แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Al-Ainawi

หน้า: [1] 2 3 4
1
เมื่อกี้เดินไป 7 11 เห็นที่อัลอะติ็กกำลังละหมาดตะรอวิหกันตอน 4 ทุ่ม


2
 salam

ที่เอมิเรตส์ก็เครียดเหมือนกันครับช่วงสอบเหมือนกัน

สถานการณ์ตรึงเครียดเล็กน้อย  ;D

3
อยู่เอมิเรตอ่ะอยากได้ทำไงดีครับ

4
เพราะเห็นว่าหะดีษนี้มังซูค หรือ สาเหตุอื่นๆ


มังซูคคือไรบัง

6
พูดลอยๆเด็ก3ขวบก็พูดได้ ถ้ามีจริงช่วยอ้างอิงหน่อยสิบัง หนังสืออะไร ใครเขียน ประเทศอะไรรับรอง เอารูปมาให้ดูด้วยนะ

ถ้าทำไม่ได้เนี่ย บ้านผมเขาเรียกว่า เก่งเเต่ปาก

7
ข้ออ้างใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์จะต้องพิสูจน์ยืนยันกันด้วยหลักฐาน
 ข้อกล่าวหาที่สร้างขึ้น แต่ขาดการพิสูจน์ มันก็เป็นเพียงการพูดให้ร้ายเท่านั้น ข้อกล่าวหาประเภทนี้ควรจะถูกยกเลิกไปเพราะเหตุดังกล่าว

แต่แม้จะมีการนำเสนอหลักฐานพยานเพื่อเอามาพิสูจน์ข้ออ้างแล้ว ก็ยังถือว่าไม่เพียงพออยู่ดี
 เพราะมีเงื่อนไขสำคัญอย่างยิ่งอย่างหนึ่งจะต้องทำให้สำเร็จ และนั่นก็คือความถูกต้องน่าเชื่อถือ
ผู้อ้าง( หรือผู้กล่าวหา )มิได้มีความรับผิดชอบในการนำพยานหลักฐานมาแสดงตามข้ออ้างของเขาเท่านั้น
 แต่เขายังจะต้องแสดงให้เห็นว่าพยานหลักฐานของเขาถูกต้องน่าเชื่อถืออีกด้วย
 เพราะตราบใดที่เขาไม่สามารถพิสูจน์ความถูกต้องน่าเชื่อถือของมันได้ ข้ออ้างของเขามิได้เป็นอะไรเลย
นอกจากจะเป็นข้อกล่าวหาที่เหลวไหลและไร้แก่นสาร

นี่คือกฎเกณฑ์ทั่วๆ ไปสำหรับใช้กับข้ออ้างทางประวัติศาสตร์ทั้งหมด
ขอให้เราดูตัวอย่างของกรณี “อายะฮฺจากชัยฏอน” ซึ่งถูกนายซัลมาน รุชดี ผู้อื้อฉาวนำไปใช้ประโยชน์ในทางเสียหายและมุ่งร้าย
 ซัลมาน รุชดีไม่ได้เขียนเรื่องนี้ขึ้นจากสูญญากาศ แต่เขาพบมันในหนังสือประวัติศาสตร์
 อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขาไม่ได้ทำก็คือการทำให้มันดูถูกต้องน่าเชื่อถือ  ทำไม?
เหตุผลนั้นชัดเจนอย่างยิ่ง เพราะเขามีแผนการอะไรบางอย่าง และมีความปักใจเชื่อตั้งแต่ดั้งเดิมอยู่แล้ว

ดังนั้น เมื่อบุคคลใดก็ตามที่กล่าวหาคนอื่น โดยไม่สนใจที่จะตรวจสอบหลักฐานของตนที่นำมาใช้กล่าวหา
ว่ามีความถูกต้องน่าเชื่อถือหรือไม่ และที่ทำไปเช่นนั้นก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรเลย นอกจากข้อเท็จจริงที่ว่าเขาไม่ชอบ...
บุคคลเช่นนั้นมีความผิดไม่น้อยไปกว่าซัลมาน รุชดีและน้ำหมึกของเขา

