แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - nuree

หน้า: [1] 2 3 ... 7
1
 :salam:
ก่อนไปเรียนที่ ม.วิทยาลัยอิสลามยะลา ลองเข้าไปฟังการบรรยาย ตัฟซีรอัลกุรอ่านใน youtube จาก ดร.อิสมาแอลลุตฟี มีเยอะแยะ หรือเรื่องฟิกส์ ดร.อับดุลฮาเล็ม ไซซิง
 :salam:


2
 :salam:
ผมเชื่อว่า รุ่นลูกหลานของเรา จะเข้าใจว่า อูซามะห์บินลาดิน เป็นผู้บงการโจมตี ตึกแฝดเพราะการโฆษณาชวนเชื่อของยิว :salam:

3
 :salam:
هُوَ الَّذِي أَنْزَلَ عَلَيْكَ الْكِتَابَ مِنْهُ آيَاتٌ
مُحْكَمَاتٌ هُنَّ أُمُّ الْكِتَابِ وَأُخَرُ مُتَشَابِهَاتٌ

            พระองค์ผู้ทรงประทานคัมภีร์มาแก่พวกเจ้า โดยที่ส่วนหนึ่งจากคัมภีร์นั้นมีข้อความที่รัดกุมชัดเจน ซึ่งอายะฮฺเหล่านี้คือรากฐานของคัมภีร์ และมีอายะฮฺอื่นๆอีกที่มีข้อความเป็นนัย อัล กุรอาน 3.7

อายะฮฺ มุหฺกะมาต(آيات محكمات) “อายะฮฺที่รัดกุมชัดเจน” คืออายะฮฺที่มีความชัดแจ้งแจ่มชัด ซึ่งมนุษย์จะไม่ขัดแย้งในความหมายของมัน ส่วนอายะฮฺ มุตะชาบิฮาต(المتشابهات آيات) “อายะฮฺที่เป็นนัย”  อันนำมาซึ่งความหมายและทัศนะที่มากมาย

อัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ประทานคัมภีร์ของพระองค์มาด้วยลักษณะความหมายเช่นนี้ พระองค์ประสงค์ที่กำหนดให้มนุษย์มีความแตกต่างกัน ... อัลลอฮฺสามารถทำให้ศาสนาทั้งหมดมีตัวบทที่เด็ดขาดชัดเจน มีหลักฐานที่แจ้งชัด(แต่พระองค์ก็ไม่ได้ประทานอัล-กุรอานลงมาในรูปแบบที่เด็ดขาดเช่นนี้ทั้งหมด) ...  ยิ่งกว่านั้น ณ ที่เราก็ยังมีแม้แต่ซุนนะฮฺจำนวนมากเป็นหลักฐานที่มีหลายนัย ตราบที่มีในหลักฐานมีหลายนัย ก็ย่อมจะมีความแตกต่างในทัศนะและความเข้าใจเป็นปกติธรรมดา
------
http://www.fityah.com/index.php?option=com_content&task=view&id=295&Itemid=31
 :salam:

4
 :salam:
เรื่องหะดีษฎออีฟ  ก็คือประเด็นของความขัดแย้งเช่นกัน ส่วนฝ่ายอัลอะชาอิเราะฮ์เองยึดฮะดีษฎออีฟมาใช้ในเรื่องคุณค่าของอะมัล ซึ่งเป็นจุดยืนของปราชญ์ส่วนมาก(อิหม่ามอันนะวาวีย์บอกว่าเห็นพร้อมกัน)  แต่วะฮาบีย์ไม่นำฮะดีษฎออีฟมาใช้(แต่บางทีก็นำมาใช้กันแบบไม่รู้ตัว)และทำการฮุกุ่มผู้ที่นำมาฮะดีษฎออีฟมาใช้ว่า ไม่ใช่ซุนนะฮ์  การกล่าวหาอีกฝ่ายหนึ่งจึงเกิดขึ้นแบบหลีกเลี่ยงไม่พ้นกันต่อไป-----
----------------------
ฮะดิษฎออีฟที่ไม่ขัดแย้งกับ ฮาดิษซอเฮียะ ผมว่าน่าจะใช้ได้นะครับ


 :salam:

ท่านระดับมุจตาฮิดแล้วนี่  ขอมาอัฟ

แสดงว่า ถ้าไม่ใช่ระดับมุจตาฮิด จะคุยกับคุณและจะเสนอความคิดเห็นอย่างสร้างสรรไม่ได้
 :salam:

5
เรื่องหะดีษฎออีฟ  ก็คือประเด็นของความขัดแย้งเช่นกัน ส่วนฝ่ายอัลอะชาอิเราะฮ์เองยึดฮะดีษฎออีฟมาใช้ในเรื่องคุณค่าของอะมัล ซึ่งเป็นจุดยืนของปราชญ์ส่วนมาก(อิหม่ามอันนะวาวีย์บอกว่าเห็นพร้อมกัน)  แต่วะฮาบีย์ไม่นำฮะดีษฎออีฟมาใช้(แต่บางทีก็นำมาใช้กันแบบไม่รู้ตัว)และทำการฮุกุ่มผู้ที่นำมาฮะดีษฎออีฟมาใช้ว่า ไม่ใช่ซุนนะฮ์  การกล่าวหาอีกฝ่ายหนึ่งจึงเกิดขึ้นแบบหลีกเลี่ยงไม่พ้นกันต่อไป-----
----------------------
ฮะดิษฎออีฟที่ไม่ขัดแย้งกับ ฮาดิษซอเฮียะ ผมว่าน่าจะใช้ได้นะครับ
 :salam:

6
 :salam:
แต่หากพิจารณาเกี่ยวกับอะมัลที่เป็นนะวาฟิล(อะมัลสุนัต) ทั้งสองฝ่ายก็จะต่างกันพอสมควร เนื่องจากมีหลัก(กออิดะฮ์)ต่างกัน  ฝ่ายวะฮาบีย์เจาะจงนะบีย์เท่านั้น  ส่วนฝ่านอัลอะชาอิเราะฮ์ก็ทำสิ่งที่ท่านนะบีย์เจาะจงกระทำเช่นกันแต่เสริมเข้ามาในเรื่องของอิบาดะฮ์สุนัตในเชิงคำสั่งของท่านนะบีย์ด้วย(ไม่ว่าท่านนะบีย์จะสั่งแบบเจาะจงหรือแบบกว้างๆ ก็ตาม)  ดังนั้นการกระทำที่เสริมเข้ามาของฝ่ายอัลอะชาอิเราะฮ์  จึงเป็นสิ่งที่ถูกกล่าวหาว่าอุตริเพิ่มขึ้นมาในศาสนาด้วยหลัก(กออิดะฮ์)ที่ว่านะบีย์ไม่เคยทำ  ฉะนั้นฝ่ายอัลอะชาอิเราะฮ์ก็พยายามอธิบายให้เข้าใจ  แต่อีกฝ่ายไม่เข้าใจและยึดหลัก(กออิดะฮ์)ตนเองเป็นหลัก  เมื่อไม่ยอมเข้าใจอีกฝ่าย  ก็จะกล่าวหาว่าคลุมเครือ  อันนี้จนปัญญาจะแก้ไขได้จริง...................
------------------------
ตรงนี้ผมคิดว่า ทางพวก(วาฮาบีที่คุณพยายามแบ่งแยกฝ่าย) ไม่มีปัญหา เพราะพวกเขาเจาะจงนะบีย์
ปัญหาอยู่ที่ว่าถ้าอาจารย์สามารถนำหลักฐานอธิบายในส่วนที่เพิ่มเติม.เสริมเข้ามาในเรื่องของอิบาดะฮ์สุนัตในเชิงคำสั่งของท่านนะบีย์ด้วย. นั้นโดยนำหลักฐานตัฟซีรจากอัลกุรอ่านโดยมีอูลามะห์ มุตาบัรให้การตัฟซีร และก็ไม่ขัดแย้งกับฮะดิษ ซอเฮียะ ผมว่าน่าจะทำให้กระจ่างขึ้นนะครับ
และคำว่า วาฮาบี ผมคิดว่ามุสลิมทุกคนเป็นวาฮาบีครับ เพราะเป็นหนึ่งในชื่อของ อัลเลาะห์ หรือว่าผมเข้าใจผิด
 :salam:

7
:salam:
ฮะดิษนี้เป็นที่อนุญาติของท่านรอซูลเอง แต่การกระทำอีบาดัตที่ form ที่อุตริจเกิดขึ้นมาใหม่หลังจากนี้ซึ่งมันส่วนมากจะคล้ายคลึงกับศาสนาอื่นที่มีอยู่ก่อนรอซูล(ซล)และส่วนมากก็จะมีผลประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการกิน การให้ในแบบของซอดาเกาะห์ซึ่งมันจะไม่มีคำว่าอิคลาสอยู่ในนั้นเพราะต่างฝ่ายต่างก็อยากได้ผลที่ตอบแทน ไม่ว่าจะเป็นการซอดาเกาะห์ให้ผลบุญและอีกฝ่ายก็จะตอบแทนด้วยสิ่งของ จะกระทำมันเรึ่อยๆมันจะทำให้เพิ่มวัฒนธรรมของศาสนาอิสลามและมันก็จะยาวไป ศาสนาก็จะครมเครือไปเรื่อๆจนในที่สุด สุนนะห์ที่แท้จริงก็จะหายไป
 :salam:

ทัศนะส่วนตัว ซะงั้น
ทัศนะของผมแบบนี้ คุณว่ามันไกลกับความเป็นจริงมากมัยครับ
 :salam:

8
 :salam:ในเมื่อทราบมาแค่นี้ ก็ไปหาอ่านเพิ่มสะนะครับ ในเวปไซด์มีมากมายเลยครับ...........
------------------
ผมพอจะเดาออกว่าคุณจะพาประเด็นไปไหน และจะไม่จบจนกว่าจะตายไปข้าง ซึ่งนี่แหละคือปัญหา
เสียเวลาไปตั้งมากมาย สุดท้ายก็กลับมาที่เดิม
ผมไม่ทะเลาะด้วยนะครับ
 :salam:

9
 :salam:การล่มสลายของเคาะลีฟะฮฺ ราชวงศ์อุษมานียะฮฺ
เท่าที่ผมทราบ อับดุลวาฮาบเข้ามาปลายๆยุคของอุษมานียะห์ เพื่อเรียกร้องให้กลับมาสู่ซุนนะห์
ส่วนการล่มสลายของระบบคอลีฟะห์นั้น เกิดขึ้นกับ กามาล อาตาตุกที่ไปทำสัญญากับอังกฤษ
 :salam:

10
 :salam:
ฮะดิษนี้เป็นที่อนุญาติของท่านรอซูลเอง แต่การกระทำอีบาดัตที่ form ที่อุตริจเกิดขึ้นมาใหม่หลังจากนี้ซึ่งมันส่วนมากจะคล้ายคลึงกับศาสนาอื่นที่มีอยู่ก่อนรอซูล(ซล)และส่วนมากก็จะมีผลประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการกิน การให้ในแบบของซอดาเกาะห์ซึ่งมันจะไม่มีคำว่าอิคลาสอยู่ในนั้นเพราะต่างฝ่ายต่างก็อยากได้ผลที่ตอบแทน ไม่ว่าจะเป็นการซอดาเกาะห์ให้ผลบุญและอีกฝ่ายก็จะตอบแทนด้วยสิ่งของ จะกระทำมันเรึ่อยๆมันจะทำให้เพิ่มวัฒนธรรมของศาสนาอิสลามและมันก็จะยาวไป ศาสนาก็จะครมเครือไปเรื่อๆจนในที่สุด สุนนะห์ที่แท้จริงก็จะหายไป
 :salam:

11
 :salam:
 عليكم بسنتي وسنة الخلفاء الراشدين المهديين
 :salam:

12
 :salam:
 แล้วถ้าเราไปล้างเจ็ดน้ำจะเป็นบิดอะฮฺที่หลงผิดหรือเปล่า ??
---------------------------------------------
แนวทางของอิสลาม จะเจริญได้อยาก
 :salam:

13
 :salam:
เราจะเห็นได้ว่า บรรดาซอฮาบัตทุกคน อาบูบักร อูมา อุสมาน อาลีและอื่นๆ แม้ว่าจิตใจ คูซุอจะไม่เท่ากับรอซูล(ซล)
แต่ก็พยายามที่จะนำแบบอย่างจากท่านรอซูล(ซล)มาปฎิบัติอย่างเคร่งครัดโดยไม่คิดบิดเบือนเลย จะไม่เพิ่มในสิ่งที่ท่านศาสนฑูตไม่เคยสอน และจะพยายามกระทำตามการสอนของศาสนฑูตเท่าที่ทำได้

 :salam:

14
 :salam:
ระดับมุจญตะฮิดมุฏลัก ไม่ใช่มะซูม
 :salam:

15
ใครคือต้นแบบของ حسني عبادتك

หน้า: [1] 2 3 ... 7