แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - ActionMask

หน้า: [1] 2 3 ... 17
1
ครับ ขอบคุณครับ ชัดเจน นี่แหละครับ ที่ทำให้เข้าใจ ญาซากัลลอฮฺครับ ขออัลลอฮฺตอบแทนความดี

ถ้าการแปล แปลได้อย่างนี้จะช่วยได้เยอะเลย เพราะชัดเจนดี

2
ขอบคุณครับสำหรับคำตอบ

แต่ยังไม่เข้าใจน่ะครับ

คือสรุปเป็นภาษาไทยได้ไหมเช่น บนเหนือ หรือ จาก เนี่ย ช่วยอธิบายหน่อยว่า หมายถึงอะไร

เช่น

อ้างถึง
เเละคำกล่าวที่ว่า"บนเหนือฉัน"นั้นถูกเเปลมาจากคำว่า عَلَيَّ เเละยังมีคำที่คล้ายกับคํานี้อย่างเช่นคำว่า مِنِّي مَعِي عِنْدِي

 ซึ่งเเปลว่าจากฉัน พร้อมฉัน ณฉัน ดังที่สามีพูดว่า أَنْت مِنِّي كَظَهْرِ أُمِّي  เเปลว่า เธอจากฉันเหมือนกับหลังมารดาฉันเป็นต้น ซึ่งคำกล่าวเหล่านี้จะเกิดเป็น ซีฮารฺด้วยเช่นกัน

คำเนี้ย

อ้างถึง
เธอจากฉันเหมือนกับหลังมารดาฉันเป็นต้น

คือถ้าพูดแบบทั่วไปปกติ จะพูดว่าอะไรครับ คือคนทั่วจะไม่พูดแน่ๆ ว่า "เธอจากฉันเหมือนกับหลังมารดาฉัน" เพราะหมายถึงอะไรผมยังไม่เข้าใจเลย

อันนี้เป็นอุปสรรคเวลาผมอ่านหนังสือ ทางศาสนา แล้วผู้แปล ใช้สำนวนอาหรับ มาไว้ในภาษาไทย แล้วความหมายมัน คาดเดาอันที่ถูกต้องไม่ได้

เธอจากฉัน หมายถึง เธอพรากจากฉัน หรือ เธอจากฉัน แปลว่า เธอมาจากฉัน หรือแปลว่า เธอสำหรับฉัน

อะไรแบบนี้น่ะครับ

3
ก่อนอื่นต้องขอโทษ ที่ต้องบอกตรงๆ นะครับ ว่าผมอ่านแล้วไม่เข้าใจ คำบางคำประโยคบางประโยคอ่านแล้วงง

เป็นแบบนี้บ่อยในการอ่านหนังสือศาสนา อย่างเช่น

"ดังนั้นหากคนอื่นจากสามีหมายถึงคนอัญนาบีที่อื่นจากสามีหรือเด็ก  คนบ้า  คนที่โดนบังคับ" - อื่นจาก อื่นจาก สรุปแล้วหมายถึงใครกันแน่ ใช่แปลว่า นอกจากหรือไม่

"ท่านสำหรับฉันแล้วเหมือนกับหลังมารดาของฉัน” และ ”ฉันบนเหนือท่านก็เหมือนหลังมารดาของท่าน” " - ฉันบนเหนือท่าน ....

"ดังนั้น การกล่าวที่มาจากบุคคลทั้งหมดนี้ถือว่าไม่เซาะ" - บุคคลไหนบ้าง

"พระการเปรียบภรรยาด้วยกับส่วนใดจากอวัยวะของมารดาหรือด้วยสิ่งที่คลุมยังหลังก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกเปรียบด้วยกับหลังเช่นกัน และเพราะทุกส่วนจากวัยวะของมารดานั้นเป็นสิ่งที่อารอมเอาความสุข" - ลองแปลไทยเป็นไทยได้ไหมครับ




คือผมคิดว่า ถ้าจะแปลแล้วให้มันเป็นความหมายภาษาไทยได้ไหม ผมอ่านแล้ว มันสับสนมากๆ อะไรคืออะไร ทำกับใคร ใครถูกกระทำ ทำอย่างไร ไม่สามารถเข้าใจได้เลย

ถ้าทำให้ขุ่นเคืองใจ ต้องขอโทษด้วยนะครับ แต่อ่านแล้ว งงมาก อยากเข้าใจ แต่ไม่เข้าใจ




4
เรื่องมีอยู่ว่าเวลาผมละหมาดตามอิหม่าม อิหม่ามผู้นำละหมาดท่านนึงอายุเยอะแล้ว ขยับตัวช้า ถึงช้ามาก และช้ากว่าเสียงตักบีร เช่น ตอนสุญูด แล้วขึ้นมายืน อิหม่าม กล่าว "อัลลอฮุอักบัรฺ" แต่อิหม่ามกล่าวจบคำแล้ว แกค่อยๆ ลุกขึ้น ค่อยๆ ยืน ค่อยๆ เอามือมาวางกอดไว้

ซึ่งพอผมได้ยินเสียงอัลลอฮุอักบัรจบ ผมก็ยืนเลย แล้วก็ยืนตรงมือประสานเรียบร้อย ก่อนอิหม่ามจะยืนเสร็จด้วย แบบนี้ใช้ได้ไหม

หรือต้องรอจนกว่าอิหม่ามจะ ค่อยๆ ลุก ค่อยๆ ยืนจนตรง ค่อยๆ มาเอามือมาวางประสานกันเสร็จ ผมถึง ยืนได้ครับ?

บางทีแกยืนตรงแล้ว ยังไม่ทันประสานมือกัน แกก็เริ่มอ่านซูเราะห์แล้ว ผมงงมาก จะทำไงดี

ต้องรอถึงแค่ไหน หรือ พอสิ้นเสียงก็เปลี่ยนอิริยาบถได้เลย


รบกวนชี้แนะด้วยครับ

5
ผมว่าคนญี่ปุ่นน่าจะชอบอิสลามนะครับถ้าได้ศึกษาจริงจัง

เพราะคนญี่ปุ่น ทำอะไรเป็นระบบระเบียบอยู่แล้ว น่าจะสอดคล้องกันมาก

มีประวัติ ซอฮาบะห์ หรือ นบีเป็นภาษาญี่ปุ่นมั่งไหมครับ

6
ไม่ใช่เพื่อนผมหรอกครับเห็นกันในเฟซบุคเลย อยู่ในกลุ่มสนทนา กลุ่มหนึ่ง ทำให้เราได้เห็นธาตุแท้ชีอะห์มากขึ้น

และมีการเอาฮะดีษนี้มาลง และวิจารณ์ ผมจึงอยากรู้่ว่า สายรายงานนี้บกพร่องหรือไม่น่าเชื่อถืออย่างที่อ้างไว้หรือเปล่า แต่ท่าทางท่านผู้รู้จะยังไม่ว่างก็ไม่เป็นไร ผมพยายามเท่าที่ทำได้แล้ว

7
ตอนแรกก็ไม่คิดถึงขนาดนั้น แต่พอเจอแล้วใช่เลย มันด่าจริงๆ ครับ ด่าเลยแหละ

8
ผมเองก็ไม่คิดว่าชีอะห์เป็นพี่น้องร่วมศรัทธาเท่าไร ถ้าท่านได้รู้ว่าพวกนี้ ว่ากล่าวถึง ศอฮาบะห์ และภรรยาของท่านนบีนะครับ

แต่แปลกว่าทำไมทางซุนหนี่เราไม่ค่อยจัดการจริงจังกบพวกนี้ จะเน้นฟาดฟันกับวะฮาบีมากกว่า

9
ครับนั่นแหละ ถ้าคุยกันเป็นการลับจะยิ่งดี ว่า มันมั่งตรงไหนมั่ง

10
ด่าทอซอฮาบะห์

สอดความรู้ที่ผิดๆ

บิดเบือนมากๆ

ถ้าเราไม่สนใจ แล้วเราจะเตือนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เราอยู่อย่างไรอ่ะครับ

