ผู้เขียน หัวข้อ: รู้ไหมว่าทำไม ?  (อ่าน 29434 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #180 เมื่อ: เม.ย. 20, 2010, 02:41 PM »
0


รู้ไหมว่าทำไม "น้ำทะเลถึงเค็ม"


และรู้ไหมว่าทำไม "เวลาเราร้องไห้น้ำตาถึงต้องไหลออกมา" ;D


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #181 เมื่อ: เม.ย. 20, 2010, 03:02 PM »
0
bye everybody - Wassalamu'alaikum wa rahmatullah wa barakatuh.
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #182 เมื่อ: เม.ย. 23, 2010, 03:24 PM »
0


รู้ไหมว่าทำไม "น้ำทะเลถึงเค็ม"


และรู้ไหมว่าทำไม "เวลาเราร้องไห้น้ำตาถึงต้องไหลออกมา" ;D





วิสัชนี


แล้วทำไมทะเลถึงเค็ม ? เคยสงสัยกันบ้างไหม.....


ถ้าถามนักวิทยาศาสตร์จะได้คำตอบว่า ตอนที่เปลือกโลกเย็นตัวใหม่ๆ ยังมีเปลือกโลกบางส่วนปะทุอยู่บ้าง
ส่วนที่ปะทุนั้นจะพ่นก๊าซคลอรีนออกมาด้วย เมื่อก๊าซคลอรีนทำปฏิกิริยากับน้ำ
จะกลายเป็นกรดไฮโดรคลอริกปนอยู่ในทะเล
ต่อมาเจ้ากรดตัวนี้ไปจับขั้วกับแร่ธาตุต่างๆริมฝั่ง ทำให้แปรสภาพจากกรด มาเป็น เกลือ ละลายตัวอยู่ในทะเลนั่นเอง

.....หรือจะให้ลึกลงไปอีก ก็าซคลอรีนมีสูตรทางเคมีว่า CL2
พอไปเจอกับน้ำ H2O ทำให้เกิดปฏิกิริยากัน
กลายเป็นกรดโฮโดรคลอริก HCL บวกกับออกซิเยน O2
เมื่อกรดตัวนี้ไปรวมกับหินปูนตามชายฝั่ง
ซึ่งมีธาตุโซเดียม Na เป็นองค์ประกอบสำคัญและมีฤทธิ์เป็นด่าง
พอเจอกันเข้าโซเดียมเลยรวมตัวกับสารประกอบคลอไรด์
ในกรดโฮโดรคลอริก กลายเป็นเกลือโซเดียมคลอไรด์ NaCL2 ซึ่งมีรสเค็ม
ผสมกับน้ำตามสูตรที่ว่า กรดรวมกับด่าง
จะได้เกลือกับน้ำ ทะเลจึงเค็มด้วยประการฉะนี้




ง................................................................





ที่มา

http://www.kusolsuksa.com/webboard/index.php?topic=333.0




และ


ทำไมน้ำทะเลถึงเค็ม





 การที่ทะเลมีรสเค็ม เนื่องจากการรวมตัวของน้ำละลายเกลือแร่ ที่ถูกพัดพามาจากพื้นทวีป และใต้ทะเล
โดยความเค็มของทะเลจะมีความคงที่ สาเหตุที่ความเค็มของน้ำทะเลไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลานั้น
ก็เพราะในมหาสมุทรมีกระบวนการของธรรมชาติที่รักษาระดับความสมดุลของเกลือแร่
คือถ้าหากว่าธาตุชนิดใดมีในน้ำมากเกินกว่าปกติ ก็จะถูกกำจัดออกจากน้ำทะเล
โดยการแยกตัวออกเป็นของแข็ง ในทางตรงกันข้าม ถ้ามีธาตุใดละลายน้ำน้อยเกินปกติ
เกลือแร่ของธาตุนั้นในรูปของแข็ง ก็จะถูกละลายกลับสู่น้ำทะเล

ดังนั้น ความเค็มของน้ำทะเลจึงคงที่มาหลายล้านปีแล้ว
น้ำทะเลเค็มเพราะมีเกลือหลายชนิดละลายอยู่ ที่สำคัญที่สุดได้แก่ เกลือแกง
ซึ่งมีชื่อทางเคมีว่าโซเดียมคลอไรด์ หรือ มีสูตรเคมีว่า NaCl น้ำทะเล
โดยเฉลี่ยแล้วมีเกลือร้อยละ 3.5 หรือน้ำทะเล 1 ลิตรจะมีเกลือละลายอยู่ประมาณ 30 กรัม
ยิ่งไปกว่านั้น ทะเลในแผ่นดินใหญ่หรือทะเลปิด ซึ่งไม่เชื่อมต่อกับทะเลหรือมหาสมุทรทั่วไป
เช่น ทะเลเมดิเตอเรเนียนหรือทะเลแดง เกลือละลายอยู่มากกว่าทะเลหรือมหาสมุทรทั่วไป

