แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - GeT

หน้า: [1] 2 3 ... 31
1
ما الاسم الذي إذا عُرّف صار نكرة و إذا نكر صار معرفة؟

2
:salam: ต่อครับ
:salam:

      ขอเริ่มด้วย قاعدة ยอดฮิตที่เมื่อไหร่เราเรียนกีตาบที่มีคำว่า الحمد โต็ะครูต้องเอา قاعدة นี้มาให้ทุกที

     ان ال الجنسية اذادخلث على مفرد ابطلث منه معنى الافراد٠ اه

       อาลิฟลาม อัลญจินซียะห์นั้น เมื่อไหร่ที่เข้าไปบนอีเซ่มมุฟรัด ความหมายมุฟรัดนั้นก็จะเป็นโมฆะ

       ตัวอย่างเช่นอาลิฟลามที่มีอยู่ในคำว่า الحمد เดิมทีแล้ว الحمد เป็นอีเซ่มมุฟรัด (คำเอกพจน์) แต่ในเมื่ออาลิฟที่มีอยู่ในคำนี้คือ ال للجنس จึงถูกให้ความหมายว่า บรรดาการสรรเสริญ
       และบรรดาการสรรเสริญนั้นมีอยู่สี่ประเภท
 
       1.حمدقديم لقديم การสรรเสริญของอัลลอฮสำหรับพระองค์เอง เช่นคำตรัสของพระองค์ที่ว่า إنني أنا الله لا إله إلا أنا فاعبدني
       2.حمدقديم لحادث การสรรเสริญของอัลลอฮสำหรับบ่าวของพระองค์ เช่นคำตรัสของพระองค์ที่ว่า نعم العبد انه اواب
       3.حمدحادث لحادث การสรรเสริญของบ่าวอัลลอฮด้วยกันเอง เช่นการที่ท่านกล่าวชื่นชมถึงใครคนหนึ่งเป็นต้น
       4.حمدحادث لقديم การสรรเสริญของบ่าวสำหรับอัลลอฮ เช่นการที่เรากล่าวว่า الحمد لله

              والله اعلم اي والقريرالمذكورعندراءيي والله سبحانه وتعالى اعلم اي عالم بالصواب

         
       
 
     
لأنها تفيد الاستغراق

3
แสดงว่าชายโสดเป็นคนที่จิตใจโลเลที่สุด เลือกที่รักมากที่ชัง

4
อัสสลามุอลัยกุม
ขออนุญาติขุดนิดนึงครับ พอดียังไม่เคลียร์ ได้เข้าไปอ่านในเว็บไซต์ชื่อดัง(ดังมาก) www.m_____d.com
แล้วมาเจอฮะดิสดังกล่าวซึ่งเขาได้บอกหมายเลขไว้ด้วย อยากให้ผู้รู้ตรวจสอบฮะดิสหมายเลขนี้หน่อย
บุคอรีย์(12/41)และมุสลิม(9/140)

ส่วนฮะดิสที่บังอัล อัชอารีย์ บอกนั้นคือ  บุคอรี (2434) และมุสลิม (2433)
ผมจึงงงพอสมควรว่าทำไมเลขไม่ตรงกัน  หรือว่า 
ซอเฮี๊ยะบุคอรี ซอเฮี๊ยะมุสลิม ของเราและเขา ใช้คนละเล่มกัน
                                                                         วัสสลาม



เป็นการอ้างจากหนังสือ ฟัตหุลบารีย์ของอิบนุหะญัร และชัรหฺเศาะฮีหมุสลิมของอิหม่ามอันนะวะวีย์ ซึ่งเมื่อเราเปิดดูตามที่ได้ระบุไว้ เราก็จะพบตัวบทหะดีษตามที่ท่านอัลอัซฮารีได้นำเสนอไว้ ไม่มีตัวบทหะดีษใดที่ส่อเค้าหรือมีสำนวนที่ใกล้เคียงกับความหมายภาษาไทยตามที่ อ.มุรีดได้แปลไว้ วัลลอฮุอะฮลัม

5
หากว่าวันอีด (อีดิลฟิฏรีหรืออีดิลอัฎฮา) ตรงกับวันศุกร์ เราจะละหมาดญุมอะฮฺอีกหรือไม่ ??  โดย เชค อะลีย์ ญุมอะฮฺ  มุฟตีย์ใหญ่แห่งอียิปต์

ตอบ

   ปัญหานี้มีคำกล่าวมากมายจากทัศนะของปราชญ์นิติศาตร์อิสลาม และสุนนะฮฺของท่านรสูล (ซ.ล.) นั้นหากว่าคนใดคนหนึ่งได้ละหมาดอีด (อีดิลฟิฏรีหรืออีดิลอัฎฮา) ไปแล้ว ก็ไม่จำเป็นบนเขาจะละหมาดวันศุกร์อีก แต่ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีและได้รับผลบุญ หากว่าเขาได้ละหมาดวันอีดด้วยและละหมาดญุมอะฮฺด้วย


ดู ตำรา الدين والحياة الفتاوى العصرية اليومية โดย เชค อะลีย์ ญุมอะฮฺ มุฟตีใหญ่แห่งอียิปต์ ในหมวดที่ว่าด้วยเรื่อง การละหมาดและสิ่งที่เกี่ยวข้องกัน หน้าที่ 30



ฟัตวาชุดนี้ค้านกับทัศนะของมัซฮับชาฟิอีย์นะครับคุณมุฟตี

6


บทสรุปจากการวิเคราะห์บอกว่า "หะดีษที่กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฎออีฟ ญิดดัน(หลักฐานอ่อนแอมากๆๆๆๆ) ใช้เป็นหลักฐานไม่ได้เลยสักบทเดียว" .. ไม่ถือว่า หนักไปหน่อยหรือ ??

ในตอนแรกอุตส่าบอกอย่างดีว่า ตามทัศนะของมัซฮับหะนะฟีย์ ,ชาฟิอีย์ ,หัมบะลีย์ และท่านหะซัน อัล-บัศรีย์ ถือว่า การอาซานที่หูทารกนั้นเป็นสุนัต .. ซึ่งแน่นอนว่านี่เป็นทัศนะของญุมฮูรอุละมาอฺ(ปวงปราชญ์ส่วนใหญ่แห่งอิสลาม)  แต่ทำไมพอมาตอนสรุปตอนท้าย กลับยกแค่ทัศนะของท่านอิมามมาลิก ที่สอดคล้องกับบทวิเคราะห์ตามแนวทางของตนเองมาปิดท้าย .. ทั้งๆ ที่ปราชญ์ส่วนใหญ่ในโลกอิสลาม มีความเห็นว่า เป็นสุนัต .. !!
  party: party:

ถ้าเห็นว่าการวิเคราะห์สายรายงานของเขาไม่ถูกต้อง หรือเราพบหะดีษที่มีน้ำหนักสามารถใช้เป็นหลักฐานได้ เราก็นำเสนอเพื่อหักล้างบทวิเคราะห์ของเขา ก็จบ

8
ตอนนี้รู้ที่มหาวิทยาลัยกาตาร์เขาบูมนะ ปีเดียวจบ เรียนฟรี อยู่กิน ฟรี ส่วนวิธีการสมัครนั้นลองสอบถามดูเอาเองก็แล้วกัน

9
คำที่ถูกต้องคือ บัรซันญี ส่วนคำว่า ซางี ในภาษามลายูถิ่นนั้นเป็นคำเพี้ยนจากบัรซันญีอีกที - วัสสลาม

บัรซัลญี >>>แม่กน ^^

บัรซัลญี : มีหิมะ

11
ไม่น่าจะสอดคล้องกับเป้าหมายหรือความหมายที่แท้จริงของหะดีษ ทั้งหัวข้อ คำแปล และบทเรียนจากหะดีษ
เสนอให้ทบทวนหนังสือชัรหฺเศาะฮีหฺมุสลิมของอิหม่ามอันนะวะวีย์ ว่าท่านได้อธิบายความหมายของหะดีษนี้ว่าอย่างไร
วัลลอฮุอะอฺลัม

