respect: +190
    • ดูรายละเอียด
เยี่ยมครับ
// อะฮฺลิสสุนนะฮฺ อัล-อะชาอิเราะฮฺ...สักวันนึง เราต้องเป็นอุละมาอฺที่ยิ่งใหญ่ อินชาอัลลอฮฺ //

ออฟไลน์ anti-bid'ah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 839
  • ไม่รู้ อย่าเสือกชี้
  • Respect: +29
    • ดูรายละเอียด
The Superiority of Fiqh Over Hadith
นักฟิกฮฺย่อมเหนือชั้นกว่านักหะดีษ

ภาษาอังกฤษโดย: ชัยคฺ ญิบรีล เอฟ ฮัดดัด (Shaykh Gibril F. Haddad)
ถอดความภาษาไทยโดย: โชคอนันต์ รักทรัพย์ [อัลมันญูวี่ยฺ]
พิสูจน์อักษรและออกแบบโดย: สุไลหมาน เกปัน [อัสสะตูลี่ยฺ]
วันที่: 13 ธันวาคม 2554
___________________________________________________________________________


บทนำ


{He gives wisdom to whomever He will, and whoever receives wisdom receives immense good} (2:269). "He for whom Allâh desires great good, He grants him (superlative) understanding in the Religion (yufaqqihhu/yufqihhu fî al-dîn). I only distribute and it is Allâh Who gives. That group shall remain in charge of the Order of Allâh, unharmed by those who oppose them, until the coming of the Order of Allâh."

Imâm al-Shâfi`î said: "You [the scholars of hadîth] are the pharmacists but we [the jurists] are the physicians." Mullâ `Alî al-Qârî commented: "The early scholars said: The hadîth scholar without knowledge of fiqh is like a seller of drugs who is no physician: he has them but he does not know what to do with them; and the fiqh scholar without knowledge of hadîth is like a physician without drugs: he knows what constitutes a remedy, but does not have it available."

Imâm Ahmad is related by his students Abû Tâlib and Humayd ibn Zanjûyah to say: "I never saw anyone adhere more to hadîth than al-Shâfi`î. No one preceded him in writing down hadîth in a book." The meaning of this is that al-Shâfi`î possessed the intelligence of hadîth after which Ahmad sought, as evidenced by the latter's statement: "How rare is fiqh among those who know hadîth!" This is a reference to the hadîth: "It may be one carries understanding (fiqh) - meaning: memorizes the proof-texts of fiqh - without being a person of understanding (faqîh)." The Salaf and Khalaf elucidated this rule in many famous statements showing that, for all the exalted status of the Muhaddith, yet the Faqîh excels him:

อัลลอฮฺตรัสว่า
"พระผู้เป็นเจ้าทรงประทานวิทยปัญญาแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์  และผู้ใดได้รับมันเขาจะได้รับความดีงามอย่างล้นหลาม"  [อัลกุรฺอาน หมวด ๒: มาตรา ๒๖๙]

จากท่านมุอาวียะฮฺ เล่าว่า ท่านเราะซูล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า  "ผู้ที่อัลลอฮฺทรงประสงค์จะให้เขาได้รับความดีงามอันยิ่งใหญ่  พระองค์จะให้เขาเข้าใจในศาสนาอย่างลึกซึ้ง  ข้ามีหน้าที่เผยแผ่  และการให้นั้นเป็นของพระองค์  และไม่มีผู้ใดทำอันตรายต่อกลุ่มที่ยังยึดมั่นภาระหน้าที่ตามบัญชาของพระองค์จนกว่าพระบัญชาใช้ของพระองค์จะมาถึง"  [บุคอรียฺและมุสลิม]

ท่านอิหม่ามอัชชาฟิอียฺ กล่าวว่า  "พวกท่าน (ผู้เป็นนักหะดีษ) เปรียบเสมือนเภสัชกร  แต่เรา (นักฟิกฮฺ) เปรียบเสมือนแพทย์  ท่านมุลลา อะลี อัลกอรี แสดงความเห็นว่า  นักวิชาในยุคต้น ๆ นั้นกล่าวว่า  นักหะดีษที่ไม่รู้และเข้าใจเรื่องฟิกฮฺเปรียบดุจดังคนขายยาที่ไม่ใช่หมอ  เขามียา  แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรกับมัน  ส่วนนักฟิกฮิที่ไม่รู้และเข้าใจในเรื่องหะดีษเปรียบดุจดังหมอที่ไม่มียา  ซึ่งรู้ว่าจะรักษาอย่างไร  แต่ไม่มียาให้ใช้ในการรักษา"  (อัลกอรี, มุตากอด อบี ฮานีฟาตา อัลอิหม่าม ฟี อบาวัย อัรรอซูล อลัยฮี อัซซอลาต วาอัซซาลาม, หน้า ๔๒)