จริงๆ ผมก็ไม่อยากจะสนใจ แต่พอดี มันเห็นคาตาอยู่เลย แต่เสียดายความรู้น้อย

เอาเป็นว่า ญาซากัลลอฮฺ ครับ ถ้าใครพอรู้ก็ช่วยๆ กันบอกหน่อยนะครับ หรือจะลบหัวข้อผมทิ้งก็ได้ ถ้ามันอันตราย

12
เปิดปมฮะดีษตอแหล “จงตามทั้งสองคนนี้ หลังจากฉันอะบูบักร์และอุมัร”





ยามใดก็ตามที่เหล่าวะฮาบีย์ขอหลักฐานการแต่งตั้งท่านอลี(อ)ให้เป็นผู้นำหลักจากท่านศาดา(ศ)อย่างเป็นทางการ ชีอะฮ์ก็จะทำการยกฮะดีษ”เมาลาمن كنت مولاه فعلي مولاه” ที่มีบันทึกในตำราซุนนีย์ทันที

แต่ถ้าหากถามพวกวะฮาบีย์กลับ ว่าใหนคือหลักฐานฮะดีษที่ท่านศาสดา(ศ)ประกาศแต่งตั้งอะบูบักร์เป็นผู้นำ? พวกเขาเหล่านั้นก็จะเงียบอย่างอัปยศ เพราะในความเป็นจริงแล้วซุนนีย์และวะฮาบีย์ระดับผู้รู้นั้นจะรู้ว่าแท้จริงแล้วการขึ้นมาเป็นผู้นำโลกอิสลามของ อะบูบักร์นั้นมิได้มาจากการแต่งตั้งจากศาสดาหรืออัลลอฮ์ ทว่ามันมาจากการเลือกตั้งโดยมติส่วนมากของเหล่าศอฮาบะฮ์กลุ่มหนึ่งที่รวมตัวกันอยู่ ณ เพิงหมาแหงน สะกีฟะฮ์บนี ซาอีดะฮ์ ระยะทางหกไมล์นอกเมืองมะดีนะฮ์
 


แต่มาวันนี้เหล่าวะฮาบีย์พวกไร้ปัญญาในยุคมะนาวแพง และอุลามาที่หัวใจไร้ความเป็นธรรมของพวกเขาเพื่อต้องการที่จะลบล้างความอัปยศที่ว่า อะบูบักร์ คอลีฟะฮ์คนแรกของอิสลามไม่ได้มาจากการแต่งตั้งโดยอัลลอฮ์และรอซูล พวกเขาจึงพยายามประโคมฮะดีษเท็จบทหนึ่งที่อ้างว่ามาจากศาสดา
 


فاقتدوا باللذين بعدي أبوبكر وعمر
 
“ดังนั้นจงตามสองคนนี้หลังจากฉัน อะบูบักร์และอุมัร”
 


ซึ่งวันนี้เราจะมาเปิดปมความน่าเชื่อถือและความจริงของฮะดีษนี้ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร แต่ในตอนนี้เราจะมาโต้ตอบฮะดีษนี้ในภาพรวมแบบกระชับกันก่อนว่ามันปลอม มันเท็จยังไง
 


๑-สายรายงานของฮะดีษนี้เชื่อถือไม่ได้ ตามมารฐานฮะดีษของซุนนีย์วะฮาบีย์
 


๒-หากฮะดีษนี้นบีเคยพูดจริงในวันเลือกตั้งอะบูบักร์ที่ สะกีฟะฮ์ พวกเขาก็จะต้องอ้างฮะดีษนี้ขึ้นมาแน่นอน
 


๓-ฮะดีษนี้ได้รับการอุปโลกน์ขึ้นมาโดยกลุ่มสุดโต่ง “บักรียะฮ์”เพื่อต้องการสร้างความประเสริฐให้อะบูบักร์
 


๔-ตามหลักของซุนนีย์และวะฮาบีย์ความชอบธรรมในการดำรงตำแหน่งของอะบูบักร์นั้นมาจาก “อิจญ์มาอฺ”มติส่วนมากของอุมมัต มิไช่จากการแต่งตั้ง
 


