ผู้เขียน หัวข้อ: เหตุใดที่พระนางเฮาวาอ์ถูกสร้างในขณะนบีอาดัมนอนหลับ?  (อ่าน 5299 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Nur-inee

  • บุคคลทั่วไป
 Oops: อัลฮัมดุลิลละฮฺ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ค. 28, 2009, 06:26 AM โดย แมวน้อย »

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
ขอขุดกระทู้นี้นะคะ เพราะอ่านแล้วรู้สึกได้ความรู้
พร้อมกับทำให้นึกภาพออกเลย...^^



พระนางเฮาวาอ์ถูกสร้างจากนบีอาดัม อะลัยฮิสลาม ในขณะที่ท่านนอนหลับนั่นเป็นนั้นมีเหตุผลเช่นกัน
กล่าวกันว่า  เมื่อผู้ชายต้องเผชิญกับรู้สึกเจ็บปวดโดยตรง  เขาจะเกิดความรู้สึกรังเกียจ  และประสงค์ให้ความเจ็บปวดนั้นผ่านพ้นไปโดยเร็ว  ครั้นเมื่อความเจ็บปวดได้ทุเลาหรือผ่านพ้นไปแล้ว  เขาจะไม่กลับไปคิดทบทวนถึงมันอีก  และไม่มีรู้สึกความผูกพันใดๆ เกิดขึ้น   ดังนั้นหากพระนางเฮาวาอ์ถูกสร้างจากท่านนบีอาดัม อะลัยฮิสลาม ในขณะที่ท่านบนีอาดัมตื่น  แน่นอนว่าท่านจะมีความรู้สึกรังเกียจเนื่องจากความเจ็บปวด ที่กระดูกซี่โครงถูกนำออกมาเพื่อสร้างนาง  พระนางเฮาวาอ์จึงถูกสร้างจากนบีอาดัมในขณะที่ท่านหลับ  ทำให้ท่านไม่เกิดความรู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด  และไม่มีความรู้สึกที่รังเกียจต่อพระนางเฮาวาอ์   

แต่ในขณะเดียวกัน  ผู้หญิงที่ต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดโดยตรงนั้น  นางจะมีความรู้สึกสงสารและมีความรักความเอ็นดูเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ   ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือในขณะที่ผู้หญิงกำลังจะคลอดนั้นนางอยู่ใสภาวะตื่น  และเสมือนกำลังเห็นความตายอยู่เบื้องหน้าเพราะความรู้สึกเจ็บปวด  แต่อีกความรู้สึกหนึ่งที่เกิดขึ้นในขณะเดียวกันนั้น  คือความสงสารและความรักที่มีต่อลูกของนาง  ดังเช่นที่เรารู้กันว่าผู้เป็นมารดาสามารถจะเสียสละชีวิตของนางให้แก่ลูกน้อยได้ ... นี่เป็นเรื่องหนึ่งที่เป็นที่ยอมรับว่าจิตใจของผู้ชายไม่สามารถจะเทียบเทียมจิตใจของผู้หญิงได้เลย

ด้วยความเคารพครับ
ขอคำอธิบายส่วนนี้เพิ่มเติมได้รึไม่ครับ
ขอบคุณครับ

ขออธิบายในส่วนของตัวเองซึ่งเป็นผู้หญิงนะคะ

หากเราจะสังเกตกันอย่างถี่ถ้วน สิ่งที่หญิงต่างกับชาย
อย่างมากมายคืออารมณ์ค่ะ ผู้หญิงมีอารมณ์หลากหลายมาก

และก็มีผู้หญิงหลายคน ที่ยิ่งเจ็บก็ยิ่งรัก
เพศหญิงเป็นเพศที่มีความอดทนสูง...
ทนเจ็บปวดได้ แม้จะร้องไห้ฟูมฟายแต่ก็ไม่หนีไปไหน...

บางครั้ง ผู้หญิงหลายๆคนโดนสามีทำร้ายทั้งกายและใจ
(แบบว่าเจ็บโดยตรง) หากเธอยังคงอยู่กับเขาได้
เพราะหัวใจของเธอมันไม่แข็งพอ มันโค้งงอ
และมีความอ่อนโยน มีความรักความสงสาร
ความเอ็นดู และความพยายามจะทำความเข้าใจอีกฝ่าย
ซึ่งความอ่อนโยนดังกล่าวอาจไม่ได้หมายถึงอ่อนแอ
ซึ่งมันจะอยู่ในหัวใจนั้นอย่างเต็มเปี่ยม
การจะจากสามีหรือทิ้งสามีไปจึงทำให้ตัดใจทำได้ยาก...