ท่านอบูฏอลิบและท่านฮุมัยดฺ อิบนุ ซันจูญะฮฺ ซึ่งเป็นสานุศิษย์ของท่านอิหม่ามอะหฺมัดได้ถ่ายทอดคำกล่าวของท่านอิหม่ามอะหฺมัดว่า "ฉันไม่เคยเห็นใครจะแม่นยำเรื่องหะดีษมากไปกว่าท่านอิหม่ามชาฟีอียฺเลย  ถ้าเรื่องการจดบันทึกหะดีษแล้วล่ะก็  ไม่มีใครเกินหน้าท่านอิหม่ามชาฟีอียฺเลย"  แปลว่าท่านอิหม่ามชาฟิอียฺมีความเจนจัดในเรื่องหะดีษเป็นอย่างมากหลังจากที่ท่านอิหม่ามอะหฺมัดได้ร่ำเรียนกับท่าน  ดังคำกล่าวที่ว่า  "ประเสริฐอะไรเช่นนี้ สำหรับนักฟิกฮฺที่อยู่ท่ามกลางหมู่นักหะดีษ"  ตรงกับหะดีษที่ว่า  "ผู้ที่เข้าใจอย่างถ่องแท้"  หมายถึง ท่องจำเรื่องราวหลักฐานจากตัวบทในเรื่องฟิกฮฺ  เป็นหะดิษมัชฮูรฺ (มีสายรายงานอย่างท่วมท้น)  ซึ่งบรรดาเศาะฮาบะฮฺหลายท่านได้เล่าสู่กันฟัง  และท่านอัตติรฺมีซียฺ ท่านอบูดาวู๊ด ท่านอิบนุมาญะฮฺ และท่านอะหฺมัด บันทึกไว้  ซึ่งชาวสลัฟและคอลัฟได้ให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ว่า  สถานะภาพของนักหะดีษนั้นประเสริฐยิ่ง  แต่นักฟิกฮฺนั้นเหนือชั้นกว่า - วัลลอฮุอะอฺลัม


وَالسَّلَامُ عَلَيْكُمْ وَرَحْمَةُ اللهِ وَبَرَكَاتُهُ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 16, 2011, 07:33 AM โดย anti-bid'ah »
رَبَّنَا فَاغْفِرْ لَنَا ذُنُوبَنَا وَكَفِّرْ عَنَّا سَيِّئَاتِنَا وَتَوَفَّنَا مَعَ الْأَبْرَارِ

ออฟไลน์ nasir

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 24
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด

ออฟไลน์ anti-bid'ah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 839
  • ไม่รู้ อย่าเสือกชี้
  • Respect: +29
    • ดูรายละเอียด
Hadîth Misguides Those Devoid of Fiqh
ใครไม่รู้เรื่องฟิกฮฺ  รู้แต่หะดีษ  ระวังจะหลงทาง

Ibn Abî Zayd al-Mâlikî reports Sufyân ibn `Uyayna as saying: "Hadîth is a pitfall (madilla) except for the fuqahâ'," and Mâlik's companion `Abd Allâh ibn Wahb said: "Hadîth is a pitfall except for the Ulema. Every memorizer of hadîth that does not have an Imâm in fiqh is misguided (dâll), and if Allâh had not rescued us with Mâlik and al-Layth [ibn Sa`d], we would have been misguided." Ibn Abî Zayd comments: "He [Sufyân] means that other than the jurists might take something in its external meaning when, in fact, it is interpreted in the light of another hadîth or some evidence which remains hidden to him; or it may in fact consist in discarded evidence due to some other [abrogating] evidence. None can meet the responsibility of knowing this except those who deepened their learning and obtained fiqh."

