แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - idristime

หน้า: [1]
1
http://www.alisuasaming.com/qa/index.php?topic=96.0

บังแดง
  ละหมาดตามหลังวาฮาบีย์เซาะห์หรือปล่าว
« เมื่อ: ตุลาคม 04, 2008, 10:12:18 pm » 
--------------------------------------------------------------------------------
อยากทราบอ่ะครับ เห็นมีคนบอกว่า คนอากีดะห์เสีย ละหมาดตามไม่ได้ ช่วยอธิบาย คน บอดอ อย่างผมด้วยครับ 

อ.อาลี เสือสมิง

  Re: ละหมาดตามหลังวาฮาบีย์เซาะห์หรือปล่าว
« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2008, 07:16:23 pm » 

--------------------------------------------------------------------------------

الحمدلله والصلاة والسلام على رسول الله وبعد  ؛


นักวิชาการสังกัดมัซฮับอัชชาฟิอีย์ กล่าวว่า : การละหมาดตามหลังคนฟาซิกนั้นถือว่าใช้ได้ ไม่ใช่สิ่งต้องห้าม แต่เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ (มักโระฮฺ) และเช่นกัน การละหมาดตามหลังผู้ประกอบอุตริกรรม (มุบตะดิอฺ) ซึ่งมิได้ตกศาสนา (กุฟร์) ด้วยการทำอุตริกรรมของตนนั้นเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ (มักโระฮฺ) และการละหมาดนั้นใช้ได้ (เซาะฮฺ) แต่ถ้าหากผู้ประกอบอุตริกรรมนั้นตกศาสนา (กุฟร์) ด้วยการทำอุตริกรรม (บิดอะฮฺ) ของตน  ก็ถือว่าการละหมาดตามบุคคลเช่นนี้ใช้ไม่ได้เหมือนกับผู้ปฏิเสธทั่วไป


และส่วนหนึ่งจากผู้ที่ตกศาสนา (กุฟร์) นั้นคือผู้ที่กล่าวว่าพระองค์อัลลอฮฺ (ซ.บ.) มีเรือนร่างเช่นมนุษย์อย่างชัดเจน และผู้ที่ปฏิเสธความรู้ของพระองค์อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ในส่วนที่เป็นรายละเอียด ส่วนพวกมุอฺตะซิละฮฺ (ที่กล่าวว่าอัลกุรอานเป็นมัคลู๊ก) นั้น ท่านอัลกอฟฟาลและนักวิชาการสังกัดมัซฮับอัชชาฟิอีย์จำนวนมากกล่าวว่า : อนุญาตให้ละหมาดตามพวกเขาได้ อิหม่ามอันนะวาวีย์ (ร.ฮ.) ระบุว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และท่านอิหม่ามอัชชาฟิอีย์ (ร.ฎ.) ระบุว่า : ชาวสะลัฟและคอลัฟยังคงเห็นว่าให้ละหมาดตามหลังพวกมุอฺตะซิละฮฺและพวกที่เหมือนพวกเขาและมีการสมรสและรับมรดกตลอดจนการใช้หลักการทั่วไปกับพวกเขา (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน อัลมัจญ์มูอฺ ชัรฮุ้ลมุฮัซซับ ; อันนะวาวีย์ เล่มที่ 4 หน้า 150-151)


ส่วนการละหมาดตามหลังวะฮาบีย์นั้นถือว่าใช้ได้ (เซาะฮฺ) ลองคิดดูง่าย ๆ ว่า ถ้าการละหมาดตามหลังวะฮาบีย์ใช้ไม่ได้ คนที่ละหมาด ณ มัสญิดหะรอมทั้งสองแห่งจะเป็นเช่นไร? และนักเรียนไทยที่ไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยอิสลามียะฮฺ นครม่าดีนะฮฺเป็นเวลาหลายปี ละหมาดของพวกเขาจะเป็นอย่างไร?


