แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - ibnu ismail

หน้า: [1]
1
 :salam:
          ลองดูตัฟซีรของอายะห์นี้ดูครับ อายะห์ที่ 70 จากซูเราะห์ อัลอิสรออ์ 

          وَلَقَدْ كَرَّمْنَا بَنِي آدَمَ وَحَمَلْنَاهُمْ فِي الْبَرِّ وَالْبَحْرِ وَرَزَقْنَاهُم مِّنَ الطَّيِّبَاتِ وَفَضَّلْنَاهُمْ عَلَىٰ كَثِيرٍ مِّمَّنْ خَلَقْنَا تَفْضِيلًا

          ถ้าจำไม่ผิดมีกีตาบยาวีที่เคยเรียนนำอายะห์ที่เป็นหลักฐานครับ วัลลอฮุอะลัม

                         

2
 :salam:

     คำว่า الله นั้น คือชื่่อของซาตที่วายิบต้องมีและสมควรสำหรับทุกๆการสรรเสริญ คำว่า الله เดิมๆแล้วคือ اله (อีล่าฮุน) ตกอยู่บนวาซาน فعال (ฟีอฺ่าลุน) และคำว่า اله (อีล่าฮุน) เป็น اسم جنس สำหรับทุกๆสิ่งที่ถูกกราบไหว้ ถึงแม้ว่าจะเป็นพระเจ้าที่แท้จิงหรือไม่ก็ตาม และชาวอาหรับ(อุลามาอฺซอรอฟ)ก็ได้ทำการถอดอักษรฮัมซัฮ (الهمزة) ออก เพื่อที่จะให้คำดังกล่าวนั้นเบาขึน (ง่ายต่อการออกเสียง กล่าวคือ เวลาเติมอาลิฟลามลงไปจะได้ไม่ต้องอ่านว่า الاله (อัลอิล่าฮุ)แต่สามารถอ่านได้เลยว่า الله (อัลลอฮุ) ดังนั้นจึงกลายเป็น له (ล่าฮุน) จากนั้นอาลิฟลามก็ถูกเติมลงไปบนคำว่า  له (ล่าฮุน) เพื่อที่จะทำให้เป็นอีเซ่มมะอฺรีฟะห์ จึงกลายเป็น  الله (อัลลอฮุ) แต่อุลามาอฺซอรอฟบางท่านกล่าวว่า คำว่า الله เดิมทีแล้วคือคำว่า الاله (อัลอิล่าฮุ) จากนั้นฮัมซะห์ที่สองก็ถูกถอดออกไป เพื่อที่จะให้คำดังกล่าวนั้นเบาขึน จากนั้นลามตัวแรกก็ถูกผนวก(รวม)มาอยู่ในลามตัวที่สอง จึงกลายมาเป็น الله (อัลลอฮุ) และคำว่า الله ก็ได้ถูกใช้สำหรับพระเจ้าที่ถูกเคารพบูชาอย่างแท้จริง (المعبود بحق) เพราะคำว่า الله คืออีเซ่มที่มีความมะอฺรีฟะห์(คำนามที่ถูกเจาะจง)มากที่สุด (اعرف المعارف) วัลลอฮุอะอฺลัม

3
 :salam:

      ขอเริ่มด้วย قاعدة ยอดฮิตที่เมื่อไหร่เราเรียนกีตาบที่มีคำว่า الحمد โต็ะครูต้องเอา قاعدة นี้มาให้ทุกที

     ان ال الجنسية اذادخلث على مفرد ابطلث منه معنى الافراد٠ اه

       อาลิฟลาม อัลญจินซียะห์นั้น เมื่อไหร่ที่เข้าไปบนอีเซ่มมุฟรัด ความหมายมุฟรัดนั้นก็จะเป็นโมฆะ

       ตัวอย่างเช่นอาลิฟลามที่มีอยู่ในคำว่า الحمد เดิมทีแล้ว الحمد เป็นอีเซ่มมุฟรัด (คำเอกพจน์) แต่ในเมื่ออาลิฟที่มีอยู่ในคำนี้คือ ال للجنس จึงถูกให้ความหมายว่า บรรดาการสรรเสริญ
       และบรรดาการสรรเสริญนั้นมีอยู่สี่ประเภท
 