๕-หากฮะดีษนี้มีจริง ประกอบกับฮะดีษที่ศาสดาได้กล่าวว่า
 
من مات و لم يعرف امام زمانه مات ميته الجاهليه
 
“ใครก็ตามที่ตายโดยไม่รู้จักอิมามประจำยุคของเขา แท้จริงเขานั้นตายในสภาพญาฮิลียะฮ์”
 
แต่ปรากฏว่าท่านหญิงฟาฏีมะฮ์, ท่านอะลี, บะนีฮาชิมทั้งหมด ,ซัลมาน,อะบูซัร,มิกด๊าด และศอฮาบะฮ์อิกจำนวนมาก กลับไม่ได้ปฏิบัตตามฮะดีษดังกล่าว
 


๖-จะเป็นไปได้อย่างไรที่ให้ตามคนทั้งสองในเมื่ออะบูบักร์และอุมัรต่างมีทัศนะที่ขัดแย้งกันในเรื่องศาสนาอย่างมากมาย ซึ่งขัดแย้งกับฮะดีษดังกล่าวอย่างสิ้นเชิง
 


๗-จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะปฏิตามอะบูบักร์และอุมัรในขณะที่ทั้งสองนั้นต่างโง่เขลาในเรื่องชะรีอัตบทบัญญัตของศาสนาจนต้องไปพึ่งท่านอะลี(อ)
 


๘-สิ่งที่จะตามจากการเชื่อฮะดีษบทนี้นั่นก็คือ อะบูบักร์และอุมัรนั้นเป็นมะอฺศูมผู้บริสุทธิ์ปราศจากความผิดพลาดและบาป ซึ่งไม่มีมุสลิมคนใหนเชื่อเช่นนั้นแน่นอน
 






คำตอบอธิบาย
 
-จุดสำคัญคือ หากฮะดีษนี้ศอฮี๊จริงๆ ซึงถือว่าเป็นฮะดีษที่สำคัญสามารถพิฆาตเหล่าชีอะฮ์ได้อย่างราบคาบทำมัยจึงไม่มีบันทึกใน ศอฮี๊บุคอรีย์และมุสลิม?
 


ว่าด้วยสายรายงาน

๑สายรายงานที่หนึ่งจาก ฮุซัยฟะฮ์
 
ทุกสายรายงานที่มาจากฮุซัยฟะฮ์ บินยะมาน จะมี”อับ ดุลมาลิก บินอุมัยร์”คนที่ตัดหัวท่าน ก๊อยซ์ บิน มุซะฮัรผู้นำสาสน์ของท่านอิมามฮุซัยน์(อ) ซึ่งอุลามาริญาลกล่าวว่าเขา
 


«رجل مدلس» «ضعيف جدا»،«کثير الغلط»،«مضطرب الحديث جدا»،«مخلّط»،«ليس بحافظ»
 
หลอกลวง ฏออีฟ ผิดมาก สับสน มั่วมาก ไม่ไช่นักจำฮะดีษ
 


وقال علي بن الحسن الهسنجاني : سمعت أحمد بن حنبل يقول : عبد الملك بن عمير مضطرب الحديث جدا مع قلة روايته .
 
( تهذيب الكمال - المزي - ج 18 - ص 373و تهذيب التهذيب - ابن حجر - ج 6 - ص 365 )
 


وروى إسحاق الكوسج ، عن يحيى بن معين قال : مخلّط . وقال علي بن الحسن الهسنجاني : سمعت أحمد بن حنبل يقول : عبد الملك بن عمير مضطرب الحديث جدا مع قلة روايته ، ما أرى له خمس مئة حديث ، وقد غلط في كثير منها . وذكر إسحاق الكوسج عن أحمد ، أنه ضعفه.
 
( سير أعلام النبلاء - الذهبي - ج 5 ص 440 )
 


عبد الملك بن عمير لم يوصف بالحفظ »
 
( سير اعلام النبلاء - ذهبي – ج 5 ص 440 )
 


عبد الملک لم يسمعه عن ربعي و ربعي لم يسمع من حذيفه...
 
( فيض القدير- ج2 ص56- الانساب حنظلي- ج4-ص251 )
 


สายรายงานที่สองจากฮุซัยฟะฮ์
 


ในสายรายงานที่สงนี้มีบุคคลที่ไม่สามารถเชื่อถือได้ดังต่อไปนี้
 
๑- ซาเล็ม บินอะลา มุรอดี
 
ضعفه ابن معين ، والنسائي
 
( ميزان الاعتدال - الذهبي – ج2 ص112 )
 


قال الدوري عن ابن معين ضعيف الحديث
 
( تهذيب التهذيب - ابن حجر – ج 3 ص 381 )
 


๒- อัมร์ บิน ฮิรัม
 
عمرو بن هرم ضعفه يحيى القطان .
 
( ميزان الاعتدال - ج3 ص 291 )
 


๓-วะกีฮ์ บิน ญัรรอฮ์
 
...قال عبدالله بن احمد حنبل عن ابيه : ...سمعت ابي يقول : ابن مهدي اکثر تصحيفا من وکيع ، و وکيع اکثر خطا من ابن مهدي ، و وکيع قليل التصحيف ...و سمعت ابي يقول : اخطا وکيع في خمس مائه حديث .
 
( تهذيب الکمال – ج30 ص471 به نقل از العلل: ج1 ص14 و ص 127 )
 


๔- ริบอีย์ บิน ฮะรอช
 
قال ابن حزم : و قد سمي بعضهم المولي فقال : هلال مولي ربعي و هو مجهول لا يعرف من هو اصلا
 
( الاحکام في اصول الاحکام- ج2ص243 )
 


๒สายรายงานจาก อิบนุ มัสอูด
 


๑-ฮะดีษบทนี้ ติรมีซีย์ได้กล่าวว่า
 
هذا حديث غريب من هذا الوجه من حديث ابن مسعود لا نعرفه الا من حديث يحيي بن سلمه بن کهيل و يحيي بن سلمه يضعف في الحديث .
 


صحيح ترمذي – ج5 ص672
 


“ฮะดีษนี้เป็นฮะดีษ ฆอรีบ (แปลก) ซึ่งรายงานมาจากทาง ยะฮ์ยา บิน สะละมะฮ์เท่านั้น ซึ่งถือเป็นพวกฏออีฟ อ่อนในการรายงานฮะดีษ
 


ศอฮี๊ ติรมีซีย์ เล่ม๕ หน้า๖๗๒
 


๒-ยะฮ์ยา บิน สะละมะฮ์ บิน กะฮีลซึ่งเชื่อถือไม่ได้
 
ضعفه يحيى بن معين
 
لسان الميزان - ابن حجر - ج 7 - ص 431
 


يحيى بن سلمة بن كهيل بالتصغير الحضرمي أبو جعفر الكوفي متروك
 
تقريب التهذيب - ابن حجر - ج 2 - ص 304
 


يحيى بن سلمة بن كهيل . عن أبيه . قال أبو حاتم وغيره : منكر الحديث . وقال النسائي : متروك . وقال عباس ، عن يحيى : ليس بشئ ، لا يكتب حديثه .
 
ميزان الاعتدال - الذهبي - ج 4 - ص 381
 


๓- อิสมาอีล บิน ยะฮ์ยา บิน สะละมะฮ์ซึ่งเชื่อถือไม่ได้
 
متروك الحديث.
 
( تهذيب الكمال - المزي - ج 3 - ص 212 – 213 )
 


قال الدارقطني : متروك .
 
( ميزان الاعتدال - الذهبي - ج 1 - ص 254 )
 


إسماعيل بن يحيى بن سلمة بن كهيل الكوفي . قال أبو حاتم بن حبان : لا تحل الرواية عنه وقال أبو الفتح الأزدي ، فيما ذكره ابن الجوزي : متروك الحديث. إسماعيل بن يحيى بن سلمة بن كهيل الحضرمي الكوفي متروك.
 
