1
สนทนาศาสนธรรม / Re: ลาอิลาฮะอิ้ลลั้ลลอฮ์
« เมื่อ: ม.ค. 16, 2015, 07:52 AM »
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته
**เดือนร่อบีอุ้ลเอาวั้ลนี้ ทุกๆคนต่างก็มีการรำลึกนึกถึงท่านร่อซูลุ้ลลอห์(ซ.ล.)กันอย่างแพร่หลาย มีการอ่านชีวประวัติอันทรงคุณค่าของท่านร่อซูลุ้ลลอห์(ซ.ล.)กัน ทุกๆคนต่างก็มีความยินดีดีใจในท่านร่อซูลุ้ลลอห์(ซ.ล.)กันทั่วทุกสารทิศ แต่สิ่งที่สำคัญอีกประการที่เราท่านทั้งหลายไม่ควรมองข้ามกันไป ก็คือการรำลึกนึกถึงความตาย ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้เราท่านทั้งหลายไม่หลงระเริงกับโลกดุนยาใบนี้มากจนเกินไป ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้เราท่านทั้งหลายหวนกลับสู่ความถูกต้องจากพระผู้เป็นเจ้ามากยิ่งขึ้น เราท่านทั้งหลายต้องยอมรับอย่างนึงว่า ในปัจจุบันนี้สิ่งที่จะทำให้เราท่านทั้งหลายมีความเพลิดเพลินนั้น มีมากมายเหลือเกิน มากมายจนนับไม่ถ้วน มากมายจนนับไม่ไหว ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านั้น ทำให้เราท่านทั้งหลายยิ่งห่างไกลจากพระผู้เป็นเจ้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งต่างกับการรำลึกนึกถึงความตายอย่างสิ้นเชิง ซึ่งการรำลึกนึกถึงความตายจะทำให้เราท่านทั้งหลาย มีจิตใจที่ใกล้ชิดกับพระผู้เป็นเจ้ามากยิ่งขึ้น ใกล้ชิดกับความดีงามมากยิ่งขึ้น ใกล้ชิดกับความพึงพอพระทัยจากพระผู้เป็นเจ้ามากยิ่งขึ้น
**ทรัพย์สินเงินทอง ลูกหลานบริวาร ความชื่นชมยินดีจากเพื่อนพ้องรอบข้าง ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเราท่านทั้งหลายได้เลย มีแต่คุณความดีงามที่เราท่านทั้งหลายปฏิบัติกันไว้เท่านั้น ที่จะสามารถนำพาเราท่านทั้งหลายไปสู่ความสุขสบายอันนิรันด์ ที่จะสามารถนำพาเราท่านทั้งหลายไปสู่สรวงสวรรค์ของพระผู้เป็นเจ้าได้
**ความดีงามนั้นทำยากเนื่องจากอารมณ์นัฟซูส่วนนึงที่ไม่ค่อยอยากกระทำ และอีกส่วนก็มาจากซัยตอนมารร้ายที่คอยขัดขวางเอาไว้ แต่เมื่อเราท่านทั้งหลายทำคุณความดีกันให้เป็นประจำ เมื่อนั้นแหละการทำคุณความดีต่อพระผู้เป็นเจ้าก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายดายต่อเราท่านทั้งหลายเอง
**ได้มีระบุไว้ในซอเฮี๊ยะห์บุคอรีว่า
حَدَّثَنِي عَبْدُ اللَّهِ بْنُ مُحَمَّدٍ، حَدَّثَنَا عَبْدُ المَلِكِ بْنُ عَمْرٍو، حَدَّثَنَا زُهَيْرُ بْنُ مُحَمَّدٍ، عَنْ مُحَمَّدِ بْنِ عَمْرِو بْنِ حَلْحَلَةَ، عَنْ عَطَاءِ بْنِ يَسَارٍ، عَنْ أَبِي سَعِيدٍ الخُدْرِيِّ، وَعَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ: عَنِ النَّبِيِّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ: مَا يُصِيبُ المُسْلِمَ، مِنْ نَصَبٍ وَلاَ وَصَبٍ، وَلاَ هَمٍّ وَلاَ حُزْنٍ وَلاَ أَذًى وَلاَ غَمٍّ، حَتَّى الشَّوْكَةِ يُشَاكُهَا، إِلَّا كَفَّرَ اللَّهُ بِهَا مِنْ خَطَايَاهُ
**จากท่านอะบีฮุรอยเราะห์(ร.ด.) จากท่านนบี(ซ.ล.) ท่านร่อซูลุ้ลลอห์(ซ.ล.)กล่าวว่า ไม่มีสิ่งใดที่ประสบกับมุสลิม ด้วยความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า โรคประจำตัว ความวิตกกังวล ความโศกเศร้า ภยันอันตรายและความมัวหมองต่างๆ แม้กระทั่งว่าหนามที่ตำ นอกจากพระองค์อัลเลาะฮ์(ซ.บ.) ทรงให้เป็นเครื่องลบล้างความผิดของเขา รายงานโดยบุคอรี
**ทุกๆวันขอให้เราท่านทั้งหลายกล่าวว่า ลาอิลาฮะอิ้ลลั้ลลอฮ์ กันให้เป็นประจำ อย่าให้การกล่าวว่าลาอิลาฮะอิ้ลลั้ลลอฮ์ มีเฉพาะกับคนที่รู้สึกว่าตัวเองใกล้จะสิ้นชีวิตแล้วเท่านั้น เพราะคำๆนี้เป็นคำที่มีศิริมงคลมาก ขนาดที่ว่าสมมุติว่ากระทำไม่ดีมาทั้งชีวิต แต่มีคำๆนี้เป็นคำสุดท้ายของชีวิต ท้ายที่สุดในโลกหน้าอาคิเราะห์ แม้ต้องโดนลงโทษในสิ่งที่ตัวเองได้เคยกระทำไว้ อย่างไรๆก็ต้องได้เข้าสรวงสวรรค์ของพระผู้เป็นเจ้าอย่างแน่นอน ก็เพราะว่าเขามีศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้า
**เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป สมัยก่อน เด็กติดพ่อติดแม่ โตขึ้นมาหน่อยติดเพื่อน พอมีครอบครัวก็ติดลูก แต่พอเมื่อสมัยได้เปลี่ยนไป สมัยนี้เด็กติดพ่อติดแม่และก็ติดแท็ปเล็ต โตขึ้นมาหน่อยติดเพื่อนและก็ติดสังคมออนไล ติดโทรศัพท์ พอมีครอบครัวก็ติดลูกและก็ติดโทรศัพท์(เรียกว่าถ้าว่างเมื่อไหร่ เป็นต้องหยิบโทรศัพท์ ดังนั้นถ้าอดที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูไม่ได้จริงๆ ขอให้ดูในสิ่งที่เป็นคุณความดีที่พระผู้เป็นเจ้าพึงพอพระทัยเท่านั้น
***พระผู้เป็นเจ้าทรงตรัสว่า
فَمَنْ يَعْمَلْ مِثْقَالَ ذَرَّةٍ خَيْرًايَرَهُ
وَمَنْ يَعْمَلْ مِثْقَالَ ذَرَّةٍ شَرًّايَرَهُ
“ดังนั้นผู้ใดกระทำความดีหนักเท่าผงธุลีเขาก็จะได้เห็นมัน
ส่วนผู้ใดกระทำความชั่วหนักเท่าผงธุลีเขาก็จะได้เห็นมัน”อัลซิลซาลอายะห์ที่7-8
**จงนึกถึงความตายให้เป็นประจำ แล้วเราท่านทั้งหลายจะสละสิ่งไร้สาระได้มากขึ้น แล้วเราท่านทั้งหลายจะทำคุณความดีต่อพระผู้เป็นเจ้าได้ง่ายขึ้นและมากยิ่งขึ้น อิงซาอัลลอฮ์
**อย่าลืมนะครับคำง่ายๆ แต่ผมเชื่อเหลือเกินว่ามีน้อยคนมากที่ได้กล่าวอย่างเป็นประจำ ลาอิลาฮะอิ้ลลั้ลลอฮ์(ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ถูกกราบไหว้โดยเที่ยงแท้นอกจากพระองค์อัลลอฮ์(ซ.บ.))
**วิเคราะห์ตามหลักดาราศาสตร์อิสลาม
ดังนั้นวันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558 ตรงกับวันที่ 29 ร่อบีอุ้ลเอาวั้ล ฮ.ศ.1436 (ทางสำนักจุฬาราชมนตรีกำหนดให้วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2557เป็นวันที่ 1 ร่อบีอุ้ลเอาวั้ล ฮ.ศ.1436 ดังนั้นวันอังคารที่ 20มกราคม พ.ศ. 2558 ตรงกับวันที่ 29 ร่อบีอุ้ลเอาวั้ล ฮ.ศ.1436 ต้องมีการดูจันทร์เสี้ยวเพื่อกำหนดวันที่ 1 ร่อบีอุซซานี ฮ.ศ.1436)
**สำหรับประเทศไทย
จันทร์ดับ ตรงกับวันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 20.13.44 วินาที ตามเวลาประเทศไทย ดังนั้นหลังเข้าเวลาละหมาดมัฆริบของวันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558 ต้องมีการดูจันทร์เสี้ยวเพื่อกำหนดวันที่ 1 ร่อบีอุซซานี ฮ.ศ.1436 (ทางสำนักจุฬาราชมนตรีกำหนดให้วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2557เป็นวันที่ 1 ร่อบีอุ้ลเอาวั้ล ฮ.ศ.1436)
เกล็ดเล็กเกร็ดน้อย ควรจะใช้คำว่าดูดวงจันทร์เสี้ยวหรือดูจันทร์เสี้ยว แทนจากคำว่าดูดวงจันทร์เพราะตามฮาดิษใช้คำว่าฮิลาล แปลว่าดวงจันทร์เสี้ยวหรือจันทร์เสี้ยว โดยที่ในฮาดิษไม่ได้ใช้คำว่าก่อมัรซึ่งแปลว่าดวงจันทร์ เพราะด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี หลังเข้าเวลาละหมาดมัฆริบ อาจจะสามารถใช้กล้องเห็นดวงจันทร์ได้ แต่เห็นเป็นดวงจันทร์ดำๆกลมๆมืดสนิท ไม่มีเสี้ยวขาวๆเลยแม้แต่น้อย การเห็นลักษณะแบบนี้ ตามหลักการของศาสนาอิสลาม ไม่สามารถนำมารายงานว่าเห็นจันทร์เสี้ยวได้ เพราะไม่มีการเห็นเสี้ยวของดวงจันทร์แต่อย่างใด การเห็นลักษณะแบบนี้ ตามหลักการของศาสนาอิสลามแล้ว ไม่สามารถนำมาเริ่มต้นเป็นวันที่1ของเดือนอิสลามได้ เพราะท่านร่อซูลุ้ลลอห์(ซ.ล.)ได้กล่าวว่า“ท่านทั้งหลาย จงถือศีลอดเพราะเห็นดวงจันทร์เสี้ยว และจงละศีลอดเมื่อเห็นดวงจันทร์เสี้ยว เลิกถือศีลอด ถ้าหากมีเมฆเกิดขึ้นเหนือพวกท่าน (มีเมฆมาปกคลุมทำให้ไม่เห็นดวงจันทร์เสี้ยว) ก็ให้พวกท่านปล่อยเดือนซะบานให้ครบสามสิบวันเถิด (นับเดือนซะบานให้ครบสามสิบวัน”) รายงานโดย บุคอรี และมุสลิม
**วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558 ดวงจันทร์ในวันนี้อยู่ห่างจากโลกประมาณ 360950.29 กิโลเมตรคำนวณจากมหานครมักกะห์ ถ้ากรุงเทพฯเรา ก็จะอยู่ประมาณ 361320.60 กิโลเมตร
**วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558
1.กทม.ดวงอาทิตย์ตก 18.12.37วินาที ดวงจันทร์ตก 18.03.43วินาที ดวงจันทร์ตกก่อนดวงอาทิตย์ 8นาที 54วินาที ไม่สามารถเห็นจันทร์เสี้ยวได้ ถ้าใครอ้างว่าเห็นจันทร์เสี้ยว แสดงว่าสิ่งนั้นไม่ใช่จันทร์เสี้ยวอย่างแน่นอน
2.ชลบุรี (มีสถานที่แห่งหนึ่งชายฝั่งทะเลซึ่งมีคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ได้ร่วมสังเกตุดวงจันทร์เสี้ยวด้วย) ดวงอาทิตย์ตก 18.11.49 วินาที ดวงจันทร์ตก 18.02.34 วินาที ดวงจันทร์ตกก่อนดวงอาทิตย์ 9นาที 15วินาที ไม่สามารถเห็นจันทร์เสี้ยวได้ ถ้าใครอ้างว่าเห็นจันทร์เสี้ยว แสดงว่าสิ่งนั้นไม่ใช่จันทร์เสี้ยวอย่างแน่นอน
3.ยะลา อ.เบตง ดวงอาทิตย์ตก 18.22.01 วินาที ดวงจันทร์ตก 18.10.39 วินาที ดวงจันทร์ตกก่อนดวงอาทิตย์ 11นาที 22วินาที ไม่สามารถเห็นจันทร์เสี้ยวได้ ถ้าใครอ้างว่าเห็นจันทร์เสี้ยว แสดงว่าสิ่งนั้นไม่ใช่จันทร์เสี้ยวอย่างแน่นอน
- ยะลาอ.ยะหา ดวงอาทิตย์ตก 18.20.48 วินาที ดวงจันทร์ตก 18.09.35 วินาที ดวงจันทร์ตกก่อนดวงอาทิตย์ 11นาที 13วินาที ไม่สามารถเห็นจันทร์เสี้ยวได้ ถ้าใครอ้างว่าเห็นจันทร์เสี้ยว แสดงว่าสิ่งนั้นไม่ใช่จันทร์เสี้ยวอย่างแน่นอน
4.หาดใหญ่ ดวงอาทิตย์ตก 18.22.41 วินาที ดวงจันทร์ตก 18.11.45 วินาที ดวงจันทร์ตกก่อนดวงอาทิตย์ 10นาที 56วินาที ไม่สามารถเห็นจันทร์เสี้ยวได้ ถ้าใครอ้างว่าเห็นจันทร์เสี้ยว แสดงว่าสิ่งนั้นไม่ใช่จันทร์เสี้ยวอย่างแน่นอน
5.กาญจนบุรี ดวงอาทิตย์ตก 18.15.28 วินาที ดวงจันทร์ตก 18.06.46 วินาที ดวงจันทร์ตกก่อนดวงอาทิตย์ 8นาที 42วินาที ไม่สามารถเห็นจันทร์เสี้ยวได้ ถ้าใครอ้างว่าเห็นจันทร์เสี้ยว แสดงว่าสิ่งนั้นไม่ใช่จันทร์เสี้ยวอย่างแน่นอน
6.ปัตตานี ดวงอาทิตย์ตก 18.20.32 วินาที ดวงจันทร์ตก 18.09.25 วินาที ดวงจันทร์ตกก่อนดวงอาทิตย์ 11นาที 6วินาที ไม่สามารถเห็นจันทร์เสี้ยวได้ ถ้าใครอ้างว่าเห็นจันทร์เสี้ยว แสดงว่าสิ่งนั้นไม่ใช่จันทร์เสี้ยวอย่างแน่นอน
7.อุบลราชธานี ดวงอาทิตย์ตก 17.53.52 วินาที ดวงจันทร์ตก 17.44.46 วินาที ดวงจันทร์ตกก่อนดวงอาทิตย์ 9นาที 6วินาที ไม่สามารถเห็นจันทร์เสี้ยวได้ ถ้าใครอ้างว่าเห็นจันทร์เสี้ยว แสดงว่าสิ่งนั้นไม่ใช่จันทร์เสี้ยวอย่างแน่นอน
8.นนทบุรี ดวงอาทิตย์ตก 18.12.41 วินาที ดวงจันทร์ตก 18.03.50 วินาที ดวงจันทร์ตกก่อนดวงอาทิตย์ 8นาที 51วินาที ไม่สามารถเห็นจันทร์เสี้ยวได้ ถ้าใครอ้างว่าเห็นจันทร์เสี้ยว แสดงว่าสิ่งนั้นไม่ใช่จันทร์เสี้ยวอย่างแน่นอน
**ผลในการคำนวนทางดาราศาสตร์อิสลาม
วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558 หลังเข้าเวลามัฆริบทั่วทั้งประเทศไทย ต้องมีการดูจันทร์เสี้ยว แหละทั่วทั้งประเทศไทยไม่สามารถเห็นจันทร์เสี้ยวได้เลย ถ้าใครอ้างว่าเห็นจันทร์เสี้ยวแสดงว่าสิ่งนั้นไม่ใช่จันทร์เสี้ยวอย่างแน่นอน
**ดังนั้นผลในการคำนวณทางดาราศาสตร์อิสลาม วันที่ 1 ร่อบีอุซซานี ฮ.ศ.1436)
ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2558 ทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้นั้น เป็นผลสรุปจากการคำนวนทางดาราศาสตร์อิสลามเท่านั้น
**แต่ทว่าในทางการปฏิบัติจริงๆนั้น ให้พี่น้องต้องรับฟังการประกาศทางสำนักจุฬาราชมนตรีเท่านั้น เพราะเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบ
**ก็คนทุกคนต่างมีหน้าที่ แหละความรับผิดชอบที่แตกต่างกัน เราในฐานะผู้ตามต้องตามผู้นำ ผู้รายงานการดูจันทร์เสี้ยวต้องพูดในสิ่งที่เห็นจริง ส่วนผู้นำก็ต้องมีผู้เชี่ยวชาญทางดาราศาสตร์อิสลาม คอยตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมาด้วย(สมมุติว่าณบริเวณนั้น มีผู้ที่ดูดวงจันทร์เสี้ยวเป็นร้อยหรือเป็นพันคน ทำไมจึงเห็นดวงจันทร์เสี้ยวแค่คนคนเดียวหรือเห็นดวงจันทร์เสี้ยวแค่สองสามคน แล้วคนที่เห็นหรือกลุ่มคนที่เห็นดวงจันทร์เสี้ยวนั้น มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับดวงจันทร์มากน้อยเพียงใด ซึ่งบางทีสิ่งที่เขาเห็นแล้วคิดว่าเป็นดวงจันทร์เสี้ยว ความเป็นจริงอาจไม่ใช่ดวงจันทร์เสี้ยวก็เป็นได้)แหละทำตามคำสั่งใช้อย่างแท้จริง ที่มาจากพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น แล้วความถูกต้องจริงๆที่มาจากพระผู้เป็นเจ้า จะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน เพราะเราท่านทั้งหลายต้องไม่ลืมอย่างนึงว่า สิ่งต่างๆเหล่านี้จะนำมาซึ่งผลบุล หรืออาจจะนำมาซึ่งผลบาป ก็เป็นได้ในโลกหน้าอาคิเราะห์
***พระผู้เป็นเจ้าทรงตรัสว่า
فَاسْتَقِمْ كَمَا اُمِرْتَ وَمَنْ تَابَ مَعَكَ وَلاَ تَطْغَوْا اِنَّهُ بِمَا تَعْمَلُوْنَ بَصِيْرٌ
ดังนั้นท่าน(มุฮัมมัด)จงดำรงมั่น(ทำตาม) เหมือนเช่นที่ท่านได้ถูกบัญชามา และ(เหมือนเช่นที่ท่านได้ถูกบัญชามา)ผู้ที่หวนกลับ(จากการตั้งภาคี การเนรคุณ สู่สัจธรรมพร้อมกับท่าน) และท่านทั้งหลายอย่าละเมิด(บทบัญญัติด้วยการเข้าไปทำความผิดที่พระผู้เป็นเจ้าได้ห้ามไว้)เพราะแท้จริงพระองค์ทรงมองเห็นยิ่ง ในสิ่งที่พวกท่านกระทำ
ซูเราะห์ฮูด อายะห์ที่112
**เล่าจากอะบียะอ์ลา มะอ์กิ้ลบุตรยะซาร(ร.ด.)ว่า ฉันได้ยินร่อซูลุ้ลลอห์ว(ซ.ล)กล่าวว่า ไม่มีบ่าวคนใดที่อัลเลาะห์มอบหมายให้เขาเป็นผู้รับผิดชอบต่อประชาชน เขาเสียชีวิตไป ในวันที่เขาเสียชีวิต เขาทุจริตต่อประชาชนของเขานอกจากอัลเลาะห์จะห้ามเขาเข้าสวรรค์
รายงานโดย บุคอรี มุสลิม
วันนี้เราท่านทั้งหลายทำความดีเพื่อพระองค์แล้วหรือยัง และเราท่านทั้งหลายได้นำพาบุคคลรอบข้างของเราเข้าใกล้ชิดพระผู้เป็นเจ้าแล้วหรือยัง ละหมาดแล้วหรือยัง ทำอะม้าน อิบาดะห์ชนิดต่างๆเพื่อรับพระเมตตาจากพระผู้เป็นเจ้าแล้วหรือยัง
**วันนี้วันศุกร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ.2558 เวลาปฏิบัติศาสนกิจ(ซ่อลา ซำบะห์ยัง)
-สำหรับสำนักจุฬาราชมนตรี ซุบฮิเวลา 05.20.43วินาที ตะวันขึ้นเวลา 06.44.28วินาที ดุฮ์ริเวลา 12.26.22วินาที อัสริเวลา 15.42.55วินาที มักริบเวลา 18.08.23วินาที อีซาเวลา 19.23.26วินาที
-สำหรับกทม.ซุบฮิเวลา 05.22.25วินาที ตะวันขึ้นเวลา 06.46.08วินาที ดุฮ์ริเวลา 12:28.14วินาที อัสริเวลา 15:44.54 วินาที มักริบเวลา 18.10.26วินาที อีซาเวลา 19.25.28วินาที
-สำหรับมัสยิดฮารอม ซุบฮิเวลา 05.33.59วินาที ตะวันขึ้นเวลา 06.58.07วินาที ดุฮ์ริเวลา 12.30.18วินาที อัสริเวลา 1 15.38.13วินาที มักริบเวลา 18.02.38วินาที อีซาเวลา 19.17.49วินาที
-สำหรับมัสยี่ดินนะบะวี ซุบฮิเวลา 05.29.19วินาที ตะวันขึ้นเวลา 07.03.11วินาที ดุฮ์ริเวลา 12.31.09วินาที อัสริเวลา15.34.40 วินาที มักริบเวลา 17.59.18วินาที อีซาเวลา 19.14.58วินาที
**พี่น้องครับซากาตคือสิ่งจำเป็น สำหรับบุคคลที่ครบในเงื่อนไข และในส่วนของการทำบุญให้กับเด็กกำพร้านั้น ถือว่าเป็นภาคผลบุลและเป็นความดีงามที่ยิ่งใหญ่มาก ณฝ่ายของพระผู้เป็นเจ้า แม้กระทั่งการลูบศรีษะเด็กกำพร้า เพื่อแสดงถึงความรักความเอ็นดู เพื่อเติมเต็มในสิ่งที่ขาดหายไป ทุกๆเส้นผมที่มือลูบผ่านไปนั้นนั่นก็เป็นภาคผลบุลทั้งสิ้น ท่านรอซูลุ้ลลอห์(ซ.ล.)บุรุษที่ประเสริฐที่สุด ในบรรดามั๊คโลคสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาคนรักของพระผู้เป็นเจ้า ท่านก็เป็นเด็กกำพร้ามาก่อนเช่นเดียวกัน
***พระผู้เป็นเจ้าทรงตรัสว่า
فَمَنْ يَعْمَلْ مِثْقَالَ ذَرَّةٍ خَيْرًايَرَهُ
وَمَنْ يَعْمَلْ مِثْقَالَ ذَرَّةٍ شَرًّايَرَهُ
“ดังนั้นผู้ใดกระทำความดีหนักเท่าผงธุลีเขาก็จะได้เห็นมัน
ส่วนผู้ใดกระทำความชั่วหนักเท่าผงธุลีเขาก็จะได้เห็นมัน”อัลซิลซาลอายะห์ที่7-8
**รู้แล้วบอกต่อ ความดีงามจะหลั่งไหลสู่ตัวท่านและสังคมสืบต่อไป ทำตามใช้ละเว้นสิ่งที่ห้าม คือหน้าที่ของผู้ศรัทธา
โอ้พระผู้เป็นเจ้า ถ้าหากว่ามีคุณความดี ขอมอบภาคผลบุลแด่บิดา มารดาและครูบาอาจารย์ทั้งที่มีชีวิตอยู่ และที่กลับสู่ความเมตาตาของพระองค์แล้ว และใคร่ขอให้ปวงบ่าวของพระองค์ ได้ทำตัวให้ใกล้ชิดกับพระองค์ ตามพระประสงค์ของพระองค์ และขอพระองค์ได้ทรงอภัยโทษให้ข้าพระองค์ด้วยเถิด อามีน ยาอัรฮะมัร รอฮิมีน

**เดือนร่อบีอุ้ลเอาวั้ลนี้ ทุกๆคนต่างก็มีการรำลึกนึกถึงท่านร่อซูลุ้ลลอห์(ซ.ล.)กันอย่างแพร่หลาย มีการอ่านชีวประวัติอันทรงคุณค่าของท่านร่อซูลุ้ลลอห์(ซ.ล.)กัน ทุกๆคนต่างก็มีความยินดีดีใจในท่านร่อซูลุ้ลลอห์(ซ.ล.)กันทั่วทุกสารทิศ แต่สิ่งที่สำคัญอีกประการที่เราท่านทั้งหลายไม่ควรมองข้ามกันไป ก็คือการรำลึกนึกถึงความตาย ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้เราท่านทั้งหลายไม่หลงระเริงกับโลกดุนยาใบนี้มากจนเกินไป ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้เราท่านทั้งหลายหวนกลับสู่ความถูกต้องจากพระผู้เป็นเจ้ามากยิ่งขึ้น เราท่านทั้งหลายต้องยอมรับอย่างนึงว่า ในปัจจุบันนี้สิ่งที่จะทำให้เราท่านทั้งหลายมีความเพลิดเพลินนั้น มีมากมายเหลือเกิน มากมายจนนับไม่ถ้วน มากมายจนนับไม่ไหว ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านั้น ทำให้เราท่านทั้งหลายยิ่งห่างไกลจากพระผู้เป็นเจ้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งต่างกับการรำลึกนึกถึงความตายอย่างสิ้นเชิง ซึ่งการรำลึกนึกถึงความตายจะทำให้เราท่านทั้งหลาย มีจิตใจที่ใกล้ชิดกับพระผู้เป็นเจ้ามากยิ่งขึ้น ใกล้ชิดกับความดีงามมากยิ่งขึ้น ใกล้ชิดกับความพึงพอพระทัยจากพระผู้เป็นเจ้ามากยิ่งขึ้น
**ทรัพย์สินเงินทอง ลูกหลานบริวาร ความชื่นชมยินดีจากเพื่อนพ้องรอบข้าง ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเราท่านทั้งหลายได้เลย มีแต่คุณความดีงามที่เราท่านทั้งหลายปฏิบัติกันไว้เท่านั้น ที่จะสามารถนำพาเราท่านทั้งหลายไปสู่ความสุขสบายอันนิรันด์ ที่จะสามารถนำพาเราท่านทั้งหลายไปสู่สรวงสวรรค์ของพระผู้เป็นเจ้าได้
**ความดีงามนั้นทำยากเนื่องจากอารมณ์นัฟซูส่วนนึงที่ไม่ค่อยอยากกระทำ และอีกส่วนก็มาจากซัยตอนมารร้ายที่คอยขัดขวางเอาไว้ แต่เมื่อเราท่านทั้งหลายทำคุณความดีกันให้เป็นประจำ เมื่อนั้นแหละการทำคุณความดีต่อพระผู้เป็นเจ้าก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายดายต่อเราท่านทั้งหลายเอง
**ได้มีระบุไว้ในซอเฮี๊ยะห์บุคอรีว่า
حَدَّثَنِي عَبْدُ اللَّهِ بْنُ مُحَمَّدٍ، حَدَّثَنَا عَبْدُ المَلِكِ بْنُ عَمْرٍو، حَدَّثَنَا زُهَيْرُ بْنُ مُحَمَّدٍ، عَنْ مُحَمَّدِ بْنِ عَمْرِو بْنِ حَلْحَلَةَ، عَنْ عَطَاءِ بْنِ يَسَارٍ، عَنْ أَبِي سَعِيدٍ الخُدْرِيِّ، وَعَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ: عَنِ النَّبِيِّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ: مَا يُصِيبُ المُسْلِمَ، مِنْ نَصَبٍ وَلاَ وَصَبٍ، وَلاَ هَمٍّ وَلاَ حُزْنٍ وَلاَ أَذًى وَلاَ غَمٍّ، حَتَّى الشَّوْكَةِ يُشَاكُهَا، إِلَّا كَفَّرَ اللَّهُ بِهَا مِنْ خَطَايَاهُ
**จากท่านอะบีฮุรอยเราะห์(ร.ด.) จากท่านนบี(ซ.ล.) ท่านร่อซูลุ้ลลอห์(ซ.ล.)กล่าวว่า ไม่มีสิ่งใดที่ประสบกับมุสลิม ด้วยความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า โรคประจำตัว ความวิตกกังวล ความโศกเศร้า ภยันอันตรายและความมัวหมองต่างๆ แม้กระทั่งว่าหนามที่ตำ นอกจากพระองค์อัลเลาะฮ์(ซ.บ.) ทรงให้เป็นเครื่องลบล้างความผิดของเขา รายงานโดยบุคอรี
**ทุกๆวันขอให้เราท่านทั้งหลายกล่าวว่า ลาอิลาฮะอิ้ลลั้ลลอฮ์ กันให้เป็นประจำ อย่าให้การกล่าวว่าลาอิลาฮะอิ้ลลั้ลลอฮ์ มีเฉพาะกับคนที่รู้สึกว่าตัวเองใกล้จะสิ้นชีวิตแล้วเท่านั้น เพราะคำๆนี้เป็นคำที่มีศิริมงคลมาก ขนาดที่ว่าสมมุติว่ากระทำไม่ดีมาทั้งชีวิต แต่มีคำๆนี้เป็นคำสุดท้ายของชีวิต ท้ายที่สุดในโลกหน้าอาคิเราะห์ แม้ต้องโดนลงโทษในสิ่งที่ตัวเองได้เคยกระทำไว้ อย่างไรๆก็ต้องได้เข้าสรวงสวรรค์ของพระผู้เป็นเจ้าอย่างแน่นอน ก็เพราะว่าเขามีศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้า
**เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป สมัยก่อน เด็กติดพ่อติดแม่ โตขึ้นมาหน่อยติดเพื่อน พอมีครอบครัวก็ติดลูก แต่พอเมื่อสมัยได้เปลี่ยนไป สมัยนี้เด็กติดพ่อติดแม่และก็ติดแท็ปเล็ต โตขึ้นมาหน่อยติดเพื่อนและก็ติดสังคมออนไล ติดโทรศัพท์ พอมีครอบครัวก็ติดลูกและก็ติดโทรศัพท์(เรียกว่าถ้าว่างเมื่อไหร่ เป็นต้องหยิบโทรศัพท์ ดังนั้นถ้าอดที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูไม่ได้จริงๆ ขอให้ดูในสิ่งที่เป็นคุณความดีที่พระผู้เป็นเจ้าพึงพอพระทัยเท่านั้น
***พระผู้เป็นเจ้าทรงตรัสว่า
فَمَنْ يَعْمَلْ مِثْقَالَ ذَرَّةٍ خَيْرًايَرَهُ
وَمَنْ يَعْمَلْ مِثْقَالَ ذَرَّةٍ شَرًّايَرَهُ
“ดังนั้นผู้ใดกระทำความดีหนักเท่าผงธุลีเขาก็จะได้เห็นมัน
ส่วนผู้ใดกระทำความชั่วหนักเท่าผงธุลีเขาก็จะได้เห็นมัน”อัลซิลซาลอายะห์ที่7-8
**จงนึกถึงความตายให้เป็นประจำ แล้วเราท่านทั้งหลายจะสละสิ่งไร้สาระได้มากขึ้น แล้วเราท่านทั้งหลายจะทำคุณความดีต่อพระผู้เป็นเจ้าได้ง่ายขึ้นและมากยิ่งขึ้น อิงซาอัลลอฮ์
**อย่าลืมนะครับคำง่ายๆ แต่ผมเชื่อเหลือเกินว่ามีน้อยคนมากที่ได้กล่าวอย่างเป็นประจำ ลาอิลาฮะอิ้ลลั้ลลอฮ์(ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ถูกกราบไหว้โดยเที่ยงแท้นอกจากพระองค์อัลลอฮ์(ซ.บ.))
**วิเคราะห์ตามหลักดาราศาสตร์อิสลาม
ดังนั้นวันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558 ตรงกับวันที่ 29 ร่อบีอุ้ลเอาวั้ล ฮ.ศ.1436 (ทางสำนักจุฬาราชมนตรีกำหนดให้วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2557เป็นวันที่ 1 ร่อบีอุ้ลเอาวั้ล ฮ.ศ.1436 ดังนั้นวันอังคารที่ 20มกราคม พ.ศ. 2558 ตรงกับวันที่ 29 ร่อบีอุ้ลเอาวั้ล ฮ.ศ.1436 ต้องมีการดูจันทร์เสี้ยวเพื่อกำหนดวันที่ 1 ร่อบีอุซซานี ฮ.ศ.1436)
**สำหรับประเทศไทย
จันทร์ดับ ตรงกับวันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 20.13.44 วินาที ตามเวลาประเทศไทย ดังนั้นหลังเข้าเวลาละหมาดมัฆริบของวันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558 ต้องมีการดูจันทร์เสี้ยวเพื่อกำหนดวันที่ 1 ร่อบีอุซซานี ฮ.ศ.1436 (ทางสำนักจุฬาราชมนตรีกำหนดให้วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2557เป็นวันที่ 1 ร่อบีอุ้ลเอาวั้ล ฮ.ศ.1436)
เกล็ดเล็กเกร็ดน้อย ควรจะใช้คำว่าดูดวงจันทร์เสี้ยวหรือดูจันทร์เสี้ยว แทนจากคำว่าดูดวงจันทร์เพราะตามฮาดิษใช้คำว่าฮิลาล แปลว่าดวงจันทร์เสี้ยวหรือจันทร์เสี้ยว โดยที่ในฮาดิษไม่ได้ใช้คำว่าก่อมัรซึ่งแปลว่าดวงจันทร์ เพราะด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี หลังเข้าเวลาละหมาดมัฆริบ อาจจะสามารถใช้กล้องเห็นดวงจันทร์ได้ แต่เห็นเป็นดวงจันทร์ดำๆกลมๆมืดสนิท ไม่มีเสี้ยวขาวๆเลยแม้แต่น้อย การเห็นลักษณะแบบนี้ ตามหลักการของศาสนาอิสลาม ไม่สามารถนำมารายงานว่าเห็นจันทร์เสี้ยวได้ เพราะไม่มีการเห็นเสี้ยวของดวงจันทร์แต่อย่างใด การเห็นลักษณะแบบนี้ ตามหลักการของศาสนาอิสลามแล้ว ไม่สามารถนำมาเริ่มต้นเป็นวันที่1ของเดือนอิสลามได้ เพราะท่านร่อซูลุ้ลลอห์(ซ.ล.)ได้กล่าวว่า“ท่านทั้งหลาย จงถือศีลอดเพราะเห็นดวงจันทร์เสี้ยว และจงละศีลอดเมื่อเห็นดวงจันทร์เสี้ยว เลิกถือศีลอด ถ้าหากมีเมฆเกิดขึ้นเหนือพวกท่าน (มีเมฆมาปกคลุมทำให้ไม่เห็นดวงจันทร์เสี้ยว) ก็ให้พวกท่านปล่อยเดือนซะบานให้ครบสามสิบวันเถิด (นับเดือนซะบานให้ครบสามสิบวัน”) รายงานโดย บุคอรี และมุสลิม
**วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558 ดวงจันทร์ในวันนี้อยู่ห่างจากโลกประมาณ 360950.29 กิโลเมตรคำนวณจากมหานครมักกะห์ ถ้ากรุงเทพฯเรา ก็จะอยู่ประมาณ 361320.60 กิโลเมตร
**วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558
1.กทม.ดวงอาทิตย์ตก 18.12.37วินาที ดวงจันทร์ตก 18.03.43วินาที ดวงจันทร์ตกก่อนดวงอาทิตย์ 8นาที 54วินาที ไม่สามารถเห็นจันทร์เสี้ยวได้ ถ้าใครอ้างว่าเห็นจันทร์เสี้ยว แสดงว่าสิ่งนั้นไม่ใช่จันทร์เสี้ยวอย่างแน่นอน
2.ชลบุรี (มีสถานที่แห่งหนึ่งชายฝั่งทะเลซึ่งมีคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ได้ร่วมสังเกตุดวงจันทร์เสี้ยวด้วย) ดวงอาทิตย์ตก 18.11.49 วินาที ดวงจันทร์ตก 18.02.34 วินาที ดวงจันทร์ตกก่อนดวงอาทิตย์ 9นาที 15วินาที ไม่สามารถเห็นจันทร์เสี้ยวได้ ถ้าใครอ้างว่าเห็นจันทร์เสี้ยว แสดงว่าสิ่งนั้นไม่ใช่จันทร์เสี้ยวอย่างแน่นอน
3.ยะลา อ.เบตง ดวงอาทิตย์ตก 18.22.01 วินาที ดวงจันทร์ตก 18.10.39 วินาที ดวงจันทร์ตกก่อนดวงอาทิตย์ 11นาที 22วินาที ไม่สามารถเห็นจันทร์เสี้ยวได้ ถ้าใครอ้างว่าเห็นจันทร์เสี้ยว แสดงว่าสิ่งนั้นไม่ใช่จันทร์เสี้ยวอย่างแน่นอน
- ยะลาอ.ยะหา ดวงอาทิตย์ตก 18.20.48 วินาที ดวงจันทร์ตก 18.09.35 วินาที ดวงจันทร์ตกก่อนดวงอาทิตย์ 11นาที 13วินาที ไม่สามารถเห็นจันทร์เสี้ยวได้ ถ้าใครอ้างว่าเห็นจันทร์เสี้ยว แสดงว่าสิ่งนั้นไม่ใช่จันทร์เสี้ยวอย่างแน่นอน
4.หาดใหญ่ ดวงอาทิตย์ตก 18.22.41 วินาที ดวงจันทร์ตก 18.11.45 วินาที ดวงจันทร์ตกก่อนดวงอาทิตย์ 10นาที 56วินาที ไม่สามารถเห็นจันทร์เสี้ยวได้ ถ้าใครอ้างว่าเห็นจันทร์เสี้ยว แสดงว่าสิ่งนั้นไม่ใช่จันทร์เสี้ยวอย่างแน่นอน
5.กาญจนบุรี ดวงอาทิตย์ตก 18.15.28 วินาที ดวงจันทร์ตก 18.06.46 วินาที ดวงจันทร์ตกก่อนดวงอาทิตย์ 8นาที 42วินาที ไม่สามารถเห็นจันทร์เสี้ยวได้ ถ้าใครอ้างว่าเห็นจันทร์เสี้ยว แสดงว่าสิ่งนั้นไม่ใช่จันทร์เสี้ยวอย่างแน่นอน
6.ปัตตานี ดวงอาทิตย์ตก 18.20.32 วินาที ดวงจันทร์ตก 18.09.25 วินาที ดวงจันทร์ตกก่อนดวงอาทิตย์ 11นาที 6วินาที ไม่สามารถเห็นจันทร์เสี้ยวได้ ถ้าใครอ้างว่าเห็นจันทร์เสี้ยว แสดงว่าสิ่งนั้นไม่ใช่จันทร์เสี้ยวอย่างแน่นอน
7.อุบลราชธานี ดวงอาทิตย์ตก 17.53.52 วินาที ดวงจันทร์ตก 17.44.46 วินาที ดวงจันทร์ตกก่อนดวงอาทิตย์ 9นาที 6วินาที ไม่สามารถเห็นจันทร์เสี้ยวได้ ถ้าใครอ้างว่าเห็นจันทร์เสี้ยว แสดงว่าสิ่งนั้นไม่ใช่จันทร์เสี้ยวอย่างแน่นอน
8.นนทบุรี ดวงอาทิตย์ตก 18.12.41 วินาที ดวงจันทร์ตก 18.03.50 วินาที ดวงจันทร์ตกก่อนดวงอาทิตย์ 8นาที 51วินาที ไม่สามารถเห็นจันทร์เสี้ยวได้ ถ้าใครอ้างว่าเห็นจันทร์เสี้ยว แสดงว่าสิ่งนั้นไม่ใช่จันทร์เสี้ยวอย่างแน่นอน
**ผลในการคำนวนทางดาราศาสตร์อิสลาม
วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558 หลังเข้าเวลามัฆริบทั่วทั้งประเทศไทย ต้องมีการดูจันทร์เสี้ยว แหละทั่วทั้งประเทศไทยไม่สามารถเห็นจันทร์เสี้ยวได้เลย ถ้าใครอ้างว่าเห็นจันทร์เสี้ยวแสดงว่าสิ่งนั้นไม่ใช่จันทร์เสี้ยวอย่างแน่นอน
**ดังนั้นผลในการคำนวณทางดาราศาสตร์อิสลาม วันที่ 1 ร่อบีอุซซานี ฮ.ศ.1436)
ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2558 ทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้นั้น เป็นผลสรุปจากการคำนวนทางดาราศาสตร์อิสลามเท่านั้น
**แต่ทว่าในทางการปฏิบัติจริงๆนั้น ให้พี่น้องต้องรับฟังการประกาศทางสำนักจุฬาราชมนตรีเท่านั้น เพราะเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบ
**ก็คนทุกคนต่างมีหน้าที่ แหละความรับผิดชอบที่แตกต่างกัน เราในฐานะผู้ตามต้องตามผู้นำ ผู้รายงานการดูจันทร์เสี้ยวต้องพูดในสิ่งที่เห็นจริง ส่วนผู้นำก็ต้องมีผู้เชี่ยวชาญทางดาราศาสตร์อิสลาม คอยตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมาด้วย(สมมุติว่าณบริเวณนั้น มีผู้ที่ดูดวงจันทร์เสี้ยวเป็นร้อยหรือเป็นพันคน ทำไมจึงเห็นดวงจันทร์เสี้ยวแค่คนคนเดียวหรือเห็นดวงจันทร์เสี้ยวแค่สองสามคน แล้วคนที่เห็นหรือกลุ่มคนที่เห็นดวงจันทร์เสี้ยวนั้น มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับดวงจันทร์มากน้อยเพียงใด ซึ่งบางทีสิ่งที่เขาเห็นแล้วคิดว่าเป็นดวงจันทร์เสี้ยว ความเป็นจริงอาจไม่ใช่ดวงจันทร์เสี้ยวก็เป็นได้)แหละทำตามคำสั่งใช้อย่างแท้จริง ที่มาจากพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น แล้วความถูกต้องจริงๆที่มาจากพระผู้เป็นเจ้า จะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน เพราะเราท่านทั้งหลายต้องไม่ลืมอย่างนึงว่า สิ่งต่างๆเหล่านี้จะนำมาซึ่งผลบุล หรืออาจจะนำมาซึ่งผลบาป ก็เป็นได้ในโลกหน้าอาคิเราะห์
***พระผู้เป็นเจ้าทรงตรัสว่า
فَاسْتَقِمْ كَمَا اُمِرْتَ وَمَنْ تَابَ مَعَكَ وَلاَ تَطْغَوْا اِنَّهُ بِمَا تَعْمَلُوْنَ بَصِيْرٌ
