ผู้เขียน หัวข้อ: วาทะนูรแห่งปราชญ์โอสถสมานหัวใจและข้อความเก็บตกจากเฟสบุค  (อ่าน 3481 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com

วาทะนูรโอสถสมานหัวใจ

ส่วนหนึ่งจากวาทะอันทรงคุณค่าของปวงปราชญ์วะลียุลลอฮ์ที่กระผมได้เคยนำเสนอในเฟส คมวาทะของเหล่านักปราชญ์อันทรงคุณค่า ที่เอามาจากคำสอนของอัลกุรอานและซุนนะฮ์ ซึ่งผมอยากให้พี่น้องในเว็บไซต์แห่งนี้ได้อ่านกันครับ

• ท่านชัยคุลอิสลาม อัชชัรกอวีย์ ได้กล่าวว่า "เมื่อหัวใจมีนูร(รัสมี) คำพูดที่กลั่นออกมาจากหัวใจ ก็จะถูกห่อหุ้มไปด้วยนูร  ฟังแล้วรื่นหู  บรรดาหัวใจต่างน้อมรับ  ดังนั้นบรรดาคำพูดของวะลียุลลอฮ์ จะปรากฏออกมาโดยถูกสวมด้วยอาภรณ์แห่งบรรดานูร แล้วปิดล็อกของบรรดาหัวใจก็จะถูกเปิด" ชัรห์ฮิกัมอิบนุอะฎออิลลาฮ์ 2/17

ดังนั้นคมวาทะของเหล่าปราชญ์ในเฟส คมวาทะของเหล่านักปราชญ์อันทรงคุณค่า แห่งนี้ คือนูรที่อัลเลาะฮ์ทำให้เป็นโอสถขนานหนึ่งที่คอยเยียวหาหัวใจของผู้คนทั้งหลายอย่างแท้จริง


• ท่านอิหม่ามอิบรอฮีม อัตตัยมีย์ กล่าวว่า “เพียงพอสำหรับความรู้ การที่มีความเกรงกลัว และเพียงพอสำหรับความโง่เขลา ผู้ที่รู้สึกว่าตนเองมีไม่มีความบกพร่องในการปฏิบัติอะมัลอิบาดะฮ์”

เพราะการรู้สึกว่าตนเองบกพร่องในการอิบาดะฮ์ต่ออัลเลาะฮ์เป็นคุณลักษณะของผู้ที่มีความนอบน้อมถ่อมตน แต่สำหรับผู้ที่ทำอิบาดะฮ์แล้วรู้สึกว่าตนเองทำสมบูรณ์ ไม่บกพร่องเลย ถือว่าเป็นลำพองตนหรืออุญุบนั่นเอง

• ท่านอิบนุมัดยัน ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า “ผู้ใดที่ได้ยิน(ร่ำเรียน)วิชาความรู้เพื่อนำความรู้ไปสอนผู้คนทั้งหลาย อัลเลาะฮ์ก็จะให้เขามีความเข้าใจเพื่อนำความรู้ไปสอนพวกเขา และผู้ใดร่ำเรียนวิชาความรู้เพื่อนำไปปฏิบัติ(เพื่อเข้าหา)อัลเลาะฮ์ พระองค์ก็จะให้เขามีความเข้าใจที่ทำให้เขารู้จักพระองค์ด้วยความรู้นั้น” ฮิกัมอะบีมัดยัน หน้า 35.

ก่อนศึกษาหรือรำเรียนวิชาความรู้ ต้องตั้งใจให้ดี เพราะ “ให้กับทุกๆ คนนั้น สิ่งที่เขาได้ตั้งใจไว้” รายงานโดยอัลบุคอรีย์. ดังนั้นหากศึกษาวิชาความรู้เพื่อสอนคนอื่น ก็จะได้สอนคนอื่น แต่หากศึกษาความรู้เพื่อเข้าหาและผูกพันกับอัลเลาะฮ์ เขาก็จะได้รู้จักอัลเลาะฮ์และแถมได้สอนผู้อื่นด้วย

• “ชีวิตของเราประหนึ่งนาวาที่กำลังเดินไปสู่เป้าหมาย การฝ่าฝืนอัลเลาะฮ์คือการเจาะเรือให้รั่ว ดังนั้นหากเราชอบฝ่าฝืน ก็จะทำให้นาวาแห่งชีวิตล่มจมไม่ถึงสู่เป้าหมาย” วาทะอิบนุอะบีญัมเราะฮ์

ดังนั้นอย่าให้นาวาชีวิตของเราล่มจมอยู่ในทะเลแห่งอารมณ์ใฝ่ต่ำ

• ท่านอิบนุมุบาร็อก ปราชญ์สะลัฟได้กล่าว ถ้อยคำที่ฝืนความรู้สึกของผู้อ่านอย่างมากมาย ว่า “เมื่อบุรุษคนหนึ่งรู้ถึงฐานะของตนเอง แน่นอน ณ จิตใจของเขาก็จะรู้สึกกลายเป็นผู้ที่ต่ำต้อยยิ่งกว่าสุนัข”