ส่วนทะเลที่มีความเค็มมากที่สุดได้แก่ ทะเลเดดซี(Dead Sea) ในประเทศอิสราเอล
ซึ่งมีเนื้อที่เพียง 340 ตารางไมล์ เท่านั้น โดยมีปริมาณเกลือมากถึง 10,523,000,000 ตัน
ถ้าเราสามารถระเหยเอาน้ำทั้งหมดออกไปจากทุกทะเลและมหาสมุทรในโลกได้จนแหล่งน้ำเหล่านี้แห้งลง
จะพบว่า เกลือที่เหลืออยู่จะมีปริมาณมากมายมหาศาลจนเหลือเชื่อ
ถ้านำเกลือเหล่านี้ทั้งหมดมารวมเป็นกอง จะได้กำแพงที่สูง 180 ไมล์ และหนา 1 ไมล์
หรือมวลของเกลือทั้งหมดมีขนาดประมาณ 15 เท่าของมวลทั้งหมดของพื้นที่ทวีปยุโรป

เครดิต : dek-d.com :)
เขียนโดย + yeye + ที่ ๗:๒๘ 


ที่มา


http://yeyenokame.blogspot.com/2008/02/blog-post_15.html




ปล.ส่วนเรื่องราวของน้ำตา อินชาอัลลอฮฺ เอาไว้ค่อยหาคำตอบมาเฉลยอีกครั้งค่ะ
พี่น้องท่านใดอยากจะช่วยเสริมความรู้เพิ่มเติมแก่กันและกัน จะขอบคุณมากเลยค่ะ  ;D


วัสลามค่ะ


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #183 เมื่อ: ก.ย. 23, 2013, 09:41 AM »
0


ปล.ส่วนเรื่องราวของน้ำตา อินชาอัลลอฮฺ เอาไว้ค่อยหาคำตอบมาเฉลยอีกครั้งค่ะ
พี่น้องท่านใดอยากจะช่วยเสริมความรู้เพิ่มเติมแก่กันและกัน จะขอบคุณมากเลยค่ะ  ;D


วัสลามค่ะ





เหมือนว่าได้ลืมไปแล้ว วันนี้ อัลฮัมดุลิลลาฮฺ...ได้กลับมาต่อในสิ่งที่ค้างไว้เมื่อนานมาแล้ว...


รู้ไหมว่าทำไม

"เวลาเราร้องไห้น้ำตาถึงต้องไหลออกมา"


หลายครั้ง ที่น้ำตาของเราเอ่อไหลออกมาจากดวงตา หากจะคิดง่ายๆก็คงมีอยู่ 2 สาเหตุด้วยกัน

ก็คือ น้ำตาที่เกิดจากความสุข และ น้ำตาที่เกิดจากความทุกข์นั่นเอง

ทีนี้ เราจะมาลองเจาะลึกลงไปอีกสักนิด ดูซิว่าที่จริงแล้ว มันเกิดจากอะไรกันแน่นะ !?

เนื่องจาก สมองส่วนที่ควบคุมอารมณ์ของมนุษย์เรานั้น จะอยู่บริเวณดวงตา
เมื่อเราเกิดความทุกข์ สมองส่วนนั้นจะช่วย ระบาย หรือ คลายอารมณ์นั้นออกมา
ด้วยการปล่อยน้ำตาออกมานั่นเอง เพื่อทำให้ระบบประสาทรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

หลังจากร้องไห้แล้ว เราจะรู้สึก โล่งอก สบายใจ เป็นอารมณ์ที่ในบางครั้งก็อธิบายไม่ได้
นั่นก็เพราะ สมองได้ทำการผ่อนคลายอารมณ์ในตัวเราออกมานั่นเอง



ในทางกลับกัน น้ำตาที่เกิดจากความสุขนั้น ก็เพื่อตอบสนองความสุขของตัวเราให้มากยิ่งขึ้นไปอีก อารมณ์คล้ายกับคำว่า “ดีใจจนบอกไม่ได้ ทำอะไรไม่ถูก”

เพราะฉะนั้น น้ำตาที่ไหล ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากอารมณ์ใด สุขหรือทุกข์ ล้วนแต่มีไว้เพื่อ บรรเทา ผ่อนคลาย
และ ทวีความสุขของร่างกายให้มากขึ้นนั่นเอง


หากคนเราเกิดอาหารเครียด น้ำตาจะไหลออกมาบริเวณปลายตา ,
หากเครียดมากๆน้ำตาจะไหลออกมาบริเวณกลางดวงตา ,
หากใครไปทะเลาะกับแฟน ผิดหวังกับสิ่งต่างๆ อยู่ในอารมณ์ซึมเศร้า
น้ำตาจะไหลออกมาจากบริเวณมุมตา



ที่มา:   http://www.wegointer.com/2013/03/อยากรู้มั้ย-ทำไมน้ำตาจึ/







"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #184 เมื่อ: ก.ย. 23, 2013, 09:42 AM »
0
เสริม...

