แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - BaE HoK

หน้า: [1] 2 3 ... 19
2
เย้.ย.ย.ย...ดีใจเอ้ย ดีใจจังเรยยยยยยย

ฮ.รัสเซีย Mi-17V5 ของ ทบ.3 ลำ พันล้านบาท 10,000,000,000 (เลขศุนย์กี่ตัวคับ ?)

Gripen 6 ลำ 1.9 หมื่นล้าน 190,000,000,000 บาท

(เงินของพวกเรานะคับ..คุณจะไม่ถามหน่อยรึ !)

...ถึงไทย  ผบ.ทอ.ภูมิใจได้กริพเพน 6 ลำเข้าประจำการ ทอ.ไทย เผยเป็นก้าวใหม่การบิน
แถมระบบอาวุธได้ "มิสไซล์ IRIS-T" ทันสมัยที่สุดในภูมิภาค
นอกจากนั้น สวีเดนยังสนับสนุน จรวดต่อต้านเรือผิวน้ำอากาศสู่พื้น RBS-15 F
ซึ่งรวมอยู่ในแพ็กเกจเดียวกับโครงการด้วย ทั้งนี้ไม่นับรวม จรวดอากาศสู่อากาศ IRIS-T ของเยอรมัน
ซึ่งถือเป็น มิสไซล์ชั้นดีที่ประเทศไทยจะมีประจำการเป็นประเทศแรกในภูมิภาคนี้
โดยทางกองทัพอากาศไทยก็ได้สิทธิ์จัดซื้อรวมกับ Gripen ในระยะที่ 2 ...?(มีซื้อต่อภาค2ด้วย ?)

>>อาวุธโคตรป๊ะ-โคตรม๊ะแพงขนาดนี้เอาไปไถนา-กรีดยาง..ได้ไม๊คับ ?<<[/size]



3
เหตุระเบิดอย่างรุนแรงทั้ง
"คาร์บอมบ์" และ "มอเตอร์ไซค์บอมบ์" กลางเมืองยะลากับนราธิวาสถึง 3 ครั้งในรอบ 8 วัน เป็นความถี่ที่มากเกินรับได้สำหรับ "ไฟใต้" ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 7 ปี โดยที่รัฐบาลกับฝ่ายความมั่นคงก็ยืนยันทุกทีที่ให้สัมภาษณ์ว่า "สถานการณ์กำลังดีขึ้น" และ "เรามาถูกทางแล้ว"

แน่นอนว่าในส่วนของการก่อความไม่สงบ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมือของกลุ่มที่มีอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดน พวกรับจ้าง กลุ่มผู้มีอิทธิพล ค้ายาเสพติด ของเถื่อน น้ำมันเถื่อน สถานบริการ หรือนักการเมืองบางกลุ่มบางพวกที่อยู่เบื้องหลังก็ตาม ต้องขอประณามไว้ตรงนี้ว่าพวกคุณทำเกินไปแล้ว! เพราะมีผู้บริสุทธิ์ต้องสังเวยชีวิตและได้รับบาดเจ็บแทบจะรายวัน มันไม่ใช่การก่อเหตุแบบ "ล็อคเป้า" เหมือนหลายปีที่ผ่านมา ฉะนั้นไม่ว่าจะทำด้วยเหตุผลใด ก็ไม่น้ำหนักมากพอที่จะอธิบายหรือแลกกับชีวิตคน

ทุกคนมีบ้าน มีญาติ มีลูก มีพ่อแม่พี่น้องเหมือนกับคนที่ก่อเหตุ ความสูญเสียแบบนี้สร้างบาดแผลและความเจ็บช้ำมากเกินไป...

ปฏิบัติการเช่นนี้ หากเป็นเรื่องแบ่งแยกดินแดน คุณแยกดินแดนไปได้ก็ไม่มีวันสงบ เพราะวันหนึ่งที่คุณปรากฏตัวในที่สว่าง ก็จะมีคนที่เคยสูญเสียจากการกระทำของคุณแก้แค้นและเอาคืน

ปฏิบัติการเช่นนี้ หากเป็นฝีมือของพวกสร้างสถานการณ์ผสมโรงไฟใต้จากกลุ่มอิทธิพล ค้ายาเสพติด บ่อนการพนัน ของเถื่อน สถานบริการ คุณก็จะอยู่อย่างไม่มีความสุข และไม่มีทางที่จะทำคนอื่นข้างเดียวได้ตลอดไป

ปฏิบัติการเช่นนี้ ถ้าเชื่อมโยงกับผลประโยชน์ของฝ่ายการเมือง คุณก็จะไม่มีวันประสบความสำเร็จในสนามเลือกตั้ง เพราะความจริงต้องปรากฏไม่วันใดก็วันหนึ่ง

ถึงนาทีนี้คำถามที่พุ่งตรงไปยังรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงก็คือ ทุกคนต้องการคำตอบที่แท้จริงว่า ประชาชนตาดำๆ กำลังเผชิญกับอะไร สถานการณ์ไฟใต้ที่แท้จริงขณะนี้อยู่ตรงไหน ทหาร
ตำรวจ และฝ่ายปกครองคุมพื้นที่ได้จริงหรือไม่?