ท่านอิบนุมุบาร็อก มีความรู้สึกว่าตนเองนั้นต่ำต้อยอย่างมาก ไม่รู้สึกว่าตนเองดีไปกว่าคนอื่นเลย เนื่องจากท่านรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของอัลเลาะฮ์ที่เหลือล้น  จึงเป็นผลสะท้านความรู้สึกว่าตนเองถึงความเป็นบ่าวที่ต่ำต้อยยิ่งเพิ่มทวีคูณอย่างเหลือล้นเช่นกัน  และอย่างน้อยมนุษย์เคยทำบาป แต่สุนัขไม่เคยถูกบันทึกบาป

ดังนั้นคนที่รู้สึกว่าตนเองดีกว่าคนอื่น แสดงว่าหัวใจของเขาไม่รู้จัก(มะริฟะฮ์)ว่าพระองค์ยิ่งใหญ่ ดังนั้นหัวใจใดที่รู้จักและรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของอัลเลาะฮ์แค่ใหน  ความรู้สึกว่าตนเองต่ำต้อย ก็จะสะท้อนกลับไปยังหัวใจของเขามากยิ่งขึ้นเท่านั้น

เพราะฉะนั้นการมีความสุขในยามที่รู้สึกว่าตนเองต่ำต้อย  ย่อมมีความสุขนานกว่าความรู้สึกว่าตนเองดี  เพราะหากผู้ใดพยายามดูหมิ่นและลดเกียรติเราให้ต่ำ  เราก็ยังมีความสุขเพราะเรารู้สึกต่ำต้อยอยู่แล้ว  แต่ถ้าหากรู้สึกว่าตนเองดี  เมื่อมีคนอื่นดูหมิ่นและลดเกียรติ  เราก็จะรู้สึกมีความทุกข์

• “ผู้ที่ขาดความสุขในการซิกรุลลอฮ์และขาดการคะนึงหาต่อพระองค์นั้น เขาคือผู้ที่ขาดความรักต่ออัลเลาะฮ์” ฮิกัมของท่าอิหม่ามอะบีมัดยัน.

ผู้คนส่วนมากแสดงความรักต่ออัลเลาะฮ์ที่คำพูด แต่หัวใจนั้นขาดความรักต่อพระองค์ เนื่องจากเขาไม่รู้สึกมีความสุขในการอิบาดะฮ์และซิกรุลลอฮ์ และไม่รู้สึกถวิลหาอยากที่จะไปพบกับพระองค์ แต่เขาอยากมีชีวิตอยู่ไม่อยากตายจากโลกนี้

ดังนั้นบางทีเรารู้สึกละอายที่จะบอกว่า “ฉันรักอัลเลาะฮ์”

• “ความรู้ไม่ใช่รายงาน(ฮะดีษและคำพูดของอุลามาอฺ)มากๆ แต่ความรู้คือนูรรัศมีที่ถูกบรรจุไว้ในหัวใจ” วาทะอิหม่ามมาลิก

แสดงว่าคนเราจะศึกษาความรู้นั้น อย่าลืมความรู้ที่แท้จริงที่เป็นนูร คือความรู้ที่ฉายหัวใจให้เห็นทางเข้าหาความพึงพอพระทัยต่ออัลเลาะฮ์และผูกพันกับพระองค์

• “ผู้ใดรู้จักตัวเอง เขาจะไม่หลงคำสรรญเสริญของมนุษย์” ฮิกัมอะบีมัดยัน.

เพราะมนุษย์ได้สรรญเสริญเยินยอท่าน เพราะมีสิ่งหนึ่งที่พวกเขาคิดมีดีในตัวท่าน แต่ท่านรู้อย่างมั่นใจว่าท่านมีข้อตำหนิมากมายที่พวกเขาไม่รู้และไม่เห็น

• “ท่านอย่าคิดว่าผู้คนทั่วไปขาดวิชาความรู้ แต่พวกเขาขาดเตาฟีกมากว่าขาดความรู้” วาทะอิบนุฏออิลลาฮ์

หมายถึง ผู้คนทั้งหลายศึกษาวิชาความรู้เพื่อมาประดับสมองและสติปัญญา มีความรู้เพื่อก้าวหน้ากว่าผู้อื่น หาความรู้เพื่อนำไปโต้เถียง ต้องการผู้อื่นยอมรับชมเชย นับหน้าถือตา และนำความรู้ไปเป็นเครื่องมือในการกอบโกยทรัพย์สินเงินทอง  แต่ผู้คนส่วนมากขาดความรู้ที่มีเตาฟีกทำให้หัวใจผูกพันอยู่กับอัลเลาะฮ์ ทำให้มีความรู้สึกหวานชื่นและมีความสุขในการทำอิบาดะฮ์

ดังนั้นโปรดระวังความรู้เรื่องคิลาฟ  เพราะความรู้เรื่องคิลาฟที่มีเตาฟีกนั้น รู้เพื่อนำมาปฏิบัติและทำให้หัวใจยืดหยุ่นกับมุมมองอิจญฺฮาดต่างๆ ส่วนการศึกษาเรียนรู้เรื่องคิลาฟที่ขาดเตาฟีก จะทำให้หัวใจดุดันดั่งสัตว์เดรฉาน  ท้าชนท้าดีเบทเพื่อเอาชนะ  รู้สึกตะกั๊บบุรลำพองตน  รู้สึกว่าสัจธรรมอยู่ที่ตนเองเท่านั้น  รู้สึกโอ้อวด   แสดงมารยาทที่ไม่ดีออกมา  แม้จะมีความรู้มากแค่ใหน  ก็ถือว่าขาดเตาฟีกจากอัลเลาะฮ์

• อิหม่ามอัชชาฟิอีย์กล่าวว่า "จะไม่รู้จักการริยาอฺ(โอ้อวด)นอกจากบรรดาผู้ที่มีความอิคลาศเท่านั้น" อัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบรอ 1/95.

เพราะคนที่ชอบแสดงพฤติกรรมโอ้อวดหลุดมาบ่อยๆ ต่อหน้าสาธารณะ เนื่องจากเขาพูดคำว่า “อิคลาศ” เป็น แต่ไม่รู้เนื้อแท้ว่า "อิคลาศ" คืออะไร ก็เลยริยาอฺต่อไปโดยคิดว่าตนเองอิคลาศ
 
• ท่านอิหม่ามญุนัยด์ อัลบัฆดาดีย์กล่าวว่า "การลืมอัลเลาะฮ์ทรมารยิ่งกว่าเข้าสู่ไฟนรก" อัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบรอ หน้า 1/154.

บางทีเรารู้จักคนรักของเรามากกว่ารู้จักอัลเลาะฮ์   ก็เลยรักคนรักมากกว่าในด้านความรู้สึก  แต่รักอัลเลาะฮ์มากกว่าในด้านคำพูด  คือถ้าหากถามว่า  ระหว่างอัลเลาะฮ์กับคนรักนั้น  ท่านจะรับใครมากกว่า  ทุกคนต้องพูดว่า  รักอัลเลาะฮ์มากกว่า 

• ท่านซุนนูน อัลมิสรีย์ ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ กล่าวว่า "เครื่องหมายหนึ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงพิโรธบ่าวนั้น คือเขารู้สึกกลัวจน" อัฏเฏาะบะก็อต 1/130.

• ส่วนหนึ่งจากคำพูดของท่านอุวัยส์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ “แท้จริงการทำลายภูเขาด้วยเข็มยังง่ายกว่าการนำความยะโส (ตะกั๊บบุรคิดว่าตนเองดีกว่าคนอื่น) ออกจากบรรดาหัวใจ”

• "หรือท่านจะปรับปรุงภายนอกของท่านให้ดีและทำลายภายในจิตใจของท่าน ดังนั้นอุปมาตัวท่านเสมือนกับผู้ที่เป็นโรคเรื้อนที่สวมใส่เสื้อตัวใหม่ แล้วน้ำเหลืองน้ำหนองที่อยู่ข้างในก็จะไหลออกจากเสื้อนั้น เพราะฉะนั้นท่านจะปรับปรุงสิ่งที่มนุษย์เห็นโดยไม่ปรับปรุงหัวใจของท่านที่อัลเลาะฮ์ทรงเห็นเป็นพิเศษดอกหรือ?" วาทะท่านอิบนุอะฎออิลลาฮ์

• ท่านอะบูอุษมาน อันนัยซาบูรีย์ กล่าวว่า "การเกรงกลัวต่ออัลเลาะฮ์ทำให้ไปถึง(ความพึงพอพระของ)อัลเลาะฮ์ และการตะกั๊บบุร(คิดว่าตนเองดีกว่าคนอื่น)และอุญูบ(ลำพองตน)ทำให้ตัดขาดจากอัลเลาะฮ์" อิหม่ามอัชชะอฺรอนีย์, อัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบอรีย์, 1/158.

คำพูดตามทัศนะของปราชญ์ตะเซาวุฟนั้น ในมะตั่นอัลอะญัรรูมียะฮ์ ได้กล่าวว่า

اَلْكَلاَمُ هُوَ اللَفْظُ الْمُرَكَّبُ الْمُفِيْدُ بِالْوَضْعِ

“คำพูด คือถ้อยคำ(พูด)ที่ถูกประกอบขึ้น(จากหัวใจและลิ้น) อีกทั้งมีประโยชน์(แก่ผู้ฟัง) โดยถูกวาง(ลงบนหัวใจของเขา)”

กล่าวคือคำพูดตามทัศนะของปราชญ์ตะเซาวุฟนั้น คือ “คำพูดที่มีประโยชน์แก่ผู้ฟัง โดยคำพูดนั้นต้องมาจากหัวใจที่มีอัลเลาะฮ์และพูดผ่านทางลิ้นออกมาให้ผู้อื่นได้รับฟัง แล้วคำพูดนี้ก็จะถูกวางลงบนหัวใจของผู้ที่รับฟังเพื่อให้เข้าหาอัลเลาะฮ์นั่นเอง” ดังนั้นเราลองพิจารณาตัวเราว่า เคยพูดสิ่งที่มีประโยชน์เช่นนี้ ให้แก่พี่น้องเราบ้างไหม เพราะมันเป็นคำพูดที่มีคุณมากกว่าทองและเงิน คือการพูดให้หัวใจรำลึกถึงอัลเลาะฮ์

• “คนที่มีหัวใจตะกั๊บบุรเหมือนกับยอดภูเขา สวนคนที่มีหัวใจนอบน้อมถ่อมตนเปรียบเสมือนกับที่ราบลุ่ม ดังนั้นหากฝนเปรียบดั่งเราะห์มะฮ์ของอัลเลาะฮ์ แน่นอนว่าฝนที่ตกลงมาจะไม่อยู่บนยอดเขาแต่จะลงมาขังอยู่ที่ราบลุ่ม” วาทะท่านอิบนุอะฏออิลลาฮ์

• ท่านอิบนุอะฏออฺ ได้กล่าวว่า “ภายในจิตใจนั้น เป็นสิ่งสถานที่มองของอัลเลาะฮ์ ส่วนภายนอกนั้นเป็นสถานที่มองของผู้คนทั้งหลาย ดังนั้นสถานที่ที่อัลเลาะฮ์ทรงมองนั้นสมควรทำให้สะอาดยิ่งกว่าสถานที่มองของผู้คนทั้งหลาย” ฟะรีดุดดีน อัลอัฏฏ็อร, ตัซกิร่อตุลเอาลิยาอฺ หน้า 493.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 22, 2011, 12:52 PM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: วาทะนูรแห่งปราชญ์โอสถสมานหัวใจ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธ.ค. 04, 2011, 09:53 AM »
0
วาทะนูรโอสถสมานหัวใจ

ส่วนหนึ่งจากวาทะอันทรงคุณค่าของปวงปราชญ์วะลียุลลอฮ์ที่กระผมได้เคยนำเสนอในเฟส คมวาทะของเหล่านักปราชญ์อันทรงคุณค่า ที่เอามาจากคำสอนของอัลกุรอานและซุนนะฮ์ ซึ่งผมอยากให้พี่น้องในเว็บไซต์แห่งนี้ได้อ่านกันครับ

หากพี่น้องต้องการทราบวาทะนูรของปราชญ์มากกว่านี้  ก็อย่างลืมเข้าไปเยี่ยมหรือเป็นสมาชิกของเฟสดังกล่าวนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 04, 2011, 10:09 AM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ Andalus

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1131
  • เพศ: ชาย
  • บ่าวผู้ต่ำต้อย
  • Respect: +27
    • ดูรายละเอียด
Re: วาทะนูรแห่งปราชญ์โอสถสมานหัวใจ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธ.ค. 04, 2011, 09:55 AM »
0
วาทะนูรโอสถสมานหัวใจ

ส่วนหนึ่งจากวาทะอันทรงคุณค่าของปวงปราชญ์วะลียุลลอฮ์ที่กระผมได้เคยนำเสนอในเฟส ความวาทะของเหล่านักปราชญ์อันทรงคุณค่า ที่เอามาจากคำสอนของอัลกุรอานและซุนนะฮ์ ซึ่งผมอยากให้พี่น้องในเว็บไซต์แห่งนี้ได้อ่านกันครับ
คมวาทะ
"โอ้ อัลลอฮฺ ผู้ทรงทำให้จิตใจเปลี่ยนแปลงได้ ขอพระองค์ทรงให้หัวใจของฉันแน่นแฟ้นอยู่บนศาสนา(อิสลาม)ของพระองค์ด้วยเถิด "

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: วาทะนูรแห่งปราชญ์โอสถสมานหัวใจ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธ.ค. 05, 2011, 12:49 PM »
0


•"ผู้ใดต้องการอาคิเราะฮ์ จำเป็นบนเขาต้องสมถะจากดุนยา และผู้ใดต้องการอัลเลาะฮ์ จำเป็นบนต้องสมถะจากอาคิเราะฮ์" วาทะซัยยิดีเชคอับดุลกอดิร อัลญีลานีย์.