จงอย่าให้ความเป็นศัตรูที่ท่านมีต่อคนๆ หนึ่งเป็นเหตุจูงใจเพียงหนึ่งเดียวที่ท่านจะว่าคนนั้นคนนี้มีความผิด

“ ….. และจงอย่าให้การเกลี่ยดชังพวกหนึ่งพวกใดทำให้พวกเจ้าไม่ยุติธรรม มันเป็นสิ่งที่ใกล้กับความยำเกรงยิ่งกว่า
และพึงยำเกรงอัลลอฮฺเถิด แท้จริงอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้อย่างละเอียดในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำกัน “ ( อัลมาอิดะฮ 5:8
)

ไปบอกเชคริฏอสิ ท่านสับสน

8
ราชวงซอูด ก็ยังได้รับการสนับสนุนจากอังกฤษในการต่อสู้

ดังที่บังดีนี่ยะฮฺได้โพสเอาไว้ข้างต้น

 เพราะบัลลังก์ของชะรีฟต้องเผชิญกับการโจมตีจากกองกำลังของเจ้า ชายอับดุลอะซีส อิบนุ ซุอูด ซึ่งได้รับกำลังสนับสนุนจากอังกฤษ

ยังจะเถียง... ถ้าจะเอาอย่างที่คุณดีนิยะฮฺว่า ก็เปลี่ยนหัวข้อเป็นว่า "ราชวงศ์ซาอุขับไล่ชะรีฟหุเซนโดยความร่วมมือของอังกฤษ" สิ  ไม่ใช่หัวข้อตามที่คุณจั่วไว้

คราวหลัง ถ้าจะกล่าวหาใครก็น่าจะศึกษาให้รอบคอบเสียก่อน กล่าวหามั่วๆแบบนี้ อย่างมากก็เป็นได้แค่การประจาญตัวเองให้คนอื่นรู้ว่าตัวเองมีกึ่นเพียงไหน เท่านั้นแหละ

อ้อ... ล็อคกระทู้เถอะ หรือไม่ก็ลบกระทู้เสีย จะได้ไม่อายคนอื่นเขา  อัสตัฆฟิรุลลอฮฺ

จะเป็นชารีฟฮูเซ็น หรือ ราชวงศ์ของซาอุ ก็ต่างร่วมมือกับอังกฤษเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว และให้ความช่วยเหลือกับอังกฤษเข่นฆ่าคนอาหรับ และยึดดินแดนไป ข้อมูลตรงนี้เชคริฎอพูดในเชิงปฏิเสธในบรรยายของท่านว่าเป็นข้อมูลเท็จซึ่งมาจากพวกฝรั่ง และ พวกชีอะห์รอฟิดอฮ  เพราะฉนั้นบังบาชีรต้องการนำเสนอว่าข้อมูลนี้เป็นข้อมูลจริง ซึ่งมาจากคนอาหรับซึ่งเป็นผู้แต่งหนังสือเอง และหนังสือที่ได้นำเสนอไปนั้นเป็นหนังสือที่ผมใช้เรียนซึ่งเป็นของกระทรวงศึกษาธิการประเทศสหรัฐเอมิเรสซึ่งใช้เรียนทุกโรงเรียน และในหนังสือนั้นมี مراجع  บทอ้างอิงจากหนังสือที่คนอาหรับแต่งขึ้นเองทั้งหมด 54 เล่ม โดยไม่มีหนังสือเล่มใดเป็นของฝรั่ง หรือแปลมาจากฝรั่งเลย

ดังนั้นผมอยากรู้ว่าสิ่งที่เชคริฎอกล่าวในบรรยายในเชิงปฏิเสธข้อมูลที่อาจาร์ยกอเซ็มนำเสนอว่ามาจากฝรั่ง มาจากชีอะห์รอฟิดอฮ  เชคริฎอเอามาจากไหนครับ?
ผมไม่รู้ว่าบัง Get นั้นเป็นลูกศิษย์เชคริฎอหรือเปล่าแต่มารยาทและคำพูดนั้น ผมบอกได้เลยว่านี่ไม่ใช่มารยาทอันดีงามของอิสลามแน่นอน ถ้าหากบังคิดเหมือนเชคริฎอว่าข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลเท็จ ท่านสามารถอ้างอิงข้อมูลที่ท่านเห็นว่าถูกต้องได้ วัสสลาม
 

9
 salam

"قال  رسول الله "كلوا الرمان بشحمه فإنه دباغ للمعدة
و
"قال رسول الله -صلى الله عليه وسلم "ما من رمانة إلا ولقحت من رمان الجنة، وما رمانة إلا فيها حبة من رمان الجنة

10
salam

อยู่ถนนเจริญกรุง แถว ๆ ไปรษณีย์กลาง(เดิม)

والسلام

อัลฮัมดุลิลลา มัสญิดฮารูนเป็นศูนย์รวมหัลเกาะของคนดะวะฮระเเวกนั้น ผมเคยไปร่วมประชุมอยู่บ้าง โดยเฉพาะเดือนร่อมดอนอิหม่ามที่นั่นอ่านดีมาก

หลังประชุมเสร็จจะมีอาหารเลี้ยงอร่อยมาก คอนเฟริม myGreat:

11
salam

พวกรุ่นพี่จะไปปอเนาะที่มาเลย์ช่วงเดือนบวช เวลากลับจะซื้อน้ำหอมที่ Alor Setar ขวดประมาณ 5 cc ประมาณ 200 กว่าบาท หอมมากๆ ผลิต U.A.E

หอมแบบผู้ดีอ่ะครับ กลิ่นติดทนมากๆ ขนาดไม่มีแอลกอฮอลล์ เท่าที่ทาอ่ะติดประมาณ 1วันเต็ม ถ้าหอมจางๆประมาณ2วัน

party:

ผมเรียนอยู่ U.A.E อินชาอัลลอฮเดียวลองไปหาดู

12
พี่น้องครับข้อมูลเหล่านี้เพิ่งถูกค้นพบได้ไม่นานนี้ แต่อัลกุรอานได้บอก และชี้แนะมาเมื่อ 1400 กว่าปีก่อนแล้ว

อัลลอฮ (ซ.บ.) ได้ตรัสว่า               ( و لحم طيرٍ مما يشتهون .  و فاكهة مما يتخيرون) 
                                                                             سورة الواقعة      20-21       
ความว่า   และผลไม้หลากชนิด ตามแต่พวกเขาจะเลือกกิน . และเนื้อนกที่พวกเขาอยากรับประทาน

และอีกอายะฮหนึ่ง                              (   و أمددناهم بفاكهة و لحمٍ مما يشتهون)
                                                                     سورة الطور           22
ความว่า   และเราจะเพิ่มพูนให้แก่พวกเขา ซึ่งผลไม้และเนื้อตามที่พวกเขาต้องการ

พี่น้องจะสังเกตได้ว่าอัลลอฮได้ เอาผลไม้ขึ้นก่อน แล้วตามด้วยเนื้อ
นี่เป็นอีกหนึ่งในความมหัศจรรย์ของอัลกุรอานที่มนุษย์เพิ่งค้นพบ

                                    والسلام

13
ผลการทดลองการกินผลไม้

1.กินผลไม้ก่อนแล้วตามด้วยอาหารนั้นปรากฎว่า กากของเสียที่ออกมาหลังการขับถ่าย ออกมาแบบปกติปกติ ไม่ค่อยมีกลิ่นเหม็น

2.กินอาหารก่อนแล้วตามด้วยผลไม้นั้นปรากฏว่า กากของเสียที่ออกมาหลังการขับถ่าย ออกมาแบบอาการท้องเสียและเหม็นเน่ามากๆ

ส่วนผลไม้ที่ไม่ควรทานก่อนอาหารก็มี มะเขือเทศ กับ สับประรด เพราะมีความเป็นกรดมาก อาจจะกัดกะเพาะได้

14
 
السلام عليكم
بسم الله الرحمن الرحيم
ทุกคนคงคิดว่าการกินผลไม้นั้นจะกินยังไงเมื่อไหร่ก็ได้เพราะผลไม้นั้นมีประโยชน์อยู่แล้ว ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด การกินผลไม้ที่ถูกต้องนั้นไม่ควรกินหลังอาหารอย่างที่เราทำกันเป็นประจำเพราะเข้าใจว่าผลไม้จะช่วยล้างปาก

วิธีการกินผลไม้ที่ถูกต้องนั้นมีดังนี้

1.ควรกินในขณะที่ท้องว่างเพราะช่วยให้ลำไส้สามารถดูดซึมวิตามินได้อย่างเต็มที่ และมันช่วยล้างพิษในร่างกาย ให้พลังงานในช่วงที่ลดน้ำหนักได้ดีเหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่กำลังลดน้ำหนัก

2.กินก่อนอาหารเพราะผลไม้นั้นย่อยเร็วกว่าอาหารเช่น ขนมปัง และ เนื้อสัตว์ ถ้าหากเรากินอาหารก่อนแล้วกินผลไม้ ซึ่งอาหารเหล่านี้ต้องใช้เวลานานกว่ากะเพาะอาหารจะทำการย่อยแล้วไหลลงสู่ลำไส้เพราะฉนั้นถ้าหากเรากินผลไม้ตามไป ผลไม้นั้นจะไปสะสมที่กะเพาะแล้วเกิดเป็นกรดขึ้นทำให้อาหารบูดเน่า เราจะสังเกตได้ว่าจะมีอาการเรอหลังกินแตงโม หรือ อยากไปห้องน้ำหลังกินกล้วย

15
 salam

ใจเย็นๆครับพี่น้อง

ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณคุณบัง Truth ที่มาชี้เเนะ กระผมใคร่อยากให้พี่น้องไปตรวจสอบดูคลิปนี้ตั้งเเต่เเรก เเต่เนื่องด้วยเน็ตไม่อำนวยเน็ตที่นี่ช้ามากเพราะใช้สัญญานไวเรสของหอพักติดๆหลุดๆ ก็เลยเซ็ง

บวกกับมีสอบสองวิชาเคลียดก็เลยไม่ได้มาโพสกระทู้อย่างต่อเนื่อง คลิปนี้ผมได้ดูมาจากเพื่อนของผมอีกทีพอดูเสร็จก็งงว่าทำไมถึงฟัตวาเเบบนี้ ก็ไปเสริชในยูทูปมาก็เจอคลิปที่เพื่อนผมเอามาซึ่งเป็นคลิปเดียวกัน

เเต่ดังที่กล่าวมาเน็ตช้ามากจะดูคลิปจากยูทูปทีเเทบไม่ขยับเลย รู้สึกข้องใจอย่างเเรง ก็นี่ล่ะสิ่งที่ผมต้องการคือให้พี่น้องมาร่วมออกความคิดเห็น เเต่ไม่นึกว่าจะไปกันใหญ่

เเต่ในคลิปที่ผมดูเชคพูดว่าให้ฆ่าหนูมิกกี้เม้าส์ตอนท้ายๆคำพูด เเล้วก็ตัดไปเป็นข่าว เเล้วก็ไม่รู้ว่าเชคออกมา رد เเถลงไขเกี่ยวกับคำฟัตวาของท่านอย่างไร ผมเองก็อยากรู้ว่าทำไมถึงพูดอย่างนั้น

เเล้วในที่สุดบัง Truth ก็มาไขข้อสงสัยนี้ นี่ล่ะที่ผมต้องการ

เเละผมก็ต้องมาอัฟบัง Truth เเละพี่น้องทุกคนด้วยที่เป็นคนก่อฟิตนะฮ์นี้

والسلام

หน้า: [1] 2 3 4