คนนอกที่มองก็มักจะรู้สึกว่าจะทนไปทำไม...

ดังนั้น...จึงไม่แปลกที่ผู้หญิงจะเจ็บปวดซ้ำๆซากๆได้
โดยไม่ยอมถอดใจ...เพราะเธอถูกสร้างมาให้เป็นเช่นนี้

หัวใจที่อ่อนโยนและมีเมตตาสงสาร
เห็นสัตว์ตัวเล็กๆที่เดินหมดเรี่ยวแรงไร้ที่พักพิง
ก็พร้อมจะร้องไห้ด้วยความสงสาร
และต้องเสียน้ำตาให้กับเรื่องที่ผู้ชายอกสามศอก
ต้องแปลกใจว่า...ร้องไห้ทำไม...อิอิ...

ยกตัวอย่างนะคะ แบบสดๆร้อนๆเลยก็คือ

แม่ของข้าน้อยโดนแมวที่รักท่ีเลี้ยงฟูมฟักมาอย่างดี
กระโดดกัดไปหลายต่อหลายแผล...
และนี่เป็นรอบที่ 2 แล้ว รอบก่อนมันกระโดดกัดที่หัว
ต้องไปฉีดยาอยู่หลายเข็ม...
รอบนี้โดนไปหลายแผล ก็เลยโดนฉีดยาไปอีกหลายเข็มอีก
พ่อบอกว่า...ถ้าไม่จัดการแมวตัวนั้นพาไปทิ้งให้ไกลๆ
พ่อจะขึ้นไปจัดการด้วยตัวเอง...

ทุกคนลงความเห็นว่า...แมวตัวนั้นสมควรถูกทิ้ง...
ไม่ควรจะเก็บไว้แล้ว...เพราะมันทำร้ายเจ้าของ
ที่ให้ข้าวให้น้ำมันมาได้ลงคอ...

พอแม่กลับมาที่บ้านหลังจากไปโรงพยาบาลมา
ข้าน้อยโทรไปถามไถ่อาการพอดี...
จึงได้คำตอบว่า ที่แมวมันทำแบบนั้นเพราะมันหิวจัด
เน่ืองจากแม่ซึ่งอยู่ที่บ้านพี่สาวซึ่งเป็นเจ้าของแมวตัวนั้น
ได้กลับไปรวมกันที่บ้านในช่วงปีใหม่เป็นเวลาห้าวัน
ไม่ได้เอาแมวไปด้วย และลืมนึกถึงมันไปเลย
แม่บอกว่า พอกลับไป แมวมันก็เดินคลอเคลียแม่ตลอด
เหมือนจะขอข้าวกิน แต่แม่ยุ่งอยู่กับเรื่องงานบ้าน
ยังไม่มีเวลาเอาข้าวให้มันกิน มันก็กวนตามแม่
อยู่นาน แม่ไปไหนมันก็เดินตามไปตลอด
ก่อนจะกัดหยอกแม่เล่นๆไม่ได้ลงเขี้ยวอะไรไปหนึ่งที
แม่เลยตีมัน มันเลยกระโดดกัดแม่ไม่ยั้ง...
แม่บอกว่าวิ่งหนีมันไม่ทัน...
ข้าน้อยเลยคิดว่าคราวนี้แม่คงเจ็บและกลัวมันไปเลยแน่ๆ

แต่เปล่าค่ะ...แม่บอกว่ามันเป็นความผิดแม่เอง
ที่ไม่ให้ข้าวมันกิน แมวมันหิวจัดมันก็เลยโกรธ
ขนาดคนเวลาหิวยังโกรธและโมโหเลย
นับประสาอะไรกับสัตว์...แม่บอกว่าถ้าเราไม่ทิ้งมัน
ให้หิวอยู่หลายวัน และพอกลับมาก็รีบให้ข้าวมันกิน
มันคงไม่โกรธจนโมโหหิวและกัดแม่หรอก
และที่มันกัดเพราะแม่ไปตีมันก่อนด้วย...

สรุปคือ...แม่สงสารมันทั้งๆที่มันทำให้แม่เจ็บ
เจ็บไม่น้อยเลยนะคะ...เห็นพี่สาวบอกว่า
มีแผลอยู่หลายแห่งเลยทีเดียว...และไม่อยากให้ใคร
เอามันไปทิ้ง โดยให้เหตุผลว่า...แมวมันหิวมันเลยโมโห
ต่อไปจะเลี้ยงมันอย่างดี จะไม่ให้มันหิวจนโมโหแบบนี้อีก

พ่อเราคงเคืองไม่น้อย...เพราะลั่นวาจาแล้วว่า
ถ้าแม่ยังหาทางเลี้ยงมันต่ออีก พ่อจะไปจัดการ
กับแมวตัวนั้นเอง...

ส่วนข้าน้อยนั้น เห็นด้วยกับเหตุผลของแม่
เพราะจากประสบการณ์การเลี้ยงแมวและอยู่กับแมว
มาตั้งแต่จำความได้...
แมวมันจะกัดหรือทำร้ายเราด้วยเหตผลหลักๆ
คือ เราทำมันเจ็บ และมันกำลังหิวจัด...
หากมันกัดเราอย่างไร้เหตุผล ให้นำมันไปหาหมอ
เพราะมันอาจบ้า...แต่ถ้ามันเป็นแมวปกติทั่วไป
ที่ยังไม่ได้เป็นบ้า มันจะไม่กัดใครมั่วๆโดยไม่มีสาเหตุน่ะค่ะ

การตัดสินใจทิ้งมันแม่จึงทำได้ยาก เพราะว่าเราก็มีส่วนผิด
ที่ปล่อยให้มันหิวจัดขนาดนั้นได้ ขนาดว่ามันมาเคล้าเคลีย
ขอข้าวแล้วเราก็ยังวางเฉย...

สรุปง่ายๆสั้นๆจากเรื่องดังกล่าวและจากประสบการณ์
การทำงานกลุ่มมา...ผู้หญิงกับผู้ชายจะมีภาวะในการ
ตัดสินใจทำอะไรต่างกัน...เพราะผู้ชายจะใช้สติปัญญา
บวกเหตุผลล้วนๆ...ส่วนผู้หญิงจะใช้ความเมตตา
สงสารนำสติปัญญา หมายถึง รู้ทั้งรู้ สติปัญญาก็บอกอยู่ว่า
แมวตัวนั้นมันทำผิด...แต่เพราะความสงสารและเมตตา
เลยทำให้การตัดสินใจใช้อารมณ์สงสารนำสติปัญญา

หลายคนเลยอาจจะมองว่าโง่หรือเปล่าที่ทำแบบนั้น...
ก็รู้อยู่ว่ามันทำให้เจ็บ นิสัยมันไม่ดี จะเอาไว้ทำไม
แต่เพราะความสงสารตัวเดียวค่ะที่มีอานุภาพพอ
ให้แม่ตัดสินใจอยากเลี้ยงแมวตัวนั้นต่อ
ท่ามกลางกระแสคัดค้านของคนอื่นๆ...
ส่วนแมวตัวนั้นก็เหมือนจะรู้ตัว ไม่รู้ไปแอบหลบที่ไหนค่ะ
แม่เราก็เลยบ่นๆว่าไม่รู้ว่ามันได้กินข้าวหรือเปล่า...
หายไปแบบนั้น...แถมยังตามหามันซะทั่วอีกนะคะ...
ยังรักและสงสารมากมายค่ะ
ขนาดว่ามันกระโดดกัดไปหลายที...

นี่แหล่ะค่ะ...ผู้หญิง...


ไม่รู้ว่าคนอื่นๆจะเป็นหรือเปล่า นี่แค่เหตุการณ์หนึ่งๆเท่านั้น
เอาเข้าจริง ข้าน้อยก็รู้ตัวว่า เหตุใดพระเจ้าจึงให้ผู้ชาย
เป็นผู้นำ เพราะผู้หญิงไม่เหมาะที่จะเป็นผู้นำน่ะค่ะ...
ไม่เหมาะด้วยประการทั้งปวง เนื่องจากพระเจ้าสร้างผู้หญิง
มาในสภาพที่ไม่เหมาะจะเป็นผู้นำนั่นเอง...

ไม่ใช่เพราะผู้หญิงไม่ฉลาดนะคะ แค่มีความบกพร่อง
และสิ่งที่ทำให้สติปัญญาของหญิงบกพร่องที่เห็นได้ชัดๆ
เลยก็คือ อารมณ์และหัวใจที่มีความผันผวนนั่นแหล่ะค่ะ...

ปล.เป็นแค่แง่มุมจากความคิดเห็นส่วนบุคคลนะคะ
ห้ามเอาไปเป็นบรรทัดฐานหรือใช้อ้างอิง
อย่างเด็ดขาด...อิอิ...

วัสลามค่ะ




"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged