แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - มะเซ็ง

หน้า: [1]
1
อยากทราบว่า

1.ผลบุญการทำฮากีเกาะและการทำกรุบ่านอันไหนประเสริฐกกว่ากัน..

2.ถ้าเราจะเอาผักต่างๆ เช่น.หยวกมะพร้าวหรือลูกกล้วยหรืออื่นๆผสมรวมกันหลายๆอย่างลงไปในการสัตว์ที่เราเชือดทำฮากีเกาะและเนื้อกรุบ่านได้หรือไม่....

ขออัลลออ์ตอบแทนครับ..

2
คุณอัล-อัชฮารีย์ครับ...

ผมอยากทราบถึงหลักฐานจำนวนรอกาอัตของละหมาดตะรอเวียะ20รอกาอัตและ11รอกาอัตครับ..ขออัลลอฮ์ตอบแทนท่านด้วย..........

3
การอะซานวันศุกร์ ก่อนเวลา ของ ท่านอุษมาน
ตอบ

 นี้ก็เป็นจุดดับข้อหนึ่ง คือ การเอาการอะซานสองครั้งในสมัยของท่านอุษมาน มาเป็นหลักฐานอุตริบิดอะฮ และเป็นหน่อบิดอะฮ ที่แพร่กระจายทุกวันนี้  ที่จริงแล้วเรื่องนี้  ไม่ได้เป็นหลักฐานทำบิดอะฮ ในเรื่องศาสนา  เพราะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอบคนละเรื่องเลย  พี่น้องครับ  พอเวลาพันนี้ ครูอสันไม่กล้า ฮูกมท่านอุษมาน.ครับ  แต่ถ้าเรามองอีกมุมหนึ่ง ก็เพื่อหลีกเลี่ยงผู้อื่นจะกล่าวได้ว่าครูอะสันกล้าซอฮาบะของท่านร้อซุ้ลของอัลลออ์ที่ท่านรับรองว่าได้เข้าสวรรค์ว่าแบบเดียวกับชีอะ.นะซิ5555..
แล้วนิยามของอัลอัชติบีย์ว่ายังไง ละ  ยกมาอีกครั้งซิเรื่องบิดอะนะ  ..

บิดอะคือสิ่งที่ไม่ปรากฎในสมัยท่านนบีไม่ใช่หรือ...และไม่มีในอัลกรุอ่านและอัสซุนนะ  แล้วการอะซาน2ครั้งของท่านอุษมาน ไม่ข้าข่ายนิยามนี่หรือครับ

ฉนั้นนิยามก็ฉีกทิ้งเสียเลยซิครับ..หรือเอาไว้ฮุกมอุลามะในมัสหับอื่นที่แตกต่างจากทัศนะตนเท่านั้นอย่างนี้หรือครับฮ้าๆๆ.ครู..
...
เรื่องละหมาดตารอเวียะเช่นกัน..บรรดาผู้รู้และอุลามะส่วนมากที่เขาเข้าใจในคำพูดของท่านอุมัร(รด)ที่ท่านรวมละหมาดตารอเวียะเป็นญามาอัตนั้น ท่านเองก็บอกอย่างโท้นโท้ว่า มันคือ..บิดอะที่ดี  แต่ครูก็ยังเฉไฉลื่นยังกับปลาดุกในหนองนะครับ  ไหลไปเรื่อยๆ ระวังนะครับสะดุดหัวตัวเองเข้า..
แล้วยังแก้ความหมายหรือตะวีลคำพูดของท่านอุมัรอีกว่า  ...มันเป็นการฟื้นฟูที่ดีอีกแนะ....ดูเอาซิครับพี่น้อง..บิดอะด้านคำพูดชัดๆเลย
 
  บันทึกการเข้า  

--------------------------------------------------------------------------------
อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์จากมัซฮับทั้งสี่
 
 
al-um
เริ่มคุ้นเคย

 ออฟไลน์


  Re: ถามเรื่องการละหมาด กอฎอ(ทดแทน)
« ตอบ #277 เมื่อ: วันนี้ เวลา 10:54 »  

--------------------------------------------------------------------------------
..

และอับดุลลอฮ บุตร ดาวูด สันดีละฮ กล่าวว่า "ส่วนหนึ่งจากเครื่องหมายแห่งความจริง คือ การเกลียดชัง ผู้ที่ถือศาสนาตามอารมณ์ และผู้ใดรักความจริง เขาจะต้องเกลียด พวกตามอารณ์  หมายถึง  "อะฮลุ้ลบิดอะฮ"(ชาวบิดอะฮ) سير السلف الصالحين للتيمي (3/1154)، والحلية لأبي نعيم ( 10/392 )...
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ครูครับ ถ้าครูยึดตามฮะดิสนี้จริง ครูก็อย่าเอาหนึ่งส่วนใด ของบุคคลที่ครูเข้าใจว่าเขาว่าเขาทำบิดอะซิครับ..
เช่น ท่านอุมัร  ท่านอัชชาฟีอี ท่านอันนาวีย์  อิบนุหะญัร เพราะที่ผมกล่าวมานี้เขาล้วนเป็นผู้กำเนิดบิดอะทั้งน้าน...
 --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-  ส่วนหนอนในอุจจาระ เป็นการอุปมา ผู้ที่ภูมิใจกับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง โดยเข้าใจว่าตัวเองถูกต้อง ผู้อื่นมาเทียบไม่ได้

-  ส่วนกบในกะลา คำนี้ ใช้กันแพร่หลาย เป็นคำอุปมา ผู้ที่ อยู่ในโลกแคบๆ ไม่เปิดหูเปิดตาทางวิชาการ  เช่น คนที่

เชื่อว่า "ไม่มีใครในโลกนี้ มีความรู้เทียบอิหม่ามชาฟิอีย์ได้"

-  ส่วนคำว่า หากินกับซากศพ   หมายถึงอิแร้ง  ดังนั้นผู้ที่หาประโยชน์กับคนตาย  จึงถูกนำไป กิยาส  กับอีแร้ง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
..al-um   ..ทีเวลาคุยกับเรา ก็เปรียบเทียบแบบไม่ต้องขยายความ อย่างนั้นอย่างนี้  ...เวลาแบบนี้ตัฟซีรเสียเลย กลัวผู้อื่นมองว่าฉันไม่ดีหรือครับท่าน..

คนแก่ก็อย่างนี้แหละ..

ตกลงสิ่งที่อัลอัชฮารีถามก็ไม่ตอบที่ผมถามก็เบี่ยงเบน แต่ชอบออกนอกประเด็น..อยู่เรื่อย....


 
 
  บันทึกการเข้า  

--------------------------------------------------------------------------------
อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์จากมัซฮับทั้งสี่
 
 
al-um
เริ่มคุ้นเคย

 ออฟไลน์


  Re: ถามเรื่องการละหมาด กอฎอ(ทดแทน)
« ตอบ #278 เมื่อ: วันนี้ เวลา 11:24 »  

--------------------------------------------------------------------------------
พี่น้องครับ หลายๆอย่างที่เราค้นพบในตัววะฮาบีย์ หรือผู้ที่อ้างว่า ยึดตามกีตาบุลลอฮ์ซุนนะบี แค่ลมปาก แต่ฟามจริงแล้ว
เขาแค่เพียงแต่เอาสโลแกนมาอิงเท่านั้น ..

ตัวอย่างที่ผมจะนำมาบอกกับพี่น้องหลายๆคนที่ยังไม่เข้าใจของคนกลุ่มนี้เท่าที่ควร ที่มักอ้างว่า ตามซุนนะในความเป็นจริงแล้ว เขาคือกลุ่มที่ทำบิดอะดอลาละอย่างชัดแจ้ง..ไม่ใช่บิดอะหาซานะ.....ซึ่งพวกเชขานำมาเป็นหลักฐานในการปฏิบัติอ้ามั้ล  ทั้งที่เป็นสิ่งที่ท่านนบีได้ตำหนิไว้  ว่า กุ้ลลูบิดอะดอลาละ..บิดอะที่ลุมหลงนั้นคือการหลงผิด

กรณีศึกษาจากเวปมรดกฯ ครับ  เรามาลองพิจารณาคำตอบของครูอะสัน ต่อไปนี้พร้อมๆกันครับ  ซึ่งเกี่ยวกับเรื่อง  การเอามือกอด อกหลังเงยจากรุกั๊วะ  ซึ่งไม่มีหลักฐานจากซุนนะฮ์ใดมาระบุเจาะจากอัลกรอ่านและอัลฮาดิสซักบทเดียวว่า  "เมื่อเอี๊ยะติดาลเงยขึ้นมาจากการรุกั๊วะ  ท่านนบีใช้ให้เอามือกอดอก"  

ดูอีกครั้งครับ ที่คุณอิควานคนเดิมถามครูอะสันเจ้าเก่า

...การกอด-อกหลังเงยจากรุกัวะ เป็นทัศนะของอีหม่ามหรือเชคท่านใดบ้างค่ะ แล้วทัศนะของอุลามาอฺส่วนใหญ่เป็นอย่างไรค่ะ ขอบคคุณค่ะ

ครูอะสันตอบ  โดยอ้างถึง.เช็คอิบนุอุษัยมีนกล่าวว่า .........



