9
« เมื่อ: ต.ค. 12, 2007, 03:41 PM »
ขอความสุขศานติ จากอัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา จงมีแต่ทุกท่านครับ ก็นึกว่ากระทู้คงจะยุติลงแล้ว แต่จากการถามของคุณอัล-ฟาตอนี และคุณอาจารย์ อัล-อัซฮารีย์ ยังมีข้อกังขาอยู่ เรื่องปัญหาของอิหม่ามในการนำละหมาดประจำเวลา ๕ เวลานั้น ขอเรียนว่า ที่ผมไปเห็นมาครั้งแรกนั้น คือเมื่อปี พ.ศ. 2499 เคยเห็นลานตอว๊าฟ ยังแคบนิดเดียว เคยตั้งข้อสังเกตุว่า ความห่างระหว่างกำแพงรั้วเขตของฮาญะลอิสมาอีล ถึงขอบลานตอว๊าฟไม่เกิน 30 ก้าว (หมายถึงลานตอว๊าฟ เมื่อ 50 ปีก่อนนั้นยังไม่ได้ขยายกว้างเท่าขณะนี้ ) ที่ขอบ โดยรอบลานตอว๊าฟนั้น มี "มะกอม" ตั้งอยู่ห่าง ๆ กัน 4 มะกอมใคร ๆ ในสมัยนั้น เรียกว่า มะกอมอิหม่ามทั้งสี่ คือ 1. ฮำบะลี 2. มาลีกี 3. ฮะนาฟี 4. ชาฟิ-อี ลักษณะของสิ่งปลูกสร้างที่เรียกว่า "มะกอม" นั้น เท่าที่ผมมองดู และจำได้ว่า เป็นสิ่งปลูกสร้างง่าย ๆ คือนอกจากเสา 4 ต้น กว้างยาวคงจะประมาน 3 คูณ 3 เมตร เท่านั้น และก็มีหลังคาเท่านั้น รั้วรอบก็ไม่มี ผมขอเปรียบเทียบโดยมิได้มีเจตนาดูหมิ่น เหยียดหยามนะครับ ขอสาบาน والله ว่าลักษณะคล้ายศาลาในที่ต่าง ๆในเมื่องไทยนี่แหละ จากการบอกเล่า ของคนที่อยู่ก่อนผมไป ก็บอกว่า มันคือที่สอนหนังสือของ ครูอาจารย์ในสังกัตของมัสฮับเหล่านั้น ตามชื่อของอิหม่ามประจำ "มะกอม" เหล่านั้น ผมขอเน้นนะครับการบอกเล่าของผมนี้ คือเหตุการณ์ที่ผมได้เห็น เมื่อ 50 ปีเศษ นี่เอง และก็ในปีที่ผมเห็นนั้น ก็มิได้มีการสอนหนังสือตามแนวทางความคิเห็นของท่านอิหม่ามเหล่านั้น แต่อย่างใด คงเป็นสิ่งก่อนสร้างเพื่อการรำลึกถึงเท่านั้น ผิดกับ "มะกอม อิบรอฮีม" ซึ่งตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงข้ามประตู "บัยติลลาฮ์" ซึ่ง " มะกอม อิบรอฮีม" นี้จะมีความสวยเด่นเป็นสง่าแม้ว่า ขนาดจะเท่ากัน แต่หลังคาของ "มะกอมนี้" มีโดยขนาดพอเหมาะตัวมะกอมอยู่ข้างบน ที่นี่จะมีคนคอยแย่งกันเข้าไปละหมาดสุนัดไม่ขาดระยะ เพราะนอกจากจะเป็นที่ถูกขนานนามว่ามะกอมอิบรอฮีม อะลัยฮิสสลามแล้ว ก็ยังเป็นที่สถิตย์ตั้งของก้อนหินรอยเท้าของท่านนบีอิบรอมฮีม อยู่ตรงหน้ามะกอมด้วย ครับ ทั้งหมดทั้งสิ้นนั้นคือเรื่องราวของมะกอมอิหม่ามทั้งสี่ที่รอบลานตอว๊าฟบัยติ้ลลาฮ์ เมื่อ 50 ปีเศษมาแล้ว