 กล่าวคือ ผู้ใดต้องการอาคิเราะฮ์ เขาจำเป็นต้องมีจิตใจที่ไม่หมกมุ่นและลุ่มหลงกับเรื่องดุนยา และผู้ใดต้องการอัลเลาะฮ์ เขาจะไม่อิบาดะฮ์เพราะจิตใจอยากได้สวรรค์ในอาคิเราะฮ์ แล้วเขาก็จะได้ผู้เป็นเจ้าของโลกดุนยา เจ้าของสวรรค์ อินชาอัลเลาะฮ์

• ท่านอะบูลหะซัน อัชชาซุลลีย์ กล่าวว่า

مَنْ لَمْ يَتَغَلْغَلْ فِيْ عِلْمِنَا هَذَا مَاتَ مُصِرّاً عَلَى الْكَبَائِرِ وَهُوَ لاَ يَشْعُرُ

“ผู้ใดไม่เข้าไปอยู่ในวิชาของเรานี้ (คือวิชาตะเซาวุฟ) เขาจะตายโดยยังคงมีบรรดาบาปใหญ่โดยไม่รู้ตัว” อิบนุอะญีบะฮ์, อีกอซุลฮิม ฟีชัรหฺ อัลหิกัม หน้า 7.
.

أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: วาทะนูรแห่งปราชญ์โอสถสมานหัวใจ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ธ.ค. 06, 2011, 08:33 AM »
0

• ท่านอะบูลหะซัน อัชชาซุลลีย์ กล่าวว่า

مَنْ لَمْ يَتَغَلْغَلْ فِيْ عِلْمِنَا هَذَا مَاتَ مُصِرّاً عَلَى الْكَبَائِرِ وَهُوَ لاَ يَشْعُرُ

“ผู้ใดไม่เข้าไปอยู่ในวิชาของเรานี้ (คือวิชาตะเซาวุฟ) เขาจะตายโดยยังคงมีบรรดาบาปใหญ่โดยไม่รู้ตัว” อิบนุอะญีบะฮ์, อีกอซุลฮิม ฟีชัรหฺ อัลหิกัม หน้า 7.
.

มีพี่น้องบางท่านถามในเฟสอื่นเกี่ยวกับสิ่งที่ผมได้นำเสนอไปว่า หากไม่ตะเซาวุฟนั้นเกรงว่าจะตายไปโดยมีบาปใหญ่ “เพราะอะไรหรอคับ อธิบายเพิ่มได้มั้ย”

ตอบ: เพราะจิตใจจะหลงดุนยาก่อนตาย เราไม่แน่ใจว่าก่อนตายนั้นหัวใจจะมีอัลเลาะฮ์หรือเปล่า หรือว่าคนเราจะโอ้อวด คิดวาตนเองดีกว่าคนอื่น ก่อนตาย อย่าลืม! ว่าก่อนตายนั้นอิบลีสชัยฏอนจะยกทัพครั้งสุดท้ายเพื่อหลอกล่อให้เราตกอยู่ในกุฟุรหรืออย่างน้อยให้เราตกอยู่ในบาปใหญ่ทางด้านจิตใจโดยไม่รู้ตัว นั่นก็เพราะว่าไม่มีตะเซาวุฟที่เป็นวิชาสำคัญที่สุดที่จำเป็นต้องนำไปใช้ก่อนตาย นั่นก็คือ หัวใจดื่มด่ำอยู่กับอัลเลาะฮ์ก่อนวิญญาณออกจากร่าง

ปราชญ์บางท่านป่วยอาการหนักใกล้ตายแต่อัลเลาะฮ์กลับให้หาย ซึ่งในช่วงป่วยหนัก ชัยฏอนมันไม่สามารถทำให้ปราชญ์ท่านนี้เป็นกุฟุรได้ แต่มันพยายามที่จะให้ตกอยู่ในบาปใหญ่ ด้วยแผนการณ์ตอนที่ว่า เมื่อมีลูกศิษย์พยายามสอนเกาะลิมะฮ์ "ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์" แต่ทันใดนั้นปราชญ์ดังกล่าวกลับตะวาด จนทำให้ลูกศิษย์ตกใจและแปลกใจว่า ทำไมเราสอนเกาละเมาะฮ์ชะฮาดะฮ์ แล้วอาจารย์กลับตะวาด เมื่อปราชญ์ท่านนั้นมีอาการไข้ทุเลาลง ลูกศิษย์ก็ถามถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ปราชญ์เป็นผู้อาจารย์จึงตอบว่า ฉันไม่ได้ตะวาดพวกท่าน แต่ฉันตะวาดชัยฏอน เพราะมันพยายามบอกว่า ให้ฉันกล่าวกะลิเมาะฮ์ชะฮาดะฮ์ซิ เพื่อคนอื่นจะได้เห็นว่าท่านนั้นตายในอีหม่าน คำว่า "คนอื่นจะได้เห็น..." มันกลยุทธ์ของชัยฏอนที่มันพยายามให้ปราชญ์ท่านนี้ตกอยู่ใน "ริยาอฺ" โอ้อวด ซึ่งเป็นบาปใหญ่หนึ่งที่ชัยฏอนมันต้องการให้เกิดขึ้นก่อนตาย...และถ้าหากผมจำไม่ผิด ปราชญ์ท่านนี้คือ ท่านอะห์มัด บิน ฮัมบัล