الذي يظهر أنّ السنة هو وضع اليمنى على ذراع اليسرى لعموم حديث سهل بن سعد الثابت في البخاري " كان الناس يُؤمرون أن يضع الرجل يده اليمنى على ذراعه اليسرى في الصلاة " فإنك إذا نظرت لعموم هذا الحديث " في الصلاة " ولم يقل في " القيام " تبيَّن لك أن القيام بعد الركوع يُشرع فيه الوضع ؛ لأنَّه في الصلاة تكون اليدان حال الركوع على الركبتين ، وفي حال السجود على الأرض ، وفي حال الجلوس على الفخذين ، وفي حال القيام ويشمل ما قبل الركوع وما بعد الركوع يضع الإنسان يده اليمنى على ذراعه اليسرى
هذا هو الصحيح

ที่ปรากฏชัดเจนว่า แท้จริงตามสุนนะฮนั้น คือ การวางมือขวาบนข้อศอกของมือซ้าย ตามความหมายกว้างๆ ของหะดิษ สะฮ บุตร สะอฺ ที่ปรากฏในอัลบุคอรี ระบุว่า "ปรากฏว่าบรรดาผู้คนได้ถูกใช้ คือ ให้วางมือขวาของเขาบนข้อศอกของเขา ข้างซ้าย ในละหมาด" ดังนั้น เมื่อท่านพิจารณาในความหมายโดยกว้างๆของคำว่า " ในละหมาด"(في الصلاة ) โดยไม่ได้กล่าวคำว่า "ในการยืน(في القيام ) ก็จะให้คำตอบที่ชัดเจนแก่ท่านว่า " การยืนหลังจากรุกัวะ ก็มีบัญญัติให้วาง(มือ)ในนั้น เพราะว่าในละหมาด ขณะที่รุกัวะ สองมือจะอยู่บนหัวเข่าทั้งสอง ,ในขณะสุญูด จะอยู่บนพื้น ,ในขณะนั่ง จะอยู่บนขาทั้งสอง และในขณะยืน โดยจะครอบคลุม สิ่งที่อยู่ก่อนรุกัวะและหลังจากรุกัวะ โดยวางมือขวางของเขาบนข้อศอกด้านซ้าย นี้คือ ความถูกต้อง

" الشرح الممتع " ( 3 / 146 ) .

จากตรงนี้  เราสรุปได้ว่า  เมื่อตอนที่ยืนละหมาดหลังตักบีร  สุนัตให้เอามือกอด - อก  ตามที่มีหะดิษต่าง ๆ มากมายที่มาระบุในฮุกุ่มดังกล่าว  แต่ไม่มีหะดิษสักตัวบทเดียวมาระบุเจาะจงว่า เมื่อเอี๊ยะติดาลเงยขึ้นมา สุนัตให้เอามือกอด - อก   แต่บังอะสันกลับนำหลักฐานแบบ อุมูม (ครอบคลุมนำมาเสนอ) แล้วไม่ตรงกับประเด็นเรื่องเอี๊ยะติดาลเงยขึ้นมาจากรุกั๊วะด้วย  ทั้งที่มีหลักฐานอื่น ๆ มากมายมาระบุเจาะจงว่า การยืนกอด - อก นั้น ตอนที่ยืนหลังทำการตักบีร แล้ว
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สิ่งผมจึงนำมาจากคำถามของอัลอัชฮารีย์มาบอกนั้น นั้น ก็เพื่อชี้ให้เห็นว่า คำฟัตวาของเช็คอุษัยมีนและเช็คบิลบาซด้วย นั้นมันสำคัญกว่าซุนนะท่านนบีสำหรับครูอสันนักแล ...  
...
ผมจึงขอเสริมคำพูดของอัลอัชฮารีย์ต่อว่า...ถึงแม้ครูอะสัน รีบ ออกตัวว่า ไม่ใช่ทัศนะของตน    เพราะหากว่าเป็นทัศนะที่ตนเองยอมรับ  เรื่องละหมาดกอฏอ  ก็จบครับเพราะว่า..มันจะตรงว่าตัวเองยอมรับการกอดอละหมาดฮ้า...  
อัชฮารีย์พูดว่า..

... ที่ผมยกประเด็นมาเป็นกรณีศึกษานั้น  เพราะว่า บังอะสันได้ตอบคำถามไป โดยนำฟัตวาของชัยค์ อุษัยมีน  โดยยอมรับหลักการในนั้น  อันเนื่องจากว่า  บังอะสันไม่ได้ตอบคำถาม  จุดยืนของญุมฮูร (ทัศนะนักปราฃญ์ส่วนใหญ่) ซึ่งหากบังอะสันยอมรับในทัศนะของนักปราชญ์ส่วนใหญ่จริง  ก็น่าที่จะ  นำเสนอทัศนะญูมฮูร  ที่ "คุณอิควานคนเดิม" ถามมาด้วยนะครับ  เพื่อยืนยันในทัศนะของตนเองที่มีต่อญูมฮูร   แต่นี่กลับไม่  ดูซิครับพี่น้อง..อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับสำหรับวะฮ่าบีย์  
และผมขอพูดต่อว่า..
...เวลามีหลักฐาน เปะๆจากท่านนบีที่กล่าวว่า "หนี้ของอัลเลาะฮ์สมควรชดใช้นั้น"  ซึ่งบรรดาอุลามะต่างๆก็รู้ว่าในความหมายว่า หนี้นั้นมันหมายถึงละหมาดด้วย...แต่ครูอะสันกลับละทิ้งมัน ไปเอาคำพูดของ อิบนุตัยมียะเสียนี้......คักๆๆๆๆ.............................


......................................จบเรื่องครับ...................ขอให้ท่านผู้ชมกลับบ้านเข้านอนหรือไยกย้ายไปทำงานได้ครับ......วัสลาม...
  
 
  บันทึกการเข้า  

--------------------------------------------------------------------------------
อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์จากมัซฮับทั้งสี่
 
 
asan
สมาชิกตลอดกาล

 ออนไลน์

รางวัล:
 
  Re: ถามเรื่องการละหมาด กอฎอ(ทดแทน)
« ตอบ #279 เมื่อ: วันนี้ เวลา 11:26 »  

--------------------------------------------------------------------------------
 
คุณ al-um เห็นออนไลน์อยู่พอดี ผมว่า คุณควรจะเป็นคนอ่านมากกว่า นะครับ ไม่เห็นมีอะไร นอกจากกอ็ปของคนอื่นแล้วทำมาวิจารณ์ อย่างนั้น อย่างนี้  ต้องนำวิชาการมาตอบครับ ไม่ใช่หัวสมองในกะโหลกเพียวๆ ไม่รู้สึกละอายผู้อ่านบ้างหรือ เขารู้นะว่าในพุงคุณ มีแต่ขี้กับใส้
 
  บันทึกการเข้า  
 
 
 
asan
สมาชิกตลอดกาล

 ออนไลน์

รางวัล:
 
  Re: ถามเรื่องการละหมาด กอฎอ(ทดแทน)
« ตอบ #280 เมื่อ: วันนี้ เวลา 11:43 »  

--------------------------------------------------------------------------------
อ้างจาก: al-um ที่ วันนี้ เวลา 11:24

...เวลามีหลักฐาน เปะๆจากท่านนบีที่กล่าวว่า "หนี้ของอัลเลาะฮ์สมควรชดใช้นั้น"  ซึ่งบรรดาอุลามะต่างๆก็รู้ว่าในความหมายว่า หนี้นั้นมันหมายถึงละหมาดด้วย...แต่ครูอะสันกลับละทิ้งมัน ไปเอาคำพูดของ อิบนุตัยมียะเสียนี้..[/color]....คักๆๆๆๆ.............................


..................

อีกแล้วหรือครับท่าน  คำว่า "หนี้ของอัลลอฮสมควรชดใช้"  แต่พอถามว่า "แล้วละหมาดฟัรดูที่พอแม่ติดหนี้อัลลอฮอยู่ ยังไม่ได้กอฎอ ลูกจะชดใช้แทนได้ไหม?  ก็ไม่กล้าตอบกลับเลี่ยงบาลี ทั้งที่ต้นหะดิษระบุว่า ลูกชดใช้หัจญนะซัร แท่นแม่  นี้คือพฤติกรรมของคนที่ไร้จุดยืน แต่มีจุดยืนแบบไม้หลักปักขี้เลน  หาความมั่นคงไม่ได้   นาย al-um ต้องถอดหรือแก้ปลอกคอของการตักลิดมัซฮับที่คอก่อน จึงสามารถพูดเรื่องศาสนาได้อย่างอิสระ ไม่อย่างนั้นปลอกแห่งการตักลิดค้ำคออยู่ คุณก็เลยแค่เป็นยามเฝ้ามัซฮับเท่านั้นเอง แต่ไม่ใช่เฝ้าปกป้องคำสอนอิหม่ามชาฟิอีย์นะ เพราะคุณแค่อ้างยี้ห้อเท่านั้นเอง
 
  บันทึกการเข้า  
 
 
 
asan
สมาชิกตลอดกาล

 ออนไลน์

รางวัล:
 
  Re: ถามเรื่องการละหมาด กอฎอ(ทดแทน)
« ตอบ #281 เมื่อ: วันนี้ เวลา 11:59 »  

--------------------------------------------------------------------------------
อีกอย่าง คือนาย al-um และบรรดาก๋วนหรือแก๊งทีมาในคราบผู้เสนวนาศาสนานั้น ล้วนแล้วแต่ ใช้ชือแฝงสลับกันไปมา โดยไม่กล้าเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริง เพราะเกรงว่าจะเสียเครดิต ชาวบ้านไม่นับถือ และเพื่อประโยชน์สำหรับการลอบกัดคนอื่นได้โดยไม่มีใครรู้  ตัวตนที่แท้จริง ไม่รู้สึกละอายอัลลอฮบ้างหรือครับ คุณ al-um สหายร่วมก๋วน อย่าลืมบอกชื่อจริงหลังไมค์ก็ได้แล้วผมจะเก็บเป็นความลับ ไม่ต้องกลัวหรอก ว่าจะเสียชื่อวงศ์ตระกูล  เพราะต้นไม้ต้นหนึ่ง มันอาจจะมีผลออกมาเน่าบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา
 
  บันทึกการเข้า  
 
 
 
al-um
เริ่มคุ้นเคย

 ออฟไลน์


  Re: ถามเรื่องการละหมาด กอฎอ(ทดแทน)
« ตอบ #282 เมื่อ: วันนี้ เวลา 12:05 »  

--------------------------------------------------------------------------------
ครับคุณ al-um เห็นออนไลน์อยู่พอดี ผมว่า คุณควรจะเป็นคนอ่านมากกว่า นะครับ ไม่เห็นมีอะไร นอกจากกอ็ปของคนอื่นแล้วทำมาวิจารณ์ อย่างนั้น อย่างนี้  ต้องนำวิชาการมาตอบครับ ไม่ใช่หัวสมองในกะโหลกเพียวๆ ไม่รู้สึกละอายผู้อ่านบ้างหรือ เขารู้นะว่าในพุงคุณ มีแต่ขี้กับใส้...
...
ครับออนไลน์รอครูอยู่ครับ..วันนี้เอาทั้งวันเลยครับ.
ขอร้องครับ ..กรุณารักษามารยาทผู้รู้บ้างครับครู .อย่ากระเเหนะกระแหนหรือเปรียบเทียบออกนอกเรื่องครับ..ที่ผมพูดไปและถามนั้นครูน่าจะตอบมาตรงๆครับ..อย่าเฉไฉ   พี่น้องเขารู้แล้วละครับเบื้องลึกครูทุกฝีก้าวและครับ ว่าธาตุแท้คืออะไร...
...

บังหะซัน...อีกแล้วหรือครับท่าน  คำว่า "หนี้ของอัลลอฮสมควรชดใช้"  แต่พอถามว่า "แล้วละหมาดฟัรดูที่พอแม่ติดหนี้อัลลอฮอยู่ ยังไม่ได้กอฎอ ลูกจะชดใช้แทนได้ไหม?  ก็ไม่กล้าตอบกลับเลี่ยงบาลี ทั้งที่ต้นหะดิษระบุว่า ลูกชดใช้หัจญนะซัร แท่นแม่  นี้คือพฤติกรรมของคนที่ไร้จุดยืน แต่มีจุดยืนแบบไม้หลักปักขี้เลน  หาความมั่นคงไม่ได้   นาย al-um ต้องถอดหรือแก้ปลอกคอของการตักลิดมัซฮับที่คอก่อน จึงสามารถพูดเรื่องศาสนาได้อย่างอิสระ ไม่อย่างนั้นปลอกแห่งการตักลิดค้ำคออยู่ คุณก็เลยแค่เป็นยามเฝ้ามัซฮับเท่านั้นเอง แต่ไม่ใช่เฝ้าปกป้องคำสอนอิหม่ามชาฟิอีย์นะ เพราะคุณแค่อ้างยี้ห้อเท่านั้นเอง
...อ้าว  ครูทำไมไม่อ่านสิ่งที่ผมตอบบ้างละ กลับไปอ่านซิครับอยู่หน้าที่4หรือ5นะผมตอบแล้ว...อ่านช้าไม่ต้องรีบ..และคำว่าปลอกคอนั้นพอเถิดครับอย่าได้นำมาสรวมกับให้กับผมเลยครับ   ผมเป็นมนุษย์เหมือนครูนั้นแหละครับอิๆๆๆ

 
 
  บันทึกการเข้า  

--------------------------------------------------------------------------------
อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์จากมัซฮับทั้งสี่
 
 
al-um
เริ่มคุ้นเคย

 ออฟไลน์


  Re: ถามเรื่องการละหมาด กอฎอ(ทดแทน)
« ตอบ #283 เมื่อ: วันนี้ เวลา 12:07 »  

--------------------------------------------------------------------------------
อีกแล้วหรือครับท่าน  คำว่า "หนี้ของอัลลอฮสมควรชดใช้"  แต่พอถามว่า "แล้วละหมาดฟัรดูที่พอแม่ติดหนี้อัลลอฮอยู่ ยังไม่ได้กอฎอ ลูกจะชดใช้แทนได้ไหม?  ก็ไม่กล้าตอบกลับเลี่ยงบาลี ทั้งที่ต้นหะดิษระบุว่า ลูกชดใช้หัจญนะซัร แท่นแม่  นี้คือพฤติกรรมของคนที่ไร้จุดยืน แต่มีจุดยืนแบบไม้หลักปักขี้เลน  หาความมั่นคงไม่ได้   นาย al-um ต้องถอดหรือแก้ปลอกคอของการตักลิดมัซฮับที่คอก่อน จึงสามารถพูดเรื่องศาสนาได้อย่างอิสระ ไม่อย่างนั้นปลอกแห่งการตักลิดค้ำคออยู่ คุณก็เลยแค่เป็นยามเฝ้ามัซฮับเท่านั้นเอง แต่ไม่ใช่เฝ้าปกป้องคำสอนอิหม่ามชาฟิอีย์นะ เพราะคุณแค่อ้างยี้ห้อเท่านั้นเอง ..


...อ้าว  ครูทำไมไม่อ่านสิ่งที่ผมตอบบ้างละ กลับไปอ่านซิครับอยู่หน้าที่4หรือ5นะผมตอบแล้ว...อ่านช้าไม่ต้องรีบ..และคำว่าปลอกคอนั้นพอเถิดครับอย่าได้นำมาสรวมกับให้กับผมเลยครับ   ผมเป็นมนุษย์เหมือนครูนั้นแหละครับอิๆๆๆ

เวปครับอย่าได้หลงเคลิ้มครุอะสันครับ  กระทู้นี้มีประโยชน์ครับ

  ถามเรื่องการละหมาด กอฎอ(ทดแทน)
« ตอบ #285 เมื่อ: วันนี้ เวลา 12:25 »  

--------------------------------------------------------------------------------
 

ด้วยความเคารพ

ผู้เสวนากรุณาสนทนาด้วยความสุภาพ ลดทอนการพูดกระทบกระเทียบกัน สนทนาในบรรยากาศของความเป็นพี่น้อง เพื่อเข้าถึงความจริง
การมีความเห็นที่แตกต่างกันไม่ใช่เรื่องใหม่ในแวดวงวิชาการอิสลาม แตกต่างทางจุดยืนและทรรศนะได้ แต่ไม่แตกแยก ขอให้สนทนาด้วยความเป็นพี่น้อง
การนำเสนอข้อมูลในสิ่งที่ตนเองมีจุดยืนหรือยืนหยัด ขออย่าให้คิดว่าเพื่อเอาแพ้ชนะเป็นอันขาด มิฉนั้นแล้วการงานทั้งมวลจะสูญเปล่า
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผมยกมาให้คุณแอนตี้เซมินอ่านดูนะครับ..ซึ่งท่านก็สามารถหาความรู้เพิ่มเติมเองได้  
 
 

4
เจ๋งครับคูณกอดัร...

แต่ผมได้ข่าวว่า  กระทู้ การขาดละหมาดต้องชดเชยนั้นโดนปิดแล้วครับ..ดดยคุณอัล-อุม

5
คุณมิโด แบนกลาวว่า...ท่านไม่เห็นดอกหรือว่า การถือศีลอดในวันจันทร์นั้นเป็นความประเสริฐที่ยิ่งใหญ่ อันเนื่องจากท่านนบีได้ประสูติ ดังนั้น เมื่อเราได้ยอมรับตามนี้ ก็เป็นการสมควรที่จะนำเดือนรอบิอุลเอาวัลที่มีเกียรตินี้ เข้าไปอยู่ในการให้เกียรติ ให้ความสำคัญ อย่างเหมาะสมเพื่อที่จะเจริญรอยตามท่านนบี(ซ.ล.)
...
ผมมะเซ็งขอแย้งว่า..การถือศีลอดนั้นเราก็ทำกันอยู่นี่ครับส่วนใครจะถือหรือไม่นั้นผมไม่ทราบ...แต่กาที่บอกว่ารักท่านนบีแค่ลมปากนั้นใครก็ทำได้
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ท่าจะเจริญรอยตามท่านนะบีเนี่ยก็คือต้องถือศีลอดสุนนะใช่ปะคับ การจัดงานเมาลิดเนี่ยมันก็เหมือนกับคริสจัดคริสมาส ผมเคยได้ยินว่าท่านนบีไม่ชอบให้เรายกย่องท่านเหมือนคริสยกย่องนบีอีซานะครับ อิกอย่างที่ยกตัวอย่างว่าสมควรที่จะนำเดือนรอบิอุลเอาวัลที่มีเกียรตินี้ เข้าไปอยู่ในการให้เกียรติ ให้ความสำคัญ  นี่นบีไม่ได้พูดเลยไม่ใช่เหรอคับ ท่าสมควรจิงทำไม่ท่านนบีไม่ย้ำหล่ะคับ

ผมมะเซ็งขอตอบว่า คุณกล้าจะเอาการกระทำของพี่น้องมุสลิมบางทัศนะที่สรรเสริญต่อศาสนทูตของอัลลอฮ์เปรียบเทียบกับกาเฟรเช่นยิวและคริสตืเลยหรือครับ
...
ผมเห็นด้วยนะครับท่าบอกว่าเมาลิดไม่ใช่อิบาดะจึงไม่บิดอ๊ะ
ผมมะเซ็งขอตอบว่า ก็เมาลิดนั้นไม่เป็นทั้งวายิบและสนัตินี่ครับทำก็ได้ไม่ทำก็ได้อยุ่แล้วนี่ครับ
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

