بسم الله الرحمن الرحيم
الحمد لله رب العالمين و الصلاة والسلام على سيدنا محمد وعلي اله وصحبه أجمعين
การเล่าเรื่องราว( قصة )ของบรรดาผู้มีคุณธรรมนั้น เพื่อเป็นอุทาหรณ์และคติเตือนใจ ( موعظة ) ไม่เป็นสิ่งที่ต้องห้ามในศาสนา เช่นหนังสือ (กิตาบอัตเตาวาบีน) كتاب التوابين ของท่านอิมาม อิบนุ กุดามะฮ์ , หนังสือ (กิตาบอัตเตาวาบีน) كتاب التوابين ของท่าน อิมามอิบนุ อัลเญาซีย์ ได้เล่าเรื่องราวต่าง ๆ จากการเตาบะฮ์ของผู้มีคุณธรรมเพื่อมีเป็นคติเตือนใจ , หนังสือ (บุสตานุอาริฟีน) بستان العارفين ของท่านอิมาม อันนะวาวีย์ ก็มีเรื่องเล่าของปราชญ์ซูฟีย์ผู้มีคุณธรรม เพื่อเป็นคติและแบบอย่างในการมุ่งทำอิบาดะฮ์และมุ่งบำบัดจิตใจโดยกลับไปสู่อัลเลาะฮ์ ตะอาลา , หนังสือ (ตัซกิเราะฮ์ อัลเมาตา) تذكرة الموتى ของท่าน อิมามอัลกุรฏุบีย์ ก็มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวความตาย เพื่อเป็นคติเตือนใจ โดยไม่มีนักปราชญ์แห่งโลกอิสลามท่านใดให้การตำหนิและโจมตีบรรดาหนังสือดังกล่าวเหล่านั้น
แต่ในทางตรงกันข้าม หากเราได้อ่านและศึกษาหนังสือ (อิจญฺมาอ์ อัลญุยูช อัลอิสลามียะฮ์) إجتماع الجيوش الإسلامية ของท่านอิบนุก๊อยยิม ที่พยายามกล่าวยืนยันเรื่อง อะกีดะฮ์ที่ว่า "อัลเลาะฮ์ทรงนั่งอยู่บนบัลลังก์" โดยหนังสือเล่มดังกล่าว มีหะดิษเมาฏั๊วะ(หะดิษกุ)มากมาย มีการอ้างสนับสนุนทัศนะของอุลามาอ์โดยมีสายรายงานที่ฏออีฟและเมาฏั๊วะมากมายเช่นกันในการยืนยันหลักอะกีดะฮ์ความเชื่อดังกล่าว แต่ทำไมผู้รู้วะฮาบีย์เมืองไทยบางท่านนำตำราดังกล่าวมาอ้าง โดยสนับสนุนการโจมตีหนังสือที่มีเรื่องเล่าของปราชญ์ผู้มีคุณธรรมเพื่อเป็นอุทาหรณ์และคติเตือนใจ
والله أعلى وأعلم