( إكمال تهذيب الكمال في أسماء الرجال - علاء الدين مغلطاي - ج 2 - ص 208)
 


إسماعيل بن يحيى بن سلمة بن كهيل الحضرمي الكوفي . قال الدارقطني متروك . ونقل ابن الجوزي عن الأزدي أنه قال متروك.
 
( تقريب التهذيب - ابن حجر - ج 1 - ص 100 و تهذيب التهذيب - ابن حجر - ج 1 - ص 293 )
 


๔- อิบรอฮีม บิน อิสมาอีล บิน ยะฮ์ยา เชื่อถือไม่ได้
 


« لين ، متروک ، ضعيف ، مدلس ، قال الذهبي : لينه ابو زرعه و ترکه ابوحاتم.»
 
( ميزان الاعتدال – ج1 – ص 20 –المغني - ج 1 - ص 10 )
 


« و قال العقيلي عن مطين :کان ابن نمير لا يرضاه و يضعفه و قال : روي احاديث مناکير. قال العقيلي : و لم يکن ابراهيم هذا بقيم الحديث. »
 
( تهذيب التهذيب – ج1 – ص 106 )
 




๓สายรายงานจาก อะนัส บินมาลิก
 
๑-ทุกสายรายงานจาก อะนัส จะมีอุมัร บิน นาฟิอฺ ฮัมาด บิน ดะลีลและ อัมร์ บิน ฮิรัมซึ่งเชื่อถือไม่ได้และอุลามาก็แสดงทัศนะผ่านมาแล้ว ในส่วนนี้เราจะเสนอทัศนะเกี่ยวกับ อุมัร บินนาฟิอฺและฮัมมาด
 
«حديثه ليس بشيء» ، «لا يحتج بحديثه»
 
( الکامل - ج5- ص 1703- تهذيب التهذيب – ج1 – ص 499)
 


ฮัมาด บิน ดะลีล
 
« من الضعفاء » ، « ضعفه ابو الفتح الازدي و غيره » ، « و ابن الجوزي في الضعفاء»
 
المغني في الضعفاء – ج1 – ص 189 - ميزان الاعتدال – ج1- ص 590 - هامش تهذيب الکمال – ج7 –ص236
 




๔สายรายงานจาก อับดุลลอฮ์ บินอุมัร
 
รายงานที่มาจาก อับดุลลอฮ์ บิน อุมัร นั้นอุลามาซุนนีย์ได้พูดอย่างชัดเจนว่า
 
حديث اقتدوا باللذين من بعدي . وهذا غلط ، وأحمد لا يعتمد عليه .
 


حديث اقتدوا باللذين من بعدي أبى بكر وعمر ، وهذا غلط واحمد لا يعتمد عليه .
 


ميزان الاعتدال – ذهبي - ج1 - ص 105 - لسان الميزان - ابن حجر - ج 1 - ص 188
 


"ฮะดีษจงตามเขาทั้งสอง(อะบูบักร์อุมัร)เป็นฮะดีษที่ผิดพลาด ซึ่งอะฮ์มัด บิน ฮัมบัลไม่ได้เชื่อถือมัน"
 


มีซาน อัลเอี๊ยติดาล เล่ม๑ หน้า๑๐๕
 


ان حديث عبدالله بن عمر هذا باطل بجميع طرقه...
 
لسان الميزان –ج 5 – ص 237
 


....ฮะดีษนี้ที่มาจาก อับดุลลอฮ์ บิน อุมัรจากทุกสายรายงานนั้นเป็นโมฆะ
 
ลิซานุลมีซาน เล่ม๕ หน้า๒๓๗
 




๕สายรายงานจาก ญัดดะฮ์ อับดุลลอฮ์ บิน อบีฮุซัยล์
 
จากสายรายงานนี้ขอยกเพียงคำกล่าวของ อิบนุ ฮัซม์เพียงเท่านั้น
 
و اما الروايه: اقتدوا... فحديث لا يصح لانه مروي عن مولي لربعي مجهول
 
الاحکام – ج 6 – ص809
 


ทว่าฮะดีษ”จงตามเขาทั้งสอง....”นั้นเป็นฮะดีษที่ไม่ศอฮี๊ เพราะว่ารายงานมาจากทาสของ ริบอีย์ซึ่งมัจฮูลไม่มีตัวตน
 


อัลอะฮ์กาม เล่ม๖ หน้า๘๐๙
 


กลุ่ม บักรียะฮ์
 
เป็นที่ชัดเจนว่าตามทัศนะของพี่น้องซุนนีย์การขึ้นเป็นคอลีฟะฮืของ อะบูบักร์นั้นมาจาก อิจมาอฺทัศนะส่วนมาก แต่มีพวกสุดโต่งที่ชื่อว่า บักรียะฮ์นั้นพยายามที่จะเมคสร้าง ฟะฏออิล ความประเสริฐต่างๆนาๆให้กับอะบูบักร์ ซึ่งอิบนุ เญาซีย์ได้กล่าวว่า
 
قد تعصب قوم لا خلاق لهم يدعون التمسک بالسنه قد وضعوا لابي يکر فضائل ...
 


الموضوعات – ج 1 – ص303 .
 


พวกไร้ค่ากลุ่มหนึ่งที่ตะอัศศุบ อ้างตนว่าเป็นอะฮ์ลิสซุนนะฮ์ได้ทำการแต่งและสร้างความประเสริฐต่างให้กับอะบูบักร์
 


อัลเมาฏูอาต เล่ม๑ หน้า๓๐๓
 


อิบนุ อะบิลฮะดีด อัลมุอฺตะซิลีย์ได้กล่าวถึงกลุ่ม บักรียะฮ์ว่า
 


“พวกบักรียะฮ์ เห็นว่าชีอะฮ์มีฮะดีษต่างๆมากมายที่กล่าวถึงความประเสริฐของท่านอะลี และความเหมาะสมในการเป็นผู้นำมุสลิมหลังจากนบี พวกนี้จึงได้แต่งฮะดีษสร้างความประเสริฐให้อะบูบักร์เช่น เพื่อโต้ตอบฮะดีษ อุคูวะฮ์การสาบานเป็นพี่น้องระหว่างท่านศาสดาและท่านอะลี(อ) พวกนี้จึงเมคฮะดีษ لو کنت متخذا خليلا “หากไม่มีเจ้า(อะบุบักร์)ก็จะไม้เอาใครเป็นเพื่อน”
 
สร้างฮะดีษเรื่องการสั่งเสียของนบีให้กับอะบูบักร์
 


ايتوني بدواه و بياض اکتب فيه لابي بکر کتابا لا يختلف عليه اثنان
 
“จงเอาปากกากับกระดาษมา ฉันจะบันทึกให้อะบูบักร์เพื่อจะได้ไม่มีใครแตกแยกทะเลาะกัน”
 
หรือแม้กระทั้งสร้างฮะดีษมาว่า
 


يابي الله و المسلمون الا ابابکر “ไม่มีใครเป็นมุสลิมยกเว้น อะบูบักร์”
 
รวมทั้งฮะดีษที่อัลลลอฮ์ได้ถามอะบูบักร์ว่า
 


انا راض عنک فهل انت عني راض ؟»
 
شرح ابن ابي الحديد-ج11- ص48 .
 
“ฉันพึงพอใจในตัวเจ้า แล้วเจ้าละพึงพอใจจากฉันรึปล่าว?”
 


ชะเราะฮ์ อิบนุ อะบิล ฮะดี๊ด เล่ม๑๑ หน้า๔๘
 


จากเหตุการณ์เหล่านี้จึงไม่ไช่เรื่องแปลกที่อะดีษ”จงตามเขาทั้งสอง....”จะเป็นผลงานเมคของกลุ่มบักรียะฮ์
 


นอกเหนือจากนั้นในความเป็นเท็จอิกประการหนึ่งของฮะดีษ”จงตามเขาทั้งสอง...”นั่นก็คือการไม่ยอมให้สัตยาบันบัยอัตของท่านหญิง ฟาฏีมะฮ์(ส)จนกระทั่งเสียชีวิต และท่านอะลี(อ) วงศ์ฮาชิม และศอฮาบะฮ์อย่างซัลมาน มิกด๊าด อะบูซัร อัมมาร ซุเบร ซะอฺ บิน อิบาดะฮ์ฯล ที่ไม่ยอมให้สัตยาบันกับอะบูบักร์ ในขณะที่มีฮะดีษมาอย่างชัดเจนว่า
 


مَنْ مات وليس في عنقه بيعة مات ميتة جاهلية .
 
صحيح مسلم ، مسلم النيسابوري ، ج3 ، ص1478و السنن الكبرى ، البيهقي ، ج8 ، ص156 و مجمع الزوائد ، ج5 ،‌ ص218 و مشكاة المصابيح ، ج2 ، ص1088و سلسلة الأحاديث الصحيحة ، ج2 ، ص715 .
 


“ใครก็ตามที่ตายโดยไม่ได้ทำการบัยอะตสัตยาบัน เขาตายในสภาพญาฮิลียะฮ์ไม่ไช่มุสลิม”
 


ศอฮี๊ มุสลิม เล่ม๓ หน้า๑๔๗๘
 


مَنْ مات بغير إمام مات ميتة جاهلية.
 


مسند احمد ، احمد بن حنبل ، ج4 ، ص96 و مجمع الزوائد ،‌ الهيثمي ، ج5 ،‌ ص218 و مسند الطيالسي ، الطيالسي ، ص295 و الإحسان بترتيب صحيح ابن حبان ج7 ، ص49 و حلية الأولياء ، ج 3 ،‌ ص22.
 


“ใครก็ตามที่ตายโดยไม่อิมาม คือตายแบบญาฮิลียะฮ์ไม่ไช่มุสลิม”
 
มุสนัด อะฮ์มัด เล่ม๔ หน้า๙๖
 


แน่นอนว่าหากฮะดีษให้ตามอะบูบักร์และอุมัร ดังที่กล่าวนั้นมีจริง ศอฮาบะฮ์ระดับแนวหน้าอย่างท่านหญิงฟาฏีมะฮ์และท่านอาลีหรือคนอื่นๆก็ต้องบัยอัตให้กับอะบูบักร์อย่างแน่นอน เพราะการปฏิเสธไม่บัยอัตต่ออิมามผู้นำ คือการตายแบบกาเฟรผูปฏิเสธ

13
ระวังมันเป็นภาพเอามาหลอกเรานะครับ เหมือนเมื่อก่อนภาพโครงกระดูกยักษ์ อะไรทั้งหลายแหล่ ทำมาให้เราดูตลก ถึงแม้เราจะเชื่อว่าเกิดขึ้นจริง แต่ไม่มีอะไรยืนยันว่านั่นเป็นร่องรอบการผ่าดวงจันทร์จริงๆ

14
เข้าใจความรักครับ แต่ที่สำคัญกว่าคือหน้าที่นะครับ รักยังไง แต่ก็ต้องเลือกที่สำคัญที่สุดไว้ก่อน เพราะบางที ที่เรียกว่ารัก อาจจะเป็นการหลงใหลไปชั่วขณะก็ได้ครับ


15
อัสลามุอาลัยกุม ผมไปเจอฮะดีษว่า

“ใครก็ตามที่ทันละหมาดอัสริในเวลาของมันเพียงหนึ่งรอกอัตก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ถือว่าเขาทันกับเวลาอัสริ”

เพราะบางครั้งมันก็จวนเจียนมากๆ เช่น 10 นาทีก่อน มักริบแบบนี้่

ดังนั้นอยากทราบความแน่ชัดครับว่า ก่อนพระอาทิตย์ตกในฮะดีษนี้ คือ มักริบ หรือก่อนมักริบ และถ้าก่อน ต้องก่อนกี่นาทีครับ รบกวนด้วยครับ

หน้า: [1] 2 3 ... 17