แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - habebe143

หน้า: [1] 2 3 ... 9
1
มุมมุสลิมะฮ์ / Re: ครัวมุสลิมะฮ์
« เมื่อ: พ.ค. 05, 2010, 04:10 PM »
วันนี้ทำเนื้อคั่ว


เลยเอามาให้ชม


แต่ใสเครื่องปรุงมั่วเกิน


แต่อัลฮัมดูลิลลาฮ กินได้
 55+

2
บทความ / Re: ไม่เป็นไรหรอกน่า..
« เมื่อ: เม.ย. 23, 2010, 06:35 PM »
ไม่รู้ตจะอยูได้ถึง พรุ่งนี้มั้ย

3
บทความ / Re: ไม่เป็นไรหรอกน่า..
« เมื่อ: เม.ย. 23, 2010, 06:34 PM »
ไม่เป๋นไร
นิดเดวเอง
พรุ่งนี้ค่อยเตาบัต

เหอะๆๆ

4
สนทนาศาสนธรรม / Re: แฟนคือ.........................
« เมื่อ: เม.ย. 21, 2010, 08:03 PM »
รักแท้ แพ้มะฮัร

ทำไมเขาถึงตั้งสินสอดแพงๆๆ เป๋นหน้าเป๋นตา หรือว่า คิดว่าให้ความมั่นคงแก่ตัวเอง หรือว่าเป็นแฟชั้น


ทำไมไม่คิดกันบ้างว่า คนดีดี แล้วถ้าเขาจน ไม่มีตังค เราไม่เสียดาย กันเลยหรอ
เห้อ

5
Islam in my life
อันนี้มะเคย อ่าน
อยากอ่านเหมือนกาน

6
มุมมุสลิมะฮ์ / Re: muslim-shop
« เมื่อ: เม.ย. 21, 2010, 02:48 PM »
งั้นไว้ ทำงาน
อย่าลืม มาสั่ง ผ้าคลุม หัว จากพี่นะ 555+

7
บทความ / เส้นทางสู่ชัยชนะ
« เมื่อ: เม.ย. 21, 2010, 01:52 PM »
โดยอิบนุอาลี อัลนัดวีย์

 

เส้นทางสู่ชัยชนะ



เมื่อไม่กี่วันมานี้  มีการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างทหารอิสรอเอลกับพี่น้องของเราชาวปาเลสไตน์  ทำให้มีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์การปะทะกันครั้งนี้เป็นจำนวนมาก สาเหตุของการปะทะกันเนื่องจากว่ารัฐบาลอิสรอเอลต้องการยึดมัสยิดอัลอักศอ ให้อยู่ในอำนาจของตน  โดยกระทำการทำลายล้างแหล่งศาสนสถานที่สำคัญของพวกเราชาวมุสลิม  เหตุการณ์ครั้งนี้พี่น้องของเราทั้งในตุรกี เยเมน จอร์แดน และตลอดจนประเทศต่างๆ ทั่วโลก  ต่างขึ้นคุฎบะฮ์ปราศรัยตามมัสยิด  และสถานที่สำคัญอื่นๆ  เพื่อประท้วงการกระทำของยิวหัวรุนแรงที่กระทำต่อพี่น้องของเราชาวปาเลสไตน์ ...  แสดงถึงความตื่นตัวของพี่น้องมุสลิมต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้เพื่อแสดงจุดยืนและเรียกร้องเพื่อปลุกให้รัฐบาลและพี่น้องมุสลิมทุกคนได้ตื่นขึ้นจากการหลับใหล ให้ลุกขึ้นเพื่อต่อสู้และช่วยเหลือ อัลกุดส์ให้พ้นจากน้ำมือของยิวโฉดผู้ป่าเถื่อน ...  แล้วอะไรล่ะ คือหนทางแห่งการต่อสู้ ช่วยเหลือและการได้รับชัยชนะ ?

