แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Innovative_Student

หน้า: [1] 2
1
salam

แต่เห็นรูปนี้แล้วรู้สึกอึดอัดใจพอสมควร ทำให้มองมุสลิมศูฟียฺ ในแง่ที่ไม่ดีเลย

วัสสลาม

ผมเองก็รู้สึกเช่นนั้นแหละครับ จึงได้ยกประเด็นนี้มานำเสนอ

เนื่องจากมีมุสลิมที่กระทำการนอกกรอบอิสลามแบบนี้แหละ ที่มิได้ทำให้ศูฟียฺเสียหายอย่างเดียว แต่อิสลามก็เสียหายด้วย

ขอให้พวกเราห่างไกลจากชิริกใหญ่และชิริกเล็กด้วยเถิด

2
Copyleft some right reserved: กอปปีเลฟต์ สงวนลิขสิทธิ์ ไม่ ทั้งหมด

ในภาษาไทย ยังไม่มีคำที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปสำหรับ copyleft สมเกียรติ ตั้งนโม นักวิชาการมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ใช้ว่า "ลิขซ้าย" คงการล้อ ขวา-ซ้าย ไว้



 ;D 555+ "ลิขซ้าย" พี่แกจะฮาไปไหนเนี่ย

3
^
"บ้านเรา" ที่ไหนล่ะ

ประเทศไทยยังไงล่ะครับท่าน

4
คำเตือน : บทความที่จะให้พวกท่านได้อ่านนี้ เป็นบทความที่เขียนโดยชาวพุทธ ซึ่งอาจจะมีความเข้าใจบางอย่างที่บิดเบือนจากความเป็นจริงบ้างก็เป็นได้




Hazrat Shahadaveal Dargah ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Mutha ใกล้กับตลาด Yerawada และไม่ไกลจาก Deccan College มากนัก ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้มีการตกแต่งประดับประดาด้วยไฟแสงสีอย่างสวย งามโดยรอบสถานที่ ซึ่งนานๆ ทีถึงจะได้เห็นกัน ด้วยความสงสัยใคร่รู้พวกเราจึงชักชวนกันไปเยี่ยมชม

คำว่า Dargah นั้น เป็นชื่อเรียกศาสนสถานแห่งหนึ่งของชาวมุสลิมในลัทธิ Sufi ที่สร้างอยู่เหนือสุสานของบุคคลสำคัญทางศาสนา และ Hazrat Shahadaveal Dargah ก็เป็น Dargah ที่หนึ่งที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในเมืองปูเณ่ ในช่วงไม่กี่วันมานี้คงมีการเฉลิมฉลองสำคัญเพื่อรำลึกถึงผู้นำทางศาสนาที่ ฝังร่างอยู่ในสุสานแห่งนี้ นอกจากประดับไฟแสงสีโดยรอบสถานที่ที่ยกพื้นสูงคล้ายภูเขาย่อมๆ แล้ว ยังมีเสียงดนตรี และการเต้นรำ กันอย่างครึกครื้นสนุกสนานอีกด้วย

ผู้คนเดินทางมาสักการะหลุมฝังศพ อธิษฐาน และบริจาคเงิน โดยเฉพาะหลุมฝังศพสำคัญของผู้นำทางศาสนาจะสร้างเป็นอาคารขนาดเล็กครอบทับ ติดเครื่องปรับอากาศ และอนุญาตให้แต่เฉพาะบุรุษเข้าไปสักการะถึงหลุมศพข้างในได้ ผู้หญิงเข้าไม่ได้ ได้แต่กราบไหว้ และอธิษฐานอยู่แต่ภายนอกอาคารเท่านั้น ที่ฝังศพนั้นโรยด้วยดอกไม้สีขาวและคลุมทับด้วยผ้าแพรอีกชั้น และโดยรอบอาคารก็เต็มไปด้วยที่ฝังศพของบุคคลสำคัญทางศาสนากระจายอยู่ โดยมีผ้าแพรหลากสีสรรคลุมทับเช่นกัน

น่าเสียดายนิดหนึ่งที่พวกเราไม่สามารถเจาะลึกข้อมูลความเป็นมาของสถานที่ สำคัญแห่งนี้ได้ เนื่องเพราะชาวมุสลิมที่นี่ส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษกันไม่ได้เลย รวมทั้งไม่มีป้ายข้อมูลภาษาอังกฤษแสดงไว้ด้วย แต่โชคดีมาเจอหนุ่มอินเดียน รูปหล่อพูดเก่ง ชาวปูเณ่ ชื่อ Vishal เข้า (ที่เราไปตีซี้เขาเองเพื่อขอข้อมูล) บังเอิญเห็นเขาพูดภาษาอังกฤษได้ ก็เลยพอจะได้ทราบชื่อและข้อมูลเล็กน้อยเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้

