แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - "Kamarutdin"

หน้า: [1] 2
1
พี่น้องโปรดพิจารณาครับว่า   บุตรนั้นเมื่อคลอดออกมา  หน้าที่ของวะลี  ผู้เป็นบิดา  ต้องทำการตั้งชื่อที่สวยงามประเสริฐ ๆ และมีความหมายดี ๆ ให้บุตรของตนที่คลอดออกมา  และบางครั้งอาจจะตั้งชื่อให้ตรงกับบุคคลให้ความเคารพรัก

ปรากฏว่า  บรรดาอิมามของชีอะฮ์  ตั้งชื่อบุตรของตนว่า  อบูบักร  , อุมัร , อุษมาน   

ใช่ครับ ไม่ว่าจะชนชาติใดๆในโลกนั้น การตั้งชื่อนั้น ย่อมต้องการ ความหมาย ความไพเระ และ ด้วยกับชื่อที่ดีจากบุคคลอันเป็นที่รักยิ่ง
ฉะนั้นการที่ท่านอะลี(รฏ)และบรรดาลูกหลานของท่านนั้น   ได้ทำการตั้งชื่อลูกหลานของตัวเองด้วยกับชื่อของเคาะลีฟะฮุรอซิดีนทั้งสามนั้น ย่อมเป็นการแสดงให้เห็นถึง ความรัก ความนับถือ และ การยอมรับ ในตัวของเคาะลีฟะฮุรอซิดีนทั้งสามอย่างเปิดเภยและเป็นการยืนยันอย่างชัดเจนว่าบรรดาลูกหลานของท่านอาลี(รฎ)นั้นไม่เคยประมาณสาปแช่งเคาะลีฟะฮุรอซิดีนทั้งสามเหมือนที่พวกชีอะหุทำกันในปัจจุบัน

2
จากส่วนหนึ่งของหนังสือเรื่อง อีมามอาลี เขียนโดย ท่าน ซัยยิด อบุล ฮะซัน อะลี นัดวี

ความรักของอะลุ้ลบัยตุ(ลูกหลานท่านนบี)ที่มีต่อเคาะลีฟะฮุสามคนแรก...

   ลูกหลานท่านบีต่างก็ยอมรับผลงานของเคาะลีฟะฮุสามคนแรกที่มีต่ออิสลาม ยะฮุยา บิน สะอิ๊ดเล่าว่า  มีคนสองสามคน
จากอีรัคได้มาเยี่ยม อะลี บิน ฮุเซน (ซัยนุล อาบีดีน) และได้พูดถึงเคาะลีฟะฮุสามคนแรกในทางที่ไม่ดี  เมื่อคนเหล่านั้น
พูดจบ ซัยนุล อาบีดีน ได้กล่าวว่า "ฉันขอยืนยันว่าพวกท่านไม่ใช่ผู้คนที่อัลลอฮุได้ทรงกล่าวไว้ในกรุอ่านว่า 'ข้าแต่พระผู้อภิบาลของเรา ได้ทรงโปรดอภัยเราและพี่น้องของเราผู้ที่ได้รับการศรัทธาก่อนหน้าเรา   และ  ทรงโปรดอย่าให้มีการเคียดแค้นในหัวใจของเราต่อบรรดาผู้ได้ศรัทธา    ข้าแต่พระผู้อภิบาลของเรา     แท้จริง พระองค์เป็นผู้ทรงอ่อนโยน   
ผู้ทรงเมตตาเสมอ'(1) อัลลอฮุจะทรงจัดการกับพวกท่านตามที่พระองค์ทรงประสงค์"(2)
   
   อุรวะฮุ บิน อับดุลลอฮุ รายงานว่า "ครั้งหนึ่ง ฉันได้ถามมุฮัมมัด อัลบากิรุ เกี่ยวกับการตกแต่งดาบให้สวยงาม เขาได้ตอบว่าไม่เป็นสิ่งเสียหายแต่ประการใดเพราะอบูบักรุ อัศศิดดีกก็ได้ทำเช่นนั้นเช่นกัน ฉันจึงได้กล่าวว่า"ท่านเรียกเขาว่าอัศศิดดีก"
เขาจึงยืนขึ้นทันทีพร้อมหันหน้าไปทางกิบละฮุแะกล่าวว่า 'ใช่ ฉันเรียกเขาว่าอัศศิดดีกและใครก็ตามที่ไม่ยอมรับว่าเขาเป็น
อัศศิดดีก ก็ขอให้อัลลอฮุทรงอย่าทำให้เขาเป็นผู้สัตย์จริงทั้งในโลกนี้และโลกหน้า"(3)

   เมาลา ญาบิรุ อัล ญะฟีเล่าว่าเมื่อเขาออกมาจาก มุฮัมมัด อัลบากิรุ ฝ่ายหลังได้กล่าวแก่เขาว่า "บอกชาวกูฟะด้วยว่าฉันไม่เอาด้วยกับพวกที่ไม่ยอมรับอบูบักรุและอุมัรู(อีกคำพูดหนึ่งของรายงานกล่าวว่า ใครเห็นเขาเป็นเรื่องตลก)"(4)

   มูฮัมมัด บิน อิสฮากกล่าวว่าครั้งหนึ่ง มุฮัมมัด อัลบากิรุ ได้กล่าวว่า "คนที่ไม่รู้จักความดีของอบูบักรุและอุมัรคือคนไม่รู้จัก
ซุนนะฮุ"(5)

   อบู คอลิด อัล อะฮ์มัรุกล่าวว่า ฉันได้ถามอัดุลอฮุ อัลมาเอซ บิน ฮะซัน อัลมุซันนา เกี่ยวกับอบูบักรุและอุมัรุ เขาได้ตอบว่า
"ขออัลลอฮุทรงประทานความเมตตาแก่เขาทั้งสอง  ใครก็ตามที่ไม่วิงวอนขอความจำเริญของอัลลอฮุให้แก่เขาทั้งสอง ก็ขอให้อัลลอฮุอย่าได้ทรงประทานความโปรดปรานแก่เขาผู้นั้น" หลังจากนั้น เขาก็กล่าวต่อว่า "ฉันไม่คิดว่าอัลลอฮุจะทรงฟังการสำนึกผิดของคนที่สาปแช่งเขาทั้งสอง"  อบูคอลิดเล่าด้วยว่าเมื่อใครทำให้นึกถึงเรื่องการลอบสังหารอุษมาน อับดุลลอฮุ อัลมาเอซ จะร้องไห้จนเคราและเสื้อเปียก(6)

(1)กรุอ่าน 59:10
(2)ศิฟาตุศ ศ็อฟวะฮุ เล่ม 2 หน้า 55
(3)ศิฟาตุศ ศ็อฟวะฮุ เล่ม 2 หน้า 185
(4)ศิฟาตุศ ศ็อฟวะฮุ เล่ม 2 หน้า 185
(5)ศิฟาตุศ ศ็อฟวะฮุ เล่ม 2 หน้า 185
(6)ตารีค ดามิชก์ หน้า 357-358

   

3
Assalam


                                                                       หากรู้ตัวว่ายัง "รัก" กันอยู่

                                                       ก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อที่จะรักษาคนคนนี้เอาไว้

                                                         อย่าทำ "คนที่เรารักหล่นหายไปจากชีวิต"
                                         
                                               เพียงเพราะไปยึดติดกับความเชื่อบางเรื่องที่ไม่ได้ทำให้ความรักดีขึ้น


4
คือมีคนฝากถามคำถามมาอ่ะครับรบกวน al-azhary ด้วยนะ ญะซากั้ลลอฮุค๊อยล๊อนนะครับ

"จำเป็นหรือไม่ที่เราต้องจุดกำยานมาตั้งไว้ใกล้คนตายน่ะ
แล้วทำไมผู้หญิงถึงห่อผ้าขาว 5 ชิ้น แต่ทำไมผู้ชายแค่ 3"