หากเราพิจารณาสักนิด  ว่าในโลกใบนี้มีสองกฎ  ซึ่งกฎข้อหนึ่งคือกฎธรรมชาติที่พระผู้เป็นเจ้าสร้างมา  และเลือกมันเป็นครรลองในการดำรงชีวิตของมนุษย์  คือ  สิ่งที่มีจำนวนมากและเข้มแข็งกว่า  ย่อมชนะสิ่งที่มีจำนวนน้อยและอ่อนแอกว่า  ความมีเกียรติ  ความร่ำรวย  ย่อมมีชัยเหนือความต่ำต้อยและความยากจน  สิ่งต่างๆ เหล่านี้คือกฎที่อัลลอฮฺตะอาลานั้นได้สร้างขึ้นมา  โดยที่มันนั้นมิเคยเปลี่ยนแปลงธรรมชาติของมัน  แม้ว่ามันจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยก็ตาม  ไฟที่มันร้อนมันก็ยังคงใช้ความร้อนของมันแผดเผาและทำอันตรายสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวมันได้ทุกครา  น้ำก็เช่นเดียวกัน  มันยังคงดับกระหายและให้ความเปียกชื้นแก่สิ่งที่มันประสบ  ซึ่งสิ่งดังกล่าวนี้มันเป็นความยุติธรรมที่อัลลอฮฺตะอาลานั้นได้มอบให้บ่าวของพระองค์  โดยที่สิ่งต่างๆ เหล่านี้เมื่อมันประสบกับใครแล้ว  มันไม่สามารถแยกแยะหรือจำแนกได้เลยว่า  คนๆ นั้นจะเป็นที่ยิ่งใหญ่หรือต่ำต้อย  เป็นคนดีหรือคนเลว  เป็นคนที่ฟื้นฟูหรือทำลาย  เป็นคนที่อีหม่านหรือปฎิเสธ ...  หากมันประสบกับใครแล้ว มันมิเคยเกรงกลัวเลยว่าบั้นปลายของมันนั้นจะเป็นเช่นไร ......

และเช่นเดียวกันหากเราได้มองย้อนสักนิดถึงการพิชิตและชัยชนะของการต่อสู้กันของผู้คนในอดีต  เราก็จะพบว่าอาณาจักรหรือแคว้นใดในอดีตที่มีพละกำลังและอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เหนือกว่า  อาณาจักรนั้นแคว้นนั้นย่อมได้เปรียบและมีชัยในการทำศึก  กฎที่อัลลอฮฺตะอาลาได้สร้างขึ้นซึ่งเป็นที่ประจักษ์แก่มนุษย์ทั้งหลายว่ามันคือความสัจจริงและเป็นแก่นแท้ในการดำรงชีวิตอยู่ ณ โลกใบนี้  ก็คือ  ความเข้มแข็งย่อมชนะความอ่อนแอ ....

แต่ทว่ามีอีกกฎหนึ่งที่เป็นกฎที่บรรดานบีทั้งหลายและบรรพชนของเราชาวสลัฟศอลิฮ์ได้ยึดมั่น  นั่นคือ  กฎแห่งอีหม่านและการยึดมั่นศรัทธาต่ออัลลอฮฺ  ซึ่งเป็นกฎแห่งทางนำที่อัลลอฮฺตะอาลานั้นได้มอบไว้แก่บ่าวที่ศรัทธาต่อพระองค์เพียงผู้เดียว  และเป็นกฎที่พระองค์นั้นได้สร้างบ่าวของพระองค์มา  “และฉันมิได้สร้างญินและมนุษย์มาเพื่ออื่นใด นอกจากเพื่อที่จะให้เขาภักดี” (อัชชาริยาต : 56)  ดังนั้น  เมื่อสองกฎนี้มาเผชิญกัน  กฎแห่งทางนำที่อัลลอฮฺมอบให้แก่มนุษย์นั้นย่อมเหนือกว่า จะเห็นได้จากไฟ  หน้าที่ของมันคือการแผดเผาทุกสิ่งทุกอย่าง  มันทำหน้าที่นี้มานับพันๆปี  โดยมิได้มีการบันทึกไว้บนหน้าประวัติศาสตร์มนุษยชาติเลยว่าไฟนั้นจะหยุดแผดเผาเนื่องจาก  คนๆนั้นเป็นกษัตย์หรือเป็นคนที่มีอำนาจ แต่ทว่าเมื่อกฎแห่งทางนำซึ่งอัลลอฮฺได้สร้างมนุษย์มาเพื่อดำรงอยู่บนหน้าแผ่นดินได้เผชิญกับกฎแห่งธรรมชาติที่อัลลอฮฺสร้างขึ้น  เพื่อรับใช้มนุษย์ โดยจากคุณสมบัติของไฟจากที่ให้ความร้อน  อัลลอฮฺก็ทรงถอดถอนธรรมชาติของมันและได้สั่งให้มันนั้นจำนนต่อกฎแห่งทางนำ  โดยที่พระองค์นั้นได้สั่งมันให้เกิดขึ้นแล้วครั้นเมื่อท่านนบีอิบรอฮีมได้ถูกกษัตริย์นัมรูดจับมานั่งบนกองเพลิงจุดไฟเผา  อัลลอฮฺตะอาลาได้สั่งว่า “เรา (อัลลอฮฺ) กล่าวว่า ไฟเอ๋ย จงเย็นลงและให้ความปลอดภัยแก่อิบรอฮีมเถิด” (อัล อัมบิยาอฺ :69 )

และหากเรามองย้อนกลับไปสักนิด  และนึกถึงสมรภูมิบะดัร  ซึ่งเราก็เคยได้ยินได้ฟังมาแล้วตั้งแต่ครั้นยังเป็นเด็ก ว่ามุสลิมมีจำนวนน้อย  ทั้งชาวมุฮาญิรีนและชาวอันศอร  รวมๆกันแล้วมีเพียงสามร้อยสิบสามคน  ส่วนพวกกุฟฟารชาวมักกะฮ์มีจำนวนมากกว่าทั้งในด้านอาวุธยุทโธปกรณ์และพลทหาร  พวกเขามีกำลังและอาวุธเหนือกว่า   ซึ่งท่านรอซู้ล ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัมก็รู้ดีว่า  หากพิจารณาถึงกฎแห่งธรรมชาติที่อัลลอฮฺสร้างขึ้นแล้ว  แน่นอนมุสลิมไม่มีทางได้รับชัยชนะเหนือเหล่าศัตรูอย่างแน่นอน .....

แต่ทว่าท่านได้ยืนขึ้นในยามค่ำคืนแล้ววิงวอนขอดุอาอฺต่ออัลลอฮฺ  เนื่องจากท่านนบีรู้ว่าการช่วยเหลือนั้นมิได้มาจากสิ่งใดนอกจากอัลลอฮฺ  ท่านนบีรู้ว่าอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้สร้างกฎธรรมชาติมา  ฉะนั้นพระองค์ก็สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งดังกล่าวได้  ท่านนนบีจึงวิงวอนต่ออัลลอฮฺด้วยคำถ้อยคำที่ว่า  “โอ้ อัลลอฮฺ ฉันวิงวอนขอต่อพระองค์ หากกลุ่มชนชาวอิสลามนี้ได้พินาศ  จะไม่มีใครที่ภักดีบนหน้าแผ่นนี้”  และอัลลอฮฺก็ได้ทำให้สิ่งที่ท่านนบีขอนั้นเป็นความจริง  ความจริงที่อัลลอฮฺนั้นได้ทำให้ความน้อยนั้นได้มีชัยเหนือความมาก  กองทัพของกาเฟรที่ดูเหมือนจะเข้มแข็งและเหนือกว่ามุสลิมในทุกๆด้าน  กลับต้องยอมจำนนและพ่ายแพ้ไปในที่สุด  เป็นที่ชัดแจ้งแล้วว่า  กฎแห่งการศรัทธานั้นย่อมมีชัยเหนือกฎแห่งธรรมชาติ .... “และแน่นอน อัลลอฮฺนั้นได้ช่วยเหลือพวกเจ้าที่บะดัรมาแล้ว  ทั้งๆที่พวกเจ้าเป็นพวกด้อยกว่า  ดังนั้นพวกเจ้าพึงยำเกรงอัลลอฮฺเถิด  เพื่อว่าพวกเจ้าจักขอบคุณ”  (อะละอิมรอน : 123 )

