ข้อเตือนใจให้ครุ่นคิด ใช้เตือนจิต ผิดสำนึก ระลึกไว้ให้จงดี..
ฉันรู้สึกแปลกใจเหลือเกิน..กับผู้คนทั้งหลายที่ต่างก็มั่นใจเหลือเกินว่าสักวัน ๑ ความตายนั้นจะมาเยือนเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
..แต่เพราะเหตุอันใดเล่า เขาจึงไม่ยอมเสียสละละทิ้งซึ่งความสนุกสนานแห่งโลกดุนยานี้เสียที
ฉันรู้สึกแปลกใจเหลือเกิน..กับผู้คนทั้งหลายที่ต่างก็มั่นใจกับการสอบสวนในโลกหน้าว่ามันจะต้องเกิดขึ้นจริงๆ
..แต่เพราะเหตุอันใดเล่า เขาจึงยังหมกมุ่นอยู่กับการสะสมทรัพย์สินที่นับวัน มีแต่จะเป็นภาระที่ยิ่งใหญ่ให้แก่เขา
ฉันรู้สึกแปลกใจเหลือเกิน..กับผู้คนทั้งหลายที่ต่างก็มั่นใจว่าการลงโทษในกุโบร์ย่อมประสบกับเขาแน่นอน
..แต่เพราะเหตุอันใดเล่า เขาจึงยังคงหัวเราะอยู่และยังคงคิดว่าตัวเองมีเกียรติและสง่าโดยมิได้คำนึงครุ่นคิดถึงเหตุการณ์อันยิ่งใหญ่ที่ต้องประสบหลังความตาย
ฉันรู้สึกแปลกใจเหลือเกิน..กับผู้คนทั้งหลายที่ต่างก็มั่นใจว่า แท้จริงแล้วความตายจะประสบกับเขาเพียงลำพัง เขาต้องอยู่ในกุโบร์เพียงคนเดียว
..แต่เพราะเหตุอันใดเล่า เขายังคงแสวงหาความสุขท่ามกลางมนุษย์อยู่เป็นนิจสิน โดยไม่ได้ฝึกตนให้พร้อมกับภาวะที่ต้องอยู่คนเดียวอย่างเดียวดาย
ฉันรู้สึกแปลกใจเหลือเกิน..กับผู้คนทั้งหลายที่ต่างก็มั่นใจและเชื่อมั่นกับการอุบัติขึ้นของวันปรโลก ที่จะนำมาซึ่งความสับสนวุ่นวายในหน้าแผ่นดิน
..แต่เพราะเหตุอันใดเล่าเขายังคงอยู่นิ่งเฉยได้อย่างแนบสนิทใจ โดยไม่คิดที่จะเตรียมตัวเพื่อรับมือกับมัน
ฉันรู้สึกแปลกใจเหลือเกิน..กับผู้คนทั้งหลายที่ต่างก็มั่นใจอย่างสุดฤทธิ์ว่า ที่สุดแล้วโลกนี้นั้นต้องถึงกาลดับสูญ แตกสลาย วายวอด
..แต่เพราะเหตุอันใดเล่า เขายังคงก่อสร้างรากฐานอันมั่นคงไว้บนโลกนี้ โดยไม่ได้คิดที่จะก่อสร้างสถานที่ที่เขากำลังจะเดินทางไปหาให้มั่นคงยิ่งกว่า
ฉันรู้สึกแปลกใจเหลือเกิน..กับผู้คนทั้งหลายที่ต่างก็ทราบแล้วอยู่เต็มอกว่า อัลลอฮฺทรงมองและสอดส่องมายังเขาอยู่เสมอ
..แต่เพราะเหตุอันใดเล่า เขายังคงทำชั่วได้อย่างหน้าชื่น ตาบานโดยไม่แยแสต่อการสอดส่องของพระองค์เลยแม้แต่น้อย
ฉันรู้สึกแปลกใจเหลือเกิน..กับผู้คนทั้งหลายที่ต่างก็สาละวนอยู่กับปมด้อยของมนุษย์ ในขณะเดียวกันตัวของเขาเองกลับละเลย เฉยเมยต่อปมด้อยและข้อบกพร่องของตัวเอง
ฉันรู้สึกแปลกใจเหลือเกิน..กับผู้คนทั้งหลายที่ต่างก็เฉลียวฉลาดด้วยเพียงแค่ลิ้นของเขา แต่ขณะเดียวกันจิตใจของเขากลับโง่เขลาเหลือเกิน
แท้จริงแล้วไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่เที่ยงแท้นอกจากอัลลอฮฺ และท่านนบีมูฮัมมัด (ศ็อลล็อลลอฮูอะลัยฮฺ ว่ะซัลลัม)นั้นบ่าวของอัลลอฮฺและเป็นศาสนทูตของพระองค์
..หากผู้ใดได้ครุ่นคิดพิจารณาและไตร่ตรองถึงคำสอนอันล้ำค่านี้ พร้อมกับการได้นำไปปฏิบัติอย่างสุจริตใจแล้ววไซร้ แน่นอนที่สุดจิตใจของเขาช่างเป็นจิตใจที่อ่อนโยน หัวใจลักษณะอย่างนี้แหละคือหัวใจที่พร้อมจะซึมซับไว้ซึ่งสัจธรรมและความดีงามทั้งปวง..อินชาอัลลอฮฺ
ถอดความและดำน้ำโดย ลุกมาน-อับดุลลอฮฺ อิบนุซอและฮฺ อะห์หมัด อัซซัยฟียฺ..
จาก อัลเญาฮาร อัลเมาฮูบฯ : 177
แปรและพิสูจน์อักษร โดย พี่คนโต..