بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْم
اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ اَلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ
หากวิเคราะห์จากประวัติการละหมาดในยุคเริ่มต้นของอิสลามนั้น
นักประวัติศาสตร์อิสลามบางส่วน ได้กล่าวว่า “การใช้ให้ละหมาดและทำการอาบน้ำละหมาดนั้น เกิดขึ้นในช่วงเวลาได้ลงมาหาท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เพื่อแจ้งข่าวว่า อัลเลาะฮ์ทรงเลือกท่านให้เป็นศาสนทูตแห่งมวลมนุษย์ชาติทั้งหมด และถูกส่งมายังญินและมนุษย์ และนักประวัติศาสตร์ได้กล่าวว่า แท้จริงญิบรีลได้ทำการสอนท่านร่อซูลุลลอฮ์ กับเรื่องการอาบน้ำละหมาดและการละหมาด ดังนั้นญิบรีบจึงทำการอาบน้ำละหมาด และท่านร่อซูลก็ทำการอาบน้ำละหมาดพร้อมกับญิบรีล หลังจากนั้นญิบรีลก็ทำการละหมาดและท่านร่อซูลก็ทำการละหมาดพร้อมกับญิบรีล ขณะที่วะฮีได้หายไป ท่านร่อซูลก็ไปหาท่านหญิงค่อดีญะฮ์ และทำการสอนนางให้ทำการอาบน้ำละหมาดตามที่ได้เรียนมาจากญิบรีล และได้ทำการละหมาดพร้อมกับนาง เหมือนกับการละหมาดที่ท่านร่อซูลได้ละหมาดพร้อมกับญิบรีล" (ซีเราะห์อิบนุฮิชาม 1/155 , อัซซีเราะฮ์อัลฮะละบียะฮ์ 1/252 , ตารีค อัลกามิล ของอิบนุอะษีร 2/22 , ตารีค อัฏฏ่อบะรีย์ 2 /304)
จากประวัติศาสตร์ตรงนี้ ปรากฏว่าท่านญิบรีลได้สอนการอาบน้ำละหมาดและวิธีการละหมาดแบบ 2 ร่อกะอัต และหลังจากอิสรออฺแล้วท่านญิบรีลก็ลงมาสอนการละหมาด 5 เวลาแบบสอง , สาม , และสี่ ร่อกะอัต ดังนั้นการละหมาดก่อนอิสรออฺก็คือวิธีการละหมาดที่เราทราบกันดีนั่นเองครับ
มีประเด็นปัญหาหนึ่งได้ถามกับอิมามอันนะวาวีย์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่า
คำถาม : ได้รับการยืนยันไว้หรือไม่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้(นำ)ละหมาดพร้อมกับบรรดานบีในคืนอิสรออฺที่บัยตุลมักดิสหรือไม่? และการละหมาดนั้นวายิบหรือไม่? และการละหมาดนี้เป็นที่รู้กันดูหรือว่าเป็นการขอดุอา....?
ตอบ : ใช่แล้ว ได้รับการยืนยันว่า นบีของเราได้ทำการละหมาดพร้อมกับบรรดานบีในคืนอิสรออฺ ณ บัยตุลมักดิส หลังจากนั้นมีการตีความกันว่าการละหมาดนั้นก่อนที่จะขึ้นไปสู่ฟากฟ้าหรือหลังจากที่ลงฟากฟ้ามาแล้ว และบรรดานักปราชญ์ได้ขัดแย้งกันเกี่ยวกับละหมาดนี้ บางทัศนะกล่าวว่า : มันเป็นการละหมาดในเชิงภาษา ยคือการขอดุอาและการซิกิร และบางทัศนะกล่าวว่า มันคือละหมาดที่รู้กันดี (คือมีการยืน , ร่อกั๊วะ , สุยูด , นั่งตะฮียะฮ์ , และให้สลาม เป็นต้น) ซึ่งทัศนะนี้ ชัดเจนยิ่งกว่า เพราะถ้อคำ(ละหมาด)นั้น ถูกตีความอยู่บนความหมายตามหลักแก่นแท้ของ(ฟิกห์)นิติศาสตร์อิสลาม(คือหมายถึงละหมาดที่เรารู้จักกันดี)ก่อนหลักภาษา(ที่อยู่ในความหมายดุอาและซิกิร) แต่ทว่าแท้จริงเราจะทำการตีความตามหลักภาษาก็ต่อเมื่อมีอุปสรรค์ในการตีความตามแก่นแท้ของหลักนิติศาสตร์อิสลาม แต่ ณ ที่นี้ก็ไม่มีอุปสรรค์อันใด ดังนั้นจึงวายิบต้องตีความการละหมาดให้อยู่บนความหมายตามหลักนิติศาสตร์อิสลาม และการละหมาดนั้นวายิบก่อนคืนอิสรออฺ คือการวายิบนั้นในการละหมาดบางส่วนของคืนเหมือนกับที่อัลเลาะฮ์ตะอาลาได้ระบุไว้ในซูเราะฮ์ อัลมุซซัมมิล และการวายิบละหมาดครั้งแรกนั้น ก็ได้ระบุไว้ในช่วงแรกของซูเราะฮ์ดังกล่าว ซึ่งพระองค์ได้ทรงตรัสว่า "โอ้ผู้ห่มผ้า (หมายถึงนบีมุฮัมมัดซึ่งกำลังห่มผ้า) - 1 - เจ้าจงตื่นกลางคืน(เพื่อทำละหมาด)เถิด ยกเว้นเพียง(เวลา)เล็กน้อย (เพื่อใช้ในการพักผ่อน) - 2 - (นั่นคือ) ครึ่งคืน หรือจงลดลงจากนั้นลงมาสักเล็กน้อย - 3 - หรือจงเพิ่งขึ้นกว่านั้นอีก และเจ้าจงอ่านอัลกุรอานให้ถูกต้องชัดเจน - 4 - " ซูเราะฮ์อัลมุซัมมิล หลังจากหนึ่งปีอัลเลาะฮ์ก็ทรงยกเลิกสิ่งดังกล่าว ด้วยคำตรัสของพระองค์ในท้ายซูเราะฮ์ที่ว่า "ดังนั้นพวกเจ้าจงอ่านส่วนที่ง่ายสำหรับพวกเจ้า" อัลมุซัมมิล 20 หลังจากนั้นพระองค์ก็ทรงยกเลิกการละหมาดในยามค่ำคืนในคืนอิสรออฺ และได้กำหนดละหมาดฟัรดูในคืนนั้น..." ดู ฟะตาวาอิมามอันนะวาวีย์ หน้า 83 - 84 ตีพิมพ์ ดารุลอิชร็อก ฮ.ศ. 1422 - ค.ศ. 2001
وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