ด้วยความเคารพ อ้อผมไม่ใช่วะฮาบีนะครับ เด๋วจาโดนว่าเหมือนกาทู้อื่น

แล้วคุณเป็นมุสลิมอยู่ในแนวทัศนะไหกันละเนียะ...งงๆๆๆๆๆ

6
..อัสลามมูอาลัยกุ้มฯคุณมิโด-แบนครับ

คุณอัล-อุมถามว่า.........ฉะนั้น เมื่อไม่มีสิ่งที่กล่าวถึงในกีตาบุลลออ์และซุนนะบีแล้ว   สิ่งนั้นจะกระทำไม่ได้เลย  อย่างนั้นหรือครับ..


คุณตอบว่า...คงงั้นแหละครับท่าเป็นเรื่องศาสนาหล่ะ

ผมนายมะเซ็ง...ยิ่งข้องใจคำตอบของคุณมากครับ   แล้วที่นักศึกษาและผูรู้หลายคนในเวปนี้เขายกหลักฐานการกระทำหลังจากท่านนบีไมได้กระทำนั้น มันเป็นบิดอะด้วยหรือครับ...ผมนายมะเซ็ง..เห็นว่าคุณคือคนหนึ่งที่ไม่ยอมรับการซุนนะคุลีฟะของซอฮาบะที่นบีใช้นะครับและคุณกล้าปฏิเสธหรือครับในเรื่องนี้นะ
ดูซอฮาบะเป้ตัวอย่างได้นี่ครับว่าเขาเคยกระทำบ้างไหมขณะที่ท่านนบีจากไปแล้วและโองการนี้ลงมาแล้ว...ซอฮาบะท่านนบีทุกคนก็รู้ว่า โองการนี้ลงมาแต่ก็ยังมีซอฮาบะบางคนกระทำสิ่งที่ไม่มีในโองการนี้และสิ่งที่ท่านนบีไม่เคยใช้  เยอะแยะไปลองดูประวัติศาสตร์ซีครับ


คุณกล่าวต่อว่า  ..ท่าไม่ใช่ท่านอุมัรกับอบูบักร นอกนั้นก็หะดีษดออิฟหละมั้งคับ(อย่าว่าผมนะผมข้อมูลน้อยผิดพลาดยังไงก็ชี้แจงด้วย)
ซึ่งเห็นว่าเว็บนี้ส่วนมากก็ตามหะดีษดออีฟอยู่แล้วฉะนั้นจึงไม่ขอพูดอะไรมากต่างคนต่างทัศนะคับไม่ว่าอารัย


ผมว่าที่คุณบอกว่า เป็นฮาดิสดออีฟนั้นก็ช่วยนำหลักฐานมาด้วยครับและผมคน1ยินดีสนทนากับคุณในเรื่องนี้ครับ..


..อีกอย่างที่คุณว่าคุณอัล-อุมนั้นโจมตีวะฮาบีย์นั้น ผมคิดว่า อัล-อุมไม่ได้กล่าวหาใครลอยๆนะครับ


แต่ที่รู้ๆนั้น.นอกจากทัศนะทั้ง4 แล้ว  ....ก็มีทัศนะหนึ่งที่มักจะโจมตีแนวทางอื่นว่า เป็นอะลุ้ลบิดอะมาตลอด 1ในนั้นก็มีคือ..กมมูดอทัศนะใหม่นั้นเองครับ..หรือคุณมิโด-แบนว่าไม่จริง...

7
 เมื่อไม่มีหลักฐาน ฮาล้าลหรือฮารอม วายิบหรือสุนัต ทรรศนะดังกล่าวจึงเป็นบิดอะ "
แล้วก็กลายเป็นว่า จริงๆ แล้ว ตัวเองก็บิดอะด้วย จากเหตุผลด้านบน

เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เราก็บิดอะ กันมาตั้งแต่สมัย คอลีฟะ แล้วละครับ

ดังนั้นที่เรากล่าวว่า บิดอะวะฮะบี นั้น ก็เพียงจะบอกให้เขารู้ตัวว่า

ถ้าเขาเลิกเอากฎที่ว่า ไม่มีหลักฐานบิดอะ นั้นทิ้งไป  กลุ่มวะฮะบีเอง ก็ไม่บิดอะ เพราะเรื่องทรรศนะมันก็อุตริกันทั้งนั้น

แต่ถ้ายังอยากจะใช้กฎที่ว่า มาโจมตีใส่ร้ายพี่น้องมุสลิมอยู่อย่างนี้

กลุ่มตัวเอง ก็ไม่พ้นหรอกครับ คำว่า บิดอะ เพราะก็โดนเหมือนๆ กันทั้งหมด

วัลลอฮฺอะลัม

...                   ..............................................................................................

