แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - dabdulla

หน้า: [1]
1
สิ่งที่ผมได้แง่คิดอีกเรื่องนึง จากการได้คุยในที่นี่
คือการใช้คำอาหรับ คือคำว่ายาดุน

ขออัลลอฮทรงตอบแทน ทุกๆท่าน

2
 :salam:

      ในการอธิบายว่ามือ แล้วอาจารย์อธิบายว่ามันคืออวัยวะที่ประกอบด้วยนิ้ว ถ้าอย่างนั้นเรากล่าวว่าอัลลอฮทรงเห็น แสดงว่าอัลลอฮมีตาหรือไม่
ที่ผมนี่ไม่ได้กวนนะครับ แต่ตาคืออวัยวะที่ใช้ในการมองเห็น

      ผมกำลังเทียบให้เห็นว่า เมื่อเรายืนยันว่ามือต้องมีนิ้ว แสดงว่าเห็นก็ต้องมีตา แต่การเห็นของอัลลอฮนั้นวัลลอฮุอะอ์ลัม และสำนวนตาของอัลลอฮที่ซุนนะห์วะฮาบีย์ใช้ ก็ไม่ได้โยงไปถึงการมองเห็น เพราะอัลลอฮไม่ได้บอกว่าพระองค์ทรงเห็นด้วยตา

     ดังนั้นการใช้คำว่ามือของอัลลอฮ ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะบอกว่าพระองค์มีนิ้ว เพราะอัลลอฮไม่ได้บอกว่าพระองค์มีนิ้ว พระองค์ใช้คำว่ายาดุน
ผมไม่เถียงถึงการใช้คำที่สูงส่งกับอัลลอฮ เพราะแม้จะแปลว่ามือ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นมืออย่างมนุษย์ เพราะอัลลอฮทรงสร้างสรรพสิ่งต่างๆ ด้วยการกล่าวว่า เจ้าจงเป็น ซึ่งไม่ได้ใช้มือเหมือนมนุษย์

     แต่ผม ซึ่งเป็นคนอาวามเลือกใช้คำว่ามือ เพราะบางสำนวนนั้น อัลลอฮเทียบด้วยตัวของพระองค์ว่ามือของพระองค์กับมือซาฮาบะห์ ตาของพระองค์เทียบตาของซอฮาบะห์ ซึ่งแม้จะเป็นคำภาษาอาหรับ แต่สำนวนแบบนี้ในภาษาไทยหรือภาษาต่างๆก็มี

ด้วยจิตคารวะ ขออัลลอฮทรงชี้นำข้าพระองค์

3
 :salam:

ขอบคุณครับ ที่ช่วยอธิบายเพิ่มเติมให้ได้รับความรู้

ถ้าอย่างงั้นเราจะบอกได้มั้ยครับว่า ยาดุนของอัลลอฮเหมือนกับคำว่า อาลีฟ ลาม มีม ในอัลกุรอ่าน
รบกวนหน่อยครับเพราะผมสงสัย

ในกรณีของ อาลีฟ ลาม มีมนั้น ซุนนะห์วะฮาบีย์จะไม่เข้าแตะต้องความหมายเลย ซักนิดเดียวเท่าที่ผมได้เรียนมา
เพราะว่ามีหลักฐานนบีว่า อัลลอฮเท่านั้นที่รู้ความหมาย ดังนั้นห้ามพยายามจะเข้าไปเสาะแสะ

ฝากรบกวนช่วยตอบหน่อยนะครับ ขออัลลอฮตอบแทน

4
 :salam:

  ได้อ่านแล้วก็รู้สึกว่าอิสลามนั้นมีสิ่งที่ต้องรู้เยอะมาก ขออัลลอฮได้ทรงประทานความรู้ที่ถูกต้องให้กับข้าพระองค์ก่อนความตายจะมาเยือนอามีน

