แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Askar

หน้า: [1]
1
 :salam:
 yippy: พี่น้องครับ พอมีลิงค์ เกี่ยวกับการกรุบานช่วงอีดิลอัฎฮา หรือรายอฮัจ   หรือว่าอธิบายคร่าวๆก้อได้น่ะ  จะได้เข้าใจและนำไปใช้อย่างถูกต้อง
ยาซากัลลฮฮูค๊อยร๊อน ล่วงหน้าน่ะครับ

 mycool: mycool: mycool:

2
 ;D smile: ;D hehe ยาซากูมุลลอฮฺฮูค่อยร่อน

3
 :salam: รบกวนหน่อยครับอยากทราบเรื่องศาสนา   เรื่องว่า "มีเพื่อนสนิทต่างศาสนิก ชวนไปงานบวชที่วัด อยากทราบว่าเราสามารถไปรวมงานบวชของเพื่อนได้ไหมครับ"

4
บทความ / Re: :: ผู้หญิงต้องการอะไร? ::
« เมื่อ: ธ.ค. 06, 2010, 09:57 PM »
 hihi: แหะ ๆ  เอาด้วย +1000

5
 :salam:  รบกวนอีกนิดน่ะ ข้องใจนิ

แล้วคนไม่ตามล่ะ เช่น ละหมาดวักตูซุบฮี  อีหม่า่มก้มลงสูยุด แต่บางคนยกมือดูอากูนุต แบบนี้เซาะหรือเปล่า  หรือหมายความว่าอย่างไร
 mycool:

6
ไม่ได้... ถามผู้รู้แล้ว เค้ามีคำอธิบายยาวมาก เราจำมาไม่หมด555

นั่นซิอยากรู้เหมือนกัน ผู้รู้แบบไหนบอกหรอ ช่วยมาชี้แจงเหตุผลทีนะครับ
งั้นเอานี่ไปอ่านก่อนเผื่อจะเข้าใจ

  ؛
ตอบโดย อ.อาลี   เสือสมิง


นักวิชาการสังกัดมัซฮับอัชชาฟิอีย์ กล่าวว่า : การละหมาดตามหลังคนฟาซิกนั้นถือว่าใช้ได้ ไม่ใช่สิ่งต้องห้าม แต่เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ (มักโระฮฺ) และเช่นกัน การละหมาดตามหลังผู้ประกอบอุตริกรรม (มุบตะดิอฺ) ซึ่งมิได้ตกศาสนา (กุฟร์) ด้วยการทำอุตริกรรมของตนนั้นเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ (มักโระฮฺ) และการละหมาดนั้นใช้ได้ (เซาะฮฺ) แต่ถ้าหากผู้ประกอบอุตริกรรมนั้นตกศาสนา (กุฟร์) ด้วยการทำอุตริกรรม (บิดอะฮฺ) ของตน  ก็ถือว่าการละหมาดตามบุคคลเช่นนี้ใช้ไม่ได้เหมือนกับผู้ปฏิเสธทั่วไป


และส่วนหนึ่งจากผู้ที่ตกศาสนา (กุฟร์) นั้นคือผู้ที่กล่าวว่าพระองค์อัลลอฮฺ (ซ.บ.) มีเรือนร่างเช่นมนุษย์อย่างชัดเจน และผู้ที่ปฏิเสธความรู้ของพระองค์อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ในส่วนที่เป็นรายละเอียด ส่วนพวกมุอฺตะซิละฮฺ (ที่กล่าวว่าอัลกุรอานเป็นมัคลู๊ก) นั้น ท่านอัลกอฟฟาลและนักวิชาการสังกัดมัซฮับอัชชาฟิอีย์จำนวนมากกล่าวว่า : อนุญาตให้ละหมาดตามพวกเขาได้ อิหม่ามอันนะวาวีย์ (ร.ฮ.) ระบุว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และท่านอิหม่ามอัชชาฟิอีย์ (ร.ฎ.) ระบุว่า : ชาวสะลัฟและคอลัฟยังคงเห็นว่าให้ละหมาดตามหลังพวกมุอฺตะซิละฮฺและพวกที่เหมือนพวกเขาและมีการสมรสและรับมรดกตลอดจนการใช้หลักการทั่วไปกับพวกเขา (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน อัลมัจญ์มูอฺ ชัรฮุ้ลมุฮัซซับ ; อันนะวาวีย์ เล่มที่ 4 หน้า 150-151)


ส่วนการละหมาดตามหลังวะฮาบีย์นั้นถือว่าใช้ได้ (เซาะฮฺ) ลองคิดดูง่าย ๆ ว่า ถ้าการละหมาดตามหลังวะฮาบีย์ใช้ไม่ได้ คนที่ละหมาด ณ มัสญิดหะรอมทั้งสองแห่งจะเป็นเช่นไร? และนักเรียนไทยที่ไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยอิสลามียะฮฺ นครม่าดีนะฮฺเป็นเวลาหลายปี ละหมาดของพวกเขาจะเป็นอย่างไร?



และวะฮาบีย์นั้นจริง ๆ แล้วคือผู้ที่สังกัดมัซฮับฮัมบะลีย์ และอะฮฺลุลหะดีษ ถือตามแนวทางของสะลัฟในเรื่องหลักความเชื่อ (อะกีดะฮฺ) พวกเขาเรียกตัวเองว่า “อัสสะละฟียะฮฺ” มิใช่ วะฮาบีย์ เพราะคำว่าวะฮาบีย์เป็นการใช้คำเรียกขานในแง่ลบและเป็นการโจมตีนั่นเอง! หากท่านอยากทราบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ลองสอบถาม ดร.อับดุลลอฮฺ หนุ่มสุข ดู อินชาอัลลอฮฺท่านจะได้รับความกระจ่างว่า แท้ที่จริงแล้ววะฮาบีย์เป็นใครกันแน่!


والله أعلم بالصواب

อ้างอิงจาก http://www.alisuasaming.com/qa/index.php?topic=96.0



ยาซากัลลอฮูค๊อยร๊อน   ท่านผู้รู้คับ  ได้รับความกระจ่างมากขึ้น

7
เราสามารถละหมาดตามอีหม่ามที่เป็นวะฮะบีย์ เช่น ซุบฮี หรือเวลาอื่นได้รึปล่าวพี่น้อง

หน้า: [1]