ในปัจจุบันนี้ "มะกอม" ท่านอิหม่ามทั้งสี่ได้ถูกรื้อไปแล้ว และ"มะกอมอิบรอฮีม" ก็ถูกรื้อแล้วตามโครงการขยายมัสยิด และลานตอว๊าฟของรัฐบาลสะอูดี้ ฯ คงเหลือแท่นหินรอยเท้าท่านนะบีอิบรอฮีมเท่านั้นที่ตั้งเด่นอยู่กลางลานตอว๊าฟอย่างที่เห็นอยู่ ซึ่งก็เกือบจะถูกรื้อไปแล้ว เป็นแต่ฝ่ายศาสน (หรือท่านผู้อาลิมขณะนั้น) ท่านคัดค้านไว้ไม่ให้รื้อ จึงยั้งคงตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่อย่างที่เราเห็นขณะนี้ ส่วนข้อข้องใจของท่านอัล-อัซฮารี และ คุณ อัล-ฟาตอนี ต่อกรณีการนำละหมาดประจำเวลาว่าดำเนินการโดยอิหม่ามทั้งสี่มัสฮบด้วยหรือเปล่านั้น ขณะที่ผมอยู่นั้น ท่านอิหม่ามทั้งสี่ท่านก็ไม่ได้อยู้แล้ว และการเรียนการสอนที่"มะกอม" ของท่านก็เลิกราไปแล้ว เป็นการยืนยันได้ว่ามิได้มีการนำละหมาดประจำเวลาของท่านอิหม่ามทั้งสี่แต่ประการใด เพราะเท่าที่ทราบ ทางการสะอูดี้ ฯ แต่งตั้งคณะทำงานบริหารกิจการมัสยิดทั้งสอง คือมักกะฮ์ และมะดินะห์ และฝ่ายบริหารกิจการมัสยิดอัลฮะรอมเขาก็จัดตั้งทีมงานผู้ปฏิบัติหน้าที่ "อิหม่าม" ประจำเวลา ขึ้น จัด "คิว" ผู้ทำหน้าที่อิหม่ามประจำเวลา นั้น ๆ จนถึงปัจจุบัน ก่อนจบ ขอเสริมเพื่อท่านผู้ไฝ่รู้จะหาคฃรายละเอียดเพิ่มได้จากท่านที่ยังมีชีวิตอยู่ขณะนี้ ที่ผมอ้างอิงได้ คือ "อาจารย์ ชาฟีอี นภากร" ท่านผู้นี้ท่านอยู่ร่วมสมัยและร่วมชายคาเดียวกันกับบรรดาท่านผู้อาวุโส 4-5 ท่าน คืออัลมัรฮูม อัลเลาะฮ์ญัรฮัม.... ท่านครูอาบีดีน วิทยานนท์ ท่านครูหมัด (ไฝ) ประเสริฐ มะหะมัด, ท่านครูยะห์ยา ละตีฟี, ท่านครูสุดใจ วงศ์อารีย์ ท่านที่ผมได้กล่าวนามมาแล้วนั้น นับได้ว่าเป็นที่รักและโปรดปราน,สนิทสนม ของอาจารย์ชาวอรับในสมัยนั้น คือท่านอาจารย์ไซยิดอามีน กุตตอบี และท่านอาจารย์ไซยิดอะลาวี (ผมจำนามสกุลท่านไม่ได้เสียแล้ว) และท่านที่มีอายุอยู่คืออาจารย์ ชาฟิอี นภากร ที่รักของผม ผมยังจำได้ไม่มืลืม คือฝีมืการต้มแกงของท่าน คือถ้าวันใดท่านต้องรับหน้าที่เวรหุงหาอาหารประจำวันละก็ท่านจะต้มซุบเนื้ออูฐทุกครั้งศิน่ะ ครับ..... ไม่ทราบว่าผมเสริมมานี้เป็นการนำมะพร้าวห้าวมาขายสวนหรือเปล่า ถ้าเห็นเป็นการไร้สาระก็กรุณาตัดทอนได้ครับ ท้ายนี้ก็ ขอถือโอกาสส่งความปรารถนยาดีวันอีกมายังเพื่อน ๆ ทุกท่านด้วยก็แล้วกันนะครับ :barakallahfekom:salam