แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - zaiyideen

หน้า: [1] 2 3
1
สลามพี่น้องทุกท่าน
ในครั้งแรกผมก้อทดสอบในแนว ดูว่าเธอเดียจฉันท์ เครื่องแบบของมุสลิมหรือไม่ ก้อถือว่าผ่านไป1ข้อ
ที่นี้ก้อมาตอนสั่งอาหารละครับ ผมก้อยื่นเมนูให้เธอ เธอก้อบอกว่าให้ผมสั่งดีกว่า
ผมเลยบอกว่า ถ้าผมสั่งก้อคง น้ำอัดลมเท่านั้นละ เพราะร้านนี้เป็นร้าน คนพุทธ ผมคงกินอะไรไม่ได้หรอก
เธอก้อเลยบอกว่าเอางี้นะ เราสั่งน้ำอัดลมคนละขวด แล้วเดี่ยวไปทานอาหารที่พี่ทานได้ด้วย ตกลงก้อเป็นไปตามนั้น
เมื่อออกจากร้านอาหาร ผมก้อเริ่มแผนทดสอบอีกละครับ บอกว่างั้นเราไปทาน อาหารตามห้างสรรพสินค้าละกัน
(เพราะตามห้างจะมีอาหารอิสลาม)จริงแล้วผมจะพาไปทาน ที่ร้านมุสลิมเลยก้อได้แต่ อยากทดสอบ ดูว่า
เธอใส่ชุดสาวออฟฟิค แล้วเดินควงกับคนสวมใส่แบบฉบับของมุสลิมอยู่ เธอจะคิดอย่างไร เธอก้อตอบตกลง
พี่น้องลองนึกภาพตามไปดูนะ สาวหน้าหมวยในชุดออฟฟิคกระโปรงสั้นเลยเข่าไปนิดเดินกับหนุ่มสวมหมวกขาวนุ่งโสร่ง
เดินกันโดยไม่มีการตะขิดตะขวงใจเลย ผมก้อเลยถามเธอไปคำว่า อายมั้ยที่ต้องเดินกับผมในสภาพสวมเสื้อผาแบบนี้
เธอตอบว่า ไม่อายนะ เพราะ การสวมใส่ของพี่เหมือนเป็นแบบฟอร์มที่แสดงเจตนาที่บริสทุธิ์ใจ
ผมเลยงงในคำตอบเลยถามกลับไปว่า บริสุทธิ์ใจอย่างไรเหรอ
เธอเลยตอบว่า จากที่ทราบมาเวลาคนอิสลามไปกราบไหว้พระเจ้าจะสวมชุดนี้กัน  ฉันก้อเลยคิดว่าเท่ากับ พี่ให้เกียรติฉันไปด้วย
เอาเป็นว่าเหตุการเรื่องทดสอบ สภาพการแต่งกายและการรับประทาน เธอก้อยอมรับผมได้ละ ยังๆไม่พอครับพี่น้อง
ผมยังทดสอบอีกเยอะมาก
เอาไว้จะโพสเป็นช่วงๆนะครับ ถ้าพี่น้องไม่เบื่ออ่านก้อโพสบอกๆกันมั่งครับ
วัสลสาม

2
คำว่าทดสอบ  คือ การสร้างความตระหนักในเรื่องนั้น แล้วนำมาพยายาม ซึ่งก้อต้องติดตามผลลัพธ์ ไปด้วย
ดังนั้น ทุกมุมมองในบรรทัดฐานของการทดสอบ ต้องมีกันทุกคน เพียงแต่ จะนำบททดสอบนี้ไปใช่ในมุมใดเท่านั้น
สำหรับผม  ผมต้องทดสอบเธอเพราะ ผมต้องรับอามานะ ที่ยิ่งใหญ่
ถ้าเธอรักผมแต่มิได้รักศาสนาผม ผมก้อมิปราถนาจะอยู่ร่วมกับเธอ
แต่นี้เธอ รักศาสนาอิสลาม ซึ่งผมดูจากการทดสอบผม และตอนนี้ ก้อเป็นแม่ของลูกผม
ซึ่งเธอก้อมิได้ทำให้ผมผิดหวังเลย ที่ผมจะเล่าเรื่องส่วนตัวผม ก้อเพียงแค่เป็นแนวทางให้น้องๆบางคนที่มีใจผูกพันกับสาวต่างศาสนิกอยู่
แต่มิเป็นไรครับ ผมก้อเกรงเหมือนกันว่า ถ้าเล่าเรื่องส่วนตัวไปจะเกิดการรบกวนในกระทู้เปล่าเลยขออนุญาติก่อนไงครับ
แต่ถ้ามิสะดวกผมก้อขอโทษด้วยนะ
วัสสลาม

