بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْم
اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ اَلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ
บทความต่อไปนี้ คือการบันทึกเสวนาวิเคราะห์ถึงฮะดิษของท่านฏอวูส ซึ่งเป็นการเสวนาในเว็บบอร์ดฟอรั่มของเว็บมุสลิมไทยในอดีต
ท่านอัล-หาฟิซฺ อิบนุ หะญัร อัล-อัสเกาะลานีย์ ได้ทำการรายงาน จากท่านอิมามอะหฺมัด โดยที่ท่านอิมามอะหฺมัด ได้รายงานไว้ใน หนังสือ อัซซุอฮ์ดฺ ว่า
سفيان قال ، قال طاووس : إن الموتى يفتنون فى قبورهم سبعاَ وكانوا يستحبون أن يطعموا عنهم تلك الأيام
" ท่านซุฟยานกล่าวว่า ท่านฏอวูสกล่าวว่า แท้จริงบรรดาผู้ตายนั้น พวกเขากำลังถูกสอบถามในกุบูรของพวกเขา ถึง 7 วัน และบรรดาซอฮาบะฮ์มีความชอบที่จะทำการเลี้ยง(ให้)อาหารแทนจากพวกเขา ในเจ็ดวันดังกล่าว" ท่าน ชัยค์ อัลอะซ่อมีย์กล่าวว่า สายรายงานหะดิษนี้ قوى (มีน้ำหนัก) ดู หนังสือ อัลมะฏอลิบ อัลอาลิยะฮ์ บิ ซฺะวาอิด อัลษะมานียะฮ์ เล่ม 1 หน้า 199
ท่านอิมามอัสศะยูฏีย์(ร.ฏ.) ได้กล่าวรายงานเช่นกันว่า
ذكر الرواية المسندة عن طاوس : قال الإمام أحمد بن حنبل رضى الله عنه فى كتاب الزهد له : حدثنا هاشم بن القاسم قال : حدثنا الأشجعى عن سفيان قال ، قال طاووس : إن الموتى يفتنون فى قبورهم سبعاَ وكانوا يستحبون أن يطعم عنهم تلك الأيام
"กล่าวสายรายงานถึงท่าน ฏอวูส ซึ่งท่านอิมามอะหฺมัด บิน ฮัมบัล (ร.ฏ.) ได้กล่าวไว้ในหนังสือ อัซซุฮฺดิ ของท่านว่า ได้เล่าให้เราทราบโดย ฮาชิม บิน อัลกาซิม เขากล่าวว่า ได้เล่าให้เราทราบโดย ท่านอัลอัชญะอีย์ จากท่านซุฟยาน เขากล่าวว่า ท่านฏอวูส กล่าวว่า "ท่านซุฟยานกล่าวว่า ท่านฏอวูสกล่าวว่า แท้จริงบรรดาผู้ตายนั้น พวกเขากำลังถูกสอบถามในกุบูรของพวกเขา ถึง 7 วัน และบรรดาซอฮาบะฮ์มีความชอบที่จะทำการเลี้ยง(ให้)อาหารแทนจากพวกเขา ในเจ็ดวันดังกล่าว" ดู หนังสือ อัลหาวีย์ ฟี อัลฟะตาวา เล่ม 2 หน้า 216 ดารุลฟิกร์ ตีพิมพ์ 2004 - 1424 ฮ.ศ
หลักวิเคราะห์ฮะดิษ
อ้างอิงข้อความจาก : MPW.SO
1. สุฟยานรายงานแบบตะลีก (قال طاووس) ซึ่งการรายงานแบบตะลีกเป็นการรายงานแบบขาดตอน เป็นการตัดสายรายงานระหว่างผู้รายงานกับผู้ถูกพาดพิงออก ซึ่งบ่งบอกถึงความไม่ต่อเนื่องของสายรายงานอย่างชัดเจน
อ้างอิงข้อความจาก : al-azhary
สมมุติว่า ท่านซุฟยานไม่ได้พบกับท่านฏอวูส ตามทัศนะที่คุณยึดมั่นเพื่อทำการฮุกุ่มฏออีฟกับหะดิษฏอวูสดังกล่าว โดยอ้างว่า ใช้คำรายงานว่า قال ซึ่งเป็นถ้อยคำตะลีก และคุณก็ฮุกุ่มมันทันทีว่า ฏออีฟ
คุณอย่าลืมว่า ถ้อยคำรายงาน قال นั้น เป็นถ้อยคำญัซม์(ชี้ถึงความมั่นใจ) ซึ่งหากมีการยืนยันว่าทั้งสองได้พบกัน ก็สามารถนำมาเป็นหลักฐานได้อย่างไม่ต้องสงสัย หรือทั้งสองมีการขาดตอนเพียงเล็กน้อย (คือได้อยู่ในสมัยเดียวกัน เป็นต้น) ก็สามารถนำมาเป็นหลักฐานได้ ดังนั้น หากคุณบอกว่าสายรายงานขาดตอนจริง ก็แค่สายรายงานขาดตอนแบบเล็กน้อยเท่านั้นเอง เนื่องจากเป็นไปได้ว่าท่านซุฟยานมีโอกาสได้พบกับท่านฏอวูส
ดังนั้นการรายงานที่ใช้คำว่า قال นี้ สามารถตีความได้ว่า ท่านซุฟยานได้ยินจากท่านฏอวูสและอาจจะไม่ได้ยินก็ได้ เนื่องจากสามารถตีความไปได้ว่าท่านซุฟยานอาจจะไม่ได้พบท่านฏอวูส แต่ทว่าท่านอิมามอัสสะยูฏีย์ ได้ยืนยันว่า ท่านซุฟยานได้พบท่านฏอวูส
ฉะนั้น เรื่องการพบระหว่างท่านซุฟยานกับท่านฏอวูสและสายรายงานสามารถมีความต่อเนื่องได้ เนื่องจาก นักปราญช์หะดิษส่วนมากมีทัศนะว่า
1. นักรายงานมีความษิเกาะฮ์ (เชื่อถือได้) ได้รายงานจากคนหนึ่งที่มีความษิเกาะฮ์เช่นเดียวกัน โดยใช้คำว่า قال โดยเขาอยู่ร่วมสมัยเดียวกัน มีความเป็นไปได้ที่จะพบหรือได้ยินหะดิษ ดังนั้น หะดิษจึงมีความต่อเนื่อง (ไม่ขาดตอน) ถึงหากแม้นว่า ไม่มีหะดิษใดเลยที่มาระบุว่าทั้งสองได้พบกันหรือพูดคุยกันและกัน
นอกจาก 2 สภาพการณ์ที่เป็นเหตุให้หะดิษมีการขาดตอน คือ
1.1 มีหลักฐานบ่งชี้อย่างชัดเจนว่านักรายงานคนนี้ไม่ได้พบกับนักรายงานอีกคนหนึ่ง (เช่นระหว่างท่านซุฟยานกับท่านฏอวูส) หรือนักรายงานอีกคนหนึ่งไม่ได้เคยได้ยินจากนักรายงานอีกคนหนึ่งเลย เช่น นักรายงานคนนี้ได้กล่าวปฏิเสธด้วยตนเองว่า ไม่ได้พบกับนักรายงานอีกคนหนึ่ง หรือมีการยืนยันว่าทั้งสองไม่เคยอยู่อยู่ร่วมพร้อมกันเลย หรือเมืองห่างไกลกันจนกระทั่งว่าไม่สามารถนึกคิดได้เลยว่าทั้งสองจะได้เจอกัน
1.2 นักรายงานมีลักษณะเป็นที่เลื่องลือว่ามีการตัดลีส
จากสิ่งที่ผมได้นำเสนอมานี้ ท่านซุฟยานกับท่านฏอวูส มีสิทธิ์ที่จะได้เจอกัน เพราะไม่มีหลักฐานใดมายืนยันว่าทั้งสองเป็นไปไม่ได้ที่จะได้เจอ , ทั้งสองก็อยู่ในสมัยเดียวกัน , แม้เมืองกูฟะฮ์จะห่างกับเมืองเยเมน แต่ปรากฏว่าท่านฏอวูสเองก็ได้รับสายรายงานจากนักหะดิษที่อยู่กูฟะฮ์ และยิ่งกว่านั้นยังมีการยืนยันว่า ทั้งสองได้เจอกัน แต่หากว่า ทั้งสองไม่ได้เจอกันจริง ก็เป็นเพียงการขาดตอนที่เล็กน้อย ซึ่งหะดิษสามารถนำมาเป็นหลักฐานได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีสายรายงานอื่นมาสนับสนุน
วัลลอฮุอะลัม
อ้างอิงข้อความจาก : MPW.SO
2.2 ฏอวูสเป็นชาวเยเมน ในขณะที่สุฟยานเป็นชาวกูฟะฮฺ ในกรณีนี้เราไม่สามารถจะยืนยันถึงความเป็นไปได้ที่ทั้งสองจะพบเจอกัน นอกจากว่าจะมีการยืนยันว่าฏอวูสเคยเดินทางไปยังกูฟะฮฺในช่วงอายุของสุฟยานดังกล่าวเท่านั้น ส่วนความเป็นไปได้ที่สุฟยานจะเดินทางไปยังเยเมนในช่วงอายุก่อน 10 ขวบนั้น คงไม่ต้องพูดถึง เพราะทั้งอบูนุอิม และท่านอื่น ๆ ต่างระบุว่าสุฟยานเริ่มเดินทางออกจากเมืองกูฟะฮฺเมื่อปี 150 ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ฏอวูสได้เสียชีวิตไปแล้วถึง 40 กว่าปี
อ้างอิงข้อความจาก : al-azhary
คุณ MPW.SO กำลังพยายามทำการกีดกันให้ท่านฏอวูสกับท่านซุฟยานไม่ให้เจอกัน และพยายามทำให้ในช่วง 9 ปี หรือ 12 ปี นั้น เป็นช่วงเวลาที่ท่านซุฟยานถูกกักบริเวนอยู่ในกูฟะฮ์ และกักบริเวนท่านฏอวูสอยู่ที่เยเมน โดยไม่ให้ออกไปใหน เพื่อจะตัดสินว่า ท่านซุฟยานกับท่านฏอวูส ไม่มีโอกาสได้เจอกันหรืออยู่ร่วมกัน หรือไม่สามารถรายงานกันได้เลย และการที่ท่านซุฟยานถูกระบุว่าออกจากกูฟะฮ์นั้น หมายถึง ออกจากกูฟะฮ์โดยไม่หวนกลับมา
หากมีนักรายงานคนหนึ่งเกิดหลังจากนักรายงานอีกคนหนึ่งถึง 2 ปี จึงไม่สามารถรายงานกันได้ อันนี้พอฟังขึ้นครับและสายรายงานขาดตอนแน่นอน แต่กรณีของท่านซุฟยานกับท่านฏอวูสอยู่ร่วมสมัยกันถึง 9 ปี หรือ 12 ปี คุณก็พยายามที่จะทำให้ทั้งสองไม่พบกัน เพราะจะฮุกุ่มว่าหะดิษมีการขาดตอน ผมขอกล่าวว่า หากขาดตอนจริง ก็เพียงแค่ إنقطاع يسير "ขาดตอนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น" ซึ่งไม่มีผลในการที่จะฮุกุ่มฏออีฟหะดิษ โดยเฉพาะกับท่านซุฟยานอัษเษารีย์ที่อยู่ร่วมสมัยของท่านฏอวูส
คุณ MPW.SO ไม่คิดบ้างหรือครับว่า ท่านฏอวูสก็ออกเดินทางไปแสวงหาหะดิษ และเป็นไปได้ที่ท่านได้เดินทางไปแสดงหาหะดิษที่กูฟะฮ์
ท่านฏอวูสมีอาจารย์ของท่านคนหนึ่งที่ زيد بن أرقم (ซัยด์ บิน อัรกอม) ซึ่งท่านซัยด์ บิน อัรกอม นั้น พำนักอยู่ที่กูฟะฮ์ และเสียชีวิตที่นั่น และท่านเองก็เป็นนักรายงานหรือเป็นสายสืบหะดิษของชาวกูฟะฮ์
ท่านฏอวูสมีอาจารย์ที่ชื่อ عبد الله بن شداد بن الهاد (อับดุลลอฮ์ บิน ชัดดาด บิน อัลฮาด) ซึ่งท่านก็อยู่ที่กูฟะฮ์ และเป็นนักรายงานหรือเป็นสายสืบหะดิษของชาวกูฟะฮ์ (กูฟียีน)
ท่านฏอวูสมีอาจารย์ที่ชื่อ عبد الله بن مسعود ท่าน อับดุลเลาะฮ์ อิบนุ มัสอูด (ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ) ซึ่งเป็นปรมาจารย์ของปราชญ์ตาบิอีนแห่งกูฟะฮ์
ท่านอัลมิซฺซีย์ กล่าวว่า
وقال الفريابي عن سفيان كان طاووس يجلس في بيته فقيل له في ذلك فقال حيف الأئمة وفساد الناس
"อัลฟิรยาบีย์ ได้กล่าว จากท่านซุฟยาน ฏอวูสได้นั่งอยู่ที่บ้านของเขา จึงถูกถามกับเขาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ท่านฏอวูสตอบว่า บรรดาผู้นำมีความอธรรมและบรรดาผู้คนมีความเสื่อมโทรม" ดู หนังสือ อัตตะฮ์ซีบ อัลกะมาล หมวดท่านซุฟยาน อัษเษารีย์
ท่านอัลมิซฺซีย์ กล่าวว่า
حدثنا عمر بن شبة قال حدثنا أبو عاصم قال زعم لي سفيان قال جاء بن لسليمان بن عبد الملك فجلس إلى جنب طاووس فلم يلتفت إليه فقيل له جلس إليك بن أمير المؤمنين فلم يلتفت إليه
"ได้เล่าให้เราทราบโดย อุมัร บิน ชับบะฮ์ เขากล่าวว่า ได้เล่าให้เราทราบโดย อบูอาซิม เขากล่าวว่า ซุฟยานได้อ้างแก่ฉันว่า บุตรของสุลัยมาน บิน อับดุลมาลิก ได้นั่งข้างท่านฏอวูส แต่ท่านฏอวูสไม่หันหน้าไปยังเขา จึงถูกกล่าวแก่เขาว่า บุตรของอะมีรุลมะอฺมินีนได้นั่งใกล้ท่าน ดังนั้น ท่านฏอวูสก็ไม่หันหน้าไปหาเขา" ดู หนังสือ อัตตะฮ์ซีบ อัลกะมาล หมวดท่านซุฟยาน อัษเษารีย์
ท่านอิมามอัสสะยูฏีย์ ซึ่งเป็นนักหะดิษระดับอะมีรุลมุอ์มิมีนและเป็นนักจำหะดิษและผู้รายงาน ท่านหนึ่งของโลกอิสลามเอง ก็ได้ยืนยันแล้วว่า
إلا أكثر روايته عنه بواسطة
"แต่ทว่าส่วนมากจากการรายงานของท่านซุฟยานจากท่านฏอวูสนั้นด้วยสื่อกลาง" ( ดู หนังสืออัลหาวีย์ ลิลฟะตาวา เล่ม 2 หน้า 216 )
จากคำกล่าวของอิมามอัสสะยูฏีย์ ได้ยืนยันแล้วว่า ยังมีหะดิษอื่น ๆ อีกที่ท่านซุฟยานได้รายงานจากท่านฏอวูสและท่านซุฟยานได้รายงานจากท่านฏอวูสจริง แต่ทว่าส่วนมากจะรายงานด้วยสื่อกลาง นั่นคือการยืนยันของนักปราชญ์หะดิษ
ดังนั้น คุณจะกีดกันไม่ให้ท่านฏอวูสเข้ากูฟะฮ์ย่อมไม่ได้ครับ และท่านซุฟยานก็อยู่กูฟะฮ์ ไม่สามารถที่จะได้เจอกันกับฏอวูสสักครั้งหนึ่งเพื่อรายงานจากท่านฏอวูสเลยหรอครับ ทั้งที่มีนักปราชญ์หะดิษยืนยันแล้วว่า ท่านซุฟยานได้รายงานจากฏอวูสด้วยเช่นกัน แต่ส่วนมากจะมีสื่อกลางรายงาน
วัลลอฮุอะลัม
อ้างอิงข้อความจาก : asan
ท่านอัซซะฮะบีย์ ได้กล่าวถึง ครูที่ถ่ายทอดหะดิษให้แก่ท่านซุฟยาน อัษเษารีย์ ในหนังสือ ซิยาร อะอฺลามินนุบะลาอ์ เล่ม 7 หน้า 175-177 ก็ไม่ปรากฏรายชื่อของ ฏอวูสอยู่เลย โปรดดูข้างล่างนี้
الأسود بن قيس , وأشعث بن أبي الشعثاء , وأيوب السختياني , وبَهْزُ بن حكيم , وثور بن يزيد , وجامع بن شداد , وحبيب بن أبي ثابت وهو من كبار شيوخه , وحُميد الطويل , وخالد الحذّاء , ورَبيعة الرأي , وزياد بن عِلاقة وهو من كبار مشيخته , وأبو حازم : سلمة بن دينار , وسلمة بن كُهيل وهو من كبارهم , وسليمان الأعمش , وسليمان التيمي , وعاصم الأحول , وعبد الله بن سعيد المقبري , وعبد الله بن عون ، وعطاء بن السائب , وعكرمة بن عمار , وعمرو بن دينار , ومحمد بن المنكدر وهو من كبارهم , وهشام ابن عُروة , ويحيى بن سعيد الأنصاري , وأبو إسحاق السَّبيعي . ويقال إن عدد شيوخه ست مائة شيخ
........
เพราะฉะนั้น ท่านซุฟยาน ไม่ได้รับฟังหะดิษจากฏอวูสอย่างแน่นอน
อ้างอิงข้อความจาก : al-azhary
บังอะสันยกคำพูดของท่านอัซซะฮะบีย์ในการกล่าวถึง อาจารย์บางส่วนของท่านซุฟยาน เพียงแค่ 26 ท่าน โดยไม่ได้กล่าวท่าน ฏอวูส เอาไว้ แล้วบังอะสันก็ฮุกุ่มเลยว่าท่านซุฟยานไม่ได้รับฟังหะดิษจากท่านฏอวูสเพราะท่านอัซซะฮะบีย์ไม่ได้กล่าวอาจารย์ของท่านซุฟยานไว้ใน 26 ท่าน นั่นก็แสดงว่า หากอาจารย์คนอื่น ๆ ที่ไม่ได้กล่าวไว้ 26 ท่านนี้ ก็แสดงว่า ท่านซุฟยานไม่ได้ยินจากพวกเขา ทั้งที่ท่านซุฟยานเองมีอาจารย์มากกว่า 26 ท่าน และในช่วงท้ายนั้นบังอะสันไม่ได้สังเกตุหรอครับ ท่านอัซซะฮะบีย์กล่าวไว้อย่างไร
ويقال إن عدد شيوخه ست مائة شيخ
"ถูกกล่าวว่าจำนวนอาจารย์ของท่านซุฟยานมีถึง 600 คน"
หรือว่า อาจารย์ของท่านซุฟยานอีก 574 คนนั้น ท่านซุฟยานไม่ได้ยินหะดิษจากพวกเขา เนื่องจากท่านอัซซะฮะบีย์ไม่ได้กล่าวไว้??
อ้างอิงข้อความจาก : asan
น้องบ่าวครับ ฏอวูสเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่ง แล้วท่านฎอวูสเป็นอาจารย์ลำดับที่เท่าไหร่หรือครับ แล้วมีหนังสือเล่มใหน ที่ระบุว่า ฏอวูสได้ถ่ายทอดหะดิษแก่ท่านซูฟยาน ตัวต่อตัว ?
อ้างอิงข้อความจาก : al-azhary
ใช่ครับท่านฏอวูสเป็นบุคคลสำคัญท่านหนึ่ง แต่ท่านซุฟยานได้รายงานจากท่านน้อยซึ่งไม่เหมือนกับอาจารย์ท่านอื่น ๆ ของท่านซุฟยาน จึงทำให้ท่านอัซซะฮะบีย์ไม่ได้ระบุชื่ออาจารย์คนสำคัญ ๆ ที่มีบทบาทในการถ่ายทอดหะดิษแก่ท่านซุฟยาน และท่านซุฟยานมีอาจารย์ตั้ง 600 คน หนึ่งในนั้นไม่ใช่ท่านฏอวูสเลยหรือครับ ? อันเนื่องจากเหตุผลที่ว่า "ไม่มีหนังสือเล่มใดระบุว่าฏอวูสได้ถ่ายทอดหะดิษแก่ท่านซุยาน" การที่เราไม่พบหนังสือระบุว่าฏอวูได้ถ่ายทอดหะดิษแก่ท่านซุฟยานนั้น ไม่ได้หมายความว่า ทั้งสองไม่มีสิทธิ์ได้เจอกัน การอ้างเหตุผลที่ว่าไม่มีหนังสือเล่มใดระบุ ไม่ใช่การอ้างหลักฐานในเชิงวิชาหะดิษที่จะนำมาอ้างว่าทั้งสองไม่ได้เจอกัน และการที่เราไม่เจอนั้นไม่ใช่หมายความว่าไม่มี เพราะหลักฐานที่เด็ดขาดที่มายืนยันว่าทั้งสองไม่ได้เจอกันก็คือ "ท่านซุยานได้ปฏิเสธการเห็นท่านฏอวูสเอง" และการที่เราจะทราบว่าท่านซุฟยานได้รายงานจากท่านฏอวูสหรือไม่นั้น เรากลับไปหานักปราชญ์หะดิษมายืนยันข้อเท็จจริงดังกล่าว
ท่านอิมามอัสสะยูฏีย์ ซึ่งเป็นนักหะดิษระดับอะมีรุลมุอ์มิมีนและเป็นนักจำหะดิษและผู้รายงาน ท่านหนึ่งของโลกอิสลามเอง ก็ได้ยืนยันแล้วว่า
إلا أكثر روايته عنه بواسطة
"แต่ทว่าส่วนมากจากการรายงานของท่านซุฟยานจากท่านฏอวูสนั้นด้วยสื่อกลาง" ( ดู หนังสืออัลหาวีย์ ลิลฟะตาวา เล่ม 2 หน้า 216 )
จากคำกล่าวของอิมามอัสสะยูฏีย์ ได้ยืนยันแล้วว่า ยังมีหะดิษอื่น ๆ อีกที่ท่านซุฟยานได้รายงานจากท่านฏอวูสและท่านซุฟยานได้รายงานจากท่านฏอวูสจริง แต่ทว่าส่วนมากจะรายงานด้วยสื่อกลาง นั่นคือการยืนยันของนักปราชญ์หะดิษ
วัลลอฮุอะลัม
อ้างอิงข้อความจาก : asan
เมื่อท่านซุฟยานไม่ได้พบกับฏอวูส และเป็นไปได้ว่า ท่านซุฟยานได้ยินจากการบอกเล่าอีกที แต่ท่านไม่ระบุชื่อ แล้วไประบุชื่อฏอวูส เลย แบบนี้ก็เป็นรายงานลักษณะตัดลิส (คื่อ การอำพรางตัวบุคคล)เพื่อให้หะดิษน่าเชื่อถือ น้องบ่าวพยายามที่จะอ้างเหตุผลเพื่อให้หะดิษนี้มีความชอบธรรม ในการทำบุญมัยยิต ครบรอบ 7 วัน ทั้งหะดิษนี้ ไม่เศาะเฮียะ
อ้างอิงข้อความจาก : al-azhary
การที่บังอะสันฟันธงว่าท่านซุฟยานไม่ได้พบกับท่านฏอวูสนั้น เราต้องให้หลักหะดิษมายืนยัน หากมีสายรายงานขาดตอนจริง ก็ขาดตอนเพียงเล็กน้อย ซึ่งถือว่าไม่มีผลทำให้หะดิษฏออีฟ หากอ้างถึงเรื่องการตัดลีสของท่านซุฟยาน ผมก็ได้อธิบายไปแล้ว หากจะพูดถึงการเชื่อมต่อของสายรายงาน ผมก็บอกไปแล้วว่าหากอยู่สมัยเดียวกันก็สามารถตีความได้ยินจากท่านฏอวูส และนักปราชญ์หะดิษก็ได้ระบุไว้แล้วว่า ท่านซุฟยานก็รายงานถึงท่านฏอวูส แต่น้อย หากพิจารณาถึงหะดิษอื่นมาสนับสนุนหะดิษของท่านฏอวูสให้ซอฮิห์ ก็จบประเด็นแล้วละครับ
อ้างอิงข้อความจาก : MPW.SO
2.3 ยิ่งกว่านั้นแม้แต่บรรดานักรายงานหะดีษที่ดังๆแห่งเมืองกูฟะฮฺเองที่เสียชีวิตหลังฏอวูสหลายท่าน ได้รับการยืนยันว่าสุฟยานไม่ได้รับรายงานหะดีษจากพวกเขาด้วย ดังคำยืนยันของอัลบุคอรีย์ต่อไปนี้
وقال البخاري سمعت بن المديني يقول سئل سفيان هل رأيت ابن أشوع قال: لا، قيل: فمحارب قال وأنا غلام رأيته يقضي في المسجد ( التهذيب ج4 رقم 199
อัลบุคอรีย์กล่าวว่า ฉันได้ยินอิบนุอัลมะดีนีย์เล่าว่า มีคนถามสุฟยานว่า ท่านเคยเห็นอิบนุอัชวะอฺหรือไม่? ท่านตอบว่า ไม่ มีคนถามอีกว่า แล้วมุหาริบละ ? ท่านตอบว่า ตอนที่ฉันยังเด็กๆ ฉันเห็นเขากำลังพิพากษาคดีความในมัสยิด
อ้างอิงข้อความจาก : al-azhary
ท่านซุฟยานได้รายงานจากท่าน อัลอัชวะอฺ นะครับ ท่านอัลหาฟิซฺอิบนุหะญัร กล่าวว่า
وعنه: سعيد بن مسروق الثوري وابنه سفيان بن سعيد
"ได้รายงานจากอัชวะอฺ โดย สะอีด บิน มุสรูก อัษเษารีย์ และบุตรชายของเขา คือ ซุฟยาน บิน สะอีด (อัษเษารีย์)" ดู อัตตะฮ์ซีบ หมวด สะอีด บิน อัมร์ บิน อัชวะอฺ
อ้างอิงข้อความจาก : MPW.SO
2.1 สุฟยานเกิดปี 97 ขณะที่ฏอวูสเสียชีวิตปี 106 ตามทัศนะที่มีน้ำหนักและถูกต้องดังคำยืนยันของอัซซะฮะบีและอัลหาฟิซอิบนุหะญัร ซึ่งหมายความว่าโอกาสที่สุฟยานจะพบเจอกับฏอวูสนั้นอยู่ในช่วงอายุเพียง 9 ปีเท่านั้น ซึ่งโดยปกติ เด็กอายุช่วงนี้ยังไม่มีการรับรายงานหะดีษ
อ้างอิงข้อความจาก : al-azhary
การเสียชีวิตของท่านฏอวูส บ้างรายงานว่าปีเสียชีวิต 106 บ้างก็รายงานว่าเสียชีวิต ปีที่ 113 ขึ้นไปจนถึงปี 120 และคุณ MPW.SO ยึดทัศนะ 106 เพื่อให้ท่านซุฟยานอายุ 9 ขวบแล้วอ้างว่าอายุช่วงนี้ไม่มีการรับรายงานหะดิษ! แต่เรายึดทัศนะปีเสียชีวิต 113 - 120 ฮ.ศ. เพื่อให้ท่านซุฟยาน อายุ 16 - 23 ในการที่จะมีโอกาสพบท่านฏอวูส
แต่หากเราลองมาพิจารณาอายุ 9 ขวบในการที่คุณ MPW.SO บอกว่าอายุช่วง 9 ขวบนี้ไม่มีการรับหะดิษ ซึ่งความจริงแล้ว ตามหลักวิชาหะดิษ เด็กอายุ 5 ขวบก็สามารถได้ยินหะดิษได้แล้ว เพราะอายุ 5 ขวบนั้น ถือว่ารู้เดียงสาแล้ว โดยเฉพาะท่านซุฟยานอัษเษารีย์ซึ่งบิดาของท่านก็เป็นนักหะดิษเช่นเดียวกัน ท่านอิมามอัลบุคอรีย์ ได้รายงานจาก มะห์มูด บิน อัรร่อเบี๊ยะอฺ ซึ่งเขากล่าวว่า "ฉันได้ฟื้นคืนสติ จากการพ่นน้ำครั้งหนึ่ง ที่ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้พ่นมันจากน้ำในถัง โดยฉันอายุได้ 5 ขวบ" ดังนั้น ท่านอิมามอัลบุคอรีย์ได้ทำการตั้งหัวข้อบทหนึ่งที่ว่าด้วยเรื่อง ( باب متى يصح سماع الصغير ) "เมื่อใดที่เด็กสามารถได้ยินอย่างถูกต้อง"
วัลลอฮุอะลัม
อ้างอิงข้อความจาก : MPW.SO
2. สายรายงานของท่านซุฟยานนี้ ก็ไม่มีสายรายงานมาสนับสนุนในการยืนยันว่า ถ้อยคำที่ชี้ถึงการได้ยินหะดิษนี้ของท่านซุฟยานจากท่านฏอวูส ซึ่งคำอ้างของอิมามสุยูฏีเป็นเพียงการคาดคะเนเท่านั้น และการคาดคะเนของท่านไม่น่าจะถูกต้อง ด้วยเหตผลด้านพยานแวดล้อมดังนี้
อ้างอิงข้อความจาก : al-azhary
คำว่า สนับสนุน นั้น ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานยืนว่าท่านซุฟยานได้ยินจากท่านฏอวูสเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะหากแม้ว่าไม่มีหลักฐานยืนว่าไม่ได้ยินจากฏอวูสก็ตาม ก็ไม่ใช่เป็นหลักการอ้างที่จะนำให้หะดิษนี้ตกไปเลยแม้แต่น้อย และหะดิษที่นำมาสนับสนุน ย่อมเป็นหะดิษอื่น ๆ ที่มาสนับสนุนสายรายงานของท่านซุฟยานจากฏอวูส และผมหวังว่าคุณคงเข้าใจคำว่า " الشاهد " "ตัวที่มาสนับสนุน" ตามหลักวิชาหะดิษ
ท่านอิมามอัสสะยูฏีย์ ได้กล่าวว่า
"ประเด็นปัญหา การสอบถามคนตายในกุบูร 7 วัน ซึ่งได้นำเสนอรายงานโดยบรรดาอิมามหลายท่านไว้ใหนตำราของพวกเขา ท่านอิมามอะห์มัด บิน ฮัมบัล ได้นำเสนอรายงานไว้ในหนังสือ อัซซุฮ์ดิ , ท่านอัลหาฟิซฺ อบู นุอัยม์ อัลอัสฟะฮานีย์ ได้นำเสนอรายงานไว้ในหนังสือ อัลฮิลยะฮ์ ด้วยสายรายงานถึงท่านฏอวูส หนึ่งจากอุลามาอ์ชั้นนำของตาบิอีน , และท่านอิบนุ ญุรัยจ์ ได้นำเสนอรายงานไว้ใน มุซันนัฟของท่าน ด้วยสายรายงานถึงท่านอุบัยด์ บิน อุมัยร์ - ซึ่งเขาอาวุโสกว่าฏอวูส - ยิ่งกว่านั้น เขายังถูกกล่าวว่าเป็นซอฮาบะฮ์ และได้อ้างอิงหะดิษต่าง ๆ โดยท่านอัลหาฟิซฺ ซัยนุดดีน อิบนุ ร่อญับ ไว้ในหนังสือ อะฮ์วาลกุบูร ด้วยสายรายงานถึงท่านมุญาฮิดและอุบัยด์ บิน อุมัยร์ ดังนั้น ท่านอิบนุรอญับได้ตัดสินว่าสามรายงานนี้(คือ สายของท่านฏอวูส , มุญาฮิด , และท่านอุบัยด์ บิน อุมัยร์) ว่าอยู่ในฮุกุ่มขอหะดิษมุรซัลที่ยกอ้างไปยังท่านนบี" ( ดู หนังสือ อัลหาวีย์ อัลฟะตาวา เล่ม 2 หน้า 215)
ท่านอิมามอัสสะยูฏีย์ กล่าวว่า
قال ابن جريج فى مصنفه عن الحارث بن أبى الحارث عن عبيد بن عمير قال : يفتن رجلان مؤمن ومنافق ، فأما المؤمن فيفتن سبعا ، وأما المنافق فيفتن أربعين صباحا
"ท่านอิบนุ ญุรัยจ์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ มุซันนัฟของท่าน จาก อัลหาริษ บิน อบีลหาริษ จากท่านอุบัยด์ บิน อุมัยร์ ซึ่งเขากล่าวว่า มีบุรุษสองประเภทที่จะถูกถาม(ในกุบูร) คือ ผู้ที่ศรัทธาและผู้ที่กลับกลอก(มุนาฟิก) สำหรับผู้ที่ศรัทธานั้นจะถูกถาม 7 วัน และผู้ที่กลับกลอก(มุนาฟิก) จะถูกถาม 40 วันตอนเช้า"
ท่านอิมามอัสสะยูฏีย์ กล่าววิจารณ์ว่า
1. ท่านอุบัยด์ บิน อุมัยร์ คือ อัลลัยษีย์ นักสุนทรพจน์ของมักกะฮ์ ท่านอิมามมุสลิม กล่าวว่า เขาได้เกิดในสมัยของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และคนอื่น ๆ กล่าวว่า เขาได้เห็นท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวนี้ ย่อมชี้ให้เห็นว่าเขาคือซอฮาบะฮ์
2. สำหรับอัลหาริษ บิน อบีลหาริษ เขาคือ บุตรของ อับดุรเราะห์มาน บิน อับดิลลาฮ์ บิน สะอัด บิน อบีซัยยาบ อัดเดาซีย์ ซึ่งอิมามอัลบุคอรีย์ได้รายงานจากเขาไว้ในหนังสือ ค๊อลกุลอิบาด และท่านมุสลิมก็ได้รายงานจากเขาไว้ในหนังสือซอฮิห์ของท่าน
3. ท่านอิบนุญุรัยจ์ คือ อิมาม อับดุลเลาะฮ์ บิน อับดุลอะซีซ บิน ญุรัยจ์ อัลอะมาวีย์ ท่านอะห์มัดกล่าวว่า เขาคือคนแรกที่ทำการประพันธ์ตำราต่าง ๆ ขึ้นมา ท่านอิบนุ อุยัยนะฮ์ กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านอิบนุญุรัยจ์ กล่าวว่า ไม่มีผู้ใดที่ทำการบันทึกวิชาการเช่นฉันเลย และเขาได้รายงานจากบรรดาตาบิอีนมากมาย เขาเสียชีวิตในปี 149 ฮ.ศ. โดยมีอายุเกิน 100 ปี (สรุปจากหนังสือ อัลหาวีย์ ลิลฟะตาวา หน้า 216 - 613 )
ท่านอิมามอัสสะยูฏีย์ ได้กล่าวอธิบายอีกว่า
والإعتضاد ههنا موجود فإنه روى مثله عن مجاهد ، وعن عبيد بن عمير وهما تابعيان إن لم يكن عبيد صحابيا...وأما إذا قلنا بثبوت الصحبة لعبيد بن عمير فإن الحديث يكون مرفوعا متصلا من طريقه ، وأثر طاووس شاهد قوى له يرقيه إلى مرتبة الصحة
"ได้มีสิ่งที่มาสนับสนุนเกื้อกูลกันใน ณ (ที่หะดิษของท่านฏอวูส)นี้ เพราะได้มีการรายงานเหมือน(หะดิษฏอวูส) จากท่านมุญาฮิด , และจากท่านอุบัยด์ บิน อุมัยร์ ซึ่งทั้งสองเป็นตาบิอีน หากแม้นว่าท่านอุบัยด์ บิน อุมัยร์ ไม่ใช่ซอฮาบะฮ์ก็ตาม....แต่เมื่อเราได้กล่าวว่า การเป็นซอฮาบะฮ์ได้มีการรับรองให้แก่ท่านอุบัยด์ บิน อุมัยร์จริง ดังนั้น หะดิษจึงอยู่ในฐานะยกอ้างถึงท่านนบีโดยมีสายรายงานสืบเนื่องจากหนทางรายงานของเขา(คืออุบัยด์ บิน อุมัยร์) โดยที่ หะดิษของท่านฏอวูสนั้น มีสายรายงานมาสนับสนุนที่มีน้ำหนัก ซึ่งทำให้ยกระดับหะดิษของท่านฏอวูสให้อยู่ในระดับที่ซอฮิห์" (สรุปจากหนังสือ อัลหาวีย์ ลิลฟะตาวา หน้า 221 )
นั่นคือหลักพิจารณาหะดิษของ อิมามอัสสะยูฏีย์ นักปราชญ์อัลหะดิษท่านหนึ่งที่อยู่ในตำแหน่งอะมีรุลมุอ์มินีนฟิลหะดิษ
وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