เคยตั้งคำถาม ถามตัวเองว่า
1. ใครคือผู้คิดริเริ่มวิธีการจัดการศพของแต่ละศาสนา
อิสลาม --- ฝัง (พื้นที่นำกลับมาใช้ได้ใหม่ -- ฝังซ้ำได้)
คริสต์ --- ฝัง (ต่างจากอิสลาม?)
พุทธ --- เผา
พราหมณ์ ฮินดู ---

2) ทำไมอิสลาม จึงจัดการกับศพ ด้วยวิธีการ "ฝัง"
ได้คำตอบจากการคิดเล่นๆ ว่า...
อัลลอฮุอักบักร!!!อัลลอฮฺทรงสร้างทุกอย่างเป็นระบบและสมดุลยิ่ง
จาก...ดิน สู่...ดิน
ธาตุคาร์บอน เป็นองค์ประกอบ พบในร่างกายของมนุษย์ ในสิ่งแวดล้อม ในดิน ในอาหารที่เรากินเข้าสู่ร่างกาย
เกิดการหมุนเวียน เป็น "วัฏจักรคาร์บอน"
อิสลามเป็นศาสนาเดียวเท่านั้น ที่อนุรักษ์และสร้างสมดุลต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ตั้งแต่ ศพแรก ของโลกดุนยา ตราบจนวันกิยามะฮฺ
ฝังแล้ว สามารถ ฝังซ้ำ ได้อีก (ใช้พื้นที่ดินอย่างคุ้มค่า - ใช้ซ้ำได้)
เอ...การฝังของชาวคริสต์ / ชาวจีน--- ฝังซ้ำได้ไหม??
ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่า วันหนึ่ง จะเกิด ภาวะโลกร้อน
ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่า การเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์จะปล่อยสารพิษสู่สิ่งแวดล้อม (อากาศ) เช่น ไดออกซิน PCB เกิดเป็นมลพิษทางอากาศ
แล้วก็ได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า ทั้งมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม
---------------------
ในบรรยากาศมี ก๊าซออกซิเจน ประมาณ 21%, ไนโตรเจน 78%, อีกประมาณ 1% เป็นก๊าซชนิดอื่นๆ
ถ้ามี ออกซิเจน ในปริมาณที่ สูง หรือ ต่ำ กว่านี้ จะเกิดอะไรขึ้น กับโลกใบนี้
เมื่อ องค์ประกอบของการเกิดไฟ (ลุกไหม้) มี 3 อย่าง
1) ออกซิเจน (Oxygen) หรือ อากาศ ไม่ต่ำกว่า 16%
2) เชื้อเพลิง (Fuel) --- ในดุนยามีอยู่มากมาย
3) ความร้อน (Heat) เพียงพอทำให้เกิดการลุกไหม้
เมื่อครบองค์ประกอบ 3 อย่างพอเหมาะพอดี ไฟจะติดและลุกไหม้
---------------------
เพื่อนชาวพุทธ บอกว่า เวลาที่ฝนตกลงมา
เธอรู้สึกว่าพืชพรรณนานาชนิด แม้แต่หญ้าในสนามหญ้า รู้สึกกระปี้กระเปร่า เขียวขจี สดชื่น
เหมือนฟื้นคืนชีพ จากความเหี่ยวเฉา มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันทีทันใด
ต่างจาก เวลาที่เรารดน้ำ ใส่ปุ๋ย พรวนดิน กว่าจะฟื้นขึ้นมา สดใส ก็ใช้เวลาอยู่พักใหญ่
อยากบอกเธอดังๆ จะแปลกอะไร
ในเมื่อผู้สร้างเธอและฉันนั้น ทรงยิ่งใหญ่ และรอบรู้ยิ่งเหนือสิิ่งใด ไม่มีสิ่งใดเทียบเทียมพระองค์ได้
ฟ้าร้อง ฟ้าแลบ ฝนตก ...ฮ่า ๆ ๆ
ไนโตรเจน (ในวัฏจักรไนโตรเจน) ถูกเปลี่ยนรูป กลายเป็น สารอาหารสำเร็จรูป ที่พืชสามารถนำไปใช้ได้โดยตรง รวดเร็ว
พืชพรรณเหล่านั้น จึงดูสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ทันทีทันใด
ซุบฮานัลลอฮฺ