12
แท้จริงเราเป็นสิทธิ์ของ Allah ดังนั้น เราจะเป็นไปอย่างไรในอนาคต เราไม่รู้หรอก แต่ Allah เท่านั้นที่รู้ ฉะนั้น สิ่งที่เขาทัก จะดีหรือไม่ดี ไม่ได้มาจากที่เขาว่า หากแต่ทั้งหมด เป็นสิ่งที่ Allah ได้วางไว้ให้กับบ่าวของพระองค์ต้องประสบเจอ เพื่อเป็นการทดสอบความอีหม่านในหัวใจของบ่าวของพระองค์ ว่าจะมีมากน้อยเพียงได สิ่งที่สำคัญในเรื่องที่เราไม่รู้ ให้เราผูกหัวใจกับ Allah เท่านั้น แนะนำตามแต่สามารถ
Wallahualam

โห ประเทศปัตตานี แล้ว จขกท เป็นอะไรดีละ นายก หรือว่าประธานาธิบดี หรือว่ากษัตริย์แห่งรัฐปัตตานี

14

ศึกษาเพิ่มเติม : http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php/topic,10533.msg110083/topicseen.html#new

แต่อิหม่ามอันนะวาวีย์ (ร.ฎ.) กล่าวว่า : หะดีษที่ว่าไม่เสียน้ำละหมาดเนื่องจากรับประทานสิ่งที่ไฟสัมผัสนั้นเป็นหะดี ษที่มีนัยกว้าง (อามฺ) และหะดีษที่ว่าต้องอาบน้ำละหมาด เนื่องจากการรับประทานเนื้ออูฐนั้นเป็นหะดีษที่มีนัยยะจำกัดความ (ค๊อซฺ) และสิ่งที่มีนัยยะจำกัดความย่อมถูกนำมาก่อนสิ่งที่มีนัยกว้าง (الخاصُّ مُقَدَّمٌ على العَامِّ) และการกล่าวอ้างว่ามีการยกเลิก (นัซฺค์) นั้นไม่มั่นคงแน่นอน ทั้งนี้เพราะจำกัดความ (ตัคฺซีซฺ) ย่อมดีกว่าเนื่องจากมีหะดีษถึง 3 บทในเรื่องนี้ และมัซฮับที่กล่าวว่าเสียน้ำละหมาดเนื่องจากรับประทานเนื้ออูฐ คือมัซฮับฮะนาบิละฮฺนั้นมีความแข็งแรงกว่าทางด้านหลักฐาน ถึงแม้ว่าปวงปราชญ์จะมีความเห็นต่างจากสิ่งนั้นก็ตาม (เก็บความจากอะฮฺกาม อัฏฏ่อฮาเราะฮฺ อะลัล มะซาฮิบ อัลอัรบะอะฮฺ ; ดร.อบูซะรีอฺ มุฮำหมัด อับดุลฮาดีย์ หน้าที่ 154-155)
------------------------------------------

อิหม่าม อันนะวะวีย์กล่าวว่า
وَمَذْهَبُنَا أَنَّهُ لَا ينتقض الوضوء بشئ مِنْ الْمَأْكُولَاتِ سَوَاءٌ مَا مَسَّتْهُ النَّارُ وَغَيْرُهُ غَيْرَ لَحْمِ الْجَزُورِ وَفِي لَحْمِ الْجَزُورِ بِفَتْحِ الْجِيمِ وَهُوَ لَحْمُ الْإِبِلِ قَوْلَانِ الْجَدِيدُ الْمَشْهُورُ لَا يَنْتَقِضُ وَهُوَ الصَّحِيحُ عِنْدَ الْأَصْحَابِ وَالْقَدِيمُ أَنَّهُ يَنْتَقِضُ وَهُوَ ضَعِيفٌ عِنْدَ الْأَصْحَابِ وَلَكِنَّهُ هُوَ الْقَوِيُّ أَوْ الصَّحِيحُ مِنْ حَيْثُ الدَّلِيلُ وَهُوَ الَّذِي أَعْتَقِدُ رُجْحَانَهُ وَقَدْ أَشَارَ الْبَيْهَقِيُّ إلى ترجيحه واختياره والذب عنه

* وَاحْتَجَّ أَصْحَابُنَا بِأَشْيَاءَ ضَعِيفَةٍ فِي مُقَابَلَةِ هَذَيْنِ الْحَدِيثَيْنِ فَتَرَكْتُهَا لِضَعْفِهَا وَالْمُعْتَمَدُ لِلْمَذْهَبِ حَدِيثُ جَابِرٍ المذكور كان آخر الأمرين ولكن لايرد علهيم لِأَنَّهُمْ يَقُولُونَ يَنْتَقِضُ بِأَكْلِهِ نِيئًا وَأَصْحَابُنَا يَقُولُونَ هو محمول علي أَكْلُهُ مَطْبُوخًا لِأَنَّهُ الْغَالِبُ الْمَعْهُودُ: وَأَجَابَ الْأَصْحَابُ عَنْ حَدِيثِ جَابِرِ بْنِ سَمُرَةَ وَالْبَرَاءِ بِجَوَابَيْنِ أَحَدُهُمَا أَنَّ النَّسْخَ بِحَدِيثِ جَابِرٍ كَانَ آخِرَ الْأَمْرَيْنِ وَالثَّانِي حَمْلُ الْوُضُوءِ عَلَى غَسْلِ الْيَدِ وَالْمَضْمَضَةِ قَالُوا وَخُصَّتْ الْإِبِلُ بِذَلِكَ لِزِيَادَةِ سَهُوكَةِ لَحْمِهَا وَقَدْ نَهَى أَنْ يَبِيتَ وَفِي يَدِهِ أَوْ فَمِهِ دَسَمٌ خَوْفًا مِنْ عَقْرَبٍ وَنَحْوِهَا وَهَذَانِ الْجَوَابَانِ اللَّذَانِ أَجَابَ بِهِمَا أَصْحَابُنَا ضَعِيفَانِ أَمَّا حَمْلُ الْوُضُوءِ عَلَى اللُّغَوِيِّ فَضَعِيفٌ لِأَنَّ الْحَمْلَ عَلَى الْوُضُوءِ الشَّرْعِيِّ مُقَدَّمٌ عَلَى اللُّغَوِيِّ كَمَا هُوَ مَعْرُوفٌ فِي كُتُبِ الْأُصُولِ وَأَمَّا النَّسْخُ فَضَعِيفٌ أَوْ بَاطِلٌ لِأَنَّ حَدِيثَ تَرْكِ الوضوء ممامست النَّارُ عَامٌّ وَحَدِيثَ الْوُضُوءِ مِنْ لَحْمِ الْإِبِلِ خَاصٌّ وَالْخَاصُّ يُقَدَّمُ عَلَى الْعَامِّ سَوَاءٌ وَقَعَ قَبْلَهُ أَوْ بَعْدَهُ

15
ต้องของมาอัฟบังด้วยครับพอดีว่ากระผมอยู่ในช่วงสอบไม่ค่อยได้แวะมาดู
ผมขอตอบว่าละหมาดตามดวงอาทิตย์ครับเพราะเรื่องละหมาดศาสนาได้วางดวงอาทิตย์เป็นตัวกำหนดเวลาละหมาด
ในกรณีละหมาดมัฆริบไม่ว่ามันจะตกตกไว ตกไวก็ละหมาดมัฆริบไว ตกช้าก็ล้าเวลาไป
พอหมดแสงของดวงอาทิตย์อย่างหมดจดก็ทำละหมาดอีชาไป
ผิดถูกอย่างไรต้องวอนให้ผู้รู้แก้ไขต่อด้วยครับ

แล้วถ้าดวงอาทิตย์ไม่ขึ้นและไม่ตกเลยละ แสดงว่าไม่ต้องละหมาดใช่ไหม

หน้า: [1] 2 3 ... 31