หยุดเสียทีกับคำหวานประเภท "กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเหลือน้อยแล้ว ที่ก่อเหตุอยู่ตอนนี้เพื่อรักษาสถานะ" หรือ "กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงต้องดิ้นรนสร้างสถานการณ์เพื่อตอบโต้รัฐที่ปฏิบัติการประสบความสำเร็จ ดึงมวลชนให้มาร่วมมือกับรัฐได้เป็นจำนวนมาก" ซึ่งเป็นคำตอบที่ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ใช้อธิบายมาตลอดในห้วง 1-2 เดือนมานี้

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ที่บอกว่า เหตุรุนแรงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในระยะหลังๆ เป็นยุทธการ "รวมดารา" หรือ "รวมการเฉพาะกิจ" คือใช้แนวร่วมจากหลายๆ พื้นที่มาร่วมกันทำงาน เพราะสมาชิกระดับปฏิบัติการเหลือน้อยเต็มทีนั้น ก็น่าจะต้องถึงเวลาทบทวน

เพราะ "รวมการเฉพาะกิจ" มันต้องมีนานๆ ครั้ง ไม่ใช่ถี่ยิบ 3 ครั้งต่อสัปดาห์แบบที่เป็นอยู่ แถมยังเป็นเหตุรุนแรงในเขตเมืองที่มีการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดอีกด้วย

นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ควรหยุดพูดเสียทีว่ารัฐบาลมาถูกทาง สถานการณ์ดีขึ้นถึงขั้นสามารถยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินได้แล้ว (เพิ่งยกเลิกไปอำเภอเดียวจาก 33 อำเภอ) เพราะการมาทุ่มสร้างภาพความสำเร็จกันช่วงนี้ ชาวบ้านเขาดูออกว่าเป็นความพยายามหาเสียง เนื่องจากใกล้เลือกตั้ง

ประชาชนอยากเห็นภาพการเรียกประชุมนายทหารฝ่ายเสนาธิการที่เก่งๆ จากทั่วประเทศ ซึ่งเรียนจบโรงเรียนเสนาธิการปีละเป็นร้อยคน มาระดมสมองกันวางยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี เพื่อต่อสู้กับโจรก่อความไม่สงบ (ซึ่งน่าจะยกระดับเรียกว่าเป็นการก่อการร้ายได้แล้ว เพราะความถี่น่าจะมากกว่าอิรักด้วยซ้ำ แม้ขนาดของความเสียหายจะยังไม่เท่าก็ตาม)

หรือ ถ้ า รั ฐ บ า ล ไ ม่ มี คำ ต อ บ ใ ห้  ??

ย ก ส า ม จั ง ห วั ด ใ ห้ เ ป็ น แ ด น เ ถื่ อ น ไ ป เ ล ย จ ะ ดี ก ว่ า  ??

เ พ ร า ะ ต อ น นี้ มั น ก็ ไ ม่ ต่ า ง เ ท่ า ไ ห ร่ ห ร อ ก . . . . . . . ??

4


สิ่งที่น่ากลัว...
สำหรับคนที่ติดตามข่าวสารสถานการณ์อยู่เสมอก็คือ‘ความชินชา’
เพราะเราจะรู้สึกว่าเหตุการณ์เดิมๆได้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เปลี่ยนไปบ้างก็แต่เวลาและสถานที่
ความจำเจทำให้บางครั้งเราก็ชาชินเกินไปที่จะเกิดความรู้สึกร่วม
การเสพย์ข้อมูลและนำเสนอของเราจึงกลายเป็นเพียงการติดตามและรายงานข่าว
ไม่ต่างอะไรจากที่ผู้สื่อข่าวในรายการโทรทัศน์ทำ ซึ่งมันไม่ควรเกิดขึ้น
เมื่อข่าวที่เรากำลังติดตามอยู่นั้นคือข่าวของคนที่เราเรียกอยู่เต็มปากว่า ‘พี่น้องของเรา’
เราควรจะมีความรู้สึกผูกพันอย่างลึกซึ้งกับเนื้อหาและบุคคลในข่าว
เป็นความผูกพันที่มีอิทธิพลต่อชีวิต ต่อความคิด และต่อหัวใจของเรา
สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในแผ่นดินไทยต้องมีผลต่อเป้าหมายของชีวิตเรา
และนำไปสู่การใคร่ครวญหาวิถีทางที่จะทำอะไรได้มากกว่าการติดตามข่าว
ปล่อยให้น้ำตาหยดและแห้งลงในเวลาไม่กี่มากน้อย
เพียงเพื่อจะหยดและแห้งอีกครั้งเมื่อมีข่าวเหตุการณ์ใหม่เข้ามา *z* เท่านั้น หรือ...??


5
" ของบางสิ่ง..

ที่เราเคยคิดว่ามันหายไปและจะไม่มีวันได้กลับคืนมา

แท้จริงแล้ว มันก็ยังคงอยู่กับเรานั่นเอง

เพียงแต่เราปล่อยให้อคติ และความไม่เป็นธรรมต่างๆ บดบังสิ่งที่มีค่ายิ่งไว้..

ด้วยความดีงามที่มีอยู่ในหัวใจของเราทุกคน

จะทำให้เราสามารถก้าวผ่านคืนวันอันโหดร้ายรุนแรง

ไปสู่การหวนกลับมาร่วมทุกข์ ร่วมสุขกันเหมือนเช่นที่เคยเป็นมาในอดีต.."


6


คาร์บอมบ์นราฯ(อีกแล้ว)เจ็บ19 ต.รได้ภาพสเก๊ตซ์มือบึ้มยะลา ??

สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตึงเครียดหนัก เมื่อเกิดเหตุ "คาร์บอมบ์" ขึ้นอีกครั้งในเขต อ.เมือง จ.นราธิวาส เมื่อค่ำวันเสาร์ที่ 19 ก.พ.2554 นับเป็นเหตุรุนแรงขนาดใหญ่ครั้งที่ 2 ในรอบ 6 วัน เพราะเมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ก.พ.เพิ่งเกิดเหตุ "คาร์บอมบ์" กลางเมืองยะลา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 18 คน บ้านเรือนถูกเพลิงไหม้วอดกว่า 10 คูหา

ใต้ป่วนหนัก "คาร์บอมบ์" หน้าฟองเบียร์คาราโอเกะในเขตเมืองนราธิวาสเจ็บ 19 เด็กอายุ 7 ขวบโดนด้วย แฉก่อเหตุลวงทั้งปาบึ้ม-ยิงถล่มสถานบันเทิงเจ็บ 2 หวังล่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อนจุดชนวนระเบิดที่ซุกในรถเก๋งมิตซูฯ เผยเป็นเหตุรุนแรงขนาดใหญ่ครั้งที่ 2 ในรอบ 6 วัน หลังตำรวจยะลาเพิ่งได้ภาพสเก็ตช์ผู้ต้องสงสัยขับรถคาร์บอมบ์จอดกลางยะลา


แม่ทัพภาค 4 : "แก๊งก่อความไม่สงบเหลือไม่มาก ก่อเหตุหวังรักษาสถานภาพ ??"
แม่ทัพในบ้าน1ใน4 : "ช่วยหุบปากหน่อยได้มิคร้า..พูดมาก ปากเหม็น..คร้าาาา !!"

7
บทความ / Re: -มองโลกแบบวินทร์-
« เมื่อ: ก.พ. 20, 2011, 07:58 AM »
"สุภาพชนที่แท้..ย่อมเป็นอิสระจากการเดินตามกฎและการไม่เดินตามกฎ
อิสรภาพ..หมายถึงการไม่ยึดติดกับค่านิยมของสังคม
แต่ก็ไม่จำเป็นต้องต่อต้านเพียงเพื่อแสดงให้ชาวโลกเห็นว่า
ตนเองไม่ยึดติดกับค่านิยมของสังคม .."

ปรัชญานิยมของ....ปัญญาชนกาเฟร (ที่ยังไม่เคยลิ้มรสหวานของน้ำผึ้งอย่างอิสลาม)




8
งานเมาลิดนบี...
แถวบ้านจัดหนักกว่านี้อีกคับ
มีเวทีการแสดง ให้เด็กและผู้ใหญ่มาเล่น เต้นแร้งเต้นกา
แล้วให้ผู้ใหญ่ที่ทุกคนเคารพสุดในสังคมนั้นๆขึ้นมาชมเชยและให้รางวัล


ยัง ยังไม่พอมีกลุ่มพวกที่หากินกับการพนันในงานรืนเริง(ปาเป้า ปากระป๋อง ทอยบอล ฯลฯ)
มาร่วมงานเมาลิดนบีกับเค้าด้วย พอเราไปฟ้องคณะกรรมอิสลามฯ ทั่นก็พาเราไปหานายอำเภอ
แล้วทั้งคู่ก็สรุปกันเองว่า "ให้เขียนเพิ่มลงบนป้ายงานว่า.."


" ง า น แ ส ด ง วั ฒ น ธ ร ร ม   แ ล ะ   ป ร ะ เ พ ณี เ ม า ลิ ด น บี  ปี 2 5 5 3"



9
ละครไทยที่ใช้งบสร้าง หนึ่งแสนล้านบาท*-*
- - - > > > > > > > โ ด ย  ปาแด งา มูกอ (แปลเป็นไทยว่า "โส นะ น่า")

ฐานปฏิบัติการพระองค์ดำ สังกัด ร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส 38 ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายมะรือโบตก-รือเสาะ ช่วงบริเวณบ้านมะรือโบตก ม.1 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
(นี้คือหน่วยทหารนักรบที่พร้อมรบที่สุดใน3จังหวัดภาคใต้พร้อมทั้งคลังอาวุธและนักรบ)

จากข้อมูลของกองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส มีรายงานว่า จากการตรวจสอบความเสียหายพบว่า โรงเรือนแบบน็อกดาวน์และเพิงพักของทหารถูกวางเพลิงได้รับความเสียหาย 4 หลัง รถจักรยานยนต์ถูกวางเพลิง 1 คัน โดยเฉพาะที่บริเวณโรงเรือนแบบน็อคดาวน์ที่ได้ดัดแปลงใช้เป็นสถานที่เก็บคลัง อาวุธประจำฐาน ได้ถูกงัดประตู และมีการขโมยอาวุธปืนสงคราม เอ็ม 16 และอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 11 ม.ม. ไปจำนวนกว่า 50 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนกว่า 4,000 นัด
(ยังงี้เรียกว่าโดนถล่ม"ละลายฐาน" คิดว่าโจรต้องใช้คนกี่คน?ในฐานที่ใหญ่ขนดนี้ควรจะมีทหารกี่คน?)