และปกติแล้วศาสนสถานของชาวมุสลิมไม่ค่อยอนุญาตให้คนนอกศาสนาเข้าไปเยี่ยม ชมหรือสักการะได้ แต่ที่นี่เปิดกว้างอนุญาตให้ทุกศาสนา พวกเราเลยโชคดีได้เข้ามาในศาสนสถานแห่งนี้ และถ่ายรูปมาให้ชมกัน อ้อ! Vishal ยังบอกกับพวกเราด้วยว่าที่นี่ศักดิ์สิทธิ์ เข้าไปอธิษฐานขอพรข้างในอาคารดังกล่าวแล้วจะสมหวัง ตัวเขาเองก็เช่นกันแม้จะเป็นชาวพุทธเหมือนเราแต่ก็ดั้นด้นมาสักการะถึงที่ นี่ ก็ขอให้ Vishal สมหวังในทุกสิ่งที่ขอพรไปแล้วกัน และขอให้พรนั้นส่งผลสมหวังมาถึงพวกเราทุกคนด้วยเทอญ

…………….

*ภาพโดย james















คัดลอกจาก http://learningpune.com/?p=3392




ที่อินเดียนี่ เรื่องแบบนี้มีเยอะ

ดีนะที่บ้านเราไม่มีแบบนี้

. . . หรือว่ามี อันนี้ก็ไม่อาจทราบได้



5
ต้องยอมรับว่า มุสลิมในบ้านเราหลายคนที่ "ญาเฮ้ล" ในเรื่องดังกล่าวนี้

ไม่รู้เรื่องกันกันตั้งแต่ระดับรากหญ้าที่ไม่มีการศึกษาจนถึงคนที่มีการศึกษาศาสนาระดับสูง แต่ไม่เอาเรื่องเอาราว

น่าอนาถใจจริงๆ

6
ผมว่า "ไม่น่าจะใช่ทุกคนนะ"

7
 salam

อืม..

และอีกอย่างผมเชื่อนะครับว่า ในชีวิตจริงๆของพวกเราเนี่ย เวลาเจอกับคนที่เราคิดว่าอยู่ฝ่ายตรงข้าม(ย้ำ..."คิดว่าอยู่ฝ่ายตรงข้าม" ซึ่งอาจไม่ใช่ฝ่ายตรงข้ามจริงๆก็ได้)

เราไม่ไปชี้หน้าด่าทอพวกเขาหรอก บางทีพวกเราอาจจะยื่นมือให้สลามและยิ้มให้กันด้วยซ้ำ

แต่ทำไมก็ไม่รู้ เวลาอยู่ในบอร์ดแล้ว พวกเราถึงได้เกลียดกันเหลือเกิน

อันนี้ หมายถึงตัวเองด้วยนะ ที่บางทีก็ทำตามนัฟซูมากเกินไป


8

 salam

อืม...

เห็นด้วยกับคอมเม้นท์ของ abu-khulus นะ (ที่อ้างอิง จากบทความของอัล-อัค)

คือบางทีเรามัวแต่เรียกชื่อที่เขาไม่ชอบ แล้วก็ด่าเชา ว่าเขา วิพากษ์วิจารย์เขา แต่ไม่เคยเลยสักครั้งที่พวกเราจะมานั่งพบเจอกัน พูดคุยกัน แล้วชี้แจงว่า "ที่ฉันเชื่อแบบนี้นั้น ก็เพราะว่า....."

"มีหลักฐาน....อย่างนั้น อย่างนี้" "ไม่ขัดกับ ตัวบทหลักฐานอย่างนั้น อย่างนี้" เป็นต้น

คือ มันเป็นการพูดคุยตักเตือนกันอย่างจริงใจ ที่อยากให้เขาได้พบกับสัจธรรมอย่างที่เราได้สัมผัส ไม่ใช่การประนามเพียงเพื่อตอบสนองชัยและชนะ พ่ายและแพ้

หรือเถียงเพราะ วางฟอร์มของตัวเองไม่ลง

แนะนำนะครับ เกลียดใคร ก็ไปเจอเขาซะ แล้วไปพูดคุยกับเขาดีๆ ว่าทำไมถึงอย่างนั้น อย่างนี้

ไม่ต้องกลัวหรอก หากเรามั่นใจว่าเราถือสัจธรรมจริงๆ

  smile:

9
ไม่ว่าศพนั้นจะเป็นใคร ไม่เห็นด้วยที่จะเอาภาพศพมาเผยแพร่ในลักษณะนี้
อย่างน้อยควรปิดใบหน้าโดยกาทับก็ยังดี


นิสัยวัฮบี

ปกติไม่ว่าใครเขาก็ไม่ค่อยถ่ายรูปศพแล้วเอามาเผยแพร่แบบนี้หรอก นอกจากศพนั้นจะโดนอธรรม เพื่อเป็นการตีแผ่การกระทำของบรรดาผู้อธรรมเหล่านั้น

ซึ่งเราสามารถเห็นได้ จากการที่ยิวถล่มพี่น้องปาเลสไตน์เมื่อครั้งล่าสุด และเราก็สามารถเห็นภาพศพและภาพพี่น้องที่โดนระเบิด โดนอธรรมมากมาย และสิ่งนี้เองที่เป็นการยืนยันถึงความอธรรมและตีแผ่ความชั่วช้าของยิว ได้ดีกว่าคำบอกเล่าอย่างเดียว

ผมจึงอยากถามพี่น้องว่า กรณีนี้อ่ะครับ เราสามารถกระทำได้หรือเปล่า? หรือมีหลักฐานห้ามโดยสิ้นเชิง

10
ผมเสียใจครับ...

ถึงขนาดนี้แล้วพวกเราก็ยังด่าวะฮาบีๆๆ ไม่มีใครสักคนที่ประนามชีอะฮฺ ทั้งๆที่พวกเราเป็นที่อนุญาตสำหรับชีอะฮฺในการฆ่าหรือปล้น

ไม่รู้ว่าผมพูดถูกหรือเปล่านะ แต่อยากให้พวกเราเรียบเรียงลำดับความสำคัญว่าใครกันแน่คือศัตรูที่อันตรายยิ่ง

อย่าได้เข้าข้างศัตรูที่ด่าศอฮาบะฮฺ จ้องทำลายอิสลาม เพียงเพราะเกลียดกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเลยครับ

มิเช่นมันจะเป็นอย่างที่ อ.ริดอพูด ว่า "ซูฟีอยู่ใต้รักแร้ของชีอะฮฺ"


11
 salam

ก่อนอื่นเลยผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง ที่จะให้มีไว้ซึ่งกระทู้ที่เชื่อมสัมพันธ์ระหว่างพวกเรา หรือเพื่อผ่อนคลาย
แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเราต้องไม่ลืมคือ การผ่อนคลาย การหยอกล้อกันเล่น การใช้คำพูดนั้น ต้องอยู่ในหลักการศาสนาอิสลาม หมายถึงไม่ผิดหลักการศาสนาอิสลามและจริยธรรมอันสูงส่ง
มิใช่สักว่าจะผ่อนคลายหรือเชื่อมสัมพันธ์ แล้วเราจะพูดอะไรก็ได้
เช่นการพูดแซวชายหญิง การนินทาว่าร้าย การล้อเล่นกับเรื่องศาสนา เป็นต้นครับ

เพื่อการผ่อนคลายของพวกเรานั้นจะได้อยู่ในหลักการศาสนา ผลบุญเพิ่มขึ้น มิใช่บาปเท่าทวีคูณ

 smile:

12
อืม ดีๆ เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ครับ  myGreat:

13
 salam

ขอโทษนะครับ

แบบว่าเห็นพวกเราพูดกันแต่เรื่องมารยาทและมารยาท

และพวกเราก็รับไม่ได้ในมารยาทของคนอื่นที่เราไม่อาจรับได้

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากให้พวกเราตรวจสอบและตักเตือนซึ่งกันและกันก็คือ

มารยาทของเราดีพอหรือยัง?

สุดท้ายผมอยากฝากคำดำรัสของอัลลอฮฺแก่พี่น้องว่า





ความว่า

"ดังนั้นจงตักเตือนกันเถิด เพราะการตักเตือนกันนั้นจะยังคุณประโยชน์ ผู้ที่หวั่นกลัวจะได้รำลึก และผู้ที่ชั่วช้ายิ่งจะหลีกเลี่ยงการตักเตือนนั้น" [อัลอะอฺลา 87:9-11]


14
ก้อชื่อคุนล่อให้คนคิดไปต่างๆนานา
555555555555
ใครเจตนามายังไงก้อย่อมรู้ดีอยู่แ่ก่ใจอยู่แล้ว

 hehe hehe hehe

นั่นสินะ

จะว่าไป...สงสัยเราคงเปิดตัวโอ่อ่าไป



คือว่า ชื่อ Bid_ah-Student  เนี๊ยะ  เป็นชื่อที่ วะฮาบีย์ ชอบเรียกคนในเวปนี้นะครับ

อ้าว เหรอครับ

งั้นผมขออนุญาติเปลี่ยนชื่อนะครับ

15
ก้อชื่อคุนล่อให้คนคิดไปต่างๆนานา
555555555555
ใครเจตนามายังไงก้อย่อมรู้ดีอยู่แ่ก่ใจอยู่แล้ว

 hehe hehe hehe

นั่นสินะ

จะว่าไป...สงสัยเราคงเปิดตัวโอ่อ่าไป

หน้า: [1] 2