Imâm al-Haytamî said something similar. Ibn Wahb is also reported to say: "I met three hundred and sixty learned people of knowledge but, without Mâlik and al-Layth, I would have strayed." Another versions states: "Were it not for Mâlik ibn Anas and al-Layth ibn Sa`d I would have perished; I used to think everything that is [authentically] related from the Prophet - Allâh bless and greet him - must be put into practice." Another version has: "I gathered a lot of hadîths and they drove me to confusion. I would consult Mâlik and al-Layth and they would say to me, 'take this and leave this.'" Ibn Wahb had compiled 120,000 narrations according to Ahmad ibn Sâlih.. Hence, Ibn `Uqda replied to a man who had asked him about a certain narration: "Keep such hadîths to a minimum for, truly, they are unsuitable except for those who know their interpretation. Yahyâ ibn Sulayman narrated from Ibn Wahb that he heard Mâlik say: 'Many of these hadîths are [a cause for] misguidance; some hadîths were narrated by me and I wish that for each of them I had been flogged with a stick twice. I certainly no longer narrate them!'" By his phrase, "Many of these hadîths are misguidance," Mâlik means their adducing them in the wrong place and meaning, because the Sunna is wisdom and wisdom is to place each thing in its right context.

Ibn al-Mubârak said: "If Allâh had not rescued me with Abû Hanîfa and Sufyân [al-Thawrî] I would have been like the rest of the common people." Al-Dhahabî relates it as: "I would have been an innovator."



อิบนุ อบี ซัยดฺ อัลมาลิกียฺ รายงานว่า ซุฟยาน อิบนุ อุยัยนา กล่าวในทำนองว่า “หะดีษ เป็นหลุมพลางสำหรับคนที่ไม่ใช่นักฟิกฮฺ”  และท่านอับดุลลอฮฺ อิบนุ วะฮฺบ์  ซึ่งเป็นสหายของท่านอิหม่ามมาลิก กล่าวว่า “หะดีษเป็นหลุมพรางแก่ผู้คนทั้งหลาย เว้นแต่อุละมาอ์”  นักท่องจำหะดีษทั้งหลายทั้งปวงที่ไม่ศึกษาผ่านผู้รู้ด้านฟิกฮฺอาจจะหลงทางได้  และหากอัลลอฮฺมิได้ทรงพระเมตตาต่อเราด้วยกับท่านอิหม่ามมาลิกและท่านอัลลัยษ์แล้วไซร้  แน่แท้เราหาได้อยู่บนแนวทางทีเที่ยงตรงไม่!  (ดู: อิบนุ อาบี ฮาติม ในบทนำของหนังสืออัลญะฮฺร์ วะอัลตะดีล, หน้า 22-23; และอิบนุ อบี ซัยด์ ในหนังสืออัลญามิอฺ ฟี อัลสุนัน, หน้า 118-119; และอิบนุ อับดุลบัร ในหนังสืออัลอินตีกออฺ, หน้า 61;  และอัลดะฮาบียฺ, และดูความคิดเห็นในประเด็นนี้ของชัยคฺ อับดุลฟัตตะฮฺ อบูคุดดา ในหนังสืออัรรอฟ วะอัตตัคมีล ของอัลลัคเนาวียฺ, พิมพ์ครั้งที่ 2, หน้า 368-369 และพิมพ์ครั้งที่ 3 หน้า 90-91)

ท่านอิบนุ อบี ซัยดฺ ให้ความเห็นว่า “เขา (ซุฟยาน) หมายความว่า ผู้ที่มิใช่นักนิติศาสตร์อิสลาม  อาจจะแปลความหมายตามตัวบทหะดีษแบบผิวเผิน  ทั้ง ๆ ในความเป็นจริงต้องนำหลาย ๆ หะดีษมาประกอบในการพิเคราะห์ พินิจพิจารณา หรือหะดีษที่ถูกยกเลิกเนื่องด้วยหลักฐานอื่น ๆ หามีผู้ใดที่จะมีคุณสมบัติครบถ้วนเช่นนี้  เว้นแต่ผู้ที่เข้าใจอย่างถ่องแท้ในเรื่องฟิกฮฺ”  ท่านอิหม่ามอัลฮัยตามีกล่าวในทำนองนี้เช่นกัน  (ดู: ในหนังสืออัลฟัตวา อัลอัลฮาดีซียา, หน้า 283)

มีรายว่าท่านอิบนุ วะฮฺบ์กล่าวว่า  “ฉันพบเจอผู้รู้ 360 คน แต่ถ้าฉันไม่พบเจอกับท่านอิหม่ามาลิกและท่านอัลลัยษ์  การออกนอกลู่นอกทางคงไม่รอดไปจากฉันเป็นแน่แท้”  (ดู: ท่านอิบนุ ฮิบบานได้รายงานไว้ในบทนำของหนังสืออัลมัจรูฮีน ซึ่งเขารายงานมาจาก อิบนุ วะฮฺบ์  ซึ่งมีสำนวนคล้ายคลึงกัน แต่เพิ่มชื่อของท่านอัมร์ อิบนุ อัลฮาริษ และท่านอิบนุ มาญิซฮูน)

อีกสำนวนหนึ่ง ความว่า “หากไม่มีท่านอิหม่ามมาลิกและท่านอัลลัยษ์  ฉันคงพินาศสิ้น  เพราะฉันเคยคิดว่าหะดีษของท่านเราะซูลสามารถนำมาใช้ได้เลย” (ดู: สายรายงานที่บันทึกโดยท่านอิบนุ อสากิร และท่านอัลบียฮากียฺ  ท่านอิบนุรอญับ และหนังสือชัรหฺ อัลอิลลาฮฺ, เล่ม 1, หน้า 413 และเอาวามา, หน้า 76)

บางสำนวน ความว่า “ฉันรวบรวมหะดีษไว้มากมาย  แต่หะดีษเหล่านั้นสร้างความสับสนให้กับฉัน  ฉันต้องปรึกษาหารือกับท่านอิหม่ามมาลิกและท่านอัลลัยษ์ และทั้ง 2 ท่านกล่าวแก่ฉันว่า  เอาหะดีษบทนี้ไว้ และเอาหะดีษบทนั้นทิ้งไป”  (ดู: รายงานโดยท่านกอฎี อียาด ในหนังสือตัรตีบอัลมาดาริก, เล่ม 2, หน้า 427)

ท่านอะหฺมัด อิบนุ ศอลิหฺ เล่าว่า  “ท่านอิบนุ วะฮฺบ์ รวบรวมหะดีษถึง 120,000 หะดีษ”  (ดู: อิบนุ อัสสุบกียฺ, ในหนังสือตาบากอต อัชชาฟีอียา อัลกุบรอ, เล่ม 2, หน้า 128)

ท่านอิบนุ อุกดา ตอบแก่ชายคนหนึ่งที่มาถามท่านเกี่ยวกับสายรายงานหะดีษว่า “เก็บหะดีษเหล่านี้ให้น้อยที่สุด  เพราะแม้จริงไม่มีผู้ใดที่จะเหมาะสมและรู้ดียิ่ง  นอกจากผู้ที่เจนจัดในการตีความและเข้าใจ”  ท่านยะหฺยา อิบนุ สุลัยมาน รายงานจากท่าน อิบนุ วะฮฺบ์ ว่า ตนได้ยินท่านอิหม่ามาลิกกล่าวว่า “หะดีษเหล่านี้อาจสร้างความฉิบหายให้แก่พวกท่าน  หะดีษบางบทฉันเป็นผู้บันทึก  ฉันหวังว่าหะดีษเหล่านี้ ซึ่งฉันได้ทำการโบยด้วยไม้ (ตรวจสอบ-ผู้แปล) 2 ครั้งแล้ว”  (บันทึกโดย อัลคอตีบ, ดู: อัลฟากีฮฺ วัลมุตาฟักกิฮฺ, เล่ม 2, หน้า 80)

จากสำนวนดังกล่าวที่ว่า “หะดีษเหล่านี้ อาจสร้างความฉิบหายแก่พวกท่าน”  ท่านอิหม่ามมาลิกหมายความว่า  “การที่พวกเขาอ้างหลักฐานผิดที่และผิดความหมาย  เพราะซุนนะฮฺเป็นวิทยปัญญาที่ต้องจัดวางให้เหมาะกับที่และเรื่องของมัน”  (ดู: ชัยคฺ อิสมาอีล อัลอันศอรียฺ ดังที่อ้างในหนังสือเอาวามา, อซาร, หน้า 77)

ท่านอิบนุ อัลมุบารอก กล่าวว่า “หากอัลลอฮฺไม่ทรงช่วยฉันด้วยกับท่านอบูฮานีฟะฮฺและท่านซุฟยาน (อัษเษารียฺ)แล้วล่ะก็  ฉันคงจะไม่แตกต่างกับคนทั่ว ๆ ไปเลย” ท่านอัซซาฮาบียฺ เล่าในสำนวนว่า “ฉันคงจะเป็นผู้ทำอุตริกรรมเป็นแน่แท้”  (ดู: อิบนุ หะญัร ในหนังสือตะฮฺดีบ อัลตะฮฺซีบ, เล่ม 10, หน้า 449-452; และในหนังสือมะนากิบ อบี ฮานีฟา ของท่านอัลซะฮาบียฺ) - วัลลอฮุอะอฺลัม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 16, 2011, 07:06 AM โดย anti-bid'ah »
رَبَّنَا فَاغْفِرْ لَنَا ذُنُوبَنَا وَكَفِّرْ عَنَّا سَيِّئَاتِنَا وَتَوَفَّنَا مَعَ الْأَبْرَارِ

ออฟไลน์ anti-bid'ah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 839
  • ไม่รู้ อย่าเสือกชี้
  • Respect: +29
    • ดูรายละเอียด
The Imâms of H.adîth Defer to the Imâms of Fiqh
ครั้นผู้รู้ด้านหะดีษยอมจำนนสิโรราบต่อผู้รู้ด้านฟิกฮฺ



Imâm Ah.mad's teacher, Yah.yâ ibn Sa`îd al-Qat.t.ân, despite his foremost status as the Master of h.adîth Masters and expert in narrator-recommendation and discreditation, would not venture to extract legal rulings from the evidence but followed in this the fiqh of Abû H.anîfa as he explicitly declared: "We do not belie Allâh. We never heard better than the juridical opinion (ra'î) of Abû H.anîfa, and we followed most of his positions."

Similarly, Muh.ammad ibn `Abd Allâh ibn `Abd al-H.akam said: "If it were not for al-Shâfi`î I would not have known how to reply to anyone. Because of him I know what I know." As for Muh.ammad ibn Yah.yâ al-Dhuhlî (d. 258) of Khurâsân, whom Abû Zur`a ranked above Imâm Muslim and who is considered an Amîr al-Mu'minîn fî al-H.adîth ("Commander of the Faithful in the Science of H.adîth"), he never considered himself a non-muqallid but said: "I have made Ah.mad ibn H.anbal an Imâm in all that stands between me and my Lord." Mis`ar ibn Kidâm said the same with regard to Imâm Abû H.anîfa.


ท่านยะหฺยา อิบนุ ซะอีด อัลกอตตาน ซึ่งเป็นอาจารย์ของท่านอิหม่ามอะหฺมัดเป็นเป็นผู้ที่ความเจนจัดในการวิเคราะห์สายรายงานเป็นอย่างยิ่งจน  ถูกขนานนามว่าเป็นปรมาจารย์ของนักปราชญ์ด้านหะดีษ  แต่กระนั้นท่านมิได้ทำการวินิจฉัยหลักฮุก่ม  ในทางตรงกันข้างท่านเจริญรอยตามแนวทางของท่านอิหม่ามอบูหะนีฟะฮฺในด้านฟิกฮฺ  ดังที่ตัวท่านเองได้กล่าวว่า “เรามิได้ถูกชักจูงให้เข้าใจต่ออัลลอฮฺอย่างผิด ๆ และเรามิเคยทราบเลยว่าการวินิจฉัยปัญหาทางศาสนาจะดีไปกว่าการวินิจฉัยของท่านอิหม่ามอบูหะนีฟะฮฺ และเราก็เจริญรอยตามคำวินิจฉัยของท่านโดยส่วนใหญ่”  (ดู: บันทึกโดยท่านอัซซาฮาบีย์, ในหนังสือตัซคีรอต อัลฮุฟฟัต, เล่ม 1, หน้า 307, และท่านอิบนุ หะญัร, ในหนังสือตะฮฺซีบ อัลตะฮฺซีบ, เล่ม 10, หน้า 450)

ในทำนองเดียวกัน ท่านมุฮัมมัด อิบนุ อับดุลลอฮฺ อิบนุ อับดุลฮากัม กล่าวว่า “ถ้าไม่มีอิหม่ามอัชชาฟีอียฺแล้วไซร้ ฉันไม่รู้จะตอบต่อคนอื่นเยี่ยงใด เพราะท่านอิหม่ามอัชชาฟีอียฺนี้เอง ฉันจึงได้ทราบในสิ่งที่ฉันทราบจนบัดนี้”  (ดู: บันทึกโดยอิบนุ อับดุลบัร, ในหนังสืออัลอินติกออฺ, หน้า 124)

