salam
อยากให้พี่น้องลองอ่านข่าวนี้ดูครับ
เตือนภัยประชาชน “ระวังชาผงผสมสี” กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบชาผงนำเข้าผสมสีผิดมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนตรวจดูมาตรฐาน อย. ที่ฉลาก
ก่อนซื้อ เพื่อป้องกันอันตรายจากสีที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
จากนโยบายการ เปิดตลาดการค้าเสรี (Free Trade Area : FTA) ของประเทศไทย ทำให้มีสินค้าจากประเทศต่างๆ เข้ามาจำหน่าย
ในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจมีสินค้าบางอย่างที่ด้อยคุณภาพหรือไม่ได้มาตรฐานก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะสินค้า
ประเภทอาหารซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภคโดยตรง ดังนั้น เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยด้านสุขภาพให้แก่ผู้บริโภค
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จึงได้ดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพ ห้องปฏิบัติการเครือข่ายอาหารนำเข้าทั้งในส่วนกลาง ได้แก่
สำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร และใน ส่วนภูมิภาค ได้แก่ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ทั้ง 14 แห่งทั่วประเทศ เพื่อรองรับระบบ
การควบคุมและมาตรการตรวจสอบอาหารนำเข้า รวมทั้งการศึกษาวิจัยคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัยอาหารนำเข้า เพื่อนำข้อมูลและ
ผลการวิเคราะห์มาใช้ในการกำหนดหรือปรับปรุงมาตรฐานอาหาร และนำไปใช้ดำเนินการทางกฎหมายกับประเทศผู้ผลิต เช่น การทำลาย
สินค้า การส่งคืนสินค้ายังประเทศต้นทาง เป็นต้น
ในการนี้ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นหนึ่งในห้องปฏิบัติการเครือข่ายอาหารนำเข้าในส่วนภูมิภาค ได้ดำเนินการ
ประสานงานกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในเขตพื้นที่ภาคใต้ เก็บตัวอย่าง ชาผงที่วางจำหน่ายตามท้องตลาด จำนวน 18 ตัวอย่าง
12 ยี่ห้อ เพื่อตรวจคุณภาพและความปลอดภัย ผลการตรวจวิเคราะห์พบว่า ตัวอย่างชาผง 10 ตัวอย่าง จำนวน 5 ยี่ห้อ ซึ่งผลิตในประเทศ
มาเลเซีย มีการใส่สี ทั้งนี้ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 196 (พ.ศ.2543) ว่าด้วยเรื่อง ชา กำหนดให้ชาเป็นอาหารที่กำหนด
คุณภาพหรือ มาตรฐาน และห้ามไม่ให้ใส่สีในชาและชาผงสำเร็จรูป ยกเว้นชาปรุงสำเร็จ (ชนิดเหลว) ซึ่งจะเข้าตามข้อกำหนด เรื่อง การใช้
สีผสมอาหารในอาหารประเภทเครื่องดื่ม ไอศกรีม ลูกกวาด และขนมหวาน ซึ่งอนุญาตให้ใช้สีผสมอาหารได้ตามปริมาณที่กำหนดไว้ใน
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 281 (พ.ศ. 2547) สำหรับตัวอย่างชาผงที่มีการใส่สีนั้น พบว่า ทุกตัวอย่างมีการใช้สีสังเคราะห์ ทั้งสีที่อนุญาตให้ใส่ในอาหารและสีที่ไม่อนุญาตให้ใส่ในอาหารมากกว่า 1 ชนิด และบางชนิดยังมีการใช้ในปริมาณมากโดยมีชาผงยี่ห้อต่างๆ ดังนี้
1.ชาผงยี่ห้อ Special blender Tea dust 999 พบสี Sunset yellow FCF, Azorubin, Tartrazine และ Orange II
2.ชาผงยี่ห้อ Finest ceylon Tea dust 666 พบสี Sunset yellow FCF, Azorubin, Tartrazine และ Orange II
3.ชาผงยี่ห้อ Finest ceylon Tea dust 999 พบสี Sunset yellow FCF, Tartrazine และ Orange II
4.ชาผงยี่ห้อ Racehorse พบสี Sunset yellow FCF, Azorubin และ Tartrazine
5.ชาผงตราขวาน พบสี Azorubin และ Tartrazine ซึ่งตัวอย่างทั้งหมดเป็นชาผงที่ผลิตในประเทศมาเลเซีย ทั้งนี้ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์สุราษฎร์ธานี ได้แจ้งผลการตรวจวิเคราะห์ให้
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในเขตพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นเครือข่ายของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาในการให้ความคุ้มครองผู้บริโภค ทราบเพื่อดำเนินการต่อไปแล้ว
ทั้งนี้ อันตรายจากสีผสมอาหารต่อผู้ที่มีสุขภาพปกตินั้น อาจเกิดอันตรายได้ 2 ทาง คือ
1.เกิดจากตัวสีเอง หากบริโภคในปริมาณที่มากหรือบ่อยครั้งสีจะไปเคลือบเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้น้ำย่อยอาหารออกมา
ไม่สะดวก ขัดขวางการดูดซึมอาหาร ทำให้ท้องเดิน น้ำหนักลด และอ่อนเพลีย
2. เกิดจากสารอื่นที่ปนเปื้อนจากกระบวนการผลิตสี ได้แก่ โลหะหนัก เช่น ตะกั่ว แคดเมียม สารหนู ปรอท พลวง โครเมียม เป็นต้น
สารเหล่านี้แม้จะได้รับในปริมาณเล็กน้อย แต่จะค่อยๆ สะสมในร่างกาย จนก่อให้เกิดโรคโลหิตจาง เนื้องอก และมะเร็งได้ นอกจากนี้
สีสังเคราะห์แต่ละชนิดยังมีอันตรายที่แตกต่างกันไป และมีความไวต่อผู้ที่มีโรคประจำตัว บางอย่างเป็นพิเศษด้วย เช่น สี Tartrazine (E102) : FD&C Yellow No.5 ให้สีเหลือง จะทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น ผื่นคัน บวมแดง กระตุ้นให้เกิดโรคหอบหืด และโรคลมชักใน
เด็กได้ ทั้งยังทำให้เกิดเนื้องอกที่ไทรอยด์ ทำลายโครโมโซม และทำให้ผู้ป่วยแพ้แอสไพรินได้ง่าย ถูกยกเลิกการใช้ในประเทศนอร์เวย์และ
ออสเตรีย สี Sunset yellow FCF (E110) : Orange yellow S FD&C Yellow No.6 ให้สีส้ม มีผลข้างเคียงทำให้เป็นโรคลมพิษ
โพรงจมูกอักเสบ เกิดอาการแพ้ เนื้องอกที่ไต และถูกยกเลิกการใช้ในประเทศนอร์เวย์ สี Azorubin (E122) : Carmoisine เป็นอนุพันธ์
ของ Coal tar ให้สีแดง มีผลกับผู้ที่เป็นหืดหอบและทำให้แพ้แอสไพริน ถูกยกเลิกการ ใช้ในประเทศนอร์เวย์ สวีเดน ออสเตรีย และสหรัฐ
อเมริกา สี Orange II ให้สีส้ม เป็นสีห้ามใส่ในอาหาร ผลการทดลองในต่างประเทศรายงานว่า ทำให้เกิดพิษเฉียบพลันและพิษเรื้อรังใน
สัตว์ทดลอง ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นสารก่อมะเร็ง และหากได้รับในปริมาณมากจะทำให้เสียชีวิต
จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่า ชาผง นำเข้าที่มีการใส่สีสังเคราะห์ อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค
อีกทั้งยังผิดมาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขอีกด้วย ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย ผู้บริโภคควรเลือกซื้อชาผงที่ได้รับอนุญาตจาก
คณะกรรมการอาหารและยาแล้ว โดยฉลากจะต้องแสดงข้อความเป็นภาษาไทย มีเครื่องหมาย อย. ระบุเลขสารบบอาหาร ชื่อและที่ตั้งของ
ผู้ผลิต วันเดือนปีที่ผลิตหรือหมดอายุ ส่วนประกอบสำคัญ ฯลฯ เป็นข้อมูลเบื้องต้นที่ต้องมีระบุไว้ ทั้งนี้ แม้ว่าผู้บริโภคจะไม่สามารถสังเกต
ความแตกต่างระหว่างชาผงที่ผสมสีกับชาผงที่ไม่ผสมสีด้วย ตาเปล่าได้ แต่เมื่อนำไปชงในน้ำแล้วพบว่า น้ำชามีสีสันที่ฉูดฉาดกว่าปกติหรือ
ผิดสังเกต ก็เป็นไปได้ว่าชาผงที่นำมาชงนั้นมีการใส่สีสังเคราะห์ ผู้บริโภคจึงควรระวังตนเอง นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงผู้ประกอบการที่ขาย
เครื่องดื่มชาชงก็ควรเลือกซื้อชาผงที่ได้รับการรับรองจาก อย. แล้ว เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
ข้อมูลจาก...ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ สุราษฎร์ธานี
http://www.dmsc.moph.go.th/webroot/secretary/Homepage/pr/mass-news/mass-news_2549/november/17%20nov%2049.pdfหรือ
http://www.ucancookthai.com/language-thai/th-recipes/th-desserts/content-th-thai-tea-ice-cream.htm