5
ท่านนี้อยู่ไหนหนังเรื่อง alexsander ปะ

ท่านอยู่ในหนังเรื่อง Kingdom of Heaven ครับผม ;)

คนแสดงเป็นเศาะลาฮุดดีน (ซาลาดิน) ชื่อ Ghassan Massoud ครับ ไม่รู่ว่าเป็นคนชาติอะไร ถ้าให้เดาน่าจะเป็น อียิป อ่ะครับ

6
งั้นผมขอถามต่อโดยแตกประเด็นเรื่องการทำงานในธนาคารที่ไม่ธนาคารอิสลามนะครับ ที่ผมส่งใสคือ บางอาจารย์ตอบทำได้ถ้าคุณไม่เกี่ยวข้องกับ การรับ การให้ การบันทึก การเป็นพยายาน ในเรื่องของดอกเบี้ย แต่บางอาจารย์(โดยเฉพาะพวกบีบี)บอกว่าไม่ได้โดยเด็ดขาด ผมเลยงง ว่าตกลงได้หรือไม่ได้ ถ้าได้นั้นมีเงี่อนไงใดบ้าง หรือว่าไม่ได้ในทุกกรณี รบกวนผู้รู้ด้วยนะครับ

7
  0 บุคคลทั่วไป, 7 สมาชิก
ผู้ใช้เมื่อ 15 นาทีที่ผ่านมา:
"Kamarutdin", ahmedisa, salamah, ลั๊ลลาชาดำ, al-um, al-azhary, Goddut
 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

วันนี้อยู่กันหลายคนเลยเฮะ.. ;D

8
สนทนาศาสนธรรม / Re: ถ้อยคำดี
« เมื่อ: ก.พ. 12, 2007, 11:51 AM »
ผมชอบบทกลอนนี้ของท่าน อีหม่ามซาฟีอี(ร่อฮิมุลลอฮุ) บทนี้ครับ...


 เขาถามไถ่ ใยฉันเงียบ เมื่อถูกด่า              ถูกกล่าวหา ว่าร้าย ให้เสียหาย

 ฉันตอบไป ว่าถ้าโต้ จะบานปลาย                เพราะเปรียบได้ คล้ายกุญแจ เปิดถึงกัน

 การนิ่งเงียบ ต่อคนโง่ คนสามหาว               เป็นทางยาว สู่เกียรติ ที่ใฝ่ฝัน

 ทั้งรักษา ในศักดิ์ศรี เป็นเกราะกัน               ไม่หุนหัน ฉันสุนัข ที่จัญไร

 ท่านจงดู ราชสีห์ น่าเกรงขาม                     ทุกผู้นาม เกรงกลัว ได้ไฉน

 ไม่เคยเห่า เคยหอน ใส่ผู้ใด                        แล้วไซร้ใย จึงมีเกียรติ เป็นราชันย์

 แต่สุนัข ที่ปากกว้าง เที่ยวเห่าหอน               กลับถูกต้อน ถูกปา ให้อาสัญ

 ไม่เป็นที่ กลัวเกรง ก็ฉันนั้น                        ฉันจึงเงียบ เปรียบได้ คล้ายสิงโต

9
   อัสลามมุอลัยกุมฯ ครับเพื่อนสมาชิก sunnahstudents.com

วันนี้มีเรื่องรบกวนผู้รู้ที่อยู่อียิปหรือไม่ได้อยู่ที่อียิปแต่รู้ก็ได้ครับ  ผมสงใสมานานแล้วว่า ศรีษะของท่าน ฮุเซน อิบนุ อาลี(รฎ) ไปถูกฝังที่อียิปได้อย่างไร? เพราะศรีษะท่าน ฮุเซน(รฎ) นั้นถูกนำไปให้ ยะซีด บินมุอาวิยะห์ ที่ซีเรีย  แล้วมัสยิด ฮุเซน ที่อียิปเนี้ยเป็นมัสยิดของพวกเราซุนนี่ หรือ ว่าเป็นมัสยิดของพวก รอฟิเฎาะฮุ(ชีแอบ) ครับ รบกวนผู้รู้ด้วยนะครับ..

ญะซากั้ลลอฮูค๊อยล๊อน ล่วงหน้าครับ

10
       ผมได้ยินท่านอาจารย์ อรุณ บุญชม ได้กล่าวไว้ประมาณว่า"อาจารย์แต่ละรุ่นก็เหมือนนักกีฬาวิ่งพลัด อาจารย์แต่ละท่าน

ตั้งแต่สมัยซอฮาบะห์ ตาบีอีน ตาบิอิดตาบิอีน และหมู่ชนสะลัฟ มีจุดประสงค์เดียวกัน คือ ต้องการจะพาให้ทุกๆคนไปถึงเส้นชัย

เหมือนกัน แต่อาจารย์บ้านเรากลับชอบที่จะถกเถียงใจในสนามแข่ง ถกเถียงกันในเรื่องคิลาฟิยะที่มีมาเป็นพันๆปีแล้ว เอา

มาใส่ร้ายกัน ประณามกัน จนทำให้ก่อเกิดปัญหาและช่องว่างให้ฝ่ายอื่นเค้าโจมตี และ หาโอกาสที่จะสวมรอยเราโดยพวก

คริสเตรียนและพวกลัทธิบิดเบื้อนศาสนา"
       
       ผมได้ฟังแล้วก็เห็นด้วยกะท่านเป็นอย่ายิ่ง...

ปล.ทุกๆตัวอักษรอาจจะไม่เหมือนที่ท่านอาจารย์ อรุณ บุญชม พูดทุกคำ แต่ใจความประมาณนี้จริงๆครับ


ในเมืองไทย อ.อรุณ บุญชม เป็นอาจารย์ท่านหนึ่งในดวงใจของผมครับ


   เหมือนกันเลยครับ นอกจากอาจารย์ อิสมาแอล วิสุทธิปราณี(รอฮิมุลลอฮุ) ผมก็มีอาจารย์ อรุณ บุณชม นี้แระครับที่เป็อาจารย์ในดวงใจผมอีกคนนึง ผมชอบแนวทางการสอน บุคคลิค การว่างตัวของ อาจารย์ครับ
   ถ้าเมืองไทยจะมุฟตีซักคน ผมก็หวังว่าจะเป็นท่านอาจารย์ อรุณ บุญชม คนนี้แระครับ

11
แสดงว่า ใจยังว่าง  ;D

พูดงี้แสดงว่าคุณนูรุ้ลอิสลาม โยนหินถามทางรึเปล่าคร๊าบ.. ;)

น้อง ?εΐз?..เจ้าหญิงแห่งดอกไม้..?εΐз?  ยังงงว่า โยนหินถามทาง หมายถึงอะไร? อย่าว่าแต่น้องเลย บังเองก็ยังงง  แต่สังสัยว่า มันเป็นการปูทางไปสู่..........อะน่ะ ;D

เกลียดนักคนรู้ทัน.. ;D ;D ;D

12
มุมตะเซาวุฟอิสลาม / Re: إن كنت تريد...
« เมื่อ: ก.พ. 08, 2007, 12:23 AM »
إن كنت تريد وليا، فكفى بالله ولياً

หากท่านปรารถนาผู้คุ้มครอง ดังนั้น เพียงพอสำหรับอัลเลาะฮ์เป็นผู้คุ้มครอง

إن كنت تريد أنيساً، فكفى بالقرآن الكريم أنيساً

หากท่านปรารถนาเพื่อนสนิท ดังนั้น เพียงสำหรับอัลกุรอานทรงเกียตริมาเป็นเพื่อนสนิท

إن كنت تريد مالاً، فكفى بالقناعة كنزاً

หากท่านปรารถนทรัพสิน ดังนั้น เพียงพอสำหรับความพอเพียงมาเป็นคลังทรัพย์

إن كنت تريد عدواً، فكفى بالنفس عدواً

หากท่านปรารถนาศัตรู ดังนั้น เพียงพอสำหรับอารมณ์นัฟซูมาเป็นศัตรู

إن كنت تريد واعظاً، فكفى بالموت واعظاً

หากท่านปรารถนาสิ่งเตือนใจ ดังนั้น เพียงพอสำหรับความตายมาเป็นสิ่งเตือนใจ"


