11
« เมื่อ: ต.ค. 06, 2008, 08:52 PM »
ยาซากั้ลลอฮ์ พี่น้องที่รักของ อ.ล ท่าน Al Fatoni ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนะครับ
เทียบกับตอนนี้ มันเกิดความแตกต่างมากเลยครับ เพื่อนของเพื่อนผมอีกที ตอนที่ผมไปเยี่ยมเขากับเพื่อน ตอนนั้นยังเป็นคนเงียบๆ ไม่สุงสิงกับใคร คล้ายๆ กับไม่เข้าสังคม พ่อแม่ก้ไม่ค่อยเคร่งศาสนา แต่สามปีให้หลัง ล่าสุดที่ไปเยี่ยม มันเหมือนโกหกอะครับ เขาเปลี่ยนเป็นคนละคนเลย ตอนนี้เขาได้เป็นอมีรฺดะอฺวะฮ์ที่อายุน้อยที่สุดในแถบนั้น มาชาอัลลอฮฺ ผมยังรู้สึกละอายใจครับ ที่สามที่แล้วจนถึงตอนนี้ ผมเซ่ออยู่อย่างไรก็เซ่ออยู่ไม่เคยสาง ทุกครั้งที่คุยด้วย เขาจะสุภาพมาก คุยเรื่องอัลลอฮฺ เรื่องศาสนาและอื่นๆที่ดีงาม เป็นบรรยายที่น่าจดจำครับ - วัลลอฮุ อะอฺลัม
ครับในกรณีของเพื่อนคุณ กระผมเห็นมาเยอะครับ งานดะวะห์ เป็น งาน อิสละ ปรับปรุงตัวเอง ครับ กระผมก็เป็นเช่นท่านครับ เมื่อตอนอยู่ ม.4-5 4-5ปีที่แล้ว ผมได้สัมผัส และได้ ออกดะวะห์ ในตอนนั้น ไม่ว่าจะทำอะไรก็ รู้สึกว่ามีความต้องการที่จะ ปฎิยัติ อามั้ล มาก แต่เมื่อ หยุดจาก การเชื่อมโยงกับงาน ก็กลับไปเป็น เด็กวัยรุ่น ธรรมดา เซ่อๆ เรื่อยเปื่อย ละหมาดบ้าง ไม่ละหมาดบ้าง จนคิดว่าไม่ไหวแล้วมันไม่ใช่แนวทางเลย ยิง่งตามดนยา ในตัวเราไม่ได้มีอะไรที่เป็นซุนนะฮฺเลย แต่ อั้ลฮำดุลิ้ล ละ ผมตัดสินใจ ออก 40 วัน หลังจากนั้น กลับมาบ้านปฎิบัติ ตาม ตัรเต้ป ได้บ้างไม่ได้ บ้าง แต่ ฮำดุลิ้ล ละ รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง จากการที่ละหมาดบ้างไม่ละหมาดบ้าง ถือศีลอดบ้างไม่ถือ บ้าง อั้ลฮำดุดิ้ลละ หลังจากออก ดาวะหฺ และกลับมาก็รักษาอาม้าล วากอมี่ได้ทำให้ รักษาละหมาด และถือศีลอด ครบ จากที่ไม่ค่อยได้อ่านอัลกรุอ่าน ก็ได้รักษา อามั้ลการอ่านกรุอ่านเกือบทุกวันครับ
และพี่น้องของผมใน ญามาอะ หลายคนเคย ติดยาเสพ ติด และด้วยกับ ความเมตตาของพระองค์ อ.ล ที่ให้การเปลี่ยน แปลง ทำให้สามารถเลิก และ ยับยั้งจากความชั่ว ได้ บางท่านอาจ กล่าวว่า การออกดะวหฺ เป็นงานของ บรรดานบี และไม่มีหลักฐานว่า ต้อง ออก 3 วัน 40 4เดือน กระผมอยากบอกว่า การออก3วัน 40วัน 4เดือน นั้น เป็นเพียง ตัรเตป (ขั้นตอนในการออก) หากเปรียบเปรย ก็เหมือนการ อ่านกรุอ่าน มันต้องเริ่มเรียนจาก อลิฟ บา ตา ก่อน มันเป็นขั้นตอนไปสู่การอ่าน กรุอ่าน ที่ถูกต้องครับ และเหมือนเราเรียนหนังสือ เราต้องเรียนจากขั้นอนุบาล ป.1 ป.2 มีใครบ้างมั้ยที่อ่านออกเขียนได้โดยไม่ ข้ามขั้นตอน(บุคคลทั่วไปนะครับ ไม่รวมถึงบรรดานบีและผู่ที่พระองค์ อ.ล ทรงประสงค์) และงานดะวะ นั้นทำให้เราได้เชื่อมโยงกับมัสยิด หากท่านสังเกตุ การละหมาดที่บ้านกับที่มัสยิด ของเรานั้นแตก ต่างกันมาก เช่นกระผมเอง ละหมาดที่บ้าน(ฟัรดู) ก็ได้แค่ละหมาดฟัรดู ไม่ได้ละหมาดสุนาซ เเลย (ไม่แน่ใจในการพิมว่า สุนัต หรือสุนาซ) แต่เมื่อเราได้ไปละหมาดที่มัสยิด (หรือที่ๆมีเสียง อะซานเช่นบาลาย) บางครั้งเราขี้เกียจละหมาด สุนาซ แต่เมื่อเราเห็นผู้ อื้นเราก็เกิดความต้องการที่จะละหมาด สุนาซด้วยเป็นเหตุ ให้เรา สามารถรักษา ละหมาดสุนาซไปในตัวเองเลย กล่าวคือ การละหมาดเป็น ญามาอะ ที่มัสยิด การไปเชื่อมโยง ที่มัสยิด ทำให้เกิด สภาพแวดล้อมที่มีความต้อง การ ประกอบบ อิบาดัร ครับ
และ การดาวะห์ เป็นทางที่ทำให้เกิดสิ่งแวดล้อมเช่น นี้ครับ ทำให้เรานำตัวของเรา ไปสู่สภาพแวดล้อมที่ดี ที่มีแต่การประกอบการ ดี ได้ครับด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตัวเรา โดยที่เราไม่รู้ตัว (หากพูดตามหลักการ) แต่ในเรื่อง ยาเก็นนี่ละครับ ผู้ใดที่ต้องการ อิสละ ปรับปรุงตนเอง พระองคฺ อ.ล ทรงเปลี่ยนแปลง ท่านเคยได้ยิน มั้ย ครับ ที่ว่า " หากเราเข้าหา อ.ล 1คืบ พระองค์ จะเข้าหาเอา 1 ศอก และเมื่อเราคลานเข้าหาพระองค์ พระองค์จะทรงเดินมาหาเรา และเมื่อเรา เดินเข้าหาพระองค์ พระองค์จะทรงวิ่งเข้ามาหาเรา" อากับกริยาที่ เกี่ยวกับพระองค์ เป็นเพียงการเปรียบเปรย ครับ(กลัวว่าจะเข้าใจผิด ว่านี่มันเป็นการ กุฟูร เพราะพระองค์ ทรงต่างกับของใหม่(ไม่สอดคล้องกับซีฟัตของ พระองค์)
ที่กระผมเล่ามานี่ ในบางสิ่งบางอย่างมีข้อผิดพลาดขอได้โปรดมาอัฟให้ด้วย นะครับ และที่กระผมเล่ามานี่ กระผมก็มิใช่คนที่มีอีหม่านอาม้าล มิใช่คนที่มีความรู้ กระผมเป็นเพียง บ่าวผู้อ่อนแอ ผู้ที่ ยังไม่มีอีหม่านต่อ พระองค์เลย (ตามความคิดของผม) หากผม มีอีหม่าน กระผมคงไม่ได้ มาเสวนา หรือเล่น คอม อินเตอร์เน็ต (คงอยู่ในการรำลึก ถึง อ.ล ด้วยการ ซิกิร ไม่ก็ อ่านกรุอ่าน ) และกระผมก็ รู้ดีในความ ซอเล่ม ของตัวเองเฉกเช่นทุก ท่าน บรรดาพี่น้องที่รัก บรรดาผู้มีอีหม่านต่อ อ.ล กระผมเพียงหวังในความเมตตาของพระองค์ ผู้ทรงเมตตายิ่งผู้ทรงอภัยยิ่ง ผู้ทรงเมตตา กรุณาปราณี เสมอ และผมเชื่อว่า พี่น้อง ทุกท่าน มีอีหม่าน ศรัทธา มากกว่ากระผมเสียอีก พี่น้องที่รัก ของ อ.ล โปรดเข้าใจเถิดว่ากระผมมิได้ เจตนากล่าวว่าผู้ใด เพราะกระผมเชื่อว่า ทุกท่าน มีเหนียตในการ ศึกษา หาความรู้เพียงเท่านั้น อัสตักฟีรุ้ลลออฮฺฮะอินนั้ลลอฮฺ ฮะฆอฟูรุดรอฮีม
และกระผมก็เชื่อ อีกว่าทุกท่าน กำลังศึกษา เพื่อ อิสละ ปรับปรุงตนเอง และทุกท่านก็ คงหวังในความเตตาของ พระองคฺ เฉกเช่นเดียวกัน ว่าสักวันหนึ่ง ด้วยกับความเมตตาของพระองคฺพระองคฺ จะทรงเปลี่ยนแปลงตัวของเรา ให้มีอีหม่าน ศรัทธา ที่แท้จริง อย่างแน่นอน
ลาอีลาฮะอิ้ลลาอันตะซุบฮานากะ อินีกุน ตุ มีนัซ ซอลิมีน
มหาบริสุทธ์แด่พระองค์ แท้ที่จริงบ่าวเป็นผู้หนึ่งในหมู่ผู้ ซอเล่ม (อธรรม)ทั้งหลาย