เกี่ยวกับเรื่องของท่านมุฮัมมัด อิบนุ ยะหฺยา อัซซุฮฺลียฺ (เสียชีวิตในปี 258) จากเมืองคุรอซาน ซึ่งท่านเป็นบุคคลที่ท่านอบูซูรฺอาจัดให้เป็นผู้มีความช่ำชองด้านหะดีษเหนือกว่าท่านอิหม่ามมุสลิม และท่านยังถูกขนานนามว่า อามีรฺ อัลมุมินีน ฟี อัลหะดีษ (ผู้นำแห่งศรัทธาชนด้านหะดีษ)  เขามิเคยคิดว่าตนเองอยู่ในระดับของผู้ที่ไม่ตามมัซฮับ (กล่าวคือยังคิดว่าตนเองยังต้องตามมัซฮับ-ผู้แปล)  แต่ท่านกล่าวว่า “ท่านอิหม่ามอะหฺมัดเป็นบุคคลที่อยู่กึ่งกลางระหว่างฉันกับอัลลอฮฺ (ฉันเรียนรู้เรื่องศาสนาผ่านท่านอิหม่ามอะหฺมัด-ผู้แปล)”  (ดู: บันทึกโดยท่านอัซซาฮาบียฺ, ในหนังสือซิยารฺ, เล่ม 10, หน้า 205)

ท่านมิสอารฺ อิบนุ คิดาม กล่าวในทำนองเดียวกันนี้เกี่ยวกับท่านอิหม่ามอบูหะนีฟะฮฺ  (ดู: อิบนุ อบี อัลวาฟา, หน้าสุดท้ายฉบับที่แก้ไขจากเมืองจาราจี อัลจาวาฮีร อัลมุดียะฮฺ) - วัลลอฮุอะอฺลัม.....[to be continued]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 18, 2011, 02:25 PM โดย anti-bid'ah »
رَبَّنَا فَاغْفِرْ لَنَا ذُنُوبَنَا وَكَفِّرْ عَنَّا سَيِّئَاتِنَا وَتَوَفَّنَا مَعَ الْأَبْرَارِ

ออฟไลน์ supportsunnah

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 102
  • Respect: +10
    • ดูรายละเอียด


 :salam:  เรื่องนี้เป็นประเด็นด้านศาสนา เพราะฉะนั้นขอให้ทุกท่านที่อ่านบทความแปลนี้ ตรวจทาน

และจับผิดกันไปในตัวได้เลยครับ  เพราะผู้แปลฝากบอกมา

ออฟไลน์ hiddenmin

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2453
  • เพศ: ชาย
  • 404 not found
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
    • Ikhlas Studio
อ่านผ่านๆ ช่วงนี้วุ่นๆ

จาก
อ้างถึง
แต่ท่านก็มิได้ยกย่องตนเองอยู่ในระดับมุกอลลิด
he never considered himself a non-muqallid

เข้าใจว่า non-muqallid (ไม่ใช่มุกอลลิด) ก็คือมุจญตะฮิด

ออฟไลน์ anti-bid'ah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 839
  • ไม่รู้ อย่าเสือกชี้
  • Respect: +29
    • ดูรายละเอียด
อ่านผ่านๆ ช่วงนี้วุ่นๆ

จาก
อ้างถึง
แต่ท่านก็มิได้ยกย่องตนเองอยู่ในระดับมุกอลลิด
he never considered himself a non-muqallid

เข้าใจว่า non-muqallid (ไม่ใช่มุกอลลิด) ก็คือมุจญตะฮิด

ใช่ครับ  คำว่ามุกอลลิด หมายถึง บุคคลที่ตาม ๑ ใน ๔ มัซฮับ พูดง่ายๆคือผู้ตามมัซฮับนั่นเอง

ส่วนคำว่า ฆัยร์ มุกอลลิด หมายถึง บุคคลที่ไม่ตามมัซฮับ

ดังนั้น ด้านบทแปลว่า  เขามิเคยคิดว่าตนเองอยู่ในระดับของผู้ที่ไม่ตามมัซฮํบ (กล่าวคือยังคิดว่าตนเองยังต้องตามมัซฮํบ) ขอบคุณที่ช่วยตรวจทาน
رَبَّنَا فَاغْفِرْ لَنَا ذُنُوبَنَا وَكَفِّرْ عَنَّا سَيِّئَاتِنَا وَتَوَفَّنَا مَعَ الْأَبْرَارِ

 

GoogleTagged