ดังนั้นตอนใกล้ตาย ความรู้ที่บอกว่านั่นบิดอะฮ์ นี่บิดอะฮ์ โน้นบิดอะฮ์ ความรู้แบบนี้มันไม่มีความหมายแล้ว เพราะก่อนตายนั้น ต้องมีวิชาที่ทำให้ผูกพันอยู่กับอัลเลาะฮ์มาช่วย  ถึงจะปลอดภัยที่สุด  นั่นคือตะเซาวุฟ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 06, 2011, 08:41 AM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ท่านอะบูอุมามะฮ์ อัลบาฮิลีย์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า ท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้กล่าวว่า

اَكْثِرُوْا عَلَيَّ مِنَ الصَّلاَةِ فِيْ يَوْمِ الْجُمُعَةِ؛ فَإِنَّ صَلاَةَ أُمَّتِيْ تُعْرَضُ عَلَيَّ فِيْ كُلَّ يَوْمِ جُمُعَةٍ ، فَمَنْ كَانَ أَكْثَرَهُمْ عَلَيَّ صَلاَةً ؛ كَانَ أَقْرَبَهُمْ مِنِّيْ مَنْزِلَةً

“พวกท่านจงศ่อละวาตแก่ฉันให้มากๆ ในวันศุกร์ เพราะแท้จริงการศ่อละวาตของประชาชาติของฉันนั้นจะถูกนำเสนอแก่ฉันในทุกๆ วันศุกร์ ดังนั้นผู้ใดที่ศ่อลาวาตให้แก่ฉันมากที่สุด เขาก็จะมีตำแหน่งที่ใกล้ชิดฉันมากที่สุด” รายงานโดยอัลบัยฮะกีย์, ฮะดีษนี้หะซัน.

ท่านอับดุลเลาะฮ์ อิบนุ มุบาร็อก กล่าวว่า

لَوْ كُنْتُ مُغْتَاباً أَحَداً لَأَغْتَبْتُ أُمِّيْ لِأَنَّهَا أَحَقُّ بِحَسَنَاتِيْ

“ถ้าหากฉันเป็นผู้นินทาใครสักคนหนึ่ง แน่นอนฉันจะนินทามารดาของฉัน เพราะมารดาของฉันสมควรได้รับบรรดาความดีของฉันมากที่สุด” มินฮาจญุลอาบิดีน เล่ม 1 หน้า 384.

เนื่องจากคนนินทาผู้อื่นจะได้รับการลงโทษแล้ว ความดีงามยังต้องมอบให้แก่ผู้ถูกนินทาด้วย

คำพูดของท่านอิบนุมุบาร็อก ต้องการที่จะบอกแก่เราว่า "ทำไมคุณถึงชอบนินทาผม เพราะผมจะได้ผลบุญของคุณ ดังนั้นคุณไปนินทาแม่ของคุณจะดีกว่าไหม เพราะผลบุญที่คุณทำนั้นจะได้แก่แม่ของคุณ" วิเคราะห์ดูแล้วก็เจ็บปวดเหมือนกัน

ท่านอิมรอน บิน หุศ็อยน ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า

جَاءَ رَجُلٌ إِلَى النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَقَالَ السَّلَامُ عَلَيْكُمْ فَرَدَّ عَلَيْهِ السَّلَامَ ثُمَّ جَلَسَ فَقَالَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ عَشْرٌ ثُمَّ جَاءَ آخَرُ فَقَالَ السَّلَامُ عَلَيْكُمْ وَرَحْمَةُ اللَّهِ فَرَدَّ عَلَيْهِ فَجَلَسَ فَقَالَ عِشْرُونَ ثُمَّ جَاءَ آخَرُ فَقَالَ السَّلَامُ عَل...َيْكُمْ وَرَحْمَةُ اللَّهِ وَبَرَكَاتُهُ فَرَدَّ عَلَيْهِ فَجَلَسَ فَقَالَ ثَلَاثُونَ

“แท้จริงมีชายคนหนึ่งได้มาหาท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แล้วเขากล่าวว่า อัสสะลามุอะลัยกุ้ม แล้วท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็กล่าวรับสลามหลังจากนั้นท่านก็นั่งลง แล้วกล่าวว่า เขาได้ 10 ความดี หลังจากมีชายคนอื่นมาอีก แล้วกล่าวว่า อัสสะลามุอะลัยกุ้มวะเราะห์มะตุลลอฮ์ แล้วท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็กล่าวรับสลาม หลังจากนั้นท่านก็นั่งลง แล้วกล่าวว่า เขาได้ 20 ผลบุญ หลังจากนั้นมีชายคนอื่นมาอีก แล้วเขากล่าวว่า อัสสะลามุอะลัยกุ้มวะเราะห์มะตุลลอฮ์วะบะร่อกาตุฮ์ แล้วท่านนะบีย์ก็รับสะลาม หลังจากนั้นท่านก็นั่งลง แล้วกล่าวว่า เขาได้ 30 ความดี” รายงานโดยอะบูดาวูด, ฮะดีษลำดับที่ 5195, และอัตติรมีซีย์, ฮะดีษลำดับที่ 2690, และท่านอัตติรมีซีย์กล่าวว่าหะดีษนี้หะซันซอฮิห์.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 22, 2011, 09:06 PM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ท่านอิหม่ามอัลฆ่อซาลีย์กล่าวว่า