นอกจากนี้บริเวณรั้วสนามที่ใช้ทำเป็นกำแพงด้านหลังของฐาน เจ้าหน้าที่พบว่ากองกำลังที่เข้ามาโจมตีได้ใช้ไม้กระดานขนาดยาวประมาณแผ่นละ 3 เมตร จำนวนกว่า 10 แผ่น วางพาดเพื่อใช้เป็นสะพานในการวิ่งกรูเข้าโจมตีเจ้าหน้าที่ทหารแบบประชิดตัว และเจ้าหน้าที่สามารถเก็บรวบรวมหลักฐานและชิ้นส่วนของวัตถุระเบิด ซึ่งกลุ่มคนร้ายใช้เป็นอาวุธในการบุกโจมตีเจ้าหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบพบหลุมเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม.79 จำนวนกว่า 20 จุด ปลอกกระสุนปืน เอ็ม.16 เอ็ม.60 อาก้า ลูกซอง อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 ม.ม. ขนาด 11 ม.ม. ตกอยู่เกลื่อนบริเวณฐานทหาร รวมทั้งสิ้นกว่า 700 นัด
(โอ้โห..ลองอ่านทวนอีกรอบซิ ช้าๆคิดตามไปด้วยคับ เริ่มจาก..พบหลุมเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม.79 จำนวนกว่า 20 จุด ปลอกกระสุนปืน เอ็ม.16 เอ็ม.60 อาก้า ลูกซอง อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 ม.ม. ขนาด 11 ม.ม. ตกอยู่เกลื่อนบริเวณฐานทหาร รวมทั้งสิ้นกว่า 700 นัด คำถามเดิมต้องใช้คนเท่าไหร่ถึงจะถล่มฐานได้เละอย่างนี้ ??)

แหล่งข่าวชุดคลี่คลายคดีความมั่นคง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเจ้าหน้าที่ทหารที่เข้าร่วมตรวจสอบเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ได้ประเมินว่า ในปฏิบัติการโจมตีครั้งนี้ ใช้กำลังไม่ต่ำกว่า 30 คน
(ประเมินตอนจบใครก็ประเมินได้คับและประเมินได้ดีกว่าด้วย ?)

และมีการวางแผนบุกโจมตีฐานไว้อย่างดี และมีระบบกว่าเหตุคนร้ายบุกปล้นปืนที่กองพันพัฒนา 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2547 ที่ผ่านมา
(ปล้นปืนใจกลางค่ายทหารปี47จุดเริ่มความอัปยศของกองทัพไทยที่ยังไม่เปิดเผยให้คนไทยได้รู้เรื่องจริงว่าปืนและอาวุธที่กองทัพมีนั้นได้ขายไปหมดแล้วมันจึงมีบทละครน้ำเน่าการปล้นปืนแบบนี้มาตลอด)

ซึ่งกองกำลังดังกล่าวรู้ความเคลื่อนไหวกำลังพล และความเคลื่อนไหวภายในฐาน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รักษาการ และอาศัยอยู่น้อย จึงได้มีการบุกโจมตีในช่วงคืนที่ผ่านมา ซึ่งกำลังที่ปฏิบัติการในครั้งนี้อย่างน้อย 80 เปอร์เซ็นต์ เคยร่วมบุกปล้นปืนด้วย
(พวกโจรมันรู้เรื่องลับสุดยอดในฐานได้ยังไงคับ ตอบมาซิ..ตอบมา ??)

นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่ามีนายมะแซ อุเซ็ง เป็นผู้บงการในการรวบรวมอาวุธ เพื่อเตรียมนำมาใช้ก่อเหตุร้ายครั้งใหญ่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ราวประมาณเดือนกุมภาพันธ์ และ มีนาคม ที่จะถึงนี้
(ทีอย่างนี้ทำเป็นรู้ดี ! ถามจริงๆเห๊อะ มะแซ อูเซ็ง นี่เป็นนายแบบให้กองทัพบกมา50ปีแล้วนิ มันเป็นผู้ใด? ไม่มีใครรู้จัก? เออถ้าบอกว่างานนี้คาดการณ์ว่ามีนายประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นผู้บงการ รับรองคนรู้จัก อีกคนก็รู้จักชื่อนายประวิตร อยากจะชวนครอบครัวทั่นเหล่านี้มาเที่ยวที่3จวชต.จังเลย..จะจัดให้และจัดหนักรับรองทั่นๆทั้งหลาย !! )

ส่วนการติดตามไล่ล่าฝ่ายกองกำลังติดอาวุธนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจและฝ่ายปกครองที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ อำเภอระแงะ ได้ร่วมสนธิกำลังประมาณ 300 นายพร้อมสุนัขสงครามดมกลิ่น ได้กระจายกำลังกันโอบล้อมเทือกเขาซึ่งตั้งอยู่หลังฐาน และเป็นเส้นทางหลบหนีหลังจากปฏิบัติการณ์ถล่มฐานทหารแล้ว เสร็จ ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบร่องรอยเลือดตามเส้นทางที่ มุ่งหน้าขึ้นสู่เทือกเขา ซึ่งห่างจากฐานประมาณ 500 เมตร
(ห่างกันแค่ครึ่งกิโลพวกโจรต้องแบกเพื่อนที่บาดเจ็บ แบกอาวุธของตัวเองมีทั้งเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม.79 จำนวนกว่า 20 เครื่อง ปืน เอ็ม.16 ,ปืนเอ็ม.60,ปืน อาก้า,ปืน ลูกซอง อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 ม.ม. ขนาด 11 ม.ม และพวกโจรต้องช่วยกันแบกปืนที่ขโมยมาด้วยมีปืน เอ็ม 16 และอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 11 ม.ม.จำนวนกว่า 50 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนกว่า 4,000 นัด ลองนึกภาพว่าขบวนคาราวานพวกโจรมันต้องยาวและเอิกเกริกยิ่งกว่าขบวนแห่ขันหมากขนาดไหน..!!)

