แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - almadany

หน้า: [1] 2 3 ... 23
1
 salam

รู้สึกว่าวะฮาบีนาม truth1979 ถูกแบนไปเรียบร้อย...เพราะดื้อไม่ทำตามกฏแห่งเว็บ...เที่ยวมาพ่นพิษอ้างลิงค์นั้นลิงค์นี้...โดยไม่ได้อยู่ในรูปแบบการเสวนา

http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=6256.msg83865;topicseen#new

เพราะเท่าที่สังเกต  หากวะฮาบีจะนำเสนอเรื่องคิลาฟ...เว็บนี้เปิดโอกาสให้วะฮาบีนำเสนอในรูปแบบเสวนาเชิงวิชาการเท่านั้น

วันก่อนก็เห็นชีอะฮ์พยายายามโพสแล้วอ้างอิงลิงค์ของชีอะฮ์...ก็ถูกลบถูกแบนไปเรียบร้อยเหมือนกัน...แล้วชีอะฮ์ก็หายไป...แต่วะฮาบีมันชอบขบถ...เอาแต่ใจไม่เคารพกฏของคนไม่พื้นที่ของเว็บ...เลยต้องถูกแบนไปตามระเบียบ...จริงๆ สมควรนานแล้ว 

2
 salam

ได้อ่านตำราของชีอะฮ์ที่โจมตีประวัติวะฮาบีย์ก็จะเลยเถิดเหมือนแต่งขึ้นมา...พออ่านตำราที่วะฮาบีย์แต่งเกี่ยวกับประวัติกำเนิดวะฮาบีย์เองก็จะเลยเถิดสวยหรูเพริดแพร้วเสริมเติมแต่งให้ดูดี...

แต่เท่าที่ทราบนั้นจุดกำเนิดวะฮาบีย์คือฮุกุ่มมุสลิมเป็นกาเฟรเป็นมุชริกแล้วนองเลือดรบราฆ่าฟันจนกระทั่งปราชญ์อิสลามอะฮ์ลิสซุนนะฮ์ในยุคนั้นต่างต่อต้านและไม่เห็นด้วย...เรื่องราวมันเป็นข้อเท็จจริงอย่างไร...บรรดาพี่น้องที่เป็นผู้รู้โปรดนำเสนอที่อยู่ในเชิงวิชาการด้วย...เพื่อยืนยันว่าเรานำเสนอประวัติกำเนิดวะฮาบีย์ได้เป็นธรรมที่สุดและถูกต้องที่สุด...วัสลาม

3
9 .  อิสลามอนุมัติให้สามีลงโทษภรรยาด้วยการตีได้


อิสลามได้บอกว่า  การที่สามีตีภรรยานั้น...ตีแบบไม่ให้เจ็บ  ดังนั้นข้อ 9 นี้ถึงว่าไม่รัดกุม

5.   อิสลามสั่งลงโทษประหารสำหรับพวกรักร่วมเพศ


สั่งลงโทษนั้น  อันนี้ยอมรับ  แต่เอาหลักฐานจากตัวบทใหนที่ระบุว่า รักร่วมเพศต้องถูกประหาร...

3.   อิสลามสั่งว่า ผู้ที่จาบจ้วงวิจารณ์ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศอลฯ) และกฎหมายชาริอะฮฺ ไม่ว่าจะเป็นมุสลิม
      หรือมิใช่ ก็มีโทษตายสถานเดียว


ใครดูหมิ่นต้องลงโทษ  แต่จะประหารนั้น  ต้องดูก่อนเพราะถ้าหากยุยงส่งเสริมให้ต่อต้านอิสลามด้วย  ก็ว่ากันไปอีกอย่าง  แต่ต้องมีผู้นำที่มีอำนาจในการกระทำสิ่งนี้ได้...

แต่ปัญหาที่สำคัญที่สุดคือ  มุสลิมพร้อมที่จะปฏิบัติสิ่งต่างๆ เหล่านี้อย่างพร้อมเพรียงแล้วหรือยัง?...หรือว่าคนที่อยากจะให้กฏหมายนี้  ยังดูดใบจากดูดบุหรี่อยู่

4
salam

ไม่รู้ว่ามีข้อความต่อจากที่ท่านอับดุลกอวียกมาหรือเปล่า อาจเป็นไปได้ว่า ท่านอาจยกประโยคนี้มาเพื่อบอกว่าพวกมุนาฟิกีนแม้จะทำตัวเช่นนี้ แต่ไม่ได้ทำด้วยความจริงใจก็ได้ ลองมองในแง่ดีไว้ดีกว่า จริงไหมครับ ?
วัสสลาม

เรื่องของเรื่องก็คือ  ท่านมุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮ์ฮาบต้องการที่จะบอกว่า มุสลิมในยุคสมัยของท่านที่มักกะฮ์และแถบฮิยาซฺนั้น  กล่าวกะลิมะฮ์ชะฮาดะฮ์เพียงแค่ถ้อยคำลมปากโดยไม่ยอมรับในความหมายของกะลิเมาะฮ์ชะฮาดะฮ์ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์...ท่านมุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮ์ฮาบเลยเปรียบเทียบมุสลิมในสมัยนั้นเหมือนกับพวกมุนาฟิกีนที่พูดกะลิเมาะฮ์ชะฮาดะฮ์ด้วยลมปากเหมือนกันแต่ไม่ยอมรับในความหมาย...แต่ท่านมุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮ์ฮาบต้องการจะยืนยันทัศนะของตนเองว่ามุสลิมในสมัยนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าพวกมุนาฟิกีน...จึงทำการยกย่อมพวกมุนาฟิกีนให้ดูดียิ่งขึ้นไปเพื่อให้มุสลิมสมัยของมุสลิมดูตกต่ำยิ่งไปอีก...ด้วยการกล่าวว่า "พวกมุนาฟิกีนได้ทำการญิฮาดในหนทางของอัลเลาะฮ์โดยเสียสละชีวิตและทรัพย์สิน"  แต่ถ้าพูดว่า "พวกมุนาฟิกีนก็ออกรับพร้อมกับท่านนบี..."  อันนี้ก็ไม่เป็นปัญหาเพราะบางทีพวกมุนาฟิกีนบางคนออกรับเพื่ออย่างได้ทรัพย์สงคราม...  แต่ท่านมุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮ์ฮาบบอกว่า "พวกมุนาฟิกีนญิฮาดในหนทางของอัลเลาะฮ์!"


คำถามก็คือ  พวกมุนาฟิกทำอะไรเพื่ออัลเลาะฮ์และอยู่ในหนทางของอัลเลาะฮ์ด้วยกระนั้นหรือ?...มันยังไงกัน?..

5
 salam

ท่านมุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮ์ฮาบให้การยกย่องชมเชยพวกมุนาฟิกีนสมัยนบี...เขากล่าวว่า

كان المنافقون على عصر رسول الله صلى الله عليه وسلم يجاهدون في سبيل الله بأموالهم وأنفسهم ويصلون مع رسول الله صلى الله عليه وسلم الصلوات الخمس ويحجون معه

"พวกมุนาฟิกีนในยุคสมัยของท่านนบี(ซ.ล.)ได้ทำการต่อสู้(ญิฮาด)ในหนทางของอัลเลาะฮ์ เสียสละทรัพย์สินและตัวของพวกเขาเอง(ในหนทางของพระองค์)  พวกเขายังทำละหมาด 5 เวลาและทำฮัจญ์พร้อมกับท่านนบี" หนังสือ อัดดุร๊อร อัษษะนียะฮ์ 2/86

มันยังไงกัน...?

6
 salam

อยากให้ช่วงทีวีดังกล่าวที่ชื่อว่า "ทีวีมุสลิม" ให้เปลี่ยนไปเป็น "ทีวีบรรจง"...

สำนักงานจุฬาฯ ชุดใหม่นี้  ไม่รับบรรจงเข้ามามีตำแหน่งและไม่รับข้อเสนอความคิดเห็นต่างๆ ของเขา....

ผลตามมาก็คือ โจมตีจุฬาฯ ต่อไป...

สุดท้ายก็อยากให้ทีวีช่วงดังกล่าว ทำงานโดยเน้นความบริสุทธิ์ใจให้มากๆ...  

7
 salam

การเขียนท้ายบทนั้น...เขาจะเขียนแบบสรุป..จะไปอ้างอิงแบบรายละเอียดมันจะกินหลายหน้ากระดาษ...

จริงๆ แล้วคนถามน่าจะพิมพ์บทลงท้ายมาให้หมดเลย...พี่น้องจะได้เข้าใจ...แต่นี่ยกมาแค่นิดเดียวเพื่อสร้างความสงสัย...

ที่จำได้คือคำถามนี้  วะฮาบีย์เป็นคนถามขึ้นมาในเว็บของพวกเขา...เลยคลุมเคลือแบบนี้แล...

8
เมื่อคืนพึ่งจะได้ดูรายการถามตอบสดของทีวีช่องนี้เป็นครั้งแรก

เจ้าของรายการเขาชงเรื่องให้อาจารย์ประจำรายการพูดประมาณว่า ถ้าใครแนะนำให้คนอื่นติดจานรับสันญาณก็จะได้ความดีไปด้วย

เจ้าของรายการถามต่อว่า คนที่บอกว่า "ห้ามดูทีวีช่องนี้ เพราะสร้างความแตกแยก"  จะเป็นอย่างไร?

ท่านอาจารย์เขาตอบว่า "ต้องเตาบะฮฺตัวต่ออัลลอฮฺให้มากๆ เลย  เพราะการพูดดังกล่าวนี้ เท่ากับกำลังเป็นศัตรูกับอัลลอฮฺและร่อซูล"   :o

อะไรจะขนาดนั้น

เท่ากับว่าทีวีดังกล่าวอยู่ในตำแหน่งของอัลเลาะฮ์และรอซูล...ใครวิจารณ์ตำหนิทีวีดังกล่าว...ก็เหมือนกับวิจารณ์และตำหนิอัลเลาะฮ์และร่อซูล...สุดๆ..ทีวีดังกล่าวเคยพูดเรื่องความบริสุทธิ์ใจในการทำงานศาสนาบ้างหรือเปล่า?... oh:

9
สนทนาศาสนธรรม / Re: ถ้อยคำดี
« เมื่อ: มิ.ย. 06, 2010, 02:56 PM »
 salam

พื้นฐานอิสลามเป็นเรื่อง่าย...แต่ความผูกพันกับอัลลอฮ์อย่างสม่ำเสมอเป็นเรื่องยาก...

การละหมาดเป็นเรื่องง่าย...แต่ทำละหมาดไม่ให้ลืมอัลลอฮ์ในละหมาดและนอกละหมาดเป็นเรื่องยาก

พูดว่าตามนบีนั้นเป็นเรื่องง่าย...แต่การทำตามนบีอย่างแท้จริงนั้นในเรื่องไม่ง่าย

ด้วยเหตุนี้  อัลเลาะฮ์จึงใช้ให้เรามุญาฮะฮ์ต่อสู้กับตนเอง  หากง่ายกันหมดก็ไม่มีความหมายอะไรที่จะทดสอบมนุษย์

10
 salam

ท่านอิมามอัซซะฮะบีย์ ได้กล่าวในหนังสือ ซิยัร อะลาม อันนุบะลาอฺ เล่ม 15 หน้า 88  ความว่า... :

كان شيخنا ابن تيمية في أواخر أيامه يقول: أنا لا أكفر [ أحدا ] من الامة، ويقول: قال النبي صلى الله عليه وسلم: "لا يحافظ على الوضوء إلا مؤمن" فمن لازم الصلوات بوضوء فهو مسلم

"อาจารย์ของเรา คือท่านอิบนุตัยมียะฮ์  ในช่วงท้ายของชีวิตนั้น  ท่านได้กล่าวว่า  ฉันจะไม่ตัดสินเป็นกาเฟรกับคนใดจากประชาชาตินบีมุฮัมมัดนี้  และท่านอิบนุตัยมียะฮ์ได้กล่าวอีกว่า  ท่านนบี(ซ.ล.) ได้กล่าวว่า  "จะไม่รักษาน้ำละหมาดนอกจากผู้ที่ศรัทธา"  ดังนั้นผู้ใดที่ยังคงทำละหมาดด้วยวุดุอฺ(น้ำละหมาด)  เขาย่อมเป็นมุสลิม!"

เป็นที่ทราบดีว่า  การกล่าวหาพี่น้องมุสลิมเป็นพวกมุชริกเป็นกาเฟรนั้น  เป็นผลงานของวะฮาบีย์(บางส่วนหรือเปล่า?)มากที่สุด!....  

11
 salam

จริง ๆ แล้ว นาย Hantu เขาถูกแบนและถูกลบชื่อออกไปจากสาระบบแล้ว...แต่ก็โผล่มาอีกด้วยการเปลี่ยนนิค...

เขาสมควรถูกลบออกจากเว็บนี้นานแล้ว...เพราะหากจะนำเสนอก็ไปทำเว็บขึ้นมาเอง...อย่ามาโพสต์เกะกะแถวนี้...!!!




12
1- พอได้ยิน คุณเอาเลยไปเปรียบเทียบกับ มัคลูก = เข้าข่าย تمثيل เปรียบพระองค์กับมัคลูก
2- สมองคุณเห็นว่า ไม่ได้ เปรียบเทียบกับมัคลูกไม่ได้ ฉะนั้น ต้องปฎิเสธเรื่องนี้ = เข้าข่าย تعطيل คุณปฏิเสธศิฟัตของอัลลอฮ์
3- เมื่อเป็นความหมายตรงไม่ได้ ก็ต้องเปลี่ยนเป็นความหมายโดยนัยแทน คุณจึงตีความว่าต้องมีความหมายอย่างอื่น = เข้าข่าย تحريف คุณบิดเบือนความหมายของศิฟัต
ทั้งสามอย่างนี้สลัฟเห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก

  ขอรายละเอียดหน่อยครับ  เพราะคุณเขียนมาเยอะมากครับ 

1. ขอความเข้าใจเกี่ยวกับการแบ่งแยกระหว่าง تشبيه  กับ تمثيل  หน่อยว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร

2. คำนิยาม تعطيل คือะไร และำคำนิยาม تحريف หมายถึงอะไร และการตีความ(ตะวีล) เข้าข่าย تعطيل และ تحريف  เสมอไปหรือไม่?

3. เป็นที่ทราบดีว่า ยะดุน (แปลว่ามือ)  แต่ความหมายแท้ตามหลักภาษาอัลกุรอาน(ภาษาอาหรับ)หมายถึงอะไรและความหมายโดยนัยมีอะไรบ้าง

ขอบคุณครับ


  ใจเย็นๆครับ เอาทีละเรื่องดีกว่า ผมเสนอเงื่อนไขไปตั้งหลายเรื่องท่านข้ามหมดเลย แล้วที่ผมถามท่านไปตอบคำถามก่อนสิครับ ถ้ามีแต่คนถนัดถามไม่ถนัดตอบจะเรียกเสวนาได้อย่างไร?

13
 salam

ตั้งแต่อ่านกระทู้อื่นๆ ของคุณ laliklalee...เขาก็ไม่ยอมรับในอัลอะชาอิเราะฮ์เหมือนกัน..."ยิวและนะซอรอจะไม่พอใจท่านจนกว่าท่านตามศาสนาของพวกเขา" บะกอเราะฮ์ 120..."ชีอะฮ์จะไม่พอใจในตัวท่านจนกว่าพวกท่านตามศาสนาของพวกเขา"...เช่นกัน..."วะฮาบีย์จะไม่พอใจในตัวท่านจนกว่าท่านตามแนวทางของพวกเขา"...

...อะกีดะฮ์บางอย่างที่ในตำราของอุลามาอฺวะฮาบีย์นั้น...วะฮาบีย์ไม่ค่อยรู้เรื่อง...พอพวกเรานำเสนออะกีดะฮ์ของพวกเขา...เพิ่งมารู้เลยรับไม่ได้...แล้วมาบอกว่าอย่าเหมารวม...

ได้ไปอ่านข้อความจากเว็บอิกเราะอ์(วะฮาบีย์)  เขาเผยแพร่ข้อมูลที่ว่า
อ้างถึง
2). ชื่อกลุ่มแนวทางที่เบี่ยงเบน

เนื่องจากว่ากลุ่มแนวทางที่เบี่ยงเบนมีจำนวนมากจึงใคร่ขอนำเสนอบางกลุ่มที่เป็นที่รู้จักและเป็นกลุ่มต้นแบบในทางเบี่ยงเบนประกอบไปด้วย 2 กลุ่มคือ

1) กลุ่มอะฮฺลุลบิดอะฮฺ ซึ่งมีกลุ่มต้นแบบที่มี 5 กลุ่มหลักด้วยกัน คือกลุ่มเคาะวาริจญฺ กลุ่มรอฟิเฎาะฮฺ กลุ่มมุรญิอะฮฺ กลุ่มเกาะดารียะฮฺ และกลุ่มญะฮฺมิยะฮฺ

2) กลุ่มอะฮฺลุลกะลาม ประกอบด้วย กลุ่มอัลอะชาอิเราะฮฺ กลุ่มอัลมาตูรีดิยะฮฺ และกลุ่มมุอฺตาซิละฮฺ

ทั้งสามกลุ่มนี้แม้จะมีชื่อที่แตกต่างกัน แต่ก็มีจุดรวมที่คล้ายๆกันคือมีแนวทางที่เบี่ยงเบนโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวกับเตาฮีด ดังรายละเอียดต่อไปนี้

แค่นี้ก็รู้แล้วว่า วะฮาบีย์กับอะฮ์ลิสซุนนะฮ์อะชาอิเราะฮ์...มันเดินคนละทาง...จะมาขอหยุดห้ามให้เราโต้วะฮาบีย์ไม่ได้หรอก...ต่างฝ่ายต่างนำเสนอกันไป...

ท่านอิมาม อะบุลมุซ็อฟฟัร อัลอิสฟิรอยีนีย์ ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ กล่าวว่า "และท่านจะทราบว่า ทุกคนที่ยอมรับด้วยกับหลักการของศาสนานี้ที่เราได้พรรณามันไว้จากหลักศรัทธาของกลุ่มที่ปลอดภัย(คือกลุ่มอะฮ์ลิสซุนนะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์และอัลมะตูรียะฮ์) เขาย่อมอยู่บนสัจธรรมและอยู่บนหนทางที่เที่ยงตรง ดังนั้นผู้ใดที่ฮุกุ่มบิดอะฮ์ต่อเขา(ผู้อยู่แนวทางดังกล่าว) ผู้นั้นย่อมเป็นคนบิดอะฮ์ , และผู้ใดฮุกุ่มเขาว่าลุ่มหลง ผู้นั้นย่อมเป็นคนลุ่มหลง , และผู้ใดฮุกุ่มเขาเป็นกาเฟร ผู้นั้นย่อมเป็นคนกาเฟรด้วย" หนังสืออัตตับซีร ฟิดดีน หน้า 111 ของท่านอิมามอัลอัสฟิรอยีนีย์

ท่านชัยค์ อะบุล หะซัน อัลนัดวีย์ ได้กล่าวถึงแนวทางอัลอะชาอิเราะฮ์ ความว่า "ทั่วทุกมุมโลกอิสลาม ต้องน้อมรับให้กับวิชาความรู้และและความสำเร็จของปวงปราชญ์อัลอะชาอิเราะฮ์...และด้วยความประเสริฐของพวกเขาเหล่านั้น ทำให้แกนนำเชิงแนวคิดแห่งโลกอิสลามมีการขับเคลื่อน และสามารถชี้นำกลุ่มมั๊วะตะซิละฮ์ให้กลับไปสู่แนวทางของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์" หนังสือ ริญาลุล ฟิกร์วัดดะอฺวะฮ์ ฟีลอิสลาม หน้า 137 ของท่านอะบุลฮะซัน อัลนัดวีย์

14
แล้วไปครับ ยังงัยก็ไม่ต้องรีบร้อน จะรออ่านแล้วกันครับ

...
ท่านศาสดามุฮำมัด(ศ) ได้กล่าวว่า : แท้จริงประชาชาติของศาสดามูซา (อ) ได้แตกออกภายหลังจากเขาเป็น 71 จำพวก มีหนึ่งกลุ่มเท่านั้นที่รอด ส่วนอีก 70 อยู่ในไฟนรก และประชาชาติของศาสดาอีซา (อ) ได้แตกออกภายหลังจากเขาเป็น 72 จำพวก มีหนึ่งกลุ่มเท่านั้นที่รอด ส่วนอีก 71 อยู่ในไฟนรก และแท้จริงประชาชาติของฉัน จะแตกออกภายหลังจากฉันเป็น 73 จำพวก มีกลุ่มเดียวเท่านั้นที่รอด ส่วนอีก 72 จะอยู่ในไฟนรก ( หนังสือบิฮารุล อันวาร เล่มที่ 28 หน้า 4 บาบที่ 1 อิ๊ฟติรอกุลอุมมะติ บ๊ะอ์ดัน-นบี (ศ) ) ซึ่งเมื่อมีผู้ถามว่า “โอ้ เราะสูลของอัลลอฮฺ พวกเขา(ที่ได้เข้าสรรค์นั้น)เป็นใคร?” ท่านตอบว่า “อัล ญะมาอะฮฺ” ” (รายงานโดยอิบนุมาญะฮฺ 2/1322) ในบางสำนวนท่านนบีฯ ได้เปิดเผยกลุ่มที่รอดเอาไว้ว่า “... มีคนถามว่า กลุ่มนั้นคือใครกัน โอ้เราะซูลของอัลลอฮฺ? ท่านตอบว่า สิ่งที่ฉันและเศาะฮาบะฮฺของฉันดำรงอยู่”(รายงานโดยอัตติรมิซียฺ 5 /26, รายงานโดยอัล-หากิม 1 / 128)

ฮะดีษนี้แหละ...ที่วะฮาบีย์ชอบนำมาอ้างเพื่อความชอบธรรมกับแนวทางของตน...เพื่อคัดแนวทางอื่นให้พ้น...ชีอะฮ์ก็ชอบนำมาอ้างเหมือนกัน...อะไรกันหนักหนา...

15
ได้ไปอ่านข้อความจากเว็บอิกเราะ อ์  เขาเผยแพร่ข้อมูลที่ว่า
อ้างถึง
2). ชื่อกลุ่มแนวทางที่เบี่ยงเบน

เนื่องจากว่ากลุ่มแนวทางที่เบี่ยงเบนมีจำนวนมากจึงใคร่ขอนำเสนอบางกลุ่มที่เป็นที่รู้จักและเป็นกลุ่มต้นแบบในทางเบี่ยงเบนประกอบไปด้วย 2 กลุ่มคือ

1) กลุ่มอะฮฺลุลบิดอะฮฺ ซึ่งมีกลุ่มต้นแบบที่มี 5 กลุ่มหลักด้วยกัน คือกลุ่มเคาะวาริจญฺ กลุ่มรอฟิเฎาะฮฺ กลุ่มมุรญิอะฮฺ กลุ่มเกาะดารียะฮฺ และกลุ่มญะฮฺมิยะฮฺ

2) กลุ่มอะฮฺลุลกะลาม ประกอบด้วย กลุ่มอัลอะชาอิเราะฮฺ กลุ่มอัลมาตูรีดิยะฮฺ และกลุ่มมุอฺตาซิละฮฺ

ทั้งสามกลุ่มนี้แม้จะมีชื่อที่แตกต่างกัน แต่ก็มีจุดรวมที่คล้ายๆกันคือมีแนวทางที่เบี่ยงเบนโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวกับเตาฮีด ดังรายละเอียดต่อไปนี้

แค่นี้ก็รู้แล้วว่า วะฮาบีย์กับอะชาอิเราะฮ์...มันเดินคนละทาง...จะมาขอหยุดห้ามให้เราโต้วะฮาบีย์ไม่ได้หรอก...ต่างฝ่ายต่างนำเสนอกันไป...

หน้า: [1] 2 3 ... 23