แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - kirah_l

หน้า: [1] 2
1
อ้างถึง
ข้อความโดย: astaqfirullah 
ใส่การอ้างถึงคำพูด
อยากให้ชี้แจงในประเด็นอื่นๆด้วยคับดังนี้
1.อุมัรบุตร ของคอตอบกล่าวว่า: แท้จริงกิจการต่างๆมาจากทางโน้น พร้อมกับชี้นิ้วไปบนฟ้า (บันทึกโดย อิหม่าม อัชซาฮอาบี ในหนังสือของท่านและท่านกล่าวว่าสายรายงานนี้ถูกต้อง )

2.จากอิบนุ อับบาสท่านได้กล่าวว่า แท้จริงท่านรอซูล(ซ.ล)ได้กล่าวคุตบะฮฺต่อหน้าผู้คนในวัน นัหร์(วันที่ 10 ซุลฮิจญะฮฺ อิบนุ อับบาสได้กล่าวต่ออีกว่า ขณะที่ท่านนบีกล่าวคุตบะฮฺอยู่นั้น ท่าน นบีได้เงยศรีษะของท่านสู่ท้องฟ้าพร้อมกับกล่าวว่า โอ้อัลลอฮฺพระผู้อภิบาลของฉัน ไม่ใช่ข้าพระองค์ทำหน้าที่เป็นผู้ประกาศดอกหรือ? โอ้พระผู้อภิบาลของฉันไม่ใช่ข้าพระองค์ได้ประกาศแล้วดอกหรือ? (บันทึกโดย บุคอรี เล่ม2 หน้า 191 )

3.อิหมามอะหมัด ท่านได้กล่าวว่า ถูกต้องแล้วพระองค์อัลลอฮฺสถิตอยู่บนบัลลังก์ของพระองค์ ไม่มีสิ่งใดที่จะปกปิดในความรอบรู้ของพระองค์

4.อิหม่ามติรมีซี ท่านได้กล่าวว่า อูลามะ(ผู้มีความรู้) ได้กล่าวว่า แท้จริงพระองค์อัลลอฮฺทรงสถิตอยู่บนบัลลังก์ ตามที่พระองค์ได้แจ้งไว้ด้วยพระองค์เอง ( อ้างมาจาก หนังสือ อัล อุลู โดยอิหมามซาฮาบี )

ขอบคุณครับ

สงสัยต้องให้คนอื่นเขาอธิบายว่าจะว่าอย่างไร เพราะสิ่งที่ท่านกล่าวมาคือ อากีดะของชาวอะลิสซุนนะวัลญามะ มันชัดเจน ตามที่พระองค์ได้แจ้งไว้ด้วยพระองค์เอง

2
ผมก็บอกคุณแล้วไง ว่าเราไม่ต้องรู้ว่าอยูอย่างไร อยู่ตรงใหน เพราะมันเกินมันสมองของมนุษย์  ( เซเรบลัม มันมีน้อย 555+ ) เชื่อเท่าที่พระองทรงบอกคือจบ ไม่ต้องตั้งถามว่า อยู่อย่างไร อยู่ตรงใหน อยู่กับใคร มันเกินสติปัญญา

3
ผมไม่ได้ปฎิเสธสิ่งเหนือธรรมชาติ ที่อัลเลาะทรงประทานให้แก่คนที่พระองค์ทรงประสงค์ แล้วคุณยืนยันว่าสิ่งที่เกิดกับเชคดาวุดเป็นความจริง  ผมไม่ได้ปฎิเสธว่า ท่านนบีทรงผ่าดวงจันทร์เป็นสองซีก หรือมัวะญิซาตต่างๆ แต่ผมถามว่า สิ่งที่เกิดกับเชคดาวุดเป็นความจริง คุณรู้อย่างไร ถ้าไม่เกิดเท่ากับว่าคุณโกหกใส่เชคดาวุดนะครับ.

4
เพราะส่วนมากคนเป็นซูฟี พอเรียนนานๆ "กูคืออัลเลาะ อัลเลาะคือกู" ได้มาจาก หนังสือ ชื่อ ตอรีกุลลอ เขียนโดยอาจารแถวหนองจอกคู้ซ้าย อาจารไรหว่า.

5
อ้างถึง
[เรื่องที่ไม่เชื่อกะรอมัตเนี่ย  คุณ kirah_l  และคุณ *Qolbun_saleem* ไปศึกษามาเองว่าไม่มีกะรอมัตหลังจากสมัยท่านนบี หรือว่าบรรดาอาจารย์ของคุณสอนมาครับ อยากรู้มากๆ เลย/quote]

แล้วนาบียืนยันว่า อย่างไรละครับ  แน่นอน คนที่อิบาดะต่ออัลเลาะนั้นอัลเลาะตอบแทน แน่นอน  ผมถามว่าสิ่งที่เกิดกะเชคดาวุด คุณเห็นกับตาเหรอเปล่าหรือว่าเป็นแค่เรื่องเล่า  จากชายคนหนึ่งถึงชายคนหนึง  หรือจากลูกศิษคนหนึงแต่ไม่รู้ว่าลูกศิษคนนั้นมีจริงหรือเปลา  เอ้ หรือว่าฝันเห็นหว่า .

6
อ้างถึง
คนที่ทำ เขาก็รู้อยู่แก่ใจดีว่าทำขึ้นเอง ไม่ได้ให้ความสำคัญเท่า2รายอนั่น แต่มันก็มีฮิกมะของมันนะ คิดดูดีๆ ช่วยให้คนปอซอซูนัตครบ6วันเร็ว ไม่มีการผ่อนผันไปจนสิ้นเดือนแล้วยังปอซอไม่ครบ6 ช่วยให้ได้ละหมาดตัส แบฮนานๆครั้งสำหรับคนปกติที่ไม่ค่อยได้ละหมาดกัน ช่วยให้กูโบดูโล่งขึ้น ปราศจากพวกสัตว์ร้ายมีพิษไม่ให้มาทำร้ายคนที่จะเอาศพไปฝัง ฯลฯ


พวกคิดสั้น ไม่คิดให้รอบคอบถึงผลที่จะตามมา ก็บอกว่าเป็นบิดอัฮ

อ้า พูดอย่างนี้หมายความว่า คุณเอาสิ่งที่คุณเรียกว่า ฮิกมะ นำหน้าหลักการแล้วเหรอครับ  สิ่งที่อัลเลาะบอก นาบีสั่งมันมีหลักการในตัวของมันแล้ว  สิ่งที่เป็นศาสนาเราต้องเอาจากนาบี ส่วนเรื่องดุนยาคุณจะทำอย่างไง ไม่มีใครว่า เว้นแต่ศาสนา ได้ห้ามเอาไว้ .อย่าเอาสิ่งที่คุณคิดว่ามันดีแล้วไม่มีหลักฐานใช้มาทำเลย เสียเวลาเปล่า(ในเรื่องศาสนาน่ะ)

7
ผมไม่ได้ว่าอัลเลาะมีหูนะครับอย่ามั่ว ผมยกตัวอย่างให้ดูว่า คำที่เรียกเหมือนเเต่มีลักษณะต่างกัน   ตรงใหนที่ผมว่าอัลเลาะมีหู อย่าผิดประเด็น

8
คุณ colidlayla  เข้าใจผิดแล้วครับ  ถ้าผมไม่เชื่อการอมะของคนที่คุณยกขึ้นมา หรือเล่ากันมา แล้วผมไม่เชื่อนั้น  อากีดะของผมก็ไม่เสียหาย เพราะ  1. มันไม่ใช่สิ่งที่นั้นนบียืนยันว่ามันมีที่ใคร (คนวลียุลลอ นี้ นบียืนยันนะครับ)สมมติ คุณเล่าว่า มีโต๊ะครูคนหนึง หายตัวได้  แล้วผมบอกว่า  โม้เปล่า อากีดะผมไม่ได้เสียหาย และไม่จำเป็นต้องกล่าวชาฮาดะใหม่   2. มันไม่ช่สิ่งที่มีฮาดิษเล่า เเต่ถ้าเป็นสิ่งที่เกิดกับนาบีหรือมัวะญิศาต และมีฮาดิษยืนยัน อันนี้วายิบต้องเชื่อ

9
คุณเข้าใจผิดแล้วละครับคุณ  Al Fatoni  มันไม่ขัดหรอกครับ   สมมติผมพูดครับว่าหู คุณคิดว่ามันมีกี่ แบบละครับ    หูมนุษย์  หูช้าง  หูแมว มันมีลัษณะไม่เหมือนกัน  เพียงแต่เป็นเรียกหูเหมือนกัน.

10
ดีแฮะ ประหยัดดี เครื่องบินไม่ต้องนั่ง ไฟก็ไม่ต้องใช้    เออคุณ Fatoni มันไม่ใช่บะรอกะ เชคดาวูด บิน อับดุลลอฮฺ อัลฟฏอนีย์  มันเป็นความเมตตาของอัลเลาะต่างหากละ  ที่มีแก่สิ่งถูกสร้างทั้งหลาย ไม่ใช่เฉพาะคน 3 จว ว่างๆไปอ่านคุตบะตอนนที่ท่านอบูบักรอ่านในวันที่ท่านบีเสีบชีวิตดู .

11
คุณ นูรุ้ลอิสลาม  คุณอย่าเข้าใจผิดซิครับ  การสถิตของอัลเลาต่างจากสิ่งที่ถูกสร้าง  คุณไม่ต้องว่ามันมีลักษณะอย่างไร เพราะมันเกินวิสัยของมนุษย์ จงศรัทธาเท่าที่พระองค์ทรงบอกก็พอ

12
ท่านนอีมอิบนุฮัมมาด อัลคุซเอีย อาจารย์ของท่านอีหมามบุคอรี กล่าวว่า " ผู้ใดเปรียบเทียบอัลเลาะกับสิ่งที่ถูกสร้างของพระองค์  เขาผู้นั้นเป็นผู้ปฎิเสธศรัทธา  และผู้ใดปฎิเสธสิ่งที่อัลเลาะทรงให้คุณลักษณะของพระองเอง เขาผู้นั้นเป็นผูปฎิเสธสรัทธา"  ฉะนั้นผู้ใดก็ตามที่ยืนยันใหกับอัลเลาะในสิ่งที่พระองทรงยืนยัน ตามปรากฎในอายะที่ชัดแจ้งและในฮาดิษที่ซ่อเฮียะ  เขาผู้นั้นอยู่ในหนทางที่ถูกต้อง   วัลลอฮุอลัม.    วันนี้เเค่นี้ก่อนครับ ต้องเตรียมตัวไปเรียนต่อเเล้ว

13
อัลอิหม่ามอบูอับดิรเราะมาน อิบดิลลาฮิบนิลมูบาร็อก กล่าวว่า " เรารู้จักพระผู้เป็นเจ้าของเรา พระองทรงอยู่บนชั้นฟ้าทั้งหลายของพระอง บนบัลลังของพระอง แตกต่างจากสิ่งที่ถูกสร้าง"  และแน่นอน  หลักการเชื่อมั่นของชาวอลิสซุนนะมาจากหลักฐานที่ม่มาแต่ในอดีต ได้แก่ กุรอ่านและซุนนะ  และชาวอะลิสซุนนะยืนยันให้กับอัลเลาะในสิ่งที่พระองทรงยืนยันในพระองเอง    ใว้ในคัมภีร์กุรอ่าน และที่มาจากร่อซุลของอัลเลาะ  และพระองค์ทรงบริสุทธิ์ ปราศจากความเหมือนจากสิ่งที่ถูกสร้าง   ซึ่งพระองทรงตรัสว่า". และพวกเขาจะไม่นำข้อเปรียบเทียบ(ข้อสงสัย) ใด ๆ มายังเจ้าเว้นแต่เราจะได้นำความจริงมาให้เจ้า และการอธิบายอย่างดียิ่ง (เพื่อเป็นการตอบโต้)" อัลฟุรกอน 33

 

14
และส่วนหนึงต่อการศรัทธาต่ออัลเลาะเช่นเดียวกัน  ก็ได้แก่การศรัทธาใน พระนามอันประเสริฐ  และคุณลักษณะของพระองค์ ตามที่ปรากฎในคัมภีร์อันทรงเกิยรติของอัลเลาะ และที่ระบุเเชดจากร่อซูลรุลลอ โดยไม่มีการบิดเบือน  ไม่มีการถือว่าคุณลักษณะมิได้เป็นไปตามที่ระบุไว้ และไม่มีการเปรียบเทียบว่าเหมือนสิ่งใด หากแต่จำเป็นต้องถือตามที่มีมา ตามที่พระองค์ทรงตรัสไว้ในซูเราะอัซซูรอ อายะที่ 11 ความว่า " พระองค์ผู้ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน พระองค์ทรงทำให้มีคู่ครองแก่พวกเจ้า จากตัวของพวกเจ้าเอง และจากปศุสัตว์ทรงให้มีคู่ผัวเมีย ด้วยเหตุนี้พระองค์ทรงแพร่พันธุ์พวกเจ้าให้มากมาย ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์ และพระองค์เป็นผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงเห็น"   และอีกอายะหนึงในซุเราะอัลนะหลอายะที่ 11 ความว่า "ดังนั้น พวกเจ้าอย่ายกอุทาหรณ์ทั้งหลายกับอัลลอฮ์เลย แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงรอบรู้ และพวกเจ้าไม่รู้เท่าพระองค์ "  นี้คือหลักการเชือมั่นที่ถูกต้องของชาวอลุสซุนนะ

 

15
ต้องขอมาอัฟด้วยครับที่มาตอบกระทู้ช้าน่ะครับ ต้องเตรียมเอกสารไปเรียนต่อเฉพะทางต่างประเทศ  ญ่าซากัลลอครับคุณ Qolbun_saleem  ที่มาช่วยตอบก่อน   คุณ al-azhary  คุณอ้างเว็บมรดกใหนละครับหลักฐาน  มันเป็นหน้าที่ของผู้กล่าวอ้างที่จะต้องนำหลักฐานมา   งั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ผมขอเสริมคุณ  Qolbun_saleem   ในหนังสือตัฟฮีมุลกุรอ่านของเมาลานา ซัยยิด อบุล อะลาเมาดูดี ได้อธิบาย ซูเราะฮฺ อัซซุครุฟ   ที่คุณ al-azhary ตั้งเเง่ถามในครั้งนี้ว่า
وَهُوَ الَّذِي فِي السَّمَاءِ إِلَهٌ وَفِي الْأَرْضِ إِلَهٌ وَهُوَ الْحَكِيمُ الْعَلِيمُ
" และพระองค์คือพระเจ้าแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและพระเจ้าแงแผนดิน และฟระองค์เป็นผู้ทรงปรีชาญาณ เเละรอบรู้"
นั้นคือ  พระองค์ทรงอยู่เหนือกว่าการที่สิ่งใดจะเคียงคู่ในการเป็นพระเจ้าคู่กับพระองค์   และไม่มีสิ่งใดเป็นหุ้นส่วนในการสร้างของพระองค์  ไม่ว่าจะเป็นบรรดานบี มาลาอีกะ ญิน วิญญาณ  ทั้งหมดเป็นบ่าวที่อยู่ภายใต้อำนาจของพระองอัลเลาะ.

หน้า: [1] 2