คาดว่ากองกำลังดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่ยิงได้รับบาดเจ็บไปจำนวนหลายคน แต่ถึงอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบตามโรงพยาบาลและสถานอนามัย เกรงว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวจะแฝงตัวปะปนกับชาวบ้านเดินทางไปรักษาอาการบาดเจ็บ
(โยนขี้ให้ชาวบ้านได้อีก ทำไมฟ่ะ?งบประมาณที่รัดทะบานนี้ประเคนให้แสนกว่าล้านบาทยังไม่พอ ชิมิ..ละครน้ำเน่าเรื่องนี้จึงต้องเอามาหาแด๊กตลอด คนมลายูเค้ากินโรตีค้าบ ไม่ได้กินหญ้า กินเงินภาษีประชาชนเหมือนพวกท่าน)

สำหรับ ร.อ. กฤช คัมภีรญาณ หัวหน้าฐานปฏิบัติการณ์พระองค์ดำ ซึ่งเสียชีวิต เป็นหลานชายของ พล.อ. ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีต รมว.กลาโหม สมัยรัฐบาลทักษิณ เป็น นตท. รุ่น 38
(เสียใจด้วยคับ คนเขียนบทละครมืออาชีพเค้าต้องฆ่าตัวละครที่ตัวเองรักครับ เพื่อนาย เอ๊ย เพื่อเรทติ้งคับ !!)
 
 

10
ประวัติศาสตร์เรื่อง “การเสียดินแดน” เข้าใจผิด 4 ข้อ

1. คิดว่า รัฐสมัยเก่า (ก่อนศตวรรษที่ 20) ถือการครอบครองดินแดนเป็นเรื่องใหญ่

ความจริง – รัฐสมัยเก่าเปรียบได้กับเจ้าพ่อนั่นเอง เจ้าพ่อรายใหญ่ย่อมเรียก “ค่าคุ้มครอง” จากเจ้าพ่อรายเล็กกว่าในรูปของส่วยสาอากรผลประโยชน์ต่างๆและไพร่พล(นครรัฐปาตานีต้องส่งต้นไม้เงินต้นไม้ทองและทองคำจากเหมืองแร่ทองคำโต๊โม๊ะ จ.นราธิวาสไปให้สยามทุก2ปี) จากนั้นเจ้าพ่อทั้งรายใหญ่รายเล็กก็ไปขูดรีดเอากับไพร่ฟ้าข้าไทในเขตอิทธิพลของตนอีกทอดหนึ่ง

อำนาจของเจ้าพ่อรายเล็กจึงอยู่ที่อำนาจเหนือไพร่ฟ้าข้าไทในเขตอิทธิพลของตน อำนาจของเจ้าพ่อรายใหญ่จึงอยู่ที่อำนาจเหนือเจ้าพ่อรายเล็กและไพร่ฟ้าข้าไทในเขตอิทธิพลของตน อธิปไตยเหนือดินแดนแบบสมัยนี้ยังไม่มี อำนาจขององค์อธิปัตย์หมายถึงอำนาจเหนือคน คือ เหนือเจ้าพ่อรายเล็กและไพร่ฟ้าข้าไท ไม่จำเป็นต้องมีขอบเขตชัดเจน บางทีก็มีบางทีก็ไม่มี ไพร่ฟ้าจะเดินทางไกลไปไหนต่อไหนก็ยังถือว่ายังอยู่ใต้อำนาจของเจ้าองค์เดิม หรือที่เรียกว่า “ใต่ร่มพระบรมโพธิสมภาร” ของเจ้าองค์เดิม

“ดินแดน” ที่รัฐสมัยเก่าหวงแหนสุดขีดคือเมืองและวัง เพราะหมายถึงอำนาจของเจ้าพ่อ รัฐสมัยเก่าไม่หวงแหนชายแดน ยกให้เป็นของขวัญแก่ฝรั่งอังกฤษมาแล้วก็มี

ทัศนะที่ถือว่าประเทศราชและดินแดนชายขอบอำนาจเป็นของประเทศไทยมาแต่โบราณ เช่น สุโขทัยเป็นเจ้าของทั้งแหลมมลายู จึงเป็นทัศนะประวัติศาสตร์แบบเจ้าพ่อใหญ่ เช่น เจ้ากรุงเทพฯ เจ้าอังวะ หงสา ฯลฯ แต่ทว่าไทย/สยามที่เป็นรัฐแบบชาติสมัยใหม่กลับรักษาทัศนะประวัติศาสตร์ของเจ้ากรุงเทพฯและยกให้เป็นประวัติศาสตร์แห่งชาติอีกด้วย ประวัติศาสตร์ไทยจึงเป็น “ราชาชาตินิยม” คือไม่ใช่แค่ชาตินิยมอย่างประเทศอื่น แต่เป็นชาตินิยมที่คิดแบบเจ้ากรุงเทพฯ เช่น ถือว่าประเทศราชและดินแดนชายขอบอำนาจเป็นของประเทศไทยมาแต่โบราณ