وَبَلَغَنَا عَنِ الْحَسَنِ أَنَّهُ قِيْلَ لَهُ : يَا أَبَا سَعِيْدٍ إِنَّ فُلاَناً اِغْتَابَ، فَبَعَثَ إِلَيْهِ بِطَبَقٍ فِيْهِ رُطَبٌ وَقَالَ بَلَغَنِىْ أَنَّكَ أَهْدَيْتَ إِلَيَّ حَسَنَاتِكَ فَأَحْبَبْتُ أَنْ أُكَافِئَكَ

“ได้ทราบมายังเราจากท่านอัลหะซัน อัลบัศรีย์ว่า แท้จริงได้ถูกพูดขึ้นกับท่านอัลหะซันว่า โอ้อะบูสะอีด(คือเป็นชื่อสร้อยของท่านอัลหะซัน) แท้จริงมีชายคนหนึ่งได้นินทาท่าน ดังนั้นท่านอัลหะซันจึงนำอินทผาลัมหนึ่งจานไปให้กับเขาและกล่าวว่า ได้ทราบมายังฉันว่า ท่านได้มอบบรรดาความดีมาให้ฉัน ฉะนั้นฉันจึงปรารถนาที่จะตอบแทนท่านบ้าง” มินฮาจญุลอาบิดีน เล่ม 1 หน้า 382.

ท่านหะซัน อัลบัศรีย์ ได้กล่าวว่า

أَدْرَكْنَا السَّلَفَ الصَّالِحَ وَهُمْ لَا يَرَوْنَ الْعِبَادَةَ فِي الصَّوْمِ وَلَا فِي الصَّلَاةِ وَلَكِنْ فِي الْكَفِّ عَنْ أَعْرَاضِ النَّاسِ

“พวกเราได้พบกับสะละฟุศศอลิห์ โดยพวกเขาไม่เห็นว่าอิบาดะฮ์นั้นอยู่ในการถือศีลอดและการละหมาดเท่านั้น แต่อิบาดะฮ์ยังอยู่ในการงดเว้นจากการละเมิดเกียรติของมนุษย์” อิห์ยาอุลูมิดดีน อัลฆ่อซาลีย์.

ท่านอิหม่ามอัลฆ่อซาลีย์ ร่อหิมะฮุลลอฮ์ ได้กล่าวเกี่ยวกับบทที่ว่าด้วยเรื่อง การห้ามนินทาด้วยหัวใจว่า “พวกท่านโปรดรู้เถิดว่า การคิดในแง่ไม่ดี(แต่พี่น้องมุสลิม)นั้น ถือว่าหะรอมเหมือนกับการพูดในแง่ไม่ดี(กับพี่น้องมุสลิม) และความหมายของฉันเกี่ยวกับการคิดในแง่ไม่ดีก็คือ หัวใจคิดและตัดสินว่าคนอื่นในแง่ร้าย อัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า

يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا اجْتَنِبُوا كَثِيراً مِّنَ الظَّنِّ

“โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย พวกเจ้าจงหลีกไกลส่วนมากจากการคาคการณ์(ในแง่ร้ายกับพี่น้องมุสลิม)” [อัลหุญุร็อต: 12]
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ taufik

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 252
  • Respect: +10
    • ดูรายละเอียด
ญาซากัลลอฮ์คอยร็อนสำหรับการรวบรวมและนำเสนอของอาจารย์
 ที่จริงแล้วติดตามการโพสต์ของอาจารย์ในเฟส คมวาทะ อย่างต่อเนื่ิองอยู่แล้ว
 

ออฟไลน์ hiddenmin

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2453
  • เพศ: ชาย
  • 404 not found
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
    • Ikhlas Studio
อ้างถึง
ท่านอุมามะฮ์ อัลบาฮิลีย์

ใช่อบูอุมามะฮ อัลบาฮีลีรึเปล่า??

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
 
แก้ไขเรียบร้อยแล้วครับ  พิมพ์ อะบู ตกไปครับ  ที่ถูกต้องคือ อะบูอุมามะฮ์
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ เด็กท่าเรือ

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 194
  • เพศ: ชาย
  • ความยำเกรงนั้น คือ กุญแจแห่งทางที่เที่ยงตรง
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
    • bantharua
:salam: ติดตามอ่านอย่างต่อเนื่องเช่นกันครับ...
" ท่านพึงเป็นผู้รู้ หรือผู้เล่าเรียน หรือผู้รับฟัง หรือผู้รักใคร่ (ในบุคคลเหล่านั้น)
และท่านอย่าเป็นคนที่ห้า แล้วท่านจะวิบัติอย่างแน่นอน "

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ท่านอุมัร ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า

أَكْثِرُوْا مِنَ الْعِيَالِ، فَإِنَّكُمْ لاَ تَدْرُوْنَ بِمَنْ تُرْزَقُوْنَ

“พวกท่านจงมีครอบครัว(มีลูก)ให้มากๆ เพราะพวกท่านนั้นไม่รู้ว่า ด้วยกับ(ลูก)คนใดที่พวกท่านจะได้รับริสกี” อัลกะวากิบ อัดดุรรียะฮ์ 1/84.