และวะฮาบีย์นั้นจริง ๆ แล้วคือผู้ที่สังกัดมัซฮับฮัมบะลีย์ และอะฮฺลุลหะดีษ ถือตามแนวทางของสะลัฟในเรื่องหลักความเชื่อ (อะกีดะฮฺ) พวกเขาเรียกตัวเองว่า “อัสสะละฟียะฮฺ” มิใช่ วะฮาบีย์ เพราะคำว่าวะฮาบีย์เป็นการใช้คำเรียกขานในแง่ลบและเป็นการโจมตีนั่นเอง! หากท่านอยากทราบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ลองสอบถาม ดร.อับดุลลอฮฺ หนุ่มสุข ดู อินชาอัลลอฮฺท่านจะได้รับความกระจ่างว่า แท้ที่จริงแล้ววะฮาบีย์เป็นใครกันแน่!


والله أعلم بالصواب
 
 

2
salam

         ได้นั่งคิดว่า  คือ พูด แบบวัยรุ่นเลยนะคับ จะได้เข้าใจง่าย เดี๋ยวนี้ มีคนคนะเก่าอะ รับ คนะใหม่ เยอะเหลือเกิน แต่ไม่เหนเลยว่าจะมีจากคนะใหม่รับคนะเก่า มันแปลกดี ที่ว่า นับวัน คนะใหม่ ยิ่ง เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่ผมยกมานี้นะคับ ไม่ได้แบ่งแยกเปนกลุ่มๆ นะคับ แต่มันเปนจากการสังเกตดูของผม ผมจึงเข้ามาเขียน


เห็นด้วยว่าเพิ่มขึ้นทุกวันๆ

...หากเริ่มจากศูนย์  ก็ต้องมีอัตตาเพิ่มเป็นธรรมดา  ทั้งชีอะฮ์และวะฮาบีย์ก็มีเพิ่มขึ้น  เพราะที่เมืองไทยพวกเขาทั้งวะฮาบีและชีอะฮ์เริ่มมาจากศูนย์  ดังนั้นพี่น้องลองสังเกตุดูในปัจจุบันว่า  คนติดยาเสพติดลุ่มหลงเมามายมีอัตราเพิ่มขึ้น  ก็ไม่ได้หมายความว่ามันคือสัจธรรม...


เห็นด้วยว่าคณะใหม่เพิ่มขึ้นทุกๆ วัน แต่คณะเก่าลดลงเรื่อยๆ

ไม่ใช่เห็นด้วยว่าเพิ่มขึ้นทุกๆ วันจากศูนย์

3
ที่เจอบ่อยๆส่วนใหญ่จะคอยถามเอาหลักฐานตลอด ตอนเวลาเราคุยเรื่องแฟกอฮด้วยกันแล้วพอดีเรื่องนั้นเขาไม่เคยเจอหรือไม่เคยได้ยินมาก่อน เพราะเขาไม่มั่นใจว่าที่เราบอกไปนั้นถูก


ถ้าไม่ถามหาหลักฐาน เราก็ไม่รู้ว่าคนที่กำลังบอกเราเรื่องนั้นๆ มีที่มาจากอัลกรุอ่าน,นบีหรือศอฮาบะหรือเปล่า

4
salam

         ได้นั่งคิดว่า  คือ พูด แบบวัยรุ่นเลยนะคับ จะได้เข้าใจง่าย เดี๋ยวนี้ มีคนคนะเก่าอะ รับ คนะใหม่ เยอะเหลือเกิน แต่ไม่เหนเลยว่าจะมีจากคนะใหม่รับคนะเก่า มันแปลกดี ที่ว่า นับวัน คนะใหม่ ยิ่ง เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่ผมยกมานี้นะคับ ไม่ได้แบ่งแยกเปนกลุ่มๆ นะคับ แต่มันเปนจากการสังเกตดูของผม ผมจึงเข้ามาเขียน


เห็นด้วยว่าเพิ่มขึ้นทุกวันๆ

หน้า: [1]