ขอถามเจ้าของกระทู้หน่อยครับ

    กรณีที่เราแปลกุรอ่านตามความหมายแบบซุนนะห์วะฮาบีย์ ว่ามือของอัลลอฮ แล้วซุนนะห์อะชาอิเราะห์กล่าวว่าพจนานุกรมแปลว่าอวัยวะที่มีนิ้ว
แต่ในบางความหมายที่ผมเข้าใจ เช่นตอนที่ซอฮาบะห์ให้สัตยาบันต่อท่านนบี อัลลอฮได้กล่าวว่ามือของอัลลอฮอยู่เหนือมือของพวกเขา ก็เป็นการแปลความหมายที่สอดคล้อง (หากจะถามฮะดิษต้นเรื่อง ผมยินดีหาแต่ต้องใช้เวลา เพราะไม่ได้เรียนศาสนามาโดยตรง แต่หากท่านมีความสามารถจะช่วยยกมา ก็ขออัลลอฮทรงตอบแทน)

   ตามความหมายในพจนานุกรม นั้นซุนนะห์อาชาอิเราะห์นั้น กล่าวว่าแปลว่ามือไม่ได้ เพราะมือคืออวัยวะที่มีนิ้ว แต่ซุนนะห์วะฮาบีย์กล่าวว่าแปลได้ว่ามือ เพราะรู้อยู่แล้วว่าอัลลอฮแตกต่างจากมัคลูก และพระองค์ไม่ได้กล่าวถึงนิ้วแต่อย่างใด แต่มือเป็นคำที่มาใช้คำเดียว อย่างนี้ถือว่าอากีดะห์วะฮาบีย์ผิดพลาดหรือไม่ เพราะในการแปลบางความหมาย มันดูสอดคล้องกับตัวประโยค เช่นมือซอฮาบะห์ มือของอัลลอฮ แต่เรารู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าเราจะพูดถึงนิ้วไม่ได้ เพราะนิ้วไม่เคยได้ใช้ในอัลกุรอ่าน

   หมายเหตุ: ที่ต้องใช้ซุนนะห์วะฮาบีย์ กับ ซุนนะห์อาชาอิเราะห์นั้น เพราะปัจจุบัน กลุ่มชีอะห์พยายามจะจับวะฮาบีย์ให้ยืนอยู่โดดๆ แล้วพวกเขามุ่งโจมตีโดยเป็นอีแอบ โดยยืนอยู่กับฝั่งอื่นๆที่โจมตีวะฮาบีย์ ซึ่งชีอะห์ด่าทอศอฮาบะห์ แม้ชีอะห์ทั้งโลกจะบริจาคเงินเต็มหน้าแผ่นดิน ก็ยังไม่เท่ามารดาอาอิชะห์จ่ายเงินสลึงเดียวในหนทางของอัลลอฮ ขออัลลอฮทรงตอบแทนทุกๆคน ผู้รักในอะห์ลุลบัยต์ ศอฮาบะห์ และมารดาของเราคือภรรยาท่านนบีทุกๆท่าน อามีน
   

5
 :salam:

        ขอให้คิดแบบนี้นะครับ เอาเป็นว่าที่อาจารย์พูดกันอยู่ เรามองว่าเป็นตำราฝ่ายวะฮาบีย์ก็ได้
แต่เนื้อเรื่องที่พูดถึง ท่านดูก็ได้ในบ้านเราก็มี มองเห็น เช่นโต๊ะตะเกี่ย
          คนที่ต่อต้านและเรียกร้อง ก็คือคนกลุ่มวะฮาบีย์ที่เราพูดกันอยู่
จริงๆ ผมอยากให้กลุ่มอะชาอิเราะห์ออกมาพูดเรื่องนี้ เพื่อขจัดความเป็นชิริกให้หมดไป

6
เข้าไปดูในนี้ได้นะครับ

http://harunyahya.com/en/works/904/


7
ผมก็มีอาจารย์หลายท่านที่ชื่นชอบนะครับ แต่ก่อนจะเล่า ผมขอเล่าก่อนว่าชีวิตเคยผ่านอะไรมาบ้าง
อาจารย์ที่ผมชื่นชอบคนแรกเลยคือ หมออะห์หมัด แต่ท่านเสียชีวิตไปนานแล้วครับ
ผมอาจจะเป็นลูกศิษย์ที่คลุกคลีอยู่กับแกในช่วงบั้นปลายของชีวิต ที่ขึ้นคำว่าหมอก็เพราะเมื่อก่อนเวลาใครโดนของต้องมาให้แกรักษา

อาจารย์คนต่อมา คืออาจารย์ฟาริด ฟินดี้ นามสกุลอาจพิมพ์ผิด
ตอนผมไปฟังครั้งแรกบอกตรงๆ ว่าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ สอนอะไรก็นรกๆๆๆ
แต่ตอนหลังที่ผมชื่นชอบและติดตามผลงานแกมาตลอดก็เพราะได้มาเข้าใจศาสนาอย่างถูกต้องในเรื่องการละหมาด ศีลอดและอื่นๆ ว่ามันคือ
เรื่องใหญ่ที่ละทิ้งไม่ได้

ก่อนหน้านั้น เพราะศึกษาวิชาที่พวกคุณไม่ได้ศึกษากัน
ผมเรียนดุอา เพื่อรักษาคน
ที่บ้านอาจารย์ผม มีน้ำอัดลมขวดลิตร ผูกตามกำแพงบ้านเต็มไปหมด รอบบ้าน
วันดีคืนดี ก็ทำข้าวเหนียวเหลืองไก่ย่าง
ผมเรียนหนังสือกับแกมา มักริบก็แล้ว อีชาก็แล้ว แกก็ยังไม่ไปละหมาด ผมก็ไม่ละหมาด เพราะไม่ใช่เรื่องใหญ่ในเวลานั้น
ผมมารู้จากเมียของอาจารย์ ว่าแกเลี้ยงญิน คุณอาจไม่เชื่อก็ได้นะผมไม่ได้ว่า แต่ผมเคยเห็นการสะเดาะกลอนของแกกับตา

มาวันนี้ ผมติดตามผลงานของอาจารย์ฟาริด ฟินดี้เป็นส่วนใหญ่ เพราะแกตอบตรง ละเอียด และไม่ยุ่งยาก

ใครจะไม่ชอบในที่นี้ก็ไม่่านะครับ ขออัลลอฮได้ให้ข้าพระองค์ดำรงค์อยู่ในการละหมาด และถือศีลอดตลอดไป

8
ในเทปบันทึกเสียง หัวข้อ 9/23
อาจารย์อาลีคานไม่ได้ยอมรับวะฮาบียะห์นั้น แล้วอาจารย์อารีฟีนได้อ่างถึงคำว่ามุนาฟิก บิดพริ้ว
อยากให้อาจารย์อาริฟีนได้พิจารณานิดนึงว่า สมควรหรือไม่
จริงอยู่ว่าปากกานั้นได้ถูกเซ็นบันทึกเป็นการยอมรับ
แต่อาจารย์อารีฟีนเองนั้น ก็รู้อยู่เต็มอกว่าเป็นคำที่เขาไม่ชอบ แต่เลือกใช้คำว่าบิดพริ้ว
แทนการอ้างว่า ที่ใช้ชื่อนี้เพื่อแยกกลุ่มในการพูดคุย

ถ้าอาจารย์อาริฟีนตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งการมองทุกอย่าง บนความเป็นมุสลิม
คำว่ามุนาฟิก จะไม่หลุดออกจากปากผู้รู้ด้วยเรื่องแบบนี้ไปได้
การบิดพริ้วในเรื่องนี้ ที่สมควรจะเอามาใช้ ก็เช่นตกลงว่าจะคุยแล้วแต่ไม่มา

ถ้าอาจารย์อาริฟีน จะค้านผมว่าผมพูดผิดก็ได้
แต่ผมกล้าพูด ว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นถูกต้อง และกล้าตอบต่ออัลลอฮ
จะค้านผมตรงนี้ก็ได้

หน้า: [1]