หมายถึงคนเรานั้นอัลเลาะฮ์ตะอาลาทรงกำหนดริสกีไม่เท่ากัน บางคนพระองค์ทรงกำหนดริสกีแก่เขามากเหลือเกิน บางคนได้รับน้อย ดังนั้นถ้าหากสามีภรรยาคนใดมีริสกีน้อย หลังจากนั้นเขามีลูกที่อัลเลาะฮ์ได้ทรงกำหนดริสกีอย่างมากมายให้แก่ลูกน้อยคนใดของเขานั้น แน่นอนว่าพระองค์จะทรงประทานริสกีอันมากมายผ่านทางมือของพ่อแม่ แต่ถ้าหากผู้ใดที่คิดว่ามีลูกมากแล้วกลัวจนหรือกลัวริสกีจะไม่พอ แสดงว่าสามีภรรยาคู่นั้นสงสัยในอัลเลาะฮ์ผู้ทรงให้ริสกี วัลอิยาซุบิลลาฮ์

ท่านอิบนุอับบาส กล่าวว่า

قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ لَا تَشْرَبُوا وَاحِدًا كَشُرْبِ الْبَعِيرِ وَلَكِنْ اشْرَبُوا مَثْنَى وَثُلَاثَ وَسَمُّوا إِذَا أَنْتُمْ شَرِبْتُمْ وَاحْمَدُوا إِذَا أَنْتُمْ رَفَعْتُمْ

“ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า พวกท่านอย่าดื่มน้ำภายในครั้งเดียวเหมือนการดื่มของอูฐ(ที่หายใจในภาชนะ) แต่พวกท่านจงดื่มทีละสอง(อึก)และทีละสาม(อึกหลังจากนั้นหายใจนอกภาชนะ) และพวกท่านจงกล่าวบิสมิลลาฮ์เมื่อพวกท่านต้องการดื่มน้ำ และจงกล่าวอัลฮัมดุลิลลาฮ์เพื่อพวกท่านยก(ปากออกจากภาชนะทุกครั้ง)” รายงานโดยอัตติรมีซีย์, ท่านอิหม่ามอันนะวาวีย์กล่าวว่า หะดีษนี้หะซัน, ดู อัลอัซการ, หน้า 203.

ท่านหะซัน อัลบัศรีย์ กล่าวว่า

ذَمُّ الرَّجُلِ نَفْسَهُ مَدْحٌ لَهاَ

“ผู้ชายที่พูดตำหนิตนเอง นั่นคือการสรรเสริญตนเอง”

คือผู้ใดที่พูดตำหนิตนเอง ก็เพื่อแสดงให้คนอื่นรู้และชมตัวเองว่าเป็นผู้มีความนอบน้อมถ่อมตน

ท่านอัลมุนาวีย์ กล่าวว่า

كَانَ عُمَرُ رَضِيَ اللهُ عَنْهُ إِذَا مَرَّ بِمَزْبَلَةٍ وَقَفَ عَلَيْهاَ، وَقَالَ لِصَحْبِهِ: هَذِهِ دُنْيَاكُمُ الَّتِيْ تَحْرُصُوْنَ عَلَيْهاَ

“ท่านอุมัรนั้น เมื่อท่านได้เดินผ่านกองขยะ ท่านก็จะหยุดต่อหน้ากองขยะนั้น และกล่าวกับบรรดามิตรสหายของท่านว่า นี้คือดุนยาของพวกท่านที่พวกท่านต่างปรารถนามัน” อัลกะวากิบ อัดดุรรียะฮ์ เล่ม 1 หน้า 82.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 25, 2011, 09:52 AM โดย webmaster »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ เด็กท่าเรือ

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 194
  • เพศ: ชาย
  • ความยำเกรงนั้น คือ กุญแจแห่งทางที่เที่ยงตรง
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
    • bantharua
อัลฮัมดุลิ้ลลาห์..พระองค์อัลเลาะห์(ซ.บ.)จะทรงประทานริสกีให้กับลูกของฉันที่กำลังจะเกิดมา...และฉันก็อาศัยริสกีของลูกของฉันด้วย...
" ท่านพึงเป็นผู้รู้ หรือผู้เล่าเรียน หรือผู้รับฟัง หรือผู้รักใคร่ (ในบุคคลเหล่านั้น)
และท่านอย่าเป็นคนที่ห้า แล้วท่านจะวิบัติอย่างแน่นอน "

 

GoogleTagged