3
สลามพี่น้องทุกท่าน
ผมอ่านแล้วหลายบทความที่ตอบในกระทู้ ผมก้อเลยอยากบอกว่า ผมกระทำแบบนั้นไม่ได้เลย เพราะ ภรรยาผม เธอเป็น มุอัฟลัฟ
ในตอนแรกๆนะพี่น้อง เชื่อมั้ยว่า ทางบ้านผมเกิดการ แอนตี้กันเป็นอย่างมาก ที่ผมได้นำ ชาวต่างศาสนิกมาเข้ารับอิสลาม  ถามว่าทำไมถึงไม่ยอมรับ
เหตุผลที่ได้รับจากทางบ้านคือ ผมเป็น อ.รับจ้างสอน(ศาสนาในระดับ มัธยมตอนต้น) ศน.สพท. สอนอัลกรุอาน และออกทำงาน  ดาวะฮ์
คงเข้าทำนองว่า ทางบ้านคงเสียดาย แต่พี่น้องทราบมั้ย ทำไมผมถึงได้ รักและยอมขัดคำสั่งทางบ้าน ซึ่งขัดคำสั่งที่ไม่ผิดกับศาสนา
ตอนแรกผมเจอ เธอคนนี้ ผมก้อสะดุดตา
อย่างแรกคือ วาจาเธอพูดได้แบบฟังแล้วนิ่มหู ทั้งสำเนียงและแนวทางการพูด ก้อเลยต้องพยายาม หาเรื่องพูดคุย
ภาษาบ้านเราก้อคือ จีบนั้นละพี่น้อง ซึ่งผมก้อได้ทำการทดสอบในจิตใจเธอ หลายต่อหลายอย่าง ถามว่าทำไมเพราะผมจะดูว่าเธอ
ถ้าผมนำเข้าอิสลามแล้ว เธอจะมาด้วยใจหรือมาด้วยเพราะรักผม ก้อเลยเกิดการทดสอบ ดังนี้
อย่างแรกคือนัดไปทานอาหาร(ออกเดท) ที่ ห้องอาหาร ผมก้อเอาเลยละพี่น้อง  จัดการแต่งตัวใส่เสื้อ กูหลง ผ้าโสร่งและหมวก เดินเข้าไปในห้องอาหาร
ผมคิดในใจว่าเธอถ้าเห็นแบบนี้คงต้องอายคนแน่ แพ่น้องตรงกันข้าม พอเจอผมสวมชุดแบบนั้น เธอกลับถามมาก่อนเลยว่า พี่พึ่งกลับจากมัสยิดเหรอ เอาแล้วไงพี่น้อง
เจอแบบนั้นเข้าไป ผมเลยตอบว่า เปล่าหรอก ใส่มาออกเดทกับคุณนะ น่ารังเกียจมั้ย นี้คือคำถามผม เธอก้อตอบว่า น่าเกียดมากๆๆทำไมไม่บอกกันมั่งฉันจะได้หาชุด
แบบสาวอิสลามใส่มา จะได้ทำให้พี่ไม่แปลกตาไปจากคนอื่น นี้คือบททดสอบข้อแรก ผมนั่งภูมิใจเล็กๆเรามาถูกทางแล้ว
ซึ่งการทดสอบยังมีอีกหลายทาง แต่ก่อนจะเล่าเรื่องต่อไป ผมต้องขออนุญาติเจ้าของเว็ปและพี่น้องในนี้ ว่าจะให้ผมเล่าต่อหรือไม่
ถึงแนวทางการทดสอบจิตใจสาวต่างศาสนิก
วัสสลาม
 

4
ผลบุญของการถือศิลอด ก้อมี
ผลบาปของการละทิ้งการละหมาดก้อมี
และผลตอบแทนที่อัลลอฮ์จะให้อย่างไรนั้นก้อมี
แต่ท้ายสุด ความดีเร่งทำมากก้อดีมาก ความชั่วละทิ้ง ก้อไร้ซึ่งมลทิน
ขึ้นอยู่กับคำว่า เรารักษาสัญญาต่ออัลลอฮ์ มากน้อยแค่ไหน
วัสลาม

5
สลามพี่น้องทุกท่าน
ผมขอพูดเต็มปากเต็มคำเลยว่า ตอนนี้ปัจจุบันนี้ความรู้เต็มพิกัดพร้อมจำแนกได้ทุกแขนง
แต่ทำไมจากที่ได้มองภาพย้อนไป จึงออกมาว่าเหมือนไม่มีประสิทธิ์ภาพ เพราะอะไร? ทำไมเป็นอย่างนั้นหรือ?
ซึ่งแนวทางปรับปรุงการศึกษานะ ผมคิดว่าคงต้องมี ความตระหนัก ความพยายาม ความสำเร็จ และท้ายสุดคือ เครดิต
คือจะต้องพิจารณา ด้วยกัน 3วิธี ตรวจสอบเอกสาร สัมภาษณ์ และ สังเกตุ
ถ้าคณะอาจารย์แต่ละท่านวางแนวของวิชาที่จะสื่อไปตามนี้ก้อจะทำให้ อิสสลาม ได้ระบบการศึกษาที่กว้างไปทั้งสังคมประเทศและสังคมมุสลิมได้อย่างสบาย
แต่มามองในขณะนี้ แทบจะได้คำตอบมามุมเดียวคือ ศึกษาอิสสลามแล้วได้แต่ สังคมมุสลิม
อยากฝากให้คณะอาจารย์อิสลามให้ทำการบ้านเพิ่มไปอีกนิด โดยพยายาม ตรวจสอบความถุกต้องก่อนจะนำบความสอนไป
อะไรคือแหล่งที่จะนำมาตรวจสอบละ
1. กลุ่มผู้ดำเนินการศึกษา
2. กลุ่มผู้รับบริการ
3. กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ
มาดูคำว่าตระหนักที่ผมกล่าวไป คือตระหนักในความเป็นจริงที่จะให้ความรู้เค้าไปสะท้อนสังคมในมุมที่ดีกับมุสลิมได้
ยกตัวอย่างเช่น สอนเด็กตะฏีกา วิชาที่สอนก้อมีในหลักสูตรที่มีอยู่ครบถ้วนแล้ว  แต่พยายามเน้นให้เค้าได้ รู้จักมารยาทในสังคมการพบปะ การใช่วาจา โดยนำสื่อของแบบฉบับนบีให้เค้าได้ทราบ นี้คือการตระหนักการสอนที่แฝงไว้ ที่นี้ก้อมาพยายามในสิ่งที่ตระหนักให้เกิดผลจะทำอย่างไรดีละ อันนี้ต้องแล้วแต่จิตวิทยาของแต่ละคณะอาจารย์ เมื่อมีความพยามแล้ว ความสำเร็จ ต้องเกิด แต่จะเกิดได้กี่%นั้น ก้อต้องมา ทำเครดิตในสื่อที่เอาได้สอนไป ว่า ต้องปรับปรุงแบบไหนดี ถ้าดีแล้ว
ก้อนำสื่อมาประยุทให้ดีขึ้นอีก  อะไรทำนองนี้นะครับ ซึ่งถ้าทำการนำเสนอการสอนที่แฝงแนวไว้ด้วยก้อจะง่ายในการประเมินผลของนักเรียน
แต่จุดหลักที่คณะอาจารย์ต้องทราบและคำนึงไว้เสมอ คือ ต้องเน้นหนักในเรื่องศาสนาเป้นหลัก ทุกอย่างจะต้องพยายามเอามาเกี่ยวก้อยกับศาสนาเสมอ ผมจะไม่มองว่ามีการแยกหรือไม่     แต่ผมจะมองแค่ว่า ทำไงให้ทุกอย่างบรรจบที่คำว่าสันติทั้งในโลกดุนยาและโลกอาคิเราะห์
ผมก้อพุดประสาผมอะครับ ท่านใดอ่านแล้วคิดว่าไม่ถุกขอให้บอก  สื่อผมเป้นแค่ตัวอักษรซึ่งบางครั้งสื่อก้อทำให้ผู้อ่านเกิดการเข้าใจผิดได้ ไงผมก้อขอให้เตือนก่อนจะว่ากล่าวนะครับ
วัสสลาม

6
สลามพี่น้องทุกท่าน
เมื่อวานผมไปนิเทศที่ปอเนาะแห่งหนึ่งมา ก้อเลยเข้าไปขอพบโต๊ะครูที่แห่งนั้น ในเรื่อง ลิขสิทธิ์
ผมก้อทราบโต๊ะครูว่า ถ้าสมมุติว่า
เราเจอความคิดของคน คนหนึ่งเค้าได้คิดและสร้างงานมาเพื่อจำหน่ายเป็นสินค้า
ถามว่าถ้าเรานำความคิดที่เค้าสร้างงานขึ้นมานั้นผิดมั้ย
โต๊ะครูตอบผมสั้นๆแค่ว่า  มีคนขโมยของๆเราไปใช่โดยมิได้รับอนุญาติ ผิดมั้ย
ผมก้อได้แต่นั่งยิ้มเพราะคงทราบในคำตอบละ
ผมก้อดิ้นในคำถามไปอีกว่า
ถ้าเราไปขอโทษเค้าโดยส่งหนังสือขอโทษแบบนี้ถือว่า นี้เป็นทางแก้ไขได้มั้ย
ท่านได้ตอบว่า ตะโกนบอกคนหูหนวกว่า รถกำลังจะชน เค้าจะได้ยินมั้ย
เจอคำตอบที่ทำให้ผมรอยยิ้มจุกๆไปเลย แต่ก้อไม่ละความพยายามเลยถามอีกว่า
ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นมาจากอัลลอฮ์ทั้งนั้น แล้ว ปัญญาที่เค้าได้มา ก้อได้มาจากอัลลอฮ์
เราแค่นำมาทดสอบดูว่า นำมาใช่แล้วเป็นเช่นไรอย่างไร มิได้นำไปจำหน่ายต่อ แบบนี้ถือว่า เราเข้าข่ายขโมยหรือไม่
ท่านไม่ตอบนะ แต่พาผมเดินไปในสวนหลังปอเนาะ แล้ว เดินไปหยิบดินที่ตรงแปลงปลูกผัก ขึ้นมา แล้วถามผมว่า
นี้คือดิน ของอัลลอฮ์ใช่มั้ย ผมบอกว่าใช่ แล้ว ที่ดินตอนนี้(ผม) จะแบกกลับบ้านไปได้มั้ย
ยกเว้นจะนำที่ดินตรงนี้เป็นของตนเองได้ก้อต่อเมื่อ ต้องติดต่อขอซื้อเจ้าของที่ดินก่อนใช่มั้ย
ก่อนจะลาท่านกลับท่านฝาก ข้อคิดให้ผมเรื่องว่า ทุกอย่างนะเป็นสิ่งที่ทำให้ได้บุญและบาปหมด
ผมก้อเลยกลับพร้อมคณะ
คำตอบเรื่องผิดหรือไม่ผมไม่ตอบนะ ท่านๆอ่านเอาเองละกันครับ
วัสสลาม

7
คิดมากไปก้อใช่จะเหมาะงาม ปัญหาหนักคือ ทำสิ่งวายิบและฟัรดู ให้เสภียร ก่อนดีสุด
นี้คือในทัศนะคติผมเท่านั้น
วัสสลาม

8
ผมก้ออีกสาขาหนึ่งทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ด้วยเช่นกันแต่มิเก่งนักแต่ การนำคีย์บอร์ดไปจุ่มน้ำล้างนะครับ อย่ากระทำเลย
เพราะ แผงวงจรแต่ละแผงไม่เหมือนกันนะครับ แผ่นฟิล์มในแต่ละแป้นพิมพ์ มิใช่จะแห้งได้ง่ายๆนะครับถ้าเจอน้ำเข้าไป
ผมแค่แนะนำได้แค่ว่า
1.ทำการคว่ำแป้นพิมพ์ลงแรงๆมิทำให้เสียหาย เพื่อที่จะนำเอาเศษตกค้างที่แป้นพิมพ์ตกลงมา
2.ถ้ามีเวลาเยอะก้อ หากระดาษสักแผ่นแล้วเขียนอักษรตามแป้นพิมพ์ให้ครบ แล้ว งัดเบาๆนำไปล้าง ตากแห้ง แล้วทำการ เอาแปรงหรือพู่กัน เขี่ยขยะที่เราเห้นหลังจากทำปุ่มที่เรางัดขึ้นมา(หลังจากนั้นก้อนำปุ่มเหล่านั้นเสียบกลับไปตามเดิม)
3.ถ้าชำนาญในเรื่องการประกอบ ก้อให้ ถอด ชิ้นส่วนออกได้เลย แล้วนำยางลบ ไป ขูดตาม รอยเส้นปรินส์(เบาๆ)สังเกตุได้ง่าย ตามรอยจะมีสีดำเกระติดแน่นอยู่
ข้อควรระวัง แผงการเชื่อมต่อจะมีลักษณะเป็นเส้นอยู่เหนือสุด ส่วนนั้นอย่างพยายามไปกระทบ
นี้คือวิธีการ การรักาแป้นพิมพ์ที่ถูกวิธี
วัสสลาม

9
ขอตั้งคำถามนะครับ
การถือศิลอด แทนปะ ม๊ะห์ ของเราที่เสียชีวิตไปแล้วได้หรือไม่  ถ้าได้เนียตอย่างไร ถ้าไม่ได้เพราะอะไร วานชี้แนะหน่อยครับ

10
สลามพี่น้องทุกท่านในกระทู้นี้
ผมอ่านหัวข้อกระทู้แล้วรู้สึกปลื้มใจกับคนนำเสนอกระทู้นี้จริงๆ คิดได้ไง แต่เมื่ออ่านแล้วผมได้นั่งคิดใน มโนภาพความรู้สึกของผมว่า(จะผิดถูกประการใดลองอ่านดูนะครับ)
คำว่าบันเทิง คือ การทำให้มีสุข ผมเลยแยกมาเป็นข้อๆดังนี้
1.บันเทิงกาย  เช่น เล่นฟุตบอล ตระกร้อ บาสเก็ตบอล เต้นแอนโรบิค ว่ายน้ำ และอื่นๆ แต่สิ่งที่ดีสุดในการบันเทิงกาย คือ การแสดงท่าทางในการละหมาดทั้งฟัรดูและสุนัตเพื่ออัลเลาะฮ์
2.บันเทิงวาจา เช่น ร้องเพลง ขับเสภา อ่านบทกลอน และอื่นๆ แต่สิ่งที่ดีที่สุดในการบันเทิงวาจา คือ การอ่านคัมภีร์อัลกรุอาน และพูดถึงความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮ์และการซอลาวาตให้ท่านนบี
3.บันเทิงจิต  เช่น ฟังเพลง ดูหนัง สะสมสแตมป์ สะสมเหรียญต่างๆ และอื่นๆ แต่สิ่งที่ดีที่สุดในการบันเทิงจิต คือ การสะสมอามาลอิบาดะฮ์ สะสมคุณงามความดีที่อัลลอฮ์พึ่งพอใจ สะสมแบบฉบับท่านนบีให้ติดกับตัวเรา
ผมจึงคิดว่า ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ให้ความบันเทิงได้หมด ทุกวัตถุเป็นสิ่งที่ดีทั้งหมด แต่ทุกอย่างต้องไม่ทำให้เรา หลงลืม การปฏิบัติภาระกิจที่อัลลอฮ์ สั่ง
ทำนองว่า นั่งดูทีวี นั่งเล่นกีตาร์ แต่พอถึงเวลาละหมาด ก้อมิรีรอ ที่จะเร่งเข้าเฝ้าอัลลอฮ์ อะไรทำนองนี้นะ
นี้แค่ความคิดของผมเท่านั้นนะ ผิดถูกไงก้อ ถือว่าขอมาอัฟไว้ ณ ที่นี้ ด้วยนะ พี่น้องทุกท่าน
วัสลาม



11
สลามท่านal-azhary
ผมได้เห็นดาบทั้ง9เล่มรู้สึกชื่นชอบมากเลยที่นำเสนอในสิ่งที่แปลกตาในเชิงของความรู้ทั่วไปได้ดีมากเลย
แต่ผมติดใจนิดตรงที่ แหล่งที่มา ของ รูปภาพทั้งหมดนี้(รวมทั้งเนื้อหาได้บรรยายล่างภาพ)
ท่านนำมาจากที่ไหน เผื่อว่าเวลาผมนำไปนิเทศน์จะได้
มีความเด่นชัดในแหล่งที่มา รบกวนหน่อยนะครับ
วัสสลาม

12
พี่น้องครับ คำขอพร จากที่ผมพอติดตามดู ผมเห็นว่า มีแหล่งที่มา ดังนี้
1.อัลกรุอาน(หลักการดำเนินชีวิต)
2.อัลฮาดิษ(รายงาน)
3.จากอุลามะ(ผู้รู้)
ที่นี้ผมก้อลองไปนั่งกับผู้รู้ท่านหนึ่งแล้วถามท่านว่า การขอพรจากอัลลอฮ์
1.จำเป็นมั้ยต้องอ่านเฉพาะภาษาอาหรับ
ท่านผู้รู้เลยตอบกับผมว่า ซีฟัต อัลลอฮ์ ที่ว่า ทรงรอบรู้ สิ่งนี้เป้นสิ่งยืนยันพอหรือ ผมก้อเลยเข้าใจในส่วน ภาษาการขอพร
2.ผมก้อเลยถามกลับไปอีกว่า แล้วไฉนเราต้องฝึกอ่านภาษา อาหรับกันละ
ท่านผู้รู้ตอบว่า  การทำตามแบบฉบับนบีเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่
3.ผมก้อเลยเขียนคำขอพรเป็นภาษาไทยแล้วให้ท่าน อ่านเป็นอาหรับให้ผมหน่อย
ท่านผู้รู้ ก้อได้อ่านคำขอพร เป็นภาษาอาหรับแล้วท่านบอกว่า ภาษาที่ฝั่งลึกในวิญญานของคนอีหม่าน มาจากคำศัพท์อาหรับทั้งนั้น
4.ผมก้อเลยนำคำถามของ del_dangerous ที่ถามว่า เราแต่งคำขอพรภาษาอาหรับขึ้นมา แล้วใช้ในละหมาด หลังจากสุญุดที่อ่านคำว่า ซุบบาฮานาร๊อบบีอาลาวาบีฮัมดีฮี  3ครั้งแล้วอ่านได้หรือไม่ เช่น เมื่ออ่าน ซุบบาฮานาร๊อบบีอาลาวาบีฮัมดีฮี 3ครั้งแล้วต่อด้วย สิ่งที่เราต้องการขอ
ท่านผู้รู้ตอบว่า  เวลาที่เราใกล้ชิดอัลลอฮ์มากที่สุดคือตอนซุยุด แล้วท่านก้อเปิดตำราให้ผมดู  แต่มีหลักเกณฑ์ อยู่ว่า
-การขอพรขณะซุยุด ให้กระทำเป็นแบบ อิฟฟะรอดี(คือส่วนตัว)
-ถ้าเป็นคำอาหรับจะเน้นออกเสียงก้อได้ แต่ถ้าเป็นคำภาษาอื่นๆเหมาะจะกล่าวในใจพอ
ผมก้อมิใช่ผุ้รู้ แต่อาศัยปากถามมา เลยนำมาบอกต่อ ครับ
วัสสลาม

13
อัลกุรอาน / Re: มารยาทต่อกุรอ่าน ?
« เมื่อ: ก.ย. 14, 2007, 04:15 PM »
แสดงว่ายังไม่เข้าใจคำว่าสื่อที่แท้จริง
สื่อที่ได้ทำกลายบันทึกลงเทปซีดี ต่างๆ เหล่านี้ เป็นสื่อที่ช่วยในการสอน
Aswar จริงๆแล้วอัลกุรอานนั้นไม่ว่าจะอยู่ในสื่อรูปแบบใดนั้นเมื่อถูกอ่านก็มีหุกมเดียวกันหมดนะครับ
ผมว่านะ น่าจะแยกแยะหน่อยกอดีนะท่าน
เช่นว่า เราเปิดเพื่อศึกษาหรือเปิดเพื่อท่องจำแน่นอนว่าต้องนิ่งฟังอยู่แล้วเพราะนั้นคือจุดประสงค์ของเรา
แต่มิใช่ว่า คนเปิด อัลกรุอานผ่านไมค์ผ่านเทปซีดี ในงานต่างๆเราต้องมานิ่งฟังกระนั้นหรือ
ผมจะยกตัวอย่างสักเรื่องให้เห็น  เกี่ยวกับการพยายาม นำแนวทางมารวมยอดหรือฮุกุม
ประโยคแรกคือ  การจับต้องอัลกรุอานต้องมีน้ำละหมาด
ที่นี้ผมจะพูดอีก คำหนึ่งว่า  ถ้าอ่านอัลกรุอานต้องมีน้ำละหมาด
ระหว่างสองประโยชน์นี้ประโยคแรกจะออกไปแนวว่า ถ้าไม่มีน้ำละหมาดอย่าหยิบจับเชียวนะ ผมจึงจะถามย้อนไปนิดว่า
คนขายหนังสืออัลกรุอาน มิต้องวิ่งไปอาบน้ำละหมาดก่อนมาทำการซื้อขายกันหรือไง หรือไม่ก้อ ถ้าไม่มีน้ำละหมาด จะซื้ออัลกรุอานกลับมาบ้านไม่ได้นะ
 เห็นมั้ย พี่น้อง คำว่า มีมารยาท ต่ออัลกรุอาน ในการหยิบจับต้องมีขอบเขตในอีกส่วน แต่ในการอ่านอัลกรุอานต้องมีมารยาทอีกส่วน
อย่ามารวมสรุปยอดไปไว้อย่างเดียว
ที่นี้ก้อเรื่อง เปิดเทป หรือซีดีฟัง นั้นจะต้องนิ่งฟังถ้าเราเปิดเอง มิใช่ต้องให้คนอื่นมานิ่งฟังกับเราด้วย เพราะจุดประสงค์จากสื่อวัตถุแต่ละคนต่างกันนะพี่น้อง
ที่นี้ มีคนนั่งอ่าน จากเสียงของเค้าเอง  นั้นละครับเหมาะที่รับฟังแต่มิใช่ว่านิ่งฟัง นะ การนิ่งฟังจะใช้ในกรณีคือ ในละหมาด  ส่วนนอกเหนือจากการละหมาด
นั้นคือการรับฟัง  ผมเป็นคนไม่มีความรู้อะไรหรอก แต่ผมชอบการจำแนกความรู้ให้ไม่ผสมกันจนแยกไม่ออก มีอะไรพิพม์ผิดไปก้อขอ มาอัฟด้วย แต่ถ้ามีใครโต้แย้งอีก
ผมขอให้โต้แย้งเป็นแนวมาจากความคิดนะครับ แล้วเรามาหาข้อสรุป ในคำว่า  ถ้ามีคนเปิดสื่อวัตถุอัลกรุอาน เราต้องนิ่งฟังหรือไม่
วัสสลาม
วัสสลาม

14
อัลกุรอาน / Re: มารยาทต่อกุรอ่าน ?
« เมื่อ: ก.ย. 12, 2007, 06:00 PM »
พี่น้องที่รักทุกท่านครับ ผมขอพูดในแนวความคิดผมนะ ซึ่งผิดถูกอย่างไร วานชี้แนะด้วยนะครับ
คืออัลกรุอาน เมื่อครั้งสมัยท่านนบี มีเพียงสื่อเดียวที่ใช่กันตลอดคือ จากปาก จึงได้ขึ้นในบทความที่ว่า
จงนิ่งฟังเมื่อได้ยิน วจนะของอัลกรุอาน  แต่พอเราย้อนกลับมาดูยุดนี้ พี่น้องนั่งนับนิ้วได้เลยว่า
สื่อมากมายขนาดไหน วิทยุ ทีวี วีดีโอ ซีดี ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสื่อที่ได้ทำการบันทึกผ่านวัตถุ เพื่อสะดวกในการศึกษามากกว่า
ถ้าสมมุติว่า สื่อจากซีดี มีคุณค่าเพียงพอกลับการนิ่งฟัง ถ้าเช่นนั้น ละหมาดตะละแวะห์ ผมเปิดอัลกรุอาน ละหมาดตามคงมิผิด
นี้ผมแค่คิดนะพี่น้อง มิได้จะกระทำ
ชี้แนะผมด้วยนะ เพราะผมพิมพืไปด้วยนับซู ของผม ถ้าพี่น้องท่านใดอ่านแล้วเคืองในความคิด ผมขอมาอัฟในที่นี้ด้วยครับ
วัสสลาม

15
ละหมาดอีดิ้ลฟิตรี (ตรุษออกบวช)

1. ละหมาดอีดิ้ลฟิตรี (ตรุษออกบวช) มี 2 ร่อกะอั๊ต กำหนดเวลาละหมาด เริ่มตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนพระอาทิตย์คล้อย สุนัตให้อ่านอุซ็อลลี ดังนี้
อ่านว่า " อุซ็อลลีซุนนะตะอี้อิ้ลฟัตร ร๊อกอะไตนิมะมูมันลิ้ลลาฮีตะอาลา "
นึกในใจว่า " ข้าพเจ้าละหมาดสุนัตอีดิ้ลฟิตร 2 ร่อกะอัต มะมูมันลิ้ลลาฮีตะอาลา "

2. ละหมาดอีอิ้ลอัฎฮา (ตรุษฮัจยี) มี 2 ร่อกะอั๊ต กำหนดเวลาละหมาด เริ่มตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนพระอาทิตย์คล้อย สุนัตให้อ่านอุซ็อลลีดังนี้
อ่านว่า " อุซ็อลลีซุนนะตะ อีดิ้ลอัดฮา ร๊อกอะไตนิมะมูมันลิ้ลลาฮีตะอาลา "
นึกในใจว่า " ข้าพเจ้าละหมาดสุนัตอีดิ้ลอัดฮา มะมูมันลิ้ลลาฮีตะอาลา "

วิธีละหมาด (ฮารีรายอ) ทั้งสอง
1.ตักบีร คือ ให้ว่า อัลลอฮุอักบัร ในร่อกะอั๊ตแรก 7 ครั้ง ในร่อกะอั๊ตที่สอง 5 ครั้ง นอกจากตักบีรร่อตุ้ลเอี๊ยะห์รอมและตักเบรจะก้มลงไปร่อเกาะอ์ในร่อกะอั๊ต ที่หนึ่งที่สอง
2.ให้อ่านคัสแบะห์ในระหว่างตักเบร คือ (ตักเบร์ครั้งที่หนึ่ง ก็อ่านตัสแบะห์ครั้งหนึ่ง) ในร่อกะอัตที่หนึ่งอ่าน 6 ครั้ง ร่อกะอัตที่สองอ่าน 4 ครั้ง เฉพาะร่อกะอัตที่หนึ่งอ่านภายหลังจากอ่านดุอาอ์อิฟติตะห์แล้ว คือ ตัสแบะห์ดังต่อไปนี้
อ่านว่า " ซุบฮานั้นลอฮิ วัลฮัมดูลิ้ลลาฮิ วะลาอิลาลาฮะอิ้ลลัลลอฮุวัลลอฮุอักบัร วะลาเฮาละวะลากูวะตะ อิ้ลลาบิ้ลลฮิ้ลอะลียิ้ลอาซีม "
คือเอามาลงให้ติดกับละหมาดตะรอแวะห์เพื่อได้อ่านต่อเนื่องไปจนถึงวันออกบวช

หน้า: [1] 2 3