เป็นคำพูดที่เฉียบขาด กินใจดี ตรงไปตรงมาและเข้าใจง่าย..

...เมื่อ..ไม่หลักฐานการห้ามการใช้..ถือว่าเจ๊า กันไป  จะไปว่าเขาทำบิดอะนั้นก็กระไรอยู่..เพราะหลังท่านนบีวาฟาตไป...ท่านอบูบักร์ ยังได้คิดรวบรวมกองทหารเป็นกรมเพื่อปกป้องในงานศาสนาและอีกหลายๆอย่างฯลฯที่ท่านตั้งใจกระทำแต่พระองค์ทรงให่ท่านพักผ่อนเสียก่อน..ยิ่งสมัยท่านอุมัรแล้วชัดเจนมากยิ่งขึ้นไม่ว่า เรื่อง กรม กอง คลัง และการปกครองการรวบรวมอัลกรอาน การสร้างสาธรณะที่เป็นประโยชน์และอำนวยด้านต่างๆล้วนเกี่ยวพันกับงานส่งเสริมที่ดีในงานของสนับสนุนศาสนาของอัลลอฮ์ทั้งนั้น.........ซอฮาบะและผู้รู้ยุคถัดมาหลายๆท่านที่กระทำสิ่งที่เห็นว่าดีในงานศาสนาของพระองค์ก็มีมากมาย  แล้วแต่อัลลอฮ์จะวางกำลังความสามารถให้เขาแต่ละก็ คนถนัดในแต่ละ....บางก็เป็นครูสอนการอ่านอัลกรุอาน สอนการออกเสียง สอนการอธิบาย(ตัฟซีร)สอนวิชานุฮุ-ซะรอฟ.ฯลฯ.บางก็สอนเรื่องอะกีดะเรื่องชารีอัต..
เหล่านี้คือการพยายามทุ่มเทเพื่องานศาสนาของอัลลอฮ์ไม่ให้จมปลักหรือสูยหายไป..กับเวลา..แล้วทัศนะใหม่หรือกมมุดอนั้นไม่เข้าใจเลยหรือว่า..การกระทำในสิ่งที่เป็นความดีแม้การว่าในอัลกรอานและซุนนะไม่ได้บอกไว้  เรามนุษย์สามารถที่จะช่วยเหลือหรือกระทำได้..

ก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมทัศนะใหม่จึงหยึดอยู่กับที่ในเรื่องการส่งเสริมในด้านศาสนา..และบางก็ฮุกมว่า บิดอะดอลาละ...จนต้องตกนรก


ทำไมเหมือนกับชาวมัสหับทั้ง4บ้าง.ที่เขาไม่โจมตีการกระทำในแต่ละมัสหับหลังจากที่อุลามะได้ทำการวินิจฉัยและอิตติมาอะแล้ว..เฮ้อ...งง..

8
ฟัตวา หาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองแบบนี้ สร้างรายได้ให้กับกลุ่มธุระกิจทัวร์การท่องเทียวอย่างมหาศาล..อ.มุรีดจึงทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์และธุรกิจตัวเองอยู่ได้..

การเปิดทัวร์แล้วอ้างว่าเพื่อฟัตวาสัญจรนั้นคือข้ออ้างของ โต๊ะครูซอเฮรผู้นี้  ด้วยเหตุผลที่ต้องการรู้ว่า ขณะนี้พลพรรคของตนยังเหลืออีกกี่คน
แบบว่า..เวปไวด์ตนเองก็แทบเงและงานเขียนหนังสือก็ใกล้จะถึงจุดจบ..งานบรรยายที่มักสร้างความแตกแยกก็ใกล้จะอวสาน 
ดังนั้น การเปิดทัวร์แล้วอ้างว่าฟัตวาสัญจรนั้น เป็นการโยนหินถามทางของ อ.มุรีด ที่น่าละอายมาก
ทั้งที่เป็นการกระทำที่ไม่มีคำสอนในอัลกรุอานและแบบอย่างท่านนบีรวมทั้งซอฮาบะและสลัฟที่ดีกระทำมาก่อน..
ตอนนี้อัลเลาะ(ซบ)ให้เราได้เห็นถึงผลพวงของการที่มุรีดโจมตีงานดะวะห์ของพี่น้องตับลีค ที่ออกดาวะทั่วประเทศ.อ.มุรีดเคยกล่าวหาว่างานดาวะนั้นคือทัวร์ดีๆๆนี้เองมาครั้งนี้ สิ่งที่ท่านกระทำนั้นกลับมาหาตนเองโดยการเปิดทัวร์สัญจรโดยอ้างว่าเป็นการฟัตวา 

นี้แหละคืออุตริกรรมหรือบิดอะหลงทางอย่างชัดแจ้งละครับพี่น้อง

หน้า: [1]