และทั้งหมดที่กล่าวมานี้  คือสิ่งที่เราทุกคนต้องหันกลับมาทบทวนตัวเองโดยการนำเอาประวัติศาสตร์ของบรรพชนอิสลามที่พวกเขาได้ต่อสู่กับศัตรูของอิสลาม  ด้วยกับอีหม่านและหลักการศรัทธาที่ยึดมั่นและเข้มแข็ง  ซึ่งมันเป็นอาวุธชิ้นสำคัญที่ใช้ต่อสู้ปะหัตปะหารกับศัตรูของอิสลามได้  และทำให้พวกเขาได้รับชัยชนะมาแล้ว  พวกเขาทั้งหลายเป็นดั่งราชสีห์เมื่ออยู่ในสมรภูมรบ  แต่เป็นดั่งบ่าวผู้ต่ำต้อยเมื่อครั้นหน้าผากจรดลงพื้นสุญูดวิงวอนขอชัยชนะต่ออัลลอฮฺในยามค่ำคืน  และนั่นคือชัยชนะที่เกิดขึ้น  ซึ่งมันมิได้เกิดขึ้นเนื่องจากมีอาวุธและกำลังพลมากมาย  หากแต่มันเกิดขึ้นเนื่องจากพวกเขามีหัวใจที่อีหม่านและศรัทธาต่ออัลลอฮฺและยึดมั่นในแนวทางของพระองค์และเชื่อว่าชัยชนะนั้นมาจากการช่วยเหลือของอัลลอฮฺตะอาลาเพียงพระองค์เดียว  และเมื่อใดพวกเราในยุคปัจจุบันทำได้เฉกเช่นที่กล่าวมา  เมื่อนั้นอัลกุดส์ก็จะกลับมาเป็นของเราชาวมุสลิมอีกครั้งหนึ่ง  อินชาอัลลอฮฺ!

“لاحول ولا قوة الا بالله العلي العظيم”

“ไม่มีอำนาจและพลังใดใดที่เหนือว่าอำนาจและพลังของอัลลอฮฺผู้ทรงสูงส่งและยิ่งใหญ่”



8
มุมมุสลิมะฮ์ / Re: muslim-shop
« เมื่อ: เม.ย. 20, 2010, 11:56 PM »
ไม่สนใจ สั่งให้ แม่หรือค่ะ

9
บทความ / Re: บทความดีๆง่ายกับยาก
« เมื่อ: เม.ย. 20, 2010, 10:04 PM »
สวรรคไม่ง่ายแต่ก้อไม่ยาก
อย่าอยู่แบบคนที่ได้แต่เอ๋ยขอ โดยไม่ลงทุนทำอะไรเลย ทำซิ ทำให้มาก ๆ สวรรคก้อไม่ยาก แต่ถ้าไม่ทำแม้ แต่นบีก้อก้อช่วยไม่ได้ สวรรคก้อไม่ง่ายเช่นกาน


จากหนังสือเขาคุยอารายกัน

10
รูป สวยๆๆจัง


อยากไปบ้าง
อิอิอิ

11
สนทนาศาสนธรรม / Re: แฟนคือ.........................
« เมื่อ: เม.ย. 20, 2010, 09:01 PM »
หรอ แนะนำมาสิ สักคน

หรือว่า คนที่ชื่อ อิลฮาม
ฮ้าๆๆๆ  party:

12
สนทนาศาสนธรรม / Re: แฟนคือ.........................
« เมื่อ: เม.ย. 20, 2010, 08:33 PM »
เพ้อมากหรือเปล่าเรา

อยากได้คนดีดี


อยากได้คนดี
มันผิดหรอ


ที่เรา เฝ้า คอย หา คนดีดี


แต่ จะรู้ได้อย่างไร ว่าเขา คือคนดี

ปรึกษาอัลลอลฮ

13
สนทนาศาสนธรรม / Re: แฟนคือ.........................
« เมื่อ: เม.ย. 20, 2010, 08:31 PM »
แฟน คือ


อยู ๆๆก้อมีภาระ ต่อกัน
ต้องคิดถึงเขา
ต้องโทร หาเขา
ต้องเอาใจใส่เขา
ต้องเพ้อเขา
ถ้าไม่ใช่คือ เสียใจ
ผิดหวัง มากๆๆคือเครียด

เครียดแล้วเข้าหาอัลอลลฮ




นิกะฮ เลยดีก่า มะต้อง มา นั่งหาแฟน
แล้วเรา ค่อย ว่ากัน


อยากนิกะฮฺ

14
มุมมุสลิมะฮ์ / Re: ครัวมุสลิมะฮ์
« เมื่อ: เม.ย. 20, 2010, 11:59 AM »
ก่อน กินข้าว ต้องล้างมือแล้วกล่าวบิสมิลลาฮ ค่ะ

15
อัลกุรอาน / Re: Al-quran flash 30 ยุซ
« เมื่อ: เม.ย. 19, 2010, 09:04 PM »
กำปงดูกู คือ อาราย

หน้า: [1] 2 3 ... 9