ดังนั้นท่าน(มุฮัมมัด)จงดำรงมั่น(ทำตาม) เหมือนเช่นที่ท่านได้ถูกบัญชามา และ(เหมือนเช่นที่ท่านได้ถูกบัญชามา)ผู้ที่หวนกลับ(จากการตั้งภาคี การเนรคุณ สู่สัจธรรมพร้อมกับท่าน) และท่านทั้งหลายอย่าละเมิด(บทบัญญัติด้วยการเข้าไปทำความผิดที่พระผู้เป็นเจ้าได้ห้ามไว้)เพราะแท้จริงพระองค์ทรงมองเห็นยิ่ง ในสิ่งที่พวกท่านกระทำ
ซูเราะห์ฮูด อายะห์ที่112
**เล่าจากอะบียะอ์ลา มะอ์กิ้ลบุตรยะซาร(ร.ด.)ว่า ฉันได้ยินร่อซูลุ้ลลอห์ว(ซ.ล)กล่าวว่า ไม่มีบ่าวคนใดที่อัลเลาะห์มอบหมายให้เขาเป็นผู้รับผิดชอบต่อประชาชน เขาเสียชีวิตไป ในวันที่เขาเสียชีวิต เขาทุจริตต่อประชาชนของเขานอกจากอัลเลาะห์จะห้ามเขาเข้าสวรรค์
รายงานโดย บุคอรี มุสลิม
วันนี้เราท่านทั้งหลายทำความดีเพื่อพระองค์แล้วหรือยัง และเราท่านทั้งหลายได้นำพาบุคคลรอบข้างของเราเข้าใกล้ชิดพระผู้เป็นเจ้าแล้วหรือยัง ละหมาดแล้วหรือยัง ทำอะม้าน อิบาดะห์ชนิดต่างๆเพื่อรับพระเมตตาจากพระผู้เป็นเจ้าแล้วหรือยัง
**วันนี้วันศุกร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ.2558 เวลาปฏิบัติศาสนกิจ(ซ่อลา ซำบะห์ยัง)
-สำหรับสำนักจุฬาราชมนตรี ซุบฮิเวลา 05.20.43วินาที ตะวันขึ้นเวลา 06.44.28วินาที ดุฮ์ริเวลา 12.26.22วินาที อัสริเวลา 15.42.55วินาที มักริบเวลา 18.08.23วินาที อีซาเวลา 19.23.26วินาที
-สำหรับกทม.ซุบฮิเวลา 05.22.25วินาที ตะวันขึ้นเวลา 06.46.08วินาที ดุฮ์ริเวลา 12:28.14วินาที อัสริเวลา 15:44.54 วินาที มักริบเวลา 18.10.26วินาที อีซาเวลา 19.25.28วินาที
-สำหรับมัสยิดฮารอม ซุบฮิเวลา 05.33.59วินาที ตะวันขึ้นเวลา 06.58.07วินาที ดุฮ์ริเวลา 12.30.18วินาที อัสริเวลา 1 15.38.13วินาที มักริบเวลา 18.02.38วินาที อีซาเวลา 19.17.49วินาที
-สำหรับมัสยี่ดินนะบะวี ซุบฮิเวลา 05.29.19วินาที ตะวันขึ้นเวลา 07.03.11วินาที ดุฮ์ริเวลา 12.31.09วินาที อัสริเวลา15.34.40 วินาที มักริบเวลา 17.59.18วินาที อีซาเวลา 19.14.58วินาที
**พี่น้องครับซากาตคือสิ่งจำเป็น สำหรับบุคคลที่ครบในเงื่อนไข และในส่วนของการทำบุญให้กับเด็กกำพร้านั้น ถือว่าเป็นภาคผลบุลและเป็นความดีงามที่ยิ่งใหญ่มาก ณฝ่ายของพระผู้เป็นเจ้า แม้กระทั่งการลูบศรีษะเด็กกำพร้า เพื่อแสดงถึงความรักความเอ็นดู เพื่อเติมเต็มในสิ่งที่ขาดหายไป ทุกๆเส้นผมที่มือลูบผ่านไปนั้นนั่นก็เป็นภาคผลบุลทั้งสิ้น ท่านรอซูลุ้ลลอห์(ซ.ล.)บุรุษที่ประเสริฐที่สุด ในบรรดามั๊คโลคสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาคนรักของพระผู้เป็นเจ้า ท่านก็เป็นเด็กกำพร้ามาก่อนเช่นเดียวกัน
***พระผู้เป็นเจ้าทรงตรัสว่า
فَمَنْ يَعْمَلْ مِثْقَالَ ذَرَّةٍ خَيْرًايَرَهُ
وَمَنْ يَعْمَلْ مِثْقَالَ ذَرَّةٍ شَرًّايَرَهُ
“ดังนั้นผู้ใดกระทำความดีหนักเท่าผงธุลีเขาก็จะได้เห็นมัน
ส่วนผู้ใดกระทำความชั่วหนักเท่าผงธุลีเขาก็จะได้เห็นมัน”อัลซิลซาลอายะห์ที่7-8
**รู้แล้วบอกต่อ ความดีงามจะหลั่งไหลสู่ตัวท่านและสังคมสืบต่อไป ทำตามใช้ละเว้นสิ่งที่ห้าม คือหน้าที่ของผู้ศรัทธา
โอ้พระผู้เป็นเจ้า ถ้าหากว่ามีคุณความดี ขอมอบภาคผลบุลแด่บิดา มารดาและครูบาอาจารย์ทั้งที่มีชีวิตอยู่ และที่กลับสู่ความเมตาตาของพระองค์แล้ว และใคร่ขอให้ปวงบ่าวของพระองค์ ได้ทำตัวให้ใกล้ชิดกับพระองค์ ตามพระประสงค์ของพระองค์ และขอพระองค์ได้ทรงอภัยโทษให้ข้าพระองค์ด้วยเถิด อามีน ยาอัรฮะมัร รอฮิมีน