2. คิดว่า เมืองขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของอธิปไตยของรัฐเจ้าพ่อใหญ่

ความจริง – เจ้าพ่อรายเล็กที่ยอมเป็นเมืองขึ้นหรือประเทศราชของรัฐเจ้าพ่อใหญ่ยังคงมีอำนาจเหนือเมือง วัง ไพร่ฟ้าข้าไทและเขตอิทธิพลของตน เพียงแต่ไม่ถือว่าเป็น “อิสระ” (คำว่า “อิสระ” แต่เดิมหมายถึงเป็นใหญ่สูงสุด ความหมายเพิ่งเปลี่ยนเป็น independence พร้อมๆกับรัฐสมัยใหม่ในศตวรรษที่ 20 นี่เอง) จะถือว่าเป็น “อิสระ” ได้ยังไงในเมื่อยอมสวามิภักดิ์ต่อรัฐเจ้าพ่อใหญ่ แต่การสวามิภักดิ์มิได้หมายถึงตกเป็นสมบัติของรัฐเจ้าพ่อใหญ่แต่อย่างใด เพียงหมายถึงยอมอยู่ใต้อำนาจบาตรใหญ่ “ความคุ้มครอง” ของเจ้าพ่อรายใหญ่กว่าและยอมจ่าย “ค่าคุ้มครอง” ตามที่เจ้าพ่อรายใหญ่เรียกมาเท่านั้นเอง

“เขตอิทธิพล” หรือดินแดนที่ไม่มีขอบเขตชัดเจนของเมืองขึ้นหรือประเทศราชจึงไม่ใช่สมบัติของเจ้าพ่อรายใหญ่ แต่แน่นอนว่าเจ้าพ่อใหญ่อย่างเจ้ากรุงเทพฯย่อมถือว่าประเทศราชเป็นสมบัติของตน

3. คิดว่า เมืองขึ้นหรือประเทศราชหนึ่งย่อมขึ้นต่อเจ้าพ่อรายใหญ่เพียงรายเดียว เมืองขึ้นของสยามย่อมขึ้นต่อสยามเท่านั้น ดังนั้นดินแดนประเทศราชย่อมเป็นของประเทศสยามแต่ผู้เดียว

ความจริง – ประเทศราชของอยุธยาและกรุงเทพฯแทบทั้งหมดในประวัติศาสตร์เป็นเมืองขึ้นของเจ้าพ่อใหญ่รายอื่นด้วยในเวลาเดียวกัน เช่น พม่า (อังวะ หงสาวดี) และเวียดนาม (เว้ ตังเกี๋ย) เพราะในความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสมัยเก่าแบบเจ้าพ่อนั้น รัฐเล็กๆถือว่ายอมอ่อนน้อมต่อเจ้าพ่อใหญ่ดีกว่าโดนเจ้าพ่อลงโทษ ครั้นเจ้าพ่อใหญ่หลายรายมาเรียก “ค่าคุ้มครอง” ก็ยอมซะเท่าที่ยังพอทนไหว (หากทนไม่ไหวค่อยฟ้องเจ้าพ่อ ก. ให้มาจัดการกับเจ้าพ่อ ข.) ประเทศราชของอยุธยาและกรุงเทพฯเป็นประเทศราชของ 2-3 เจ้าพ่อใหญ่ในเวลาเดียวกัน เจ้ากรุงเทพฯมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ 5 รู้ข้อนี้ดีว่าประเทศราชไม่เคยขึ้นต่อสยามแต่ผู้เดียว

ดังนั้น ขอบข่ายอำนาจของเจ้าพ่อใหญ่อย่าง สยาม พม่า เวียดนามจึงซ้อนทับกันเป็นแถบเบ้อเริ่ม เพราะต่างมี่ประเทศราชร่วมกัน อำนาจซ้อนทับแบบนี้ไม่เป็นปัญหาต้องแบ่งปันกันหรือรบราฆ่ากันเพราะทุกรัฐสมัยเก่าขอแค่ประเทศราชยอมสวามิภักดิ์และจ่ายค่าคุ้มครองสม่ำเสมอเป็นใช้ได้

แต่ครั้นทุกรัฐรับธรรมเนียมสมัยใหม่จากฝรั่งในปลายศตวรรษที่ 19 ที่ไม่ยอมรับอำนาจเหนือดินแดนแบบซ้อนทับอีกต่อไป และถือการครอบครองดินแดนเป็นเรื่องใหญ่ จึงต้องแย่งชิงกันว่าดินแดนของประเทศราชเป็นของใครกันแน่แต่ผู้เดียว ความขัดแย้งระหว่างสยามกับอังกฤษ ฝรั่งเศสสมัยรัชกาลที่ 5 คือ การพยายามแข่งขันกันช่วงชิงดินแดนประเทศราชมาเป็นของตนแต่ผู้เดียว
ประวัติศาสตร์แบบราชาชาตินิยมของรัฐไทยสมัยใหม่จึงแย่ยิ่งกว่าเจ้ากรุงเทพฯแบบก่อนศตวรรษที่ 20 เสียอีก คือ หลงคิดว่าประเทศราชเป็นของตนแต่ผู้เดียวมาแต่โบราณ ครั้นแย่งดินแดนประเทศราชกันแล้วแพ้เขา จึงเรียกว่า “ไทยเสียดินแดน”

4. คิดว่า ดินแดนของรัฐสมัยเก่ากำหนดชัดเจนแน่นอนว่าตรงไหนของใคร จึงสามารถพูดได้ว่า ไทยเสียดินแดนไปกี่ครั้งกี่ตารางกิโลเมตร

ความจริง – จากที่อธิบายมาข้างต้นคงเห็นแล้วว่า อำนาจดินแดนของรัฐสมัยเก่ามีทั้งซ้อนทับกันและโดยมากไม่กำหนดขอบเขตดินแดนชัดเจน ดินแดนของรัฐสยามสมัยใหม่ที่ชัดเจนมีเส้นเขตแบ่งปันเพิ่งเกิดขึ้นมาก็ต่อเมื่อแย่งชิงกันจบด้วยกำลังทหาร (ซึ่งสยามสู้ฝรั่งไม่ไหว) สยามจึงไม่เคยเสียดินแดนที่ไม่เคยเป็นของตน
ในเมื่อไม่เคยเป็นเจ้าของดินแดนประเทศราช ไม่เคยเป็นเจ้าพ่อใหญ่แต่ผู้เดียวด้วยซ้ำไป แถมอำนาจเหนือดินแดนไม่มีขอบเขตชัดเจน การ “เสียดินแดน” แท้ที่จริงแล้วจึงเป็นการเสียอำนาจแบบเจ้าพ่อแบบโบราณ คือ ไม่สามารถอวดอ้างความเป็นอธิราชได้อีกต่อไป เรียกให้เขาอ่อนน้อมไม่ได้แล้ว เรียกเก็บผลประโยชน์ก็ไม่ได้เช่นกัน ในจารีตแบบรัฐราชาธิราชหรือรัฐเจ้าพ่อแบบสมัยเก่านั้น นี่เป็นการเสียพระเกียรติยศของพระเจ้าแผ่นดินอย่างที่สุดประเภทหนึ่ง ความเจ็บปวดของเจ้ากรุงเทพฯจึงเป็นเรื่องของการที่พระองค์เสียพระเกียรติยศอย่างสาหัส ไม่ใช่การ “เสียดินแดน” ในแบบที่เราวัดกันออกมาได้เป็นตารางกิโลเมตร

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีเอกสาร power point ชุดหนึ่งแพร่หลายอย่างกว้างขวาง เสนอว่า “ไทยเสียดินแดน” มาทั้งหมด 14 ครั้ง นี่เป็นตัวอย่างผลผลิตของประวัติศาสตร์ราชาชาตินิยมตัวพ่อที่สามารถผลิตโฆษณาชวนเชื่อเหลวไหลได้อย่างไม่มีขีดจำกัด อ้างไปได้เรื่อยว่าปีนัง ทวาย มะริด ตะนาวศรี ฯลฯ เป็นของไทยแต่เสียไปตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 แม้แต่นักชาตินิยมรุ่นหลวงวิจิตรวาทการยังไม่เคยเพ้อเจ้อไปไกลขนาดนั้น คือในระยะแรกที่วาทกรรมการ “เสียดินแดน” เริ่มปรากฏตัวนั้น อย่างมากก็เสนอว่าเสีย 3-5 ครั้งและทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการแย่งชิงกับฝรั่งเศสในสมัยรัชกาลที่ 5 แต่ยิ่งนานวัน จำนวนครั้งและดินแดนที่อ้างว่าเสียไปกลับมากขึ้นทุกที เพราะตัวเลขเหล่านี้ไม่มีหลักฐานหลักเกณฑ์ใดๆทั้งสิ้น เป็นเพียงการมอมเมาให้ไพร่ราษฎรหลงผิดงมงายกับประวัติศาสตร์ราชาชาตินิยม เอาความแค้นของเจ้ากรุงเทพฯและความคลั่งชาติมาเป็นความคิดของตน ยอมไปตายแทนเพื่อผลประโยชน์ของชนชั้นปกครองไทย
คนที่ยังหลงงมงายกับประวัติศาสตร์การ “เสียดินแดน” ก็เท่ากับยังหลงเชื่อประวัติศาสตร์แบบที่เจ้ากรุงเทพฯและพวกอำมาตย์ชาตินิยมต้องการ มีแต่คนที่รับใช้เจ้าจนตัวตายรับใช้เจ้านายห้วปักหัวปำเท่านั้นแหละที่เที่ยวป่าวร้องอยู่ในกรุงเทพฯให้ไพร่ราบทหารเกณฑ์ไปตายแทน

บางส่วนจาก>>>
ธงชัย วินิจจะกูล:“เสียดินแดน” เป็นประวัติศาสตร์หลอกไพร่ไปตายแทน
ประชาไท

11
งบดับไฟใต้ 8 ปีงบประมาณพุ่งทะลุ 1.45 แสนล้าน
แต่สถานการณ์ยังไม่บรรเทา 7 ปีเกิดเหตุรุนแรงกว่าหมื่นครั้ง
สังเวยไปแล้วกว่า 4 พันศพ บาดเจ็บกว่า 7 พัน
เด็กกำพร้าครึ่งหมื่น หญิงหม้าย 2 พันคน
ขณะที่การจัดการด้านคดียังมีปัญหา
คดีความมั่นคงกว่า 7 พันคดี
ศาลตัดสินได้แค่ 256 คดี แถมยกฟ้องเกือบทั้งหมด !!

