แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - abubak

หน้า: [1] 2 3 ... 6
1
กล้องเริ่มมีใช้ในปี ค.ศ 1826 น่ะครับ


รู้ได้ไงว่ากล้องเรมใช้ใน1826คศ...ขอหลักฐานอ้างอิงด้วยซิครับ... mycry

2
ผมมาจาก  เวป  มุรีดคับ  เพราะโดนเขาไล่มา  หุๆๆ  สาเหตุหรือ..  ไม่บอก ...ไปค้นหาเอาเองค้าบ....

3
เห็นด้วยกับกะ... al-firdaus นะคับ...นับวันกะคนนี้นอกจากจะเก่งพูดแล้วยังเก่งในการตอบปัญหาด้วยนะ....อิๆๆๆ

4


เกี่ยวกับการร้องเพลงนั้นเป็นทัศนะที่มองต่างมุมระหว่าผู้รู้  แต่

ถ้าเราจะมองอะไรให้ลึกลงไปในเรื่องนี้ เราจะพบว่าความชอบที่จะร้องเพลงและเสียงดนตรีนั้นเป็นสัญชาติญาณของมนุษย์ เราสามารถกล่อมเด็กในเปลให้หลับโดยการร้องเพลง

แม่และพี่เลี้ยงเด็กมักจะชอบร้องเพลงให้ทารกและเด็กที่ตัวเองเลี้ยงดู ยิ่งไปกว่านั้น นกและสัตว์ก็ตอบสนองต่อเสียงที่ไพเราะและเสียงดนตรีที่เป็นจังหวะ


ดังนั้น ถ้าหากการร้องเป็นสัญชาติญาณของมนุษย์แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องที่อิสลามจะไปฝ่าฝืนสัญชาติญาณของมนุษย์ อิบนุตัยมียะฮ์กล่าวว่า “ท่านนบี  ได้ถูกส่งมาขัดเกลาและจัดระเบียบ

วินัยสัญชาติญาณของมนุษย์ ไม่ใช่มาเปลี่ยนหรือมาแก้ไขมัน” นี่ก็เป็นสิ่งที่สอดคล้องกับหะดีสของท่านนบี  ที่ว่า “เมื่อท่านรอซูลุลลอฮฺ  ได้มายังมะดีนะฮ์ ท่านได้เห็นพวกเขาเฉลิมฉลอง

กันเป็นเวลาสองวัน ท่านได้กล่าวถามว่า ‘วันอะไรกันซิ ?’ พวกเขาตอบว่า ‘เราเคยรื่นเริงกันในวันเหล่านี้ในระหว่างยุคก่อนหน้าอิสลาม ท่านได้กล่าวว่า ‘แท้จริง อัลลอฮฺได้ให้โอกาสท่าน

สองวันซึ่งดีกว่านั่นคือวันอีดุลอัฎฮาและวันอีดุลฟิฏร์” (รายงานโดยอะหมัด,อบูดาวูดและอันนะซาอี)


ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากการร้องเพลงถูกถือว่าเป็นการรื่นเริงและการละเล่น มันก็ไม่เป็นสิ่งต้องห้าม เพราะมันเป็นเรื่องปกติที่มนุษย์จำเป็นต้องมีเวลาบ้างสำหรับการผ่อนคลายและการรื่นเริง

ท่านนบี  ได้กล่าวแก่ฮันซาละฮ์ที่คิดว่าตัวเองเป็นพวกตลบตะแลงที่ห่วงดูแลภรรยาและลูกและทำให้เขาเปลี่ยนแปลงเมื่ออยู่ห่างจากท่านรอซูลุลลอฮฺ  ว่า “ ฮันซาละฮ์เอ๋ย ท่านควรจะให้

เวลาส่วนหนึ่งสำหรับเรื่องทางโลกและอีกส่วนหนึ่งสำหรับการนมาซ” (รายงานโดยมุสลิม)


อะลี อิบนุ อบูฏอลิบกล่าวว่า “จงทำให้ตัวท่านเองสนุกสนานรื่นเริงบ้างเป็นบางครั้งเพราะถ้าหากหัวใจตึงเครียดเกินไปมันจะบอดเอา”


อบูดัรดาได้กล่าวว่า “ฉันทำให้ตัวฉันเองสดชื่นเสมด้วยการสนุกสนานเพื่อที่จะทำให้ตัวฉันเองเข้มแข็งในหนทางที่ถูกต้อง”


อิมามเฆาะซาลีได้ตอบบางคนที่ถามท่านว่า : “การร้องเพลงมิใช่การละเล่นและการรื่นเริงชนิดหนึ่งหรือ ?” ท่านกล่าวว่า : “ใช่ แต่ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในชีวิตปัจจุบันนี้เป็นแค่เพียง

การละเล่นและการรื่นเริง ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างสามีและภรรยาของเขาก็เป็นการละเล่นยกเว้นการมีความสัมพันธ์ทางเพศที่เป็นสาเหตุโดยตรงของการก่อให้เกิดบุตร นี่เป็นสิ่งที่

ถูกรายงานมาจากรอซูลุลลอฮฺ  และสาวกอันทรงเกียรติของท่าน”

ดังนั้นการร้องเพลงแม้จะมีดนตรีปะปนบ้างเพื่อให้เข้ากับเนื้อหาหรือทำนองกับสิ่งที่ถ่ายทอดให้ผู้ฟังรับทราบเช่นประวัติศาสนาหรือศาสนทูตและบุคคลที่เกี่ยวกับศาสนาอิสลาม ก็ถือว่าเป็นที่อนุญาต [/u]

5
92."The best of all fasts after Ramadan is in the month that you call Muharram." [an-Nasa’i, Sahih]

(ในบรรดาเดือนทั้งหลายเดือนที่ประเสริฐที่สุดหลังจากเดือนรอมาดอนแล้ว ก็คือ เดือน มูฮารอม ( อันนาซาอีย์ กล่าวว่าซอฮิห์)



93. "The best of all worship is supplication." (Hakim, Sahih]

(สิ่งที่ประเสริฐหรือดีที่สุดของผู้ศรัทธาคือการนมัสการพร้อมการวิงวอน(อัลฮากิม กล่าวว่าซอฮิห์)



94. "The best deed is the prayer in its right time and Jihad in the path of Allah." [al-Bayhaqi, Sahih]

(การกระทำที่ดีที่สุดคือการละหมาดเมื่อรู้ว่าได้เวลาแล้วและ การต่อสุ้ในหนทางของอัลลอฮ์. (อัลบุคอรี ซอฮิห์)

95. "The best of the Qur’an is: 'Alhamdu lillahi Rabbil-‘Alamin". (อัลฮากิม กล่าวว่าซอฮิห์)


("ซุเราะที่ดีหรือที่ถูกกล่าวมากที่สุดของอัลกุรอานคือ: .....อัลฮัมดูลิ้ลลาฮีรอบบิ้นอาลามีน....(อัลฮากิม กล่าวว่าซอฮิห์)


ว่างๆจะมาแปลต่อให้หมดเลยครับ  อิๆๆๆ


6
 loveit:  อุ๊ย   คู่นี้เค้าหวานกันจัง แบบว่า มดยังวิ่งตามหาเลยเชียวละ  อิๆๆ  เกรงใจผมบ้างซิบัง  อัลฟาตอนี5555     yippy:

7
ในกรณีของหะดีษข้างต้นนี้   คำว่า  فَكَانُوْا يَسْتَحِبًّوْنَ أَنْ يُطْعِمُوْا عَنْهُمْ .. ที่เหมาะสมและถูกต้องที่สุดควรจะแปลว่า ..  “และบรรดาเศาะหาบะฮ์ ชอบที่จะให้มีการบริจาคอาหารแทนพวกเขา (ผู้ตาย)” ..ดังที่ผมได้แปลไปนั้น  ซึ่งความหมายนี้จะครอบคลุมและกว้างกว่าการแปลว่า ..  “เลี้ยงอาหาร” ..  ดังการแปลของท่านนักศึกษาฯ ในเว็บไซด์  ที่ดูจะเป็นการเจตนา  “ลาก”  เข้าหาเป้าหมายของตัวเองจนเกินไป โดยปราศจากหลักฐานใดๆมาจำกัดและชี้ชัดให้ ..   
เพราะการแปลว่า  “บริจาคอาหาร”  ดังที่ผมได้แปลไว้ ..   นอกจากจะตีความได้ว่า หมายถึงการ  “เลี้ยงอาหาร” ..   คือ เชิญผู้คนมากินเลี้ยงที่บ้านผู้ตาย .. ดังคำแปลของท่านแล้ว  ยังสามารถจะตีความหมายได้อีกว่า  ..  “ทายาทของผู้ตายได้นำอาหาร  เช่น อินทผาลัม,  ลูกเกด เป็นต้น  ไปบริจาคและแจกจ่ายแก่คนยากจนแทนผู้ตาย  โดยไม่ได้มีการชุมนุมกินเลี้ยงกันที่บ้านผู้ตายแต่อย่างใด”  ...  ซึ่งความหมายที่สองนี้  เมื่อพิจารณาอย่างละเอียดแล้ว ก็จะเห็นว่า เป็นความหมายที่สอดคล้องกับเป้าหมายของหะดีษบทนี้มากที่สุด .. ด้วยเหตุผลที่กำลังจะกล่าวถึงต่อไป ... 
คำว่า  “นำอาหารไปบริจาค”  กับคำว่า  “เลี้ยงอาหารที่บ้าน”  มี  “วิธีการ และหุก่ม”  ในส่วนที่เกี่ยวกับเรื่องการตาย  แตกต่างกัน, ..  ซึ่งหลายท่านอาจจะยังไม่ทราบหรือมองข้ามไปก็ได้ ...



ข้อความตรงนี้ และครับที่อ.ปราโมทย์เอาสติปัญญาของตนเองมาตัดสิน  โดยทำการแปลภาษาและความหมายกลับไปกลับมา จนอ่านแล้ววกวนจนงงนะครับ  สิ่งที่อ.ปราโมทย์วิจารณ์นั้นไม่มีหลักฐานความเข้าใจด้านปราชญ์ฮาดิสเลย   
โดยการพยายามเอาคำว่าบริจาคกับคำว่าเลี้ยงอาหาร มาฮุกมในเรื่องความหมาย  และยังบอกอีกว่าไม่ว่าใครจะนำอะไรไปให้ หรือ ช่วยเหลืออะไรบ้านผู้ตายล้วนแต่เป็นบาปและเป็นบิดอะฮารอมทั้งนั้น

โอ..โตะครูอย่างนี้ก็มีด้วย ....ฮุกมดักหน้าไว้ก่อนแล้วแบบว่าแย่งซีฟัตของพระองค์มาใช้ยังนั้นแหละ 
โชคดีนะครับ  นี้ถ้าวาฮาบีมีส่วนร่วมชี้ผิดชี้ถูกให้กับการงานของอัลลอฮ์แล้วเรา.....คงโดนหมดทั้ง4มัสหับและคับ      hehe

8
 salam..

ผมเห็นกระทู้ของนายmumin(น่าส่งสาร) ออกมากรีดกร้าดตีโพบตีพายแบบไร้สติ

เมื่อรู้ว่อ.ปราโมทย์เขียนบทความวิจารณ์อัลอัชฮารีและอ.กอเซ็ม

ในหัวข้อ การอ่านอัลกรุอ่านที่กูบุร และการทำบุญเลียงมัยยัต ฯลฯที่เวป มุรีด
 
ผมอ่านดูแล้วครับ แต่ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย มีการแก่ต่างด้วยคำพูดเท่านั้นและ

การพยายามแปลใช้คำภาษาไทยให้เป็นภาษาไทยใหม่อีกที 

แต่เนื้อหา ไม่มีอะไรเพิ่มเติมเลย วกวนและซ้ำไปมา จนน่าเบื่อ ไม่มีหลักการ

และความรู้ในกฏของนักติศาสตร์มาระบุเลยไม่ว่าในสิ่งที่ท่านวิจารณ์

ไม่มีนักปราชญ์ด้านฮาดิสท่านใดมาระบุเช่นนั้น

อ.ปราโมทย์แยกไม่ออกระหว่างการชุมนุม การคร่ำครวญ กับการหยิบยื่นทรัพย์

เพื่อร่วมทำบุญช่วยเหลือ  แถมใช้ความคิดปัญญาตัวเองตัดสินว่าพี่น้องหรือใครก็ตาม

ที่ให้ความช่วยเหลือในการบ้านผู้ตายนั้นไม่ว่าจะช่วยเหลือใดๆ ถือว่าบาปทั้งนั้น 

ผมว่าอ.ปราโมทย์ขาดคว่ามรู้ความเข้าใจในสิ่งที่นักปราชญ์ด้านฮาดิสเขาเข้าใจกัน

และยังห่างไกล อ.อัลฮารียและอ.กอเซ็มมากมายนักด้านความรอบรู้ในหลัการต่างๆ

9
สนทนาศาสนธรรม / Re: กล้าหรือเปล่า
« เมื่อ: มี.ค. 05, 2009, 04:47 PM »
 ;D
คุณ ลูกหลานบิดอะครับ ผมว่าคุณไม่ควรชื่อต้อนต้านบิดอะนะครับเพราะมัสหับวาฮาบีย์ล้วนที่กระทำบิดอะมากกวย่าทุกมัสหับเลยครับรองจากชีอะ
ผมฟังอ.กอเซ็ม  มูฮำมัดอาลีพูดที่งานเมาลิดกระบี่  โชคดีครับที่ผมอยู่ทีท่นั้นทุกคืนเพราะผมนำสินค้าไปขาย
คืนสุดท้ายอจกอเซ็มพูดได้ถูกใจผมากและคนอื่นก็ชื่นชอบท่านมาก   โดยเฉพาะประโยคที่ว่า  ท่านพี่น้องครับ  มัสหับวาฮาบีย์นั้นเป็นมัสหับของผู้ที่ตามท่านมูฮำมัด บินอับดุลวาฮาบ แต่ท่านมูฮำมัดบินอับดุลวาฮาบนั้นไม่ได้ทำตามท่านนบีหลายๆเรื่อง ท่านอุตริกรรม(บิดอะมากมาย)เพราะได้รับการสนับสนุนจากกษัตริย์ซาอูดที่มีอังกฤษหนุนหลัง   พวกเขาอุตริเรียกชื่อตังเองว่า กลุ่มสลัฟบ้าง กลุ่มซุนนะบ้าง ทั้งที่การกระทำหรือบางอย่างกลับปฏิเสธหรือต่อต้าน สลัฟและคัดค้านในสิ่งเหล่านั้นที่สลัฟกระทำแต่ยังกลับตั้งชื่อตัวเองว่า กลุ่มสลัฟ..

อ.มุรีด หรือเชคริดอเคยมาที่กระบี่ ครับ แต่เพื่อนบอกว่า ผู้ที่ไปฟังก็มีอยู่แค่กลุ่มเล็กกลุ่มน้อย ซึ่งมุรีดเคยบอกว่า ตนจะกำจัดบิดอะกระบี่ให้สลายให้ได้  นายมุรีดกล่าวว่า กระบี่มีบิดอะมาก แต่ผมไปเที่ยวงานผมว่า บิดอะนั้นเฉพาพสายตาวาฮบีย์เท่านั้น...

คุณ .....แอนตี้.บิดอะครับ  .....ที่ซาอุอารเบีย ก็มีบิดอะมากมายทำไมผู้นำวาฮาบีย์ที่ซาอุจึงไม่สามารถชำระบิดอะที่นั้นได้ล่ะครับ  ฝากตอบมาด้วยนะครับ

10
สนทนาศาสนธรรม / Re: กล้าหรือเปล่า
« เมื่อ: มี.ค. 05, 2009, 09:59 AM »
 salam
เท่าที่ติดตามการเสวนามาตั้งแต่เวปมรดก  เวปอัชซุนนะ   เวปบังมุรีด   ไม่ใช่เข้าข้างนะครับจะบอกให้ 

ผมไม่เห็นใครพูดและนำหลักฐานพร้อมแหล่งอ้างอิงจากกิตาบและฮาดิสและการกระทำของซอฮาบะฯลฯบรรดาอุลามะทั้งสลัฟและซอลัฟ  ได้อย่างชำชองและชัดเจน เท่ากับบังอัชฮารีเลยครับ  ไม่ใช่เยินยอ  hihi:

เพราะในเวปมรดก    นั้นผมเห็นว่าบังอาสันที่ว่าแน่   ยังถูกต้อนกระฉูดหางกระดกไม่เป็นท่าเลยครับ  คุณ anti-บิดอะ of wahabi    mycry

11
 salam


อยากถามว่า ออกบวชวันไหนครับบบังๆ   อยากให้ผู้ที่มีความรู้ด้านดาราศาตร์มาคุยในกระทู้นี่นะครับ

เช่น บัง GODDUTและ  MUNIB      พร้อมกับคนอื่นๆที่มีความรู้ด้านนี้นะครับว่าเขามีวิธีการอย่างไร    cool2:

12
โฮ...สุดยอดครับ เวปนี้มีหลักฐานมัดแน่น ฝ่ายวาฮาบีย์เมืองไทยที่ชอบเอาเวลาในการถือศีลอดของประเทศซาอุฯมาใช้ในทุกๆปี

แสดงว่า ตามที่บังGoddutพูดก็เป็นความจริงทุกประการใช่ไหมครับที่ว่าซาอุฯมีการดูเดือนพลาดเกือบทุกปี และบางครั้งก็โมเมคำนวณเอา


โฮ...ผมคิดถูกแล้วอะคับที่ตามคำประกาศของสำนักว่าวจุฬาฯ

แต่ก็นั้นและคับ  ปีนี้มันเงียบๆยังไงก็ไม่รู้ 

คงจะมาจากสาเหตุที่ว่า  มีการกำหนดวันถือบวชตรงกันเลยไม่มีใครพิพาทใคร   นี้ถ้าสมมุติว่า  ถือบวชไม่ตรงกันละคับ

    คงเถียงกันหน้าดู นะคับ    เอ..แต่คนที่ไม่ตามท่านจุฬานี้เขามีเหตุผลอะไรหรือคับ  มีใครรู้บ้าง บอกทีๆๆ

แต่ที่แน่ๆ ผู้ที่อยู่ประเทศไทยที่ตามคำประกาศของจุฬาต่างประเทศนี้ ซิ ผมคิดว่า   เขาผิดพลาดมาตลอดนะคับ

ไม่ว่า  เวลาในการเช้าบวชออกชวชหรือเวลาถือบวชหรือแก้บวช 

อ้างถึงคนอยากรู้

เราอยู่ในประเทศไทย  เวลาปฏิบัติศานกิจใดๆไม่ว่า เวลาละหมาด หรือเวลาถือศีลอดเวลาละศีลอด  ก็ต้องเอา ตารางเวลาจากประเทศไทยเป็นหลักการอ้างอิง ทำอีบาดะหรือทำการใดๆ

ฉนั้นการที่มีพี่น้องบางกลุ่ม เลือกเอาเฉพาะตรางเวลาปฏิบัติศาสนากิจหรือเวลาสำคัญอื่นมาใช้  แต่พอถึงเวลาเข้าบวช หรือออกบวชกลับเอาตารางเวลาของอีกประเทศหนึ่งมายึดถือ

ทั้งที่เวลาห่างกันประมาณเกือบ 5ชั่วโมง


ตรงนี้ก็พอจะสรุปแล้วว่า เขาไม่ตามกีตาบุลลออ์และซุนนะท่านนบีทุกอย่างแต่ เพียงเลือกถือบางอย่างที่ตนพอใจ

ซึ่งถ้าจะให้ผมฮุกมคนกลุ่มนี้นั้นผมถือว่า     การถือศีลอดที่ผ่านมาของเขาทุกปีที่ผ่านมานั้น  เป็นโมฆะ  และถือว่าการกระทำของเขานั้นเป็นบาปมาซียะ
[/u]


 ผมเห็นด้วยอย่างแรงเลยนิ    myGreat:

และขอบคุณบังGoddut  มากด้วยที่ให้ความรู้เพิ่มเติม


13

ข้อความเมื่อ: ส.ค. 31, 08, 12:08 amข้อความโดย: Deeneeyah
อ้างถึง
บังเองก็ไม่รู้คำตอบที่ถูกต้องทั้งหมดครับ   

แต่ว่า ลอง google น่าจะพอได้มั้ง


อะ  แต่ผมได้ข่าววว่า บังDeeneeyah สนิทกับ อ.อาลี   เสือสมิงมากไม่ใช่หรือครับ  น่าจะลองแย็บถาม บอกพี่น้องๆกันบ้างอะคับ     hehe

อ็อ  คือถ้าบัง สนิทกัน    อยากฝากถามเพราะท่าน อ.อาลีว่า           ทำไมการเสนอข้อมูลหรือหลีกฐานบางอย่างไม่เหมือนกับเวปนี้เลย  ทั้งที่เรียนที่เดียวกัน   boulay:
 

14
 salam

ผมตอบได้หรือไม่ได้นั้น  มันขึ้นอยู่กับ BONUSนะครับ

คืออยากทราบว่า  มีรางวัลอะไรบ้าง  อะคับ

แบบว่า  ผมเป็นคนตาล่อนะคับ natural:

อยากได้NISSAN TEADA  คันที่บังปลื้มขับในTVอะคับ


หรือไม่ก็บ้านราคา2ล้านสักหลังอะคับ  อิๆๆๆ

15
อ้างถึง
สรุปคือ
สายรายงานที่สามเท่านั้นที่เพิ่มเติมคำว่า “ไม่ได้กระดิกนิ้ว”  ดังนั้นจึงพอจะสรุปได้ว่า
1.   สำนวนของสายรยงานที่สามที่มีคำว่า “ไม่ได้กระดิกนิ้ว” เป็นสำนวนที่ค้านกับสำนวนของสายรายงานอื่นๆที่น่าเชื่อถือกว่า
2.   น่าจะเกิดความสับสนและผิดพลาดที่ หัจญาจญ์ อัลมัสศีศีย์ โดยได้เพิ่มคำว่า “ไม่ได้กระดิกนิ้ว” เข้าไป เพราะสายรายงานอื่นจาก หัจญาจญ์ ซึ่งบรรดานักรายงานของสายรายงานอื่นล้วนมีความจำที่ดีแต่ในสำนวนของพวกเขาไม่มีระบุคำว่า “ไม่ได้กระดิกนิ้ว” อยู่ในสำนวนหะดีษ
3.   หรือ อาจเป็นการเพิ่มเติม (อิดรอจญ์) จากนักรายงานคนใดคนหนึ่ง โดยเข้าใจและตีความจากคำว่า “ชี้ด้วยนิ้ว”  ว่าเป็นการชี้เฉยๆ โดยไม่ได้กระดิกแต่อย่างใด  วัลลอฮุอะอฺลัม


ดังนั้น  การเพิ่มเติมคำว่า “ไมได้กระดิกนิ้ว” จึงน่าจะเป็นการเพิ่มเติมที่ชาซ (เพี้ยน) จากสายรายงานอื่นๆที่มีความน่าเชื่อถือมากกว่า วัลลอฮุอะอฺลัม
[/color]


....ตกลงว่า บังget  ตักลีดตามสายงานนี้ว่างั้นเถอะ  ใช่ไหมครับบัง  อิๆๆๆๆ


แต่ผมไม่เอาด้วยครับ ไอ้แบบกระดิกวนไปวนมาหรือกระดกขึ้นกระดกลงนั้น  ผมนั้นจะทำตามแบบท่านนบีครับ

และบรรดาอุลามะทั้ง4มัสหับที่มัวตะมัตคับคือจะเริ่มชี้ตั้งแต่อัตตาฮีย่าแล้ว พอถึงคำชาฮาดะ..อิ้ลลัลลอฮ์...

ก็จะกระดิกในแนวตรงทีหนึ่ง(วงเล็บถ้าไม่ลืม )เพราะไม่ได้เป็นวายิบนี้ครับบัง


การที่ยกนิ้วชี้ขึ้นนั้น  ท่านอิมามอันนะวาวีย์  ได้กล่าวว่าเพื่อเป็นการตอกย้ำและจิตใจตระหนักถึงเตาฮีด  และบริสุทธิ์ใจต่ออัลเลาะฮ์ 

وعن ابن عباس رضى الله تعالي عنهما قال هو الاخلاص

“และรายงานจากอิบนุอับบาส ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุมา  เขากล่าวว่า  มันคือความบริสุทธิ์ใจ” หนังสืออัลมัจญ์มั๊วะ 3/454



อย่างนี้ไม่ดีกว่าหรือครับบังGet    happy2:

หน้า: [1] 2 3 ... 6