1
อัลหะดีษ / Re: อัลกุรอาน กล่าว เกี่ยวกับ อัลหะดิษ ว่าอ&#
« เมื่อ: ต.ค. 11, 2007, 06:17 AM »ในเรื่องของคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ เช่นในกรณีนี้ (หรือในกรณีของของมึนเมา คล้ายๆกัน คือ คำถามว่า เจ้าจะจังไม่หยุดมันหรือ) เช่นในกรณีสุรา ผมก็ตอบว่า ใช่ควรจะหยุดการมึนเมา แล้วก็ได้บทเรียนในเชิงตักเตือนว่าควรจะหยุดของมึนเมา (ถ้าเคยใช้ และไม่ควรไปใช้)
คุณจะเห็นประโยชน์ของคำถามเช่นนี้ได้เมื่อคุณตอบก่อน (ซึ่งคุณได้ตอบให้ผมเห็นแล้วเช่นกัน ว่า "พวกเขาไม่เชื่ออัลกุรอานที่มีอรรถรสและบ่งชี้ถึงความสัจจริงของร่อซูลุลลอฮ์ (ซ.ล.) ดังนั้นสิ่งใดอีกเล่าที่พวกเขาจะเชื่อ")
ในกรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน การที่อัลลอฮใช้สรรพนามบุรุสที่สามอ้างถึงพวกผู้ปฏิเสธ ก็แสดงชัดเจนอยู่แล้วว่าคำถามนี้เ็ป็นการเตือนการคนอ่าน ไม่ใช่ตำหนิผู้ปฏิเสธโดยตรง เพราะเป็นคำถามในลักษณะแบบนี้ และก็ได้บทเรียนดังในโพสก่อนของผมซึ่งชัดแจนอยู่แล้ว
นอกจากนี้ คำตอบของคุณนี้ที่ว่า "พวกเขาไม่เชื่ออัลกุรอาน แน่นอนว่า ถ้อยคำพูดอื่น ๆ พวกเขาไม่เชื่ออยู่แล้ว" นั้นไม่เป็นจริง ชัดเจน เพราะเขาไม่ได้เชื่อในกุรอานแต่เขาเชื่อในคำบอกเล่าอื่นๆ เช่นคำภีร์หรือตำราของเขา (จำนวนมาก) นั่นคือ เขาเชื่อในถ้อยคำอื่นๆ นอกจากกุรอานนี้
[77.50] ดังนั้น (คำบอกเล่า/หะดิษ) อันใดเล่าหลังจากอัลกุรอานที่พวกเขาจะศรัทธากัน (คำบอกเล่า คือ หะดิษในภาษาอาหรับต้นฉบับ)
หมายความชัดเจนในเชิงตักเตือนว่า หลังจากกุรอานนี้แล้วไม่ควรศรัทธาในคำบอกเล่าใดๆทั้งสิ้น
ดังนั้นผมไม่เห็นด้วยใจการตอบของคุณนี้ (แต่แน่นอนเป็นสิทธิของคุณ)
คุณเข้าใจอัลกุรอานผิดครับ อัลเลาะฮ์ทรงตรัสโดยไม่ต้องการคำตอบ แต่คุณเองกลับต้องการคำตอบซึ่งดังกล่าวความคิดของคุณที่ผิดตามเจตนารมณ์ของอัลกุรอาน ดังนั้นความเข้าใจของคนจังไร้ความหมายและไม่ถูกต้องตามหลักภาษาอาหรับที่อัลกุรอานได้ประทานลงมา
คุณเข้าใจอัลกุรอานผิดและเข้าใจ "คำถาม" ในอายะฮ์อัลกุรอานผิดแล้วครับ กล่าวคือ คุณคิดว่าการถามดังกล่าวนั้น หมายถึงพระองค์ทรงถามผู้ปฏิเสธหรือถามเราก็หาไม่ครับ เพราะคำถามนี้ไม่ต้องการคำตอบ เนื่องจากเป็นการถามสิ่งหนึ่งอันเป็นที่รู้กันและถามเพียงเพื่อทำการตำหนิพวกปฏิเสธเท่านั้น
ดังนั้น ตามหลักวิชาภาษาอาหรับ แขนงของวิชาอรรถศิลป์ (อัลมาอานีย์) ระบุว่า การถามเช่นนี้ ไม่ใช่มีเป้าหมายเพื่อต้องการคำตอบ แต่ถามเพื่อตำหนิพวกปฏิเสธเท่านั้น ฉะนั้น หากคำถามในเชิงตำหนิอยู่ในรูปประโยคที่ปฏิเสธ จุดมุ่งหมายของประโยคจะมีความหมายในเชิงยืนยันบอกเล่า แต่ถ้าหากประโยคคำถามในเชิงตำหนิอยู่ในรูปประโยคของการบอกเล่า(ไม่ปฏิเสธ) จุดมุ่งหมายของประโยคจะมีความหมายในเชิงปฏิเสธ
ตัวอย่างเช่นอายะฮ์ 77.50 ที่มีความว่า "ดังนั้น (คำบอกเล่า/หะดิษ) อันใดเล่าหลังจากอัลกุรอานที่พวกเขาจะศรัทธากัน" ซึ่งเป็นประโยคคำถามเชิงยืนยันไม่ได้ปฏิเสธ ดังนั้นคำถามในเชิงตำหนิที่อยู่ในประโยคยืนยันนั้น จะมีความหมายสะท้อนถึงการปฏิเสธตามหลักภาษาอาหรับเชิงวิชาอรรถศิลป์ เพราะฉะนั้นอายะฮ์ดังกล่าวนี้จึงมีความหมายว่า "พวกเขาไม่เชื่ออัลกุรอานที่มีอรรถรสและบ่งชี้ถึงความสัจจริงของร่อซูลุลลอฮ์ (ซ.ล.) ดังนั้นสิ่งใดอีกเล่าที่พวกเขาจะเชื่อ" ซึ่งหมายถึงว่า พวกเขาไม่เชื่ออัลกุรอาน แน่นอนว่า ถ้อยคำพูดอื่น ๆ พวกเขาไม่เชื่ออยู่แล้ว
ดังนั้น คุณจะเอาอายะฮ์นี้มาตำหนิพวกเราตามความเข้าใจของคุณที่มีต่ออายะฮ์นี้ไม่ได้อย่างแน่นอนและเด็ดขาด วัลลอฮุอะลัม
ที่คุณกล่าวว่า ["พวกเขาไม่เชื่ออัลกุรอานที่มีอรรถรสและบ่งชี้ถึงความสัจจริงของร่อซูลุลลอฮ์ (ซ.ล.) ดังนั้นสิ่งใดอีกเล่าที่พวกเขาจะเชื่อ" ซึ่งหมายถึงว่า พวกเขาไม่เชื่ออัลกุรอาน แน่นอนว่า ถ้อยคำพูดอื่น ๆ พวกเขาไม่เชื่ออยู่แล้ว]
ผมเห็นว่าไม่จริงครับ เพราะพวกเขาเชื่อคำพูดอื่นๆ นอกจากกุรอาน ครับ (แน่นอนพวกปฏิเสธเขาไม่เชื่อกุรอานอยู่แล้วครับ ตามนิยามอยู่แล้ว แต่เขาเชื่อหะดิษ/เรื่องเล่าอื่นนอกจากกุรอาน) ละผมได้บอกแล้วว่า ถ้าคุณไม่ตอบคำถามพวกนี้ก่อน คุณก็ไม่เข้าใจ ซึ่งคุณก็กำลังตอบ เพื่อให้เข้าใจ ทั้งๆที่คุณบอกว่าไม่ต้องการคำตอบ
ดังนั้น มันเกี่ยวข้องแน่นอนว่าคำถามในเชิงตักเตือนนี้นี้กำลังถามใคร (นั่นคือผู้อ่าน สำหรับผม) และกล่าวถึงใีครในสรรพนามบุรุสที่สาม และให้บทเรียนแ่ก่เราผู้อ่านอย่างชัดเจนว่า ถ้าคุณเป็นผู้ศรัทธา คุณก็ไม่ควรเชื่อหะดิษอื่นนอกจากกุรอาน แบบพวกผู้ปฏิเสธเขาครับ เพราะคุณต้องการจะสักการะพระเจ้า ไม่ใช่คนอื่น ด้งนั้นคุณต้องมั่นใจว่าแต่ละคำสั่งมาจากพระเจ้าจริงหรือไม่ ซึ่งการรักษากุรอานของพระเจ้าจนถึงทุกวันนี้เป็นสัญญาณที่ชัดแจ้งอย่างหนึ่ง หะดิษอื่นนอกจากกุรอานไม่ได้ถูกรักษาอย่างเทียบเท่ากุรอานเลยแม้แต่น้อย
ผมเริ่มเห็นว่าการเสวนานี้วนไปเวียนมากับเรื่องเดิมๆแล้วครับ และผมไม่ต้องการโพสซ้ำๆ อีกครับ ขออภัยด้วย
ผมคิดว่าผมได้มาแสดงความเข้าใจคร่าวๆ ของคนที่คิดว่ากุรอานครบถ้วนพอเพียงแล้ว เกี่ยวกับเรื่องในหัวข้อการเชื่อในหะัดิษอื่นนอกจากกุรอาน ดังนั้นผมขอจบการเสวนาของผมครับ ผมไม่อยากอ้างถึงเรื่องกุรอานพอเพียงครบถ้วนให้นอกประเด็นอีกครับ
ผมขอทิ้งท้ายไว้เล็กน้อยว่า .....................................................
ผมต้องขออภัยถ้าได้ล่วงเกินด้วยวาจาแก่ท่าน ขอท่านอภัยให้ผมด้วยครับ ผมเพียงต้องการเข้าใจและสักการะพระเจ้าอย่างจริงใจครับ
ขอขอบคุณ คุณ al-azhary รวมทั้งท่านอื่นๆ อย่างสุง ที่ได้ให้เวลาในการเสวนาและโอกาสในการแสดงความคิดกับผมบนฟอรัมของท่าน โดยเฉพาะ คุณ al-azhary ที่ได้เสวนาอย่างสุภาพและควบคุมให้ตรงประเด็นครับ
ขอพระเจ้าทรงนำทางครับ