12
“7 ปีไฟใต้ ใช้งบแสนล้าน จบแค่คดีเดียว แถมเอาผิดใครไม่ได้”

ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 7 ปีนั้น
ประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันนอกจากการควบคุมสถานการณ์ความรุนแรงที่ดูจะไร้ผล
ทั้งๆ ที่ทุ่มเทงบประมาณลงไปกว่า 1.45 แสนล้านบาทแล้ว
ยังมีอีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ การบริหารจัดการคดีความมั่นคงในพื้นที่
และประสิทธิภาพในการนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าจนถึงวันนี้ ผ่านมา 7 ปีเศษแล้ว
ข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรมชี้ชัดว่า คดีความมั่นคงที่เกิดขึ้นแทบจะรายวันในพื้นที่
ศาลฎีกาเพิ่งจะพิพากษาถึงที่สุดไปเพียงคดีเดียว หนำซ้ำยังพิพากษายกฟ้องด้วย
>>
<<



13
--->>ใ ต้ ตึ ง เ ค รี ย ด ห นั ก >>
เกิดเหตุรุนแรงไม่มีหยุด แค่ 4 วันระเบิด 2 ครั้งเจ็บ 6 ยิงอีก 7 เหตุการณ์ ตาย 5 บาดเจ็บ 4 กำลังผสมบุกค้น 10 จุดที่กรงปินัง เจอกระสุนปืนคาร์บิน 200 ซุกท่อฝังดิน ด้านความคืบหน้าเหตุคาร์บอมบ์กลางยะลา ผู้การชี้คนร้ายแก๊งเดียวกับทีมฆ่าชุด รปภ.พระ จังหวัดเร่งเยียวยาผู้เสียหาย ขีดเส้น 6 เดือนรื้อ-สร้างใหม่บ้านและอาคารพาณิชย์วอดเพราะระเบิด...

>>>( ชืวิตของคนในจังหวัดปัตตานี,ยะลาและนราธิวาสใน 2,555 วัน = 7 ปี )
- คำถาม... เหตุเกิดทุกวันเป็นระยะเวลา 7 ปี เคยมีสักครั้งไม๊ที่จับคนร้ายได้ในที่เกิดเหตุ ??
- คำตอบ... ไม่มี ไม่เคย !!
- คำยุแยง...ทหารมันทำทั้งนั้นมันมีทั้งปืน,ระเบิด ทำเพื่อของบจากรัฐบาล ล่าสุด มันแดร๊กไปแล้ว หนึ่งแสนสี่หมื่นห้าพันล้านบาท คุณรู้ไม๊..มันมีศูนย์กี่ดัว ?

-คำถาม... หน้าตาไอ้พวกโจรใต้ที่ปล้นปืน,ฆ่า,เผา,ยิง,ระเบิดทุกวัน..หน้าตามันเป็นยังไง ??
-คำตอบ... หน้าตามันก็เหมือนพวกแขกใน 3จังหวัดนั้นแหละ อย่าไปกำหนดกลุ่ม หรือลักษณะที่ชัดเจนขึ้นมา มันจะลำบากทหารเวลาทำงาน "ถ้าศัตรูของเราคือ ผี" เราจะใช้อะไรก็ได้มาสู้กับมัน (พ.ร.กฉุกเฉิน) เราจะชี้ไปที่แขกคนไหนก็ได้ว่าเป็นโจร และที่สำคัญ เราจะแพ้ตลอด และนั้นเป็นนโบายหลักของเราในการที่จะของบประมาณมากถึงมากที่สุดโดยชอบธรรม
-คำยุแยง... และนั้นคือ..." ส า ร ลั บ จ า ก ท่ า น น า ย พ ล "

- คำถาม... ทำไมไม่ใช้กล้องวงจรปิดติดให้ทั่ว 3 จังหวัด ??
- คำตอบ... งบติดตั้งกล้องวงจรปิด3จังหวัด 1พันล้านบาทเบิกไปหมดแล้ว สัญญาติดตั้งก็สิ้นสุดไปนานแล้ว ไม่มีกล้องติดตั้งสักตัว ไม่มีใครโดนทำโทษสักตัว และอีกหลายตัวก็ตั้งงบขอติดตั้งกล้องวงจรปิดใน 3จังหวัดอีกครั้ง !!
- คำยุแยง...กล้องวงจรปิดมันเอามาติดตั้งใน 3จังหวัดไม่ได้เด็ดขาด เพราะ..ภาพมันจะฟ้องให้คนไทยทั้งประเทศได้รู้ว่า โจรใต้ที่แท้จริง คือ " ท ห า ร " นั้นเอง (ภาพจากกล้องวงจรปิดใน 3จังหวัดที่เห็นในปัจจุบันเป็นของเอกชนเค้าติดกันเอง เกิดเหตุทีก็ไปยึดเอาเทปของเค้าไปดูว่าเห็นภาพตัวเองรึเปล่า ถ้าเห็นก็ทำลาย ถ้าไม่เห็นก็โชว์ให้สื่อได้ดู)

15
บทความ / Re: +++คำคน คำคม+++
« เมื่อ: ก.พ. 12, 2011, 08:34 AM »
الأيام تمضى       والعمر يزيد         ولكن الحب بالقلب أكيد


วันเวลาย่อมเปลี่ยนผัน  ชีวันยังเปลี่ยนไป แต่ ฉันรักเธอนั้น ไม่เปลี่ยนแปลง



หน้า: [1] 2 3 ... 19