       1.حمدقديم لقديم การสรรเสริญของอัลลอฮสำหรับพระองค์เอง เช่นคำตรัสของพระองค์ที่ว่า إنني أنا الله لا إله إلا أنا فاعبدني
       2.حمدقديم لحادث การสรรเสริญของอัลลอฮสำหรับบ่าวของพระองค์ เช่นคำตรัสของพระองค์ที่ว่า نعم العبد انه اواب 
       3.حمدحادث لحادث การสรรเสริญของบ่าวอัลลอฮด้วยกันเอง เช่นการที่ท่านกล่าวชื่นชมถึงใครคนหนึ่งเป็นต้น
       4.حمدحادث لقديم การสรรเสริญของบ่าวสำหรับอัลลอฮ เช่นการที่เรากล่าวว่า الحمد لله

              والله اعلم اي والقريرالمذكورعندراءيي والله سبحانه وتعالى اعلم اي عالم بالصواب

         
       
 
     

4
 :salam:

       الذات (ตัวตน) ตามทัศนะของอูลามาอฺอูซูลุดดีน คือสิ่งที่สามารถดำรงอยู่ได้ด้วยตัวของมันเอง โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาหรือยึดติดกับสิ่งอื่น และถึงแม้ว่าสิ่งดังกล่าวนั้น (สิ่งที่สามารถดำรงอยู่ได้ด้วยตัวของมันเองนั้น) ต้องการสถานที่ หรือไม่ต้องการสถานที่ก็จะเรียกว่า"الذات" ดังนั้นตัวอย่างของซาตที่ต้องการสถานที่ก็คือซาตใบไม้ และตัวอย่างของซาตที่ไม่ต้องการสถานที่ก็คือ ซาตอัลลอฮ
       الصفة ตามทัศนะของอูลามาอฺอูซูลุดดีน คือสิ่งที่ไม่สามารถดำรงอยู่ได้ด้วยตัวของมันเอง แต่จำเป็นต้องพึ่งพาหรือยึดติดกับสิ่งอื่นหรือพูดง่ายๆว่าต้องพึ่งพาซาตนั่นเอง ไม่ว่าซาตที่มันพึ่งพานั้นจะเป็นซาตที่ต้องการสถานที่หรือไม่ก็ตาม ดังนั้นตัวอย่างของซีฟัตที่พึงพาซาตที่ไม่ต้องการสถานที่คือ ซีฟัตอัลลอฮ เช่น الوجود (เพราะอัลลอฮนั้นคือซาตที่ไม่ต้องการสถานที่) และตัวอย่างของซีฟัตที่พึ่งพาซาตที่ต้องการสถานที่คือ ซีฟัตของใบไม้ เช่น สี กลิ่น รสชาติของใบไม้ (เพราะใบไม่นั้นคือซาตที่ต้องการสถานที่) วัลลอฮุอะอฺลัม

5
 
     ชาวตะวันตก ได้ใช้ความพยายามทั้งสติปัญญาและร่างกาย จนทำให้พวกเขาสามารถสร้างความเจริญก้าวหน้าทางวัตถุด้วยกับสิ่งต่างๆขึ้นมาได้ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ เครื่องบิน ฯลฯ พวกเขาเหล่านั้นตั้งใจ และมุ่งมั่นในการใช้สติปัญญาที่มี จนกระทั่งทำให้เราเห็นได้ว่า พวกเขาไม่ทันที่จะคิดถึงเรื่องพระเจ้าเลย.ทุกวินาทีพวกเขาใช้สติปัญญาในการคิดค้นผลิตเครื่องมือต่างๆรุ่นแล้วรุ่นเล่า จนลืมที่จะนึกถึงผู้สร้าง ผู้ที่ให้สติปัญญาแก่พวกเขานั่นเอง.نعوذ بالله من ذلك ถ้าเปรียบเทียบกับมุสลิมเราแล้ว เป็นเพราะอิสลามไม่ได้ให้เราจริงจังกับการใช้สติปัญญาให้กับเรื่องเหล่านั้น  จึงทำให้เราไม่ลืมในพระผู้เป็นเจ้า ไม่ถึงกับทำให้เราตกอยู่ในกุฟูรต่ออัลลอฮ ซบ. เพียงแต่ว่า เป็นเพราะพวกเขาจริงจัง หรือเรียกได้ว่าถวายทั้งชีวิตให้กับการขวนขวายความสุขดุนยา เขาจึงมีความก้าวหน้า(ทางวัตถุ)มากกว่าเรา  ลองถามตัวเราเองดูซิว่า เราต้องการขวนขวายความสุขสบายของดุนยาเหมือนพวกเขาขนาดนั้นเลยเชียวหรือ? ถ้าต้องการ วิธีมันง่ายมาก นั่นคือ ทำเหมือนกับพวกเขา จงมุ่งมั่นและจริงจังกับมัน แล้วก็ลืมอัลลอฮ์ ซบ. แต่จงจำไว้เถิดว่า นรกรอเราอยู่.ด้วยเหตุนี้ อัลลอฮ์ ซบ. ได้ตรัสไว้ในอัลกรุอ่าน เพื่อที่จะไม่ให้เราถูกครอบงำกับคนเหล่านั้นว่า
  وَلَا تُعْجِبْكَ أَمْوَالُهُمْ وَأَوْلَادُهُمْ ۚ إِنَّمَا يُرِيدُ اللَّهُ أَن يُعَذِّبَهُم بِهَا فِي الدُّنْيَا وَتَزْهَقَ أَنفُسُهُمْ وَهُمْ كَافِرُونَ
   “และจงอย่าให้ทรัพย์สมบัติของพวกเขาและลูก ๆของพวกเขา เป็นที่พึงใจแก่เจ้า แท้จริงอัลลอฮ์ ทรงต้องการที่จะลงโทษพวกเขาด้วยสิ่งเหล่านั้นในโลกนี้ และที่จะให้ชีวิตของพวกเขาออกจากร่างไป ขณะที่พวกเขาเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาเท่านั้น” จากอายะห์นี้ เราสามารถเข้าใจได้ว่า อัลลอฮ ซบ. ตั้งใจ หรือพูดง่ายๆคือ แกล้งทำให้คนกาฟิรมีความเหนือกว่ามุสลิมในด้านการใช้สติปัญญา (กับเรื่องดุนยา) เพื่อที่จะทดสอบบ่าวของพระองค์ว่าสามารถอดทนได้แค่ไหน จะยังคงรำลึกถึงและทำตามคำสั่งพระองค์อีกหรือไม่ แต่ถ้าเราไม่ผ่านบดทดสอบนี้ แน่นอนเราก็จะหลงระเริง หมกมุ่นกับสิ่งเหล่านั้น และจะพยายามหาทางเอาชนะคนกาฟิร เพื่อที่ให้ได้มาซึ่งความสุขเพียงน้อยนิดของโลกดุนยา.หากพวกเขามีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโลโลยี อุมมัตอิสลามก็จะขวนขวายสิ่งนั้นด้วย มิหนำซ้ำยังจะไปแข่งกับพวกเขาอีก สุดท้ายอุมมัตอิสลามก็จะลืมอัลลอฮ์ ซบ. เช่นเดียวกับพวกเขาเหล่านั้นที่ลืมพระผู้เป็นเจ้า ผู้สร้างที่แท้จริง วัลลอฮุอะอฺลัม
     

   
   
         
     

6
 :salam: เอามาจากนิตยสารฉบับหนึ่งของมาเลเซีย เรื่องมันมีอยู่ว่า มีชายคนหนึ่งไปซื้อม้ามาตัวหนึ่ง คนขายได้สอนวิธีใช้งานของม้าต้วนั้นว่า เมื่อไหร่ที่ท่านต้องการให้มันไป(วิ่งหรือเดิน)ท่านจงกล่าวอัลฮัมดุลิลลาฮ์ และเมื่อไหร่ที่ท่านต้องการให้มันหยุดท่านจงกล่าวอัลลอฮฮุอักบัร....หลังจากซื้อม้าเสร็จ ชายผู้นั้นก็ทำตามวิธีการที่คนขายได้บอกไว้ ระหว่างทางที่เขากลับบ้านนั้นเขาได้เจอกับหลุมใหญ่กลางทาง ด้วยความตกใจและตั้งใจเขาได้กล่าว อัลลอฮฮุอักบัรออกมา ทันใดนั้นม้าก็หยุดลง ด้วยความดีใจและไม่ได้ตั้งใจ(ลืม)เขาได้กล่าวชูกูรต่ออัลลอฮว่า อัลฮัมดุลิลลาฮ์ แต่ม้ากลับเข้าใจว่าสั่งให้ไปต่อ ทั้งม้าและคนก็...... วัสสลาม 

7
จัดที่อาคารไหนคับ ผมวนอยู่หลายรอบแล้วหาไม่เจอ (ร้อนด้วย อิอิ)  boulay:

8
      فأما الضمة فتكون علامة للرفع
การรวมตัวนั้นตือสัญลักษณ์ของความสูงส่ง 

หน้า: [1]