ซึ้งจับใจจริงๆครับ ขออนุญาติเซฟนะครับ.. ;D

13
       ผมได้ยินท่านอาจารย์ อรุณ บุญชม ได้กล่าวไว้ประมาณว่า"อาจารย์แต่ละรุ่นก็เหมือนนักกีฬาวิ่งพลัด อาจารย์แต่ละท่าน

ตั้งแต่สมัยซอฮาบะห์ ตาบีอีน ตาบิอิดตาบิอีน และหมู่ชนสะลัฟ มีจุดประสงค์เดียวกัน คือ ต้องการจะพาให้ทุกๆคนไปถึงเส้นชัย

เหมือนกัน แต่อาจารย์บ้านเรากลับชอบที่จะถกเถียงใจในสนามแข่ง ถกเถียงกันในเรื่องคิลาฟิยะที่มีมาเป็นพันๆปีแล้ว เอา

มาใส่ร้ายกัน ประณามกัน จนทำให้ก่อเกิดปัญหาและช่องว่างให้ฝ่ายอื่นเค้าโจมตี และ หาโอกาสที่จะสวมรอยเราโดยพวก

คริสเตรียนและพวกลัทธิบิดเบื้อนศาสนา"
       
       ผมได้ฟังแล้วก็เห็นด้วยกะท่านเป็นอย่ายิ่ง...

ปล.ทุกๆตัวอักษรอาจจะไม่เหมือนที่ท่านอาจารย์ อรุณ บุญชม พูดทุกคำ แต่ใจความประมาณนี้จริงๆครับ

14
                                                 กาชาดออกประกาศ ให้พยาบาลมุสลิมคลุมฮิญาบได้

          หลังจากปัญหาเรื่องการคลุมฮิญาบของมุสลิมะห์ที่ต้องอยู่ในเครื่องแบบพยาบาล ได้เป็นข้ออ้างของพี่น้องมุสลิมะห์มานานแล้วว่า "ไม่สามารถคลุมฮิญาบได้เนื่องจากต้องปฏิบัติตามระเบียบการแต่งกายของทางราชการ" ขณะที่พี่น้องพยาบาลมุสลิมะห์ในภาคใต้สามารถยืนหยัดในหลักการของศาสนา จนทำให้พวกนางได้รับการยอมรับในเครื่องแบบพยาบาลที่มีผ้าคลุมฮิญาบ อย่างสวยงามตามคำบัญชาของพระเจ้า
         แต่ขณะนี้อุปสรรค และข้ออ้างเหล่านี้ไม่สามารถจะทำมาอ้างได้อีกแล้ว เนื่องจาก สภากาชาดได้ออกระเบียบใหม่ ว่าด้วย เครื่องแบบและการเบิกจ่ายเครื่องแบบเจ้าหน้าที่และลูกจ้างประจำสภากาชาดไทย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2549 ได้ยอมรับให้การแต่งการตามหลักการศาสนาอิสลาม เป็นระเบียบที่มีการบังคับใช้ในหน่วยงานราชการของสภากาชาดไท ดังรายละเอียดต่อไปนี้...


 
                                                                    ระเบียบสภากาชาดไทย
                                                                                 ว่าด้วย

เครื่องแบบและการเบิกจ่ายเครื่องแบบเจ้าหน้าที่และลูกจ้างประจำสภากาชาดไทย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙

......................................


     โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสภากาชาดไทย ว่าด้วย เครื่องแบบและการเบิกจ่ายเครื่องแบบเจ้าหน้าที่และลูกจ้างประจำสภากาชาดไทยให้เหมาะสมยิ่งขึ้น

     อาศัยอำนาจคณะกรรมการบริหาร ตามข้อยังคับสภากาชาดไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๖๕) พ.ศ. ๒๕๔๖ ข้อ ๓๓ ทวิ โดยคณะกรรมการเจ้าหน้าที่ ในการประชุมครั้งที่ ๑๐ /๒๕๔๙ เมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๔๙ จึงมีมติให้วางระเบียบไว้ต่อไปนี้

    ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า ?ระเบียบสภากาชาดไทย ว่าด้วยเครื่องแบบและการเบิกจ่ายเครื่องแบบเจ้าหน้าที่และลูกจ้างประจำสภากาชาดไทยฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙

    ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

    ข้อ ๓ ให้ยกเลิกและเพิ่มความในข้อ ข. แห่งข้อย่อย ๖. ๒ ของข้อ ๖ และเพิ่มเติมความใหม่เป็นข้อย่อย ๘.๓ ของข้อ ๘ ดังนี้

    ข้อ ๖ เครื่องแบบเจ้าหน้าที่สำหรับใช้ในพิธีรับเสด็จ

            ๖.๒ เครื่องแบบเจ้าหน้าที่หญิงมี ๓ ประเภท คือ

                   ข. เครื่องแบบพยาบาล ชุดเครื่องแบบสีขาวต่อเอว เสื้อปกแบะ กระดุมเจาะแขนยาวเบิ้ลปลายแขน กระโปรง ๔ ชิ้นหรือ ๖ ชิ้นยาวคลุมเข่า สาวถุงน่องเต็มตัวสีขาว รองเท้าขาว ต้นแขนซ้ายประดับเครื่องหมายกาชาด กลัดเข็มเครื่องหมายกาชาดหว่างอก

    สำหรับเครื่องแบบพยาบาลแบบมีผ้าคลุมศรีษะ ให้กระโปรงมีความยาวคลุมข้อเท้า คลุมศรีษะด้วยผ้าสีขาว ผ้าคลุมด้านหน้ายาวถึงระดับหน้าอก ขอบผ้าเย็บเรียบ และสามารถยึดติดกับหมวกโดยให้สวมหมวกทับ

   ข้อ ๘ ชุดปฏิบัติงาน

        ๘.๓ ชุดปฏิบัติงานสำหรับเจ้าหน้าที่หญิงแบบมีผ้าคลุมศรีษะ ประกอบด้วย

                ก. เสื้อ ดัวนอกสีกรมท่า ตัวในสีขาวนวลให้เป็นไปตามแบบสภากาชาดไทยกำหนด

               ข. กระโปรง สีกรมท่า ลักษณะทรงตรงหรือเข้ารูปยาวคลุมข้อเท้า

               ค. ผ้าคลุมศรีษะ สีขาว ผ้าคลุมด้านหน้ายาวถึงระดับหน้าอก ขอบผ้าเย็บเรียบ

                         
                                           ระเบียบนี้ให้ไว้ ณ วันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๙
                                                                    (นายแผน วรรณเมธี)
                                                                เลขาธิการ ปฏิบัติการแทน
                                                       อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย


โดย : ประชาชาติอิสลามออนไลน์

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     อัลฮัมดุลิลละห์  อ่านแล้วก็ดีใจแทนมุสลีมะห์ ที่เป็นพยาบาลในบ้านเราด้วยนะครับ อัลลอฮุ ทรงเปิดทางให้ท่าน สะดวก ง่ายดายในการแสดงออกซึ่งความจงรักภักค์ดีต่อพระผู้ทรงพระผู้อภิบาลของเรา...

15
แสดงว่า ใจยังว่าง  ;D

พูดงี้แสดงว่าคุณนูรุ้ลอิสลาม โยนหินถามทางรึเปล่าคร๊าบ.. ;)

หน้า: [1] 2