เวลาหัวเราะแล้วน้ำตาไหลเกิดจากมีการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าหลายๆ มัด
ทำให้เกิดแรงตึงและดึงกล้ามเนื้อบริเวณต่อมน้ำตา ทำให้ต่อมน้ำตาบีบตัวและน้ำตาที่บรรจุอยู่ภายในก็จะออกมา

ส่วนการที่ร้องไห้แล้วมีเหมือนน้ำมูกใสๆ เพราะ ถุงเก็บน้ำตา(Laccrimal sac)
ที่อยู่บริเวณหัวตานั้นนอกจากจะมีรูเปิดไปที่ดวงตาผ่านทาง Lacrimal canaliculi
แล้วมันยังมีลักษณะเป็นท่อยาว(lacrimal duct) ขนานจมูกแทงทะลุผ่านเข้าไปในกระดูก Nasal
ไปเปิดที่โพรงจมูกส่วนล่าง (Inferior nasal meatus)
ทำให้เวลาร้องไห้น้ำตาสามารถไหลผ่านท่อดังกล่าวไปที่จมูกได้ จึงเหมือนมีน้ำมูกใสออกมาทางจมูกด้วย


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #185 เมื่อ: ก.ย. 23, 2013, 09:50 AM »
+1
ยังมีน้ำตาอีกประเภทหนึ่งท่ีท่านรอซุลุ้ลลอฮฺได้กล่าวถึงเอาไว้

ความว่า...



ท่านอุซามะฮ์ บิน ซัยด์  ได้กล่าวว่า  "(ท่านหญิงซัยนับ)บุตรีของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
ได้ส่งสารมายังท่านนบี  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ฉัน , สะอัด , และอุบัย  ก็อยู่พร้อมกับท่าน (ในสารของบุตรีท่านนบีมีใจความว่า)

"บุตรของฉันกำลังใกล้เสียชีวิต"  ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงไปหานาง  แล้วให้สลาม 
และกล่าวว่า  เธอจงกล่าวว่า  ลิลลาฮิ มาอะค่อษะ วะมาอะฏอ วะกุลลุชัยอิน อินดะฮู อิลาอะญัล" 
(ผู้ที่อัลเลาะฮ์ได้เอาชีวิตเขาก็คือผู้ที่พระองค์ทรงให้ชีวิตแก่เขา 
ดังนั้นหากพระองค์ทรงเอาชีวิตเขา  ก็พระองค์ก็ทรงเอาชีวิตผู้ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์
และทุกสิ่ง ณ ที่พระองค์นั้น ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว) 

แล้วบุตรีของท่านนบีจึงกล่าวสาบานยืนยันกับท่านนบี(ในการเชื่อสิ่งที่ท่านได้ใช้ให้กล่าว) 
ดังนั้นท่านจึงมาที่นางแล้วเด็กน้อย(ผู้เป็นหลานของท่าน)จึงถูกนำมาวางไว้บนตักของท่านร่อซูลุลลอฮ์  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม 

เสียงหายใจของท่านสั่นเครือ  สองดวงตาของท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มีน้ำตาเอ่อนองออกมา 

ท่านสะอัด(คิดว่าการร้องไห้ต่อผู้ตายเป็นสิ่งต้องห้าม)จึงกล่าวแก่ท่านนบีว่า  นี้มันอะไรกันหรือ (โอ้ท่านร่อซูลุลลอฮ์)? 

ท่านนบีตอบว่า 

น้ำตาคือความเมตตา  ซึ่งอัลเลาะฮ์ทรงบรรจุไว้ในบรรดาหัวใจผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ 
และแท้จริงอัลเลาะฮ์ทรงเมตตาแก่ปวงบ่าวของพระองค์ที่มีความเมตตา"


รายงานโดยบุคอรี (5223) มุสลิม (1531) และท่านอะบูดาวูด (2718) ถ้อยคำฮะดีษเป็นของท่านอะบีดาวูด


วัสลามค่ะ
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged